คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [Learn#0]-Intro
THE DISASTER
มหันตภัย....น้ำกลืนมนุษย์
(Learn#0)-Intro
สายลมยามค่ำคืนพัดมาเอื่อย ๆ ผ่านหมู่บ้านวิลล่า วิว การ์เด้น ซึ่งตั้งอยู่แถวชานเมืองของกรุงเทพมหานคร ดินแดนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและค่ำคืนที่มีแต่ควันรถยนต์และเสียงจอแจของผู้คนที่เดินไปมาจนแทบจะชนกัน การจราจรยังคงหนาแน่น เสียงแตรยังคงดังผ่านหูของผู้คนแถวนั้นไม่ขาดสายจนมันกลายเป็นความเคยชินเสียแล้ว และนี่คือเหตุผลที่เหล่าคนเมืองหลายคนพยายามปลีกตัวจากความวุ่นวายมาอาศัยอยู่ในวิลล่าแห่งนี้
ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มจนแทบจะมองไม่เห็นดวงดาวระยิบระยับ เสียงร้องจากเบื้องบนเป็นสัญญาณบ่งบอกให้รู้ว่าอีกไม่นานนักจะเริ่มมีเม็ดฝนโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า หญิงสาววัยกลางคนกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากบ้านเพื่อตรงไปยังราวตากผ้า หล่อนรวบผ้าทั้งหมดมาไว้ในตระกร้าก่อนที่จะเริ่มเดินกลับเข้าไปในบ้านเดี่ยวหลังน้อยของเธอและครอบครัว
“สงสัยว่าฝนจะตกอีกแล้วมั้งเนี่ย ....” เธอพึมพำก่อนที่จะเดินกลับมาที่โต๊ะอาหารและมานั่งสังสรรค์มื้อเย็นกับสามีและลูกสาววัยเจ็ดขวบ
“ดีจะตายจิตรา อากาศเย็นน่าดูนะคืนนี้” ผู้เป็นสามีเปรยเบา ๆ ก่อนที่จะส่งยิ้มให้ลูกน้อยที่กำลังตักซุปเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
ครอบครัวของจิตราเป็นครอบครัวที่มีเพียงพอแม่และลูก เธอนั้นทำงานเป็นนักธุรกิจฝ่ายอสังหาริมทรัพย์เช่นเดียวกับ ขจรศักดิ์ สามีของเธอ ทำให้แต่ละวันนั้นเธอไม่ได้เคยติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของโลกรวมถึงพยากรณ์อากาศฟ้าฝนนี้เลย ระหว่างที่พวกเขากำลังทานอาหารอยู่นั้น เสียงบางอย่างได้ดังขึ้นจากในห้องน้ำเอาซะดื้อ ๆ
โคร่กๆๆๆ ....
“สงสัยท่อน้ำจะตันอีกแล้วมั้งเนี่ย” สามีส่ายหัว เขาเคยโทรเรียกช่างซ่อมให้มาจัดการหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม
“ไปดูหน่อยสิคุณ” เธอบอกสามี เขาถอนหายใจก่อนที่จะวางจานอาหารลงและเดินเข้าไปในห้องน้ำชั้นล่างเพื่อดูว่ามีอะไรที่ขัดการกินอหารที่แสนอร่อยของเขา
ทันทีที่เขาเดินเข้ามา เขามีสีหน้าที่งุนงงเล็กน้อย น้ำปริมาณหนึ่งเริ่มไหลออกมาจากท่อระบายน้ำภายในห้องน้ำของบ้านชั้นล่าง มันเริ่มไหลซึมออกมาจนล้นถึงขอบประตูห้องน้ำ เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้เอะใจนอกเสียจากว่าท่อน้ำนั้นจะพังและใช้การไม่ได้เช่นเดิม
ที่ถนนของหมู่บ้านวิลล่า วิว การ์เด้น ปรากฏกลุ่มคนมากมายที่เดินพลุกพล่านและขวักไขว่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จิตราเองสังเกตเห็นผ่านกระจกภายในห้องรับแขก เธอจึงลุกขึ้นจากโต๊ะและกุลีกุจิเดินออกไปข้างนอกด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“โทษนะคะคุณพี่ ... มีเรื่องอะไรกันเหรอ?” เธอถามหญิงสาวข้างบ้านของเธอ
“ก็รัฐบาลน่ะสิบอกว่าน้ำกำลังจะเข้ามากรุงเทพแล้ว แล้วทางเขตของหมู่บ้านเราจะเป็นเขตแรกที่จะโดนน้ำน่ะสิ!” เธอกล่าวเสียงสั่นก่อนที่จะรีบเก็บข่าวของ
จิตราเลิกคิ้วขึ้นมาหนึ่งข้างอย่างสงสัย เธอเคยเปิดดูข่าวอุทกภัยเมื่อหลายวันก่อน น้ำนั้นยังอยู่ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอยู่เลย แล้วทางรัฐบาลเองก็ออกประกาศแล้วว่าสามารถยับยั้งไม่ให้น้ำเข้ามาในกรุงเทพมหานครได้สำเร็จ แล้วเหตุใดคนพวกนี้ถึงยังตกข่าวแล้วทำท่าเหมือนมันจะมายังไงยังงั้นเลย
“พวกกระต่ายตื่นตูม ....” จิตราพูดเบา ๆ ก่อนที่จะเดินกลับเข้าบ้าน เธอไม่เชื่อเด็ดขากว่าน้ำกำลังจะมากรุงเทพ ที่นี่คือเมืองเศรษฐกิจและเป็นเมืองหลงสำคัญของประเทศไทย ไม่มีทางหรอกที่พวกเขาจะปล่อยน้ำเข้ามาในกรุงเทพ
ไม่มีทางแน่นอน!
