คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : The Fourth Stroy : [PrimPrim x Bam] Maybe
เธอก็แค่ ... เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในร้านเบเกอรี่เดียวกัน
เธอก็แค่ ... น้องชายคนหนึ่งที่เราแทบจะไม่คุยกันเลย
เธอก็แค่ ... เด็กผู้ชาย ... ที่ฉันไม่เคยคิดว่า ... เราจะมา ‘รักกันได้’
ฉันเคยตั้งปฏิญาณเอาไว้ว่าถ้าหากฉันเลิกกับ ‘ลันเตา’ ฉันจะมอบกายให้ศาสนาด้วยการบวชชีตลอดชีวิต ใช่ !ตอนนี้มันได้เกิดขึ้นจริงแล้ว ฉันได้เลิกกับลันเตาไปเรียบร้อยแล้ว แต่มันไวกว่าที่คิด ฉันเรียนยังไม่จบ และฉัน ... ไม่ได้อยากจะไปบวชซักนิด ในทางตรงกันข้าม ฉันกลับออกมาตระเวนราตรีทุกคืนอย่างทั่ฉันเคยเป็นก่อนหน้าจะคบกันลันเตา อืมม .. น่าขอบใจลันเตาที่ทำให้ฉันเลิกลำยองมาได้เกือบสองปี แต่ตอนนี้ .. มันกลับมาอีกแล้ว =__________=
ฉันเดินเข้ามาในผับของคนที่นัตเรียกว่า ‘ลุงกาก’ แต่อันที่จริงเขาชื่อ ‘ไฟเบอร์’ เป็นพี่ชายของเพคติน สามีของคริสตัลน้องสาวของพลอยรุ้ง เอ่อ .. ฉันจะมาลำดับญาติอะไรกัน ด้วยสภาพตัวเองที่แต่งสวยมาสุดฤทธิ์ ฉีกยิ้มราวกับประกวดนางงามจักรยานอยู่ อย่างน้อยก็ต้องมีคนเข้ามาหาฉันบ้างสิ ผับที่นี่ครื้นเครงและคนเยอะมากทุกคืน และฉันก็มาที่นี่ทุกคืน เพราะเหตุผลเดียวที่ฉันมีคือ ‘เหงา’ ฉันเพิ่งกลับจากเยอรมนี และตอนนี้ซื้อคอนโดอยู่คนเดียว พ่อแม่และน้องๆ ก็อยู่ที่นู่น ถ้าหากนัตยังอยู่ ฉันก็คงไม่เหงาล่ะมั้ง เพื่อนรักที่ไปไหนไปกันก็ดันแต่งงานมีลูกกันไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็มีแค่ฉันที่โดดเดี่ยวและอ้างว้างอยู่คนเดียว โธ่! ทำไมชีวิตของพริมาถึงได้เศร้าโศกขนาดนี้กัน !
“ขอ..อะไรก็ได้ที่มีจิน ไม่ก็ เตกีล่า”
“อ้าว คุณคนนี้มาอีกแล้ว” บาร์เทนเดอร์รูปหล่อ ท่าทางเหมือนพ่อจะรวยตรงหน้า ส่งยิ้มให้กับฉันก่อนจะชงเครื่องดื่มอะไรที่ไม่ใกล้เคียงกับที่ฉันสั่ง พร้อมยื่นมันมาให้ฉันพร้อมกับส่งยิ้มอีกรอบ
พริมาจะ..ละลาย ไม่ได้คนในผับ ก็เอาบาร์เทนเดอร์ที่เจอหน้ากันร่วมอาทิตย์กว่าๆ ก็ได้วะ !
“อะไรค่ะ ฉันไม่ได้สั่งอันนี้นี่”
“ครับคุณไม่ได้สั่ง มันยังไม่มีชื่อน่ะครับ ผมเพิ่งลองทำดู เห็นว่ามันอร่อย เลยอยากให้คุณ...? ชิมเป็นคนแรก”
เอ่อ... จีบปะเนี่ย T[]T////
“อ๋อ... คิดเงินหรือเปล่า ถ้าคิด.. พริมไม่ชิมนะ J”
มารยาฉันมากจากไหน ปกติฉันไม่ค่อยแทนชื่อตัวเองกับใคร สงสัยความเปลี่ยวมันมาครอบงำ
“ชื่อพริมนี่เอง ผมไม่คิดเงินหรอก ถือว่าเป็นเซอร์วิสสำหรับลูกค้าประจำ อ้อ.. เรียกผมว่าแทนก็ได้”
“อ๋อค่ะ” ฉันรับมันมาดื่มแต่โดยดี เพราะความหน้าตาดีของบาร์เทนเดอร์ล้วนๆ ฉันรู้สึกถึงแอลกอฮอลล์ที่มันกำลังพุ่งพล่านไปในกระแสเลือด สีสันดูธรรมดาแต่ฤทธิ์ของมันค่อนข้างแรง ฉันรู้ว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวเร็วกว่าทุกคน เหมือนจะเมา และรู้สึกหนักๆหัว ทั้งๆที่เพิ่งจะจิบไปนิดเดียว แรงยิ่งกว่าวอดก้าซะอีก
“เป็นไงครับ ?”
