ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Unique : ปฏิบัติการลับ นักเรียนพลังยูนิค

    ลำดับตอนที่ #25 : Chapters 2 : ขุมพลังแห่งความโกรธ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 143
      9
      23 พ.ย. 61

    S
    N
    A
    P

    THE UNIQUE
    Episode 5 l Chapters 2 : ขุมพลังแห่งความโกรธ
    ------------------------------------------------------

     

    ผู้คนกรีดร้องและวิ่งหนีเพลิงไหม้กันอย่างบ้าคลั่ง เพลิงพิโรธสีแดงโหมกระหน่ำคร่าชีวิตหลายชีวิตต่อหน้าต่อตาของผู้รอดชีวิตบางคน ต้นไม้รอบ ๆ รวมไปถึงรถบางคันติดไฟสีแดงเพลิงราวกับว่าสถานที่รอบ ๆ นี้ถูกห่อหุ้มไปด้วยพลังงานความร้อนและเปลวไฟที่พัดกระจายไปทั่ว เท่านั้นยังไม่พอ เครื่องบินรบหลายต่อหลายลำที่อยู่เหนือน่านฟ้าต่างพร้อมใจกันทิ้งระเบิดเพื่อปลิดชีพคนในเมืองแห่งสงครามนี้

    ทั้งหมดคือภาพโฮโลแกรมในโจทย์ สงครามกลางเมือง

    ทุกอย่างถูกสร้างขึ้นมาราวกับว่านี่คือสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจริง ๆ เด็กหนุ่มยังรู้สึกถึงความร้อนของกองไฟที่อยู่ด้านข้างได้อยู่เลย

    “ไอ้วิน!!!” เสียงเรียกของเพื่อนพร้อมกับการถูกเขย่าไหล่อย่างแรงทำให้เขาหลุดออกมาจากภวังค์ที่อยู่ตรงหน้า มังกรบีบไหล่ของเพื่อนพร้อมกับมองไปรอบ ๆ กลุ่มนักเรียนบางคนต่างวิ่งหนีกระจัดกระจาย บ้างก็ออกไปทำการทดสอบเพื่อเก็บคะแนน

    “ไอ้มังกร....”

    “ฉันวิ่งหาแกซะทั่วเลย ไอ้วิน! แกจะมายืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้นะเว้ย! แกไม่เห็นเหรอว่ารอบ ๆ ของเราตอนนี้มันไม่ปลอดภัย เราต้องรีบไปสอบ ขืนมายืนเด๋อด๋าอยู่ตรงนี้ แกจะทำได้แค่มองพรมเช็ดเท้าหน้าห้องคิงส์คลาสนะเว้ย!” มังกรพยายามเรียกสติของเพื่อนที่เหมือนจะเริ่มกลับคืนมา

    นักเรียนเริ่มแยกกลุ่มกันออกไปเพื่อเก็บคะแนนในการสอบครั้งนี้ เพราะมีเพียงแค่แปดคนเท่านั้นจากนักเรียนหลายพันคนที่จะได้เข้าสู่คิงส์คลาส ห้องเรียนพิเศษในฝันของเด็กหลาย ๆ คน หน้าปัดนาฬิกาด้านซ้ายแสดงตัวเลขของจำนวนเด็กนักเรียนทั้งหมดที่เหลืออยู่ในการสอบ

    1010/1057

    ทางฝั่งของกวินเองก็ไม่รอช้า เขาทั้งคู่พยายามฝ่ากองเพลิงเข้าไปในเมืองเพื่อเก็บคะแนนของการสอบในครั้งนี้ให้ได้มากที่สุด และที่ทั้งคู่กำลังมุ่งหน้าไป คือตลาดปลาที่แสดงจุดสีแดงบนนาฬิกาของพวกเขา

     

    มีนักเรียนออกจากการสอบไปแล้วถึงสี่สิบคน เกิดจากการสละสิทธิ์หรือเกิดจากการบาดเจ็บ ไม่มีใครรู้ ตัวของมิวส์เองก็เช่นกัน เขาวิ่งมาตามถนนหลังจากที่หลบอยู่ในสวนพร้อมกับไนท์และรุ่นพี่ปีสองที่ชื่อเบียร์ เขาทั้งสามคนวิ่งฝ่าสงครามเพื่อเข้ามาตั้งหลักที่นี่ก่อน

