คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #70 : Day 2 .:: ย่างกราย ::.
THe REALITy 5
[WEEK 4 :: DAYS 2]
หลังจากที่ไคกิได้แจ้งภารกิจประจำสัปดาห์นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขาทั้ง 7 คนจึงขอตัวกินอาหารฝีมือเกมส์ก่อนที่จะเริ่มเล่นภารกิจ แน่นอนว่าทุกคนต้องหวั่นใจกับการเล่นเกมในสัปดาห์นี้ เพราะสถานที่ที่พวกเขาจะต้องไปคือ ป่าต้องสาป ตามตำนานที่ไคกิเล่าว่าป่านี้น้อยคนนักที่จะได้กลับออกมาได้ แล้วอีกอย่างที่หินมากที่สุดคือการต้องรวบรวมอวัยวะของมนุษย์ตามกลับมาให้ครบ
อวัยวะของคนที่ถูกแยกออกเป็นชิ้นส่วนและกระจายอยู่ในป่าต้องสาป!
“คิดแล้วขนลุกชะมัด ... อวัยวะ!” นกยูงทำท่าพะอืดพะอมก่อนที่จะกยิบแซนวิชเข้ากระเป๋าเป้ใบเก๋ขนาดกระทัดรัดที่เธอซื้อมาตอนออดิชั่นเล่นเกม
“ทั้งแขน ขา ลูกตา หยี!” เก๋เก๋ทำท่าเลียนแบบเพื่อนสาวก่อนที่จะเดินไปหาดัฟแลละอาร์ม
“ผมว่าที่เราแข่งขันมาสี่สัปดาห์เนี่ย พวกเราเจอแต่ภารกิจหลอน ๆ ทั้งนั้นเลยนะ แล้วคราวนี้ก็เป็นการเก็บชิ้นส่วนของมนุษย์ด้วย ผมว่าน่าสนใจนะ” ฌอร์นมองหน้าของเพื่อนพลันขยับแว่นไปมา
“เรื่องสยองขวัญแบบนี้ยัยตาลคงชอบแน่ๆ เลย” เกมส์แซวเด็กสาวโบฮีเมี่ยนที่ยืนมองเข้าไปในทางเดินที่รกรุงรัง
อีกไม่นานพวกเขาทั้งหมดต้องก้าวผ่านป่านั้นเพื่อเข้าไปรูดการ์ดผ่านประตูสู่สถานที่การแข่งขันต่อไป ....
สายลมพัดมาเอื่อย ๆ เป็นสัญญาณของธรรมชาติที่แสนอุดมสมบูรณ์ สายลมที่ไม่มีสิ่งใดซ่อนอยู่ หากแต่ว่าถ้าสังเกตและเงี่ยหูฟังการพลิ้วไหวของใบไม้ที่เสียดสีกันบนป่า ราวกับว่า ...
พวกมันกำลังจะบอกอะไร!!
ตาลยืนนิ่งอยู่หน้าทางเข้าป่า ... พยายามทำตัวเองให้เงียบที่สุด เพื่อฟังอันตรายที่ป่าแห่งนี้กำลังจะบอก กลิ่นและพลังงานบางอย่างที่เธอกำลังสัมผัสได้ ... มันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลตัวของเธอเลย .... เธอจ้องมองกลับไปอีกครั้งในป่าแห่งนั้น ...
ความอันตรายกำลังรอคอยพวกเขาอยู่ ... เหล่าวิญญาณกำลังสื่อสารกับเด็กสาว ... เธอพยายามตั้งสติและกุมลูกประคำวิญญาณไว้แน่น
“มีอะไรหรือเปล่าตาล?” อาร์มจับบ่าของเด็กสาว สายลมกลับพลิ้วไหวไร้ซึ่งการเสียดสีของต้นไม้ใบหญ้าดั่งเดิม
“ม .. ไม่มีอะไรหรอกจ่ะ .. ออกเดินทางกันเถอะนะ” เธอไม่บอกความจริงให้แก่พวกเขาฟังเพราะเกรงว่าภารกิจอาจจะล้มเป็นท่าก็ได้
ความเงียบเท่านั้นคือคำตอบที่ดีที่สุดของเธอ
“อย่าบอกนะว่าเห็นวิญญาณแปลก ๆ นี่อีก!” ดัฟพูดพรางเดินหลบหลังของฌอร์น
ตอนนี้สี่หนุ่มกับอีกสามสาวเดินมุ่งไปตามทางของป่าที่ถูกถากตามบริเวณทางเดินเรียบร้อยแล้ว .. ทำห้การเดินป่าภายในครั้งนี้ไม่ค่อยเป็นอุปสรรคเท่าใดนัก
ไม่นานนักพวกเขาก็เดินทางผ่านโบสถ์ และโรงงานผลิตหุ่นขี้ผึ้งจนมายังสถานที่ที่อยู่ตรงหน้า ตรงจุดนี้จะเจอเด็กสาวในชุดยูนิฟอร์มของรายการรอต้นรับพวกเขาอยู่แล้ว
“สวัสดีครับพี่ฟลาร์” อาร์มส่งเสียงทักรุ่นพี่ของรายการซีซั่นสี่เป็นคนแรก
เด็กสาวคลี่ยิ้มอย่างอารมณ์ดีเพื่อเป็นการทักทายผู้มาเยือนป่าแห่งนี้ ด้านหลังของเด็กสาวคือประตูเหล็กที่ต้องอาศัยการ์ดทั้งแปดใบเพื่อเปิดประตูกลแห่งนี้
เก๋เก๋นำการ์ดออกมาจากกระเป๋าและค่อย ๆ รูดการ์ดผ่านประตูทีละใบ ๆ สีแดงของประตูเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวครบทุกปุ่ม
ติ๊ด!