จิตตราอมยิ้มในความตื่นตูมของชาวบ้านในละแวกนั้นก่อนที่จะนั่งลงบนโต๊ะอาหารพร้อมกับผู้เป็นสามีที่กลับเข้ามากินอาหารต่อโดยที่ไม่รู้เลยว่าวินาทีที่เธอก้าวเข้ามาในบ้าน น้ำจากท่อหน้าบ้านของเธอเริ่มเอ่อล้นขึ้นมาพอดิบพอดีและมันได้ไหลทะลักท่วมถนนหมู่บ้านอย่างรวดเร็วจนผู้คนเริ่มแตกตื่นกันให้วุ่นวาย หากแต่จิตรานั้นกลับเอาม่านลงเพราะไม่อยากดูพฤติกรรมอุปทานหมู่ของคนไร้สติพวกนี้
“มีเรื่องอะไรเหรอคุณ?”
“พวกปัญญาอ่อน บอกว่าน้ำจะท่วมกรุงเทพ ... ใครจะเชื่อกันคะในเมื่อรัฐบาลก็ออกมาบอกแล้วว่ากรุงเทพจะปลอดภัย” จิตราคิดแล้วยังอดขำไม่หายที่คุณพวกนั้นตาตื่นรีบอพยพออกจากหมู่บ้านทั้งทั้งที่มันก็เป็นบ้านของตัวเอง แล้วคนพวกนั้นจะไปอยู่ที่ไหน
“แล้วเขาจะอพยพไปอยู่ที่ไหนกัน ... โดมที่เพิ่งสร้างกั้นระหว่างกรุงเทพน่ะเหรอ?” ขจรศักดิ์มองหน้าของจิตรา
Crystal Dome คือโดมแก้วขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร สามารถจุคนเอาไว้ได้มากถึง 15,000 คนเนื่องจากมีความใหญ่และมีหลายชั้น และแต่ละชั้นจะเป็นห้องแยกย่อยออกไปให้ผู้อพยพทั่วกรุงเทพได้มาพักผ่อน ด้านบนของ Crystal Dome นั้นจะเป็นลานจอกรถสำหรับรถที่มาขนเสบียง ส่วนด้านข้างนั้นจะถูกสร้างด้วยกำแพงขนาดสูงเท่าโดมและเกือบจะเท่าตึกใบหยกเพื่อกันน้ำที่จะทะลักเข้ามา หากว่ามันเข้ามาจริง ๆ กำแพงนี้จะเปรียบเสมือนเขื่อนที่ขวางกั้นกรุงเทพอีกครึ่งหนึ่งไม่ให้จมหายไป หากแต่รัฐบาลนั้นได้ออกมาประกาศแล้วว่าสามารถป้องกันน้ำเข้ากรุงเทพได้แล้วเมื่อหลายวันก่อน ทำให้พวกเขาโล่งใจและเลิกติดตามข่าวน้ำท่วมอีกเลย
แต่นั่นมันเมื่อหลายวันก่อน ตอนนั้นกับตอนนี้มันต่างกันแล้ว ....
“แม่...” ลูกน้อยวัยเจ็ดขวบชี้มือชี้ไม้อย่างสนุกสนานไปทางประตูเข้าบ้าน คู่สามีภรรยาที่กำลังสนุกสนานกับการนินทาคนหันไปดูแทบจะพร้อมกัน สิ่งนั้นทำให้พวกเขาหันมามองกันหน้าถอดสี
น้ำปริศนาไหลผ่านช่องประตูเข้ามาในบ้านก่อนที่จะมาถึงโต๊ะอาหาร พวกเขาลุกจากเก้าอี้แทบจะพร้อมกัน จิตราเองรีบอุ้มลูกน้อยมาแนบอกเอาไว้ ใจคอเริ่มไม่ดี ส่วนสามีซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวนั้นอาสาเดินออกไปรับหน้าโดยการตรงไปที่ประตูนั้น เหงื่อเริ่มออกอย่างไม่มีสาเหตุ เขากำลูกบิดแน่นก่อนที่จะค่อย ๆ เปิดมันออก
โพล๊ะ!!
“กรี๊ดดดดดดดดด!!!” จิตราส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำจำนวนมากมายทะลักเข้ามากระแทกกับร่างของสามีไปติดเคาน์เตอร์ในห้องครัวก่อนที่จะมาสัมผัสร่างของแม่ลูกและเหวี่ยงร่างทั้งสองให้กระเด็นออกไปจากห้อง
“คุณคะ!!” จิตราทำอะไรไม่ถูก
ในตอนนั้นเองที่แผ่นดินเกิดสั่นไหวอย่างน่ากลัวจนร่างของจิตราเซถลาออกมายังสนามหญ้าหน้าบ้าน สายตาในตอนนั้นเหลือบมองไปยังต้นไม้สูง เธอรีบยันตัวขึ้นมาจากน้ำที่ไหลเข้ามาในสนามหญ้าจนถึงเข่า
“นี่มันอะไรกัน ..” ปริมาณน้ำมหาศาลก่อตัวเป็นคลื่นสูงเกือบเท่าหลังคาบ้านตรงดิ่งเข้าหาเธอโดยที่เธอและครอบครัวไม่ทันได้ตั้งตัว
“กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!” นั่นคือเสียงกรีดร้องสุดท้ายของหล่อนก่อนที่มวลน้ำนั้นจะปะทะเข้าร่างของเธอและครอบครัวพร้อมกับกลืนกินร่างของเธอให้หายไปในบาดาลนั้น
TO BE CONTINUED
.
ความคิดเห็น