ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality 7 .:: ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร ::. *Start*

    ลำดับตอนที่ #80 : Wednsday : โรงทอผ้าของนภางค์

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 215
      0
      31 ส.ค. 54

    REALITY SEASON 7

    ตอน : ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร

    WEEK 4

    “สงสัยว่ามาริสซ่าจะเจอเพื่อน ๆ แล้วล่ะ เสียดายที่เธอไม่ได้มาด้วย” อลิซบ่นอุบก่อนที่จะหัวเราะในลำคอ

     

    “ว่าแต่มันเป็นตัวอะไรกันน่ะ?” เจ้านายเลิกคิ้วอย่างฉงน อลิซหันมามองเข้าก่อนที่จะเปรยเบา ๆ

     

    “แรด Jarvan Rhino!” นั่นคือชื่อของสัตว์ป่าตัวแรกในเขตที่หนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าดุร้ายและหายากที่สุดในเขตป่าต้องสาปเขตแรก

     

    ท้องฟ้าเริ่มมืดดำลงทุกขณะ หญิงสาวที่อยู่คนเดียวในปราสาทที่กว้างใหญ่กำลังแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยเสื้อผ้าที่ดูเซกซี่และเปรี้ยวจี๊ด เสื้อผ้าสีขาวอมชมพูที่มีความยาวพ้นหน้าอกออกมาเล็กน้อย กางเกงยีนส์สบาย ๆ สวมใส่อย่างกระฉับกระเฉงก่อนที่จะถือตะเกียงไฟเดินออกมาจากหน้าปราสาทแห่งปักษาธร

     

    “นึกยังไงปล่อยฉันไว้คนเดียวเนี่ย .... ” หญิงสาวสบถเสียงแข็ง แต่ก็จำใจเดินไปยังจุดนัดหมายอย่างเลี่ยงไม่ได้

     

    เธอคือหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่มิ้วได้คัดเลือกให้มาเฝ้าไข่จระเข้ที่อัคราได้แบ่งหน้าที่เอาไว้ให้ทำ  เธอไม่รู้ในเหตุผลที่แท้จริงของมิ้ว แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะไม่อยากจะพูดความยาวสาวความยืด บางทีการอยู่คนเดียวมันก็ดีเหมือนกัน เพราะเธอจะได้ไม่ต้องไปเจอปัญหาจากผู้ชายปากจัดอย่างเจ้านาย

     

    เธอสาวเท้ามาตามทางอย่างสบาย ๆ ท่ามกลางสายลมที่พัดปะหน้าเบา ๆ จนปอยผมปลิวไสวรับกับใบหน้าที่เรียบสวยของเธอ สถานที่ที่เธอจะต้องไปนั้นห่างจากปราสาทเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น

     

    โรงทอผ้าของนภางค์ ....

     

    เพียงไม่กี่นาที หญิงสาวมาพร้อมกับตะเกียงไฟก่อนที่จะหยุดเดิน สายตาทั้งสองของเธอจ้องมองไปยังรอบ ๆ ของโรงทอผ้านี้

     

    มันคือสิ่งก่อสร้างที่ทำด้วยไม้สักสีดำขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็นสองชั้นโดยทั้งหมด ด้านข้างของโรงทอผ้านั้น ไม้สักเริ่มผุกร่อนไปตามสภาพของกาลเวลาจนถึงปัจจุบัน ด้านบนนั้นเป็นหลังคาไม้ที่ไม่ได้ทำด้วยสังกะสี บรรดาฝูงกาต่างโบยบินอยู่เหนือโรงทอผ้าของนภางค์อย่างสนุกสนาน พวกมันร้องกันระงมเหมือนต้อนรับมาริสซ่าอย่างไม่เป็นทางการ หญิงสาวแหงนหน้ามองพวกมันอย่างเฉยเมย

     

    “เสียงของพวกแกไม่ได้ทำให้สาว bitch อย่างฉันกลัวหรอกย่ะ ....” หญิงสาวเบ้ปากให้กับฝูงกาก่อนที่จะสะบัดผมยาวของเธอ เดินเชิด ๆ เข้าไปในโรงทอผ้าราวกับว่าเธอกำลังเดินเข้าแฟชั่นมอลล์เพื่อเลือกเสื้อผ้าสวยๆอย่างที่เคย

     

    แอ๊ดดดดดด!!

