ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Unique : ปฏิบัติการลับ นักเรียนพลังยูนิค

    ลำดับตอนที่ #32 : Chapters 1 : ชีวิตของเด็กคิงส์คลาส

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 160
      7
      3 ธ.ค. 61

    S
    N
    A
    P

    THE UNIQUE
    Episode 7 l Chapters 1 : ชีวิตของเด็กคิงส์คลาส
    ------------------------------------------------------

     

    ฟู่วววววว

    เด็กหนุ่มผ่อนลมหายใจอีกครั้งเมื่อขนของทั้งหมดของตัวเองเข้าที่เรียบร้อยแล้ว มังกรเดินไปเปิดหน้าต่างเพื่อให้ลมได้ระบายเข้ามาได้ง่ายขึ้น โชคดีของเขาที่ห้องนอนชายอยู่ทางฝั่งตะวันออก ทำให้เขาตื่นมารับแสงแดดแรกของวันได้อย่างเต็มที่ สองเท้าย่างออกไปริมระเบียงห้องนอนของตัวเองก่อนจะพบว่าขนาดของระเบียงกว้างกว่าห้องที่เคยนอนกับรูมเมทเป็นไหน ๆ ทั้งสภาพแวดล้อม รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่าง ๆ เขาจะเป็นเจ้าของมันแต่เพียงผู้เดียว เขายืดเส้นยืดสายก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ซึ่งมีโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ล่าสุดตั้งอยู่ที่โต๊ะ

    ตอนนี้เขาอยู่ในห้องนอนชั้นสามสำหรับเด็กคิงส์คลาส...

    หลังจากที่ผลการสอบคัดเลือกเสร็จสิ้นลง เจ้าของรายชื่อทั้งแปดต้องมารายงานตัวเพื่อรับกุญแจห้องพักใหม่ในตอนเช้าของวันต่อมา ผู้ชายสี่คนจะแยกไปทางโซนตะวันออกส่วนผู้หญิงที่เหลือจะย้ายไปทางโซนตะวันตกเช่นเดียวกัน สิ่งแรกที่เขาได้รับคือห้องขนาดใหญ่เป็นสองเท่าจากห้องเดิมที่เขาเคยพักมา ทุกอย่างเป็นของใหม่หมด ถัดไปทางห้องฝั่งตรงข้ามทั้งหมดจะเป็นของรุ่นพี่ปีสองที่เป็นผู้ชาย ระหว่างที่เขาเดินผ่านมาก็เจอเข้ากับรุ่นพี่เบียร์และมาร์คที่นั่งทำงานอยู่ในห้องเกี่ยวกับงานวิจัยพันธุกรรมมนุษย์ เขาทั้งสองส่งยิ้มให้พร้อมกับแมวดำที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียงอย่างสบายอารมณ์ นับเป็นวันแรกที่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้เกิดใหม่อีกครั้ง เมื่อทุกอย่างถูกจัดจนเขาเห็นว่ามันเข้าที่แล้ว เขาจึงถือวิสาสะเดินสำรวจทางเดินชั้นสามที่มีเฉพาะแค่เด็กคิงส์คลาสเท่านั้นที่ได้สัมผัสมัน

    ชั้นสามของหอพักนั้นเป็นทางเดินที่ปูด้วยพรมสีแดงกำมะหยี่ ไม่มีเสียงรบกวนเวลาที่เขาเดินผ่านห้องพักแต่ละห้องมาจนถึงส่วนกลางของชั้นที่เหมือนจะเป็นลานน้ำพุขนาดย่อมที่เป็นรูปคนโทน้ำแกะสลักเรียบหรู จากตรงนี้จะมีทางแยกไปอีกสองทาง ทางซ้ายเป็นทางเดินที่ทอดยาวไปที่ไหนสักแห่ง ส่วนตรงหน้าเป็นโซนห้องพักหญิง

    “เด็กใหม่...” เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากทางด้านหลังจนเขาเผลอสะดุ้ง

    เด็กหนุ่มเจ้าของเสียงนั้นขยับแว่นกรอบหนาเล็กน้อยพร้อมกับสมุดในมือและเอกสารในแฟ้มสีส้ม เสื้อเชิ้ตลายทางสีครามตัดกับสีขาวช่วยขับผิวของเขาให้ดูดีมากยิ่งขึ้น ดูจากหน้าตาแล้วน่าจะเป็นรุ่นพี่ปีสอง เพราะว่ามังกรไม่เคยเห็นเด็กคนนี้มาก่อน เขากระแอมไอเล็กน้อยก่อนจะยื่นเอกสารทั้งหมดให้

