คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #110 : REALITy .:: NOKYUNgs STORy ::.
THe REALITy 5
[WEEK 8 :: NOKYUNg’s STORy]
ฉันนั่งอยู่บนรถมินิบัสสีเหลืองคันที่สองของรายการชวนหัวลุกนี้ จากเดิมที่เคยนั่งมาตั้ง 12 คน ตอนนี้เหลือฉันเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่เบาะหลังสุดของตัวรถ เพราะอะไรน่ะเหรอ ... ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
ทันทีที่รถแล่นออกมาจากหน้าหมู่บ้านน้ำค้าง สถานที่ที่ฉันและเพื่อนอีกมากมายเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ตั้งสองเดือน เป็นการเข้าค่ายที่น่าภูมิใจมาก ฉันได้เจออะไรมากมายในเกมนี้ ผู้คนแปลก ๆ ที่ฉันไม่เคยได้เห็นทั่วไปนักในสังคมกลับมารวมตัวกันอยู่ที่นี่
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อนกยูง ชื่อจริงชื่อแววมยุรา อายุน่ะเหรอ ขอข้ามไปและกัน เพราะฉันไม่ค่อยอยากจะพูถึงอายุเท่าไร ไม่ใช่ว่าฉันอายุราวป้าหรอกนะ แต่เพราะว่าผู้หญิงน่ะ ไม่ชอบที่จะบอกอายุให้ใคร ๆ รู้ซะเท่าไร รหัสประจำตัวของฉันคือหมายเลข 12 ฉันคือสามคนสุดท้ายที่เหลือรอดของบ้านเรียลลิตี้
แต่เกมมันยังไม่จบนี่สิ!
จะต้องมีหนึ่งคนที่จะต้องบริจาควิญญาณให้ยมทูติของเกมผีสิงแห่งนี้ จะเป็นใครกันนะ ระหว่างที่รถกำลังแล่นไปยังคอนโดของฉัน ฉันคอยจินตนาการถึงภาพการตายของแต่ละคน จนมาถึงฉันตอนนี้ ...
สองคนที่จะต้องรอดออกไปจะเป็นใครนะ .... จะเป็นฉันกับฌอร์น ... หรือว่ากับดัฟ หรือจะเป็นหนุ่ม ๆ ทั้งคู่ที่รอดชีวิตออกไปแล้วปล่อยให้ฉันติดแหง่กอยู่ที่นี่
แต่ใครจะรอดออกไปจากที่นี่ก็ชั่งเถอะ ... ยังไงฉันก็จะติดตามฌอร์นไปเหมือนกัน แต่อาจจะต่างกันที่ว่า ฉันจะติดตามฌอร์นในร่างของคนหรือผีแค่นั้นเอง!
มาคิด ๆ ดู ช่วงเวลาสองเดือนเหมือนกับที่เราไปตั้งแคมป์กับบุคคลแปลกหน้านี่ เกิดอะไรมากมายในระยะเวลาสองเดือนตลอด ไม่ว่าจะเป็นภารกิจที่ชั่งแสนหลอนกว่าซีซั่นไหน ๆ หรือแม้แต่การทะเลาะกันของยัยฝาแฝดกับแฟนหนุ่มของฉัน แล้วก็ยังมีอะไรอีกนะ ... อ้อ ! ตอนที่ฉันต้องไปตามช่วยเหลือเพื่อน ๆ ออกมาจากโรงงานหุ่นขี้ผึ้งน่าขนลุกนั่นอีก
ประสบการณ์สองเดือนที่ผ่านมาของฉันทำให้ฉันได้เห็นมุมมองของคนมากมายที่ฉันไม่สามารถจะสัมผัสได้ในสังคมปัจจุบัน คนทุกคนใส่หน้ากากเข้าหากัน ต้องทำดีใส่กันทั้งที่ในใจแล้วไม่อยากจะทำแบบนั้น เลยด้วยซ้ำ
แต่สำหรับที่นี่ ... เรื่องการใส่หน้ากาก ตัดไปได้เลย
โดยเฉพาะกับฌอร์นที่ฉันเกลียดเขามากตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในเกมตั้งแต่ช่วงแรก ฉันคอยถาวนาตลอดนะ ว่าอยากจะให้อีตานี่ตาย ๆ ไปซะตั้งแต่วีคแรก ๆ อย่ามาเกะกะขวางตาของฉัน แต่พอเขาได้อยู่มาเรื่อย ๆ มันทำให้ความคิดของฉันได้เปลี่ยนไปสิ้นเชิง จนตอนนี้ ฉันไม่อยากจากเขาไปเลยด้วยซ้ำ >[]<!
