ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality Season 6 :: สยองขวัญเกาะเงาผีเสื้อ ::

    ลำดับตอนที่ #64 : Day 1 .:: ล้ำเส้น ::.

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 318
      0
      11 เม.ย. 54

    REALITY SEASONS 6

    สยองขวัญเกาะเงาผีเสื้อ

    WEEK 2,Days 1

                   

    สายลมอ่อน ๆ พัดให้กิ่งตาลโบกสะบัดไปมาตามแรงธรรมชาติ สัตว์ป่าเริ่มส่งเสียงร้องออกมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติที่สมบูรณ์ ดอกไม้เริ่มผลิดอกออกมาจากก้านใบ เกาะเงาผีเสื้อทั้งเกาะเล็กและเกาะใหญ่ ทุกชีวิตต่างดำเนินภารกิจเฉกเช่นชีวิตประจำวันอย่างที่พวกมันเคยทำ หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีการเล่นเกมรวบรวมนักล่าเงินรางวัลให้ครบคนซึ่งตอนนี้เราได้มาแล้วทั้ง 11 คน 10R ปาร์ตี้เล็ก ๆ ถูกจัดขึ้นมาต้อนรับรุ่นใหม่ด้วยฝีมือการทำอาหารของบรรดารุ่นพี่จากซีซั่นก่อน ๆ ปาร์ตี้เกิดขึ้นบนเกาะอย่างสนุกสนานเพราะทุกชีวิตอยู่กันครบ และต่อจากนี้ไป นับตั้งแต่นาทีนี้ พวกเขาจะเข้าสู่การแข่งขันของจริงเสียที .... ความสนุกที่แท้จริงมันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ...

     

    แชะ!!

     

    ปลายนิ้วยาวสวยลั่นชัตเตอร์อยู่ใต้ต้นไม้ เบื้องหน้าของเธอคือธรรมชาติของท้องทะเลที่สันคลื่นพลิ้วไหวไปมาตามแรงลมทะเล ตอนนี้เป็นเวลาเช้า เหมาะมากกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและสายลม เด็กสาวนั่งชันเข่าอยู่ใต้ต้นตาลก่อนที่จะกดดูภาพถ่ายเก่า ๆ ที่ยังคาอยู่ที่ตัวกล้อง DSLR ส่วนกลุ่มสาว ๆ อีกสองสามคนก็ง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าโดยการจุดไฟและทำครัวกันเองเพราะทางรายการส่งเสบียงมาให้ทางเฮลิคอปเตอร์เมื่อวานนี้ เธอไม่ถนัดกับการทำอาหารจึงเลี่ยงที่จะมานั่งถ่ายภาพซึ่งเป็นสิ่งที่เธอถนัดมากกว่า

     

    “มานั่งทำอะไรเงียบ ๆ คนเดียวตรงนี้เหรอ?” เด็กหนุ่มขี้โรคเอ่ยทักทายเธอก่อนที่จะมานั่งข้าง ๆ

     

    “เพิ่งจะถ่ายรูปเสร็จน่ะ ... เลยมานั่งรับลมซักหน่อย” ปากก็พูด แต่มือก็ยังคงเลื่อนดูภาพที่ถ่ายมาเมื่อครู่ นอกจากยังมีภาพของธรรมชาติจากทะเลแล้ว ภาพเก่า ๆ ที่ยังคงค้างกล้องอยู่ก็ปรากฏรูปใบหนึ่งที่เธอจำได้ดีว่าบุคคลในภาพนั้นเป็นใคร

     

    “พวกซีซั่นที่แล้วสินะ” เบียร์เอ่ยเบา ๆ เพราะสายตากลับเหลือบไปเห็นภาพถ่ายโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ

     

    “ใช่แล้วล่ะ ... กล้องนี้เป็นของยัยรันเวย์ น้องสาวของฉันจากซีซั่นที่แล้ว ... เธอเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปเหมือนกับฉัน แต่นิสัยฉันกับยัยนั่นไม่เหมือนกันเลย ... เวย์เลือกที่จะเงียบในขณะที่ฉันเลือกที่จะเถียงถ้ามันเป็นเรื่องจริง ....”

