ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality 5 .: อาถรรพ์หมู่บ้านน้ำค้าง :. [จบเกม!]

    ลำดับตอนที่ #41 : Day 3 .:: จุดเริ่มต้นของจุดจบ ::.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 483
      1
      13 ต.ค. 53

    THe REALITy 5




    [WEEK 1 :: DAYS 3]


     

    พระอาทิตย์พ้นหัวไปทางทิศตะวันตกเล็กน้อยแสดงให้เห็นถึงเวลาที่บ่ายแก่ ๆ จนเกือบเย็นแล้ว ขณะนี้เป็นเวลาบ่ายสองโมงเย็น หากแต่ว่าแสงแดดยังไม่ร้อนระบุดังเวลาที่กำลังหมุนอยู่นี้เลย ด้านหน้าของผู้เข้าแข่งขันปรากฏบันใดหินที่มีตะไคร่โสโครกเกาะอยู่ตามชั้นหินของสิ่งก่อสร้างที่สร้างเป็นขั้นบันใด สุดทางของบันใดนั้นมีประตูเหล็กที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นมา แผงรหัสคีย์การ์ดยังคงแสดงเวลาของการทำภารกิจในฐานแรกอยู่

     

    เหลือเวลาอีก 04:50:59 นาทีเท่านั้น!!

     

    อีกเพียงแค่สี่ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้นที่พวกเขาต้องพยายามค้นหาคีย์การ์ดที่ติดอยู่ที่ไหนสักที่ในร่างของคนงานทั้งชายและหญิงที่นอนเกลือนกลาดอยู่บนบันใด ซากศพที่นอนตายส่งกลิ่นเหม็นเน่าราวกับเครื่องในสัตว์ที่เสียแล้ว กลิ่นไม่พึงประสงค์แบบนี้อาจจะเป็นอุปสรรคสำคัญของสาว ๆ ในเกมก็เป็นได้ แต่อาจจะรวมถึงหนุ่มบางคนด้วยเช่นกัน

     

    “สิ่งที่เราต้องทำคือ ตามหาคีย์การ์ดผ่านประตูเพื่อไปต่อสู่ฐานต่อไปใช่ไหม? ” ใบชาทวนคำถามกับสมาชิกในเกมอีกครั้งก่อนที่จะมองให้แน่ใจว่าสิ่งที่พวกเธอต้องทำในตอนนี้คือค้นหาคีย์การ์ดจากร่างของ คนที่เคย หายใจมาเหมือนพวกเธอ

     

    “มีที่ปิดจมูกไหม ขอบอกว่าเก๋เก๋ไม่สามารถดมกลิ่นหอมหวนนี้ไปได้ยันเย็นหรอกนะ” เก๋เก๋ประชดพรางปิดจมูกทำตาหยีรังเกียจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

     

    “ที่รัก ... นี่มันคือเรียลลิตี้ ทุกอย่างมันก็ต้องเรียลด้วยสิครับ ” อาร์มแซวหนุ่มน้อยก่อนที่จะตีก้นของเก๋เก๋เบา ๆ ดาร์จีลิ่งและเกมส์หัวเราะเบา ๆ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่สถานการณ์ที่ควรจะตลก แต่อาร์มก็พยายามที่จะช่วยไม่ทำให้เพื่อนต้องเครียดกับเกมแรกไปมากกว่านี้

     

    “พิมว่า ... คีย์การ์ดต้องอยู่ที่ใครซักคนที่นอนอยู่ตามขั้นบันใดแน่ ๆ ” พิมพยายามรวบรวมความกล้าและพูดตามที่เธอคิด

     

    “มันไม่ใช่คนแล้วล่ะ ... ก็แค่เคยเป็นก็เท่านั้นเอง” นกยูงจ้องมองศพที่เกลื่อนกลาดนั้นอย่างเวทนา โดยเฉพาะผู้หญิงที่ท้องแก่คนนั้น

     

