The Unique : ปฏิบัติการลับ นักเรียนพลังยูนิค

ลำดับตอนที่ #24 : Chapters 1 : King Class

S
N
A
P

THE UNIQUE
Episode 5 l Chapters 1 : King Class
------------------------------------------------------

 

ประตูไม้สีครีมของห้องคลาสเอถูกเปิดออกอย่างไม่ค่อยทะนุถนอมเท่าใดนัก ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับผ่อนลมหายใจเบา ๆ ที่เขามาทันคาบเรียนแรก มังกรใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อตรงแก้มขวาพร้อมกับมองหาที่นั่งประจำซึ่งอยู่ทางหลังห้องเรียนดังกล่าว เขาก้าวฉับ ๆ ก่อนจะวางหนังสือลง

“อรุณสวัสดิ์” เสียงคุ้นหูกล่าวทักทายเขาก่อนจะปิดหนังสือวิชาพันธุกรรมลงอย่างเบามือ มังกรพยักหน้ารับเล็กน้อย

“หนักสินะแกน่ะ” เด็กหนุ่มที่ถูกทักใช้ศอกกระทุ้งสีข้างของครามเบา ๆ

หลังจากที่มังกรกลับมาถึงห้องพักของตัวเองก็ไม่ได้พบกับครามซึ่งเป็นรูมเมทของตัวเอง เดิมทีเขาคิดว่าคงจะออกไปข้างนอกหรือไปออกกำลังกายหลังจากจบเรื่องวุ่นวายของไนท์ เขาจึงอาบน้ำและเตรียมต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารมื้อเย็น การไล่ล่าไนท์ทำเอาเขาถึงกับปวดไปทั่วทั้งตัวจึงอยากจะเข้านอนไว ๆ จนเวลาผ่านไปจนดึก เขาได้ยินเสียงเปิดประตูห้องพักก่อนจะเจอกับครามที่ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าใดนัก ด้วยความที่เป็นห่วงเพื่อนจึงเข้าไปสอบถามและได้รู้คำตอบว่าเขาโดนกาเหว่าใช้ความพิเศษของเธอพาเขาเข้าไปในห้องและทำเรื่องที่น่าอายลงไป

เพิ่งจะเห็นเนี่ยแหละว่าผู้ชายก็โดนข่มขืนได้เหมือนกัน

“แบบนี้กาเหว่าคงตามแกแจแน่ ๆ ไอ้คราม” เขายังไม่วายแซวรูมเมทของตัวเอง

“หยุดเลย ฉันไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องดี มันแค่อุบัติเหตุ และฉันก็เป็นฝ่ายเสียหายนะ!” ครามกอดอก ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้ากาเหว่าด้วยซ้ำ แต่เอาจริง ๆ เหมือนกาเหว่าเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับเรื่องเมื่อคืนเลยเพราะเมื่อเช้าเขายังทักทายครามได้ปกติราวกับว่าไม่เคยมีเรื่องอย่างว่าเกิดขึ้นระหว่างเขาเลย

“ก็ถือซะว่าเมื่อคืนแกก็ได้ปลดปล่อยความเป็นชายไปอีกขั้นนะ” เขาพูดก่อนจะกลั้วหัวเราะในประโยคหลังของตัวเอง

การพูดคุยของคนทั้งสองหยุดชะงักลงด้วยเสียงเปิดประตูพร้อมกับการปรากฏตัวของอาจารย์ประจำคลาส ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งดูภูมิฐานเดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับป้ายชื่อที่บอกได้อย่างชัดเจน ‘อาจารย์คณิณณ์’

“สวัสดีคลาสเอทั้งสิบห้าคนด้วยนะครับ วันนี้ก่อนที่ผมจะเริ่มสอนเกี่ยวกับพันธุกรรมร่างกายมนุษย์ที่เราได้เรียนค้างไว้จากเมื่ออาทิตย์ก่อน กลุ่มคลาสพิเศษมีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทุกคนในคลาสทราบ ยังไงก็ขอเชิญตัวแทนจากคลาสพิเศษเข้ามาในห้องได้เลยครับ” อาจารย์ผมสีควันบุหรี่เอ่ยเสียงเรียบ ทุกสายตาจับจ้องไปที่ประตู