     

    “พี่น้องกันไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมดทุกอย่างหรอกนะครับ ว่าไหม?” เบียร์มองหน้าของแอมเวย์สลับกับท้องทะเลยามเช้าที่พระอาทิตย์เริ่มโผล่ขึ้นมาจากท้องฟ้า

     

    “ขอตัวนะ ... ฉันอยากจะเดินถ่ายรูปแถวนี้อีกสักหน่อย ....” เธอพูดก่อนที่จะส่งยิ้มให้เด็กหนุ่ม สายตาเริ่มมองไปรอบๆ เพื่อหามุมดีดีถ่ายรูป และเธอก็เจอเข้ากับพี่น้องคู่หนึ่งที่กำลังนั่งตกปลาอยู่ไม่ห่างนัก

     

    “ถ้าวันนี้ยิ้มไม่ได้กินปลานะ ... ยิ้มจะกัดหูพี่ให้ขาดเลยสิคอยดู!” ผู้เป็นน้องนั่งอ้อนพี่ชายอยู่ข้าง ๆ มือทั้งสองของเธอยังคงเขย่าแขนของพี่ไปมา

     

    “เธอมัวแต่เขย่าแขนพี่อยู่อย่างนี้ เบ็ดสะบัดปลาก็หนีหมดเซ่ ... โธ่!” เด็กหนุ่มสบถเบา ๆ ก่อนที่จะเริ่มแกะแขนน้องออก เธอไม่พลาดที่จะถ่ายช๊อตน่ารัก ๆ แบบนี้เก็บไว้ในกล้อง ภาพประทับใจแบบนี้หาดูได้ยากมากในสังคมสมัยนี้ ... ที่มีการแก่งแย่งชิงดีกัน หลังจากที่เธอได้รูปถ่ายที่เธอต้องการ เธอก็หันไปหามุมสวยมุมอื่นเพื่อเก็บภาพยามเช้าของเธอกับธรรมชาติของเกาะเงาผีเสื้อ

     

    ทุกคนทำกิจกรรมของตัวเองไม่เว้นแม้แต่สองสาว ขิมและม่าน สองคนนี้ดูท่าว่าจะถูกคอกันดีเพราะทั้งขิมและม่านเป็นคนที่สุภาพเรียบร้อยและเหมาะสมกับการเป็นกุลสตรีไทยทั้งคู่ แต่พวกเธอก็ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว ม่านจะมีน้อยกว่าขิมตรงที่ขิมเป็นคนที่ดูเชยกว่าม่าน ในเรื่องของความถนัดเองก็เช่นกัน ม่านเป็นคนที่รู้เรื่องยาและสมุนไพรได้ดีกว่าขิมในขณะที่ขิมเองสามารถเล่นดนตรีไทยได้เพราะมาก แต่สิ่งที่เหมือนกันคือคำพูดคำจาของทั้งสองถือว่าเป็นคนพูดเพราะมาก ทั้งสองกำลังนั่งเคี่ยวข้าวต้มหมูสับอยู่ข้าง ๆ ที่พักของพวกเขาโดยที่ซันเป็นคนจุดไฟให้ตามคำขอของทั้งคู่ เพราะซันเป็นคนเดียวที่พกอุปกรณ์จุดไฟมาด้วย

     

    ทางด้านของฝาแฝดยูริน จินนา ธัญญ์และซันเองก็เดินสำรวจรอบ ๆ เกาะเงาผีเสื้อเล็กเพื่อศึกษาสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ในการปรับใช้ชีวิตตลอดทั้งซีซั่นนี้พวกเขาทั้งสิบเอ็ดคนต้องนอนอยู่ที่นี่ ยูรินพยายามศึกษาสิ่งสภาพแวดล้อมโดยรอบในขณะที่จินนาและซันเองก็เปิดอ่านหนังสือเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบ ๆ เกาะนี้