    “แล้วเราจะเริ่มหากันได้หรือยัง ผมไม่อยากต้องมาติดแหงกอยู่ที่บันใดหินและนอนกับพวกผีผีพวกนี้หรอกนะ!” นักศึกษาแพทย์บ่นอุบก่อนที่จะเดินไปยังร่างของชายวัยกลางคนที่นอนแน่นิ่งอยู่ที่ปลายบันใดหิน เขายืนมองร่างของชายคนนั้น  เขาขยับแว่นตากรอบแดงของเขาเล็กน้อยเมื่อนัยน์ตาทั้งสองของเขามองเห็นอะไรบางอย่างภายในปากของศพ

     

    มีอะไรบางอย่างถูกยัดไว้ในปากของชายวัยกลางคนที่ไร้ซึ่งลมหายใจคนนั้น  รูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดพอดีปาก วัตถุประหลาดนั้นทำมาจากเหล็กชั้นดี สีของรูปทรงนั้นเป็นสีดำสนิท ตรงกลางมีรูสำหรับไว้ไขอะไรบางอย่าง

     

    “กล่องอะไรกันนะ” เขายืนมองกล่องใบนั้นอย่างพิจารณา สมองอัจฉริยะของเขาเริ่มประมวลอะไรใบอย่างในหัว กล่องใบนี้ถูกติดอยู่กับปากและถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่ที่ขึงระหว่างกล่องดำและหัวของชายวัยกลางคน กล่องนี้ต้องมีความสำคัญอะไรสักอย่างกับกุญแจที่เขาได้รับมาจากปอดนั้นแน่ ๆ

     

    “อุ๊ย! ในปากของผู้หญิงท้องคนนี้ก็มีกล่องสีดำอยู่ด้วย” บีบีชี้เข้าไปในปากของหญิงสาวท้องแก่ที่นอนอยู่ถัดไปจากร่างของชายวัยกลางคน คิวคิวชะโงกหัวตามนิ้วของพี่สาวก่อนที่จะพยักหน้าหงึกหงัก “ น่าสงสารเนอะ ท้องอยู่แท้ ๆ แต่กลับต้องมาตายก่อนที่เด็กน้อยจะลืมตาดูโลก” คิวคิวช่วยเสริม

     

    “ถ้าหาไม่เจอผีตายทั้งกลมจะมางับคอแน่ ๆ เหออออออ”อาร์มทำท่าผีหลอกใส่แฝดสาวที่กำลังจ้องร่างของหญิงท้องแก่

     

    แต่คนที่กลัวกับไม่ใช่แฝดสาวสุดเปรี้ยวคู่นี้แต่กลับเป็นใบชาที่ยืนอยู่ข้างหลังสองสาว เธอรีบเดินผ่านไปทางอื่นเพราะไม่อยากได้ยินเรื่องสยองขวัญจากริชที่กำลังจะเริ่มขึ้น

     

    “ตรงนี้ไม่มีอะไรหรอกนะใบชา .... อย่ากลัวเลย ตาลไม่ได้กลิ่นของวิญญาณชั่วร้ายที่ลอยอยู่แถวนี้เลย ” ตาลจับบ่าของเด็กสาวเพื่อให้เธอคลายความกลัว เธอพยักหน้าเบา ๆ ก่อนที่จะมองไปยังร่างของศพ

     

    “ไร้สาระชะมัดเล้ยยยยย ..... อาร์ม ผมขอกุญแจหน่อย” ฌอร์นพูดอย่างเหลืออดก่อนที่จะแบมือขอกุญแจจากเด็กหนุ่ม

     

    ทางด้านของอาร์มเอง เขาก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากควักกุญแจออกมาจากกระเป๋าเสื้อพรางโยนให้ฌอร์น เขารับมันมาอย่างชำนาญมือ สายตายังคงจ้องกล่องดำนั้นใบนั้น มือซ้ายที่กำกุญแจเอาไว้เริ่มค่อย ๆ สะเดาะกลอนที่ขังอยู่ในปากของเขา แต่ทว่า ...

