ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Wait a minute เดี๋ยวนะ...หวั่นไหวเมื่อไหร่วะ(YAOI)

    ลำดับตอนที่ #12 : Wait a minute 11

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 56


     

     

     

    Wait a minute…

     

     

    แล้วชีวิตผมก็กลับเข้าสู่โหมดปกติ แม้มันจะไม่เหมือนเดิมเต็มร้อยนักก็เถอะ ก็หลังจากที่ผมกลับมาจากบ้านคุณนายเจนจิรา วันจันทร์ผมก็ไปทำงาน แค่ก้าวแรกที่เดินเข้าไปในแผนกสายตาทุกคู่ก็จับมาที่ผม เยี่ยมเลย เป็นเหมือนที่คิดไว้เป๊ะ ผมก็ยิ้มให้ทุกคนปกติแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน ก้นแตะเก้าอี้เท่านั้นแหละ ความใคร่รู้ที่บ่มเพาะกันมานานก็ระเบิดตูม ทุกคนในแผนกวิ่งมาที่โต๊ะผม ถึงคราวที่จะแถลงไข แต่ผมก็ไม่ได้บอกเรื่องแกล้งไปเป็นแฟนนะ บอกแต่ว่านั้นเพื่อนจริงๆเป็นรูมเมทกัน ผมว่าทุกคนก็พยามเชื่อผมอยู่นะ...มั้ง

     

     

    ....I don’t mind spending……

     

    อืมใครโทรมา ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูระหว่างลุกให้แม่ลูกอ่อนนั่งบนรถไฟฟ้า เรย์...

     

    “ว่าไง”

     

    “วันนี้อยู่รอดึกได้ป่ะ”

     

    “ทำไมอะ”

     

    “จะหลับบ้านช้า ไม่ได้เอากุญแจมา”

     

    กุญแจ...เฮ้อ มันน่าจะมีแบบสมาทการ์ด เก็บไว้ในกระเป๋านะมันจะได้ไม่ลืม หรือไปหาอะไรมาห้อยคอมันสักทีวะ

     

    “ดึกมากรึเปล่า”

     

    “มาก”

     

    “งั้นไม่รอ”

     

    “ง่า....ไม่ดึกมากๆไม่เกินเที่ยงคืนแน่ๆ”

     

    “อือๆ มีไรอีกรึป่าว”

     

    “มี วันนี้ไม่ต้องทำข้าวเย็นนะ”

     

    “อ่าว...ไมอ่ะ”

     

    “จะซื้อเข้าไป แค่นี้นะ”

     

    วางไปแล้ว เออนานๆทีเหมือนกันกินของด้านนอกบ้างผมก็เบื่ออาหารที่ตัวเองทำแล้วเหมือนกัน ผมเพิ่งมาสำนึกว่าช่วงนี้เราสนิทกันมากขึ้น เรย์มันก็ดีนะไม่ได้เลวร้ายอย่างตอนแรกที่คิดไว้ เกือบสามเดือนกว่าแล้วนะเนี้ยะ ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าอะไรทำให้เราคุยกันมากขึ้น และอะไรทำให้ผมสนิทกับมันมากขึ้น จนผมหวั่นๆว่าจะหลงมันเข้าสักวัน ไม่ได้เป็นเกย์นะแต่คิดว่าถ้าอยู่กับใครแล้วรู้สึกดีก็พอ เพศก็ไม่สนหรอก แต่ที่เข้ามาในชีวิตมีแต่ผู้หญิงเท่านั้นเอง

     

     