ปุ่มสีเขียวปุ่มสุดท้ายถูกปลดล็อค ประตูเหล็กเริ่มอ้าออกมาอย่างช้า ๆ เผยให้เห็นสถานที่ที่อยู่หลังประตูบานนั้น
เหล่าบรรดาต้นไม้ในป่าต้องสาปเริ่มส่งเสียดสีกันไปมาอีกครั้ง กลิ่นอับชื้นเริ่มส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาจนหลาย ๆ คนต้องปิดจมูกกับกลิ่นอับนี้ไปตาม ๆ กัน ต้นไม้ในบริเวณป่าต้องสาปมีสีที่เขียวมากกว่าต้นไม้บริเวณอื่น เนื่องจากพระอาทิตย์ไม่ค่อยส่งถึงทำให้บริเวณนี้มีกลิ่นอับชื้นหากแต่ต้นไม้กลับเจริญเติบโตอย่างน่าแปลกประหลาด
“ก่อนที่จะเข้าไปเล่นเกมกับฟลาร์ ฟลาร์จะแจงรายละเอียดของเกมอีกครั้ง ซึ่งสิ่งที่พวกคุณต้องทำการค้นหาคือ ดวงตา 2 ดวง แขนซ้ายและแขนขวา ขาซ้ายและขวา ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 6 อย่าง ภารกิจด้านในจะถูกแบ่งออกเป็นโซนเรียบร้อยแล้วนะคะ ส่วนนี่ก็ ....” เธอทิ้งท้ายประโยคเอาไว้ก่อนที่จะหยิบของออกมาจากกระเป๋าเป้ใบใหญ่
“ตะเกียงไฟ ....!” นกยูงเพ่งมองน้ำมันที่ไหลอยู่ในตะเกียงเล็กในมือของริบบิ้น เธอส่งให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจนครบ
นอกจากนั้นเธอยังหยิบปืนพลุออกมาจากกระเป๋าใบเดิม
“ถ้าเวลาที่เกิดพลัดหลงกับเพื่อน ๆ จงใช้ปืนพลุให้เป็นประโยชน์นะคะ แล้วพวกเราจะตามหาพวกคุณเอง เข้าใจใช่ไหม?” เธอทวนคำถามของบรรดาผู้เข้าแข่งขัน
“เนื่องจากป่านี้ค่อยข้างอันตราย เพราะฉะนั้น ระวังตัวด้วยนะคะ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างการแข่งขัน พวกเธอต้องเล่นเกมให้จบ ไม่ต้องห่วงเรื่องอื่น” ฟลาร์กำชับพวกเขา ทุกคนพยักหน้าและขอบคุณในความหวังดีของรุ่นพี่ในรายการ
พวกเขาต่างเตรียมอุปกรณ์ในการเล่นเกมเป็นที่เรียบร้อย ดัฟเป็นคนก้าวเข้าไปคนแรก ตามด้วยคนอื่น ๆ เรื่อย ๆ และตาลเป็นคนปิดท้าย
ในขณะที่ขาข้างซ้ายของเด็กสาวกำลังจะก้าวผ่านประตูไปนั้น จู่ ๆ สายลมก็พัดปะทะเข้ากับใบหน้า .. สายลมที่มาด้วยเสียงที่แว่วผ่านมา
อย่าเข้ามา!!
