ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฆ่า ... ออกทีวี 2 ตอน Survivors Battle

    ลำดับตอนที่ #30 : File 4 .: อีกฟากของกำแพง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 278
      0
      9 ม.ค. 53

    KiLL GamE 2

    File 4 .: อีกฟากของกำแพง

     

    น้ำที่ค้างอยู่บนฝ้าเพดานเก่าจนเห็นขี้เลื่อยข้างในหยดลงมาราวกับเวลาที่กำลังดำเนินไปอย่างช้า ๆ แท่งเหล็กปลายแหลมปริศนาพุ่งขึ้นมาจากช่องพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่นหนาเตอะ ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าพื้นที่พวกเขายืนนั้นเต็มไปด้วยรูเล็ก ๆ มากมายที่เรียงรายกันอยู่

     

    “ อะไรวะนั่น!! ” พีระตกใจกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่แต่พีระคนเดียว คนอื่น ๆ ในห้องต่างลนลานพยายามหาทางออกไปจากห้องนี้

     

    เหล็กตัวที่สองพุ่งขึ้นตามเหล็กแหลมตัวแรกมาติด ๆ ราวกับมีกลไกควบคุมมันอยู่ ตอนนี้พวกเขาต้องหาทางทำอะไรซักอย่างก่อนที่จะถูกเหล็กแหลมเสียบทั้งเป็น หนุ่มสาวพยายามทั้งถีบ ทั้งผลัก ทั้งดันประตูเหล็กให้เปิดออก แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาสักนิด

     

    เวลาเริ่มหมดลงทุกที พวกเขาต้องรีบออกมาจากห้องให้เร็วที่สุด “ ไนท์! มัวทำอะไรอยู่ เร็วเข้าเซ่!! ” แชมป์โวยวายเหมือนคนเสียสติ มือทั้งสองยังคงช่วยไนท์ผลักลูกกรง ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีประโยชน์ก็ตามที คนในห้องต่างส่งเสียงโวยวายแข่งกับเวลาที่กำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ จะมีก็แต่ตุ๊กตาที่ยืนลุ้นเพื่อนอยู่ห่าง ๆ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนเดียวที่ควบคุมสติได้ดีที่สุด เธอก็เป็นคนที่กลัวเรื่องแบบนี้ที่สุดเช่นกัน

     

    “ เราจะออกไปจากที่นี่ได้ไง? ” ร่างสูงถามขึ้นหลังจากที่เขาเดินสำรวจอยู่รอบ ๆ หุ่นนายแบบของเขาสร้างความสนใจให้สาว ๆ อยู่หลายคน แต่มาถึงตอนนี้ พรสวรรค์กลับไม่มีประโยชน์อะไรเลยด้วยซ้ำ

     

    “ อย่าว่าแต่ทางออกเลยอ่ะบูม รูหนูเล็กๆ ซอลยังไม่เห็นสักรู ” เด็กสาวผมทองมองหน้าเขาอย่างเหนื่อยใจก่อนที่จะนั่งลงข้าง ๆ มองดูดีดีเหมือนเสากิโลกับเสาไฟฟ้ามากเลยทีเดียว

     

    “ แล้วแบบนี้เราจะออกไปจากห้องบ้า ๆ นี่ได้ไงกันเล่า ” เพลง เด็กสาวอีกคนพูดก่อนที่จะขยำกระดาษในมือและขว้างทิ้งไปอย่างไม่ใยดีนัก คนที่เหลืออยู่ในห้องได้แต่นั่งชันเข่าราวกับรอความตาย

     

