คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : Chapters 2 : ควบคุมหรือบงการ
THE
UNIQUE
Episode 4 l Chapters 2 : ควบคุมหรือบงการ
------------------------------------------------------
17.45 น.
ทีมของมังกรถูกแบ่งออกเป็นสามทีม ซึ่งทีมแรกมีเพียงแค่จิณณ์คนเดียวเท่านั้น เธอขออาสาเข้าไปในอีกมิติหนึ่งด้วยความสามารถของเธอ แรกทีเดียวดารันย์อยากจะเข้าไปด้านในเป็นเพื่อนด้วย แต่จิณณ์ให้เหตุผลว่าเธอยังใช้ความพิเศษไม่เสถียร ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดอาจจะเป็นอันตรายกับคนอื่น และเธอก็ไม่อยากให้เพื่อนที่เหลือต้องมาเสี่ยงกับความสามารถที่ยังไม่สามารถควบคุมมันได้ถาวร เธอจึงเลือกที่จะไปคนเดียว ทีมที่สองเป็นทีมของมังกร กาเหว่า และคราม เขาทั้งสามคนจะไปตามหาด้านหลังโรงเรียนซึ่งมีทะเลสาบอยู่ และทีมสุดท้ายคือกวินและดารันย์ มังกรไม่เห็นด้วยที่ให้กวินไปกับดารันย์ เพราะว่าทั้งคู่ยังไม่สามารถควบคุมพลังของตัวเองได้ อย่างน้อยถ้ามีเขาหรือครามที่อยู่คลาสเอไปด้วยน่าจะรับมือกับไนท์ได้ดีกว่า แต่กาเหว่าก็เกาะเป็นปลิงไม่ยอมปล่อยให้เขาได้หาช่องทางในการอธิบาย กวินจึงตัดสินใจที่จะไปกับดารันย์เพียงสองคนและให้ครามซึ่งสนิทกับมังกรมากกว่าเขาไปช่วยกันตามหาไนท์และช่วยแยกกาเหว่าออกจากมังกรด้วย เพราะดูจากสีหน้าของเพื่อนหนุ่มแล้ว เขาคงอยากจะขอความช่วยเหลือผ่านสายตาอาลัยอาวรณ์คู่นั้นนั่นแหละ
“อีกสิบห้านาทีเราจะมาเจอกันที่นี่ ฉันจะรีบไปตามหาอีกคนและพามาที่นี่ให้ได้”
“ระวังตัวนะจิณณ์...” สาวพูดน้อยอย่างดารันย์กล่าวเสียงเรียบก่อนจะบีบมือของเธอไปหนึ่งครั้ง จิณณ์พยักหน้ารับก่อนจะไล่ให้ทุกคนไปตามหาตัวต้นเรื่องนี้เสียที หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว เธอค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจของตัวเองออกมาช้า ๆ
“เอาวะ! อย่างน้อยก็ถือว่าช่วยคน...” ลึก ๆ เธอก็แอบกลัวเหมือนกัน เพราะพลังของเธอยังไม่เสถียรมากพอที่จะพาตัวเองข้ามมิติไปได้ และถ้าเกิดว่าความสามารถนั้นถูกขัดขวางจากอะไรบางอย่างด้านใน เธอจะได้กลับออกมาหรือเปล่า
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอยากจะทดสอบความพิเศษของตัวเองดูสักครั้ง เธอบีบมือของตัวเองแน่น กลั้นหายใจเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ เดินหายเข้าไปในกระจกราวกับว่าไม่มีเธออยู่ที่นั่น
