ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality Season 6 :: สยองขวัญเกาะเงาผีเสื้อ ::

    ลำดับตอนที่ #57 : Day 4 .:: ดินแดนผีเสื้อไผ่ ::.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 397
      0
      7 เม.ย. 54




    REALITY SEASONS 6

    สยองขวัญเกาะเงาผีเสื้อ

    WEEK 1,Days 4

     



    ทั้งสองสาว จินนาและขิม เดินทางผ่านมาจากจุดแรกในแผนที่ซึ่งตรงจุดนั้นขิมเองคือผู้เข้าแข่งขันที่จินนาช่วยอาไว้ได้ทันก่อนที่จะจมหายไปกับน้ำทะเล เด็กสาวผู้มาใหม่ได้แต่เดินรั้งท้าย ไม่พูดไม่จาเหมือนกับว่าจินนาเดินมาเพียงคนเดียวยังไงยังงั้นล่ะ

     

    “จริงด้วยสิ!” จู่ ๆ เด็กสาวก็โพล่งขึ้นมาเสียงดังก่อนที่จะหันกลับมา เล่นเอาขิมเองก็ตกใจอยู่ไม่น้อย

     

    “พี่ดัฟบอกกับพวกเราว่าที่ตัวของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะมีกระดาษเกี่ยวกับพันธุ์ผีเสื้อคนละแผ่น ฉันว่าเธอต้องมีติดตามเอาไว้แน่ๆ” เธอมอง

     

    เหมือนกับว่าเด็กสาวจะนึกออก เธอรีบเปิดกระเป้ก่อนที่จะนำกระดาษแผ่นสีน้ำตาลเก่า ๆ ออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับยื่นให้เธอ เธอรับมันว่าก่อนที่จะคลี่ออกกระดาษแผ่นนั้น

     

    “ผีเสื้อไผ่ ... ผีเสื้อที่รักสันโดษ มักจะใช้กอไผ่สูงเป็นที่ทำรังและที่พักอาศัย ลำตัวเล็กแต่ปีกแข็งแรงราวใบมีด เมื่อเกิดการรบกวนจากผู้ล่า ฝูงผีเสื้อจะพร้อมใจกันบินโฉบเพื่อสร้างบาดแผล เป็นการขู่ให้ศัตรูกลัวและหนีไปเท่านั้น” เธออ่านข้อความในกระดาษแผ่นนั้น

     

    “น่ากลัวอยู่เหมือนกันนะคะ ผีเสื้อที่นี่” ขิมกลืนน้ำลายก่อนที่จะมองไปรอบ ๆ ป่าสีเขียวทึบบนเกาะเงาผีเสื้อ มีเพียงผีเสื้อสีขาวที่บินไปมาอยู่ตามกิ่งไม้และบรรดาบ่างที่กระโดดไปมา ยืนดูการเคลื่อนไหวของคนทั้งสองอย่างเงียบ ๆ ขณะเดียวกัน จินนาเองก็คว้าเอากระดาษอีกแผ่นออกมาจากเป้

     

    “เอ๋? คุณเองก็มีกระดาษเหมือนกันหรือคะ”

     

    “ฉันก็เพิ่งเห็นเหมือนกัน ... ผีเสื้อไมยาราฟ ผีเสื้อที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยอะไรกับคน เป็นผีเสื้อสีขาวที่บินไปมาอยู่ตามกิ่งไม้เพื่อดูดเอาเซลล์ในต้นไม้มาหล่อเลี้ยงตัวเอง ทำให้ต้นไม้ที่โดนดูดไปจะเริ่มเหี่ยวเฉาลงและตายลงในที่สุด เป็นผีเสื้อกาฝาก เมื่อใดก็ตามที่เราไปยุ่งกับมัน มันก็จะเหมือนผึ้งแตกรังที่บินรบกวนเราไปตลอดทาง วิธีเดียวที่จะหยุดการเคลื่อนไหวคือการทำให้เกิดเสียงดัง เมื่อไมยาราฟได้ยินเสียงที่ดังมาก ๆ พวกมันจะร่วงลงพื้นดินและจะไม่ขยับจนกว่าเสียงนั้นจะเงียบหายไป ... ตลกดีเนอะ ผีเสื้อแบบนี้ก็มีด้วย” จินนาไม่วายหลุดหัวเราะออกมา

     

