ใบสมัครร่วมเล่นเกมครั้งที่7
ชื่อนามสกุลของคุณ: (ชื่อญี่ปุ่น) นิโนมิยะ อายากะ / (ชื่อไทย) พิชามณฑ์ คหพลพัชร
ชื่อเล่น: อายะ
อายุ: 18
เพศ: หญิง
น้ำหนัก/ส่วนสูง: 140/35
ภูมิลำเนา: ญี่ปุ่น
การศึกษา: เรียนถึงแค่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก
ศาสนา: (อดีต) ลัทธิมิตสึโกะ / (ปัจจุบัน) ศาสนายิว
งานอดิเรก: สตอล์กเกอร์ / ขายอวัยวะ / กรีดข้อมือ
โรคประจำตัว: ไซนัส
สิ่งที่ชอบ: เลือด / คัตเตอร์ / ความมืด / ศพ (เพราะจะได้เอาอวัยวะไปขาย)
สิ่งที่เกลียด: มนุษย์ที่ยังมีลมหายใจ / ชื่อ 'มิตสึโกะ'
แฟ้มประวัติอาชญากร:
1) ใช้คัตเตอร์แทงเพื่อนร่วมชั้นของตนเองจนเสียชีวิตจมกองเลือด เนื่องจากโดนล้อเลียนและรุมกลั่นแกล้งจนขาดสติ พลั้งมือกระทำลงไปอย่างไม่รู้ตัว ทว่าคดีนี้กลับถูกปิดเงียบไม่ให้สื่อรู้โดยผู้อำนวยการโรงเรียนที่เป็นลุงของอายากะ และนี่คือคดีแรกที่ทำให้เธอเริ่มฆ่าคน
2) ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่าเพื่อนร่วมชั้นอย่างโหดเ้.ยมทารุณโดยการสลักบนผิวเป็นรูปดอกกุหลาบและไม้กางเขนหัวกลับ อวัยวะบางส่วนในร่างกายจำพวกหัวใจและตับหายไปอย่างลึกลับ ตามร่างมีรอยกรีดแทงซ้ำๆ จนพรุนไปทั่วร่าง นับได้มากกว่าสามสิบแผล และพบศพในวันรุ่งขึ้นที่เป็นวันงานโรงเรียนโดยชักรอกศพขึ้นไปไว้บนสุด และเมื่อม่านการแสดงละครเปิดฉากขึ้น ศพนั้นก็ตกลงมาบนเวที ทำให้ผู้คนแตกตื่นและงานในวันนั้นล้มไปอย่างไม่เป็นท่า
3) ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมชายหนุ่มนักศึกษาปริญญาตรีโดยการจับทรมานให้อดน้ำอดข้าวนานมากกว่าห้าวันจนร่างกายซูบซีด จากนั้นจึงใช้มีดสลักชื่อตัว 'A' ไว้บนหน้าท้องของศพ และใช้เชือกรัดคออีกฝ่ายจนหมดลมหายใจ ชิ้นเนื้อบางส่วน เล็บทั้งสิบนิ้วและปอยผม รวมถึงเสื้อผ้าและของใช้บางส่วนของเหยื่อหายไปอย่างไร้ร่อยรองและปัจจุบันยังไม่พบแม้แต่ชิ้นเดียว
คดีทั้งหมดถูกศาลยกฟ้องเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ และอายากะได้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนด้วยเงินทองและอำนาจ ทำให้เธอหลุดพ้นจากคดีทั้งสองมาได้ แต่ก็ยังคงถูกจับตามองอย่างเงียบๆ จากฝ่ายสืบสวนหลายฝ่าย เพราะคดีทั้งสองนั้นถือเป็นสองคดีที่โหดเ้.ยมและทารุณมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ประวัติโดยละเอียด: นิโนมิยะ อายากะ เป็นเด็กสาวร่างเตี้ย เล็ก แคระแกร็น และเป็นคนเงียบขรึม จึงทำให้เธอถูกกลั่นแกล้งและเยาะเย้ยจากเพื่อนๆ มาตั้งแต่ยังเด็ก และยังถูกพ่อแท้ๆ ของเธอหมางเหมินและเย็นชาใส่ เนื่องจากเมื่อตอนที่เธอเกิดมานั้น แม่ของเธอเสียชีวิตลงเพราะการคลอดเธอออกมา ทำให้พ่อนั้นทั้งเกลียดและไม่ยอมรับเธอเป็นลูก