“อีกห้านาทีหอสมุดจะปิดแล้วนะคะ!” เสียงบรรณารักษ์พูดผ่านเครื่องกระจายเสียงของหอสมุดที่ในเวลาเย็นเช่นนี้ยังมีนักเรียนบางคนใช้บริหารอยู่ ชามาและดาวเรืองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนั้น ดาวเรืองถูกเพื่อนสนิทลากมายังหอสมุดเพราะต้องการติดตามดูพฤติกรรมของใครบางคนในคลาสของตัวเองอย่างมิวส์ ชามาบอกกับเธอว่าสงสัยในความพิเศษของมิวส์ซึ่งบางทีก็เห็นว่าเขาสามารถสื่อสารกับสิ่งของรอบตัวได้ และบางทีเขาก็ดูจะอ่านใจคนได้ด้วยเสียงการเต้นของหัวใจ เธอไม่เชื่อว่าคนคนเดียวจะมีความสามารถได้ถึงสองอย่าง ทฤษฎีของชามาทำให้คนอย่างดาวเรืองเริ่มให้ความสนใจกับพลังพิเศษของเด็กหนุ่มคนนั้น การได้ตามสืบเรื่องราวของคนอื่นเหมือนกับนักสืบก็น่าตื่นเต้นดีเหมือนกัน ซึ่งชามาเองก็ชอบความตื่นเต้นแบบนั้นอยู่แล้วจึงพวกดาวเรืองมาด้วยอีกคน
“นั่นไง เด็กผู้ชายที่มิวส์” ชามาสะกิดให้ดาวเรืองมองไปยังโต๊ะฝั่งตรงข้ามเธอถัดไปอีกสามโต๊ะ เด็กหนุ่มใส่หูฟังพร้อมกับพูดอะไรบางอย่างกับกองหนังสือนิทานที่เขาหยิบมันมาหลายต่อหลายเล่ม บางทีก็ยิ้ม บางทีก็ทำหน้าเศร้าราวกับว่าเขาสื่อสารกับคนในหนังสือยังไงยังงั้น
“แน่ใจนะว่าหมอนั่นไม่ได้เพี้ยนหรือบ้าน่ะ?” ดาวเรืองกระซิบที่ข้างหูของเด็กสาวอีกคน
“ไม่หรอก ชามาว่าพลังของเขาน่าสนใจมากกว่า แต่ที่ชามาอยากรู้จริง ๆ น่ะ คืออยากรู้ว่าพลังของมิวส์คืออะไรกันแน่”
“หอสมุดปิดแล้วค่ะ ขอให้นักเรียนทุกคนออกจากหอสมุดในเวลานี้ด้วยค่ะ!” เสียงตามสายประกาศอีกครั้งพร้อมกับเด็กหนุ่มที่นำสมุดนิทานไปเก็บ เขาโบกมือลากองหนังสือนิทานนั้นก่อนจะวิ่งออกมา ด้วยความที่ไม่ทันระวังทำให้เขาชนกับเด็กนักเรียนคนหนึ่งที่เดินออกมาจากมุมของชั้นหนังสือ
“อ๊ะ! ขอโทษนะครับ พอดีว่าผมไม่ทันมอง” เขากล่าวขอโทษก่อนจะก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด
“แค่ขอโทษหรอวะไอ้โง่! เดินไม่ดูทางแบบนี้ต้องสั่งสอนซะหน่อยดีไหม!” คนตรงหน้าตวาดเขาจนเขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจ
“นั่นมันไนท์นี่นา...” ดาวเรืองพูด เธอจำได้ว่าเขาอยู่ในคลาสบีเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่วันนี้เขาไม่เหมือนทุกครั้ง เขาดูเกรี้ยวกราดและก้าวร้าวทั้งนิสัยรวมไปถึงคำพูด และตอนนี้เหมือนว่ามิวส์กำลังซวยแล้ว
“คุณหนังสือบอกว่าให้ขอโทษและรีบออกไปจากตรงนี้ถ้าไม่อยากเกิดเรื่องขึ้น ผมขอตัวนะครับ” เขากล่าวก่อนจะทำทีวิ่งออกมาจากตรงนั้น หากแต่มือของไนท์คว้าเข้าที่แขนของมิวส์และบีบอย่างแรง มิวส์ชะงักพร้อมกับสะบัดการจับกุมของเขาออกและวิ่งไปนอกหอสมุด
“ไม่มีใครหนีกูพ้นหรอก...” เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะวิ่งตามราวกับเห็นว่าเขาเป็นของเล่นชิ้นใหม่
“ซวยแล้ว ไปช่วยหมอนั่นกันเถอะ!” ดาวเรืองพูดก่อนจะคว้าร่างของชามาที่ดูจะตื่นเต้นมากกว่าทุกครั้ง มันดูน่าสนุกกับอันตรายแบบนี้เสียเหลือเกิน
“นี่นักเรียน อย่าวิ่งเล่นในหอสมุดแบบนี้นะคะ!!” เสียงอาจารย์สาวตะโกนไล่หลังคนสี่คนที่วิ่งออกไปจากหอสมุดโดยที่ไม่รู้เลยว่านั่นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น มันคือเรื่องจริง!