    “เอายังไงดีครับรุ่นพี่ ผมคิดว่าตอนนี้ไม่มีทางไหนที่ปลอดภัยเลย แถมคุณใบไม้ก็บอกว่ามันอันตรายเกินไปที่เราจะเอาชีวิตเข้ามาเสี่ยง” มิวส์เสียงสั่น เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกลัวการทดสอบนี้อย่างเห็นได้ชัด

    “ใจเย็น ๆ นะมิวส์ ที่เราเห็นตอนนี้คือโฮโลแกรมเท่านั้น จริงที่มันสร้างความเสียหายให้เราได้ แต่ไม่ต้องห่วงเลย ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย เดี๋ยวพี่จะลองสำรวจรอบ ๆ นี้ดูก่อน ไนท์ ฝากดูเพื่อนด้วย” เบียร์บีบไหล่ของมิวส์ก่อนจะค่อย ๆ ลอยตัวขึ้นไปเหนือต้นไม้สูงเพื่อสังเกตวิสัยทัศน์โดยรอบ

    เสียงระเบิดรวมไปถึงการวิ่งอย่างโกลาหลของประชาชนในโฮโลแกรมและเด็กนักเรียนหลายคน มุมนั้นมีครูพยาบาลเข้าไปช่วยเหลือ แสดงว่านักเรียนจะต้องเริ่มลดลงจากการสอบ จุดสีแดงกระจายไปทั่วบริเวณเป็นสัญญาณแสดงขอความช่วยเหลือของประชาชน ซึ่งตอนนี้ไนท์และมิวส์ยังไม่มีคะแนนสักคะแนนเดียว

    ทางด้านล่าง สองหนุ่มเอาแต่มองไปรอบ ๆ มิวส์ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด เขาเอามืออุดหูของตัวเองเพราะไม่อยากได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของภาพเสมือนจริงพวกนั้น ไนท์ได้แต่นั่งอยู่ข้าง ๆ และบีบไหล่ของเขาเอาไว้

    ครืดดดด

    ครืดดดด

    เสียงประหลาดทำให้ไนท์เริ่มหันไปมองรอบ ๆ กระถางต้นไม้และต้นไม้เล็กบางต้นสั่นไหวไปมาอย่างแรง และมันผิดปกติจนเขาเริ่มนึกถึงศัตรูที่เขายังไม่เคยเห็นเลยตั้งแต่การทดสอบนี้ ในเมื่อเขาสัญญากับมิวส์แล้วว่าจะช่วยให้เขาได้ผ่านการทดสอบนี้ไป ยังไงซะเขาก็ต้องทำมันให้สำเร็จถึงแม้ว่าลึก ๆ มันจะไม่ใช่สิ่งที่เขาควรทำ แต่การแสดงความรับผิดชอบมันก็เป็นสิ่งที่เขาควรทำเหมือนกัน

    “ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วย!” เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่ไนท์จะหันไปยังต้นเสียง หญิงสาวพร้อมกับลูกแมวหนึ่งตัววิ่งเข้ามาหาคนทั้งสองอย่างเอาเป็นเอาตาย ด้านหลังของเธอมีอะไรบางที่เหมือนจะไล่ตามมาด้วย

    รูปร่างของมันเหมือนหุ่นกระบอกที่ทำมาจากไม้อันทรงพลังและดูแข็งแรงมาก มันวิ่งเข้ามาด้วยความเร็วพร้อมกับกระโดดเหนือพื้นและง้างอะไรบางอย่างในมือของมันซึ่งดูเหมือนเป็นชะแลงเหล็ก เป้าหมายของมันไม่ใช่ใครนอกจากผู้หญิงที่วิ่งหนีมานั่นเอง