ทำให้อายากะเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่เก็บกดลึกๆ เงียบ ขี้อาย และไม่กล้าแสดงออก ระหว่างนั้นเองที่เธอเริ่มกรีดข้อมือและตามร่างกายของตัวเองด้วยคัตเตอร์ เลือดทำให้ตัวเธอรู้สึกเหมือนได้รับการปลดปล่อยจากความทรมาน และยามใดที่เธอถูกพ่อทารุณและถูกเพื่อนเยาะเย้ย ยามใดที่เธอเกลียดตัวเองมากจนทนไม่ไหว เธอจะกรีดตามร่างของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเป็นแผลไปทั่วทั้งตัวทุกครั้ง และในช่วงนี้ที่เธอเริ่มพกคัตเตอร์ไปโรงเรียน และก่อคดีฆาตกรรม 'คดีแรก' ของเธอขึ้น
จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่ออายากะเข้าชั้นมัธยมปลายในโรงเรียนใหม่ เธอได้มาพบกับลัทธิแปลกประหลาดในโรงเรียน ที่มี 'มิตสึโกะ' หญิงสาวที่แปลกประหลาดเป็นเจ้าของลัทธินั้น มิตสึโกะชักชวนเธอให้เข้าร่วมลัทธินั้นด้วย อายากะตอบตกลง และพบว่าลัทธินั้นเป็นลัทธิที่อบอุ่นในความคิดของเธอ ทุกคนสนใจเธอ และให้ความเป็นมิตรกับเธอ ทำให้เด็กสาวค่อยๆ มีความกล้าและความมั่นใจมากขึ้น พูดคุยกับคนอื่นมากขึ้นและยิ้มแย้มแจ่มใสมากขึ้นกว่าเดิม กระทั่งเมื่อมิตสึโกะบอกกับเธอว่าต้องการเงินบริจาคเข้าลัทธิ เธอก็ยอมทำทุกอย่างแม้กระทั่งขายตัวเพื่อหาเงินเข้าลัทธิของตนเอง
ลัทธิของมิตสึโกะนั้นเป็นลัทธิ 'การฆ่าตัวตาย' ที่น่าสะพรึงและแปลกประหลาด ทุกช่วงกลางวันและเย็น ทุกคนจะมาชุมนุมกันบนดาดฟ้า จับมือกันเป็นวงกลมและท่องคาถาแปลกๆ อีกทั้งยังผลัดกันให้สมาชิกในลัทธิสักที่หูเป็นรูปดวงตาสีดำให้แก่กันและกัน และทุกคนจะยึดถือ 'มิตสึโกะ' เป็นดั่งพระเจ้า พร้อมที่จะทำตามเธอทุกอย่างไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สาวกผู้จงรักภักดีเพิ่มขึ้นในลัทธิมากขึ้นทุกวัน...ทุกวัน กระทั่งวันหนึ่ง มิตซึโกะได้ประกาศแก่ทุกคนว่า 'เราจะฆ่าตัวตาย' ทุกคนก็ยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ และพร้อมจะปฏิบัติตามอย่างเต็มที่
การฆ่าตัวตายครั้งนั้นเกิดขึ้นที่สถานีรถไฟใต้ดิน ทุกคนในลัทธิของมิตสึโกะร่วมห้าสิบกว่าคน รวมถึงอายากะก็เข้าร่วมในการฆ่าตัวตายหมู่ครั้งนี้ด้วย เด็กสาวทั้งห้าสิบคนคุยกันไป หัวเราะกันไปลงมาที่สถานี จับมือเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดานยืนอยู่ตรงที่รอรถไฟ เลยเส้นสีเหลืองเข้าไปจนชิด ทุกคนในสถานีมองการกระทำนั้นอย่างแปลกใจ ทว่าก็ไม่มีใครเข้าไปห้าม คิดว่าเป็นเพียงการเล่นสนุกของเด็กสาววัยรุ่นเท่านั้น ทว่าเมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้นพร้อมทั้งเสียงรถไฟใต้ดินที่ดังขึ้นมาเรื่อยๆ เด็กสาวทั้งห้าสิบคนก็บีบมือกันแน่น พลางแกว่งมือไปมาแล้วนับ
'หนึ่ง...สอง....สาม !!!' จากนั้นก็กระโดดลงไปในรางรถไฟ!