หนุ่มสาวสองคนที่ดูจะมีอายุห่างจากพวกนักเรียนไม่ห้องไม่เท่าไรเดินเข้ามาในคลาสด้วยสีหน้าที่ดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ผู้ชายร่างสูงเดินยิ้มยิงฟันขาวที่เรียงสวยเข้ามาพร้อมกับแมวดำหนึ่งตัว และอีกคนคือผู้หญิงที่ตีหน้าเรียบเฉยและออกจะดูเย่อหยิ่งเล็กน้อย แต่สำหรับสองหนุ่มหลังห้องแล้ว เขาจำได้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคือใคร

ก็เธอเพิ่งไปอาละวาดที่โรงอาหารมาเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนนี่เอง

“สวัสดีน้อง ๆ คลาสเอทุกคน พี่ชื่อว่าเบียร์นะครับ ส่วนพี่คนสวยคนนี้ชื่อริษา พวกเราสองคนเป็นรุ่นพี่ปีสองมาจากคลาสพิเศษครับ”

มังกรเคยเห็นสองรุ่นพี่ตามบอร์ดต่าง ๆ ของโรงเรียน สองคนนี้คือตัวท๊อปของโรงเรียนพรอนันต์เลิศวิทยา  ไม่ใช่แค่บอร์ดเล็ก ๆ อย่างเดียวเท่านั้น แต่รวมไปถึงป้ายไวนิลยกย่องคุณงามความดี แม้กระทั่งป้ายโฆษณาต่าง ๆ ตามอาคาร เขามารู้ทีหลังจากครามว่าริษาเป็นถึงลูกสาวของเจ้าของสายการบินใหญ่ซึ่งเป็นสายการบินมหาโยธาแอร์ไลน์ จากที่เขาสังเกตมาความพิเศษของเธอคือการสร้างประทัดหรือระเบิดมือที่มีขนาดเท่าลูกเชอร์รี่ได้ผ่านการถูฝ่ามือของตัวเอง คลิปในวันนั้นของเธอกระจายไปทั่วโรงเรียนจนกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์มาสักพักก่อนที่เรื่องจะเงียบไปตามกาลเวลา

ส่วนรุ่นพี่ที่ชื่อเบียร์นั้นก็ร่ำรวยไม่แพ้ริษาเลย ครอบครัวของเขาธุรกิจสนามกอล์ฟที่ใหญ่เป็นอันดับต้นของประเทศ มังกรเคยเห็นผ่านทางนิตยสารก่อนที่จะเข้ามาในโรงเรียนนี้ ไม่ใช่แค่นั้น เขายังได้รับเหรียญรางวัลต่าง ๆ ด้านวิชาการและสร้างผลงานให้กับทางโรงเรียนได้มากมายพอ ๆ กับริษา เท่าที่เขารู้จากปากของเพื่อนในคลาสเอมา รุ่นพี่หนุ่มสุดหล่อคนนี้มีความพิเศษในการลอยตัวอยู่กลางอากาศได้ และตอนนี้ตัวท๊อปของโรงเรียนทั้งสองคนก็มาอยู่ในคลาสเอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“คลาสพิเศษ?” จิณณ์เลิกคิ้วอย่างสงสัยกับประโยคที่รุ่นพี่หนุ่มได้พูดออกไปเมื่อครู่