     

    ประตูไม้เก่า ๆ สีดำสนิทค่อย ๆ เปิดอ้าออกอย่างช้า ๆ สองตามองไปในโรงงานอย่างชั่งใจ หยากไย่เกาะตามมุมไม้ แสดงถึงความเก่าแก่และความสกปรกของสถานที่แห่งนี้ เธอเดินมองไปโดยรอบ พื้นของโรงทอผ้าทำด้วยไม้โอ๊คสีน้ำตาลตัดกับไม้สักสีดำอย่างลงตัวและดูคลาสสิคตามแบบฉบับของฝรั่ง ถ้าให้เธอเดา โจเซฟคงจะเป็นคนที่สร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อภรรยาอันเป็นที่รักของเขา

     

    ชั้นแรกที่เธอเดินสำรวจนั้น ทางด้านล่างของห้องจะเป็นชั้นสำหรับเก็บผ้าไหมที่ถักทอออกมาเตรียมบรรจุใส่ชะลอมเพื่อส่งขายยังต่างประเทศเพื่อเรียกกำไรและสร้างยอดขายของปราสาทเพื่อนำเงินทั้งหมดมาใช้ยังชีพแบบพอเพียง ส่วนทางด้านขวาและด้านซ้ายจะเป็นห้องยื่นออกมาจากผนัง เธอเห็นแวบหนึ่งว่าในนั้นมีปุยสีขาวเหมือนปุยไหมที่โดนบรรดาฝูงมดยึดครองเป็นรวงรังไปเรียบร้อยแล้ว สงสัยว่ามันคงจะเป็นห้องเก็บไหมเพื่อนำเส้นของมันมาถักทอเป็นผ้าผืนสวย รอบ ๆ บริเวณของชั้นแรกไม่ได้มีอะไรมากมาย ตรงกลางนั้นจะเป็นเครื่องถักไม้สี่ห้าอันที่ทำด้วยไม้สักเช่นเดียวกัน หากแต่สภาพตอนนี้ดูยังไงก็ใช้งานไม่ได้แน่นอน

     

    ภายในโรงทอผ้านั้นถูกติดตั้งด้วยคบเพลิงข้างผนัง อัครายังพอใจดีเอาไฟมาช่วยเพิ่มแสงสว่างให้โรงแห่งนี้ไม่น่ากลัวและอึมครึมมากนัก เมื่อมาริสซ่าสำรวจโรงทอผ้าชั้นแรกเรียบร้อยแล้ว ดูท่าว่าจะไม่มีใข่จระเข้อยู่ที่นี่ เธอจึงเปลี่ยนสถานที่และเคลื่อนตัวเองมาที่ชั้นสอง

     

    ปลายเท้าของเธอค่อย ๆ สัมผัสขั้นบันใดไม้ผุ ๆ ไปตามทาง เสียงเอี๊ยดอ๊าดดังเป็นจังหวะที่เธอก้าวเท้าขึ้นไปบนบันใด เป็นเพราะบรรยากาศบวกกับความเงียบงันของสถานที่ ทำให้เสียงนั้นดังอยู่ในโสตประสาทของเธอตลอดเวลา หากแต่ว่าเธอพยายามที่จะไม่คิดฟุ้งซ่านให้ตัวเองหวาดกลัว เพราะเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิญญาณมีอยู่ในโลกของคนเป็นนี้ แต่บางครั้งเธอก็แอบคิดไปบ้างว่าสถานที่ที่ใช้เล่นเกมในครั้งนี้มีสิ่งที่เร้นลับซ่อนอยู่

     

    เพียงแต่ไม่โผล่ออกมาเท่านั้นเอง ....

     

    ไม่นานนักเธอก็ขึ้นมาถึงชั้นสองได้สำเร็จ ด้านบนนี้ค่อนข้างจะเป็นเหมือนกับชั้นลอยของโรงทอผ้าเลยก็ว่าได้ เพราะชั้นนี้มีเพียงโต๊ะและเก้าอี้ชุดเดียวที่วางอยู่ บนโต๊ะนั้นมีโคมไฟส่องลงมาปะทะกับกล่องที่เต็มไปด้วยสำลี ภายในกล่องนั้นบรรจุไข่ของลูกจระเข้ที่เธอกำลังตามหาอยู่ ส่วนใต้โต๊ะนั้นมีเพียงกล่องเหล็กที่ถูกมัดด้วยโซ่และคล้องกุญแจใหญ่ 2 ดอกด้วยกัน ซึ่งดอกแรกนั้นเป็นการเดินทางไปเอาในป่าต้องสาป และอีกดอกหนึ่งเป็นการเฝ้าไข่ให้ฟักออกมาเป็นตัว ซึ่งข้างโคมไฟจะมีนาฬิกาดิจิตอลที่กำลังเดินถอยหลังอยู่

     

    00 : 09 : 21

     

    เหลือเวลาในการฟักตัวอีกเพียงเก้านาที ยี่สิบเอ็ดวินาทีเท่านั้น เธอจะได้กลับไปยังที่นอนและนอนสบาย ๆ รอให้พวกนั้นกลับมา คิดไปคิดมางานนี้ก็ง่ายเหมือนกันนะสำหรับหญิงสาวจอม bitch อย่างเธอ ไม่ต้องออกแรงมาก แค่สวยไปวัน ๆ แล้วทำตามหน้าที่ของตัวเอง แค่นั้น ....