“แรงดีนะคะ” ฉันพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนจะแสร้งหัวเราะน้อยๆ หรือไอ้หมอนี่จะมอมฉัน ? เอ่อ .. ไม่น่าเกิดมาเป็นคนสวยเลยนะเรา
“งั้นดื่มน้ำก่อนมั้ยครับ?”
“อ๋อ ขอบคุณค่ะ แต่ว่าพริมขอไม่ดื่มไอ้นี่ต่อแล้วนะ ไม่งั้นคงกลับบ้านไม่ถูกแน่ๆ”
“เดี๋ยวผมไปส่งก็ได้นะครับ ฮ่าๆ”
“เกรงใจน่ะค่ะ J”
“ว่าแต่... ทำไมมาที่นี่ทุกคืน แฟนไม่ว่าหรอครับ?”
“...แฟนเคยมี แต่ตอนนี้เขาทิ้งไปแล้ว” ฉันเงียบไปซักพัก ก่อนจะตอบเขาออกไป แหม เจอคำถามนี้บางทีคนสวยก็พูดไม่ออก พร้อมยกไอ้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คุณบาร์เทนเดอร์ตั้งใจเอามาจีบฉันเข้าไปรวดเดียว โอ๊ะ.. โลกหมุนเร็วดีนะ
“ว้า .. หาคนดามใจมั้ยครับ J”
“หาอยู่ค่ะ J” ฉันก็ตอบไปอย่างที่ใจคิดตรงๆ แล้วเขาเริ่มซักถามฉันขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆที่มือก็ชงเครื่องดื่มให้ลูกค้าคนอื่นด้วย บางเรื่องฉันก็ตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง เพราะเขาถามแทงใจฉันเกินไป เขาเป็นคนที่หน้าตาและอัธยาศัยดี ไม่แปลกถ้าเขาจะมาทำงานแบบนี้ แต่ก็ดูอันตรายไม่ใช่เล่น แต่ก็น่าสนุกดีนะ J
“อ้าว ! พี่พริม พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ อ้าวๆ พอแล้วๆ ดื่มมากไปแล้ว ^O^” การสนทนาถูกขัด เมื่อมีเสียงผู้ชายอีกคนหนึ่งเอ่ยทักฉัน พลางแย่งแก้วเครื่องดื่มที่วางอยู่ตรงหน้าฉันไปดื่มหน้าตาเฉย สติสตังตอนนี้ฉันมั่นใจว่าไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ฉันเห็นหน้าคนๆนั้นๆ อย่างเลือนราง และนึกไม่ออกว่า.. เขาเป็นใคร
“เธอเป็นใคร?”
“อะไรอ่ะ TOT จำผมไม่ได้หรอ แบมไง แบมอ่ะ แบม !” ฉันขมวดคิ้ว พลางนึกบรรดาญาติคนรู้จักที่มีอยู่ คนชื่อแบมงั้นหรอ.. ใครกันนะ..
“น้องแอบอ้างป่ะเนี่ย รู้จักคุณพริมหรอ?”
“อ้าว.. แล้วพี่เป็นใครอ่ะ จีบพี่พริมหรอ? =3=”
“กลับบ้านไปกินนมนอนไปน้อง”
“พี่นั่นแหละกลับไปชงเหล้าให้ผัวกินเถอะ =3=!!!”
ฉันไม่ได้สนใจบทสนทนาของผู้ชายสองคนที่กำลังยียวนกวนประสาทกันไปมาแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้ฉันกำลังนึกให้ออกว่าคนตรงหน้าเป็นใคร แบม แบม แบม..
“อ้อ ! แบมที่เคยปลอมตัวเป็นผู้หญิงใช่มั้ย?!” ฉันลุกขึ้นยืนชี้เด็กผู้ชายตัวสูงที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะรู้สึกถึงแรงบางอย่างที่ทำให้ไอ้เด็กคนนั้นวิ่งเข้าชาร์จตัวฉันพลางปิดปากฉันไม่ให้พูดอะไรต่อ
“พี่พูดอะไรอ่ะ เสียงดัง ผมอายเขานะ อดีตมันผ่านไปแล้ว TOT”
“อื้อ...” ฉันพยายามดึงมือของไอ้เด็กนั่นออก แต่ว่า.. ดึงไม่ออก เพราะตัวฉันเองก็คงจะเมาได้ที่ เรี่ยวแรงไม่มี กลายเป็นคนใบ้ชั่วขณะ
“นี่น้อง!”
