ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality 5 .: อาถรรพ์หมู่บ้านน้ำค้าง :. [จบเกม!]

    ลำดับตอนที่ #74 : Decision Day .:: บาร์บีคิวเนื้อมนุษย์ ::.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 361
      1
      6 พ.ย. 53

    THe REALITy 5


    [WEEK 4 :: DAYS 6]


     

     

    ภารกิจในสัปดาห์ที่ 4 ของพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างฉิวเฉียด พวกเขาสามารถนำอวัยวะที่ต้องตามหามาครบจำนวน ฌอร์นทำหน้าที่รวบรวมของเหล่านั้นใส่ไว้ในตู้แช่ที่อยู่กลางหมู่บ้านเพื่อกันการบูดเน่าของซากแขนขารวมไปถึงดวงตาพวกนั้น หลังจากที่สรุปภารกิจเสร็จสิ้น พวกเขาก็ขอตัวแยกย้ายกันไปตามห้องพักของตนเพื่อพักผ่อนเอาแรงในวันตัดสิน

     

    ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งที่ต้องออกจากเกมการแข่งขันในสัปดาห์นี้อย่างแน่นอน!

     

    รุ่งเช้าของวันใหม่เดินทางมาเร็วกว่าที่พวกเขาคาดไว้ สัญญาณนกร้องและสายลมที่โบกสะบัดจนกิ่งไม้ไหวเอนทำให้ธรรมชาติมีความสวยงามขึ้นถนัดตา

     

    ภายในบ้านพักในหมู่บ้าน เสียงฝีเท้าตึงตัวเดินตรงเข้าไปยังห้องของผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่ง เสียงเปิดประตูทำที่ไร้การเคาะทำให้ผู้เป็นเจ้าของห้องตกใจ

     

    “เธอหายไปไหนมายัยตาล!” นกยูงมองหน้าของเด็กสาวตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง พอดีกับที่เพื่อน ๆ ต่างเดินออกมาจากห้องตามเสียงตะโกนของหล่อน

     

    เด็กสาวโบฮีเมี่ยนค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียง เธอรู้ตัวว่าครั้งนี้เธอเป็นคนผิดที่ปล่อยให้นกยูง คู่หูของเธอต้องออกไปทำภารกิจเพียงลำพัง

     

    “ตาล ... ตาลโดนพวกวิญญาณลากตัวไป ... พวกเขาขอความช่วยเหลือจากตาล” เธอทำสีหน้าเพื่อให้เด็กสาวเชื่อว่าเธอกำลังพูดเรื่องจริง

     

    “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอจะพูดเรื่องจริงหรือว่าโกหก แต่เธอรู้ไหม?” เด็กสาววรรคคำก่อนที่บ่อน้ำตาจะแตกออกมา

     

    ทุกคนมองหน้ากันไปตาม ๆ กันอย่าง งง

     

    “ฉันต้องไปนั่งกินแกงจืดแมลงสาปคนเดียว ... ไหนจะต้องเป้นขนมปาทาเนยสอดไส้ตับอ่อนของหมูอีก ... พูดแล้วฉันยังเอียนไม่หายเลย” เด็กสาวพูดทั้งน้ำตา

     

    “ตาลขอโทษนะ .... ตาลขอโทษจริง ๆ ที่ทิ้งให้นกยูงไปคนเดียว” ตาลโผกอดเพื่อนสาวที่กำลังเสียขวัญอย่างรุนแรง เธอต้องออกไปจนผจญโลกมืดกับมื้ออาหารน่าขยะแขยงนั้นเพียงคนเดียว

     

    “แล้วนี่แปรงฟันหรือยังยะหล่อน ... ฉันไม่อยากได้กลิ่นที่พึงปรารถนาลอยออกมาจากปากเธอนะ” เก๋เก๋มองหน้าของเพื่อนสาว

     

    “อย่าพูดเรื่องอาหารพวกนั้นเลย เป็นฉันฉันไม่ทำหรอก .... กินเข้าไปได้ยังไงกันนกยูง ... ” คราวนี้เกมส์ทำหน้าเจื่อน ๆ พลันนึกถึงเมนูอาหารที่นกยูงเพิ่งสวาปามไปเมื่อคืนก่อน

     

    “ถ้าไม่ติดที่ว่าเป็นภารกิจนะ ฉันไม่ทำหรอกย่ะ” นกยูงออกมาจากกอดของเด็กสาวก่อนที่จะปาดน้ำตาและเดินออกไปจากห้องนอน เธอเพียงแค่จะมาบอกเรื่องที่เธอต้องเจอให้ตาลฟังเท่านั้น ทำไมทุกคนต้องกระต่ายตื่นตูมขนาดนั้น

