คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : The Third Strory : (Chain x Risa)
..
เสียงดังเซ็งแซ่ไปทัวรอบห้องประชุมใหญ่ เด็กนักเรียนไม่สิ นิสิตชั้นปีที่1นับร้อยคน ที่เพิ่งพ้นวัยม.ปลายมาได้มานาน กำลังส่งเสียงหยอกล้อคุยกัน โดยไม่เกรงใจใคร แม้แต่ครูบาอาจารย์อย่างผม.. ที่กำลังจะขึ้นไปบนเวทีใหญ่ เพื่อเข้าสอนพวกเขาในชั่วโมงเรียนนี้
เสียงไมค์ กำลังดังขึ้นนิดหน่อย เด็กๆที่กำลังคุยเล่นกัน ต่างมองมาที่ผม และเสียงนั้นก็เงียบลงในทันตา
"วันนี้อาจารย์มาริสาติดภารกิจนะครับนิสิต วันนี้ผมเลยเข้ามาสอนแทน.."
ภายในห้องเงียบสนิท ต่างกับเมื่อครู่อย่างเห็นได้ชัดจริงๆ สายตาทุกคู่มองมาที่ผม บ้างก็คงสงสัยว่าส่งสายตาว่าไอ้อาจารย์หน้าหล่อ(?)คนนี้เข้ามาทำไม บางก็ดีใจที่ผมไม่ใช่มาริสา บ้างก็ว่าทำไมแกไม่ยกเลิกคลาสไปเลย นี่ไม่ใช่วิชาของแก บ้างก็ยังคงก้มหน้ากดโทรศัพท์เล่นไม่ได้สนใจโลกอะไร
น่าจะจดชื่อและแอบหักคะแนนซักหน่อยแฮะ... :)
"หลายคนคงรู้ผมจักแล้วนะครับ แต่ผมขอแนะนำตัวอีกครั้งแล้วกันนะ เพื่อความเท่าเทียมกับคนที่ยังไม่รู้.." ผมก้มลงเขียนชื่อตัวเองลงไปในกระดาษเอสี่ก่อนจะวางมันลงไปในแผ่นฉายโปรเจ็คเตอร์
"ผมชื่อ ชญานิน รติณธรนะครับ อาจารย์ประจำภาควิชาดนตรีตะวันตก" ผมกล่าวใส่ไปไมค์ในขณะที่เขียนชื่อลงไปด้วย ก่อนจะเงยหน้า ยืดตัวยืนเต็มความสูงและพูดอีกครั้ง
"คลาสนี้เป็นคลาสรวมของเด็กชั้นปีที่1 ทุกเอกทุกสาขา ผมต้องบอกก่อนว่าใครที่เลือกสาขาดนตรีตะวันตก ไม่ว่าจะเล่นดนตรีชนิดไหน ถ้าได้เจออาจารย์มาริสา ยังไงก็ต้องเจอผมด้วย งั้นเพื่อให้ดูสนิทกันง่ายๆ ต้องเจอกันไปอีกนานจนจบปี4 ก็เรียกผมสั้นๆว่า อาจารย์ก็ได้ครับ :) "
ผมไม่แน่ใจว่าผมหูแว่วหรือได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า แต่ผมได้ยินเสียงกรี๊ดจากนิสิตหญิงคนไหนผมก็ไม่ทราบเล็ดลอดออกมานิดหน่อย ผมอดขำไม่ได้ แต่ก็ต้องกลั้นไว้นิดหน่อย เป็นประจำทุกปีเลยที่นิสิตที่เข้ามาใหม่ จะมีอาการเช่นนี้ ผมก็แค่อาจารย์ธรรมดาๆ คนนึงแหละน่า
"อาจารย์มาริสาฝากงานให้นิสิตทุกคนมาทำในชั่วโมงนี้ ยังไงก็ขอให้ทุกคนเตรียมกระดาษคนละแผ่นด้วยนะครับ เขียนชื่อ เอก สาขา ชั้นปี รหัสนิสิตให้เรียบร้อย.."