    “ระวัง!” เบียร์ลอยตัวลงมาด้านล่างพร้อมกับพุ่งไปคว้าหญิงสาวเอาไว้ได้ทัน

    “พวกนายไม่เป็นอะไรนะ” เขาถามรุ่นน้องทั้งสองก่อนจะค่อย ๆ วางตัวหญิงสาวลงและพูดต่อ “เจ้านี่คือ หุ่นเชิดเวทย์มนต์เป็นหุ่นกระบอกที่แข็งแรงและมีพลังมาก พลังของมันคือการเลียนแบบพลังใดพลังหนึ่งของนักเรียนที่อยู่ในห้องสอบเพื่อแปลงมาเป็นพลังของตัวเอง เพราะฉะนั้นต้องรีบหยุดมัน”

    “ผมทำไม่ได้ ผมทำไม่ได้!” มิวส์ทำท่าจะหนี แต่หากไนท์กลับรั้งเอาไว้เสียก่อน

    “เอาแต่หนีแบบนี้ไม่ได้นะ เราเคยหนีมาแล้วครั้งหนึ่ง และมันก็แย่มากด้วย เราต้องสู้กับมัน ถ้าเอาแต่หนี เราจะไม่มันชนะมันได้เลยนะมิวส์ เราจะต้องช่วยกัน” ไนท์ตบบ่าของมิวส์เพื่อให้เจ้าตัวได้หายกังวลและลดความเครียดลงไปได้บ้าง เขายิ้มมุมปากก่อนจะยืนขึ้น ด้านหลังของเขาคือแอ่งน้ำที่มีนำขังอยู่ รอยยิ้มประหลาดผุดขึ้นมาก่อนที่เขาจะวิ่งไปที่แอ่งน้ำ จ้องมองภาพสะท้อนของตัวเอง

    “รัตติกาล” เขาเรียกชื่อของใครบางคนพร้อมกับมองใบหน้านั้นในภาพสะท้อนของผิวน้ำ พลันดวงตาของเขาค่อย ๆ กลายเป็นสีขาวก่อนจะกลับสภาพมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง ไนท์ค่อย ๆ ยืนขึ้นก่อนจะหันกลับมาปะทะกับหุ่นกระบอก

    “มึงเองเหรอ ตัวปัญหาที่ก่อกวนเมือง?” เสียงของไนท์ดูเปลี่ยนไปรวมไปถึงแววตาที่ดุดันนี่ก็เช่นกัน

    “พร้อมนะไนท์?” เบียร์หันมาถามพร้อมกับตั้งท่าเตรียมสู้

    “อืม” เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะพุ่งเข้าไปหามันที่กำลังง้างมีดเล่มยาว เขาพลิกตัวหลบไปอยู่ด้านหลังพร้อมกับจับมือข้างหนึ่งของมันและหักไปข้างหลังพร้อมกับยกเท้าข้างหนึ่งถีบหลังของมันอย่างแรงจนมันล้มลง แขนของมันถูกไนท์ดึงออกมาด้วย

    เมื่อร่างของมันล่วงลงไปกองกับพื้น เบียร์เลยได้โอกาสเหยียบเข้าที่หัวของมันและกระทืบลงไปอย่างแรงจนหัวของมันแตกกระจายกลายเป็นลูกบาศก์สีเขียว ไนท์ผิวปากก่อนจะเดินไปใกล้ ๆ และใช้นาฬิกาของตัวเองแสกนคะแนนเข้าไป

    สองร้อยคะแนนสำหรับไนท์

    “ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณ” โฮโลแกรมสาวกล่าวขอบคุณก่อนที่จะค่อย ๆ กลายเป็นลูกบาศก์เมื่อจบหน้าที่ของตัวเอง

    “เอาไปสิ กูแบ่งให้” ไนท์หันไปบอกมิวส์ เด็กหนุ่มพยักหน้าก่อนจะใช้นาฬิกาของตัวเองแสกนเข้าไปเช่นกัน และหนึ่งร้อยห้าสิบคะแนนก็เป็นของมิวส์เช่นกัน

    “ทำดีมากเลยนะไนท์” เบียร์ตบบ่าของรุ่นน้องที่ยิ้มมุมปากแทนคำตอบ พลันมีดสั้นสีม่วงไร้ที่มาก็พุ่งเข้ามาเฉียดแขนของเขาไปปักลงที่พื้น

    ทั้งสามคนหันไปด้านหลังก่อนจะพบว่ามีหุ่นเชิดอีกตัวพุ่งเข้ามาพร้อมกับมีดสั้นพลังจิหลายเล่ม