มิวส์วิ่งหนีการไล่ล่าท่ามกลางเสียงหัวเราะที่ไล่หลังมา ชามาที่วิ่งตามหลังโดยทิ้งระยะห่างมองเห็นวัตถุรอบตัวของมิวส์ที่สั่นไหวไปตามแรงวิ่งของเขาราวกับเป็นสัญญาณเตือนถึงอันตรายรอบตัวเขา ดาวเรืองที่ดูแข็งแรงกว่าวิ่งทิ้งห่างชามาก่อนจะใช้ความพิเศษของตัวเองด้วยการปล่อยให้ตัวเองถูกแรงดึงดูดดูดตัวเธอไปที่ประตูทางออกหน้ามิวส์ เธอเกาะกับประตูเมื่อถึงที่หมายและคว้ามิวส์เอาไว้ได้ทัน
“หนีก่อน!” เธอพูดก่อนจะปล่อยร่างกายของตัวเองไปที่หน้าต่าง โชคดีที่ตรงนี้เป็นชั้นแรก แต่มันก็ไม่ได้โชคดีไปเสียทั้งหมดเมื่อไนท์กำลังเพิ่มกำลังการวิ่งเพิ่มขึ้นและใกล้จะถึงตัวดาวเรืองแล้ว
“จะทำยังไงดี” ชามายืนคิดก่อนจะเหลือบไปมองแจกันดอกไม้ตรงทางเดิน ถ้าเธอสามารถขว้างมันไปได้คงดี!
เธอวิ่งไปหยิบมันมา แต่ในตอนนั้นเองที่เหมือนกับมีหลุมอากาศขนาดเล็กดูดเอาแจกันหายไปและ
เพล้งงงง!!
แจกันดอกไม้พุ่งใส่กำแพงเฉียดหน้าของไนท์ไปนิดเดียว เป็นจังหวะดีที่ทั้งดาวเรืองและมิวส์จะกระโดดข้ามหน้าต่างออกมา
“เจอกันที่สวนนะ!” ดาวเรืองตะโกนไล่หลัง ชามาพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะวิ่งไปที่ทางออกอีกฝั่ง
เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…พลังของมิวส์รุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?
จิณณ์มองมิติที่อยู่ภายในกระจกหลังจากที่พาตัวเองเข้ามาได้สำเร็จ มีเพียงความมืดมิดที่โอบล้อมเธอไม่ต่างกับห้องมืด ๆ เธอมองนาฬิกาก่อนจะพบว่ามันผ่านไปแล้วห้านาที เธอสูดลมหายใจก่อนจะตะโกนฝ่าความมืดออกไป
“มีใครอยู่ที่นี่ไหม? ถ้าได้ยินแล้วส่งเสียงด้วย!” ไม่มีอะไรตอบกลับเธอเลยสักอย่าง จิณณ์จึงตัดสินใจเดินฝ่ามันไปทั้งที่ไม่รู้ว่ามันจะไปโผล่ที่ไหน เธอเริ่มออกวิ่งไปเรื่อย ๆ จนพบแสงสว่างสีขาวที่อยู่ตรงหน้า
“สวัสดี!!” เธอตะโกนออกไปอีกครั้งเมื่อเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่
“เฮ้! ฉันอยู่ทางนี้!!” เงาเคลื่อนไหวนั้นชะงักก่อนจะตะโกนกลับมา เหมือนกับว่าเธอรู้สึกโล่งใจได้บ้าง เด็กสาววิ่งฝ่าความมืดนั้นไปจนกระทั่งเจอกับคนปริศนา เธอได้พบกับคนที่เธอตามหา ทั้งรูปร่างและทรงผมที่เธอเห็นอยู่บ่อย ๆ เธอจึงมั่นใจได้ว่าคนนี้คือไนท์ตัวจริงอย่างแน่นอน
“ไนท์! โชคดีที่เจอนาย นี่นายรู้ไหมว่ามีคนที่หน้าตาเหมือนนายอยู่ข้างนอก และตอนนี้หมอนั่นป่วนโรงเรียนไปทั่วหมดแล้วนะ” เธออธิบายให้กระชับและได้ใจความมากที่สุด
“นั่นไม่ใช่อีกคนหรอก...มันเป็นความพิเศษของฉันเอง” เขาตอบไปตามตรงเพราะไม่อยากปิดบังใครอีกแล้ว
“หมายความว่าไง?”