“คลาสพิเศษหรือที่ทางพรอนันต์เลิศวิทยาเรียกมันว่า คิงส์คลาส (King Class) เป็นคลาสระดับสูงที่สุดในโรงเรียน และสูงกว่าคลาสเอ ในทุก ๆ ปีจะมีการจัดสอบปีละครั้งเพื่อคัดเลือกนักเรียนร่วมคลาสพิเศษซึ่งนักเรียนคิงส์คลาสทุกคนจะได้รับอภิสิทธิ์เหนือกว่าทั้งสามคลาสในเรื่องของสวัสดิการต่าง ๆ ของทางโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหอพัก นักเรียนคิงส์คลาสจะได้รับห้องเดี่ยวซึ่งอยู่ที่ชั้นสามของหอพักนักเรียนรวมไปถึงนักเรียนในห้องพิเศษจะได้ออกไปทำกิจกรรมนอกโรงเรียนด้วย ในแต่ละปีจะมีโควตานักเรียนคิงส์คลาสไม่เท่ากัน แต่ในปีนี้โควต้าของคิงส์คลาสจำกัดอยู่ที่แปดโควต้าเท่านั้นจากจำนวนนักเรียนยูนิครุ่นที่หนึ่งในโซนการดูแลของพรอนันต์เลิศวิทยาซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้นสามพันเจ็ดร้อยหกสิบเก้าคนค่ะ” ริษาเป็นคนอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ อย่างฉะฉานและเข้าใจชัดเจน

เสียงพูดคุยจอแจเริ่มดังขึ้นเมื่อรู้ว่าโควต้าสำหรับปีนี้มีแค่แปดคนเท่านั้นที่จะได้เข้าสู่คลาสพิเศษซึ่งเป็นคลาสสูงสุดของโรงเรียน ได้ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่เหนือขึ้นมา แถมยังได้ทำกิจกรรมออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอก บางคนก็อยากจะลองสนามสอบในขณะที่บางคนก็ไม่อยากจะเสี่ยงเพราะคิดว่ายังไงซะตัวเองก็ฝีมือไม่ถึงอยู่แล้ว

“เราจะไม่บังคับให้น้อง ๆ สอบนะครับ พี่สองจะมีกระดาษรายชื่อมาให้ ถ้าน้องคนไหนสนใจก็ลงชื่อสมัครสอบได้เลยที่ห้องทะเบียนตอนเรียนเสร็จ หลังคาบบ่ายซึ่งเป็นชั่วโมงอิสระในวันนี้เราจะจัดสอบที่ห้องจำลองภาพเสมือนจริง ตึกเดียวกับที่น้อง ๆ ไปสอบในตอนแรก แต่ขึ้นไปชั้นบนสุดแทนครับ พวกพี่หวังว่าจะมีน้อง ๆ ให้ความสนใจในการทดสอบและเข้ามาเป็นครอบครัวของคลาสพิเศษนะครับ เอาไว้พวกพี่จะรอน้อง ๆ ทุกคนที่หน้าห้องสอบในบ่ายนี้ครับ ขอบคุณที่เสียสละเวลาในการฟังนะครับ สวัสดีครับ” เสียงปรบมือตามมารยาทของนักเรียนทุกคนดังขึ้นเปราะแปะก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกไปจากคลาส

“เอาไงอ่ะพวกนายสองคน ฉันกับไม้ตรีว่าจะลองไปสอบดู” จิณณ์เอี้ยวตัวมาถามสองหนุ่มอย่างมังกรและคราม

“ไม่รู้เลยอะ แกเอาไงไอ้มังกร?” ครามหันมาถามความเห็นเพื่อนบ้าง

“อืมมมมม” เขาลากเสียงยาวเหมือนคนใช้ความคิด

“คิดดี ๆ แล้วกันนะ ฉันว่ามันก็เป็นการทดสอบความพิเศษตัวเองดีด้วย เดี๋ยวเลิกคลาสก็ว่าจะลากดารันย์ไปสอบด้วย คงจะสนุกดี” จิณณ์พูดก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับหนังสือต่อ

เมื่อชื่อนั้นที่เพื่อนในห้องกล่าวออกมา ทำให้เขาเริ่มลังเล เขาควรจะเข้าไปทำความรู้จักกับเธอผ่านการสอบคลาสพิเศษดีไหมนะ?

