ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality 5 .: อาถรรพ์หมู่บ้านน้ำค้าง :. [จบเกม!]

    ลำดับตอนที่ #51 : Day 3 .:: บุคคลที่หายไป ::.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 338
      0
      20 ต.ค. 53

    THe REALITy 5


    [WEEK 2 :: DAYS 3]


     

    แอ๊ดดดดดด!!!

     

    ประตูโบสถ์บานใหญ่ค่อย ๆ ถูกเปิดออกมาอย่างช้า ๆ ภายในพวกเขากลับมองไม่ของหรือวัตถุใด ๆ ที่วางอยู่ในโบสถ์

     

    มีเพียงแต่ความมืดมิดที่รอคอยต้อนรับพวกเขาอยู่เท่านั้น!!!

     

    “มองไม่เห็นแบบนี้ แล้วเราจะเข้าไปข้างในยังไงกัน?” อาร์มถามความเห็นของเพื่อน ๆ ในกลุ่มเมื่อเห็นว่าพวกเขาเริ่มเงียบเสียงลง

     

    “ ต้องอาศัยแสงเท่านั้นแหล่ะที่จะพอทำให้เรามองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน ....” ฌอร์นพูด

     

    “แต่เราก็ไม่จำเป็นที่ต้องอาศัยแสงไฟจากนีออนอย่างเดียวไม่ใช่เหรอ ” คำพูดของใบชาทำให้เด็กหนุ่มอัจฉริยะอย่างเขาหันมามองด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก

     

    “คุณพยายามจะบอกผมว่าคุณต้องใช้แสงจากดวงอาทิตย์เหรอครับ .... คุณใบชา ผมว่าแสงอาทิตย์ในวันนี้คงจะไม่โผล่มาแล้วล่ะ ขืนรอแสงที่คุณว่าเกมส์ก็คงล่มแล้วล่ะ” ฌอร์นพูดพรางหัวเราะในลำคอที่สามารถเอาชนะเด็กสาวสมองดีอย่างเธอได้

     

    “แล้วใบชาบอกนายเหรอ ... ว่าใบชาจะใช้แสงจากดวงอาทิตย์?” รอยยิ้มของเด็กหนุ่มอัจฉริยะเริ่มหุบยิ้มลง สายตาเริ่มจ้องมองไปยังดวงตาของหล่อนอย่างไม่วางตา

     

    “แล้วคุณจะใช้แสงอะไรตอนนี้ล่ะครับคุณผู้หญิง?”

     

    “นี่ไงคะ ... ” ใบชาพูดพรางจูงมือของรันเวย์มายืนข้าง ๆ เธอพร้อมกับชูสิ่งที่เธอพกมาตลอดในการแข่งขันเกมนี้

     

    “อย่าบอกนะว่า ..... ” ฌอร์นอ้าปากค้าง

     

    “ นี่ไง ตัวช่วยแสง .... แฟลชจากกล้อง DSLR ไงคะ ^^ ” ใบชายิ้มอย่างผู้มีชัยชนะ ไม่เพียงแค่ใบชาเท่านั้นที่หัวเราะชอบใจในความคิดของเธอ บรรดาสาว ๆ ต่างชอบใจในความคิดของเพื่อน

     

    งานนี้สนุกแน่!!

     

    “รันเวย์ ใบชาอยากให้รันเวย์ถ่ายรูปในนี้ทุกซอกทุกมุมโดยอาศัยแสงแฟลชจากกล้องของเธอ เสร็จแล้วเราจะมาดูกันว่าด้านในมีอะไรบ้าง” ใบชาบอก เด็กสาวเจ้าของกล้อง DSLR พยักหน้าเบา ๆ ก่อนที่จะเริ่มลั่นชัตเตอร์ทีละจุด ๆ

     

    แชะ ... แชะ .. แชะ !!!

     

    เสียงลั่นชัตเตอร์ดังสะท้อนไปทั่วทั้งโบสถ์ ทำให้ความน่ากลัวบวกกับบรรยากาศโดยรอบเริ่มทวีความน่ากลัวขึ้นมาในบัดดล

     

    เพียงไม่นานนัก เด็กสาวรวบรวมภาพที่อยู่ในกล้องก่อนที่จะกดภาพให้เพื่อน ๆ ดูทีละคนภาพ ๆ

     

    ภายในโบสถ์มีแค่เพียงเก้าอี้ยาวที่กระจัดกระจายไปทั่วทั้งบริเวณ เก้าอี้บางตัวล้มคว่ำอย่างไม่เป็นเรียบร้อยเท่าที่ควรจะเป็น ที่ผนังตรงกลางของโบสถ์ปรากฏแท่นบูชาพระเยซูโดยที่มีตัวอักษรสีแดงถูกขีดเขียนไว้ที่แท่นบูชานั้น