“พลังของฉันคือการสร้างอีกตัวตนที่แข็งแกร่งขึ้นมา ฉันยังไม่รู้วิธีควบคุมมัน หมอนั่นเลยเอาตัวฉันเข้ามาอยู่แทนที่” เขาพูดก่อนจะมองประตู
ไนท์ยืนอยู่ที่ประตูสี่บานนี้มานานแล้ว ไม่มีอะไรที่เขาจะงัดมันออกไปได้เลย ทุกอย่างดูปิดสนิทราวกับว่ามันไม่เคยเปิดมาก่อน
“ฉันจะลองผ่านประตูนี้ไปดู” จิณณ์พูดก่อนจะรีบพาตัวเองทะลุผ่านประตูบานที่ใกล้ตัวเอง หากแต่เธอไม่สามารถใช้ความพิเศษของตัวเองได้ในตอนนี้
“เธอลองประตูบานนี้ดูสิ ฉันว่ามันน่าจะเปิดง่ายที่สุดนะ” เขาพูดก่อนจะมองหน้าของจิณณ์ที่เลิกคิ้วขึ้นมา
“นายพูดอะไรของนายน่ะ? ประตูมันมีแค่บานเดียวไม่ใช่เหรอ?” คำพูดของเด็กสาวทำเอาเขาก็งงไม่แพ้กัน ทำไมเธอถึงเห็นประตูแค่บานเดียวในขณะที่เขามองเห็นถึงสี่บาน!
ทั้งกลุ่มของกวินและกลุ่มของมังกรกลับมารวมกันที่สวนหลังโรงเรียน เขาทั้งหมดยังตามหาตัวของไนท์ไม่เจอ กาเหว่าที่ดูหอบแฮ่ก ๆ ยังเกาะแขนของมังกรแน่นไม่ปล่อย ไม่ใช่ว่าเธออยากจะออกมาตามหาผู้ชายหน้าโง่ที่ไหนหรอก คิดว่าการทำคะแนนให้ผู้ชายหลงรักมันต้องลุยน้ำลุยไฟไปด้วยกันให้เขาเห็นว่าเธอพยายามช่วยทั้งที่ลึก ๆ เธออยากกลับห้องจะตาย
เพื่อผู้ชาย เหว่าจะเต็มที่กับทุกคนค่ะ
“เอาไงดี เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วนะ” กวินก้มมองดูนาฬิกาข้อมือ จนถึงตอนนี้เขายังตามตัวไนท์ไม่เจอเลย แล้วทางฝั่งของจิณณ์จะเป็นยังไงบ้างนะ
“มาทางนี้!” เสียงหนึ่งทำให้ทั้งหมดหันไปยังต้นเสียง
ดาวเรือง ชามา และมิวส์วิ่งเข้ามาด้านในพร้อมกับไนท์ที่วิ่งตามเข้ามาติด ๆ ทั้งมังกรและกวินมองหน้ากัน ในที่สุดก็เจอคนที่ตามตัวเสียที
“พร้อมนะเธอ” กาเหว่าพยักหน้ารับคำถามของมังกรก่อนจะยิ้มแก้มปริ แต่ข้างในใจก็อยากจะระเบิดออกมาเมื่อเห็นยายคุณหนูตรงหน้า ต้องสงบจิตเอาไว้ อย่าให้ผู้ชายเกลียดเรา
“แหม่! มีของเล่นเยอะแยะแบบนี้จะเล่นตัวไหนก่อนดีหล่ะเนี่ย” ไนท์ดูสนุกเมื่อเห็นกลุ่มคนตรงหน้าหลายต่อหลายคน เขาหักนิ้วตัวเองเล่นก่อนจะพุ่งเข้าใส่กลุ่มคนตรงหน้า และเป้าหมายนั่นคือคราม คนที่เขามีเรื่องเมื่อตอนบ่ายนั่นเอง
วูบบบบ!!!