หลังจากที่คลาสซีถูกปล่อยออกมาได้ไม่นาน ทั้งชามาและดาวเรืองจึงตัดสินใจไปที่ห้องทะเบียน ทั้งสองคนยืนยันที่จะลองสอบดู ความเห็นของดาวเรืองคือการอยากให้ความพิเศษของตัวเองแข็งแรงขึ้น ถ้าเจอสถานการณ์ในห้องทดสอบบ่อย ๆ จะทำให้ประสบการณ์นั้นมีมากตามไปด้วยเอง แต่สำหรับเหตุผลของชามาก็ไม่มีอะไรมาก ความตื่นเต้นจากการทดสอบของพรอนันต์เลิศวิทยาเป็นเรื่องที่น่าสนุกอยู่แล้ว ต้องขอบคุณความพิเศษนี้ที่ทำให้เธอได้เข้ามาเจออะไรที่ตื่นเต้นกว่าการทำอะไรอยู่ที่บ้านตั้งเยอะตั้งเยอะ

เด็กสาวทั้งสองเดินเข้ามาในห้องทะเบียน มีกระดาษถูกแบ่งไว้สามแผ่นตามคลาสสามคลาสของโรงเรียน ทั้งสองจึงแยกไปลงทะเบียนในช่องที่มีชื่อของตน มีนักเรียนมากมายให้ความสนใจกับโควต้าพิเศษนี้ไม่น้อยเลย ชามาอมยิ้มก่อนจะหยิบปากกาขึ้นมาเตรียมเซ็นชื่อ ในตอนนั้นเองที่สายตาของเธอเหลือบไปเห็นรายชื่อหนึ่งในคลาสซีที่อยู่ก่อนชื่อเธอสองสามคน

มิวส์เองก็มาลงทะเบียนสำหรับการทดสอบนี่เช่นกัน

รอยยิ้มเริ่มคลี่กว้างขึ้นกว่าเดิมแต่ยังคงใบหน้าที่สวยได้รูปนั้นไว้ การได้เข้ามาทดสอบคลาสพิเศษนี้นอกจากจะได้เรื่องตื่นเต้นที่หาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ยังได้เห็นการใช้พลังจริง ๆ ครั้งแรกของมิวส์ด้วยตาตัวเองเสียที

หลังจากที่เธอได้เข้าไปหาข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ตในห้องพัก เธอจึงได้รับรู้ถึงโรคที่ศิลปินน้อยคนจะเป็นอย่าง ‘เพอร์เฟคพิตช์’ คืออาการผิดปกติที่ประสาทมีการรับเสียงที่แม่นยำต่างจากคนอื่น สามารถฟังได้ทุกเสียง ทั้งเสียงของธรรมชาติ เสียงของสัตว์ หรือแม้กระทั่งเสียงหัวใจของมนุษย์ทั่วไป คนที่มีอาการทางด้านนี้จะสามารถรับรู้ได้ว่าเสียงนั้นเป็นเสียงอะไรและเสียงนั้นกำลังสื่อสารอะไรกับเขา ซึ่งมิวส์เองก็น่าจะเข้าข่ายกับอาการเพอร์เฟคพิตช์เช่นกัน เพราะฉะนั้นนั่นไม่ใช่ความพิเศษเกี่ยวกับความสามารถที่เขามี แต่เป็นความพิเศษที่เกิดจากอาการที่เขาเป็นนั่นเอง และการทดสอบในครั้งนี้อาจจะปลุกความสามารถที่แท้จริงของเขาขึ้นมา หรือบางทีการควบคุมแจกันนั่นอาจจะเป็นความพิเศษของเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัวก็ได้

ครั้งนี้แหละเธอจะต้องรู้ให้ได้ ....

“ชามา เสร็จหรือยัง คนเริ่มเยอะแล้วนะ” ดาวเรืองสะกิดชามาที่ยืนนิ่งอยู่นาน หล่อนพยักหน้ารับก่อนจะเซ็นชื่อและเดินออกมาจากห้องลงทะเบียน เด็กนักเรียนคนอื่นที่ให้ความสนใจต่างก็หลั่งไหลเข้ามาลงทะเบียนเพื่อทดสอบฝีมือของตัวเองเช่นกัน