    “นี่เป็นเอกสารการเรียนและตารางกิจกรรมต่าง ๆ ของเด็กคิงส์คลาสรวมไปถึงตารางเรียนพิเศษของคิงส์คลาสด้วย อีกห้านาทีจะมีการปฐมนิเทศเด็กคิงส์คลาสรุ่นที่สอง นายเดินไปตามทางเดินทางด้านซ้ายมือ ห้องจะอยู่ข้างในสุดเขียนว่าห้องประชุม ฉันมาบอกแค่นี้แหละเพราะฉันจะต้องเตรียมตัวเข้าห้องอบรมแล้ว” เขาพยายามสรุปเนื้อหาให้สั้นที่สุดก่อนจะทำทีเดินออกมาจากตรงนั้น

    “เดี๋ยวครับ! ว่าแต่รุ่นพี่ชื่ออะไรครับ?” มังกรเผลอถามไปเพราะต้องการการสร้างมนุษยสัมพันธ์ก็เท่านั้น

    “บุ๊ค...” เขาตอบกลับมาแค่นั้นก่อนจะเดินหายไปยังทางเดินด้านซ้ายมือ

    ดูเป็นคนที่เก็บตัวน่าดูเลยนะ รุ่นพี่คนนั้น

     ยังไม่ทันที่เขาจะได้จัดเอกสารทั้งหมดในมือ ฝ่ามือหนาตบเบา ๆ ที่ไหล่ของเขาพร้อมกับรอยยิ้มที่มีลักยิ้มดูกวนประสาท กวินและไนท์เดินเข้ามาทักทายเพื่อนร่วมคลาส ในมือของเขาเองก็มีเอกสารเช่นเดียวกัน

    “เข้าไปข้างในเลยไหม จะได้ปฐมนิเทศให้มันเสร็จ ๆ สักที หิวข้าวจะแย่แล้ว” กวินเอามือลูบท้องตัวเองไปมาก่อนจะเดินนำหน้าคนทั้งสองไปยังห้องที่ว่า

    เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นผลงานต่าง ๆ มากมายของทางพรอนันต์เลิศวิทยาเกี่ยวกับเด็กที่มีความพิเศษทั้งหลายในรุ่นก่อน ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นรูปของริษาและเบียร์ที่เป็นตัวท๊อปของคิงส์คลาส ไม่ใช่แค่นั้น ทางซ้ายมือของทางเดินยังมีห้องโถงขนาดกลางที่มีทั้งชั้นหนังสือ ห้องคาราโอเกะ มุมโฮมเธียร์เตอร์และบอร์ดเกมต่าง ๆ พวกเขาไม่เห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ในระหว่างที่พวกเขากำลังตะลึงกับโถงอยู่นั้น สายตาของกวินก็เหลือบไปเห็นภาพภาพหนึ่ง น่าจะเป็นภาพการถ่ายรูปรวมของเด็กคิงส์คลาสรุ่นแรกและอาจารย์ประจำคลาสพิเศษ

    มันคือรูปรวมของเด็กชายหญิงจำนวนแปดคนที่ยืนเรียงหน้ากระดานถ่ายภาพรวมรุ่มโดยมีฉากหลังเป็นลานน้ำพุของชั้นสามผู้ชายสี่คนยืนอยูทางด้านซ้ายมือของภาพและอีกสี่คนซึ่งเป็นผู้หญิงอยู่ทางด้านขวา เขายืนมองดูคนในรูปทีละคน มีสองคนที่เขายังไม่เคยเจอในการทดสอบคัดเลือกเมื่อวานนั่นคือเด็กผู้หญิงที่มีปากเสียงกับริษาและเด็กผู้ชายที่สวมฮูทสีแดงเพลิง

    สองคนนี้เขาอยู่ที่ไหนกันนะ ....