ร่างกายของครามค่อย ๆ ล่องหนหายไปต่อหน้าต่อตาทุกคน ทุกคนต่างกระจายตัวออกมาให้ห่างเขา แต่เหมือนกับว่าไนท์รู้ว่าครามอยู่ที่ไหน ที่พื้นสนามมีร่องรอยของการหนีไปอีกทางของสวน เขาเตรียมใจไล่ตามไปแต่เหมือนกับว่ามังกรและกวินขวางไว้ก่อน
“พอได้แล้วน่าไอ้ไนท์ แกต้องยุดเดี๋ยวนี้!” กวินกัดฟัน ไม่เคยเห็นคนตรงหน้าที่ดูทรงพลังขนาดนี้
“เป็นพ่อกูเหรอ? ก็เปล่านี่!” เขาแสยะยิ้มก่อนจะสวนหมัดใส่กวิน เขาเอี้ยวตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด เด็กหนุ่มพยายามไม่ใช้ความพิเศษของตัวเองโดยพลการ เพราะมันอาจจะทำให้ไนท์เจ็บตัวได้
ไนท์ปล่อยหมัดใส่กวินก่อนจะหมุนตัวและเตะเข้าที่ก้านคอของมังกร อีกฝั่งไว้ตัวทัน เขาตั้งรับด้วยมือหนาพร้อมกับจับขาของไนท์และสะบัดออก ร่างของเขาหมุนกลางอากาศก่อนจะกลิ้งไปอีกทาง เขาลุกขึ้นมาก่อนจะปรบมือเบา ๆ
“มึงเจ๋งมาก นี่แหละคู่ต่อสู้ของกู!” เขาพูดก่อนจะวิ่งเข้าไปหามังกรและต่อยเข้าที่ท้อง ด้วยความเร็วที่ตั้งตัวไม่ทันเหมือนเมื่อคู่ทำให้เขาถูกต่อยอย่างแรงจนรู้สึกจุก
“ไอ้ไนท์!” กวินไม่เคยเห็นการเคลื่อนที่ที่เร็วแบบนี้มาก่อน ไนท์เตรียมต่อยเข้าที่สีข้างของมังกรอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าครามที่ซ่อนตัวอยู่จะโผล่ออกมาจากความว่างเปล่าและล๊อกแขนของเขาเอาไว้ เขาพยายามสะบัดด้วยพละกำลังที่มหาศาล มังกรและกวินรีบเข้ามาช่วยครามที่ค่อย ๆ ปรากฏตัวทางด้านหลังของไนท์
“ตอนนี้แหละ จัดการเลยกาเหว่า!” กวินส่งเสียงร้อง กาเหว่ารีบวิ่งเข้ามาก่อนจะมองหน้าของไนท์
“อย่าขัดขืนเลยนะสุดหล่อ” รอยยิ้มของเธอปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาก่อนที่ร่างของกาเหว่าค่อย ๆ หายเข้าไปในร่างของไนท์ที่ดูจะขัดขืน ไม่นานนักเรี่ยวแรงของไนท์ก็ผ่อนลงจนทั้งสามหนุ่มค่อย ๆ คลายมือออก ไนท์ยืนขึ้นก่อนจะมองทุกคนรอบ ๆ
“ไปหาจิณณ์กันเถอะ” ไนท์ส่งยิ้มหวานให้มังกรจนเขารู้สึกขนลุก สายตาที่ไนท์มองมาราวกับจะกินเขายังไงยังงั้นแหละ
ชามา ดาวเรืองและมิวส์ได้แต่มองกลุ่มของมังกรที่ค่อย ๆ เดินตามไนท์ไป ทั้งสองสาวมองหน้ากัน
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ดาวเรืองเลิกคิ้ว
“คุณต้นหญ้าบอกว่าถ้าไม่ใช่เรื่องของเรา ก็อย่าเข้าไปยุ่งจะดีกว่า ขอบคุณนะครับที่ช่วยผม” มิวส์กล่าวขอบคุณเด็กสาวทั้งสองก่อนจะขอตัวกลับไปยังหอพัก เขารู้สึกเหนื่อยและยังตื่นกลัวกับคนตรงหน้าและเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่
“ไปกันเถอะชามา” ดาวเรืองคว้าแขนของชามาออกไปจากบริเวณนั้น ทิ้งความสงสัยทั้งหมดไว้ที่สวนแห่งนี้