“โอ๊ยๆ ผมจะพาพี่สาวผมกลับบ้านแล้ว เอาตังค์ไปนะคุณพี่สุดหล่อไปล่ะ บ๊ายบาย ^O^” แบมวางแบงก์ยี่สิบจำนวนสามสี่ใบไว้ที่เคาท์เตอร์ ก่อนจะรีบดึงฉันให้เดินตามออกไป ฉันหันไปโบกมือลาให้กับคุณแทน แต่คุณแทนกลับดูงงๆ และพยายามจะวิ่งตามมาเหมือนกับว่า.. แบมจะให้เงินไม่ครบ แต่สติฉันไม่ค่อยดีแล้ว ตอนนี้มึนไปหมด ใครลากไปไหนฉันก็คงจะไป
“โธ่พี่ พี่โดนไอ้บาร์เทนเดอร์สุดหล่อมอมแล้ว”
“หือ? ก็ไปผับ พี่ก็กะว่าจะไปเมานั่นแหละ”
“ลำยอง !”
“อะไรเล่า =^= ว่าแต่เรามาทำอะไรแถวนี้เป็นเด็กเป็นเล็ก”
“ไม่เด็กแล้ว.. ผมมาพาพี่กลับบ้านไง =w=”
“กลับบ้าน? เราสนิทกันตั้งแต่ตอนไหน? ใครส่งเธอมา?!!” ฉันลุกขึ้นชี้หน้าแบมอีกครั้ง หลังจากที่เรามานั่งพักที่ม้านั่งที่สวนสาธารณะที่อยู่ห่างจากผับไม่ไกลมากนักได้ซักพัก แต่หัวสมองของฉันเองก็ยังมึนๆ และรู้สึกว่าโลกมันยังหมุนติ้วๆ และเดินไม่ตรงทาง แอลกฮอลล์ไม่มีชื่อนั่น รวมกับอะไรหลายๆอย่างที่ฉันดื่มเข้าไปราวกับมันเพียงแค่น้ำเปล่า มันยิ่งออกฤทธิ์อยู่ในกระแสเลือดของฉันกันให้วุ่น และคงยากที่จะสลายหายไปโดยเร็ว
“แล้วใครจะส่งผมมากันเล่า ผมแค่บังเอิญมาทำงานกับลุงกาก เป็นเด็กโบกรถ =3=”
“เด็กโบกรถ?” ฉันทวนคำแล้วก็หัวเราะออกมา มันก็ไม่ได้ขำอะไรมากมาย แต่ตอนนี้ฉันหยุดหัวเราะไม่ได้ ฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
“เอ่อ... พี่พริมเมาหนักแล้วล่ะ ผมว่าผมคงต้องไปส่งพี่ที่บ้านจริงๆ =[]=”
“ฮะๆ อ้าว ฮ่าๆ โอ๊ย พี่กลับเองได้นะ >_<////”
“ไม่น่าได้อ่ะ =[]=” แบมเดินเข้ามาพยุงฉัน เพราะฉันรู้สึกว่าอีกนิดเดียวหน้าสวยๆของฉันต้องไปนาบกับฟุตบาธแน่นอน
“ฮ่าๆ อะไร พี่เดินไหว กลับบ้านได้ ฮ่าๆ ฮิฮิ้วววววว”
“พี่โคตรจะเมาเลยอ่ะ =_=;;” ฉันเริ่มไม่รู้สึกตัวอะไรอีกแล้ว เหมือนหนังตามันจะหย่อนลงมาปิดโสตประสาทการมองเห็น ฉันหลับตาลงช้าๆ และเข้าสู่ห้วงนิทรา แอลกอฮอลล์นี่ไม่ทำให้คนบ้า ก็ทำให้คนหลับได้รวดเร็ว แม้ว่าจะเปล่าเปลี่ยวแค่ไหน ปกติจะนอนยากเพียงใด นี่คงเป็นครั้งแรกที่ฉันเมาอย่างจริงจัง ทั้งๆที่ฉันคิดว่า.. ฉันคอแข็งมากกว่านี้
“กะแล้ว.. พี่ต้องอยู่ที่นี่ ^O^”
“หืม?” ฉันหันไปมองต้นเสียงที่เอ่ยทักฉันก่อนจะนั่งลงข้างๆที่เคาท์เตอร์เครื่องเดิม ในผับร้านเดิม เด็กผู้ชายคนหนึ่งมอบรอยยิ้มสดใสให้ฉันเหมือนเคย ฉันยิ้มตอบกลับพอเป็นมารยาทก่อนจะมาสนใจเครื่องดื่มและคุณบาร์เทนเดอร์ที่วันนั้นเรารู้จักกันอย่างเป็นทางการ แต่ไอ้เด็กตี๋ข้างๆ กลับแยกเขี้ยวให้คุณแทน เอ่อ =_=;;
“วันนั้นคุณ รปภ.สุดสวยพาพี่ไปที่ห้องได้ใช่เปล่า”
“อื้อ ขอบใจนะที่ไปส่ง”
“ยินดีครับผม ^-^”
“พริมกับ .. ไอ้เด็กโบกรถนี่ ... ?” แทนเอ่ยถามฉันพลางชงเหล้าแก้วที่ห้าหรือหกให้ พร้อมๆกับมองหน้าแบมไปด้วย
“เป็นน้องที่รู้จักกันน่ะ J”
“อ๋อ ผมนึกว่าเป็นแฟนพริมซะอีก แต่อย่างว่าแหละ พริมคงไม่สนใจเด็กโบกรถหรอก J”
“ใครว่าพี่พริมสนใจผมจะตายไป :P”
“หา ?” ฉันสะดุดกับคำพูดของแบมนิดหน่อย แต่ฉันก็พยายามจะไม่คิดอะไร ต่อไปนี้.. ถ้าฉันจะคบใครเป็นแฟนขอคนที่อายุมากกว่าฉัน และพร้อมจะดูแลฉัน หมายถึง.. ปล่อยเด็กให้มีอนาคตที่ดีไปเถอะ เฮ้อ นี่มันคำปลอบใจตัวเองชัดๆ ... คิดถึงลันเตา
ฉันมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเอง เข็มนาฬิกาชี้เกือบถึงเลขสอง บ่งบอกเวลาว่าอีกไม่นานผับจะปิดแล้ว ฉันสะพายกระเป๋าแล้วลุกขึ้นยืน เตรียมเอ่ยลากับบาร์เทนเดอร์สุดหล่อ แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร แบมกลับพูดแทนฉันไปแล้ว
“ไปก่อนนะพี่ เดี๋ยวพี่พริม ผมไปส่งเอง โห่ ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น ไปล่ะ พี่พริมกลับกันเนอะ ^-^” แบมดึงข้อมือฉันให้เดินตามไป แปลก.. ตรงที่ฉันก็ยอมตามไปแต่โดยดี ฉันเดินตามเด็กผู้ชายคนตรงหน้าไป และรู้สึกได้ว่าฉันเผลอยิ้มออกมา อาจจะแค่รู้สึกดี.. ที่มีคนทำเหมือนเป็นห่วงฉัน เท่านั้นแหละมั้ง ฉันคงเหงามากไป หรือไม่.. ก็คิดถึงลันเตามากไป และคงเป็นอีกวันที่เด็กตี๋คนนี้พาฉันไปส่งที่คอนโดเหมือนกับวันนั้น ที่ฉันเผลอเมาแล้วหลับไป รู้สึกตัวอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงของตัวเองในห้องแล้ว สภาพฉันปกติดี มีข้อความในมือถือที่แบมส่งมาว่า
‘ผมไม่ได้ทำอะไรพี่นะ ผมฝากคุณ รปภ สุดสวยพาพี่ขึ้นไปบนห้อง ผมส่งแค่ข้างล่าง วางใจได้ ^-^’ เท่านั้นเอง ...
“พี่พริม พี่เลิกดื่มได้แล้ว =O=” ประโยคเดิมๆ คำพูดเดิมๆ จากคนเดิมๆ ที่ฉันพบเจอเขาในทุกๆคืนที่ฉันก้าวเข้ามาที่ผับแห่งนี้ วันนี้ฉันอยู่ที่เคาท์เตอร์เหมือนเดิม แต่คุณแทนไม่ได้มาทำงานในวันนี้ ฉันก็เลยนั่งเหงาๆ อยู่คนเดียว แอลกอฮอลล์หลายๆแก้วที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า ฉันดื่มมันไปเกือบหมดแล้ว .. วันนี้มันเยอะกว่าทุกวัน เพราะบังเอิยว่าวันนี้.. ฉันได้เจอกับลันเตา ควรจะดีใจไม่ใช่หรอที่ได้เจอกันอีกครั้ง แต่มันไม่ใช่เลย .. มันเจ็บพอๆกับตอนที่ไม่ได้เจอ ไม่สิเจ็บกว่า เพราะว่า..
วันนี้เรายืนกันอยู่คนละเส้นทาง เราไม่ได้รักกันแล้ว เราไม่ใช่คนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาอีกต่อไปแล้วน่ะสิ
“พี่พริม ร้องไห้ทำไม?!” สายตาของแบมที่ฉันเห็นลางๆ เพราะน้ำตามันเอ่ออยู่ที่ขอบตาของฉัน ฉันรู้สึกได้ว่าคนตรงหน้าเป็นห่วงฉัน .. มั้ง
ฉันไม่ได้ตอบอะไรกับแบม เอาแต่ส่ายหน้าพลางหยิบเครื่องดื่มตรงหน้าดื่มแล้วดื่มอีก มือของฉันเตรียมกวักเรียกบาร์เทนเดอร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มอีก ถูกจับเอาไว้โดยมือของแบม แบมเริ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดและจับข้อมือฉันเอาไว้อย่างนั้น
“พอแล้ว ไม่ให้พี่ดื่มแล้ว พี่เป็นผู้หญิงนะ”
“ฮึก.. แล้วทำไมอ่ะ กินๆเข้าไป ให้มันเมาๆ จะได้ลืมๆ”
“เหล้ามันช่วยอะไรพี่ได้ไม่นานหรอก”
“.......” ฉันเงียบ ไม่พูดอะไร
“พอเถอะ -*- ผมเป็นห่วงพี่นะ มาก็มาคนเดียว”
“.......” ฉันฟุบลงไปกับโต๊ะ พลางปาดน้ำตาไป บางทีแค่ประโยคนั้นประโยคเดียว น้ำตามันพาลจะแห้งเหือดไปหมดเลย ฉันรู้สึกดีกับคำว่าเป็นห่วง ฉันส่ายหัวปัดความคิดที่คิดว่ารู้สึกดีออกไป ไม่ๆ ฉันแค่เหงา จะมารู้สึกดีอะไรกับคำพูดแค่นี้กันเล่า !
