ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality Season 6 :: สยองขวัญเกาะเงาผีเสื้อ ::

    ลำดับตอนที่ #125 : Day 2 .:: เธอชื่อเอ็ตน่า ::.

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 244
      0
      31 พ.ค. 54

    REALITY SEASONS 6

    สยองขวัญเกาะเงาผีเสื้อ

    WEEK 8,Days 2

     

    พวกเขายิ้มออกมาแทบจะพร้อมกัน เป็นครั้งที่สองที่พวกเขาจะได้ไปถ่ายแบบลงนิตยสารกันอีกครั้งเพื่อโปรโมทสามคนสุดท้ายของรายการสยองขวัญ ไคกิและนกยูงเดินออกมารับผู้เข้าแข่งขันทั้งสามคนถึงท่าเรือก่อนที่จะพาขึ้นไปบนเรือสำราญลำหรู สะพานค่อย ๆ ถูกยกออกจากท่าเรือ ปล่องไฟเริ่มส่งเสียงร้องก่อนที่เรือจะค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไป

     

    พวกเขาทั้งหมดจะได้เที่ยวพักผ่อนกับธรรมชาติก่อนวินาทีสุดท้ายของใครบางคน .....

     

    สามคนสุดท้ายของรายการได้รับการต้อนรับอย่างดีจากรุ่นพี่ของทุกซีซั่นโดยเฉพาะพลัส เพราะเธอเองก็ไม่ได้สนิทกับใครเลยเป็นพิเศษ เธอเป็นผู้ชนะคนเดียวจากในโปรเจคของ Virus Over จูเนียร์มองเด็กสาวรุ่นพี่ตาไม่กระพริบ เธอดูเป็นผู้หญิงที่สวยขึ้นมา เปลี่ยนแปลงไปจากตอนแรกที่เข้ามาสมัครใหม่ ๆ อย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่เธอชนะการแข่งขันจากในซีซั่นแรกที่ผ่านมา ด้วยความที่รู้จักใส่ใจดูแลตัวเองให้สวย เธอได้กลายมาเป็นนางแบบชื่อดังในวงการและเคยออกนิตยสารหลายต่อหลายเล่ม วันนี้เธอจึงได้รับเชิญมาในซีซั่นที่หกเพื่อมาเป็นผู้ฝึกสอนการถ่ายแบบให้สามคนสุดท้ายของรายการเกมกระชากวิญญาณแห่งนี้

     

    “สวัสดีค่ะ” แอมเวย์เอ่ยทักสาวเจ้าอย่างมีมารยาท เธอไม่ได้พูดอะไรนอกจากส่งยิ้มที่ดูเป็นมิตรให้แก่เธอกลับไป

     

    เมื่อทั้งสามขึ้นมาบนลำเรือเรียบร้อย เรือสำราญสุดหรูได้เริ่มทะยานออกสู่ท่าน้ำ พวกเขาจะได้ชมธรรมชาติรอบ ๆ เกาะเงาผีเสื้อก่อนที่จะกลับมาวนรอบส่งที่ท่าน้ำอีกครั้ง และในระหว่างนี้จะมีการถ่ายแบบแฟชั่นเซ็ตของพวกเขาทั้งสามคนคู่รุ่นพี่นางแบบคนอื่น ๆ ที่ได้รับเชิญมาอีกด้วย

     

    จูเนียร์เดินชมโถงรอบ ๆ ของเรือลำนี้ พื้นถูกปูด้วยพรมกำมะหยี่สีเหลืองนวล มีแชงเดอร์เรียถูกตกแต่งอยู่บนเพดานอย่างสง่างาม สมกับเป็นเรือที่มีราคาหกหลัก ถัดจากแชงเดอร์เรียสวยหรูแล้วยังมีโต๊ะอาหารที่คอยเลี้ยงต้อนรับงานปาร์ตี้ในครั้งนี้ ถัดออกมาจากห้องโถงจะเป็นสตูดิโอสำหรับถ่ายแฟชั่นเซ็ตของพวกเขา บรรดานางแบบหลายคนนั่งอยู่ด้านในยกเว้นพลัสเพียงคนเดียวที่ออกมาช่วยจัดการเรื่องอาหารข้างนอกกับฟลาร์และหญิง

     

    “ทำไมไม่ไปรวมกับพวกนางแบบด้วยกันล่ะครับ?” จูเนียร์เดินเข้ามาถามอย่างสงสัยพลันมองอาหารที่อยู่บนถาดที่กำลังถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ

     

    “ฉันไม่ค่อยชอบพวกหล่อนเท่าไร ... พวกหล่อนดู ... ร้ายและหยิ่งเกินกว่าที่ฉันจะคุยด้วย” พลัสพูดกับสองสาวหนึ่งหนุ่มราวกับว่าเป็นการกระซิบ

     

    เขาเองได้แต่พยักหน้าก่อนที่จะมองสามสาวนางแบบที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องสตูดิโอ ในมือของแต่ละคนมีสิ่งของเดียวกับที่วัยรุ่นชอบใช้ ... แบล็คเบอร์รี่สีสันเจ็บจี๊ด!