    พวกเขาคือกลุ่มเด็กนักเรียนห้องม.6/7 เช่นเดียวกัน ต่างกันก็แต่เพียงสถานที่ที่เรียนปัจจุบัน ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดถูกขังอยู่อีกฟากหนึ่งของห้องขัง ห้องสี่เหลี่ยมสีขาวที่ถูกหยากไย่ยึดพื้นที่ไปจนหมด ไม่มีลูกกรงเหมือนกับห้องขังในแถบนั้น แต่จะเป็นพื้นที่ที่ทำด้วยกระจกใส จะเรียกได้ว่าเป็นห้องขังก็ไม่ถูก เพราะส่วนนี้ไม่ได้มีลูกกรงเหมือนกับอีกฟากหนึ่งของอาคารนี้

     

    “ เพลง .... ฉันกลัว ” เฟลม เขย่าร่างของเด็กสาวที่ทิ้งเศษกระดาษไปเมื่อครู่ เด็กสาวได้แต่มองหน้าเพื่อนโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

     

    เด็กหนุ่มอีกคนไม่ได้พูดอะไร เขามองหน้าเพื่อน ๆ ที่เอาแต่ร้องไห้ฟูมฟาย พลันอีกมือไปคว้ากระดาษยับที่กำลังจะปลิวไปด้านหลังห้องมาเปิดอ่านข้อความภายใน แต่ยังไม่ทันที่ข้อความนั้นจะผ่านสู่สายตาของเด็กหนุ่ม เสียงบางอย่างได้ดังขึ้นมาเอาดื้อ ๆ

     

    “ เสียงอะไรน่ะ .... ” เด็กสาวที่ดูท่าจะหวาดกลัวที่สุดในห้องพูดขึ้นพรางกำแขนเสื้อของเด็กหนุ่มอีกคนไว้แน่น ในใจของเธอยังอดนึกถึงพี่สาวฝาแฝดที่หายไปไม่ได้เลย

     

    “ ปิ่นไม่ต้องกลัวหรอกนะ เดี๋ยวเพลงกับโอ๊ตจะปกป้องปิ่นเอง .... ” เด็กสาวลูบปลอยผมของเพื่อนที่กำลังสะอึกสะอื้น เด็กหนุ่มยิ้มออกมาน้อย ๆ

     

    “ ถ้าพี่ปอกับพลอยเป็นอะไรแล้วปิ่น .... ปิ่น .... ” เด็กสาวยังคงฟูมฟายต่อท่ามกลางความมืดที่อยู่รอบ ๆ ห้องกระจกนั้น

     

    กลิ่นอับของน้ำที่ขังอยู่ภายในห้องเริ่มส่งกลิ่นโชยตะจมูกของพวกเขา บางคนต้องเอาแขนเสื้อมาปิดจมูกเพราะไม่สามารถทนกลิ่นอับของสถานที่ที่น่ารังเกียจนี้ได้ ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางออกไปได้เลยแม้แต่ทางเดียว รอบตัวมีเพียงเก้าอี้ยาว กระจกที่ไม่มีทางออกและกลิ่นอับของความชื้นเท่านั้น เด็กสาวที่นึกเงียบอยู่นานนึกคิดอะไรได้บางอย่าง

     

    ถ้าไม่มีทางออกจริง ๆ แล้วพวกเราจะเข้ามาในนี้ได้ไง .... เธอคิดพลันลุกขึ้น สองขาของเธอก้าวไปที่ผนังกระจกแทบจะทันที

     

    “ จะทำอะไรของเธอน่ะพินทร์ ” ริน เด็กสาวที่ขึ้นห้องปกครองเป็นว่าเล่นโพล่งขึ้นมาเมื่อเห็นเด็กสาวเดินไปยังผนังกระจก

     

    เด็กสาวไม่ได้พูดอะไรนอกจากใช้มือเรียวสวยค่อย ๆ ลูบไปตามผนังกระจกใสอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อน ๆ ที่เหลือได้แต่ยืนดูพฤติกรรมแปลก ๆ ของหล่อน มือทั้งสองยังคงสัมผัสกับผนังกระจกอย่างช้า ๆ พลันมีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นกับเธอ

     