     

    “บ้าจริง ทำไมมันไม่เปิดวะ! ” เขาสบถเบา ๆ ก่อนที่จะยืนขึ้น

     

    “เป็นไงบ้าง? ” เกมส์ถามขึ้น เขาส่ายหน้าเป็นคำตอบที่เธอสงสัย

     

    “ถ้าไม่ใช่คนนี้ ก็ต้องเป็นคนอื่น ....กุญแจต้องไขได้สักคนนึงแหล่ะน่า ” รันเวย์พูดก่อนที่จะคว้ากุญแจจากมือของฌอร์นไปไขกล่องอีกใบที่ติดอยู่ที่ปากของเด็กหนุ่มอีกคนที่อยู่สุดปลายบันใด

     

    แต่มันก็ยังไม่ใช่อยู่ดี ....

     

    “โอ๊ยยยยยย!!! จะคนไหนกันแน่ยะ ช่วยส่งเสียงได้ไหม พวกฉันจะไปตรัสรู้ได้ไงล่ะคะว่ากุญแจดอกนี้มันจะไขใคร” เก๋เก๋วีนแตก

     

    “ จะให้ศพมันลุกขึ้นมาบอกเธอเนี่ยนะ หลอนไปแล้วล่ะ” นกยูงสะกิดหนุ่มแบ๊วเบา ๆ เก๋เก๋ส่งเสียงฟืดฟาดในจมูกก่อนที่จะเดินสะบัดก้นไปทางพิม

     

    “ เวลาเหลืออยู่ไม่มากแล้วนะ .... เราจะต้องนอนอยู่กับพวกนี้ทั้งคืนแน่ ๆ ฮือออออ ช้านไม่เอาด้วยน้า” ดาร์จีลิ่งร้องเสียงหลงก่อนที่จะเกาะแขนของดัฟพรางส่งจูบแบบทีเล่นทีจริงให้เด็กหนุ่ม เขายิ้มเบา ๆ ไม่ได้พูดอะไร

     

    “เข้าป่านี่ แหมๆๆ ชะนีออกเลยนะหล่อน ” เก๋เก๋แขวะก่อนที่จะหัวเราะ

     

    “เวลาแบบนี้สมควรจะเล่นกันไหมเนี่ยพวกเธอ .... ” เกมส์ปรามก่อนที่จะส่ายหน้าเบา ๆ ซีซั่นนี้แรงสมชื่อเลยจริง ๆ

     

    “แล้วแบบนี้เราจะรู้ได้ไงว่ากุญแจมันจะใช้กับใครได้?”

     

    “ผู้หญิงท้องแก่คนนั้น .... กุญแจดอกนี้ไขผู้หญิงท้องแก่คนนั้น .... ” ตาลพูดแทรกการสนทนาของพิมเมื่อครู่ ทุกคนเริ่มหันมาตามเสียงของเด็กสาวโบฮีเมียนคนนั้น

     

    บรรยากาศเริ่มกดดันเข้ามาทุกที ทุกสายตาจ้องมองมายังร่างของตาลที่ยืนมองศพหญิงท้องแก่อยู่ไม่วางตา บีบีและคิวคิวจับมือกันแน่น ดูท่าว่าตาลจะรู้อะไรบางอย่างถึงได้พูดอะไรที่แปลก ๆ ออกมาแบบนั้น

     

    “เธอรู้ได้ยังไงกันตาล?” ดัฟถามขึ้นอย่างสงสัย

     

    เด็กสาวมองหน้าของเพื่อน ๆ สลับกันไปมาทีละคน ๆ เพื่อสังเกตสีหน้าของเพื่อนที่กำลังเริ่มหวาดกลัวกับพฤติกรรมของเธอ เธอนิ่งเงียบไปสักพักก่อนที่จะเริ่มขยับริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย

     

