คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #64 : Day 1 .:: ล้ำเส้น ::.
REALITY SEASONS 6
สยองขวัญเกาะเงาผีเสื้อ
WEEK 2,Days 1
สายลมอ่อน ๆ พัดให้กิ่งตาลโบกสะบัดไปมาตามแรงธรรมชาติ สัตว์ป่าเริ่มส่งเสียงร้องออกมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติที่สมบูรณ์ ดอกไม้เริ่มผลิดอกออกมาจากก้านใบ เกาะเงาผีเสื้อทั้งเกาะเล็กและเกาะใหญ่ ทุกชีวิตต่างดำเนินภารกิจเฉกเช่นชีวิตประจำวันอย่างที่พวกมันเคยทำ หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีการเล่นเกมรวบรวมนักล่าเงินรางวัลให้ครบคนซึ่งตอนนี้เราได้มาแล้วทั้ง 11 คน 10R ปาร์ตี้เล็ก ๆ ถูกจัดขึ้นมาต้อนรับรุ่นใหม่ด้วยฝีมือการทำอาหารของบรรดารุ่นพี่จากซีซั่นก่อน ๆ ปาร์ตี้เกิดขึ้นบนเกาะอย่างสนุกสนานเพราะทุกชีวิตอยู่กันครบ และต่อจากนี้ไป นับตั้งแต่นาทีนี้ พวกเขาจะเข้าสู่การแข่งขันของจริงเสียที .... ความสนุกที่แท้จริงมันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ...
แชะ!!
ปลายนิ้วยาวสวยลั่นชัตเตอร์อยู่ใต้ต้นไม้ เบื้องหน้าของเธอคือธรรมชาติของท้องทะเลที่สันคลื่นพลิ้วไหวไปมาตามแรงลมทะเล ตอนนี้เป็นเวลาเช้า เหมาะมากกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและสายลม เด็กสาวนั่งชันเข่าอยู่ใต้ต้นตาลก่อนที่จะกดดูภาพถ่ายเก่า ๆ ที่ยังคาอยู่ที่ตัวกล้อง DSLR ส่วนกลุ่มสาว ๆ อีกสองสามคนก็ง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าโดยการจุดไฟและทำครัวกันเองเพราะทางรายการส่งเสบียงมาให้ทางเฮลิคอปเตอร์เมื่อวานนี้ เธอไม่ถนัดกับการทำอาหารจึงเลี่ยงที่จะมานั่งถ่ายภาพซึ่งเป็นสิ่งที่เธอถนัดมากกว่า
“มานั่งทำอะไรเงียบ ๆ คนเดียวตรงนี้เหรอ?” เด็กหนุ่มขี้โรคเอ่ยทักทายเธอก่อนที่จะมานั่งข้าง ๆ
“เพิ่งจะถ่ายรูปเสร็จน่ะ ... เลยมานั่งรับลมซักหน่อย” ปากก็พูด แต่มือก็ยังคงเลื่อนดูภาพที่ถ่ายมาเมื่อครู่ นอกจากยังมีภาพของธรรมชาติจากทะเลแล้ว ภาพเก่า ๆ ที่ยังคงค้างกล้องอยู่ก็ปรากฏรูปใบหนึ่งที่เธอจำได้ดีว่าบุคคลในภาพนั้นเป็นใคร
“พวกซีซั่นที่แล้วสินะ” เบียร์เอ่ยเบา ๆ เพราะสายตากลับเหลือบไปเห็นภาพถ่ายโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
“ใช่แล้วล่ะ ... กล้องนี้เป็นของยัยรันเวย์ น้องสาวของฉันจากซีซั่นที่แล้ว ... เธอเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปเหมือนกับฉัน แต่นิสัยฉันกับยัยนั่นไม่เหมือนกันเลย ... เวย์เลือกที่จะเงียบในขณะที่ฉันเลือกที่จะเถียงถ้ามันเป็นเรื่องจริง ....”