    “กวิน ได้เวลาเข้าห้องแล้วนะครับ!” เสียงของไนท์ปลุกให้กวินหลุดออกมาจากความคิดนั้น เขาพยักหน้ารับก่อนจะวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปในห้อง

     

    เขาเป็นกลุ่มสุดท้ายที่เข้ามาในห้อง พวกผู้หญิงสี่คนและมิวส์เข้ามารออยู่ก่อนแล้ว รวมไปถึงรุ่นพี่อีกหกคนที่ยืนเรียงอยู่หน้าห้อง พวกเขาหาที่นั่งก่อนจะเริ่มการปฐมนิเทศ อาจารย์สาวที่เขาเคยเจอในการสอบ อาจารย์มิรินฎา เธอคืออาจารย์ที่ปรึกษาสำหรับคิงส์คลาสนั่นเอง

    “สวัสดีอีกครั้งนะคะเด็กคิงส์คลาสในรุ่นที่สองทุกคน คงรู้จักชื่อของครูแล้วเนอะว่าครูชื่ออะไร ครูอยากให้ทุกคนในห้องแนะนำตัวให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักรวมไปถึงยูนิคของตัวเองด้วย จะเริ่มจากรุ่นพี่ปีสองก่อนนะคะ เริ่มที่ริษาเลยแล้วกันนะ” อาจารย์สาวผายมือไปยังคนที่อยู่ใกล้ที่สุด

    “พี่ชื่อริษาค่ะ ยูนิคคือ Cherry Bomb การสร้างระเบิดมือค่ะ”

    “โชโชค่ะ มียูนิคคือการดึงสิ่งในภาพออกมาค่ะ” เด็กสาวสวมแว่นกล่าวอย่างเรียบร้อย

    “บุ๊ค ยูนิคคือควบคุมของเหลวให้กลายเป็นเชื้อเพลิง” เด็กชายใส่แว่นอีกคนพูดขึ้น

    “เบียร์ครับ ยูนิคคือการลอยตัวครับ” หนุ่มตี๋สุดหล่อของห้องกล่าวแนะนำตัว กาเหว่าปรบมือดังกว่าใครเพื่อนเมื่อเห็นรุ่นพี่ร่างสูงคนนั้น

    “ชื่อแอนค่ะ ยูนิคคือการมองภาพผ่านกล้องวงจรค่ะ”

    “คนสุดท้ายเลยนะครับ ชื่อมาร์คครับ ยูนิคคือการสร้างไฟในทุกรูปแบบครับ”

    “พวกเราจะเป็นรุ่นพี่ในการเรียนและการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของคิงส์คลาสต่อจากนี้ไปจนจบภาคการศึกษา เพราะฉะนั้นถ้ามีอะไรที่สงสัยสามารถถามพวกเราได้ค่ะ” ริษาเป็นคนสรุปทั้งหมด

    เมื่อรุ่นพี่ได้ทำการแนะนำตัวกับพวกเขาไปครบทุกแล้ว พวกเขาจึงเริ่มแนะนำตัวเองให้รุ่นพี่ได้รู้จักบ้าง ทั้งแปดคนซึ่งเป็นเด็กใหม่ของคิงส์คลาสใช้เวลาไม่นานนักก่อนที่อาจารย์มิรินฎาจะประกาศชี้แจงในเรื่องต่อไป

    “สำหรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ เฉพาะเด็กคิงส์คลาส เรื่องแรกพวกเธอคงรู้ดีอยู่แล้ว นั่นคือการมีห้องนอนแยกออกมาเป็นของตัวเองเพื่อความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องนอนรวมกับเพื่อนที่เป็นคลาสปกติ”

    “อย่างที่สองเลยคือพวกเธอจะสามารถใช้ศูนย์อาหารซึ่งอยู่ชั้นใต้ดินของหอพักแห่งนี้ได้ และทุกเมนูในศูนย์อาหารสำหรับคิงส์คลาส ฟรีค่ะ...แต่ถ้านักเรียนอยากจะไปกินที่โรงอาหารหลักของพรอนันต์เลิศวิทยาก็สามารถทำได้เช่นกัน แค่แสดงบัตรนักเรียนเฉพาะของคิงส์คลาสก็จะสามารถทานทุกเมนูได้ฟรีเช่นเดียวกัน ส่วนข้อยกเว้นคือนักเรียนไม่มีสิทธิ์จะพานักเรียนคนอื่นที่ไม่ใช่คิงส์คลาสขึ้นมาบนชั้นสามถ้าไม่ได้รับอนุญาต ถ้าทำผิดจะต้องโดนลงโทษตามระเบียบของคลาส และในขณะเดียวกันถ้าทำผิดกฎของโรงเรียน คิงส์คลาสจะได้รับเว้นโทษในบางกรณีเช่นกัน” อาจารย์มิรินฎาดื่มน้ำก่อนจะเริ่มพูดต่อ

