ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality 7 .:: ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร ::. *Start*

    ลำดับตอนที่ #83 : Saturday : พวกชินชากับความตาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 305
      0
      3 ก.ย. 54

    REALITY SEASON 7

    ตอน : ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร

    WEEK 4

    เช้าวันสุดท้ายของสัปดาห์แห่งความโกลาหลได้สิ้นสุด การทำภารกิจที่ผ่านมาเมื่อวันก่อน พวกเขาสามารถคว้าความสำเร็จไปได้อย่างสวยงาม กลุ่มของมิ้วสามารถนำกุญแจกลับมาจากบึงในป่าต้องสาปได้สำเร็จ ส่วนมาริสซ่าก็สามารถเผชิญหน้ากับความกลัวของสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างนภางค์และนำกุญแจออกมาเพื่อไขกล่องปริศนาที่รอคอยการเปิดจากผู้กล้าทั้งเจ็ด

     

    สิ่งนั้นเป็นแค่ปิ่นปักผมสีทองธรรมดา ๆ เท่านั้น ถ้าไม่มีลวดลายหรือสลักลายเอาไว้เป็นสิ่งล้ำค่าล่ะก็ พวกเขาจะไม่เก็บมันไว้ให้รกตา แต่ในทางกลับกัน มันอาจจะมีประโยชน์ในภารกิจหน้าก็ได้มั้ง

     

    หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำก่อนที่จะตรงไปยังเตียงนอน เธอนั่งลงพรางสางผมด้วยมืออย่างลวก ๆ ความคิดของเธอยังติดอยู่ที่โรงทอผ้าของนภางค์อยู่เลย

     

    สิ่งที่เห็นนั้นจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงหรือว่าเธอหลอกตัวเองว่ามันไม่มีกันแน่ ....

     

    “เป็นไง ...” มิ้วทักทายอย่างสุภาพ เธอนั่งลงบนโต๊ะแป้งของยะหยา

     

    หลังจากภารกิจจบลงไปเมื่อวาน หัวหน้าราชวงศ์อย่างเธอไม่ได้ทราบถึงการทำภารกิจของมาริสซ่าที่ต้องเฝ้าไข่จระเข้เลย พวกเขาทุกคนเหนื่อยมากจนต้องขอพักผ่อน เธอจึงตัดสินถามเรื่องการแข่งขันของหล่อนในวันนี้ก่อนการตัดสินจะมาถึง

     

    “เป็นไงของเธอคืออะไรล่ะ ... เรื่องภารกิจของฉัน หรือว่า การแต่งตัวของเธอ? ” มาริสซ่าเลิกคิ้ว เธอเปลี่ยนมือมาจับมาสคาร่าก่อนที่จะเริ่มบรรเลงปัดขนตาให้โค้งงอนอย่างได้รูป

     

    “อันแรก...”

     

    “ใช้ได้ หลอนดี ไข่จระเข้เหลวไปหน่อย นอกนั้นก็ไม่มีอะไร ...”

     

    “แค่นั้นจริง ๆ เหรอ?” มิ้วเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง มาริสซ่าวางมาสคาร่าก่อนที่จะจะจ้องหน้าของมิ้ว

     

    “เธอหมายความว่าไงล่ะ ที่ว่าแค่นั้น ฉันไม่ได้ Fake อะไรใส่หล่อนหรอก ถ้าฉันจะ Bitch ฉันก็ Bitch ตรง ๆ เลย เธอจะพูดอะไรก็พูดมา” มาริสซ่าพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูดัจริตและน่าหมั่นไส้ หากแต่ว่าเธอชินกับน้ำเสียงแบบนี้ไปแล้ว

     

    “เมื่อวานเธอบอกว่าไง ... ฉันมาเพราะเรื่องนั้นแหละ ....” มิ้วพยายามให้เธอทบทวนคำพูดที่ผ่านมาเมื่อคืน

     

    คิดๆดูแล้ว ... มันเหมือนกับการทดสอบความกล้าเหมือนกันนะ .... มันสนุกก็ตรงนี้แหล่ะ

     

    ราวกับว่ามาริสซ่าเริ่มจะจำได้แล้วว่าเธอพูดอะไรออกไปเมื่อคืน เธอนิ่งงัน ไม่ได้พูดหรือตอบอะไรหญิงสาวที่พยายามเค้นเอาความจริง เธอรีบปัดมาสคาร่าต่อเหมือนไม่ได้ยินที่มิ้วถามเลย เธอไม่อยากจะบอกเรื่องนี้กับใคร เพราะว่าเธอยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เธอเห็นเมื่อคืนมันเป็นเรื่องจริงหรือว่ามันอยู่ในจินตนาการของเธอกันแน่

     

