ตอนที่ 3 : บทที่ 3
พอชายหนุ่มเห็นถังเฟิงแสดงอาการ ‘ไม่อยากจะเชื่อ’ ก็แหงนหน้าหัวเราะเสียงดังลั่น
“ถังเฟิง นายคือถังเฟิงจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย ฉันว่านายดูไม่เหมือนคนความจำเสื่อมนะ แต่เหมือนกลายเป็นคนละคนมากกว่า” ชายหนุ่มปรายตามอง แววตาคมกริบพิจารณาถังเฟิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา “ไม่เจอกันแค่เดือนเดียว นายทำให้ความรู้สึกที่ฉันมีต่อนายเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง”
“ผมความจำเสื่อมก็เลยจำไม่ได้ว่าถังเฟิงคนก่อนเป็นยังไง” ถังเฟิงยักไหล่เหมือนไม่ไยดี คำพูดและพฤติกรรมที่เขาแสดงออกมาดูเป็นธรรมชาติมาก “คนที่ก้าวผ่านประตูนรกมาได้ก็เหมือนลอกผิวหนังออกไปชั้นหนึ่ง ยังไงก็ต้องเปลี่ยนแปลงบ้างไม่มากก็น้อยอยู่แล้ว”
ถังเฟิงที่ได้รับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมมาแล้วนับไม่ถ้วนย่อมชินกับการรักษาท่าทีให้สงบนิ่งเวลาเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด ตอนเป็นโรคหัวใจเขายิ่งต้องพยายามควบคุมจิตใจให้สงบเพื่อไม่ให้หัวใจเต้นเร็วเกินควบคุมจนอาจหยุดเต้นไปในที่สุด
คิดจะจับผิดเขางั้นหรือ มันไม่ง่ายหรอกนะ
“ตอนเจอผมเมื่อหนึ่งเดือนก่อนคุณรู้สึกยังไงบ้าง” ถังเฟิงเอามือวักน้ำอุ่นขึ้นลูบใบหน้า แล้วเสยเส้นผมเปียกชุ่มไปด้านหลังอย่างลวกๆ หยาดน้ำไหลรินจากผิวแก้มหยดลงไปในอ่างอาบน้ำ เผยให้เห็นโครงหน้าอันงดงามเด่นชัด
“สวยแต่รูปจูบไม่หอม สมองกลวง เศษสวะที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง” ชาลส์ร่ายยาวออกมาพลางเชิดคางขึ้น ข้อศอกของเขาวางพาดอยู่บนขอบอ่าง สายตาจับจ้องใบหน้าที่แสงไฟนวลตาช่วยขับเน้นให้ดูละมุนละไมขึ้นของถังเฟิง “ไม่ว่าเมื่อก่อนนายจะเป็นยังไง แต่ดูท่าแล้วธุรกิจครั้งนี้ฉันน่าจะได้กำไรเยอะเชียวล่ะ”
“แต่ผมรู้สึกว่าสัญญานั่นมันโง่เง่าสิ้นดี พวกเรายกเลิกสัญญากันได้ไหม” ถึงแม้การเกิดใหม่จะเป็นเรื่องดี แต่ชีวิตที่แค่เริ่มต้นก็ต้องกลายเป็นคู่นอนของคนอื่นคงทดสอบความอดทนของเขามากเกินไปนิด
“ฉันถูกใจนายมาก ดังนั้นฉันไม่คิดจะยกเลิกสัญญาหรอกนะ” อีกฝ่ายปฏิเสธคำขอของถังเฟิงอย่างทันควัน “แต่ว่า...”
น้ำเสียงของชาลส์เปลี่ยนไปเล็กน้อย “ตอนแรกที่นายยอมรับข้อเสนอ ฉันเองก็รู้สึกมันออกจะน่าขัน แต่ในเมื่อตอนนี้ฉันถูกใจนายขนาดนี้ ฉันเลยคิดว่าเราอาจจะปรับเปลี่ยนข้อตกลงเล็กๆ น้อยๆ ขอแค่อยู่ในขอบเขตที่ฉันยอมรับได้ก็พอ”
ดูเหมือนจะเจอนักธุรกิจจอมทะนงและฉลาดเป็นกรดเข้าให้แล้ว ถังเฟิงมองชายร่างเปลือยเปล่าที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา ชาลส์เป็นลูกครึ่งหน้าตาดี รูปร่างงดงามพอๆ กับนายแบบระดับอินเตอร์ นอกจากคำว่ายกเลิก ‘สัญญา’ ที่ทำให้เขาแสดงท่าทีแข็งกร้าวออกมาแล้ว กิริยาท่าทางอื่นๆ รวมทั้งลักษณะการพูดจาของชาลส์ล้วนถูกใจเขามาก พูดง่ายๆ ก็คือเป็นเพื่อนร่วมเตียงแบบที่หาไม่ได้ง่ายๆ
“ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของผู้กำกับหลี่เวย คุณเป็นคนลงทุน?”