    “ในเรื่องของการเรียนนั้น พวกเธอจะได้ห้องเรียนใหม่ซึ่งอยู่ทางด้านในสุดต่อจากคลาสซีซึ่งเป็นประตูบานเลื่อนที่สามารถเข้าห้องได้ด้วยบัตรผ่านของเด็กคิงส์คลาสเท่านั้น และเนื้อหาที่อยู่ในคิงส์คลาสไม่สมควรได้รับการเผยแพร่ออกไป เพราะห้องเรียนของเราเป็นห้องเรียนชั้นสูงและเนื้อหาการเรียนของคลาสจะไม่เหมือนกับของสามคลาสทั่วไป เพราะฉะนั้นขอให้รักษากฎนี้อย่างเคร่งครัดนะคะ”

    “และเรื่องสุดท้ายคือเรื่องของการทำกิจกรรมและการฝึกซ้อมการใช้พลัง พวกเธอทุกคนจะต้องฝึกฝนการใช้พลังให้มากขึ้นเพราะเราจะวัดคะแนนตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงการจบภาคการศึกษาของปีที่สอง คนที่มีคะแนนสูงที่สุดสามคนแรกจะได้ทำงานให้กับรัฐบาล ซึ่งแน่นอนว่าค่าตอบแทนทุกอย่างจะทำให้เธอและครอบครัวของเธอมีกินมีใช้ไปตลอดทั้งปี และนอกจากนั้นคิงส์คลาสจะเป็นคลาสเดียวที่ได้ออกไปที่กิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งในปีนี้พวกเราได้รับเชิญให้ไปยังชุมชนบ้านแสงจันทร์เพื่อทำค่ายอาสาพัฒนาโรงเรียน และนี่เป็นครั้งที่สองที่เราถูกเชิญให้ไปช่วยพัฒนาโรงเรียนของชุมชนด้วย”รุ่นพี่ปีสองปรบมือกันอย่างดีใจโดยเฉพาะโชโชที่จะดูดีใจเป็นพิเศษ การได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นเป็นสิ่งที่เธอชอบมากที่สุดตั้งแต่เข้ามาในคิงส์คลาสแห่งนี้

    การปฐมนิเทศคร่าว ๆ นั้นกินเวลาไปจนเที่ยง อาจารย์สาวผมสีแดงเพลิงจึงปล่อยให้นักเรียนทุกคนไปทานอาหารกลางวัน หลายคนอยากจะลองไปสำรวจศูนย์อาหารซึ่งเป็นที่ที่พิเศษสำหรับเด็กคิงส์คลาสอย่างพวกเขา เบียร์จึงอาสาพาเด็กใหม่บางส่วนไปยังศูนย์อาหารนั้น

    “อย่างที่อาจารย์บอก ใต้หอนี้มีศูนย์อาหารอยู่ซึ่งเป็นความลับสำหรับเด็กอย่างพวกเราเท่านั้นซึ่งการลงไปชั้นใต้ดินจะต้องมีบัตรผ่านซึ่งเป็นชิฟที่ติดอยู่หลังคีย์การ์ดของห้องพักก่อน แบบนี้” เบียร์อธิบายก่อนจะหยิบคีย์การ์ดของตัวเองขึ้นมา มีชิฟสีทองเล็ก ๆ อยู่ตรงมุมจริง ๆ ลิฟต์ทะยานลงมายังชั้นใต้ดินก่อนจะเป็นทางเดินสีขาวเหมือนกับในโรงพยาบาลที่พวกเขาเคยได้ตรวจร่างกายไม่มีผิด

    กลุ่มเด็กคิงส์คลาสปีแรกซึ่งประกอบไปด้วย ชามา ดาวเรือง กวิน ไนท์และมิวส์ตัดสินใจตามรุ่นพี่ของตัวเองมาสำรวจศูนย์อาหารแห่งใหม่ ประตูสีขาวตรงหน้าราวกับว่ามันถูกปิดตายสนิท เบียร์หยิบคีย์การ์ดของตัวเองออกมาทาบกับเครื่องสแกนหน้าประตู เสียง ติ๊ด!’ ดังขึ้นพร้อมกับกลอนประตูที่ถูกปลดออก เขานำรุ่นน้องทั้งหมดเปิดประตูเข้ามาก่อนจะพบสิ่งที่อยู่ด้านใน เล่นเอาคนทั้งหมดตื่นเต้นกับความสวยงามของศูนย์อาหารแห่งนี้