     

    “ฉันนึกว่ายัยนั่นจะมาฉะเธอซะอีก” ดัฟเดินเข้ามานั่งบนเตียงของเด็กสาว

     

    “ถึงนกยูงจะเป็นคนขี้เหวี่ยงขนาดไหน แต่ตาลเชื่อนะ ว่าเธอไม่ทำร้ายเพื่อน ๆ แน่” ตาลพูดก่อนที่จะมองนกยูงที่เดินออกไปหลังลำธารนั้น

     

    ในระหว่างการพูดคุยเรื่องของตาลที่หายตัวไป ชายหนุ่มคนหนึ่งละออกจากกลุ่มก่อนที่จะเดินไปยังลำธารนั้น

     

    นกยูงนั่งตัวงออยู่บนโขดหิน แต่น้ำตายังคงไหลมาไม่หยุด เมื่อเธอนึกถึงเรื่องมื้ออาหารเย็นเมื่อคืนนั้น มันทำให้เธออยากจะอาเจียนทุกครั้งที่นึกถึงมัน

     

    “อ่ะ ...” เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังของเธอ เธอเอี้ยวตัวไปอย่างตกใจ พลันเห็นมือเรียวของชายหนุ่มยื่นมาพร้อมผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก

     

    “อะไรเหรอ?” เธอเลิกคิ้ว

     

    “เช็ดน้ำตาซะ ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าคุณก็ขี้แย มีมุมของโก ๆ อยู่เหมือนกัน” เขาพูดก่อนที่จะเบนหน้าไปทางอื่น

     

    เด็กสาวไม่ได้พูดอะไรนอกจากหยิบผ้าเช็ดหน้ามาจากมือของเขาก่อนที่ซับน้ำตาที่เลอะเต็มสองตาของเธอ

     

    “วันนี้แล้วสินะที่จะต้องมีคนไปอีกคน .... ฉันไม่อยากจะคิดภาพเล้ย ต้องมาเห็นเพื่อน ๆ ตายต่อหน้าที่ละคนสองคน” เธอพูดก่อนที่จะมองไปยังลำธารใสนั้น

     

    “เรียลลิตี้มันก็ต้องเป้นแบบนี้แหล่ะครับ ... ตายจริง ... เจ็บจริง เหมือนชีวิตของคนนี่แหล่ะ มีเกิดก็ต้องมีตาย คนที่อยากมชีวิตรอดต้องปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็อาจจะหมดลมหายใจ” เขาพูดก่อนที่จะมองหน้าของเด็กสาว

     

    เธอกระโดดลงมาจากโขดหินนั้น ก่อนที่จะส่งผ้าเช็ดหน้าให้เขา

     

    “ ถ้าสัปดาห์ฉันต้องออกจากเกมไป ... ยังไงฉันก็ดีใจนะ ที่อย่างน้อยวันหนึ่งเรามาพูดดีดีต่อกัน นายก็ไม่ขี้เก๊กเหมือนเก่าแล้ว ดูน่ารักขึ้นตั้งเยอะแน่ะ รู้มั้ย นายนักศึกษาแพทย์ ... ขอบใจสำหรับผ้าเช็ดหน้านะ  ” เธอพูดก่อนที่จะส่งยิ้มให้เด็กหนุ่มตรงหน้า

     

    คราวนี้สีหน้าของฌอร์นเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน หน้าที่ขาวเนียนราวผู้หญิงเริ่มแดงระเรื่องอย่างไม่สาเหตุ ตัวเริ่มร้อนผ่าวไปหมดทั้งตัว

     

    “ผู้เข้าแข่งขันทุกคนเชิญประจำที่ครับ!” เสียงของไคกิดังผ่านเสากระจายเสียง แทรกความรู้สึกของฌอร์นไปในบัดดล

     

    “ไปกันเถอะ ... ได้เวลาแล้ว” นกยูงพูดก่อนที่จะเดินนำหน้าของเขาไป แต่ในตอนนั้นเองที่เธอหันกลับมาอีกครั้ง

     

    “ถ้าเป็นไปได้ ... ถ้าฉันรอด เราจะกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้นะ” นกยูงยักคิ้วก่อนที่จะรีบวิ่งไปยังลานตัดสิน ปล่อยให้ฌอร์นยืนคิดไปเองคนเดียว