    “ขอตัวนะ ...” มาริสซ่าตัดบทก่อนที่จะเดินไปยังหน้าประตู

     

    “เธอเห็นอะไรมาใช่ไหม?” มิ้วยังไม่ลดละ

     

    “เธอกำลังทำตัวเป็นนักสืบ รู้หรือเปล่า ยัยหัวหน้าราชวงศ์” มาริสซ่าหันมามองหน้าก่อนที่จะขยิบตาให้หนึ่งครั้งและรีบเดินออกไปจากห้อง เธอจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด หากว่ามันจะไม่อึดอัดจริง ๆ จนอยากระบาย

     

    ไม่นานนักอัคราเรียกทุกคนให้มารวมตัวกันอีกครั้งที่ลานประหาร พวกเขาทั้งเจ็ดต่างเดินตามไปโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรกัน มีแต่เสียงหัวเราะในลำคอเบา ๆ ของวัชรที่กำลังจะเห็นคนที่จะถูกสังเวยในอีกไม่ช้า

     

    “สวัสดีครับ” นั่นคือเสียงทักทายของอัครา พวกเขาไม่ได้สนใจเสียงนั้นนอกจากมองดูเครื่องประหารในวันนี้

     

    ที่พื้นของลานประหารปรากฏเพียงเชือกหกเส้นที่หนาพอสมควรและแกลอนน้ำมันสามอันตั้งอยู่เท่านั้น ดูยังไงก็ยังดูไม่ออกว่าการประหารในวันนี้จะเริ่มยังไงและจบลงยังไง

     

    อัครามองหน้าของทั้งเจ็ดเพื่อมห้แต่ละคนเข้าแถวเรียงรหัสของตัวเอง กล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ตามหัวเสาเริ่มจับภาพการชี้ชะตาชีวิตของพวกเขาเพื่อแพร่ภาพไปยังช่องโทรทัศน์ที่กำลังมีผุ้ชมเข้าชมมากที่สุดในตอนนี้และเวลานี้

     

    เวลาแห่งการเชือด!

     

    “ผมจะเลือกทั้งสี่คนออกมาก่อนนะครับ .....”

     
































    R3 มิ้ว

     

    .................


































     

    R9 เจ้านาย

     

    ....................


































     

    R10 อิซะ

     

    ..................


































     

    R5 อายะ

     

    .................


































     

    สองหนุ่มสองสาวเดินออกมาจากแถวเพื่อรอตัดสินชะตากรรม สำหรับอายะ เธอรู้สึกชินชากับการต้องมายืนอยู่บนความเป็นและความตายทุกครั้งของการตัดสิน มิ้วนั้นเธอก็ไมได้คิดอะไร ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรหรือว่าเธอจะไม่ได้เป็นราชินีต่อ เธอก็ไม่ได้สนใจ เพราะในหัวตอนนี้เธอต้องการจะสืบเรื่องราวของราชวงศ์นี้ให้มากขึ้น เจ้านาย เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ตายก็ได้ไม่ตายก็ได้ นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาได้ออกมายืนตรงนี้ตั้งแต่เข้าเกม อิซะเองก็เช่นกัน เขารู้สึกว่าเขาจะต้องไม่เป็นอะไรเพราะมีเทพเจ้าที่เขานับถือคอยคุ้มครองอยู่

     

    พวกเขาคือผู้ที่ชินชากับความตายไปเสียแล้ว ....

     

    “ก่อนอื่น ผมจะประกาศรายชื่อของหัวหน้าราชวงศ์ก่อนนะครับ ....” อัคราหยิบ Black Letters ออกมาจากกระเป๋าเสื้อตามเดิม เขาคลี่มันออกก่อนที่จะมองหน้าของบุคคลนั้น

     

    “ขอแสดงความยินดีกับเจ้านาย R9 ด้วยนะครับ!” สิ้นเสียงของอัครา เจ้านายมีสีหน้างุนงงเล็กน้อยก่อนที่จะยิ้มออกมาราวกับว่าเขาถูกล๊อตเตอร์รี่รางวัลใหญ่ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะได้ตำแหน่งของหัวหน้าราชวงศ์ไปครอง และเป็นตำแหน่งแรกของผู้เข้าแข่งขันชายในเกมนี้อีกด้วย

     

    สำหรับอีกสามคนที่ไม่ได้ถูกเรียกนั้น ทีมงานได้พาตัวไปนอนลงที่พื้นก่อนที่จะจับมัดแขนและขาเพื่อไม่ให้ทั้งหมดได้ขัดขืนเวลาตัดสินชะตาและโดนกระชากวิญญาณไป เมื่อทุกคนถูกมัดไว้แล้ว ทางทีมงานยังได้เอาโซ่มาล่ามทั้งขาและแขนเอาไว้ โดยที่แขนนั้นจะถูกมัดและวางอยู่เหนือหัว