กวินนั่งมองต้นหญ้าในสนามหลังจากที่เรียนคาบบ่ายเสร็จสิ้น ลมพัดเอื่อย ๆ ในสวนหลังโรงเรียนทำให้เขารู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก หลังจากที่ไนท์มาเล่าให้เขาฟังว่าเมื่อเช้าเขาได้ไปหามิวส์ที่ห้องสมุดและขอโทษมิวส์เรื่องที่เกิดขึ้นในห้องสมุด ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่เอาเรื่อง แต่เขาก็ไม่สบายใจอยู่ดีที่ไปทำกับเพื่อนร่วมรุ่นแบบนั้น และด้วยความที่ไนท์ดูจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอเข้าสอบคลาสพิเศษนี้ด้วยเหตุผลคืออยากจะไปเป็นเพื่อนมิวส์เพื่อคอยช่วยเหลือให้มิวส์ได้ผ่านการสอบเป็นการไถ่โทษ และไม่รู้ว่าอะไรดลใจเขาให้ลงทะเบียนเข้าร่วมทดสอบคลาสพิเศษนี้เช่นกัน จะไปสละสิทธิ์ตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว รายชื่อทั้งหมดถูกรวบรวมเพื่อเตรียมความพร้อมในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ อีกฝั่งของโรงเรียน ดารันย์นั่งวาดรูปอยู่ตรงลานน้ำพุ เธอค่อย ๆ วางอุปกรณ์ทั้งหมดลงที่ตักพลันมองไปด้านหน้าอย่างไร้จุดหมาย เธอยังคงคิดมากเกี่ยวกับพลังของตัวเอง ความพิเศษที่เธอได้มาจะช่วยเหลือเธอและคนอื่นได้เหมือนจิณณ์หรือเปล่า เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งเรื่องของไนท์และเรื่องของริษาทำให้เธอลังเลที่จะใช้ความพิเศษของตัวเองมาตลอด และเมื่อตอนกลางวันรูมเมทก็ชวนเธอให้เข้าร่วมทดสอบคิงส์คลาส นั่นจึงเป็นเหตุผลอีกข้อในการเอาความพิเศษของตัวเองออกมาใช้ การลืมอดีตและทำปัจจุบันให้เป็นภาพในอนาคตที่ดี ถ้าการใช้ความพิเศษทำให้เกิดมิตรภาพดี ๆ เธอก็อยากจะลองก้าวออกมาจากเซฟโซนของตัวเองดูสักครั้ง

“ประกาศจากฝ่ายกิจการนักเรียน ขอให้นักเรียนที่ลงทะเบียนทดสอบคลาสพิเศษ ขอให้นักเรียนเตรียมตัวในการเข้าสอบที่ชั้นสี่ของอาคารทดลองในเวลานี้ค่ะ ประกาศจากฝ่ายกิจการนักเรียน ขอให้....” เสียงตามสายปลุกให้เธอตื่นจากความคิดนั้นก่อนจะเห็นเด็กนักเรียนหลายคนมุ่งหน้าไปที่อาคารทดสอบด้วยใบหน้าที่มุ่งมั่นไปในทิศทางเดียวกัน เด็กนักเรียนเป็นพันกับแปดที่ว่างของคิงส์คลาสในปีนี้จะสร้างความสามัคคีหรือความแตกแยกกันแน่นะ?

เด็กนักเรียนหลายคนมารวมตัวกันที่หน้าห้องที่ถูกเขียนว่า ‘ห้องสอบคลาสพิเศษประจำปี’หนุ่มสาวมากมายคุยกันจอแจ ทุกคนเตรียมพร้อมมากสำหรับการทดสอบนี้ ไม่นานนักเสียงพูดคุยได้เงียบลงเมื่อมีเสียงของใครบางคนแทรกขึ้นมา