    “แล้วตอนนี้เราอยู่ที่ไหนกันแล้วค่ะเนี่ย?” ขิมถามเส้นทางกับเด็กสาว เพราะเธอไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเธอทั้งสองเดินทางมาถึงไหนแล้ว

     

    “เชื่อฉัน ตามฉันมาไม่หลุดเส้นทางแน่ ๆ แต่เท่าที่ฉันดู เหมือนเราจะเข้าใกล้จุดที่สองแล้วล่ะ” จินนามองดูแผนที่บนมือ

     

    สองสาวใช้เวลาในการผ่านจุดแรกด้วยเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ตอนนี้พระอาทิตย์ที่อยู่บนท้องฟ้าเริ่มส่องแสงเจิดจ้าออกและเดินทางมาอยู่ที่จุดกึ่งกลางของป่า เป็นที่รู้กันว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงตรงแล้ว หากแต่ว่าความชื้นและไอระเหยบวกกับร่มไม้ของหมู่แมกไม้ในเกาะเงาผีเสื้อกลับทำให้พวกเธอทั้งสองไม่รู้สึกว่ามันจะร้อนเลยสักนิดเดียว

     

    “นั่นไง!” จินนาตะโกนออกมาก่อนที่จะรีบวิ่งไปเบื้องหน้าปล่อยให้ขิมวิ่งตามไปโดยที่ไม่รูว่าเธอเห็นอะไรอยู่เบื้องหน้านั้น

     

    ตรงหน้าของเด็กสาวปรากฏลานกว้างที่ถูกปูด้วยพื้นหญ้าสีเขียวขจี รอบ ๆ ตัวมีต้นไม้สูงใหญ่สลับกับกอไผ่สูงที่ส่งเสียงเสียดสีกันอย่างไพเราะเวลาถูกลมพัด ไม่เพียงแค่นั้นที่พวกเธอเห็น ... ใต้ต้นไม้คู่ปรากฏร่างของชายหนุ่มสองคนที่ถูกมัดติดกับต้นไม้ทั้งสองต้น อีกทั้งยังมีเป้สะพายของพวกเขาทั้งสองคนถูกพิงไว้ที่โคนของต้นไม้สูงสองต้นนั้นอีกด้วย

     

    “พวกคุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ!” ขิมรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ตามตัวมีแต่เหงื่อไหล เสียงหายใจของเขาเริ่มดังสลับไปมาถี่ๆอย่างน่าเป็นห่วง

     

    “หมอนั่นกำลังจะตายน่ะสิ ถ้าพวกเธอไม่รีบช่วย มันได้ซี้แหงแก๋แน่ๆ” เด็กหนุ่มอีกคนพูดขึ้น หากแต่ว่าจินนากลับไม่ได้สนใจในคำพูดของเขาเลย เธอเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มก่อนที่จะดึงสมุดและกระดาษออกมาจากมือของเขาเพื่อดูว่าผีเสื้อในมือของเขาเป็นพันธุ์อะไร

     

    “เฮ้!” เด็กหนุ่มอีกคนพยายามเรียก

     

    “ผีเสื้อละอองเรณู ผีเสื้อที่ออกหากินเวลากลางคืน ลำตัวสีส้มบินไปมาอยู่เหนือความมืด หากโดนเกสรที่ตกลงมาจากปีของมันจะทำให้เราควบคุมตัวเองไม่ได้ เหมือนกันกับว่าละอองนั้นเป็นสารเฮโรอีกที่ทำให้ผู้ที่สูดดมคุ้มคลั่ง ... น่ากลัวแฮะ” จินนาอ่านรายละเอียดก่อนที่จะเก็บแผ่นผีเสื้อออกมารวบรวมใส่สมุดที่เธอเก็บได้ ในตอนนั้นเองที่เอก็เดินไปหยิบกระดาษจากมือของอีกคนมาเช่นกัน

     

    “ผีเสื้อจิงโจ้น้ำ มีวัฏจักรการเจริญพันธุ์เหมือนกับแมลงปอคือการฝังไข่ลงในน้ำ เมื่อลูกดักแด้ออกมาจากไข่ มันจะหากินอยู่ในน้ำจนกว่าจะกลายเป็นผีเสื้อ เลือดของสัตว์ทุกชนิดคือสิ่งที่มันใช้เป็นอาหาร”

     

    “นี่เธอ ... เธอต้องช่วยไอ้หมอนั่นก่อนนะ มันกำลังจะตายอยู่แล้ว!