     

    อัคราเดินเข้ามาหาเจ้านายก่อนที่จะยื่น Black Letters ให้เจ้านายก่อนที่จะอธิบายการประหารให้ทั้งหมดฟัง พวกเขายืนรอดูการประหารมากกว่าการฟังเสียงที่เพ้อเจ้อของเขา

     

    มันคือการประหารที่คนสมัยก่อนเรียกว่า กรอกปากเป็นการลงโทษแบบหนึ่งครับเกิดขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเหตุเกิดที่เมืองไทย สมัยนั้นทหารญี่ปุ่นเข้ามาในไทยและค่อนข้างกดขี่ข่มเหงมาก ซึ่งก็มีบทลงโทษสำหรับหัวขโมยเหมือนกัน เช่น ถ้าคนไหนขโมยของกินก็จะโดนจับเอาของอันนั้นยัดเข้าปาก หรือบางทีก็จะกรอกน้ำหรือน้ำมันเข้าไปในปากจนเต็มกระเพาะหรือท้องป่องและ หายใจไม่ออก บางคนก็ถึงขั้นเสียชีวิตเนื่องจากเกิดภาวะน้ำมากเกินในร่างกาย

     

    “เข้าใจล่ะ ...” หลังจากที่เจ้านายอ่าน Black Letters ของอัคราแล้ว เขาเดินตรงปรี่ไปยังร่างของเหยื่อที่กำลังจะโดนสังหาร

     

    “ฉันเหรอ?” ดูท่าว่าเหยื่อเองก็ตกใจไม่น้อยที่เห็นเขามาคร่อมร่างเอาไว้

     

    “ใช่!” เขาแสยะยิ้มก่อนที่จะหยิบแกลอนน้ำมันขึ้นมา ทีมงานจัดการเอาเครื่องง้างปากสอดไว้และง้างมันออกเพื่อไม่ให้เหยือ่ได้ขัดขืนและกินเวลาการฆ่านานจนเกินไป

     

    เจ้านายเริ่มเอาน้ำมันเครื่องของรถกรอกลงไปในปาก เหยื่อเริ่มสำลักออกมาเบา ๆ เพราะน้ำมันมีปริมาณที่มากเกินไป และในเมื่อสิ่งที่ไม่ควรกินเข้าไปในร่างกายเริ่มต่อต้านกันกับอวัยวะภายใน เขาจึงเริ่มกระอักเลือดออกมา น้ำสีดำค่อย ๆไหลทะลักเข้าไปในปากของเหยื่อเรื่อย ๆ จนเริ่มจะทนไม่ไหว ไม่นานนักแกลอนน้ำมันก็หมดลง

     

    หากแต่ว่าเหยื่อยังไม่ตายสนิท ...

     

    “อะไรวะ ตายยากจริงเว้ย!” เขาโวยวายก่อนที่จะขว้างแกลอนลงพื้น เขาเริ่มสังเกตเห็นท้องของเหยื่อนั้นป่องออกมาเพราะบวมน้ำมันในร่างกาย เขากัดฟันอีกครั้งก่อนที่จะ

     

    ตุบ!

     

    เท้าข้างขวาที่ใส่รองเท้ามียี่ห้อนั้นถูกกระแทกลงยังท้องของเหยื่ออย่างแรง น้ำมันที่ไหลวนอยู่ในท้องเริ่มวิ่งวนสวนกลับขึ้นมา

     

    “ตายยากตายเย็นชะมัด!” เขาพูดไปด้วยในขณะที่เท้าก็กระทืบท้องของเหยื่อไปเรื่อย ๆ ท้องเริ่มยุบลง น้ำมันนั้นไหลลงมาปนกับเลือดที่อยู่ในร่างกาย เครื่องไนถูกทำลายด้วยการกัดของน้ำมันและแรงกระทืบของเขาจนไม่ชิ้นดี นัยน์ตาของเหยื่อเหลือกค้างก่อนที่จะร่างนั้นจะนิ่งสนิทไป

     

    “ตายได้ซะที เหนื่อยชะมัด ...” เขาพูดก่อนที่จะปาดเหงื่อบนหน้าผากและหันมาส่งยิ้มให้มาริสซ่า หากแต่ว่าเธอไม่ได้ยิ้มหรือสบตาของเจ้านายด้วยซ้ำ

     

    เธอรับไม่ได้ที่หัวหน้าราชวงศ์ในสัปดาห์นี้จะเป็นคนปากเถื่อนอย่างเจ้านาย!

     

    Result

    R10 คาเงะโทระ อิซะนาเมะ (อิซะ)

    เสียชีวิต

    เหลือผู้เข้าแข่งขัน : 6 คน

     

     NEYNE: BLOMMA

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×