     

    13 .... งั้นเหรอ?” พิมพยายามนึกถึงเรื่องสยองขวัญที่เกี่ยวกับหมายเลขสิบสาม เลขอาถรรพ์ที่ไม่มีใครอยากได้ แม้แต่ตัวของเธอเอง

     

    “หมายเลขนี้ต้องมีความหมายแน่ ๆ .....” ดัฟยืนคิด

     

    “หรือว่ามันจะเกี่ยวกับพิมเปล่า ” เด็กสาว เจ้าของเสียงเรียบเฉยพูดขึ้นเอาซะดื้อ ๆ

     

    “มันจะเกี่ยวกับเธอได้ยังไงกัน? ” คิวคิวพูด

     

    “ก็รหัสของฉันก็เป็นหมายเลขสิบสามเหมือนกัน บางทีด้านในอาจจะมีอะไรที่ฉันต้องทำอยู่ก็ได้ ....” เธอพูดตามความคิดที่เธอยืนนิ่งไปเมื่อครู่

     

    “เป็นความคิดที่ดีนะ .. คุณลองเข้าไปสำรวจดูสิ ผมว่าบางทีอาจจะเป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้นะครับ ” ฌอร์นยอมรับความเห็นของเธอ

     

    สายลมเริ่มกรรโชกแรงขึ้นจนพวกเขาทั้งหมดถึงกับกอดอกแน่นเพราะความหนาวเย็น ร่างของอีกาก็สะบัดไปมาตามแรงลม เม็ดฝนเริ่มโปรยลงมาทีละนิด ๆ

     

    “งั้นพวกเราทั้งหมดก็ไปเป็นเพื่อนพิมกัน บางทีอาจจะเป็นอย่างที่พิมพูดก่อนได้นะ” เกมส์บอกเพื่อน ๆ ก่อนที่จะเริ่มเดินไปตามทาง มือของพวกเขาเริ่มคลำทางไปเรื่อย ๆ

     

    พวกเขาพยายามจับจุดให้ได้ว่าแท่นบูชาอยู่ตรงไหน ...

     

    พวกเขาค่อย ๆ เดินไปเรื่อย ๆ จนใกล้จะถึงแท่นบูชา

     

    พร้อม ๆ กับที่กลไกของโบสถ์เริ่มทำงานอย่างเงียบ ๆ

     

    “คงใกล้จะถึงแล้วล่ะ .....”

     

    โพล๊ะ!!!

     

    โครมมมมมม!!!

     

    สิ้นเสียงของอาร์ม แผ่นไม้ของโบสถ์ที่พวกเขาเหยียบอยู่เกิดหลุดร่วงเนื่องจากความเปราะบางของพื้นไม้ธรรมดา ๆ เด็กสาวที่ก้าวพลาดเกิดตกลงไปด้านล่าง หญิงสาวที่เดินตามมาเกิดตกใจและคว้าร่างของชายคนหนึ่งเพื่อยึดเอาไว้ แต่ด้วยความที่เขาไม่ทันระวังตัวทำให้ทั้งคู่พลัดตกลงไปด้านล่างเช่นกัน

     

    เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในความมืดมิดนั้นโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในโบสถ์สีดำสนิทแห่งนี้!!!

     

    “กรี๊ดดดดดดดด!!!” เสียงของสาวคนหนึ่งกรีดร้องก่อนที่ร่างจะร่วงลงไป

     

    “เสียงใครน่ะ!! เกิดอะไรขึ้น!!

     

    “ ออกมาข้างนอกกัน โบสถ์นี้ไม่ปลอดภัยแล้วล่ะ” นี่คือเสียงของฌอร์น พวกเขาจำได้ ทันทีที่คำสั่งนั้นหลุดออกมา พวกเขาที่เหลือกลับวิ่งออกมาด้านนอก เพื่อหาแสงสว่างที่รำไรนั้น

     

    แล้วพวกเขาที่เหลือก็หลุดออกมาจากโบสถ์สยองขวัญนั่นได้สำเร็จ

     

    “มีใครเป็นอะไรไหม? ” นกยูงถามเพื่อนในขณะที่เธอยืนหอบอยู่ข้างประตูโบสถ์อย่างหมดแรง ใจเต้นตุบตับไม่หายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่

     

    “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ .....” ใบชาหันมาถามเพื่อน ๆ มือของหญิงสาวกลับกุมมือของชายหนุ่มคนหนึ่งออกมาด้วย คงเป็นเพราะตอนที่วิ่งชุลมุนออกมา เธออาจจะพยายามคว้าแขนของใครคนหนึ่งออกมาด้วย

     

    แขนของฌอร์น ....