     

    “ถ้าฉันจะเป็นมากกว่าเพื่อนเธอ ... เธอจะว่าอะไรไหม?” เขาพูดคนเดียวก่อนที่จะเดินตามเด็กสาวไปติด ๆ

     

    พวกเขาทั้งหมดมาสู่ลานตัดสินของหมู่บ้านน้ำค้างเป็นที่เรียบร้อย ตรงหน้าปรากฏหลุมฝังศพของเพื่อน ๆ ที่พวกเขาไม่ทันได้สังเกตดู หลุมเริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ และตอนนี้ก็มีหลุมว่างเพิ่มมาอีกหลุม ใครกันนะจะได้เป็นผู้โชคร้ายคนนั้น

     

    นอกจากหลุมศพของเพื่อน ๆ แล้ว ยังปรากฏตะแกรงเหล็กขนาดใหญ่สี่ตระแกรงที่วางอยู่ ด้านล่างตะแกรงเหล็กนั้นปรากฏท่ออะไรบางอย่างที่มีขนาดเล็กและเรียงถี่พอพอกันตาตระแกรง

     

    “เอาล่ะครับ .. ทุกท่าน ชาย 4 หญิง 3 มายืนเรียงแถวได้แล้วครับ อีกไม่นานเราจะมีมาทานอาหารร่วมกัน” ไคกิพูดก่อนที่เริ่มอ่านโพลคะแนน

     

    “อาหารร่วมกัน? ” นกยูงทำหน้าเสีย พลันนึกถึงอาหารพวกนั้น

     

    “บาร์บีคิวไงล่ะครับ” เขาพูดอย่างมีเลศนัยน์ก่นอที่จะกางสมุดโพลออก

     

    “ขอให้ทั้ง 4R ออกมาหน้าแถวด้วยนะครับ”

     

    .....

     

    R11

     

    ......

     

    R2

     

    .....

     

    R12

     

    ......

     

    R15

     

    .....

     

    คราวนี้สาว ๆ ทั้งสามคนที่เหลืออยู่ของรายการต้องออกไปประจันหน้าทั้งหมด เหลือเพียงหนุ่มน้อยที่รอดตัวไปอีกครั้ง ยกเว้นแต่อาร์มที่ต้องออกไปเป็นชายหนุ่มคนแรกที่มีคะแนนโหวตน้อย

     

    พวกเขาทั้งสี่คนถูกมัดไว้กับตระแกรงเหล็ก ใจเต้นตึกตักไม่เป็นส่ำ ต่างคนต่างกลัวว่าจะต้องเป็นตัวเองที่ต้องออกจาเกม

     

    “ถ้าครั้งนี้เป็นฉัน ฉันอยากจะบอกกับเธอว่า บิ๊กอายเธอสวยมาก” นกยูงหันมาพูดกับเกมส์

     

    คนที่ใจเต้นตึกตักอย่างหวดเสียวไม่ได้มีเพียงแค่สี่คนที่ต้องออกไปเท่านั้น ฌอร์นเองก็หน้าเจื่อนไปเหมือนกันที่เห็นนกยูงต้องออกไปยืนเรียงแถวแบบนั้นทุกสัปดาห์

     

    “ขอแสดงความเสียใจกับ ...”

     

    พรึ่บ!!!

     

    ท่อเล็ก ๆ ที่เรียงรางอยู่ด้านล่างต่างส่งเปลวไฟออกมาจากปากท่อ เพื่อแผดเผาร่างของผู้โชคร้ายคนนั้น เสียงหวีดร้องดังขึ้นอย่างทรมาน อาการปวดแสบปวดร้อนเริ่มปรากฏขึ้นตามร่างกายของคนคนนั้น เนื้อที่ขาวสะอาดเริ่มปูดและพอง ผิวหนังเริ่มปริแตกจนเห็นน้ำเหลืองที่ไหลมาตามร่วงกาย ผมเริ่มหยิกงอด้วยความร้อน ร่างนั้นพยายามดิ้นออกมาจากตะแกรงไฟ แต่หากว่าไม่สามารถทำได้เลย ผิวหนังเริ่มไหม้เกรียมอย่างช้าจนร่างนั้นดำเป็นตอตะโก

     

    “นี่ไงครับ .. บาร์บีคิวเนื้อคน!!!

     

    สรุปยอดผู้เสียชีวิต

    R11 วีรญาพร พิบูลย์วัฒนา (เกมส์)

     

    เหลือผู้เข้าแข่งขัน 6 คน

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×