ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Battle Royale Thailand เกมหฤโหด (Fic)

    ลำดับตอนที่ #9 : บทเรียนที่ 8 ผู้บุกรุก

    • อัปเดตล่าสุด 22 มี.ค. 58


    BATTLE ROYALE THAILAND

    เกมหฤโหด

    บทเรียนที่ 8 ผู้บุกรุก

    ---------------------------------------------------
     

    เวลา 05.01 น.

    ลมหนาวเริ่มพัดมาเบา ๆ จนต้นไม้พลิ้วสะบัด กิ่งไม้ใหญ่ส่งเสียงสีกันไปมาในเวลานี้ หากแต่เป็นสถานการณ์ปกติ มันก็เป็นเสียงที่น่าฟังและกล่อมเด็กหนุ่มให้หลับตาได้ แต่นี่ สถานการณ์รอบตัวที่น่ากลัวและสามวันเลวร้ายเช่นนี้ เขาไม่สามารถข่มตาหลับได้เลย ตั้งแต่ออกมาจากโรงเรียนซึ่งเป็นจุดเริ่มเกมแห่งการฆ่าฟัน ต่อจากนี้เขาต้องหลบหนีและพยายามอยู่เฉย ๆ เพื่อไม่ให้คนอื่นตามตัวจนเจอ ไม่ใช่ว่าเขากลัวจนปอดแหก เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากจะต้องฆ่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนกันเองเสียมากกว่า

    เปรมหาที่หลบเหมาะ ๆ ได้แล้ว เขามุ่งหน้ามาทางทิศตะวันออกผ่านหมู่บ้านของคนบนเกาะมา เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วเขาได้ยินเสียงอะไรบางอย่างร่วงลง เสียงมันดังมาจากบ้านหลังเล็ก ๆ หลังหนึ่งที่เขาเดินผ่านมาพอดี คาดว่าน่าจะมีคนหลบซ่อนตัวอยู่ในนั้นเป็นแน่ สองเท้ารีบจ้ำอ้าวมาจนถึงอุทยานแห่งหนึ่งซึ่งตั้งห่างจากหมู่บ้านประมาณสองกิโลเมตรเห็นจะได้ ความเหนื่อยล้าทำให้เขาตัดสินใจที่จะใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่พักชั่วคราว ของีบแค่สิบนาทีก็ยังดี ถึงแม้ว่าดวงตาจะยังไม่หลับ แต่เขาก็จำเป็นต้องใช้พลังงานเช่นกัน เด็กหนุ่มขยับผ้าโพกหัวอีกครั้งก่อนจะค่อย ๆ เปิดประตู เดินเข้ามาในอุทยานแห่งนี้

    ถ้าใช้สายตากวาดไปรอบ ๆ ที่นี่คงจะเป็นอุทยานต้นไม้ซึ่งเอาไว้ใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดขายของเกาะแน่ ๆ มีต้นไม้เรียงรายกันเป็นทาง จะว่าไปมันก็ดูคล้ายอุโมงค์ต้นไม้ที่เขาและครอบครัวเคยไปเที่ยวกัน ไม่ยักรู้ว่าที่เกาะแห่งนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม เขาเดินผ่านต้นไม้หลากหลายชนิดเข้าไปอย่างระมัดระวังจนกระทั่งเจอห้องควบคุมเล็ก ๆ อยู่บนชั้นลอย

    “คงจะเป็นห้องสั่งการของอุทยานสินะ” เขาสันนิษฐานก่อนจะลูบครางตัวเอง บันใดไม้เก่า ๆ คือทางเชื่อมต่อทางเดียวที่จะไปถึงชั้นลอยได้ เขาค่อย ๆ สาวเท้าขึ้นไปอย่างช้า ๆ และให้เกิดเสียงน้อยที่สุด

    ความเบาของน้ำหนักเท้าทำให้เปรมขึ้นมาถึงชั้นลอยได้สำเร็จ เขาพยายามมองผ่านประตูซึ่งมีกระจกใสบาง ๆ ติดอยู่ ด้านในมีอะไรบางอย่างที่เขาเองก็ไม่แน่ใจเท่าไรนัก

    แต่มันดูเหมือนกับว่ามีแสงเทียนที่ส่องสว่างวาบอยู่ ....

    ใจเขาคิดไปถึงเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติที่เขาโปรดปราน บางทีอาจจะเป็นวิญญาณของคนเฝ้าอุทยานคนเก่าที่เสียชีวิตไป แต่ดวงจิตอาจจะยังติดอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนด้วยความรักและไม่ยอมให้ใครได้เข้าใกล้สถานที่ที่เขาหวงแหน ถึงใจจะเริ่มมีความกลัวเข้ามาบ้าง แต่ความอยากรู้อยากเห็นของเขากลับเอาชนะความกลัวได้โดยง่าย เด็กหนุ่มสูดลมหายใจก่อนที่จะเดินตรงไปที่ประตูและเปิดมันออกด้วยความรวดเร็ว เอาให้รู้กันไปเลยว่าแสงเทียนนั้นเป็นดวงวิญญาณหรือฝีมือของคนกันแน่

    ทันทีที่ประตูเปิดออก เปรมกลับมองเห็นเพียงแสงสว่างอันน้อยนิดจากเทียนที่เพิ่งถูกจุดไว้ และร่างของเด็กสาวในชุดโรงเรียนเอกชนที่นั่งลงกับพื้น ในมือกำค้อนเอาไว้แน่นราวกับว่ามันคืออาวุธมีค่าของเธอมากที่สุดในตอนนี้ ผมสีน้ำตาลและต่างหูรูปดาว สัญลักษณ์ประจำตัวของเธอ มองปราดเดียวก็รู้ว่าเธอเป็นใคร

    “อย่าเข้ามานะ .... มะ .... ไม่อย่างนั้นฉันจัดการเธอแน่!” เสียงที่สั่นเครือเอ่ยขึ้นพร้อมกับค้อนที่สั่นเพราะความกลัวของหล่อน ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้เธอต้องปกป้องชีวิตของตัวเองเอาไว้ก่อน

    ชายหนุ่มยกมือด้วยท่าทางยอมแพ้ก่อนที่จะวางเป้ลงที่ปลายเท้าของตัวเอง “ฉันแค่มาขอที่นอน ไม่ได้มาทำร้ายใคร ขอแค่สิบห้านาทีแล้วฉันจะไป ตกลงไหม?”

    เปรมพยายามเจรจาเพื่อสงบศึกกับดาว เพื่อนร่วมห้องที่กำลังหวาดกลัวการมาเยือนของเขา ดาวคือเด็กสาวจากชมรมเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียน เธอไม่ได้มีหน้าตาที่สะสวยโดดเด่นอะไร แต่ความสามารถของเธอในด้านการกายกรรมหรือการเต้นนั้นไม่เป็นรองใคร เธอถูกอาจารย์จากชมรมดึงเข้าไปอยู่ด้วย แต่ด้วยทักษะที่ดีเยี่ยมกว่าเพื่อนทั่วไปจึงทำให้เธอได้ตำแหน่งหัวหน้าชมรมเชียร์ไปโดยปริยาย นอกจากนั้นเธอยังชื่นชอบดาราเกาหลีมากจนถึงขนาดซื้อสร้อยรูปดาราคนนั้นแขวนคอตลอดไม่ยอมถอดออกจากคอเลย แม้กระทั่งตอนนี้เธอก็ยังคงสวมมันไว้

    “ฉันไม่เชื่อนายหรอกเปรม .... นาย ... นายจะมาฆ่าฉันใช่ไหม ฉันไม่ยอมให้นายทำร้ายฉันหรอก” เด็กสาวเริ่มยืนขึ้น พยายามตั้งหลักและจ้องหน้าเด็กหนุ่มด้วยแววตาที่ฉายความระแวงอย่างเต็มเปี่ยม

    “ฉันไม่ต้องการให้เธอเชื่อ ฉันขอแค่ที่นอน ตกลงไหม?” เขายังต่อรอง

    “ไม่!

    “เฮ้อ! ผู้หญิงเข้าใจยากชะมัด” เขาลอบถอนหายใจก่อนจะก้มลงหยิบกระเป๋าของตนขึ้นมา

    “นี่นายจะทำอะไร!” เด็กสาวตั้งท่าเตรียมพร้อม ถ้าเกิดอะไรขึ้นเธอจะต้องใช้ความสามารถเล่นงานผู้ชายร่างสูงตรงหน้านี้ให้ได้

    เขาไม่ได้พูดอะไรนอกจากโยนกระเป๋าไปไว้รวมกับของดาว “ทีนี้ฉันนอนได้ยัง?” เขายืนกอดอกมองหน้าเด็กสาวเพื่อรอคำตอบ

    ดาวยืนคิดสักพัก การที่เปรมทำแบบนี้แสดงว่าเขาเองก็บริสุทธิ์ใจเพราะถ้าเขาคิดตุกติกจะทำร้ายเธอขึ้นมาจริง ๆ เขาจะเอาอาวุธที่ไหนมาต่อกรกับเธอ แต่เพื่อความระมัดระวัง หล่อนรีบก้มลงเปิดซิปกระเป๋าของเปรมดู มันเป็นเพียงมีดปลอกผลไม้ธรรมดาเท่านั้น “นี่ของฉันได้มีดกระจอกขนาดนี้เลยเหรอ?” เขาเองก็เพิ่งเคยเห็นอาวุธของตัวเองครั้งแรกก็ตอนที่ดาวเปิดมันดูเนี่ยแหละ