     

    “ปลาที่มันชนเราเมื่อวานน่าจะเป็นปลาปากห่าง ... เป็นปลาที่หวงถิ่นแต่ไม่ทำอะไรเรานอกจากขู่ ประหลาดแฮะ ชื่อปลาพวกนี้” ซันยืนอ่านรายละเอียดของปลาที่ทำให้เรือของพวกเขาล่มไม่เป็นท่าก่อนจะถือท่าเรือของเกาะผีเสื้อเล็ก

     

    “จะว่าไปแล้วที่นี่มันก็อันตรายทั้งบนบกและในน้ำเลยสินะ .. มีอะไรที่จะทำอันตรายเราตอนทีเผลอได้อีกไหมเนี่ย ... อยู่ที่นี่ไม่ต่างอะไรกับสนามรบเลยนะ” ธัญญ์บ่นอุบอิบก่อนที่จะเดินเกาหัวไปพลันมองธรรมชาติที่อยู่รอบ ๆ เกาะเพื่อฆ่าเวลาให้อาหารของสองสาวเสร็จ

     

    เพียงไม่นานนักอาหารฝีมือของขิมและม่านก็เสร็จเรียบร้อย กลิ่นหอมของข้าวต้มหมูมื้อเช้าส่งกลิ่นไปทั่งทั้งเกาะ แน่นอนว่าไม่ต้องเรียก พวกเขาทั้งหมดก็เดินมาตามกลิ่นอยู่แล้ว

     

    จมูกไวกันจริง ....

     

    ขิมและม่านทำหน้าที่ตักอาหารใส่ถ้วย ซีซั่นนี้เป็นซีซั่นที่ผู้เข้าแข่งขันต้องมาใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติจริง ๆ ไม่มีบ้านไม่มีหลังคาให้นอกจากเต็นท์ประจำตัวของแต่ละคน โต๊ะกินข้าวหรือทีวียังไม่มีเลยด้วยซ้ำ ยังดีที่ทางรายการยังใจดีสร้างห้องน้ำเอาไว้ให้ด้วย ไม่อย่างนั้นคงไม่ต่างอะไรกับว่าพวกเขาติดเกาะเลย ....

     

    “สงสัยงบของเรียลลิตี้จะหมดล่ะมั้งเลยไม่สร้างบ้านให้เราอยู่เหมือนซีซั่นก่อน ๆ ... ขี้ตืดชะมัด --!” ตักอาหารเข้าไปหนึ่งคำ ลัคกี้ก็พูดออกมาหนึ่งคำ

     

    “มันคือเรียลลิตี้ ... เราต้องทำทุกอย่างให้มันสมจริงเข้าไว้ ดูสิ กล้องแต่ละตัวกำลังจับตาดูพวกเราอยู่นี่ ... ” ม่านพูดก่อนที่จะชี้มือชี้ไม้ไปยังกล้องวงจรปิดที่อยู่บนยอดไม้นั้น

     

    “แล้วต้องปั้นหน้าสวยด้วยหรือเปล่าเนี่ย” ลักยิ้มไม่วายหลุดหัวเราะออกมา

     

    “ไม่ต้องปั้นหน้าพวกเราก็สวยเช้งอยู่แล้ว จริงไหม?” จินนาก็เออออไปกับเด็กสาวอีกคนหนึ่งด้วยเช่นกัน

     

    “ว่าแต่ ... แอมเวย์หายไปไหนนะ เมื่อกี้ยังเห็นเดินถ่ายรูปอยู่เลย” เบียร์เพิ่งนึกขึ้นได้ เขาเริ่มมองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววของเด็กสาวผมทองอยู่เลย

     

    “หายไปไหนของเขานะ ....” จูเนียร์เสริม

     