    ผนังกระจกที่ดูเนียนจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันกลับมีกระจกทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสซ้อนอยู่บนกระจกบานใหญ่นั้น รอยยิ้มเริ่มปรากฏลงบนใบหน้าที่ขาวใสของเจ้าตัว มือขวากดลงไปบนกระจกจนกระจกนั้นสมานกันเป็นแผ่นเดียว

     

    “ ว่าแล้วว่ากระจกบานใหญ่แบบนี้ต้องมีทริคซ่อนอยู่ ” เพลงมองเพื่อนสาวอย่างชื่นชม เธอชอบคนที่เก่งเรื่องกลไกและการเอาตัวรอดแบบนี้ เพราะนั่นเป็นการที่ทำให้พวกเราทุกคนจะรอดออกไปจากที่นี่

     

    กึ้ง!

     

    เสียงบางอย่างดังมาจากเพดานห้อง พวกเขาแหงนหน้าขึ้นไปแทบจะพร้อม ๆ กัน ปิ่นหยกนั้นเกาะแขนของเพลงแน่น สวิซไฟที่อยู่ในห้องเริ่มเกิดการช๊อตอย่างไม่ทราบสาเหตุ พวกเขาได้แต่เกาะกลุ่มกันไว้โดยที่ไม่มีใครเดินไปทางไหนเลย พลันบางสิ่งบางอย่างก็ออกมาจากฝ้าเพดานนั้น

     

    น้ำจำนวนมหาศาลที่ทะลักออกมาราวกับมัจจุราชที่กำลังจะมากระชากวิญญาณของพวกเขาให้ตายภายในครั้งเดียว!

     

    ฝั่งของพลอย

    “ กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!! ” ตุ๊กตาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความกลัวสุดขีดหลังจากที่หลบบางสิ่งบางอย่างที่เกือบจะเสียบเธอเขาทะลุหน้าอก

     

    ภายในห้องดูชุลมุนและวุ่นวายกันมาก ผู้เข้าแข่งขันต่างพยายามเกาะลูกกรงเอาไว้ต่างไม่ยอมไปอยู่หลังห้องกันเหมือนแต่ก่อน เมื่อสิ่งนั้นเริ่มพุ่งขึ้นมาตามรูเล็ก ๆ ของพื้น น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้มของบรรดาผู้ที่พยายามตะเกียดตะกายเอาชีวิตตัวเองให้รอดออกมาจากห้องนั้น

     

    “ ไนท์ ได้หรือยัง!! ” ผ้าแพรถามเด็กหนุ่มเสียงดังจนทำเอาเขาทำอะไรแทบไม่ถูก เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ เหงื่อเม็ดโตเริ่มผุดออกมาตามใบหน้าของไนท์ สองมือพยายามเอื้อมไปที่สวิซอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ทุกครั้งเขาทำพลาดทั้งหมด

     

    เสียงร้องของเพื่อน ๆ สร้างความกดดันให้กับเขาเป็นอย่างมาก เขาต้องใช้ความพยายามทั้งหมดในการพาเพื่อนทั้งหมดออกมาจากห้องแห่งความตายนี้ให้ได้ เมื่อเห็นท่าไม่ดี แชมป์และพีระรีบวิ่งเข้ามาช่วยไนท์อีกแรง เด็กสาวในห้องต่างส่งเสียงแข่งกับเวลาที่กระชั้นชิดเข้ามาทุกขณะ แท่งเหล็กยังคงพุ่งขึ้นมาตามรูอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหมดไป ตอนนี้เหลือพื้นที่ให้พวกเขายืนไม่มากแล้ว

     

    “ ฮือ .... พลอย ช่วยปอด้วย!! ” แหมในสถานการณ์ที่ผ่านมา พลอย พี่เลี้ยงตัวดีได้แกล้งเด็กสาวมาตลอด แต่ถึงตอนนี้ เธอต้องช่วยพี่สาวฝาแฝดของเพื่อนเธอให้ได้ ตอนนี้ที่เธอคิดอย่างเดียวคือ ชีวิตของปอแก้วที่เธอต้องดูแลเอาไว้