“แล้วจะเอายังไงต่อ” เธอถามก่อนจะนั่งฟุบลงตรงประตู เหมือนกับว่าเธอจะเริ่มเวียนหัวเนื่องจากผลข้างเคียงของการใช้ความพิเศษนานเกินไป ไนท์ได้แต่มองบานประตูทั้งสี่บานสลับกันไปมาพลันนึกคิดในสิ่งที่จิณณ์เห็น เขามองเห็นถึงสี่บานแต่เธอกลับมองเห็นเพียงแค่บานเดียว เขานั่งอยู่ข้าง ๆ เด็กสาว ตัวสั่นไปมาด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าจะไม่ได้ออกไป กลัวว่าจะทำให้เธอต้องมาติดอยู่ที่นี่ กลัวว่าพลังจะบงการร่างของเขาไปตลอดชีวิต
“นายต้องมีสติ เชื่อว่านายจะสามารถควบคุมมันได้ ถ้านายทำได้ ฉันว่าเราจะต้องออกไปจากที่นี่และควบคุมพลังของนายได้แน่ ๆ ฉันเองก็ไม่คิดว่าจะควบคุมการทะลุทุกสิ่งแบบนี้ได้ แต่ฉันเชื่อในความพิเศษของฉัน เชื่อว่ามันจะส่งเสริมตัวฉันได้ และตอนนั้นฉันจะต้องควบคุมมันได้เสถียรแน่ ๆ แค่นายเชื่อ”
เชื่อ? ยังงั้นเหรอ? ไนท์มองหน้าของจิณณ์ที่เริ่มมีเหงื่อออก
ใช่ เพราะว่าเขากลัวว่าพลังของเขาจะสร้างความเดือดร้อนในตัวเอง
ใช่ เพราะว่าเขาไม่เคยเชื่อในพลังของตัวเองและปล่อยให้มันบงการเขามาตลอด
ใช่ เพราะว่าเขาต้องเป็นคนควบคุมมัน ไม่ใช่ว่ามันมาควบคุมเขา
ใช่ เขาต้องทำได้แน่ ๆ!
ประตูที่เคยมีสี่บานค่อย ๆ สั่นไหวและเคลื่อนที่เข้าหากันอย่างช้า ๆ จนเหลือประตูแค่บานเดียว สิ่งที่เขามองเห็นคือประตูที่เต็มไปด้วยความกลัว แต่เมื่อใดก็ตามที่ความกลัวถูกคุกคามด้วยความกล้าและความเชื่อมั่น มันจะต้องรวมกันเป็นหนึ่งและเอาชนะทุกอย่างได้ เขาค่อย ๆ พยุงร่างของจิณณ์พร้อมกับเปิดประตูออก
มันค่อย ๆ เปิดอย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องใช้แรงผลักเลย หลังบานประตูบานนี้คือกระจกห้องน้ำที่เขาทั้งสองเคยเข้ามาก่อนจะหลงอยู่ในมิติบิดเบี้ยวนี้
“นายทำได้...” จิณณ์พูดก่อนจะชูนิ้วโป้งให้ ไนท์ยิ้มตอบก่อนจะประคองร่างของเธอมายังหน้ากระจกพร้อมกับพวกมังกรที่เข้ามาในห้องน้ำพอดี
“ขอบใจที่ช่วยเตือนสตินะ เธอต้องออกไปจากที่นี่ก่อน ที่เหลือฉันจะควบคุมมันเอง” เด็กสาวพยักหน้าก่อนจะค่อย ๆ ใช้ความพิเศษของตัวเองทะลุกระจกออกมาพร้อมกับกวินที่ประคองร่างของเธออยู่ ดารันย์รีบเข้ามาช่วยอีกแรงก่อนจะพาเธอออกไปนั่งที่โซฟาในโถงหอพักซึ่งในเวลานี้เริ่มมีนักเรียนกลับเข้าหอบ้างแล้ว
“จะทำอะไรก็รีบ ๆ ทำนะ ฉันจะเริ่มควบคุมหมอนี่ไม่ไหวแล้ว” กาเหว่าในร่างของไนท์เปรยเสียงสั่น เธอฝืนตัวเองมาสักพักแล้ว
“เอาล่ะนะ!” ไนท์ในอีกมิติพูดกับตัวเองก่อนจะค่อย ๆ ยื่นมือออกมาจากกระจก กาเหว่าที่เห็นสัญญาณจึงค่อย ๆ พาตัวเองออกมาจากร่างของไนท์ ดวงตาของผู้ชายที่หน้าเหมือนกันทั้งสองคนสะท้อนกันอยู่อย่างนั้น
“หมดเวลาสนุกของนายแล้ว กลับเข้ามาในที่ของนายซะ!”