ผมเริ่มสั่งงานตามที่มาริสาสั่งผมมาอีกที ผมเดินไปเปิดเครื่องเสียง ที่มีเสียงเพลงบรรเลงตามแบบฉบับของดนตรีตะวันตก วิชาที่ผมกำลังสอนคือ ทฤษฎีดนตรีศึกษา ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ของผมได้บังคับให้นิสิตทุกคนต้องลงเรียนนี้เป็นวิชาบังคับ ไม่ว่าคุณจะเรียนวาดภาพ หรือ แฟชั่น หรือ การแสดง หรืออะไรก็ตามแต่ คุณก็ต้องจำเป็นที่จะต้องรู้สาขาทุกสาขาของศิลปะ ไม่งั้นจะมาศิลปกรรม กันทำไมล่ะจริงมั้ย? :)
ดนตรีน่ะ.. ช่วยให้ทุกคนสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ง่ายขึ้นนะครับ ^^
"นิสิตได้ยินเพลงที่ผมกำลังเปิดใช่มั้ยครับ งานอาจารย์มาริสาได้ฝากเอาไว้ว่า ให้ตีความเพลงที่ได้ฟังออกมาเป็นความหมายที่นิสิตรู้สึก ว่าเพลงๆนี้สื่ออะไรออกมาบ้าง แล้วมีความเกี่ยวข้องอะไรกับตัวเอง.."
ผมหยุดพูดไปอยู่ครู่นึง เพราะผมกวาดสายตามองไปทั่วทั้งห้องประชุม มีหลายอารมณ์ หลายสายตา หลายความรู้สึก ที่หลายคนส่งมาตรงที่ผมยืนอยู่ตรงนี้
ทำเพื่อ? ยากไปป่ะ? จะเขียนยังไงล่ะ? และอื่นๆ อีกเยอะแยะ
"ผมไม่รู้ว่าคุณจะทำยังไงกับงานชิ้นนี้ ก็ตามแต่คุณคิดครับ ส่งท้ายชั่วโมงนะครับ เชิญทำงานได้ครับ ^ ^" ผมปิดไมค์ ก่อนจะกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานสำหรับอาจารย์ในห้องนี้ ผมกวาดสายตามองนิสิตที่กำลังก้มหน้าลงเขียนกระดาษกันอย่างตั้งใจ บางคนก็เหม่อลอยนิดๆ บางคนก็กำลังใช้ความคิด ไม่เห็นต้องเครียดเลย ศิลปะคือศาสตร์ที่ใช้ผ่อนคลายนะ :)
เสียงเพลงก็บรรเลงไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ และเรื่อยๆ.. และตอนนี้ผมเองก็ว่างมากพอ
มากพอที่จะคิดตามโจทย์ของมาริสาที่ทิ้งไว้ให้กับนิสิต
เพลงๆนี้น่ะหรอ...
เพลงนี้น่ะ.. สื่อความหมายถึงความทรงจำ
ความทรงจำเกี่ยวกับความรัก..รักครั้งแรกล่ะมั้ง ?
"อ้ะ เราอยู่นี่นี่เอง พี่มีอาจารย์ใหม่ประจำสาขาของเชนทร์มาแนะนำด้วย ฝากเขาด้วยนะ น่าจะเป็นเพื่อนกันได้.”ผมเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียก จากเสียงที่ผมคุ้นเคย ผมละสายตาจากหนังสือที่กำลังอ่าน ก่อนจะปรับสายตาจากแว่นเลนส์ที่หนาพอควร ภาพที่เห็นผมเห็นพี่ชายของผมยืนอยู่กับ...
หญิงสาวคนหนึ่ง หน้าตาสะสวย.. ไม่สิ สวยมากๆ สวยมากกว่าผู้หญิงคนไหนที่ผมเคยรู้จัก ยิ่งกว่าอาจารย์คณิณธร แม่มดตัวฉกาจแห่งคณะเศรษฐศาสตร์เสียอีก แค่ปลายเส้นผมยาวเหยียดตรงสีดำขลับก็ชวนทำให้หลงใหลแล้ว..
ผมรู้สึกได้ว่าผมจ้องเธออยู่นานมาก นานมากจริงๆ จนพี่ต้นต้องดีดนิ้วดังเป๊าะให้ผมรู้สึกตัว
"ดร.เชนทร์ครับมองอาจารย์คนใหม่ขนาดนี้ เขาก็เขินแย่สิ"
"เอ่อ.." ผมไม่รู้จะทำตัวยังไงต่อดี ผมคิดไม่ออกจริงๆ ว่าผมต้องวางตัวในฐานะอะไร
รองอธิการบดี?
อาจารย์ประจำสาขาที่อยู่ก่อนหน้า?
หรือ.. ผู้ชายธรรมดาๆ ที่กำลังจะรู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง
"เจ้าเชนทร์!"