     

    แท่งเหล็กพุ่งขึ้นมาเฉียดร้องเท้าผ้าใบของเอมไปตอนที่เธอชักขากลับมาอย่างหวุดหวิด มือทั้งสองเกาะลูกกรงเหล็กไว้แน่น รองเท้าผ้าใบเป็นรูเล็ก ๆ หน้าตาซีดด้วยความตกใจ ผ้าแพรจับแขนของเธอที่กำลังกลัวไว้แน่น ในขณะเดียวกัน จุดมุ่งหวังที่เขาต้องการก็สำเร็จ สามหนุ่มใช้แรงทั้งหมดดันแท่งเหล็กไปจนติดสวิซ เสียงสวรรค์นั้นดังขึ้นมาช้า ๆ ก่อนที่ประตูกรงจะเปิดออก พวกเขารีบวิ่งเบียดกันออกไปจนแทบจะพร้อมกัน ไม่รู้ว่าใครแย่งกันออกไป แต่มันทำให้ตุ๊กตาล้มไปที่พื้นด้วยแรงเบียดของเพื่อน ๆ แท่งเหล็กโผล่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วราวกับรอเหยื่อ

     

    ฟึ่บ!

     

    พวกเขารีบหันเข้าในทันทีที่ได้ยินเสียงร้องของเพื่อนสาวที่ดังออกมา พวกเขาทั้งหมดออกมาด้านนอกได้แล้วเว้นแต่ตุ๊กตาที่ติดอยู่ข้างใน แท่งเหล็กนั้นปักขึ้นมาบนพื้นราวกับจะฆ่าเด็กสาวให้ตาย น้ำตาจากดวงตาทั้งสองเริ่มไหลออกมาไม่หยุดหย่อน

     

    อีกฟากหนึ่งของกำแพงนั้น ผู้รอดชีวิตอีกกลุ่มหนึ่งต่างพยายามทุบกระจกกันจ้าล่ะหวั่น บางคนเอาแต่นั่งร้องไห้ตัวงออยู่บนเก้าอี้ยาว บางคนก็ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือทั้งที่รู้ว่าไม่มีประโยชน์ เนื้อตัวของพวกเขาเปียกชุ่มไปด้วยน้ำที่ไหลออกมาจากฝ้าเพดาน ตอนนี้ภายในห้องกลายเป็นตู้ปลาขนาดย่อมที่บรรจุคนอยู่ข้างใน น้ำกำลังจะเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อย ๆ

     

    “ ถ้าน้ำท่วมจนสุดแล้วไปโดนสวิซไฟนั่น เราโดนย่างแน่ ” โอ๊ตชี้ไปที่ไฟฟ้าที่กำลังรวน มันยิ่งทำให้พวกเขากลัวขึ้นเป็นทวีคูณ

     

    เพลงได้แต่แหงนหน้าขึ้นไปบนฝ้าเพดานที่มีน้ำไหลออกมา มีฝ้าเพดานหนึ่งที่ผิดปกติ มันสั่นอย่างแรงเหมือนกับว่าฝ้านั้นถูกวางไว้เฉย ๆ

     

    “ บูม นายช่วยดันฝ้านั่นออกหน่อยได้ไหม ” เธอพูดอย่างใจเย็น เขาพยักหน้าระรัว เพื่อนคนอื่น ๆ ต่างช่วยกันดันเก้าอี้มาให้ตรงกับฝ้าเพดาน ด้วยความที่เขาตัวสูงอยู่แล้ว ทำให้เขาเปิดฝ้านั้นได้ไม่ยาก เขาใช้แรงไม่มากนักในการดันให้ออกโดยการดันเพียงแค่ครั้งเดียว

     