    ผู้หญิงท้องแก่คนนั้นมากระซิบกันฉันเมื่อกี้น่ะสิ! ตาลวรรคคำเอาไว้ก่อนที่เปลี่ยนจุดสนใจไปยังผู้หญิงท้องแก่คนนั้น เหมือนคนอื่น ๆ พวกเธอเขาทุกคนก็มองไปยังร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่ในนั้นเช่นกัน

     

    “โลกนี้มีผีที่ไหนกันตาล .... ” ฌอร์นแย้ง เรื่องงมงายแบบนี้เขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด

     

    “จะทำอะไรก็รีบ ๆ ทำเข้าเถอะ เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว” ดัฟชี้ไปที่นาฬิกาแสดงเวลาบนประตูเหล็กหนา เหลือเวลาอีกเพียงสองชั่วโมงสามสิบนาทีเท่านั้น!!

     

    ฌอร์นตะกุกตะกักก่อนที่จะหันไปมองหน้าของตาล “ไม่ใช่ว่าผมเชื่อคำพูดของคุณหรอกนะ ผมเชื่อสัญชาติญาณของผมต่างหาก” เขาแย้งก่อนที่จะลงมือไขกล่องดำ

     

    คลิก! กล่องเหล็กสีดำถูกปลดล็อคออกมาจากพันธนาการตามที่ตาลได้บอกเอาไว้ มือของเขาบรรจงเปิดกล่องเหล็กอย่างรีบเร่ง แล้วสิ่งที่อยู่ในกล่องใบนั้นก็ปรากฏขึ้น

     

    กุญแจดอกเล็กที่ขึ้นสนิมเขรอะพร้อมกับเศษกระดาษแผ่นเล็กที่ถูกวางไว้ด้วยกัน เศษกระดาษนั้นถูกเขียนด้วยตัวหนังสือที่อ่านแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจในความหมายของมันเท่าใดนัก เขาหยิบมันมาช้า ๆ ก่อนที่จะเริ่มอ่านเบา ๆ

     

    “จุดเริ่มต้นของจุดจบ .... งั้นเหรอ?” ฌอร์นเลิกคิ้วขึ้นมาหนึ่งข้าง ถึงแม้ว่าหัวสมองของเขาจอยู่ในระดับอัจฉริยะก็ตามที แต่ข้อความแบบนี้ก็ทำให้เขาอึ้งเป็นไก่ตาแตกไปเลยเหมือนกัน

     

    “หมายความว่ายังไงกันนะ?” คราวนี้รันเวย์พูดขึ้นมาพลันหยิบกุญแจดอกเล็กกำไว้ในมือ สายตาก็ยังจับจ้องพระอาทิตย์สลับกับนาฬิกาเรือนโตที่ห้อยติดมือมาด้วย

     

    16.40 นาทีแล้ว อีกไม่นานประตูจะถูกล็อคอย่างถาวรจนกว่าจะถึงเช้าวันพรุ่งนี้ ถ้าพวกเขาทั้งหมดไม่รีบหาคีย์การ์ดให้เจอ พวกเขาต้องนอนเป็นเพื่อนกับศพพวกนี้แน่ ๆ หลายคนยืนนิ่งเงียบ พยายามรวบรวมความคิดกับประโยคปริศนาที่น่าปวดหัว แม้แต่เก๋เก๋ นกยูงและดาร์จีลิ่งที่ว่าแรง ก็ยังนิ่งเงียบที่จะอดคิดถึงประโยคนั้นไม่ได้เลย พวกเธอสามคนสุมหัวกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่เว้นแม้แต่ฝาแฝดสองสาว

     

    เวลาเริ่มผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง อีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ภารกิจแรกของฐานที่หนึ่งจะยุติลงและจะเริ่มใหม่ในวันพรุ่งนี้ กลิ่นศพยังคงคละคลุ้งไปทั่วบริเวณสร้างความกดดันให้พวกเขาเป็นไหน ๆ พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงทุกขณะ

     

    จุดเริ่มต้นของจุดจบ ....