“พี่พริม ? พี่..” แบมสะกิดไหล่ฉันเบาๆ ฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรอยู่นาน จนกระทั่งแบมเขย่าตัวฉันแรงขึ้น ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมายิ้มแป้นให้กับคนตรงหน้า
ฉันเลิกร้องไห้ตั้งแต่บอกว่าเป็นห่วงฉันแล้วล่ะย่ะ!
“เป็นห่วงจริงๆด้วย ^W^” ฉันยิ้มให้แบม แต่แบมกลับทำหน้าตาบูดบึ้งคล้ายกับว่างอนฉันเหลือขนาด .. ไอ้เด็กคนนี้ =_=
“โอ๋ๆ พี่แหย่เล่นๆ โอเคๆ พี่ไม่ร้องไห้แล้วเห็นมั้ย?”
“-3- พี่อ่ะ”
“หา? =O=”
“ว่าไปแล้ว.. พี่ร้องไห้ทำไม”
“ก็..” อยู่ดีๆ ทำไมถามแบบนี้นะ อุตส่าห์ลืมไปได้ชั่วขณะ
“ผมจะร้องตามนะรู้เปล่า TOT”
“อ้าว แล้วเธอจะร้องทำไมล่ะ ฮ่าๆ”
“ไม่รู้ล่ะ ผมจะไม่ยอมให้พี่ร้องไห้อีกแล้ว -3-”
“หืม? ว่าไงนะ”
“สเป็คผู้ชายพี่เป็นแบบผมป่ะ ? ^O^”
“อะไรของเธอ =[]=///” ฉันไม่รู้ว่าฉันหน้าแดงเพราะเหล้าหรือว่าฉันเขินไอ้เด็กตี๋นี่ ฉันรีบสะพายกระเป๋าแล้วเดินหนีแทน แบมเดินตามฉันไปหัวเราะไป ฉันรีบโบกแท็กซี่ก่อนจะรีบขึ้น กะว่าแบมคงตามมาไม่ทันแน่ๆ แต่เปล่าเลย แบมกระโดดขึ้นตามฉันมาติดๆ
“หน้าที่เดิม ต้องไปส่งพี่ ^O^”
เหมือนเดิม ... แบมไปส่งฉันที่คอนโด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก !
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นทำให้หลุดจากภวังค์กับการทำวิทยานิพนธ์ส่งอาจารย์ก่อนจะเรียนจบปี 4 อย่างสมบูรณ์ และแน่นอนฉันยังต้องรายงานตอนที่ฉันไปแลกเปลี่ยนที่เยอรมนีเมื่อปีที่แล้วอีกด้วย เทอมสุดท้ายของชีวิตนักศึกษาแทบไม่ต้องไปเรียน แต่วันๆต้องตั้งหน้าตั้งตาอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทำรายงาน และที่ยากที่สุดต้องแทรกวรรณกรรมคลาสสิกที่ต้องแต่งเอง วรรณกรรมคลาสสิกจำเป็นต้องมีความวาบหวามอยู่ด้วย เอ่อ ... เขินแฮะ
“เด็กชายแบมรายงานตัวครับ ^W^” ฉันขยับแว่นปรับสายตามองเด็กผู้ชายมอมแมมที่ยืนอยู่หน้าห้องของฉัน เสื้อเปรอะเปื้อนไปหมด ผมยุ่งๆ รุงรัง ราวกับไปกัดหมาที่ไหนมา พอย้อนมามองตัวเองในสภาพชุดนอนในเวลาสี่โมงเย็น หัวยุ่งๆ เสื้อยืดคอย้วย กางเกงขาสั้น เอ่อ .. เน่าพอกัน
“ไปทำอะไรมาทำไมมอมแมมแบบนี้?”