    คนเรามีพลาดกันได้ ไนท์เองก็เช่นกัน ด้วยความที่เขาไม่ได้ตั้งตัวทำให้หุ่นเชิดเข้ามาใกล้เขาในระยะประชิดอย่างรวดเร็ว แต่เบียร์เร็วกว่า เขาลอยตัวเข้าไปหามันพร้อมกับเตะให้มันออกนอกรัศมีของไนท์ มันลุกขึ้นมาสะบัดหัวอย่างมันงงและเตรียมจะวิ่งเข้ามาอีกครั้ง

    บึ้มมมม!!!

    ระเบิดมือขนาดจิ๋วถูกโยนเข้ามาและระเบิดใส่จนร่างของมันกลายเป็นลูกบาศก์สีเขียว ริษา ชามา และดาวเรืองรีบวิ่งเข้ามาและชามาเป็นคนแสกนลูกบาศก์นั้นเพื่อเก็บคะแนนสะสม เพราะตัวแรกดาวเรืองรับคะแนนไปเรียบร้อยแล้ว

    “พวกเธอ?” เบียร์ส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมห้อง ชามาและดาวเรืองวิ่งเข้าไปหาชายหนุ่มทั้งสองเช่นกัน

    “มิวส์ ไนท์ ไม่เป็นอะไรนะ” ดาวเรืองนั่งยอง ๆ ลงข้าง ๆ ทั้งสองหนุ่ม มิวส์ส่ายหัวรัว ๆ ในขณะที่ไนท์ยืนกอดอกมองสถานการณ์ตรงหน้าอย่างเดือดดาล ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อกี้มันเกิดขึ้นเร็วมากจนเขาไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน

    “ไอ้มิวส์มันไม่เป็นอะไรหรอก ยังไงไอ้ไนท์ก็ต้องปกป้องมันตามที่สัญญาอยู่แล้วนี่” เสียงก้าวร้าวเมื่อครู่ที่เปล่งออกมาทำให้ชามารู้ได้ในทันทีว่านี่ไม่ใช่ไนท์คนนั้นอีกแล้ว

    “เมื่อกี้นายประมาทไปนะเบียร์” ริษากล่าวเสียงเรียบ

    “การสอบครั้งนี้ดูจะยากกว่าปีที่แล้วอีกนะ เหมือนกับว่าเจ้านี่มันมีเป็นหลายเท่าตัวจากครั้งก่อนเลย” เบียร์เหมือนสำลักน้ำลาย เขากลืนมันลง

    ยังไม่ทันที่ทั้งหมดจะได้คุยกันไปมากกว่านี้ ร่างของหุ่นเชิดหลายต่อหลายตัวค่อย ๆ ออกมาจากพุ่มไม้เพื่อล้อมคนทั้งหกคนเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ

    สถานการณ์ตรงหน้าเริ่มลำบากแล้วสิ!

     

    “ด้านบนนี้มีห้องที่เปิดไฟอยู่ ฉันว่าต้องมีคนแน่ ๆ” จิณณ์พูดราวกับกระซิบกับสองคนด้านหลัง

    จิณณ์ ดารันย์ และไม้ตรี เพื่อนร่วมคลาสของจิณณ์เข้ามาสำรวจด้านหลังของเมืองซึ่งเป็นคอนโดขนาดห้าชั้นหลังจากที่พวกเธอได้จัดการช่วยเหลือกลุ่มคนบนถนนแล้ว ด้านบนมีห้องที่มีไฟเปิดอยู่ และดูจากสายตาน่าจะเป็นชั้นสามของคอนโดแห่งนี้

    “ประตูมันล๊อค” ไม้ตรีพยายามเขย่าประตูเข้าไปแต่พบว่ามันแน่นเกินกว่าที่เธอจะเปิดมัน

    “ฉันจัดการเอง” จิณณ์พูดก่อนที่จะความพิเศษของตัวเองทะลุเข้ายังประตูและค่อย ๆ เปิดประตูจากทางด้านใน

    “เข้าไปกันเถอะ” ไม้ตรีหันมาพูดกับดารันย์ที่พยักหน้ารับ ตรงนี้คือด้านหลังของคอนโดและเป็นส่วนของบันใดหนีไฟ