แชะ ... แชะ!
เสียงรัวกล้องในมือของฉันดังขึ้น ภาพถ่ายผ่านกระจกไปยังสวนสาธารณะใจกลางตัวเมืองของกรุงเทพ ผู้คนมากมายที่มาออกกำลังกายในช่วงเช้าทำให้ฉันรู้สดชื่นไปพร้อมกับพวกเขาเหล่านั้น คู่รักทุกเพศต่างเดินจูงไม้จูงมือกันอย่างมีความสุขบนสวนแห่งนั้น
เห็นแล้วก็นึกฌอร์น!
อ้อ! ฉันลืมบอกไปว่าฉันเป็นคนเก็บรักษากล้อง DSLR ของรันเวย์ไว้ที่ฉัน ถึงแม้ว่าฉันจะถ่ายรูปสวยสู้เธอไม่ได้ แต่การถ่ายรูปของฉันก็ไม่ได้แย่ซะจนภาพเบลอหรอกนะ
ฉันนั่งกดดูรูปเก่า ๆ ที่รันเวย์เคยถ่ายเอาไว้ ภาพหุบเขาในหมู่บ้านน้ำค้าง ภาพปริศนาคำใบ้ที่ทำให้พวกเราสามารถช่วยเหลือเพื่อน ๆ ออกมาจากอุโมงค์ใต้ดินได้ที่ฝังอยู่ใต้โบสถ์ร้าง
คิดแล้วก้สนุกดีนะ!
ฉันมัวแต่ถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ จนลืมไปว่าถึงคอนโดของฉันแล้ว เพราะเสียงเรียกของลุงคนขับที่ทำให้ฉันรีบกระโจนลงมาจากรถแทบจะไม่ทัน
“ขอบคุณนะคะคุณลุง!” ฉันส่งเสียงดังพรางโบกมืออย่างร่าเริง สวรรค์ของฉัน .... กำลังจะได้นอนบนที่นอนนุ่ม ๆ ตั้งหลายวัน ^O^!
คอนโดสีขาวยังคงตั้งตระหง่านอยู่ที่เดิม แหงล่ะ มันจะเปลี่ยนที่ได้ยังไงกัน วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันแหงนมองคอนโดของฉันแล้วพบว่ามันสูงมากกกกกกกกกกกกก!!
ปิ๊ง!
ประตูกระจกค่อย ๆ เลื่อนออกจากทางด้านซ้ายและทางด้านขวา ฉันเดินก้าวซ้ายและขวาตามเสตปนางแบบของฉัน ฉันมองคนที่มองเริ่มมองมาทางฉัน ฉันมองหน้าของหลาย ๆ คนก่อนที่จะค่อย ๆ ถอดแว่นกันแดดสีดำออก
“นกยูง!!!” ฉันว่าแล้วว่าต้องมีคนรู้จักฉันแน่ ๆ ฉันส่งยิ้มให้เจ้าของเสียงนั้นก่อนที่จะค่อย ๆ หันหลังไปตามเสียงเรียก
“แกเป็นไงบ้างวะ ... สบายดีป่าวเนี่ย พวกฉันมารอพวกแกที่คอนโดแต่เช้าเลยนะเนี่ย พอรู้ว่าแกจะกลับมา ” เสียงใสเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
เธอคือวีด้า เพื่อนของฉันเองค่ะ ... ยัยนี้เป็นเพื่อนรักปาท่องโก๋ของฉัน ไปไหนไปกัน ค่ำไหนนอนนั่น เราถือว่าเป็นเพื่อนซี้ปึ๊กๆ คู่หนึ่งเลยก็ว่าได้
“กรี๊ดดดดดดดดดดด!! ยัยวีด้า!!” ฉันโผเข้ากอดเพื่อนรักของฉันไว้ในอ้อมแขนสวย ๆ นั้น น้ำตาไหลเป็นทางสามแพร่ง
“แกเป็นยังไงบ้าง?”