    “นายต้องการแค่ที่นอนจริง ๆ ใช่ไหม”

    “อื้ม”

    “อีกสิบห้านาทีนายจะต้องตื่นแล้วออกไปจากที่ซ่อนของฉันซะ”

    “อื้ม”

    “อย่าอื้มสิ ต้องตอบตกลง”

    “ตกลง ตกลง พอใจไหมครับคุณผู้หญิง” คำพูดของเพื่อนร่วมห้องทำให้เด็กสาวอมยิ้มเมื่อโดนเรียกว่าคุณผู้หญิง หล่อนพยักหน้าก่อนที่จะหยิบมาร์กเกอร์ที่วางอยู่บนขอบกระดานไวท์บอร์ดที่เอาไว้ใช้สำหรับจัดเวรยามเฝ้าอุทยานมาขีดลงพื้น 

    “ตั้งแต่ตรงนั้นคือพื้นที่ของนาย อย่าล้ำเส้นเข้ามา ไม่อย่างนั้นฉันจะเอามีดปลอกผลไม้เล็ก ๆ นี่เฉือนของนายทิ้งซะ บอกเลยว่าฉันไม่ได้ขู่ด้วย!” เด็กสาวเบ้ปาก

    “เชื่อเถอะ ของฉันน่ะ ใหญ่กว่าไอ้มีดบ้านี่อีก” เด็กชายพูดก่อนที่ยิ้มน้อย ๆ และมองหาผนังสำหรับพิงร่างพักผ่อนสักครู่ ดาวยืนนิ่งจ้องมองร่างของเพื่อนร่วมห้องก่อนที่จะเดินไปนั่งอีกฟากหนึ่งของห้องควบคุม

    บางทีเปรมอาจจะไม่ใช่คนเลวอย่างที่เธอคิด .....

    “นี่...” เสียงใหญ่เอ่ยขึ้นจนดาวเองถึงกับสะดุ้ง

    “อะไรอีกล่ะ?”

    “ถ้าถึงสิบห้านาทีแล้วน่ะ ช่วยปลุกฉันด้วย ถ้าไม่ปลุก ฉันจะนอนยาวไปจนถึงเช้าเลย จนถึงตอนนั้นห้ามมาด่าฉันทีหลังนะ” เขาอมยิ้มอีกครั้งก่อนจะหลับตาลงเงียบ ๆ

    เด็กสาวนั่งมองหน้าของเปรม การที่มีเพื่อนอยู่ในสถานการณ์ตอนนี้มันก็ดูเสี่ยง แต่ความรู้สึกกับอะไรบางอย่างมันบอกว่าเพื่อนร่วมห้องของเธอคนนี้ดูไม่มีพิษสงอะไรมากนัก กลับกัน เขาอาจจะปกป้องดาวก็ได้ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ เวลานี้คนอื่น ๆ กำลังจะเป็นอย่างไรบ้างนะ อีกไม่ถึงสามชั่วโมงก็ครบหกชั่วโมงพอดี การประกาศครั้งแรกคงเริ่มต้นขึ้น เธอก็คงจะรู้ว่าใครที่เสียชีวิตไปแล้วบ้าง และพื้นที่ส่วนไหนกลายเป็นพื้นที่อันตราย เธอต้องใช้เวลาสามวันที่เหลือซึ่งบางทีอาจจะถึงไม่ด้วยซ้ำให้คุ้มค่า ตายไปจะได้ไม่เสียดาย เธอเองยังไม่รู้เลยว่าตอนเช้าถ้าพื้นที่ส่วนนี้กลายเป็นพื้นที่อันตราย เธอจะไปหลบอยู่ที่ไหน

    ว่าแล้วเธอจึงค่อย ๆ รูดซิบกระเป๋าของตนพรางหยิบแผนที่ออกมากางอย่างเบามือ ถ้าจากจุดนี้กลายเป็นพื้นที่อันตราย รอบ ๆ นี้ยังพอมีหมู่บ้านจัดสรร สวนสัตว์ และก็ท่าเรือ ที่เป็นสถานที่เด่น ๆ ในแผนที่ บางทีอาจจะไปหลบอยู่ที่สวนสัตว์น่าจะปลอดภัยกว่าถ้าไม่มีใครย่างกรายเข้ามาในช่วงเวลานั้นพอดี

    แอ๊ด!