    พวกเธอค่อย ๆ ลัดเลาะไปตามบันใดหนีไฟเรื่อย ๆ จนกระทั่งขึ้นมาถึงชั้นสามได้สำเร็จ ตามทางเดินมีเพียงความเงียบสงัดจนได้ยินเสียงหายใจของทั้งสามคน

    “น่าจะเป็นห้องนี้นะ” ไม้ตรีมองเห็นแสงสว่างจากไฟที่ลอดออกมาจากช่องประตูก่อนที่จะค่อย ๆ แง้มประตูเข้าไป

    มีเพียงแค่ห้องเปล่า ๆ ที่เปิดไฟทิ้งเอาไว้ ไม่มีวี่แววของคนที่กำลังรอความช่วยเหลืออยู่เลย เด็กสาวทั้งสามเดินเข้าไปในห้องก่อนจะสำรวจไปรอบ ๆ อย่างใจเย็นและระวังตัวมากที่สุด มีวิทยุที่เปิดเพลงทิ้งเอาไว้ น้ำในอ่างล้างจานที่ไหลนองพื้น ยังไม่ทันที่ทั้งหมดจะได้สำรวจอะไรมาก ประตูห้องที่เคยเปิดไว้ถูกปิดอย่างรวดเร็วพร้อมกับการปรากฏตัวของหุ่นเชิดสามตัวที่หลบอยู่หลังบานประตูทางเข้า ตัวหนึ่งมีควันออกมาจากตัวราวกับว่ามันพ่นไฟได้ อีกตัวหนึ่งก็ค่อย ๆ เผยร่างที่ล่องหนตัวเองออกมาทีละนิด และอีกตัวเหมือนจะยังไม่เผยความพิเศษออกมา พวกเธอเข้าใจทันทีที่ว่านี่หมายความว่าอะไร

    พวกเธอติดกับของหุ่นเชิดเวทย์มนต์เรียบร้อยแล้ว

    “เอาไงดี?” ไม้ตรีพูดขึ้นก่อนจะค่อย ๆ ยกมือขึ้นเพิ่มเตรียมใช้พลัง

    หุ่นเชิดตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาก่อนจะต่อยเข้าที่ท้องของไม้ตรีและเหวี่ยงเธออัดกำแพงในขณะที่อีกสองตัวก็พุ่งเข้ามาหาดารันย์และจิณณ์ด้วยความรวดเร็ว เด็กสาวผมสีควันบุหรี่กระโดดหลบไปข้าง ๆ อย่างหวุดหวิดในขณะที่จิณณ์พุ่งผ่านร่างของมันและเหวี่ยงมันติดกำแพง แต่ด้วยความที่เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ทั้งสามคนจะไปสู้พวกมันที่ร่างกายแข็งแรงกว่าได้อย่างไร

    เมื่อไม้ตรีตั้งตัวได้ เธอรีบกำหมัดของตัวเองและใช้ความสามารถของตัวเองด้วยการสร้างบาเรียขนาดเท่าตัวเองออกมา ร่างของหุ่นเชิดเมื่อโดนบาเรียเข้า ส่งผลให้ร่างของมันกระเด็นออกมาจากเกราะกำบังของเธอ ทั้งสามวิ่งเข้ามารวมกันในห้องครัว จิณณ์มองไปรอบ ๆ ก่อนจะพบเตาแก๊ส เธอรีบวิ่งเข้าไปเปิดมันอย่างรวดเร็ว

    “เธอจะทำอะไรของเธอ?” ไม้ตรีร้องเสียงหลง

    “จะระเบิดห้องนี้ยังไงล่ะ ฉันเห็นว่ามีตัวหนึ่งที่ปล่อยไฟได้ เพราะฉะนั้นถ้าไฟโดยแก๊สมันต้องระเบิดแน่ ๆ”

    “แบบนั้นเราจะโดนย่างสดไปด้วยนะ!” ดารันย์แย้ง วิธีที่เพื่อนคิดมันดูจะสุ่มเสี่ยงไปเสียหน่อย

