ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE DISASTER มหันตภัย...น้ำกลืนมนุษย์

    ลำดับตอนที่ #9 : [Learn#3]-Strangers

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 54


    THE DISASTER

    มหันตภัย....น้ำกลืนมนุษย์

    (Learn#3)-Strangers

     

    เหมือนกับถูกมนต์สะกดอะไรบางอย่างที่ดึงดูดให้เขาต้องเดินตามเธอไปยังหน้าห้องน้ำหญิง เขาเลือกที่จะรอหญิงสาวอยู่ตรงนี้ ท่ามกลางผู้คนมากมาย ไม่นานนักเธอก็เดินกลับออกมาข้างนอกก่อนที่สายตาทั้งสองจะมองบรรจบกันอย่างพอดี

     

    “อ้าว ... คุณนี่เอง” เธอพยายามปรับเปลี่ยนสีหน้าให้ดูเป็นปกติมากที่สุด แต่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเธอเพิ่งผ่านการร้องไห้มาหยก ๆ

     

    เขายิ้มไม่ได้พูดอะไรนอกจากยื่นผ้าเช็ดหน้าสีขาวให้กับเธอ เธอยิ้มอย่างแปลกใจก่อนที่จะรับมันมาและซับน้ำตาที่กำลังจะเอ่อไหลออกมาอีกครั้งหลังจากที่เธอพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองแล้ว สีหน้าของเธอดูหดหู่ เขารับรู้ได้ถึงความรู้สึกนั้น

     

    “ฉันสงสารพวกเขา .... พวกเขาต้องเผชิญกับอะไรมากมายที่อยู่ด้านนอกโดยที่คนอื่นกลับสบายอยู่ในนี้ มันไม่ยุติธรรมสำหรับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน” เธอพยายามระบายออกมาเมื่อเห็นว่าเขาสามารถรับฟังทุกเรื่องราวของทุกคนได้

     

    “นี่คือสภาพความเป็นจริงของสังคมที่แก่งแย่งชิงดีกัน คุณเองก็ควรจะทำใจยอมรับมัน พวกเราที่เหลืออยู่ทุกคนในนี้ต้องทำใจยอมรับกับความจริงที่เกิดขึ้น ....” เขาพยายามหาเหตุผลเพื่อให้หญิงสาวคลายความกังวลใจและความจรึงเครียดลงไปได้บ้าง เธอมองหน้าของชายหนุ่มกลับไปก่อนที่จะยื่นผ้าเช็ดหน้านั้นกลับไป

     

    “ขอบคุณสำหรับคำปรึกษาดีดี .. และผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ด้วยนะคะ” เธอกล่าวอย่างสุภาพก่อนที่จะขอเดินแยกออกมาเพื่อตรวจตราดูแลความเป็นอยู่ของผู้อพยพทั้งหมด

     

    “เอ่อ ...” เขาพยายามจะเรียกอีกครั้ง เธอหันมาก่อนที่จะส่งยิ้มให้

     

    “ฉันชื่อพิมค่ะ” เธอก้มหัวหนึ่งครั้งก่อนที่จะเดินไปรวมกับกับพนักงานคนอื่น ๆ เพื่อทำหน้าที่ของตนต่อไป เขาเองได้แต่มองตามเธอไปก่อนที่จะละสายตาคู่นั้นละเดินออกมาจากบริเวณห้องน้ำเพื่อกลับมานั่งจุดเดิมที่เขานั่งอยู่เมื่อครู่

     

    ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้มและฝนยังคงโหมกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย ถ้านับเวลาหลังจากเกิดเรื่อง จากสิบเอ็ดโมงเช้าจนมาถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาประมาณ 12 ชั่วโมงแล้ว น้ำเริ่มเข้ามาจากแผงกั้นกระสอบจนมาเอ่ออยู่หน้า Crystal Dome ในระดับหัวเข่า ผู้คนที่อยู่ด้านนอกต่างพยายามหาที่สูงเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากหายนะที่มารอรับพวกเขาแล้ว น้ำเริ่มเชี่ยวเข้ามาบริเวณโดยรอบของสถานที่พักพิงเรื่อย ๆ จนตอนนี้ครึ่งหนึ่งของ Crystal Dome จมอยู่ใต้หายนะของมวลน้ำแล้ว

     

    โจยืนอยู่ที่ชั้นแรกของศูนย์พักพิง สายตาของเขามองทะลุออกไปด้านนอก ผู้คนมากมายนับร้อยคนต่างพยายามตะเกียดตะกายเอาตัวรอดจากมวลน้ำที่เริ่มปะทะเข้ามา บางคนก็พยายามปีนเข้าไปในตึกสูง บางคนก็นั่งร้องไห้ทำอะไรไม่ถูก บางคนก็พยายามขว้างปาสิ่งของเข้ามากระจก เหตุการณ์ตรงหน้านั้นเกิดขึ้นในระยะประชิดราวกับว่าเขากำลังยืนดูภาพเคลื่อนไหวเสมือนจริงยังไงยังงั้น

     