    มันไม่ใช่ห้องอาหารที่ดูหรูที่สุดเท่าที่ใครหลายคนเคยเห็นมา แต่ทุกอย่างมันถูกแต่งแบบคลาสสิกมาก ห้องอาหารที่ถูกตกแต่งด้วยแชนเดอเลียงใจกลางห้อง มีรูปภาพศิลปะมากมายติอยู่ตามผนังห้องอีกทั้งเชิงเทียนหลายจุดที่ติดไว้ข้าง ๆ รูปภาพทุกรูปให้ความรู้สึกเหมือนคาเฟ่ในเมืองเวทย์มนต์ที่พวกเขาเคยดูในโรงภาพยนตร์ มุมห้องเป็นวัตถุดิบและของสดรวมไปถึงผักต่าง ๆ มากมายที่เบียร์มาบอกที่หลังว่าเป็นบุฟเฟ่ต์ที่สามารถตัดอะไรก็ได้ที่เราอยากกินและไปให้เชฟปรุงรสว่าอยากได้เมนูอะไรและรสชาติแบบไหน แน่นอนว่าทุกอย่างเป็นของดีและมีราคาแพง เป็นมื้ออาหารพิเศษสำหรับคนพิเศษ อีกทั้งศูนย์อาหารแห่งนี้เปิดบริการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่ได้มีแค่อาหารคาวอย่างเดียว ยังมีมุมอาหารหวาน มุมเครื่องดื่มและบาร์เล็ก ๆ ที่มีบาร์เทนเดอร์คอยบริการตลอดเวลา

    “ตามสบายเลยนะทุกคน เดี๋ยวพี่ขอตัวไปเตรียมเอกสารเรียนก่อน มาส่งน้อง ๆ แค่นี้ แล้วอย่าลืมล่ะ คาบบ่ายพวกเธอมีควิชแรกของวิชาร่างกายและความพิเศษของมนุษย์ยูนิคด้วยนะ” เขาโบกมือลารุ่นน้องทั้งห้าคนก่อนจะปลีกตัวเองออกไป ทิ้งให้ทั้งหมดอยู่ในศูนย์อาหารเพิ่มดื่มด่ำกับความอร่อยของมื้ออาหารที่แสนพิเศษนั้น

    “เอาน้ำอะไรไหม เดี๋ยวเราไปเอาให้?” ดาวเรืองถามทุกคนที่อยู่บนโต๊ะอาหารก่อนจะทำทีลุกขึ้น

    “ให้ชามาไปด้วยไหมคะ?” เด็กสาวตระกูลบัวบูชาชาติถาม

    “นั่งอยู่ตรงนี้แหละจ่ะชามา เดี๋ยวฉันไปเอาเอง”

    “งั้นชามาขอน้ำส้มแล้วกันค่ะ” เธอตอบไปด้วยเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม ออกมาจากบ้านเพื่อที่จะมาทำอะไรด้วยตัวเองแท้ ๆ แต่ยังมีเพื่อนสนิทมาบริการแบบนี้อีก รู้สึกเกรงใจอยู่เหมือนกัน

    “เดี๋ยวเราไปด้วย จะไปช่วยเธอถือน่ะ” ไนท์อาสาก่อนจะลุกไปพร้อมกับดาวเรือง ทิ้งให้อีกสามคนที่เหลืออยู่ที่โต๊ะเพื่อรออาหาร

    กวินนั่งเงียบซึ่งผิดไปจากเดิมที่เขาเคยเป็น ความขี้เล่นของเขาหายไปในวันนี้ คิ้วถูกขมวดปมราวกับว่าเจ้าตัวกำลังใช้ความคิดอะไรบางอยู่เมื่อเห็นเด็กคนหนึ่งที่อยู่ในรูปภาพรวมรุ่นนั้น

    เด็กผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่นะ ทำไมเขาถึงไม่ได้อยู่ในคิงส์คลาสตอนแนะนำตัว ....