หมดสนุกเหรอ? ฉันยังอยากเที่ยวเล่นในโลกนี้อยู่เลย
“ฉันจะควบคุมนายให้อยู่ในร่างนี้ได้ เราจะต้องช่วยกัน พวกเราสองคนจะผ่านมันไปได้แน่ ๆ”
ฮ่าๆๆๆ....มึงคิดว่ามึงจะควบคุมกูไปได้นานแค่ไหนวะ
“ไม่รู้ แต่ฉันจะทำให้ดีที่สุด” แววตานั้นฉายแววความมุ่งมั่นออกมาจนอีกคนลอบยิ้ม
นี่แหละ คือสิ่งที่กูอยากเห็นจากตัวมึง หวังว่าที่กูออกมาป่วนจะช่วยให้มึงคิดได้นะ
“เยอะเลยแหละ”
เออ...ควบคุมกูให้ดีล่ะ ถ้าอยากให้กูออกมาเที่ยวเล่นตอนไหนก็เรียกกูออกมา เรียกออกมาพร้อมแววตาที่พร้อมจะฟาดทุกอย่างเหมือนเมื่อกี้
“ขอบคุณ”
เออ
วูบบบบบบ
เหมือนกับว่าร่างของเขาหมุนเคว้งไปมาก่อนจะมารู้สึกตัวอีกทีคือตัวเองอยู่ที่พื้นห้องน้ำพร้อมกับกวินและมังกร
“พวกนาย นี่ฉันกลับมาแล้วใช่ไหม?” ไนท์ตาโต
“ยินดีต้อนรับกลับมาเพื่อน” กวินตบบ่าของรูมเมท เขารู้สึกดีใจที่รูมเมทของเขากลับมาเป็นปกติ ทุกอย่างกลับมาสงบสุขอีกครั้ง ไนท์มองเข้าไปในกระจกอีกครั้งก่อนจะเห็นอีกคนที่ยักคิ้วให้ราวกับจะบอกว่า ‘พยายามเข้านะ’ ยังไงยังงั้น
“เวียนหัวไปหมดเลย” กาเหว่าพิงไหล่สูงของครามมาตลอดทางที่ขึ้นมายังหอพัก เธอใช้คีย์การ์ดของห้องพักหญิงพาตัวเองและชายหนุ่มมายังหน้าห้องของตัวเอง
“เธอไหวใช่ไหม?” ครามถามก่อนจะมองหน้าของเด็กสาว
วูบบบบบ
ร่างของเด็กสาวเข้าไปอยู่ในร่างของครามอย่างรวดเร็ว เธอในร่างของเด็กหนุ่มอมยิ้มเล็กน้อย
“ไม่ได้มังกร ก็เอาคนนี้ก่อนก็ได้ เนอะ!” ครามผิวปากอย่างสบายใจก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนของกาเหว่าและล็อคประตูอย่างแน่นหนา
บทเพลงรักที่ครามไม่ได้ตั้งตัวเริ่มต้นขึ้นแล้ว!!
ดารันย์นอนอยู่บนที่นอนสีครีมที่ตกแต่งแบบเรียบ ๆ ความคิดจากเหตุการณ์เมื่อเย็นนั้นวนเวียนอยู่ในหัว ความพิเศษของจิณณ์ที่ส่งเสริมตัวของเธอให้สามารถช่วยเหลือคนได้ กลับความพิเศษของไนท์ที่กลายเป็นเหมือนขุมพลังที่ยากจะควบคุม การมีอยู่ของความพิเศษนั้นมันทำให้เธอเป็นคนพิเศษจริง ๆ หรือว่าเป็นแค่ตัวประหลาดกันแน่ ไม่นานนักรอยยิ้มของเด็กสาวก็ค่อย ๆ คลี่ออก
การมีอยู่ของความพิเศษนั้นอาจจะสร้างมิตรภาพที่เธออยากจะเริ่มต้นก็ได้...
-----------------------------------------------------------------
Episode 4 l Chapters 2 : ควบคุมหรือบงการ
Monday 19th November
2018
Next Episode 5 l Chapters 1 : King Class
-----------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น