“แฮะๆ ^O^”
“แบม -*-” แบมไม่ตอบอะไรกับฉัน ได้แต่เดินหัวเราะเข้าไปในห้องฉัน ฉันปิดประตูก่อนจะเดินตามเข้าไป ตอนนี้เป็นเรื่องธรรมดามากๆ ถ้าแบมจะมานั่งเล่นนอนห้องฉัน เปลี่ยนจากเจอกันที่ผับมาเป็นเจอที่ห้องฉันแทน เพื่อว่าฉันจะได้ไม่ต้องออกไปที่นั่น อย่าคิดอะไรไปไกลเชียว ก็แค่พี่น้องกันน่ะ จริงจริ๊งงงง
“พี่ทำอะไรอ่ะ โฮ้ =O= นิยายอะไรเนี่ย” แบมเลื่อนเม้าส์กดดูอะไรบางอย่างในคอมพิวเตอร์ของฉัน รวมทั้งซนหยิบหนังสือบางเล่มที่เด็กผู้ชายไม่ควรอ่าน เพราะมันจะเกิดอันตรายต่อฉัน ฉันรีบวิ่งไปปิดหน้าจอคอมแล้วแย่งทุกอย่าง โยนมันทิ้งออกไปไกลๆตัวแบม เด็กสมัยนี้ซนนะ !
“ภาษาอะไรอ่านไม่ออก =3=”
“ฮ่าๆ ^O^;; อ่านออกก็เก่งแล้วภาษาเยอรมันนะน่ะ”
“แปลให้หน่อย ^W^”
“มะ มะ มะ ไม่ได้ มันไม่เหมาะกับเด็ก =O=///”
“ผมโตแล้ว -3-”
“ไปอาบน้ำไป =_=” ฉันโยนผ้าขนหนูให้แบมก่อนจะเก็บของให้เป็นระเบียบ เห็นสภาพแบมแล้วบางทีหน้าหล่อๆ ก็ไม่ช่วยอะไร ถ้าอยู่ในสภาพนี้ แต่ก็.. หล่ออยู่นะ =O=///
“อาบด้วยกันเปล่า ~ ^O^”
“อาบ?” ฉันขมวดคิ้วมองหน้าแบม ก่อนจะนึกสนุกอยากแกล้งเด็กคนนี้ขึ้นมา โธ่ ทำเป็นชงทำเป็นชวน ถ้าเจอของจริงจะกล้าพูดอยู่มั้ยนะ
“ก็อาบสิ ^W^ เดี๋ยวอาบให้ด้วยเลย ~” แบมชะงักนิดหน่อยก่อนจะปั้นหน้ายิ้มท้าทายกับฉัน เอ้าไอ้เด็กนี่ ! ไม่กลัวเลยหรอ งั้น.. คงต้องแกล้งต่อไป -*-
ฉันเดินไปหยิบผ้าขนหนูของตัวเองมาพาดบ่าก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องน้ำ แบมมองฉันงงๆ แต่ก็ยังยิ้มร่าอยู่
“เชิญค่ะ วันนี้คุณครูจะมาสอนนักเรียนอาบน้ำโดยการใช้อ่าง ^W^”
“เอ่อ.. งั้น...รบกวนคุณครูช่วยสอนผมหน่อยนะ ^-^”
“ค่ะ ~” ฉันรับคำแล้วปิดประตูห้องน้ำลง ความเงียบเริ่มปกคลุม ฉันพอจะรู้ว่าบางทีฉันเองนั่นแหละที่ไม่แน่จริง ทำเป็นพูดจาไปอย่างนั้น แต่อันที่จริง โคตรจะขี้ขลาดเลย ฉันโตมาป่านนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันกร้านโลกอะไรขนาดนั้น ถึงจะเคยสู้รบกับอีตาคาวี แต่นี่มันไม่เหมือนกันซักกะหน่อย
“โอเค ~ เดี๋ยวคุณครูจะสอนนะคะ ขั้นแรกเราต้องเปิดน้ำใส่อ่างก่อน” ในที่สุดฉันก็ทำลายความเงียบนั้นลงด้วยการเดินไปเปิดน้ำใส่อ่าง
“หรอครับ ^-^” ฉันตกใจนิดหน่อยเมื่อหันไปก็พบว่าหน้าแบมอยู่ไม่ห่างจากหน้าฉันซักเท่าไหร่ หัวใจฉันเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ เอ่อ .. นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้ เห้ย ! นี่มันน้องนะเว้ยเฮ้ย
ฉันเริ่มสั่นนิดหน่อย แต่ก็ต้องแสร้งว่าไม่สั่น โธ่ แล้วฉันจะต้องทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกันเนี่ย แต่ไม่ได้หรอกนะ ฉันต้องเหนือกว่า เพราะฉันอายุมากกว่า (เกี่ยว?)
“ละแล้ว.. บ้านเธออาบน้ำแบบใส่เสื้อผ้าหรอ”
เอ่อ... =[]= ฉันพูดอะไรออกไปน่ะ !