    เขามัวแต่คิดอะไรเพลินจนไม่ทันสังเกตว่าสายตาของชามาเองก็ชำเลืองมองเขาอยู่เป็นระยะเช่นกัน พฤติกรรมแบบนี้แสดงว่าคนตรงหน้าเธอต้องมีอะไรในใจสักอย่าง ต้องมีเรื่องอะไรไม่ดีที่เธอยังไม่รู้หรือเปล่านะ

     

    ดารันย์เลือกที่จะขอตัวมากินข้าวที่โรงอาหารของพรอนันต์เลิศวิทยา การที่เป็นเด็กคิงส์คลาสสำหรับเธอเป็นเรื่องพิเศษก็จริง แต่การที่ต้องทำอะไรที่แปลกแยกไปจากทุกคนแล้วได้รับความพิเศษเหนือเพื่อนคนอื่นก็เป็นเรื่องที่เธอยังไม่สามารถทำใจให้ยอมรับได้ในตอนนี้ ตั้งแต่ผลการสอบเสร็จสิ้นลง เธอยังไม่ได้เจอจิณณ์ซึ่งเป็นรูมเมทของตัวเองเลย จิณณ์ไม่ได้อยู่ในห้องคืนนั้น เธอมารู้ทีหลังว่าเธอนอนอยู่ห้องพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจากการทดสอบ วันนี้เธอเลยเลือกที่จะมาที่นี่เพราะอาจจะได้เจอจิณณ์ก็ได้ เวลานี้เป็นเวลาที่คลาสเอเลิกเรียนพอดี เธอจึงพยายามมองหาคนที่เธอกำลังตามหาอยู่

    มังกรเองก็มายังโรงอาหารเพราะเห็นว่าดารันย์เลือกที่จะปลีกตัวมาที่นี่ เขาต้องการอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้ อยากรู้ว่าความรู้สึกของเธอโอเคดีขึ้นหรือยัง ส่วนอีกเหตุผลของเขาคือการได้เจอครามเช่นเดียวกับดารันย์ที่อยากเจอจิณณ์ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่ากาเหว่านั้นขอติดสอยห้องตามเขามา เกาะแขนของเขาไม่ยอมปล่อย จะไล่ไปก็จะเสียมารยาทจึงปล่อยให้เธอตามมาด้วย

    “ไอ้คราม!” เมื่อมังกรเจอคนที่ต้องการ เขาก็เดินตรงไปยังเพื่อนสนิทของเขาที่นั่งกินข้าวอยู่คนเดียว เขาชะงักก่อนจะยิ้มบาง ๆ ให้เพื่อน

    “วะ...ว่าไงมังกร” เขาเหลือบไปเห็นกาเหว่าที่โบกมือทักทายก็ยังไม่วายนึกถึงเรื่องคืนนั้น แต่ตอนนี้เหมือนกับว่าเขาจะโชคดีแล้วที่เธอได้ไปอยู่คิงส์คลาส จะได้อยู่กับคนละโลกเสียที ผู้หญิงอะไร น่ากลัวชะมัด!

    “สวัสดีจ่ะคราม สบายดีเนอะ” สาวเจ้าส่งยิ้มมาให้ เล่นเอาครามพยักหน้าหงึกหงักแบบคนทำหน้าไม่ถูก มังกรและกาเหว่าจึงถือวิสาสะนั่งลงตรงข้ามเขา

    “เสียใจด้วยนะเว้ย เรื่องห้องคิงส์คลาส สัญญากันไว้แล้วแท้ ๆ”

    “เอาน่ะ ยังไงฉันกับแกก็เจอกันข้างนอกอยู่แล้วเว้ย อย่าคิดมาก!” ครามตบบ่าของเพื่อนเพราะไม่อยากให้เขาต้องกังวลที่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน

    “เห็นแกโอเคก็สบาย เอางี้ เดี๋ยวฉันจะเลี้ยงน้ำแกเป็นการไถ่โทษ เด็กห้องคิงส์กินฟรีอยู่แล้ว เดี๋ยวมา!” เขาลุกพรวดก่อนจะเดินดุ่ม ๆ ไปที่ร้านขายน้ำ ทิ้งกาเหว่าอยู่กับครามเพียงลำพัง กาเหว่าส่งยิ้มพราวเสน่ห์ให้กับครามก่อนจะเอาขาไล้ไปตามหน้าแข้งแกร่งของเขา

    “ถ้าเกิดว่าอยากจะรื้อฟื้นความหลัง ฉันไปหาเธอที่ห้องได้นะ หรือว่าถ้าอยากจะลองเปลี่ยนสถานที่ดูล่ะก็นะ ฉันก็ยินดีจ่ะ” เธอพูดราวกับว่าสิ่งที่เธอทำไปเป็นเรื่องธรรมดา แต่กลับเป็นฝ่ายชายที่ดูจะอายต่อคำพูดของฝ่ายหญิงเสียมากกว่า

    ในระหว่างที่มังกรยืนซื้อน้ำอยู่ เขาเหลือบไปเห็นดารันย์ที่เดินไปที่โต๊ะอาหารตรงมุมสุด เหมือนกับว่าเธอจะเดินเข้าไปทักทายเพื่อนหรือคนรู้จักตรงนั้น

    “สวัสดีจิณณ์ เธอเป็นยังไงบ้าง โอเคขึ้นหรือยัง?” สาวผมสีควันบุหรี่วางจานข้าวก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะของจิณณ์ เด็กสาวเงยหน้าขึ้นก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อไป

    “นี่ เป็นอะไรไป?”