“สวัสดีค่ะ ดิฉัน นางสาวภัทรศร เป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนพรอนันต์เลิศวิทยา รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่มีเด็กนักเรียนที่มีความพิเศษถึงหนึ่งพันห้าสิบเจ็ดคนที่ให้ความสนใจกับการทดสอบเพื่อคัดเลือกเข้าสู่คิงส์คลาสของโรงเรียนซึ่งเป็นคลาสที่เด็กยูนิคทุกคนใฝ่ฝันว่าสักวันจะได้เข้าเรียนที่คลาสนี้ ดิฉันขอให้ทุกท่านพยายามในการสอบครั้งนี้ จากบรรดาพวกคุณทั้งหมดจะมีเพียงแค่แปดคนเท่านั้นที่จะได้เป็นตัวแทนของคิงส์คลาสปีนี้ค่ะ” เสียงปรบมือดังขึ้นทั่วบริเวณ กลุ่มหนุ่มสาวที่ดูเหมือนจะเป็นรุ่นพี่ชั้นปีที่สองจำนวนหกคนเดินขึ้นมา ทุกคนถูกแขวนป้ายชื่ออย่างชัดเจน ‘เบียร์ ริษา แอน มาร์ค บุ๊ค โชโช’

 “เดิมที่คลาสคิงส์รุ่นแรกมีทั้งหมดเจ็ดคน แต่มีรุ่นพี่บางคนทำผิดกฎจึงถูกไล่ออกจากคลาสไป น้อง ๆ คงเห็นในคลิปแล้วนะคะ” เสียงนุ่มลึกของริษาดูจะสะกดคนฟังทั้งห้องให้สามารถฟังเธอได้ เธอกลืนน้ำลายเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ “ในการทดสอบวันนี้พวกพี่ทั้งหกคนจะเข้าไปในสนามทดสอบด้วย ซึ่งรายละเอียดและเงื่อนไขของการสอบในวันนี้ อาจารย์มิรินจะมาอธิบายรายละเอียดค่ะ” ริษาส่งไมค์ให้กับอาจารย์ควบคุมระบบการทดสอบ เธอรับมันมาไว้ในมือก่อนจะส่งยิ้มให้ทุกคน

“สำหรับการทดสอบเพื่อคัดเลือกนักเรียนเข้าคิงส์คลาสนั้น ตรงหน้านักเรียนทั้งหมดคือห้องทดสอบซึ่งจะต่างจากห้องทดสอบครั้งก่อน ข้างในนี้จะเป็นห้องโล่ง ๆ ซึ่งสภาพของห้องจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นภาพโฮโลแกรมเสมือนจริง และการกระทำทุกอย่างจะเกิดการบาดเจ็บได้จริง ๆ ถ้าหากว่านักเรียนประมาทหรือพลาด แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ อาจารย์ห้องพยาบาลได้เตรียมช่วยนักเรียนตลอดเวลา ซึ่งก่อนการเข้าห้องนักเรียนจะต้องสวมนาฬิการะบุสถานะของตัวเองให้ชัดเจน นาฬิกาสีเขียวคือนักเรียนที่ยังพร้อมอยู่ในการทดสอบ และถ้ากดปุ่มด้านข้างหน้าจอจะกลายเป็นสีแดงซึ่งในตอนนั้นสภาพรอบ ๆ จะหยุดนิ่งตามระบบเพื่อให้หน่วยพยาบาลได้เข้าไปพานักเรียนออกมาในกรณีที่บาดเจ็บและขอสละสิทธิ์ในการสอบคัดเลือกนี้ เอาล่ะค่ะ โจทย์ของวันนี้คือ ‘สงครามกลางเมือง’ ค่ะ” เสียงพูดคุยกลับมาอีกครั้งหลังจากที่โจทย์นั้นถูกระบุขึ้น