ผู้กำกับหลี่เวยคนนี้ถังเฟิงรู้จักดี ผู้กำกับหลี่เวยมักจะทำงานอยู่ทางซีกโลกตะวันตกเหมือนกับเขา กำกับทั้งภาพยนตร์เชิงพาณิชย์ที่ทำเงินมหาศาลและภาพยนตร์เชิงศิลปะที่ได้รับคำชื่นชมมากมาย เรียกว่าเป็นผู้กำกับชาวจีนที่กำกับภาพยนตร์ทั้งเชิงพาณิชย์และศิลปะได้อย่างดีเยี่ยม จึงมีอิทธิพลในวงการภาพยนตร์ทั้งในเอเชียและซีกโลกตะวันตก
ถังเฟิงพอจะเดาออกแล้วว่าภาพยนตร์เรื่องใหม่ของผู้กำกับหลี่เวยคือเรื่องไหน ก่อนที่เขาจะมีอาการโรคหัวใจกำเริบ ผู้กำกับหลี่เวยเคยมาเชิญเขาให้ไปร่วมแสดงด้วยตัวเอง แต่ตอนนั้นสุขภาพของเขามีปัญหาเล็กน้อยจึงต้องบอกปฏิเสธไป
“ถูกต้อง”
“คุณเสนอชื่อเกอเฉินให้ผู้กำกับหลี่เวยแล้ว?”
ชาลส์เลิกหัวคิ้ว “ใช่ วันเดียวกับนายถูกส่งตัวมาที่นี่นั่นแหละ แต่ถ้านายอยากลองดู ฉันจะเสนอชื่อนายให้ผู้กำกับหลี่เวยอีกทีก็ได้” ส่วนผู้กำกับจะยอมรับไหมก็อีกเรื่อง
“ฉันสามารถเสนอชื่อนายให้ผู้กำกับได้ แต่นายก็ต้องเข้าใจด้วยว่าผู้กำกับหลี่เวยไม่ใช่คนที่จะยอมรับนักแสดงเพียงเพราะเจ้าของเงินเสนอมา” ชาลส์ย่อมไม่คิดอยู่แล้วว่าดาราเล็กๆ หน้าตาไม่เลวที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้จะทำให้ผู้กำกับใหญ่ถูกใจได้ อย่างน้อยเท่าที่เขารู้มา หลังจากถังเฟิงก้าวเข้าวงการก็มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่พักหนึ่งก่อนตกอับอย่างรวดเร็ว แถมยังมีแต่ข่าวอื้อฉาวอีกพะเรอเกวียน
แต่ครั้งนี้ถังเฟิงคนที่อยู่ตรงหน้ากลับทำให้เขารู้สึกอยากเชื่ออย่างน่าประหลาด แตกต่างจากถังเฟิงที่เขาเคยพบและได้ยินได้ฟังมาอย่างสิ้นเชิง วินาทีนั้นชาลส์เข้าใจแล้วว่าทำไมตัวเองถึงยอมลงทุนมานั่งต่อรองกับดาราเล็กๆ ในอ่างอาบน้ำตอนกลางดึกแบบนี้ มันเป็นเพราะเขาอยากได้ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า
ทำไมลู่เทียนเฉินถึงคิดว่าถังเฟิงเป็นเศษสวะน่ารำคาญกันนะ ทั้งที่เขาเป็นชายหนุ่มที่มีเสน่ห์ดึงดูดชวนให้อยากเอาชนะมากขนาดนี้แท้ๆ
“วงการบันเทิงไม่เคยขาดแคลนคนหนุ่มหน้าตาดี แต่ฉันจะให้โอกาสนาย” ชาลส์เอื้อมมือไปจับข้อเท้าที่อยู่ใต้น้ำของชายหนุ่มเอาไว้ น่าเสียดายที่ครั้งแรกของพวกเขากลับเป็นตอนที่อีกฝ่ายโดนวางยานอนหลับ
ถังเฟิงหดขาและจ้องมองชาลส์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์อยู่หลายนาที
เขาอดยิ้มออกมาไม่ได้ “ผมขอถามได้ไหมว่าทำไมคุณถึงอยากเลี้ยงดูผม”
“นายจะยอมให้ฉันเลี้ยงดู?” ความตรงไปตรงมาของอีกฝ่ายทำให้ความรู้สึกดีๆ ที่ชาลส์มีต่อถังเฟิงเพิ่มมากขึ้นไปอีก เมื่อก่อนเขาก็เคยเลี้ยงดูดารามาบ้าง แต่ส่วนใหญ่ถ้าไม่รู้งานมากเกินไป ก็สงบเสงี่ยมเชื่อฟังจนน่าเบื่อ บางคนก็มั่นใจในตัวเองจนเขารู้สึกรำคาญ