    “ยินดีด้วยนะดารันย์ ที่เธอติดคิงส์คลาสแทนพวกเรา” เธอกล่าวเสียงเรียบ “แต่การที่เธอไม่ยอมใช้ความพิเศษของเธอตอนสู้กับหุ่นพวกนั้นหมายความว่ายังไงเหรอ?” จู่ ๆ จิณณ์ก็พูดบางอย่างจนคนถูกถามนั่งนิ่ง

    “คือตอนนั้น...ตอนนั้น” ฉันกลัวความพิเศษของตัวเอง   เหมือนกับประโยคหลังจะดังอยู่เพียงแค่ในใจของเธอ เธอไม่กล้าพูดมันออกมาเพราะกลัวว่าจะถูกหาว่าอ่อนแอ ทั้งที่ความจริงเธอไม่อยากเป็นคนอ่อนแอเลย เธอคิดมากตลอดว่าคนอ่อนแอก็ต้องเป็นเหยื่ออยู่แล้ว การเงียบไว้น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าในตอนนี้

    “เพราะเธอจะไล่เก็บพวกมันหลังจากที่ฉันออกไปแล้วน่ะเหรอ ฉลาดดีเนอะ” เหมือนกับเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของดารันย์จะเข้าใจผิด จิณณ์ยกจานข้าวขึ้นก่อนจะมองหน้าของเธอด้วยสายตาที่ดารันย์เองไม่เคยเห็นมาก่อน

    “คนแบบเธอน่ะก็เป็นพวกที่ชอบหาผลประโยชน์ให้ตัวเองไต่ขึ้นไป ไม่ต่างกับอะไรกับพวกกาฝากหรอก...อีกอย่างเด็กคิงส์คลาสอย่างเธอ อย่ามายุ่งกับพวกคนธรรมดาอย่างฉันจะดีกว่า”

    “ไม่ใช่อย่างนั้น!

    “ขอตัวล่ะ” จิณณ์พูดก่อนจะทิ้งให้ความเงียบงันอยู่เป็นเพื่อนกับดารันย์เพียงลำพัง

    ทำไมกัน ทำไมทุกคนถึงต้องทิ้งเธอในตอนที่เธอเริ่มจะเปิดใจและสร้างความสัมพันธ์ใหม่ทุกครั้ง ทำไมทุกคนจะต้องดูถูกเธอและทิ้งขว้างเธอราวกับว่าเธอเป็นเพียงขยะหนึ่งชิ้นที่จะโยนไปทางไหนก็ไม่มีใครต้องการ เพราะความพิเศษที่เธอเพิ่งจะควบคุมได้น่ะเหรอ ตกลงสิ่งที่เธอมีมันสร้างเรื่องดีหรือว่าเรื่องเลวร้ายกันแน่ หรือว่าเธอไม่ควรมีมันตั้งแต่แรก ทั้งความพิเศษในตัวเอง หรือทั้งเพื่อน

    ทุกคนต้องทอดทิ้งฉันกันหมดหรือยังไงกัน!!!

    ครืดดดด!!!

    จู่ ๆ พื้นที่รอบ ๆ โรงอาหารก็สั่นราวกับแผ่นดินไหว นักเรียนที่อยู่บริเวณนั้นต่างส่งเสียงร้องและคิดว่าเกิดแผ่นดินไหวจริง ๆ โดนที่ไม่รู้เลยว่านั่นคือความสามารถของดารันย์ จานชามล้มระเนระนาดไปคนละทิศละทาง โต๊ะอาหารล้มกระจัดกระจาย ทุกคนต่างพยายามวิ่งให้ห่างจากการเกิดแผ่นดินไหวนั้น

    “เธอคือตัวการสินะ!” เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังของดารันย์ เด็กสาวคนหนึ่งยืนนิ่งก่อนจะชี้ไม้ชี้มือไปยังสาเหตุของเรื่อง รอบ ๆ ตัวของเธอไม่มีการสั่นไหวของแรงสั่นสะเทือนนั้นเลย นั่นก็บ่งบอกชัดเจนแล้วว่าเธอคือตัวการ