“ฉันสบายดีมากที่สุดเลย แกอ่ะ?”
“เหมือนแกเลย”
“ฉันดูแกมาตลอดเลยนะเว้ย กระหน่ำโหวตให้แกจนเงินหมดไปหลายพันแล้วนะ ....”
“ขอบใจนะจ๊ะ!”
“งั้นถ้าแกรอดออกมาได้ฉันขอไรแกอย่างดิ?”
“อะไรง่ะ?”
“ขอเงินที่โหวตคืนด้วย!”
“.....” ฉันผละออกจากอ้อมแขนของเพื่อนสาวแสนสวยของฉัน จ้องหน้าของมันที่ทำให้ฉันเสียอารมณ์อย่างแรง
“ล้อเล่นน่ะค่ะล้อเล่น” ยัยวีด้าตบไหล่ฉันก็ฉันเกือบจะคะมำ ฉันกอดคอเพื่อนรักของฉันก่อนที่จะกดลิฟท์เพื่อไปยังสวรรค์รังน้อยของฉัน
“พอ่แม่แกอยู่ห้องป่าว?” วีด้าหันมามองฉัน
“ไม่รู้สิ ... ขึ้นไปก็เห็นเองแหล่ะ” ฉันพูด ลิฟท์มาแล้ว ฉันมองหน้ายัยวีด้าก่อนที่จะขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นเจ็ด
ประตูลิฟท์ค่อย ๆ เปิดออก ฉันรีบวิ่งไปยังห้องนอนหมายเลข 706 ฉันเคาะประตูอย่างแรงจนประตูเหือบจะโค่นมาทับฉัน
แก๊ก! ประตูค่อย ๆ เปิดออกอย่างช้า ๆ คุณแม่กับคุณพ่ออยู่จริง ๆด้วย!
“พ่อค่ะ แม่คะ!” ฉันกอดท่านทั้งสองอีกครั้งอย่างแน่นจนท่านเกือบจะหายใจไม่ออก พ่อและแม่มองหน้าฉันอย่างดีใจที่เห็นฉันกลับมา พ่ออาถือกระเป๋าเดินทางที่มีแต่เครื่องสำอางของฉันไปไว้ในที่โซฟา
“คิดถึงคุณแม่ที่สุดเล้ย” ฉันกอมแม่ไปฟอดใหญ่
“เอ้อ นกยูง .. มีของส่งมาถึงลูกด้วยนะเมื่อเช้า ... พ่อเพิ่งเอาไปเก็บไว้ในห้องให้ลูก”
“ของ .. ส่งถึงหนู” ฉันมองหน้ายัยวีด้าก่อนที่จะไปยังห้องนอนทางขวาของคอนโด
“อะไรอ่ะแก สวยว่ะ” วีด้าหยิบของชิ้นมาไว้ในมือของหล่อน
ชุดเดรสสีชมพูลายลูกไม้แบบสบาย ๆ ... ที่แนบมาพร้อมกับบัตรเชิญของงานอะไรซักอย่างที่แนต้องสงสัยและหยิบมันมาดู
“ขอเชิญไปงานเลี้ยงหน้ากากในคืนนี้ที่ ......” ฉันอ่านสถานที่ที่ฉันไม่ค่อยคุ้นนัก
“ใครชวนแกอ่ะ ... ดูท่าทางจะใหญ่โตซะด้วยนะ!” วีด้ามองหน้าที่กำลัง งง งง ของฉัน ....
ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่างานนี้มันคืองานของใคร แต่ในเมื่อเขาเชิญฉัน ฉันก็ต้องไปงานนี้ให้ได้!
ความคิดเห็น