    เสียงลึกลับปรากฏขึ้นที่ชั้นล่างของอุทยาน มันเงียบมากจนดาวได้ยินมันอย่างชัดเจน แสดงให้เห็นว่าคนเปิดไม่ได้มือเบาเหมือนเปรม คนคนนั้นต้องมีพละกำลังมากแน่ ๆ หล่อนรีบพับแผนที่เก็บลงกระเป๋า ดับเทียน ก่อนที่จะค่อย ๆ ชะโงกหน้าออกมาตรงขอบกระจกบานใหญ่หน้าห้องควบคุม

    มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามายังอุทยาน!

     

    ในเวลาเดียวกันธันย์และรินทร์ต่างมุ่งหน้าไปยังโกดังเก็บสินค้าที่อยู่บนภูเขายอดนั้น เส้นทางครั้งนี้ พวกเขาต้องผ่านจุดสำคัญหลัก ๆ อย่างร้านอาหารหรู คลินิกฝากครรภ์ของสตรี และกระเช้าลอยฟ้า พวกเขาทั้งคู่ต้องฝ่าเส้นทางนี้เพื่อไปรวมกับพวกโยจิที่อยู่ด้านบน ที่นั่นมีคนอยู่มาก น่าจะมากพอที่จะให้ความร่วมมือกับทั้งสอง

    พวกเขาเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งของเกาะ น่าจะเป็นร้านอาหารเดียวกับที่ปรากฏอยู่บนแผนที่ เด็กหนุ่มพยายามหามุมมืด ๆ เพื่อซุ่มดูความเคลื่อนไหวโดยรอบ ให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่บริเวณนี้

    “ดูแล้วปลอดภัย ไม่น่ามีใครอยู่” เด็กสาวเอ่ยเบา ๆ

    “อย่างเพิ่งมั่นใจเลยรินทร์ ดูนั่นสิ” เด็กหนุ่มพูดราวกับกระซิบพรางชี้นิ้วยาวไปยังร้านอาหารหรูที่ล้อมรอบด้วยกระจกใส ภายในร้านอาหารมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่

    “ใครกันนะ?” ท่ามกลางความสงสัยของเด็กสาว พวกเขาทั้งคู่ตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ร้านอาหารให้มากที่สุดโดยอาศัยรถที่จอดอยู่ตามถนนเป็นที่กำบัง จนกระทั่งพวกเขาเข้าใกล้ร้านอาหารมากขึ้น

    ร้านอาหารหรูเป็นร้านอาหารที่ติดกระจกใสไว้เกือบจะโดยรอบทั้งหมดของร้าน ด้านในมีโคมไฟสีสันสดใสมากมายเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ หากแต่วันนี้มีเพียงแค่โคมสีเหลืองนวลเพียงดวงเดียวที่เปิดอยู่ ถัดเข้าไปด้านในมีผู้ชายสองคน คนหนึ่งถือมีดหั่นหมู่ขนาดใหญ่นั่งสบายใจเฉิบอยู่กับเก้าอี้ราคาแพง ในขณะที่อีกคนนั่งอยู่เคาน์เตอร์เครื่องดื่ม ข้าง ๆ มีหน้าไม้วางอยู่ไม่ไกลนัก ใช่แล้ว ถ้าเขาจำไม่ผิด นั่นคือป๊อปกับเอก คนที่เคยไล่ตามธันย์อย่างไม่ต้องสงสัย

    พวกเขาคงจะเลือกร้านอาหารใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวก่อนรุ่งสางเป็นแน่ ...

    “นั่นมัน....” รินทร์กระซิบพรางมองเข้าไปในร้าน ธันย์มองตามอย่างเลี่ยงไม่ได้

    นอกจากสองตัวอันตรายประจำเกมนั่งเริงร่าอยู่ภายในร้านอาหารที่มีเสียงแอร์ดังเบา ๆ แล้ว ด้านในสุดของร้านยังมีเด็กนักเรียนหญิงอีกคนที่กำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ทางด้านในสุดของร้าน มือของหล่อนระวิงและดูวุ่นวายไปหมด สิ่งที่ธันย์และรินทร์ค่อนข้างแปลกใจในตัวสาว คือ ....

    เด็กสาวขี้แยอย่างพู่กันมาทำอะไรกับคนพวกนี้กันแน่!

     

    TO BE CONTINUED …..

    ปิดฉากลงไปอีกหนึ่งบท ได้เจอฉากคลายเครียดของเปรมกับดาวบ้าง ดูกุ๊กกิ๊กกันนิดหน่อย
    แต่ใครดันมาทำลายฉากสุขสันต์ของทั้งคู่กันนะ
    --!
    ทางด้านของธันย์เองก็เจอกับคู่ปรับพร้อมกับเด็กสาวขี้แย
    หล่อนเข้ามาทำอะไรกันนะ ไว้ตอนหน้า จะมาบอก
    ตอนนี้ก็เม้น ๆ ๆ กันก่อนนะครับ
    ^/\^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×