     

    “พวกเธอเห็นผู้หญิงผมหยิกที่หน้าตาเหมือนตุ๊กตานั่นไหม?” พลัสพูดก่อนที่จะใช้สายตาเหลืองมองไปยังเป้าหมายที่กำลังพูดคุยอย่างสนุกปาก

     

    “ทำไมเหรอ เธอมีอะไรเหรอ?” หญิงแอบถามด้วยความอยากรู้

     

    “เธอคือ เอ็ตน่า หญิงสาวที่คิดว่าตัวเองดูดีและเพอร์เฟคที่สุดในบรรดานางแบบด้วยกัน พ่อของเธอเป็นถึงพวกมาเฟียใหญ่ที่สามารถสั่งเก็บคนที่เธอเกลียดเข้าไส้ ... อย่าไปลองดีกับเธอเข้าล่ะ ฉันขอเตือน” พลัสพูดเหมือนกับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซีเรียสมากสำหรับเธอ

     

    “แต่ก็น่ารักจริง ๆ นะพี่” จูเนียร์เองยังอดชมเธอไม่ได้ รอยยิ้มและดวงตาของหล่อนชั่งสวยงามเหมือนตุ๊กตาที่น่าถะนุถนอมเสียจริง

     

    “อย่ายุ่งกับเธอเด็ดขาด ... เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม?” พลัสกำชับ จูเนียรได้แต่พยักหน้ารัวเป็นเชิงรับทราบ ลัสได้แต่ยิ้มก่อนที่จะเตรียมจัดอาหารต่อโดยที่ไม่ได้พูดออกมาอีก

     

    สามนางแบบสาวซึ่งประกอบด้วย เอ็ตน่า หัวหน้าทีม ซีเนียร์ เด็กสาวลูกครึ่งที่สไตล์การแต่งตัวเปรี้ยวจนเข็ดฟัน ผมสั้นสีน้ำตาลทำให้เธอกลายเป็นสาวมั่นไปในพริบตา และคนสุดท้าย ทริกเก็ต สาวร่างเล็กแต่หุ่นเพรียว พวกเธอคือแก็งค์นางแบบที่ไม่ค่อยมีใครอยากสุงสิงด้วย นี่เป็นเพราะเธอเป็นนางแบบในระดับแนวหน้า จึงถูกขอร้องให้มาถ่ายแบบในสัปดาห์นี้ด้วยค่าตัวที่สูงถึงหลักล้าน ดูเหมือนว่าพวกเธอจะย้ายจุดพักผ่อนขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อรับลมธรรมชาติกัน

     

    “ออกมาล่องทะเล สดชื่นขึ้นบ้างไหม?” ปีญ่าห์ทักเด็กหนุ่มที่กำลังเหม่อลอยมองออกไปนอกท้องทะเลที่กว้างใหญ่ เขานั่งอยู่บนขอบเหล็กของระเบียงเรือสำราญโดยที่ไม่กลัวว่าเขาจะพลัดตกลงไปเลย

     

    “สดชื่นสิครับพี่ .. แต่คิดถึงน้องมากกว่า” ลัคกี้เปรยเบา ๆ หากแต่ว่าเธอได้ยินประโยคนั้นอย่างชัดเจน

     

    “คิดถึงกันได้เป็นเรื่องที่ดีนะ ที่พี่น้องคิดถึงกัน แต่อย่าเอามาคิดฝังใจเหมือนที่พี่เคยทำล่ะ มันจะเสียถึงตัวเราเอง ทำให้เราไม่มีสมาธิที่จะทำอะไรเลยสักอย่าง” สองมือของหล่อนเกาะที่ขอบระเบียงก่อนที่จะมองเด็กหนุ่มกลับไป

     

    สายลมเริ่มโบกสะบัดอย่างพลิ้วไหวจนเส้นผมของเธอสะบัดไปตามแรงลม เขาหวนนึกถึงเรื่องเกมการแข่งขันในซีซั่นที่สามในช่วงที่ปีญ่าห์ได้เข้ามาเล่นเกมในฐานะของผู้เข้าแข่งขัน เธอได้เกิดอาการช๊อคจนหมดสติระว่างการแข่งขันเพราะแฟนหนุ่มของเธอถูกกำจัดออกจากเกมในครั้งนี้ มันทำให้เธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปจนถึงตอนนี้ ที่เธอสามารถเอาชนะความกลัวและสามารถชีวิตบนโลกนี้ได้อีกครั้ง นับเป็นโอกาสดีที่พระเจ้าหยิบยื่นชีวิตใหม่ให้แก่เธอ ทำให้เธอสามารถเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อีกครั้ง

     

    “ไม่ได้มีแต่เรื่องของน้องสาวเธอเรื่องเดียวใช่ไหม?”

     

    “พ .. พี่รู้?” ลัคกี้หน้าเหวอเล่นเอาเขาเกือบตกลงไปในทะเล

     

    “เธอชอบเพื่อนของเธอเอง ใช่ไหม?” เธอขยิบตาให้หนึ่งข้าง

     

    ลัคกี้ได้แต่นั่งเงียบ ไม่ได้พูดหรือให้คำตอบอะไรเธอไป เขาได้แต่คิดว่าอาการกิริยาของเขามันแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอไง

     

    “พี่ดูคนออกนะ ...”