“อ๋อ... นั่นสินะ ^-^” อยู่ดีๆ แบมก็ถอดเสื้อออก ฉันยอมรับว่าสติของฉันเริ่มแตกกระเจิง เด็กสมัยนี้โตไว เอ้ย ไม่ใช่ คือว่าฉันยังไม่ได้ตั้งตัวต่างหาก โอ๊ย ไอ้เด็กบ้าแกไม่เขินหรอ ฉันเขินนะ T[]T///
“แล้วยังไงต่อ ^-^”
แกอาบน้ำไม่เป็นหรือไง T[]T///
“ก็.. เชิญค่ะ ลงอ่างสิคะ ~” ฉันพยายามรวบรวมสติที่แตกกระเจิงไปเมื่อกี๊ให้กลับมาอีกครั้ง แค่อาบน้ำให้เด็กผู้ชายที่อายุ 17-18 ก็คงง่ายๆเหมือนเด็กสามสี่ขวบแหละมั้ง แบมทำตามอย่างว่าง่ายใบหน้ายิ้มร่าตลอดเวลา ชอบสินะไอ้เด็กนี่ =[]=
ฉันเปิดฝักบัวที่อยู่ด้านบนของอ่างน้ำ ก่อนจะดึงมันลงมาจับให้ถนัด เปิดน้ำในอุณหภูมิที่พอเหมาะพอควรไม่ร้อนไม่เย็นเกินไป เอ่อ... ฉันกำลังเป็นหมอนวดอยู่ใช่หรือไม่ ?
“เนื่องจากนักเรียนมอมแมมมาก เราจึงต้องสระผมให้ด้วยนะคะ” ฉันเอื้อมมือไปหยิบแชมพูแล้วบีบไปฝ่ามือก่อนจะชโลมขยี้ผมของแบมไปเรื่อยๆ แบมเงยหน้ามามองฉันเป็นพักๆ จนฟองแชมพูไหลเข้าตาแบม ฉันรีบเปิดฝักบัวล้างออกให้ ตายละ! ฉันจะทำลุกชาวบ้านตาบอดหรือเปล่าเนี่ย !!! แต่เพราะแบมโวยวายดิ้นไปดิ้นมา ทำให้ฉันตัวเปีย จับตัวแบมไปๆมาๆ สุดท้ายก็ได้นั่งลงไปในอ่างเดียวกันกับแบมเรียบร้อยแล้ว เอ่อ...
“TAT แสบตามากเลยอ่ะ”
“ก็.. ก็เงยหน้ามาทำไมบ่อยๆล่ะ”
“เอ่อ.. พี่...เสื้อพี่บางไปนะเปียกหมดแล้ว = =///”
“หา?” ฉันมองตัวเอง ตามสายตาที่แบมมองฉัน ปรากฏว่า เสื้อยืดสีขาวตัวบางของฉัน มันเห็นไปถึงไหนต่อไหน แบมรีบรีบหันหลังให้ฉันพลางหยิบสบู่มาถูให้กับตัวเอง
“ไหนพี่จะอาบไง พี่ก็อาบไป ผม.. ไม่มองหรอก” ฉันหัวเราะน้อยๆก่อนจะหันหลังให้แบมเช่นกัน ถ้าคิดว่ามันไม่มีอะไรก็ต้องไม่มีอะไร ถึงจะเขินก็เถอะ แต่หันหลังให้แล้วมันก็คงไม่มีอะไรจริงๆ ฉันจัดการถอดเสื้อยืดสีขาวคอย้วยนี่ออกเหลือแค่เสื้อชั้นในที่ฉันใจไม่กล้าพอจะถอดออก ก็ไม่ได้อยู่คนเดียวนี่นะ คนข้างหลังเป็นน้องชายคนหนึ่ง เฮ้อ.. ฉันทำอะไรอยู่เนี่ย
ฉันรีบถูสบู่ด้วยความรวดเร็ว อย่างที่เกิดมาไม่เคยทำมาก่อน เพราะถ้าอยู่นานมากกว่านี้ ฉันจะต้องเป็นลมตายคาอ่างน้ำตัวเองแน่ๆ แต่เพราะฟ้าแกล้ง หรือความจงใจตัวเองที่ฉันแยกไม่ออก ทำให้สบู่มันลื่นออกไปจากมือฉัน ลอยไปอีกฝั่ง.. ฝั่งที่แบมอยู่ ฉันพยายามควานหาสบู่โดยที่ไม่ได้หันหลังกลับไปมองอะไรใดๆ แต่ฉันรู้สึกว่าแบมลุกขึ้นพยายามจะหาสบู่มาให้ฉัน แต่เพราะฟ้าคงจะสนุกกับการแกล้งฉันแน่ๆ โทษฐานอวดดีเกินไป แบมเลยเหยียบสบู่ลื่นล้มมาทางฉัน ในขณะกำลังจะหันไปบอกว่าไม่ต้องเก็บแล้ว แต่ไม่ทันแล้วล่ะ ... ร่างของเราสองคนนอนทับกันอยู่ ใบหน้าของแบมใกล้ฉันจนได้ยินเสียงลมหายใจ รู้ได้เลยว่า.. หัวใจของเราสองคนเต้นแรงแค่ไหน
แล้วความเงียบก็ปกคลุมเราสองคนอีกครั้ง ฉันรู้สึกว่าใบหน้าฉันชาและคงแดงเป็นมะเขือเทศไปแล้ว เราสองคนได้แต่จ้องหน้ากันไปมา โดยที่ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากของเราทั้งคู่ แบมค่อยๆเอามือมาเขี่ยผมที่ปรกหน้าฉันเบาๆ ก่อนจะยิ้มให้กับฉัน ฉันก็ได้แต่ยิ้ม เพราะรู้สึกว่าทำอะไรไม่ถูก เราตกอยู่ในสภาวะนี้อยู่นานมาก นานพอที่ตัวฉันเองรู้สึกหนาวสั่น
“พี่พริม...”