    แล้วจะทำอะไรล่ะทีนี้ ผมยืนนิ่งอยู่หน้าประตูสักพัก คิดไม่ออกว่าถ้าเข้าไปแล้วจะทำอะไร เพราะปกติก็เข้าไปเก็บของออกมาทำกับข้าว ดูทีวี นอน แต่คราวนี้มันผิดตารางเลยไม่รู้จะทำอะไร อาบน้ำมันไปเลยละกัน คิดได้ดังนั้นผมก็ตรงดิ่งเข้าไปอาบน้ำออกมาอีกทีก็ดูนาฬิกา อะไรเนี้ยะเพิ่งสองทุ่ม ทำอะไรดี ไม่เคยรู้สึกว่างขนาดนี้มาก่อนเลย ให้ตาย ดูทีวี เออก็ได้ผมดูไปเรื่อยๆจน แม่รำพึงออกนั้นแหละ เออสนุกมั้ยว่ะได้ยินคนในแผนกเมาท์กันทุกวันเลย

     

    ใจเป็นของกู ตัวเป็นของกู เสพสมกายกู เสน่หาเพียงกู

     

    คาถาอะไรน่ะ ท่องแล้วจะได้สามีรึไงครับ เฮ้ยๆๆๆแต่มันได้แฮะ ปอโดนแล้วๆๆ เออ หลังๆนี่ผมดูละครบ่อยเหมือนกันนะ มันก็คลายเครียดดีนะ คือบางอย่างมันก็ไม่ใช่อ่ะแต่ในละครมันมี แล้วก็...พระเอกทุกคนแม่งโง่ขนาดนี้เลยหรอบางคนนี้จบเมืองนอกเลยนะยังโดนนางร้ายหลอก??? ฮ่าๆๆ ยิ่งคิดยิ่งขำ

     

    ก๊อกๆๆ

     

    กลับมาแล้ว ผมลุกออกไปเปิดประตูให้มัน ของพะรุงพะรังเลยซื้อมาเหมือนจะไม่ออกไปไหนทั้งอาทิตย์เลยนะ

     

    “ช่วยหน่อยๆ”

     

    ผมยืนมืออกไปรับข้าวปลาอาหารที่มันซื้อมา ว่าไปนั้น KFC อะโห ชุดใหญ่เลย กินกันสองคนนะ พร้อมจริงๆ เบียร์พร้อมสปายพร้อม วันนี้วันไรป่าววะ

     

    “ซื้อมาเยอะแยะ เนื่องในวันไรเนี้ยะ”

     

    “วันเกิด...เกิดอยากกิน”

     

    “เอิ่ม....”

     

    นะ...นึกว่าวันเกิดนายจริง มันยิ้มยียวนใส่ผมเมื่อผมทำหน้าเซ็งที่ได้ยินคำตอบมัน เราเอาของไปวางที่โต๊ะจัดข้าวจัดของ มันของไปใส่ในตู้ส่วนผมก็จัดที่จัดทางเตรียมกินที่โต๊ะ แต่มันบอกว่าเอาไปกินที่ระเบียงได้บรรยากาศดี บรรยากาศเมืองหลวงจากชั้น15 เนี้ยะนะ เอาเหอะตามใจคุณชาย

     

    “ดูด้วยหรอ ไอ้เรื่องบ่วงบาปเนี้ยะ”

     

    “รู้จัก???”

     

    “แม่ฉันไง”

     

    เออไม่แปลกใจที่คุณนายจะดู แล้วคุณนายจะเอาไปท่องใส่ใครรึเปล่านั้น

     

    “เขาบอกด้วยว่าจะเอามาท่องให้นายหลงเขา”

     

    “ฮ่ะๆ”

     

    สมแล้วที่เป็นคุณนายเจนจิรา คิดถึงแฮะ เดี๋ยวค่อยไปเยี่ยมละกัน รอว่างก่อนไม่รู้จะว่างเมื่อไหร่เหมือนกันเนี้ยะ มันบอกอาบน้ำก่อน เชิญเถอะ ระหว่างรอก็ขอดูต่ออีกสักนิด เอาจริงๆนะ จำได้แล้วอ่ะว่าคาถาว่าอะไรบ้าง ไอ้คาถาได้ผัวเนี้ยะ   เวลาผ่านไป มันก็ออกมาเดินมานั่งข้างผม หัวเปียกเชียว

     