     

    กุญแจถูกปลดล๊อคที่ผู้หญิงท้องแก่คนนี้ ...

     

    ผู้หญิงท้องแก่คนนี้

     

    คนนี้ ....!!!

     

    “คิดออกแล้ว!!” คิวคิวและพิมโพร่งขึ้นมาพร้อมกันราวกับนัดหมายกันมา ทั้งสองคนหันมามองหน้ากัน เว้นแต่พิมที่หลบตาเพราะความเขินอาย

     

    “อะไรของเธอเนี่ยยัยคิวคิว?” บีบีจ้องมองพี่สาวที่ยืนดีใจไปมา

     

    “ถ้าเป็นอย่างที่ฉันคิด .... จุดเริ่มต้นของจุดจบ เราเริ่มต้นหากุญแจดอกแรกพบจากศพของผู้หญิงท้องแก่คนนี้ใช่ไหม ..... ” คิวคิววรรคคำก่อนที่จะมองหน้าของพิม

     

    เธอสูดลมหายใจลึกๆก่อนที่จะพูดต่อ “ งั้น ... แสดงว่าในตัวของผู้หญิงท้องแก่คนนี้คือจุดเริ่มต้นเกม และในประโยคที่ว่าจุดเริ่มต้นของจุดจบ หมายความว่าจุดเริ่มต้นกับจุดจบคือจุดเดียวกัน ”

     

    “หล่อนพูดอะไรเนี่ย วนจนฉันหลงทางแล้วเนี่ย ” นกยูงเลิกคิ้ว

     

    “ คุณต้องการจะพูดอะไรของคุณกันแน่ ผมที่มีมันสมองอัจฉริยะขนาดนี้ยังไม่สามารถทำความเข้าใจกับประโยคของคุณเลย” ฌอร์นมองหน้าของพิมสลับกับบีบี

     

    “ขอขีดเส้นใต้คำว่า อัจฉริยะ ค่ะ ” เก๋เก๋มองหน้าของชายหนุ่มและพูดประโยคเดิม ๆ ออกมา

     

    “ก็หมายความว่า กุญแจต้องคาอยู่ในท้องของผู้หญิงคนนี้ ในเมื่อจุดเริ่มต้นคือหล่อนจุดจบก็ต้องเป็นร่างของหล่อนอยู่ดี บางที อาจจะอยู่ในท้องของผู้หญิงคนนี้เนี่ยแหล่ะ!!” บีบีขยายความให้ฌอร์นและทุกคนได้เข้าใจ

     

    “แล้วใครจะทำหน้าที่ผ่าอีกล่ะ ฌอร์นเหรอ? ” รันเวย์มองหน้าฌอร์นก่อนจะยิ้มออกมา เขาไม่ได้พูดอะไรนอกจากบรรจงหยิบออกมาอย่างชั่งใจ มองหน้าของผู้หญิงคนนี้ พลันเรื่องเลือดของชายหนุ่มคนแรกก็แล่นเข้าสู่หัวสมองของเขา ถึงเขาจะเป็นแพทย์แต่เขาก็เกลียดเลือดเป็นไหน ๆ พอพอกับที่เขาเกลียดผู้หญิงที่เข้าหาเขาเหมือนกัน

     

    “เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วนะ เร็ว เร่งมือหน่อยได้ไหมฌอร์น ” ดัฟพยายามพูดให้สุภาพมากที่สุด แต่ในใจของเขาน่ะอยากจะออกไปจากที่นี่ใจจะขาดอยู่แล้ว

     

    เขายังคงยืนนึกถึงเรื่องในเต็นท์ นึกถึงเลือดที่ฟุ้งไปมาเตะจมูก มือไม้ของเขาสั่นไปหมด ถ้านอกจากนักศึกษาแพทย์อย่างฌอร์นก็ไม่มีใครที่มีทักษะการผ่าตัดได้ดีไปกว่านี้แล้ว แต่ทว่าความกล้าในตัวเขาเริ่มหดลงเมื่อเลือดของศพเริ่มไหลออกจากปาก แต่เขาเชื่อในฝีมือของเขา เขามั่นใจว่าเขาต้องทำได้