“เอ่อ.. ว่าไง..”
“พี่ยังไม่ตอบผมเลยนะ”
“ว่า?”
“ผมใช่สเป็คพี่หรือเปล่า?”
“เอ่อ...ก็...” หัวใจฉันเริ่มเต้นรัวอีกครั้ง แม้คำถามจะเป็นแค่คำถามธรรมดา แต่เพราะว่าตัวฉันกับแบมแนบชิดกันเกินไป ไม่ว่าจะพูดจะถามอะไรออกมาใจฉันก็สั่นไปหมดนั่นแหละ
แบมเงียบไปเหมือนกับกำลังรอคำตอบจากฉัน ฉันไม่ได้ตอบอะไรไป ในหัวของฉันเริ่มสับสนไปหมด คนๆนี้เป็นน้องชายที่ฉันแค่รู้จักผ่านๆ แต่เขาเริ่มเข้ามาในชีวิตฉันเมื่อไม่นานมานี้ ความรู้สึกของฉันที่มีอยู่ตอนนี้คืออะไร
“ผมแอบชอบพี่แบบเงียบๆมาตั้งนานแล้ว... ” เงียบๆ? คือ ? คืออะไร ? =[]=
“ผมก็แค่ปลื้มๆ แต่ว่า... ผมว่าตอนนี้มันไม่ใช่แค่ปลื้มแล้วอ่ะ” ฉันยังคงเงียบ และตั้งใจฟัง ลุ้นว่าแบมจะพูดอะไรออกมาอีก แต่ตอนนี้หัวใจฉันพองโตเหลือเกิน ดีใจที่ได้ยินอะไรต่างๆที่แบมพูดออกมา แต่แล้วความเงียบก็กลับมาปกคลุมเราอีกครั้งซึ่งตอนนี้ฉันก็ได้แต่มองหน้าแบม แบมก็ได้แต่จ้องฉัน คงหวังจะให้ฉันพูดอะไรออกมา แต่ฉันไม่รู้จะพูดอะไร เพราะตอนนี้ฉันงุนงงสับสนไปหมดแล้ว
“พี่พริม...”
“...........”
“เป็นแฟนกันนะ”
“เอ่อ...” ฉันเริ่มหายใจติดขัด เหมือนจะขาดอากาศหายใจ หัวใจฉันแทบจะหลุดออกมา เพราะคำพูดของเด็กผู้ชายคนนี้เนี่ยนะ
“ได้มั้ย? ...”
“..........”
“ผมจะไม่ทำให้พี่ร้องไห้อย่างที่พี่เป็นอยู่...”
“...........”
“พี่พริม...”
“โอเค ^W^” ฉันพูดมันออกไปแล้ว ดูเหมือนไม่ชัดเจน แต่ก็แปลว่าตกลงใช่มั้ย? ฉันไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป แม้เวลาจะไม่นานซักเท่าไหร่ แต่หัวใจฉันตอนนี้ ความรู้สึกของฉันตอนนี้ มันตัดสิน มันสั่งให้ฉันเชื่อว่า เขา... จะรักฉันและเป็นห่วงฉัน จะดูแลฉันได้ แม้ว่า.. เขาจะอายุน้อยกว่าฉัน แต่ความคิดของเขาคงไม่ต่างจากฉันหรือคนอื่นที่มีความรักหรอก
แบมเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ ก่อนจะจุ๊บที่แก้มข้างซ้ายของฉัน ก่อนจะมองฉันด้วยสีหน้าดูมีความสุขที่สุดในโลก ส่วนฉันก็คงทำได้แค้เขิน และนอนตัวเกร็งอยู่อย่างนี้
“ฟองมันติดแก้มพี่น่ะ ^W^”
“อะ.. อื้อ” ฉันพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า ตะคริวจะกินตัวฉันแล้วล่ะ “แบม...”
“ครับ?”
“ลุกได้มั้ย? ตะคริวกินพี่ T[]T”
“ครับพี่ ครับๆ =[]=”
เด็กผู้ชายคนนี้ช่าง.. ตลกแต่ก็น่ารักจริงๆ <3
ความคิดเห็น