“นักเรียนทุกคนจะอยู่ในสงครามกลางเมืองในยุคอนาคต มีทั้งกองเพลิง ระเบิด ความช่วยเหลือ และศัตรู นักเรียนทุกคนต้องเข้าไปช่วยประชาชนที่ติดอยู่ในสงครามกลางเมืองให้ได้มากที่สุดจากศัตรูที่รายล้อมพวกคุณ ประชาชนหนึ่งคนมีค่าหนึ่งร้อยคะแนน สัตว์หนึ่งตัวมีค่าห้าสิบคะแนน กำจัดศัตรูมีค่าสองร้อยคะแนน และการเก็บเหรียญทองในสงครามมีค่าสิบคะแนน เมื่อเจอหรือกำจัดตัวแปรคะแนนได้ให้ใช้นาฬิกาสแกน ระบบจะเก็บข้อมูลเพื่อแสดงผลที่หน้าห้องสอบค่ะ และหลังจากทดสอบจบจะประกาศคะแนนและผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าคิงส์คลาสแปดคนทันที เวลาในการสอบคือสามชั่วโมงนั่นคือหกโมงเย็นจะสิ้นสุดการสอบคัดเลือก ขอให้ทุกคนเข้าแถวรับนาฬิกาและเตรียมทดสอบค่ะ” อาจารย์มิรินกล่าวก่อนจะแบ่งนักเรียนเป็นหกแถว นักเรียนชายสามแถวและนักเรียนหญิงสามแถว การแจกจ่ายนาฬิกาเป็นไปด้วยความรวดเร็วเพราะทุกคนให้ความร่วมมืออย่างดี

นักเรียนพันกว่าคนเข้ามาในห้องขนาดยักษ์ที่ใหญ่มาก ๆ เรียบร้อยแล้ว จิตใจของทุกคนดูจะตื่นเต้นกับการทดสอบนี้เป็นอย่างมาก รุ่นพี่ทั้งหกคนซึ่งเป็นหัวแถวของแต่ละแถวเตรียมพร้อมในขณะที่ทุกคนในห้องเองก็เตรียมพร้อมเช่นเดียวกัน กาเหว่าที่อยู่แถวสี่ลอบมองเด็กสาวตระกูลบูชาชาติที่อยู่เยื้องกับเธอ

“ฉันจะพิสูจน์ให้เธอเห็นเองจ่ะ ว่าคนอย่างฉันจะก้าวนำเธอทุกก้าว ยายบัวใต้ตม” กาเหว่าลอบยิ้มก่อนที่เสียงของรุ่นพี่ที่ชื่อเบียร์ตะโกนขึ้นมา

“ทุกคนพร้อมนะครับ!พี่จะเริ่มนับถอยหลังแล้วนะ!!” หนุ่มหน้าหล่อตะโกนลั่น แต่มันก็ดังไปทั่วบริเวณ

“สาม!!!”

จิตใจของดารันย์เต้นไม่เป็นส่ำ การทดสอบในครั้งนี้จะช่วยให้เธอหาคำตอบที่ต้องการได้เจอหรือไม่ กวินเองก็มองไปรอบ ๆ ที่เกิดเสียงประหลาดบางอย่างดังขึ้นราวกับกลไกขนาดยักษ์เริ่มทำงาน ไม่ใช่แค่เขา หลาย ๆ คนก็เริ่มเลิ่กลั่กเช่นกัน

“สอง!!!”

ผนังห้องค่อย ๆ ปรากฏภาพที่เปลี่ยนไปด้วยการทำงานของโฮโลแกรม ชามาอมยิ้มออกมาแต่ยังเก็บอาการไม่ให้คนอื่นเห็นมุมนี้ของตัวเอง เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าความสามารถของมิวส์คืออะไร หวังว่าการเข้ามาหาคำตอบและได้ผจญภัยกับการทดสอบที่ไม่ได้คาดหวังในคำตอบนี้จะไม่สูญเปล่า

“หนึ่ง!!!”

ไนท์พยายามมองหามิวส์ เขาต้องการที่จะเป็นฝ่ายสนับสนุนให้คนที่เขาเคยทำร้ายได้ผ่านการทดสอบนี้ แต่มองหาเท่าไรก็ยังหาไม่เจอ มังกรเองก็มองหาดารันย์เช่นกัน หวังว่าการทดสอบจะเปลี่ยนจิตใจของเด็กสาวได้

“การทดสอบคัดเลือกคิงส์คลาสเริ่มต้นแล้วครับ!!!”

-----------------------------------------------------------------
Episode 5 l Chapters 1 : King Class

Friday 23^th November 2018
Next Episode 5 l Chapters 2 : ขุมพลังแห่งความโกรธ
-----------------------------------------------------------------