    “ จริง ๆ ด้วย... ” เมื่อฝ้านั้นถูกเปิดออก มีช่องเล็ก ๆ ที่สามารถรอดออกไปได้ตามที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด เด็กหนุ่มส่งตัวเพื่อนสาวออกไปตามช่องเล็ก ๆ นั้น พวกเธอค่อย ๆ คลานตามกันไปติด ๆ จนเฟลม เด็กสาวที่คลานมาเป็นคนแรกค่อย ๆ แงะผนังออกจนเป็นช่อง เธอค่อย ๆ กระโดดลงมาก่อนที่จะรับเพื่อน ๆ ที่กำลังจะตามลงมา

     

    “ ผ้าแพร ขึ้นมาสิ! ” บูมส่งมือให้กับผ้าแพร เธอเป็นคนเดียวที่ยังไม่ขึ้นมา มือเรียวยาวส่งให้อีกมือที่รออยู่ข้างบนรับไว้ก่นอที่คนที่อยู่ด้านบนจะใช้แรงดึงเด็กสาวให้ขึ้นมา

     

    “ เก่งเหมือนกันนะเนี่ย ” บูมขยี้หัวของเด็กสาวเป็นเชิงชม

     

    เด็กสาวยิ้มตอบก่อนที่จะคลานออกมาถึงอีกฟาก สองขากระโดดลงมารวมกับเพื่อน ๆ ไม่มีใครเป็นอะไรหรือบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว ตอนนี้เหลือแต่ว่าพวกเขาต้องเดินทางออกจากที่นี่ได้ยังไง

     

    “ จะลงไปไหม? ” เฟลมถามความเห็นของเพื่อนเมื่อเห็นว่าตรงหน้านั้นมีบันใดอยู่เพียงจุดเดียวเท่านั้น

     

    “ ก็คงต้องเดินลงไปอย่างเดียว คงไม่กลับไปอีกฟากให้ตายหรอกนะ ” รินพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันก่อนที่จะเดินลงไปตามทางบันใด เพื่อน ๆ ได้แต่มองหน้ากันก่อนที่จะลงไปข้างล่าง ไม่มีใครคิดโต้ตอบกับเด็กสาวอยู่แล้ว หลีกเลี่ยงปัญหานั่นคือทางออกที่ดีที่สุด

     

    “ ช .. ช่วยด้วย ” เด็กสาวขอความช่วยเหลือหลังจากที่เหล็กนั้นพุ่งขึ้นมาจนทำให้เธอไม่สามารถขยับตัวได้ ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย ได้แต่มองกันอย่างลังเล นั่นทำให้แชมป์รีบวิ่งกลับเข้าไปในห้อง เขาพยายามมองเหล็กนั้นว่าเสียบโดนจุดสำคัญของเธอหรือเปล่า

     

    “ ดึงเราออกไปที ” โชคดีที่เหล็กพุ่งมาปักชายเสื้อด้านหลังของเธอทำให้ไม่สามารถขยับตัวไปได้เท่านั้น เด็ดหนุ่มออกแรงดึงให้เสื้อนั้นขาดออก พลันรีบคว้าร่างของเด็กสาวออกมาก่อนที่แท่งเหล็กจะพุ่งตามสองหนุ่มสาวมาติด ๆ จนพวกเขาสามารถพ้นออกมาจากห้องนั้นได้

     

    “ ขอบใจนะ ” เด็กสาวพูดทั้งน้ำตา พวกเขาดีใจที่เพื่อนยังไม่เป็นอะไร แชมป์ได้แต่พยุงเด็กสาวเดินไปจนสุดทางที่มีบันใดเชื่อมต่อลงไปด้านล่าง

     

    “ เอาไง? ” พลอยมองตาเพื่อน ๆ

     

    “ ต้องไปทางนี้ทางเดียว ” เด็กหนุ่มร่างสูงพูดแทนคำตอบของเพื่อน ๆ ก่อนที่ทุกคนจะตัดสินใจเดินลงไปที่บันใดที่ไม่รู้จะทอดยาวไปที่ใด





    _________________________________________________________________________________________
    TO BE CONTINUE ....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×