    “โลกคงจะถึงกาลอวสานแล้วสินะ” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งพูดขึ้นก่อนที่จะยืนกอดอก  หนังศีรษะของเขานั้นล้านไปตามอายุบ่งบอกว่าเขานั้นเริ่มจะเข้าสู่วัยชราในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เสียงนั้นดังอยู่ข้าง ๆ โจ เขาหันไปก่อนที่จะละสายตาจากชายคนนั้นเพื่อกลับมายังจุดเดิม

     

    “พวกเราจะต้องรอดออกไป ผมคิดอย่างนั้น ....” เขายังคงแย้งในความคิดที่ไม่เข้าท่าเข้าทางของคู่สนทนา

     

    “ผมได้ยินมาจากทหารตรงนั้นว่าตอนนี้กำลังจะมีพายุมรสุมที่พัดผ่านเข้ามาบริเวณนี้ทำให้เกิดกระแสฝนหนักทั่วพื้นที่ของกรุงเทพ น้ำมันเลยล้นและทะลักเข้ามาถึงหน้า Crystal Dome นี้เลย รัฐบาลเขาจะควบคุมมันได้หรือเปล่า” เขาเปรยก่อนที่จะหลบตาต่ำลง

     

    รัฐบาลอีกแล้วเหรอ เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรจากคนพวกนี้เลย ไหนบอกป้องกันได้ แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาดินแดนแห่งความศิวิไลซ์นี้ไว้ได้สักจุดเดียว ต้องแลกกับกี่ชีวิตกันพวกเขาถึงเด็ดขากและจริงจังกับเรื่องพรรคนี้เสียที หรือว่านี่จะเป็นบทลงโทษของพระเจ้า

     

    พวกท่านกำลังจะเปลี่ยนกรุงเทพมหานครให้กลายเป็นทะเลสาบ!

     

    “ตอนแรกฉันก็คิดเหมือนเธอ แต่ตอนนี้ ... ฉันไม่แน่ใจแล้วล่ะ” เขาพูดก่อนที่จะมองไปยังจุดที่อยู่มุมอับของศูนย์พักพิงแห่งนี้ ทัศนวิศัยนั้นทำให้โจต้องหันไปมองราวกับถูกควบคุม

     

    ณ จุดบอดของศูนย์พักพิงแห่งนี้มีบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล ถึงแม้ว่ามันจะเป็นมุมที่ไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจมากนักก็แทบจะไม่สังเกตเห็นว่าตรงจุดนั้นเกิดรอยร้าวขึ้นระหว่างกระจก คาดว่าน่าจะเกิดจากการขว้างปาของพวกที่อยู่ด้านนอกบวกกับแรงดันของน้ำที่เพิ่มขึ้นสูงเรื่อย ๆ

     

    ไหนบอกว่ารัฐบาลเอาอยู่ ....

     

    เขาทั้งสองคนมองหน้ากัน ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ รับรองว่ากระจกจะต้องแตก และ Crystal Dome แห่งนี้จะกลายเป็นนครบาดาลขนาดย่อมอย่างแน่นอน เขาเริ่มประมวลสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ในเมื่ออยู่ข้างนอกก็มีแต่ตายกับตาย อยู่ข้างในก็เริ่มจะเสี่ยงและไม่ปลอดภัย ซ้ำประตูยังถูกปิดตายอีก มีทางเดียวที่เขาจะสามารถหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้

     

    ลานจอดรถที่อยู่ชั้นบนของ Crystal Dome

     

    “ผมจะออกไปจากที่นี่ ..... มันเริ่มจะไม่ปลอดภัย” สีหน้าของโจจริงจังขึ้น คนตรงหน้าสูดลมหายใจเข้าไปก่อนที่จะตบบ่าของชายหนุ่มเบาๆ

     

    “ถ้างั้นเราสองคนคงมีความเห็นเดียวกันแล้ว ...” โจฉีกยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดนั้น

     

    “ผมชื่อชัย ... เป็นพ่อค้าขายของร้านสะดวกซื้อหน้าหมู่บ้านวิลล่า วิว การ์เด้น” เขาแนะนำตัวอย่างเป็นมิตรและสุภาพ

     

    “โจครับ ... นักออกแบบภายใน” เขายิ้มตอบอย่างมีมารยาทก่อนที่จะเริ่มปลีกตัวออกมาจากคู่สนทนาจนทำให้เขาถึงกับสงสัยเล็กน้อย โจนึกได้จึงเดินกลับมาและบอกกับเขาเบา ๆ

     

    “ก่อนที่เราสองคนจะออกไป ... ผมขอแวะไปธุระสักครู่นะครับ” เขาพูด ชายแก่ตบบ่าอีกครั้งก่อนที่โจจะแยกตัวออกไปเพื่อตามหาใครบางคนที่เขาอยากจะพาออกไปด้วย

     

    ใครบางคนที่ยังไม่สมควรตายตอนนี้!

     

    TO BE CONTINUED….

    (Talk With Reader)

    ตอนที่ 3 ปิดฉากลงแล้ว โจและตัวละครใหม่เริ่มคิดหาทางออกไปจากศูนย์หลบภัยแล้ว
    ว่าแต่โจจะออกไปตามหาใครกันแน่นะ ตอนที่
    3 ได้รู้กัน
    Ps.ขอร้องเถอะ เม้นกันหน่อยนะ Plssssss.



     » THE'KITTA
    . «

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×