    “เออ...มันจะได้ผลเรอะ ไอ้คาถาได้ผัวเนี้ยะ”

     

    “เฮ้ยไม่แน่ๆ ถ้ามันไม่ดีจริง เขาคงไม่ใช้หรอก”

     

    “ไหนลองท่องดิ๊”

     

    “เพื่ออะไร”

     

    “ทดสอบไง”

     

    ไร้สาระจริงๆที่พูดกันอยู่เนี้ยะ มันทำท่าจะให้ผมท่องจริงๆ ผมก็เออ ออตามมันบ้าจี้ท่องไปกับมัน

     

    “ใจเป็นของกู ตัวเป็นของกู เสพสมกายกู เสน่หาเพียงกู”

     

    “.....”

     

    อะไร...เงียบทำไม แต่มันไม่เงียบเปล่า มันค่อยๆขยับเข้ามา ผมเรียกมันกี่ทีก็เหมือนไม่สนใจผมแถมดันผมลงกับโซฟาอีก เฮ้ยๆๆไม่ตลกละๆ ผมเรียกมันอีก คราวนี้มันจับมือทั้งสองของผมกดลงอีก อ๊ากกกกก ไอ้นี้เล่นอะไร รึคาถามันได้ผลจริงวะ ผมเริ่มคิดอะไรไปเรื่อย แต่ก็ยังไม่ทันได้คิดถึงไหนมันก็ไซร้คอผมแล้วววว

     

    “เรย์!!! เล่นอะไรเดี๋ยวโกรธนะเว้ย”

     

    ผมร้องขึ้นทำเสียงดุใส่มันแต่มันก็แค่เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผม ท่าทางของผมก็เลยอ่อนลง มันปล่อยมือผมแล้วแต่ยังไม่ลุกขึ้นออกจากตัวผม เราไม่ได้พูดอะไรกันแค่มองหน้ากัน เหมือนเวลาผ่านไปนาน ทำให้ผมได้คิดอะไรบ้าง รู้สึกดีที่มาอยู่ที่นี้ รู้สึกดีที่ได้เห็นหน้ามันทุกวัน รู้สึกดีที่ได้อยู่กับมัน...ตรงนี้ ผมยกมือขึ้นไปจับหน้ามัน ดูมันแปลกใจกับการกระทำของผมหน้ามันดูตลกดี ผมหัวเราะน้อยๆให้มัน

     

    “อะไร ไม่เคยโดนรุกก่อนรึไง”

     

    “อือ...งั้นเอาใหม่”

     

    เท่านั้นแหละ มันก็หอมแก้มผมฟอดใหญ่ อ๊ากกกกกกกกกกทำอะไร๊ ผมตกใจ ไม่รู้ว่ามันจะมาแบบนี้ หน้าผมร้อนผ่าวขึ้นมาทันที มันหัวเราะเสียงดังแถมลุกกระโดดออกไปที่ระเบียงก่อน แถมยังมีหน้าบอกให้ผมรีบๆตามออกไป หิวแล้ว แล้วเมื่อกี้เสียเวลาเล่นอะไรกันอยู่ล่ะ เหนื่อย เปล่าหรอก ใจมันเต้นแรงมากอะ...

     

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

     

    “เห็นตัวเล็กนี่กินเยอะเหมือนกันนิ”

     

    “ไม่ได้ตัวเล็ก นายนั้นแหละตัวใหญ่เกิน”

     

    ผมส่ายหน้าเอือมระอาให้มัน แต่ก็จริงของมันที่ผมกินเยอะ สี่ชิ้นแล้ว ว่าเหอะ มันก็พอๆกันนั้นแหละเยอะกว่าผมอีก กินไปกินมาก็จะหมดอยู่แล้ว เรานั่งกันอยู่ตรงระเบียงที่ผมใช้ตากผ้านั้นแหละ คือมันกว้างนะ มีโต๊ะมีเก้าอี้เรียบร้อย ต้นไม้อีกนิดๆหน่อยๆด้วย ก็มันไฮโซนินะ พอกินกันเสร็จ ก็ต่อด้วยเบียร์ คุยกันไปเรื่อยๆ หมดเบียร์กันไปคนละสามสี่กระป๋องแล้ว