“พี่น้องกันไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมดทุกอย่างหรอกนะครับ ว่าไหม?” เบียร์มองหน้าของแอมเวย์สลับกับท้องทะเลยามเช้าที่พระอาทิตย์เริ่มโผล่ขึ้นมาจากท้องฟ้า
“ขอตัวนะ ... ฉันอยากจะเดินถ่ายรูปแถวนี้อีกสักหน่อย ....” เธอพูดก่อนที่จะส่งยิ้มให้เด็กหนุ่ม สายตาเริ่มมองไปรอบๆ เพื่อหามุมดีดีถ่ายรูป และเธอก็เจอเข้ากับพี่น้องคู่หนึ่งที่กำลังนั่งตกปลาอยู่ไม่ห่างนัก
“ถ้าวันนี้ยิ้มไม่ได้กินปลานะ ... ยิ้มจะกัดหูพี่ให้ขาดเลยสิคอยดู!” ผู้เป็นน้องนั่งอ้อนพี่ชายอยู่ข้าง ๆ มือทั้งสองของเธอยังคงเขย่าแขนของพี่ไปมา
“เธอมัวแต่เขย่าแขนพี่อยู่อย่างนี้ เบ็ดสะบัดปลาก็หนีหมดเซ่ ... โธ่!” เด็กหนุ่มสบถเบา ๆ ก่อนที่จะเริ่มแกะแขนน้องออก เธอไม่พลาดที่จะถ่ายช๊อตน่ารัก ๆ แบบนี้เก็บไว้ในกล้อง ภาพประทับใจแบบนี้หาดูได้ยากมากในสังคมสมัยนี้ ... ที่มีการแก่งแย่งชิงดีกัน หลังจากที่เธอได้รูปถ่ายที่เธอต้องการ เธอก็หันไปหามุมสวยมุมอื่นเพื่อเก็บภาพยามเช้าของเธอกับธรรมชาติของเกาะเงาผีเสื้อ
ทุกคนทำกิจกรรมของตัวเองไม่เว้นแม้แต่สองสาว ขิมและม่าน สองคนนี้ดูท่าว่าจะถูกคอกันดีเพราะทั้งขิมและม่านเป็นคนที่สุภาพเรียบร้อยและเหมาะสมกับการเป็นกุลสตรีไทยทั้งคู่ แต่พวกเธอก็ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว ม่านจะมีน้อยกว่าขิมตรงที่ขิมเป็นคนที่ดูเชยกว่าม่าน ในเรื่องของความถนัดเองก็เช่นกัน ม่านเป็นคนที่รู้เรื่องยาและสมุนไพรได้ดีกว่าขิมในขณะที่ขิมเองสามารถเล่นดนตรีไทยได้เพราะมาก แต่สิ่งที่เหมือนกันคือคำพูดคำจาของทั้งสองถือว่าเป็นคนพูดเพราะมาก ทั้งสองกำลังนั่งเคี่ยวข้าวต้มหมูสับอยู่ข้าง ๆ ที่พักของพวกเขาโดยที่ซันเป็นคนจุดไฟให้ตามคำขอของทั้งคู่ เพราะซันเป็นคนเดียวที่พกอุปกรณ์จุดไฟมาด้วย
ทางด้านของฝาแฝดยูริน จินนา ธัญญ์และซันเองก็เดินสำรวจรอบ ๆ เกาะเงาผีเสื้อเล็กเพื่อศึกษาสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ในการปรับใช้ชีวิตตลอดทั้งซีซั่นนี้พวกเขาทั้งสิบเอ็ดคนต้องนอนอยู่ที่นี่ ยูรินพยายามศึกษาสิ่งสภาพแวดล้อมโดยรอบในขณะที่จินนาและซันเองก็เปิดอ่านหนังสือเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบ ๆ เกาะนี้
“ปลาที่มันชนเราเมื่อวานน่าจะเป็นปลาปากห่าง ... เป็นปลาที่หวงถิ่นแต่ไม่ทำอะไรเรานอกจากขู่ ประหลาดแฮะ ชื่อปลาพวกนี้” ซันยืนอ่านรายละเอียดของปลาที่ทำให้เรือของพวกเขาล่มไม่เป็นท่าก่อนจะถือท่าเรือของเกาะผีเสื้อเล็ก
“จะว่าไปแล้วที่นี่มันก็อันตรายทั้งบนบกและในน้ำเลยสินะ .. มีอะไรที่จะทำอันตรายเราตอนทีเผลอได้อีกไหมเนี่ย ... อยู่ที่นี่ไม่ต่างอะไรกับสนามรบเลยนะ” ธัญญ์บ่นอุบอิบก่อนที่จะเดินเกาหัวไปพลันมองธรรมชาติที่อยู่รอบ ๆ เกาะเพื่อฆ่าเวลาให้อาหารของสองสาวเสร็จ
เพียงไม่นานนักอาหารฝีมือของขิมและม่านก็เสร็จเรียบร้อย กลิ่นหอมของข้าวต้มหมูมื้อเช้าส่งกลิ่นไปทั่งทั้งเกาะ แน่นอนว่าไม่ต้องเรียก พวกเขาทั้งหมดก็เดินมาตามกลิ่นอยู่แล้ว
จมูกไวกันจริง ....
ขิมและม่านทำหน้าที่ตักอาหารใส่ถ้วย ซีซั่นนี้เป็นซีซั่นที่ผู้เข้าแข่งขันต้องมาใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติจริง ๆ ไม่มีบ้านไม่มีหลังคาให้นอกจากเต็นท์ประจำตัวของแต่ละคน โต๊ะกินข้าวหรือทีวียังไม่มีเลยด้วยซ้ำ ยังดีที่ทางรายการยังใจดีสร้างห้องน้ำเอาไว้ให้ด้วย ไม่อย่างนั้นคงไม่ต่างอะไรกับว่าพวกเขาติดเกาะเลย ....