"คะ..ครับ สวัสดีครับ!" ไม่ทันที่ผมจะคิดอะไรทัน ผมก็ยกมือไหว้เธอคนนั้นไปซะแล้ว -*-
"อ่ะ เอ่อ.. ไม่ต้องไหว้ริสาหรอกค่ะ เราอายุเท่ากัน" ประโยคแรกที่ผมได้ยินจากปากของเธอ ทำให้ผมยิ่งรู้สึกว่าทำอะไรไม่ถูกยิ่งกว่าเดิม ยิ่งเธอส่งยิ้มให้ผมมาอีก ผมยิ่ง... เอ่อ...
"ได้เวลาพี่เข้าสอนแล้ว ฝากเราด้วยนะเจ้าเชนทร์ นี่น้องสาวอาจารย์คณิณธรเชียวนะ พี่แคลบอกว่าห้ามจีบ!" พี่ต้นมองเวลานาฬิกาที่ข้อมือของตัวเองก่อนจะหันกลับมาสั่งเสียผมอย่างค้อนๆ โดยเน้นคำหลังเสียเหลือเกิน
'ห้ามจีบ'
นี่พี่ต้นเห็นผมเป็นคนยังไงกันนะ
"ครับ -*-" ผมรับคำก่อนจะมองพี่ชาย อธิการบดีมหาวิทยาลัยที่ผมเคารพเดินลับออกไป เหลือเพียงบรรยากาศภายในห้องที่เหลือเพียงแค่ผมกับ คุณ...?
"เอ่อ.. คุณชื่อ?"
"คะ? อ๋อ มาริสาค่ะ ^-^"
"อ้อ ครับ! คุณมาริสา คุณมาริสาาา.." ผมรีบพลิกแฟ้มดูรายชื่ออาจาย์ที่เข้ามาใหม่ทั้งหมด ที่ผมไรบด้รายงานจากอาทิตย์ก่อน แต่ไม่ได้ดูซักที วันนี้คงเป็นวาระดิถีที่ดี ที่ผมได้อ่านมันซักที
"มาริสา... ดนตรีตะวันตก..." ผมเงยหน้ามาสบตากับเธอที่กำลังยืนอยู่เก้อๆ เขินๆ
เฮ้ย! พลาดแล้วเชนทร์ปล่อยให้เขายืนได้ยังไงน่ะ !
"เอ่อ คุณ เชิญนั่งก่อนสิครับ" ผมผายมือเป็นเชิงเชื้อเชิญให้เธอนั่งลงกับเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าผม
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณชญานินมีตำแหน่งที่สูงกว่าฉัน..." ไม่ทันที่เธอจะพูดจบผมก็รีบแทรกขึ้นมาทันที
"ไม่เป็นไรครับๆ คุณอายุเท่าผม ฐานะไม่ได้ต่างกันหรอกครับ เป็นอาจารย์เหมือนกัน.. อ้อ.. เรียกผมว่าเชนทร์ก็พอ ไม่ต้องเต็มยศ ^ ^"
เธอยิ้มให้ผมน้อยๆ ก่อนจะนั่งลงตามคำเชื้อเชิญของผม โอ้โห พอคราวนี้ล่ะ เราเหมือนอยู่ใกล้กันมากกว่าเดิม ผมยิ่งรู้สึกประหม่าทันที ท่าทีที่ดูวางมาด ดูสุขุม ที่ควรจะมีพลันหายไปหมด ผมแย่แล้วล่ะ
"เอ่อ.. พี่ต้น อาจารย์ต้นเขาได้แนะนำอะไรหรือยังครับ?"
"ยังค่ะ ท่านอธิการบดีไม่ได้แนะนำอะไรมาก.. ให้ฉันมาถามที่ท่านรองแทนน่ะค่ะ"
"เอ่อ.. ผมบอกว่าเรียกผมว่าเชนทร์เฉยๆ ก็ได้ครับ"
"แต่..."
"จะได้สนิทกันไวๆ ^ ^ ตอนนี้ เรามีสถานะที่เท่ากันครับ"
"งั้น..ริสาเรียกว่า เชนทร์ นะคะ? ^ ^"
"งั้นผมก็เรียกว่าริสานะครับ"
มันเป็นบทสนทนาแรก ที่เริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดูดีและตลกๆหน่อย เพราะท่าทีของผม แต่อยู่ๆดีผมก็กลายเป็นคนแบบนั้นไปได้ ประหม่าสุดๆ
ทุกครั้งที่ผมได้สบตากับเธอ ผมไม่ได้คิดไปเองหรอกนะ แต่ผมว่าเธอเองก็มีอาการคล้ายๆผมเหมือนกันนะ :)
To be Cont.
ความคิดเห็น