     

     

    ดูเวลาอีกทีก็เที่ยงคืนแล้ว มันขอตัวลุกไปเข้าห้องน้ำเออผมก็ปวดเหมือนกันรอเข้าต่อมันเลยละกัน ผมเข้าไปหลังมัน อ่า...สบาย กินไปตั้งเยอะมันก็ต้องปล่อยออกมาบ้าง ผมออกมาจากห้องน้ำก็ต้องแปลกใจ ไฟปิดหมด ไฟดับหรอ ก็เปิดไฟห้องน้ำอยู่นี่หว่า ผมเดินคลำๆทางไปเรื่อยๆจนไปถึงที่ระเบียง ภาพที่เห็นทำให้ผมประหลาดใจ ไฟปิดหมดเห็นแต่แสงเทียน มันยืนยิ้มให้ผม

     

    “อะไรน่ะ”

     

    “เค้กไง ไม่เคยเห็นหรอ”

     

    “เปล่า เนื่องในโอกาสอะไร คงไม่ใช่เกิดอยากกินนะ”

     

    “ไม่ใช่ แต่เป็นวันเกิดฉัน”

     

    “อ่าว ไหนว่าไม่ใช่”

     

    “เมื่อวานน่ะไม่ แต่วันนี้น่ะใช่”

     

    ผมเหลือบมองนาฬิกาอีกที เที่ยงคืนกว่าก็จริงของมันวันนี้มันวันใหม่แล้วนิ 30มีนา ผมเดินเข้าไปใกล้ๆมันนั่งลงเก้าอี้กับมัน

     

    “แล้วไง ทำไมถึงมาเป่าเค้กดึกๆดื่นๆ”

     

    “ก็...อยากให้นายเป็นคนอวยพรฉันคนแรกไง”

    “....”

     

    ไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้มและมองหน้ามัน แต่ละคำที่พูดมานี่คิดแล้วใช่มั้ยเนี้ยะ คิดรึเปล่าว่าคนตรงนี้เขินขนาดไหน นายนี่ชอบทำอะไรให้ฉันเขินตลอดเลยนะ เรย์..

     

    “ว่าไง???”

     

    “อะไร”

     

    “คำอวยพรไง”

     

    “สุขสันต์วันเกิด”

     

    “แค่นี้???”

     

    “อ่าๆๆๆ ขอให้นายมีความสุขประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน หวังสิ่งใดขอให้สมปรารถนา ขอให้เจอแต่คนดีๆ เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิต พอป่ะ”

     

    “ฮ่ะๆ พอสิ...ที่จริงฉันมีทุกอย่างแล้ว โดยเฉพาะคนดีๆ”

     

    มันพูดแค่นั้น พอผมจะถามใครคือคนดีๆของมัน ผมก็เจอสายตาของมัน ไม่ใช่แค่มองแต่มันมีความหมายมากกว่านั้นไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าแต่เหมือนมันต้องการจะบอกผมว่าคนดีๆที่มันพูดถึงเมื่อกี้...คือผม ผมยิ้มให้มันเหมือนเคยแต่คราวนี้ มันเต็มไปด้วยความรู้สึกต่างๆมากมายที่อยากจะส่งให้มัน ไม่รู้ว่ามันได้รับรึเปล่า แต่ผมเริ่มแน่ใจว่าความรู้สึกที่ผมมีให้มัน มันมากกว่าคำว่ารู้สึกดีแล้ว ผมร้องเพลงให้มันเป่าเทียนตัดเค้กกันคนละก้อนกินกันสักพัก ก่อนช่วยกันเก็บจานเก็บของให้เข้าที่ ก่อนแยกย้ายกันไปนอน

     

     

     

    คนดีๆหรอ เป็นมากกว่านั้นได้มั้ย.....

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×