     

    เวลาเริ่มเดินเข้ามาใกล้ทุกทีแล้ว ทุกอย่างตอนนี้อยู่ที่ฌอร์นคนเดียว แต่แล้วจู่ ๆ เด็กสาวคนหนึ่งก็เดินออกมาจากกลุ่มเพื่อนและคว้ามีดผ่าตัดไปจากมือของฌอร์น

     

    “นี่เธอจะทำอะไรน่ะ? รู้มั้ยว่ามันอันตรายขนาดไหน? ” ฌอร์นมองหน้าของเด็กสาวที่แย่งมีดผ่าตัดไปเมื่อครู่ ไม่เพียงแต่พวกเขาที่งุนงงกับเหตุการณ์ คนที่ชมอยู่ทางบ้านก็ยังคง งง กับพฤติกรรมของหญิงสาวเหมือนกัน

     

    “ถ้านายยังไม่กล้าตัดสินใจแบบนี้ .... จะเสียเวลาทั้งนายและคนอื่นเปล่า ๆ นะ ” ใบชาจ้องมองฌอร์นเพื่อแจงเหตุผล ไม่ใช่แค่ว่าเขาคนเดียวที่ติดอยู่ที่นี่ แต่คนอื่นก็ติดอยู่ที่นี่เช่นกัน

     

    หลังจากที่เธอพูดจบ เธอรีบฉีกเสื้อของหญิงแก่คนนั้น เธอหลับตากรีดท้องอย่างรวดเร็วจนไส้และเครื่องในต่าง ๆ ของหล่อนทะลักออกมากองอยู่ที่พื้น กลิ่นที่เหม็นอยู่แล้วกลับส่งกลิ่นออกมาอย่างหนักจนใบชาถึงกับผงะหนี แต่เก๋เก๋และนกยูงอาเจียนออกไปตาม ๆ กันแล้ว

     

    ทารกน้อยที่อยู่ในท้องไหลออกมาพร้อมกับไส้และเครื่องในของผู้เป็นแม่ ใบชารีบลุกขึ้นจ้องมองผลงานที่ไม่ค่อยสวยเท่าไรนัก คราวนี้ริชเป็นคนหยิบคีย์การ์ดออกมาจากปากของเด็กน้อย ถุงน้ำคล่ำยังคงไหลออกมา คงเพราะมีดไปโดนเลยทำให้ถุงน้ำคล่ำทะลักออกมาแบบนี้

     

    “ไปเร็ว!” นกยูงรีบวิ่งไปยังประตูก่อนที่จะแสกนบาร์โค๊ดของคีย์การ์ดเข้ากับประตู  ไฟสีแดงที่หน้าประตูกลายเป็นสีเขียวสว่างจ้า อาร์มเป็นคนดันประตูให้กว้างออกและส่งสาว ๆ เข้าไปไปด้านใน

     

    “สำเร็จแล้ว!!! ” เก๋เก๋และดาร์จีลิ่งกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ ฐานที่หนึ่งผ่านไปด้วยดี แต่ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว

     

    “ฉันว่ายัง ... หรอกนะ” ดัฟมองหน้าของสองสาวก่อนที่จะมองไปยังทางเดินด้านหน้า

     

    ทางเดินที่มืดมิดนั้นปรากฏบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ไกลออกไปไม่มากนัก คบเพลิงถูกจุดขึ้นด้วยฝีมือของใครบางคนที่รอคอยอยู่ด้านใน ระหว่างทางที่พวกเขาเริ่มเดินไปด้วยความสงสัย พลันป้ายบางอย่างก็ร่วงลงมาจากต้นไม้

     

    ข้อความนั้นถูกเขียนไว้ว่า “เกมนี้ ... ของคุณสุภาพสตรีเท่านั้น!!!






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×