รถไฟที่ผ่านมาขยี้ร่างของเด็กสาวทั้งหมดจนแหลกเหลวไม่เป็นชิ้นดี เลือดสีแดงฉานกระฉูดไปทั่วราง กระเซ็นขึ้นมาจนโดนคนที่ยืนรอรถอยู่กันถ้วนหน้า เสียงกรีดร้องระงมไปทั่วทั้งสถานี เศษเนื้อและเศษยูนิฟอร์มนักเรียนปลิวว่อนไปทั่ว เลือดไหลปริ่มนองราวกับภาพวาดจากนรก คนในรถไฟกรีดร้องเสียงดังเมื่อเห็นเลือดกระเด็นฉูดขึ้นมาเปรอะกระจก ทำให้รถไฟในสถานีนั้นต้องหยุดแล่นไปหลายชั่วโมง เด็กสาวทั้งหมดห้าสิบกว่าคนเสียชีวิต...ยกเว้นอายากะที่รอดมาได้เพียงคนเดียวเพราะตอนที่เธอกระโดดลงไปนั้น เธอกระเด็นเข้าไปใต้จุดรอรถ...พ้นมาได้เพียงเสี้ยววินาทีเดียว!
ชั่วพริบตา...อายากะค่อยๆ ถูกห้อมล้อมด้วยเด็กสาวที่นับถือเธอเหมือนดั่ง 'มิตสึโกะ' คนใหม่ โดยไม่รู้ตัว อายากะค่อยๆ มีคนห้อมล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนในที่สุดลัทธินั้นก็ได้ถูกตั้งขึ้นใหม่อีกครั้ง...โดยเธอ เด็กสาวผู้รอดชีวิต กิจกรรมเดิมๆ ถูกเริ่มต้นอีกครั้งโดยสาวกที่เคารพนับถือเธอดั่งพระเจ้า และเด็กสาวที่กำลังกลายเป็น 'มิตสึโกะ' คนใหม่ที่ตื่นขึ้นมา ลัทธิของเธอกว้างขวางมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก่อนที่จะได้วางแผนฆ่าตัวตายครั้งใหม่นั้น พ่อของเธอก็จับอายากะขังไว้ในบ้านเสียก่อน...ด้วยความเกลียดชังล้นพ้นและความเป็นห่วงลึกๆ ที่อยู่ในใจ หวาดกลัวว่า 'มิตสึโกะ' ที่เกิดขึ้นใหม่จะต้องจากเขาไปอีกคน แต่อายากะไม่ยอม...เธอแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าที่พ่อของเธอจะนึกถีง หลังจากผ่านไปหลายเดือน พ่อของเธอใจอ่อนต่อเสียงร้องไห้คร่ำครวญของเด็กสาว ยอมเปิดประตูออกมาด้วยคิดว่าเธอคงจะสำนึกแล้ว ทว่าผิดไป...อายากะใช้เศษกระจกในห้องที่แตกแทงพ่อของเธอซ้ำๆ จนตายแล้วหนีออกมา!
อายากะหรือ 'มิตสึโกะ' รีบกลับมาที่โรงเรียนอย่างเร่งด่วนด้วยความกังวล ที่ผ่านมาหลายเดือนลัทธิของเธอจะเป็นอย่างไรบ้างนะ ทว่าเมื่อไปถึงดาดฟ้า...กลับพบหญิงสาวคนหนึ่งยืนในที่ของเธอ...และทำเหมือนกับเป็น 'มิตสึโกะ' อายากะยืนนิ่งไปด้วยความสับสนงุนงง พอดีกับที่หญิงสาวคนนั้นหันมาเห็นเธอพอดี เพียงแค่ยกมุมปากขึ้นแล้วหันกลับไป
"ฉันกลับมาแล้วทุกคน" อายาโกะตัดสินใจก้าวเข้าไปตรงดาดฟ้า ก่อนจะยิ้มกว้างแล้วเอ่ยเสียงดัง แน่นอนสิว่าทุกคนจะต้องจำเธอได้ และเคารพนับถือเธอเหมือนเดิมตามปกติ!
"เธอเป็นใครกันน่ะ...มาทำอะไรที่นี่ ? มิตสึโกะคะ เธอเป็นใครกันน่ะ ?"
"ออกไปนะ ที่นี่เป็นที่ของลัทธิมิตสึโกะ ยัยคนนอก!"
"มันจบแล้วล่ะ อายากะ...เธอไม่ใช่มิตสึโกะอีกแล้ว มิตสึโกะคือฉัน" คำพูดของผู้หญิงคนนั้นทำให้อายาโกะสติขาดผึงไปทันที เด็กสาวหันหลังกลับก่อนจะเดินออกมาจากที่ตรงนั้น...จากเพื่อนทรยศของเธอ ผู้อยู่เคียงข้างเสมอในตอนที่เธอเป็นมิตสึโกะคนใหม่ เพื่อนสารเลวของเธอ...สมควรจะตายไปซะให้พ้นๆ ไม่ใช่เพราะการฆ่าตัวตาย แต่จะเป็นด้วยน้ำมือของเธอเอง มิตสึโกะจะไม่มีวันฟื้นคืนขึ้นมาอีก รวมทั้งลัทธินั่นด้วย!