     

    “จะมีอะไรเลิศกว่านี้อีกไหมนะ” เธอผิวปากก่อนที่จะนั่งบนเก้าอี้และเอาขาเรียวยาวทั้งสองขึ้นมาพาดบนโต๊ะ กระดิกเท้าไปมาเพื่อรอให้เวลานั้นหมดลง ไข่จระเข้ก็จะฟักออกมาเป็นตัว หนึ่งในสิบสามใบนี้ จะมีเพียงใบเดียวเท่านั้นที่มีกุญแจดอกเล็กซุกซ่อนอยู่

     

    บรรยากาศด้านนอกนนั้นเริ่มเย็นลงจนหนาวสะท้าน ไอดินเริ่มโชยขึ้นมาจนปกคลุมไปทั่วบริเวณของปราสาทปักษาธร อัคราและทีมงานไม่ได้ทันสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของธรรมชาติที่แสนจะแปลกประหลาด พวกเขายังคงตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ของตนเพื่อให้การแพร่ภาพของเกมนั้นสมบูรณ์แบบและไม่ติดขัด กล้องวงจรปิดตัวที่อยู่ด้านบนหลังคาของโรงทอผ้ากำลังจับภาพของมาริสซ่าที่นั่งกระดิกเท้าฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ น้ำที่ขังอยู่บนหลังคาไหลลงมาตามรางไม้นั้นก่อนที่จะหยดลงไปบนตัวของกล้องวงจรปิด

     

    แหมะ ... แหมะ ...

     

    กล้องเกิดรวนจนควันขึ้นโขมงก่อนที่จะดับไป ภาพภายในโรงทอผ้าดับวูบลงก่อนที่หน้าจอของโทรทัศน์จะเปลี่ยนเป็นภาพของกล้องวงจรปิดที่จับภาพไปที่ห้องนอนของสาว ๆ แทน หากแต่ว่าพวกเขาไม่ทันได้สังเกตหรือตรวจตราความรอบคอบ

     

    ทุกคนไม่สามารถเห็นภาพของมาริสซ่าได้อีกแล้ว ....

     

    “เหลือเวลาอีกเท่าไรนะ ...” สายตาของเธอเริ่มเหลือบไปมองนาฬิกาดิจิทัลเป็นครั้งที่สาม

     

    00 : 03 : 45

     

    กึก ... กึก ...

     

    เสียงบางอย่างดังขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง สายตาของหล่อนเริ่มละจากนาฬิกาตั้งโต๊ะก่อนที่จะหันไปมองโดยรอบ เสียงนั้นมันเบาจนดังขึ้นเรื่อย ๆ เธอเริ่มได้ยินมันจนชัดเจนแต่ยังหาที่มาของเสียงนั้นไม่ได้เลยว่ามันมาจากไหนกันแน่

     

    “อัครา ... นั่นคุณเหรอ?” หญิงสาวตัดสินใจตะโกนออกไปที่ประตูนั้น หากแต่ว่าไม่มีเสียงของอัคราตอบกลับมาเลย มือเรียวยาวของเธอเริ่มจับเคียว อาวุธของเธอให้กระชับมือขึ้น อย่างน้อยเธอต้องป้องกันอันตรายเอาไว้ก่อน

     

    กึก ... กึก ...

     

    เสียงนั้นยังคงดังขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอเองต้องเปลี่ยนอิริยาบถมาเป็นยืนแทน มือข้างหนึ่งถือตะเกียงไฟส่วนอีกข้างหนึ่งกำเคียวเอาไว้แน่น โสตประสาทเริ่มจับทิศทางของเสียงได้ เธอจึงค่อย ๆ เดินตามเสียงนั้นไปจนกระทั่งเธอยืนอยู่ที่ปลายบันใด นัยน์ตาเบิกกว้างด้วยความสงสัยกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า หากแต่ว่าสายตานั้นไมได้ฉายแววหวาดกลัวแต่อย่างใด

     

    สาเหตุของเสียงแปลกประหลาดนั้นอยู่ที่ชั้นล่างของโรงทอผ้า

     

    เธอจึงตัดสินใจเดินลงไปยังชั้นล่างเพื่อดูให้แน่ใจว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของอะไรกันแน่ ทันทีที่ลงมาถึงเธอกับพบบางสิ่งบางอย่างที่เธอเองก็อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง

     

    เครื่องทอผ้าไม้อันหนึ่งกำลังทำงานอยู่โดยที่เธอไม่ได้แตะต้องมัน ไหมงามเริ่มถูกทอขึ้นมาอีกครั้ง เหงื่อกาฬของหญิงสาวเริ่มไหลออกมาจากต้นคอ นี่คือสิ่งที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน

     

    ราวกับว่ามีคนที่มองไม่เห็นกำลังนั่งทอผ้าอย่างที่เคยทำเหมือนเมื่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่.....

     

    สถานที่ด้านนอกเริ่มอึมครึมขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนไม่ได้ทันได้มองขึ้นดูดวงดาวในวันนี้

     

    พระจันทร์กำลังกลายเป็นสีดำแล้ว .....

     

     

     NEYNE: BLOMMA

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×