    “ไม่ต้องกลัวหรอก ตอนนั้นไม้ตรีก็สร้างบาเรียขึ้นมา และพวกเราจะใช้รอดแน่ เก็บสาม!” เธออธิบายในขณะที่พวกมันสามตัวเข้ามาในห้องครัว

    มันตัวหนึ่งค่อย ๆ พ่นไฟออกมาจากตัวของมัน ซึ่งมันได้ผล ไม้ตรีรีบสร้างบาเรียขนาดสามคนขึ้นมาทันที เมื่อความร้อนของเปลวไฟปะทะกับอากาศที่มีตัวนำเชื้อเพลิงอยู่ แน่นอนว่ามันต้องมีปฏิกิริยาของการระเบิดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

    บึ้มมมม!!!

    ระเบิดขนาดย่อมที่จิณณ์เป็นคนสร้างขึ้นลุกโชติช่วงเป็นทะเลเพลิง แรงระเบิดเมื่อครู่ส่งผลให้บาเรียของทั้งสามกระเด็นออกไปอย่างแรง จิณณ์รีบจับมือคนทั้งสองก่อนจะใช้ความสามารถของตัวเองทะลุกำแพงห้องออกมาตามแรงระเบิดเมื่อครู่ มันออกจะผิดแผนไปสักนิด ร่างของทั้งสามคนตกลงมาที่พื้น โชคยังดีที่มีบาเรียของไม้ตรีกันเอาไว้ทำให้ดารันย์และไม้ตรีไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก

    แต่สำหรับจิณณ์ แขนของเธอกระแทกเข้ากับพื้นจนรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นผ่านกระดูก เธอร้องเสียงหลงจนดารันย์และไม้ตรีรีบเข้ามาดู

    “ไหวไหมจิณณ์?” ไม้ตรีถามเมื่อเห็นว่าเพื่อนร่วมคลาสจับแขนของตัวเองไว้แน่น

    “สงสัยว่าแขนจะหักแน่ ๆ” เธอกัดฟันก่อนจะมองผลงานของตัวเองที่โชติช่วงอยู่ด้านบน

    “เอ๊ะ!” ไม้ตรีเหมือนจะเห็นอะไรบางอย่างอยู่ด้านบนห้องนั้น

    พวกมันสองตัวเดินออกมาจากกองเพลิงพร้อมกับความพิเศษของอีกตัว บาเรียถูกสร้างขึ้นได้ทัน แต่โชคไม่ดีที่อีกตัวหนึ่งได้รับแรงระเบิดไปเรียบร้อยแล้ว พวกมันสองตัวกระโดดลงมาก่อนจะเก็บบาเรียและวิ่งเข้าไปเตะเข้าที่สีข้างของจิณณ์จนล้มลงไป ไม้ตรีรีบใช้บาเรียของตัวเองกันการโจมตีอีกตัวอย่างหวุดหวิด พวกมันทั้งสองตัวหยิบดาบออกมาจากด้านหลังเพื่อปลิดชีวิตของสองสาวตรงหน้า ดารันย์รีบลุกขึ้น พยายามหาวิธีเอาชนะเจ้าหุ่นเชิดตัวนั้นที่กำลังทำร้ายจิณณ์ ยังไม่ทันที่เธอจะเริ่มทำอะไร ราวกับว่าทุกอย่างถูกหยุดเวลาเอาไว้

    ไม่นานนักครูห้องพยาบาลสองสามคนวิ่งเข้ามาก่อนจะรีบพยุงจิณณ์และไม้ตรีให้ลุกขึ้น นาฬิกาของไม้ตรีกระพริบถี่ ๆ เป็นสัญญาณการขอความช่วยเหลือ

    “อาจารย์คะ ช่วยจิณณ์กับไม้ตรีด้วย” ดารันย์ช่วยประคองร่างของจิณณ์ขึ้นมา

    “เธอต้องจัดการมันให้ได้นะดารันย์ เอาชนะพวกมันสองตัวให้ได้ ทำความฝันของการเป็นนักเรียนคิงส์คลาสต่อจากพวกเราด้วย” จิณณ์เปรยในขณะที่อาจารย์สาวกำลังทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอยู่