“สงสัยงบของเรียลลิตี้จะหมดล่ะมั้งเลยไม่สร้างบ้านให้เราอยู่เหมือนซีซั่นก่อน ๆ ... ขี้ตืดชะมัด --!” ตักอาหารเข้าไปหนึ่งคำ ลัคกี้ก็พูดออกมาหนึ่งคำ
“มันคือเรียลลิตี้ ... เราต้องทำทุกอย่างให้มันสมจริงเข้าไว้ ดูสิ กล้องแต่ละตัวกำลังจับตาดูพวกเราอยู่นี่ ... ” ม่านพูดก่อนที่จะชี้มือชี้ไม้ไปยังกล้องวงจรปิดที่อยู่บนยอดไม้นั้น
“แล้วต้องปั้นหน้าสวยด้วยหรือเปล่าเนี่ย” ลักยิ้มไม่วายหลุดหัวเราะออกมา
“ไม่ต้องปั้นหน้าพวกเราก็สวยเช้งอยู่แล้ว จริงไหม?” จินนาก็เออออไปกับเด็กสาวอีกคนหนึ่งด้วยเช่นกัน
“ว่าแต่ ... แอมเวย์หายไปไหนนะ เมื่อกี้ยังเห็นเดินถ่ายรูปอยู่เลย” เบียร์เพิ่งนึกขึ้นได้ เขาเริ่มมองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววของเด็กสาวผมทองอยู่เลย
“หายไปไหนของเขานะ ....” จูเนียร์เสริม
“ฉันว่าคงไปถ่ายรูปอยู่แถวนี้แหล่ะ ถ้ามีใครสักคนไปตามก็คงดีสิเนอะ ....” ซันเอ่ยลอย ๆ ก่อนที่จะกินหมูก้อนโตเข้าไป
เขาพยายามพูดสะกิดให้ใครบางคนลุกไปตามหาเด็กสาวได้แล้ว แล้วมันก็ได้ผล ธัญญ์อาสาเป็นคนไปตามแอมเวย์กลับมากินข้าวที่เหลือเพียงนิดเดียวของเขา
“รีบมานะ ไม่งั้นฉันจะแย่งข้าวต้มอร่อย ๆ ของแม่นั่นแน่ คอยดู ๆ ๆ ” จูเนียร์แซวเด็กหนุ่มทิ้งท้ายก่อนที่จะเก็บรวบรวมจานเพื่อไปล้างที่โรงล้างจานที่ทางรายการได้ทำเอาไว้ให้ ซันและยูรินยกหม้อข้าวต้มเข้าโรงล้างจานก่อนที่สาว ๆ จะเก็บรายละเอียดที่เหลือ
แสงแดดเริ่มสาดส่องเข้ามาในหมู่แมกไม้ เด็กสาวถือกล้อง DSLR ชมธรรมชาติรอบเกาะ ผ่านถ้ำหินขาวออกมายังเกาะเงาผีเสื้อโดยที่ไม่รู้ตัวว่าเธอเดินมาไกลกว่าที่เธอคิดไว้ ... แน่นอนว่าเธอเดินล้ำเส้นสีแดงซึ่งเป็นอาณาเขตของการเล่นเกมออกไปแล้ว
แชะ ... แชะ!
มือตั้งปุ่มรัวชัตเตอร์เอาไว้ให้กดครั้งเดียวแล้วถ่ายต่ออัตโนมัติ เป็นโหมดพิเศษและความสามารถของกล้องตัวนี้ รูปผืนป่าทึบที่เธอไว้ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางของเธอและพ้องเพื่อนได้ดีเลยทีเดียว ท่ามกลางธรรมชาติของเกาะและเสียงนกร้องเป็นท่วงทำนอง หากแต่ว่า ...
มีบางอย่างแฝงกายอยู่ในพุ่มไม้และรอคอยการมาเยือนของเหยื่ออยู่เงียบ ๆ
สวบ!
พุ่มไม้ด้านข้างของหล่อนสั่นไปมาก่อนที่จะหยุด ตามสัญชาติญาณ เธอหันไปมองที่พุ่มไม้นั้น แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีตัวอะไรออกมา
“หูแว่วไปเองหรือไงนะ” เธอส่ายหัวก่อนที่จะเดินกลับไป แต่หากในตอนนั้นเองกลับมีมือของใครบางคนที่เต็มไปด้วยรอยสักสีแดงกระชากท่อนแขนของเธออย่างแรงจนร่างของเธอถูกเหวี่ยงเข้าหามัน
“กรี๊ดดดดดดดด!!!” เสียงกรีดร้องของเธอดังขึ้นก่อนที่กล้อง DSLR จะล่วงลงพื้นในสภาพที่ว่า ปุ่มลั่นชัตเตอร์กระแทกกับพื้น
แชะ ... แชะ ... แชะ!!
กล้องเริ่มระรัวกดเองอย่างอัตโนมัติ และแน่นอนว่ามันกำลังบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้านั้นเอาไว้แล้ว หล่อนพยายามดิ้นรนให้พ้นเงื้อมมือของใครบางคนที่กำลังจะจับเธอ แวบแรกที่เธอเห็น
ผู้ชายคนนั้น .... มีรอยสักสีแดงรูปผีเสื้อเต็มตัวไปหมด!!
TO BE CONTINUE
nu eng
ความคิดเห็น