     

    หญิงสาวรีบสะบัดมือออกก่อนที่จะมองหน้าของเพื่อน ๆ เพื่อเช็คว่ามีใครเป็นอะไรไหม แต่ยังไม่ทันที่ใบชาจะได้ถามอะไรเพื่อนไปมากกว่านี้ จู่ ๆ เสียงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

     

    “พี่บีบีหายไป .... ” แฝดคนน้องเสียงสั่นเมื่อเธอวิ่งออกมาแต่กลับไม่เจอผู้เป็นพี่ที่วิ่งตามมาด้วย เธอจ้องมองเข้าไปในประตูโบสถ์นั้น

     

    ไม่เพียงแต่บีบีเท่านั้นที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ตาล พิม และดัฟก็หายตัวไปเช่นกัน ....

     

    เด็กสาวทำท่าจะลุกเดินไปยังด้านใน แต่มือของดาร์จีลิ่งกลับคว้าแขนของเธอเอาไว้

     

    “เข้าไปไม่ได้นะ!!” เธอพยายามห้ามปรามเพื่อนที่กำลังจะเดินเข้าไป หญิงสาวพยายามสะบัดแขนออก แต่เพราะดาร์จีลิ่งจับไว้แน่น ทำให้เธอไม่สามารถขยับร่างกายออกไปได้

     

    “พยายามตั้งสติหน่อยสิคิวคิว ขืนเธอเข้าไปข้างใน มีหวังเธอได้หายไปเหมือนพี่สาวของเธอแน่!” ดาร์จีลิ่งพยายามหาเหตุผลเพื่อให้เธอสงบสติอารมณ์ลง

     

    “แต่พี่บีบี ....”

     

    “เธอรู้เหรอว่าข้างในนั้นมันมีอะไรบ้าง ขืนเดินเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้า ... มีหวังได้หายตัวไปอีกคน” เก๋เก๋มองหน้าของเพื่อนสาวเพื่อให้เธอใจเย็นลง

     

    และมันก็ได้ผล เธอจ้องมองหน้าของเพื่อนทั้งสองและสวมกอดเอาไว้ทั้งน้ำตา

     

    “พวกเธอต้องหาทางช่วยพี่บีบีและคนอื่น ๆ ออกมาจากโบสถ์ปีศาจนี้ด้วยนะ ..... ฉันไม่อยากเห็นพี่บีบีเป็นอะไร ..... ” เธอพูดออกมาทั้งน้ำตา

     

    ในตอนนั้นเองที่เสียงของไคกิดังขึ้น

     

    “เป็นไปตามแผนของทางรายการเลยนะครับ .... ”

     

    “แผน?” เกมส์เลิกคิ้วอย่างสงสัยพลันรอคำตอบของชายหนุ่ม

     

    “ เราแบ่งพวกคุณออกเป็นสองทีมได้สำเร็จแล้ว ทีมด้านในที่ตกลงไปจะต้องทำหน้าที่หาทางออกมาให้ได้จากทางเดินในอุโมงค์ใต้ดินเพื่อตามหากุญแจจากด้านล่าง ส่วนผุ้เข้าแข่งขันที่เหลือด้านบนก็ตามหากุญแจจากรอบ ๆ นี้และระหว่างนี้ก็ต้องหาวิธีช่วยทีมข้างล่างขึ้นมา โดยมีข้อแม้ห้ามกลับไปในโบสถ์อีก!!” เพียงเท่านั้น สัญญาณของไคกิก็ขาดหายไป

     

    “ ถ้าอย่างนั้นแสดงว่ากุญแจไม่ได้อยู่ในโบสถ์ ... ต้องอยู่ข้างล่าง หรือรอบ ๆนี้แหล่ะ ” อาร์มสรุปคำพูดของไคกิเป็นประโยคสั้น ๆ ให้พอเข้าใจ

     

    “เราต้องแบ่งกลุ่มกัน .... คิวคิว เก๋เก๋ รันเวย์แล้วก็เกมส์ พวกคุณมากับผมไปหากุญแจทางด้านซ้าย ส่วนพวกที่เหลือก็ไปอีกฝั่งตกลงไหม?” ฌอร์นนำเสนอความคิดตามหลักของเด็กอัจฉริยะ

     

    “ตกลงตามนี้” อาร์มพูดก่อนที่จะพาลูกทีมไปทางขวา ฌอร์นเองก็วิ่งไปทางซ้ายเช่นกัน

     

    ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้ว กุญแจซ่อนอยู่ใต้ดินหรือบนดินกันแน่ ...

     

    แต่ที่สำคัญ ...

     

    พวกเขาที่อยู่บนพื้นดินก็ไม่สามารถรู้ชะตากรรมของพวกที่อยู่ข้างล่างเช่นกัน!!!

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×