เด็กสาวหยุดการเคลื่อนไหว รีบเงยหน้ามองเข้าไปในป่าต้องสาปแห่งนั้น ริบบิ้นรีบเดินมาแตะที่บ่าของเด็กสาวเพื่อถามถึงอาการที่ผิดปกติของเด็กสาว เด็กสายิ้มเจื่อน ๆ ก่อนที่จะรีบเดินเข้าไปผ่านประตู
“อะไรกันนะ ..” เธอพึมพำ เหงื่อกาฬเริ่มไหลบนใบหน้าจนต้องหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่ออย่างรวดเร็ว
“น่ากลัวจังแฮะ ...” นกยูงพูดเสียงสั่นพรางมองไปรอบ ๆ โดยอาศัยตะเกียงในมือของหล่อนเป็นตัวเปิดวิสัยทัศน์ในการมองเห็นของเธอ
รอบ ๆ ทางนอกจากจะมีกลิ่นอับชื้นของไอดินแล้ว ที่พื้นยังมีหลุมโคลนมากมายที่ปรากฏขึ้นเป็นอุปสรรคในการเดินทางมากยิ่งขึ้น แถมหมอกในป่ายังเริ่มหนาขึ้นอีก
“ดีนะที่พี่ฟลาร์ให้ตะเกียงไฟมาด้วย” เก๋เก๋พูดก่อนที่จะเดินไปเบียดกับเด็กสาวเพื่อนซี้
พวกเขาใช้ตะเกียงในการคลำทางไปเรื่อย ๆ จนเจอกับป้ายไม้ที่ปักเด่นอยู่กลางทาง
“ฐานที่หนึ่ง ..” อาร์มอ่านข้อความที่ปรากฏอยู่บนป้ายไม้นั้น จู่ ๆ กลิ่นธูปไร้ที่มาก็เริ่งส่งกลิ่นหอมหวนออกมาจากที่ไหนซักแห่ง
“ธูปมันมาจากไหนน่ะ” ดัฟเริ่มแสงความหวดกลัวออกมาให้เห็น สายตามองไปทั่วเพื่อหาการปรากฏกลิ่นธูปประหลาดนี้
“คงจะเป็นธูปที่ใช้ไว้คนที่ล่วงลับหรือไม่ก็คนที่หายสาบสูญไปในป่านี้หรือเปล่า ” ฌอร์นพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูน่าขนลุก พลันยกตะเกียงขึ้นพอดีกับใบหน้า
“บางทีอาจจะเป็นพวกพี่ทีมงานที่มาจุดก็ได้นะ ... นี่มันเรียลลิตี้นะ มีเรื่องแบบนี้ก็คงไม่แปลกหรอก ...” นกยูงพยายามพูดเพื่อคลายความกลัวให้เพื่อน ๆ แต่ในใจลึก ๆ ของเธอน่ะ เธอกลัวมากกว่าใครคนอื่นด้วยซ้ำ
“อ่านต่อเถอะอาร์ม” เกมส์สะกิดอาร์มให้อ่านข้อความด้านล่างของป้ายไม้นั้น มือของเธอเกาะแขนของเขาเอาไว้แน่น
“ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ภารกิจที่หนึ่งของป่าต้องสาป ด้านหน้าของพวกคุณนั้นจะเป็นบ่อโคลนที่เหนียวเหนอะหนะยากแก้การเคลื่อนไหว ด้านล่างจะมีบรรดาสัตว์ที่นอนอยู่ในโคลนนั้น นอกจากสัตว์แล้วยังมีแขนซ้ายและขวาของมนุษย์อยู่ในโคลนนี้ด้วยนะ .... อยากรู้ใช้ไหมว่าใครจะได้เล่นเกมนี้ อ่านลงมาอีกบรรทัดสิ ...” อาร์มวรรคคำก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่
“อ่านเลยอาร์ม!” ดัฟเร่งเร้า
“ R3 R11 R14 ....”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!! เก๋เก๋สุดสะบึ้มต้องออกโรงเหรอเนี่ย” เก๋เก๋จับหน้าตัวเองอย่างไม่เชื่อ เขารีบเดินไปอ่านป้ายนั้น เพราะคิดว่าอาร์มอาจจะแกล้ง .. แต่มันเป็นเรื่องจริง เก๋เก๋ เกมส์และดัฟต้องเล่นเกมนี้
“โชคดีนะเพื่อน ๆ ” นกยูงตบบ่าของทั้งสาม
“แกช่วยหยิกฉันที่สิ ... ฉันว่าฉันต้องยังไม่ตื่นแน่ ๆ !!” เก๋เก๋หันมาทำหน้าตาอ้อนวอน
“มากกว่าหยิกก็ทำได้ย่ะ” เธอพูดก่อนที่จะง้างมือเตรียมตบหน้าของเพื่อน
“ไม่ต้องและ .. ฉันคิดว่าฉันตื่นแล้วแหล่ะ” เก๋เก๋ยิ้มอย่างตลกก่อนที่จะสูดหายใจเข้าไปลึก ๆ เกมส์และดัฟเองก็เช่นกัน
“พยายามเข้านะ ผมรู้ว่าพวกคุณต้องทำได้” ฌอร์นให้กำลังใจเพื่อน ๆ เป็นครั้งแรกที่เขาพูดออกมาและยิ้ม รอยยิ้มแบบนี้แหล่ะที่เพื่อน ๆ ต้องการ
ทั้งสามคนจับมือกันก่อนที่จะวางตะเกียงเพื่อที่จะเตรียมลงไปในบ่อโคลนแห่งนั้น พลันสายลมอันตรายกลับพันมาอีกครั้ง คราวนี้ตาลได้ยินเสียงผ่านลมนั้นมาได้อย่างชัดเจน
ช่วยพวกกูด้วย!!!
ความคิดเห็น