ในเย็นวันนั้นเกิดระเบิดขึ้นครั้งใหญ่ที่โรงเรียนของอายากะ ทุกคนในโรงเรียนเสียชีวิตไปมากกว่า 2 ใน 3 และบาดเจ็บอีกนับสิบ คาดคะเนว่าเป็นการลอบวางระเบิดก่อการร้าย แต่ยังไม่ทราบสาเหตุและผู้กระทำที่แน่ชัด มีเพียงไม่กี่สิบคนที่รอดออกมาจากเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งนั้นได้ โรงเรียนนั้นถูกฟื้นฟูขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ทว่าไร้ชื่อ 'นิโนมิยะ อายาโกะ' อยู่ในนั้น...อายากะถูกส่งตัวไปยังประเทศไทย ประเทศที่ห่างไกลเงื้อมมือของตำรวจที่ญี่ปุ่น ลุงส่งเธอมาให้ใช้ชีวิตใหม่ในบ้านหลังใหญ่ พร้อมด้วยเงินมากมาย เด็กสาวได้เข้าเรียนที่โรงเรียนใหม่ พบกับเพื่อนใหม่ เธอคาดหวังเล็กๆ ว่าอาจจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่น ทว่าไม่ใช่เลย...เมื่อเธอได้พบกับชายหนุ่มข้างบ้านคนนั้นที่มีชื่อว่า 'โทมะ' เธอหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบ โทมะเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา อบอุ่น และแสนใจดี ยิ่งอายากะได้พูดคุยและสนิทกับเขามากเท่าใด ความรักใคร่ก็ยิ่งพอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น โดยไม่รู้ตัว หญิงสาวค่อยๆ ตามสตอล์กเกอร์โทมะแทบทุกฝีเท้า เก็บเอาของที่เขาไม่ใช้แล้วมาดอมดมและเก็บรักษาไว้ ในบางครั้งถึงกลับเข้าไปที่ห้องของเขาเวลาที่เจ้าตัวไม่อยู่ และไปขโมยของใช้เล็กๆ น้อยๆ ของเขามาซ่อนไว้ในห้องของตนเอง อายากะมีความสุขกับสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ นี้ ทว่ามันก็ต้องพังทลายลงทันทีทันใดเพราะวันหนึ่ง เขาพาหญิงสาวอีกคนมาที่ห้องของเขา...
สติของเธอขาดผึงลงอีกครั้ง และอีกไม่นานนั้น ชายหนุ่มนามโทมะก็กลายเป็นศพด้วยฝีมือของเธอหลังจากกักขังเขาไว้ในบ้านนานมากกว่าห้าวัน เล็บและเส้นผมรวมไปถึงชิ้นเนื้อถูกเก็บไว้เป็นอย่างดีมิให้ผู้ใดล่วงรู้ความลับอันน่าสะพรึงนี้ อายากะจัดการทุกอย่างหมดสิ้น ที่ฆ่าเขาไม่ใช่เพราะรัก...ทว่าเพราะอยากจะเก็บเขาเอาไว้ข้างๆ เธอเพียงเท่านั้น ข้าวของเครื่องใช้ของชายหนุ่มถูกขนมาไว้ที่บ้านของเธอ เก็บไว้เป็นอย่างดี...ตลอดกาล
เพื่อนร่วมห้องที่ชื่อ 'เจน' เป็นศพรายต่อไปของอายากะ หากจะถามสาเหตุที่ฆ่างั้นหรือ ? เธอเองก็มิอาจล่วงรู้ได้เช่นกัน รู้แต่เพียงก่อนที่สติของเธอจะขาดสะบั้นลงนั้น ยัยนั่นพ่นคำเน่าๆ ออกมาจากปากมากมายจนเธอทนไม่ไหว...ใช้มีดแทนซ้ำๆ ลงไปตามผิวอวบอ้วนนั่นจนไขมันไหลทะลักออกมา คาวเลือดอุ่นๆ กระจายเปรอะเปื้อนใบหน้า...ยัยเจนจะไม่มีวันได้ฟื้นขึ้นมาปากมากอีก ตายไปพร้อมๆ กับแสงสาดส่องจากสปอร์ตไลท์ของการแสดงละครซะเถอะ ให้เขาได้ดู...ว่าเธอมันน่าขยะแขยงขนาดไหน!
NEYNE: BLOMMA
ความคิดเห็น