     

    “.......”

     

    “ถ้ามีโอกาสเธอควรจะรีบบอกความรู้สึกให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้ ไม่อยากนั้นคนที่เสียใจที่สุดนั่นคือตัวเอง ไม่ว่าบทสรุปของความรักจะจบลงในแบบไหน อย่างน้อยเธอก็ต้องดีใจและภูมิใจกับมันว่าเธอเองได้พูดความรู้สึกออกไปให้เขาคนนั้นได้รับรู้แล้ว ” ปีญ่าห์เลื่อนมาจับหัวไหล่ของเด็กหนุ่ม

     

    “เธอยังมีเวลานะ ... อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ หาเวลาบอกเธอซะ ก่อนที่บทตัดสินสุดท้ายจะมาถึง ... พยายามเข้านะ” เขาขอบคุณรุ่นพี่สาวคนนี้เป็นอย่างมากที่ได้เตือนสติและสอนอะไรหลาย ๆ อย่างให้เขาได้รู้ค่าของความรัก เขาต้องหาทางบอกเรื่องนี้กับเธอให้รู้เรื่อง เขาเคยล้มเลิกความตั้งใจและปิดมันไว้ อาทิตย์นี้เขาต้องบอกเธอให้ได้ ความรู้ของเขาที่มีต่อเธอมันมากมายแค่ไหน

     

    แชะ ....

     

    แชะ ....

     

    กล้อง DSLR ถูกยกขึ้นในระดับสายตาเพื่อเก็บภาพความประทับใจในขณะล่องเรือที่แสนสนุกนี้ รุ่นพี่ทุกคนเป็นกันเองกับแอมเวย์มาก ทุกคนเหมือนครอบครัวที่แสนอบอุ่น

     

    เรียลลิตี้เปรียบเสมือนบ้านของพวกเขา และพวกเขาคือสมาชิกในครอบครัว

     

    “เฮ้! เดี๋ยวอีกห้านาทีเต็มไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อถ่ายแฟชั่นเซ็ตกันนะแอมเวย์รี่” เปียโนส่งเสียงใสอย่างร่าเริงตามชื่อของเธอ มือของหล่อนก็ง่วนอยู่กับการจัดฟลอร์เต้นรำบนดาดฟ้าของตึกข้างสระว่ายน้ำ ยังมีนกยูงกับดัฟมาช่วยอีกแรง

     

    “งั้นก่อนไปขอเก็บภาพสวย ๆ ของพวกพี่หน่อยนะคะ” แอมเวย์ยกกล้องขึ้นมาถ่ายบรรดารุ่นพี่ที่ต่างก็รีบโพสท่ากันอย่างสนุกสนาน ด้วยขนาดของกล้องที่แคบเกินไปทำให้เด็กสาวก้าวถอยหลังอย่างอัตโนมัติตามแบบฉบับของช่างกล้อง

     

    “อีกรูปนะคะพี่” เธอพูดก่อนที่จะถอยหลังออกไปอีกก้าว แต่ด้วยความที่เธอไม่ทันได้ดูข้างหลัง ทำให้เธอเผลอไปชนเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ทางด้านหลังของเธอ

     

    ผลั่ก!

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดด” ผู้ถูกชนกรีดเสียงร้องราวกับนกหวีดแปดหลอด แอมเวย์หันมาด้วยตกใจก่อนที่จะรีบยื่นมือไปให้เธอพยุงร่างขึ้นมา หากแต่ว่าหญิงสาวกลับปัดมือของแอมเวย์ออกก่อนที่จะยันตัวเองขึ้นมา เพื่อน ๆ ของเธอได้แต่มองจ้องร่างของเด็กสาวอย่างไม่วางตา

     

    “ขอโทษทีนะคะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” แอมเวย์กล่าวขอโทษอย่างมีมารยาทและความจริงใจ

     

    “นี่เธอ! เธอเป็นใครไม่ทราบ กล้าดียังไงมาชนฉันจนล้มไม่เป็นท่าแบบนี้” เด็กสาววีนแตก

     

    “ฉันก็ขอโทษคุณแล้วนี่ไง ไม่เห็นจะต้องเสียงดังซักหน่อย”

     

    “กล้าเถียงฉันเหรอ!! เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”

     

    “คุณเป็นคนธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่อยู่บนโลกใบนี้ ไม่ได้สำคัญกับอะไรกับชีวิตฉันนี่คะ ขอตัวนะ” ในเมื่อหญิงสาวคนนั้นไม่ยอมดี ๆ เธอจึงเป็นฝ่ายขอเลี่ยงเพื่อจบเรื่องราวดีกว่า หากแต่ว่าหญิงสาวคนนั้นกลับตะโกนกลับมา

     

    “ฉันชื่อเอ็ตน่า!” หญิงสาวตะเบงเสียงสูงก่อนที่จะเดินเข้ามาทางด้านหลังของแอมเวย์และจับไหล่ของเธออย่างแรง

     

    TO BE CONTINUE …..

    nu eng

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×