    “หยุดเธอซะ จัดการเด็กคิงส์คลาสที่คิดว่าตัวเองจะทำอะไรก็ได้!!!” เสียงหนึ่งในโรงอาหารดังขึ้น และนั่นเหมือนเป็นสัญญาณของความเลวร้ายที่เกิดขึ้น เด็กที่ต่อต้านและผิดหวังจากการทดสอบมองเด็กคิงส์คลาสเหมือนศัตรู คนหลายคนพุ่งเข้าไปหาดารันย์เพื่อทำร้ายเธอ มังกรเห็นดังนั้นจึงต้องพยายามหาทางทำอะไรสักอย่าง!

     

    เมื่อเห็นท่าไม่ดี กาเหว่าไม่ได้นึกถึงเรื่องคืนนี้ของคราม หรือเรื่องจะจัดการกับมังกรหรือชามาเลย สิ่งเดียวที่เธอคิดเพียงอย่างเดียวคือเธอต้องหนีให้ห่างจากเรื่องวิปลาสครั้งนี้ สองเท้ารีบวิ่งออกนอกโรงอาหาร เธอต้องไปให้ไกลที่สุด ขืนโดนลูกหลงจากการตะลุมบอลเข้า หน้าสวย ๆ ของเธอจะต้องเสียโฉมแน่ ๆ

    เธอไม่เอาด้วยหรอกนะ!

    ตุบ!

    เธอกระแทกเข้ากับเด็กสาวคนหนึ่งที่อยู่คลาสเดียวกับเธอก่อนที่เธอจะไปอยู่คิงส์คลาส เด็กสาวยกยิ้มก่อนจะมองหน้าของเธอพลันกอดอก

    “หนีไปยัยกาล ฉันไม่มีเวลามาทะเลาะกับแก!” กาเหว่าผลักเด็กสาวให้ออกห่างรัศมีการเดินของตัวเอง

    “ฉันไม่ได้มาเพื่อทะเลาะกับแก แต่ฉันมาเพื่อทวงเรื่องชั่ว ๆ ที่แกทำ คนที่ได้คิงส์คลาสเพราะ โกง!คะแนนแบบแก ศาลเตี้ยอย่างพวกเราเนี่ยแหละต้องจัดการ!

    “แกพูดเรื่องอะไร โกงอะไรของแก!” กาเหว่าพยายามแถ เพราะเธอโกงคะแนนมาจริง ๆ

    ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ เธอมารู้สึกตัวอีกทีก็โดนล้อมไปด้วยสาว ๆ ในคลาสบีเรียบร้อยแล้ว

    “อาจารย์บอกว่าการได้คะแนนของเธอเป็นเรื่องปกติเพราะเธอใช้ความพิเศษของเธอในการทำให้เกิดการโอนคะแนนขึ้น ไม่ว่าจะเกิดขึ้นด้วยความชอบธรรมหรือไม่ชอบธรรม ยังไงซะนักเรียนทุกคนก็สามารถใช้ฟังก์ชั่นลับนี้ได้” กาลกอดอก

    “ฟังก์ชั่นบ้าบออะไรของแก ปัญญาอ่อน!” เธอก็ยังคงพยายามแถต่อไป

    “บีเช็คดูแล้วว่ามีการโอนคะแนนขึ้นในช่วงเวลาที่เธออยู่ในห้องน้ำ มันหมายความว่ายังไงน้า....” เด็กสาวอีกคนที่ชื่อโบว์ลากเสียงยาวราวกับว่ารู้ความลับของกาเหว่า

    “เมื่อความยุติธรรมจัดการคิงส์คลาสอย่างเธอไม่ได้ ฉันเลยเป็นตัวแทนของศาลเตี้ยจัดการเธอเอง และแน่นอนว่ามีคนที่อยากจัดการเธอด้วยตัวเอง” กาลกระแอมไอก่อนที่กาเหว่าจะมองสาว ๆ ที่เริ่มเดินเข้ามาหาเธอ ถ้าเธอมองไม่ผิด มีคนหนึ่งที่เธอรู้จักอยู่ที่นี่ด้วย

    บีเองก็อยู่ในวงล้อมเช่นกัน!  

    -----------------------------------------------------------------
    Episode 7 l Chapters 1 : ชีวิตของเด็กคิงส์คลาส


    Friday 7th December 2018
    Next Episode 7 l Chapters 2 : Effect!

    -----------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×