     

    “พวกเราต้องทำยังไงบ้างคะ?” ขิมพูดเสียงสั่น เธอไม่เคยเห็นคนกำลังจะตายที่เริ่มหายใจรวยรินอยู่ตรงหน้า

     

     

    “สิ่งที่เธอต้องทำคือเธอต้องไปเอายาแก้หอบให้เจ้านั่น มันถูกแขวนไว้ที่กอไผ่ข้างทางเข้าที่เธอเพิ่งเข้ามา ไปเอามาให้มันก่อนที่มันจะไม่รอด!” เด็กหนุ่มพูดจาห่าม ๆ ออกมา แต่ขิมกลับรับฟังโดยที่ไม่ติอะไร

     

    “จินนา .. เราต้องช่วยผู้ชายคนนี้นะ!” ขิมหันมามองหน้าของจินนา เวลานี้เธอเป้นคนเดียวที่เข้มแข็งที่สุด

     

    หากแต่ว่าจินนากลับไม่ได้พูดอะไร เหมือนเธอกำลังจะใช้ความคิดอะไรสักอย่าง

     

    “จินนา!

     

    “.....”

     

    “ถ้าคุณไม่ไป ฉันจะไปเอง” สิ้นเสียงของเด็กสาวมารยาทดี เธอสะบัดผมก่อนที่จะวิ่งไปตามทางเพื่อตรงไปเอายาให้กับคนที่กำลังรอความช่วยเหลือจากเธอ ในตอนนั้นที่จินนาส่ายหัวก่อนที่จะรีบวิ่งไปแก้มัดให้เด็กหนุ่มคนหนึ่ง

     

    “ไม่แก้มัดชาติหน้าเลยล่ะ” เขาสบถ

     

    “ฉันต้องการให้นายช่วยน่ะสิ”

     

    “ช่วยอะไร?” เด็กหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง

     

    “ดูเหมือนว่าขิมจะลืมเรื่องที่ฉันบอกไปแล้วล่ะ ... ใช้อุปกรณ์ของนายให้เป็นประโยชน์ ฉันจะรอนายอยู่ตรงนี้ล่ะ” หลังจากที่แก้มัดเสร็จ เด็กหนุ่มมองหน้าของเด็กสาวอย่างฉงนใจก่อนที่จะหยิบดาบซามูไรออกมาจากเป้ ... มันเป็นของที่ตระกูลของเขาให้เอามาป้องกันตัวในเกาะที่แสนน่ากลัวแบบนี้

     

    อีกเพียงนิดเดียวเด็กสาวจะถึงกอไผ่ที่แขวนยาแก้หอบเอาไว้ ขณะที่มือขวากำลังจะคว้าเอายานั้นออกมา พลันความคิดของเธอก็แล่นเข้ามา ... คำพูดของจินนา

     

    ผีเสื้อไผ่ ... ผีเสื้อที่รักสันโดษ มักจะใช้กอไผ่สูงเป็นที่ทำรังและที่พักอาศัย ลำตัวเล็กแต่ปีกแข็งแรงราวใบมีด เมื่อเกิดการรบกวนจากผู้ล่า ฝูงผีเสื้อจะพร้อมใจกันบินโฉบเพื่อสร้างบาดแผล เป็นการขู่ให้ศัตรูกลัวและหนีไปเท่านั้น

     

    “ซวยแล้วสิ” เสียงสบถจากเด็กสาวดังขึ้น แต่ถึงอย่างไร มือเรียวยาวของเด็กสาวก็คว้ายาพ่นหอบก่อนที่จะกระชากออกมาจากกอไผ่ตามสัญชาติญาณเริ่มร้อยแล้ว

     

    วี้ ....

     

    เสียงแสบแก้วหูดังมาจากหอไผ่ก่อนที่ใบแผ่นจะเสียดสีไปมาอย่างน่ากลัว พลันบางสิ่งก็โผบินออกมา ปีกสีเทาเหลือบดำโบกสะบัดไปมาก่อนที่จะบินวนอยู่รอบกอไผ่

     

    มันคือผีเสื้อไผ่!!

     

    สัยงกระพือปีกน้อยของมันดังต้านลมก่อนที่จะเริ่มบินโฉบไปมาอยู่บนหัวของเธอ

     

    ฉึบ!