    “ไหนบอกว่าเธอจะเข้าไปกับฉันไง” ดารันย์บีบมือของจิณณ์แน่น เป็นครั้งแรงที่เธอรู้สึกถึงความจริงใจที่จิณณ์มีให้เธอจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนหรือการเป็นเพื่อนที่ดี เรียกได้ว่าจิณณ์คือแบบอย่างที่เธออยากจะลองใช้ความพิเศษทำประโยชน์ให้กับคนอื่น ๆ

    “ทำมันต่อให้พวกเราด้วย ฉันเชื่อว่าเธอทำได้ดารันย์ ความพิเศษของเธอไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะ ขับเคลื่อนมันด้วยความรู้สึกของเธอ” จิณณ์ขยิบตาก่อนที่ร่างบางของทั้งสองคนจะถูกหามออกไป

    “ให้ครูรีเซ็ตหุ่นสองตัวนี้ออกไปก่อนไหม?” ดารันย์กำหมัดแน่น ขบฟันไปมาก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ ให้อาจารย์รู้ว่าควรจะปล่อยทุกอย่างไว้แบบเดิม หล่อนหันมาเผชิญหน้ากับมันสองตัวด้วยแววตาที่ฉายความดุดันออกมา

    “แกเป็นคนทำร้ายจิณณ์ แกต้องรับผิดชอบ” เสียงต่ำของดารันย์ค่อย ๆ เปรยออกมาหากแต่มันแฝงไปด้วยความหนักแน่น หลังจากที่อาจารย์ออกไปแล้ว เวลาทุกอย่างก็กลับมาเดินปกติ หุ่นเชิดสองตัวจ้องมองเหยื่อที่เหลืออยู่ในสนามรบแค่คนเดียว

    ดารันย์กำมือแน่นพร้อมกับมันตัวหนึ่งที่พุ่งเข้ามา เด็กสาวหมุนตัวหลบก่อนจะบีบเข้าที่คอของมัน แรงสั่นสะเทือนบางอย่างค่อย ๆ ส่งผ่านฝ่ามือของเธอจนคอของหุ่นแตกกระจายเป็นลูกบาศก์สีเขียว ร่างไร้หัวของมันร่วงลงไปกับพื้นและค่อย ๆ แปรสภาพเป็นเศษลูกบาศก์ชิ้นเล็กชิ้นน้อย

    “ฉันไม่ปล่อยพวกแกเอาไว้แน่!” เธอยอมรับว่าความโกรธได้ครอบงำจิตใจของเธอ หุ่นพวกนี้ก็เหมือนกับผู้ชายที่เธอเจอมาทั้งชีวิต ผู้ชายที่เห็นพวกเธอเป็นแค่ของเล่นที่คิดจะสนุกสนานโดยที่ไม่สนใจความเจ็บปวดที่เธอได้รับเลย คนพวกนี้ไม่สมควรอยู่ต่อไปบนโลกนี้หรอก

    เธอเอามือทั้งสองวางลงบนพื้น แน่นอนว่าที่พื้นเกิดแรงสั่นสะเทือนพร้อมกับถนนที่ปรากฏรอยแยกออกมา รอยแยกนั้นพุ่งตรงไปหาร่างของหุ่นเชิดพร้อมกับถนนที่ยุบลงไปหลุมขนาดใหญ่ ส่งผลให้มันตกลงไป แต่หลุมไม่ได้ลึกมากนัก ดารันย์กระโดดตามลงไปพร้อมกับกดมือลงที่หน้าอกของมันจนระเบิดเป็นลูกบาศก์เช่นเดียวกับตัวแรก เธอรีบแสกนคะแนนเข้าไปก่อนจะกลับมาที่อีกตัวและทำเหมือนกัน

    หล่อนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหอบพร้อมกับลงไปนั่งกับพื้น รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏออกมาจากมุมปากที่สวยได้รูปของเธอ

    “ฉันจะจัดการแทนพวกเธอเอง....”  

    -----------------------------------------------------------------
    Episode 5 l Chapters 2 : ขุมพลังแห่งความโกรธ


    Monday 26th November 2018
    Next Episode 6 l Chapters 1 : ใจกลางสงครามเมือง

    -----------------------------------------------------------------

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×