“สิ่งที่ผมพูดตอนนี้อาจจะดูอวดดี แต่ผมไม่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่มีดีแค่รูปกายภายนอก แล้วผมก็ไม่ชอบคำว่าเลี้ยงดูนี่ด้วย” ถังเฟิงปฏิเสธคำขอของอีกฝ่าย
ชาลส์ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองอะไร การปฏิเสธของถังเฟิงเป็นสิ่งที่เขาคาดเดาไว้อยู่แล้ว โชคดีที่พวกเขายังมีสัญญาเหลืออีกหนึ่งเดือน
“พวกเรามีเวลาหนึ่งเดือนในการทำความรู้จักซึ่งกันและกัน” หนุ่มลูกครึ่งรูปงามว่าพร้อมรอยยิ้ม
“ในเมื่อยกเลิกสัญญาไม่ได้ งั้นขอเปลี่ยนข้อตกลงบางอย่างได้ใช่ไหม รบกวนคุณช่วยเสนอชื่อผมให้กับผู้กำกับหลี่เวยแทน ผมจะทำให้ดีที่สุด อีกอย่างเวลาปกติผมไม่อยากให้คุณจำกัดอิสรภาพของผม ได้ไหมครับ” ถังเฟิงบอกหลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งเพื่อหาอิสรภาพให้แก่ตัวเองให้ได้มากที่สุด
การเจรจาธุรกิจกับมหาเศรษฐีอย่างตรงไปตรงมาถือว่าเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุด การปฏิเสธทันทีโดยไม่คิดไตร่ตรองหรือแสดงท่าที ‘หยิ่งยโส’ ไม่ยอมคล้อยตามใส่ มีแต่จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกรำคาญ และผลลัพธ์สุดท้ายก็คือถูกปิดกั้นโอกาสทั้งหมด ถังเฟิงยังรักงานแสดงมาก เขารู้สึกว่าชีวิตนี้คือโอกาสครั้งใหม่ที่สวรรค์ประทานมาให้เขา
เพียงแค่ต้องไขว่คว้าไว้อย่างสุดกำลัง และทุ่มเทแรงกายแรงใจสู้อย่างสุดชีวิตเท่านั้น
ถังเฟิงคนก่อนคงจะทำนิสัยก้าวร้าวกับผู้ใหญ่ในบริษัทต้นสังกัด มิฉะนั้นคงไม่โดนจับคู่กับผู้จัดการส่วนตัวที่แย่ขนาดนี้ ส่วนถังเฟิงคนปัจจุบันนอกจากต้องลบภาพลักษณ์เก่าที่เจ้าของร่างนี้เคยสร้างเอาไว้แล้ว ยังต้องหาผู้สนับสนุนที่จะไม่ทำให้เขาถูกปิดกั้นโอกาสจากบริษัทต้นสังกัดด้วย และตรงหน้าก็มีชาลส์อยู่แล้วทั้งคน
ชาลส์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า พร้อมกับตอบรับให้ถังเฟิงมั่นใจ “ได้ ก็ฉันชอบนายมากนี่นะ”
“ผมก็ชอบคุณมากเหมือนกัน” ถังเฟิงยิ้มและบอกออกไปตรงๆ “แต่คราวหน้าไม่ต้องวางยาผมแล้วนะ มันเวียนหัว ทรมานมาก”
“ลองอีกสักครั้งดีไหม” ชาลส์โน้มตัวมาด้านหน้าและทาบทับบนตัวชายหนุ่ม ก่อนก้มลงจูบหน้าผากถังเฟิงอย่างอ่อนโยน ทันใดนั้นก็เกิดความรู้สึกอยากลองร่วมรักกันอย่างจริงจังดูอีกสักครั้ง
“เห็นแก่ที่ผมเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ช่วยปล่อยผมไปก่อนเถอะครับ”
“โอเค ฉันเองก็ไม่อยากทำให้นายตกใจกลัวตั้งแต่เริ่มต้นหรอก แต่ว่าขอจูบอีกทีได้ไหม”
ถังเฟิงยกมือขึ้นโอบไหล่ชาลส์แล้วยื่นริมฝีปากของตัวเองเข้าหาอีกฝ่าย มันเป็นจูบแผ่วๆ ที่ไม่ได้แฝงกามตัณหาเลยสักนิด หากกลับมอบรสชาติอันแสนหอมหวานให้กับเขา ชาลส์ชอบจูบแบบนี้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สนุกมากกกอาจจะต้องปรับนิดนึงงงง ไฟท์ติ้งๆๆ