     

    บาดแผลเริ่มถูกเปิดออกราวกับใบมีดโกนบาดลงที่ท่อนขาของเธอ แน่นอนว่าเธอไม่เคยเห็นเลือดที่ไหลซึมออกมาแบบนี้แน่ เธอถึงกับเข่าอ่อนและล้มไปกับพื้น บรรดาผีเสื้อต่างบินเข้ามาหาเธอหมายจะให้เธอไปให้พ้น ๆ ซะ

     

    ฉึก!

     

    คมดาบของชายหนุ่มผ่าเข้าตรงกลางร่างของผีเสื้ออย่างแม่นยำจนปีกของมันขาดเป็นสองท่อนปลิวร่วงลงมาที่พื้น

     

    “หมดเวลาสนุกแล้วไอ้พวกหมาหมู่!” เขาพูดก่อนที่จะรีบประคองร่างของเด็กสาวออกมาให้พ้นรัศมีของการโจมตี แต่มันกลับบินตามมาอย่างเอาเรื่อง

     

    “เธอไปช่วยไอ้หมอนั่น ทางนี้ฉันจัดการเอง ..”

     

    “แต่ ...” ขิมอ้ำอึ้ง

     

    “ไปสิ!” เขาพูดก่อนที่จะรีบให้เธอสิ่งไปตามทาง เขาหันมามองเหล่าผีเสื้อที่บิรวนอยู่รอบ ๆ ก่อนที่จะเริ่มสังหารตามวิถีซามูไรที่ตระกูลของเขาเคยสอน มันเพิ่งจะมาใช้ประโยชน์ได้ก็ตอนนี้ล่ะ!

     

    “นี่ค่ะ” ขิมส่งยาแก้หอบให้กับจินนาที่ประคองร่างของเขาอยู่ เขาพยายามสูดยานั้นเข้าไปในปากฟอดใหญ่อยู่สักพักก่อนที่อาการจะเริ่มทุเลาลง ขิมเองก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเพื่อเช็ดเหงื่อที่เริ่มไหลตามใบหน้าของเขา

     

    “ข .. ขอบคุณทุกคนนะครับ”

     

    “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว .. อยู่นี่น่ะระวังหน่อยนะ ... ที่นี่อาจจะไม่ใช่สถานที่สำหรับพวกอ่อนแอก็ได้” เสียงดังขึ้นจากข้างหลัง เด็กหนุ่มเปรยก่อนที่จะเก็บดาบซามูไรเข้าไปในฝัก ใบหน้าของเขาเป็นรอยแผลจากการดจมตีของผีเสื้อไผ่จนเป็นรอย

     

    “...” จินนาไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจนั้นกลับเห็นด้วยกับความเห็นของเขา ถ้าอ่อนแอก็ไม่สามารถเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์เสี่ยงตายแบบนี้ก็ได้

     

    “ขอโทษที่ต้องทำให้ทุกคนลำบากนะครับ” เด็กหนุ่มค่อย ๆ ลุกขึ้นก่อนที่จะขยับแว่น

     

    “เอาน่า มันเหตุสุดวิสัยนี่เนอะ ... ฉันจินนา .. ส่วนนี่ขิม” จินนาแนะนำตัวกับเด็กหนุ่มทั้งสอง แม้ว่าเธอจะพูดประโยคนั้นออก แต่เธอก็ไม่ได้พูดมันออกมาจากใจเพราะความคิดกับคำพูดมันสวนทางกัน .... ใช่แล้ว เขาคือตัวถ่วง!!

     

    “ผม เบียร์ครับ” เด็กหนุ่มคลี่ยิ้มบางออกมา

     

    “ฉัน ... ลัคกี้ ... แนะนำตัวกันพอแล้วนะ รีบออกเดินทางกันต่อเถอะ ฉันอยากไปหาคนอื่น ๆ แล้ว” เด็กหนุ่มพูดก่อนที่จะเดินนำหน้าไปโดยที่ไม่รู้เส้นทาง ไม่ใช่ว่าเขาต้องการไปหาใครทั้งนั้น เจาแค่อยากจะรู้ว่าในบรรดา 10 คนที่เข้ารอบมา จะมีน้องสาวของเขาติดเข้ามาด้วยหรือเปล่า เพราะถ้ามีจริง ๆ ... เขาต้องรีบตามหาตัวของน้องสาวตัวดีให้เร็วที่สุด

     

    Secret Charecters mode

    ผู้เข้าแข่งขันคนที่ 6 :: กวิน ธิติวรนันท์ (ลัคกี้)

    ผู้เข้าแข่งขันคนที่ 7 :: นนทิการ เอกบรรจง (เบียร์)

     


    nu eng
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×