    “ฉันว่าคงไปถ่ายรูปอยู่แถวนี้แหล่ะ ถ้ามีใครสักคนไปตามก็คงดีสิเนอะ ....” ซันเอ่ยลอย ๆ ก่อนที่จะกินหมูก้อนโตเข้าไป

     

    เขาพยายามพูดสะกิดให้ใครบางคนลุกไปตามหาเด็กสาวได้แล้ว แล้วมันก็ได้ผล ธัญญ์อาสาเป็นคนไปตามแอมเวย์กลับมากินข้าวที่เหลือเพียงนิดเดียวของเขา

     

    “รีบมานะ ไม่งั้นฉันจะแย่งข้าวต้มอร่อย ๆ ของแม่นั่นแน่ คอยดู ๆ ๆ ” จูเนียร์แซวเด็กหนุ่มทิ้งท้ายก่อนที่จะเก็บรวบรวมจานเพื่อไปล้างที่โรงล้างจานที่ทางรายการได้ทำเอาไว้ให้ ซันและยูรินยกหม้อข้าวต้มเข้าโรงล้างจานก่อนที่สาว ๆ จะเก็บรายละเอียดที่เหลือ

     

    แสงแดดเริ่มสาดส่องเข้ามาในหมู่แมกไม้ เด็กสาวถือกล้อง DSLR ชมธรรมชาติรอบเกาะ ผ่านถ้ำหินขาวออกมายังเกาะเงาผีเสื้อโดยที่ไม่รู้ตัวว่าเธอเดินมาไกลกว่าที่เธอคิดไว้ ... แน่นอนว่าเธอเดินล้ำเส้นสีแดงซึ่งเป็นอาณาเขตของการเล่นเกมออกไปแล้ว

     

    แชะ ... แชะ!

     

    มือตั้งปุ่มรัวชัตเตอร์เอาไว้ให้กดครั้งเดียวแล้วถ่ายต่ออัตโนมัติ เป็นโหมดพิเศษและความสามารถของกล้องตัวนี้ รูปผืนป่าทึบที่เธอไว้ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางของเธอและพ้องเพื่อนได้ดีเลยทีเดียว ท่ามกลางธรรมชาติของเกาะและเสียงนกร้องเป็นท่วงทำนอง หากแต่ว่า ...

     

    มีบางอย่างแฝงกายอยู่ในพุ่มไม้และรอคอยการมาเยือนของเหยื่ออยู่เงียบ ๆ

     

    สวบ!

     

    พุ่มไม้ด้านข้างของหล่อนสั่นไปมาก่อนที่จะหยุด ตามสัญชาติญาณ เธอหันไปมองที่พุ่มไม้นั้น แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีตัวอะไรออกมา

     

    “หูแว่วไปเองหรือไงนะ” เธอส่ายหัวก่อนที่จะเดินกลับไป แต่หากในตอนนั้นเองกลับมีมือของใครบางคนที่เต็มไปด้วยรอยสักสีแดงกระชากท่อนแขนของเธออย่างแรงจนร่างของเธอถูกเหวี่ยงเข้าหามัน

     

    “กรี๊ดดดดดดดด!!!” เสียงกรีดร้องของเธอดังขึ้นก่อนที่กล้อง DSLR จะล่วงลงพื้นในสภาพที่ว่า ปุ่มลั่นชัตเตอร์กระแทกกับพื้น

     

    แชะ ... แชะ ... แชะ!!

     

    กล้องเริ่มระรัวกดเองอย่างอัตโนมัติ และแน่นอนว่ามันกำลังบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้านั้นเอาไว้แล้ว หล่อนพยายามดิ้นรนให้พ้นเงื้อมมือของใครบางคนที่กำลังจะจับเธอ แวบแรกที่เธอเห็น

     

    ผู้ชายคนนั้น .... มีรอยสักสีแดงรูปผีเสื้อเต็มตัวไปหมด!!

     

    TO BE CONTINUE ……


    nu eng

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×