ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TVXQ Fic YAOI] \\ อันธพาลแอ๊บเถื่อน กับ นางฟ้าแอ๊บแบ๊ว //

    ลำดับตอนที่ #4 : Part 3 :: ก้าวหน้า

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 52


    />

    Title :: [Fic] อันธพาลแอ๊บเถื่อน กับ นางฟ้าแอ๊บแบ๊ว 3
    Story by :: Tachi_Naniki
    Pairing :: YUNHO x JAEJOONG (Feat. YS & มากมายก่ายกอง)
    Category ::Romantic comady,action,drama
    Rate :: NC-15

     

     

    Warning :: เนื้อหาในพาร์ทนี้ไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก ... เพราะฉะนั้น อ่านข้ามจ้ะ หากไม่ชอบ







    ความรู้สึกบางอย่างค่อยๆก่อตัวขึ้นภายในจิตใจของคนสองคนทีละน้อยๆและมันมีแต่จะเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆในทุกๆครั้งที่คนทั้งคู่ได้มีโอกาสพูดคุยและสานต่อความสัมพันธ์... วันนี้เป็นวันครบรอบสามเดือนที่ยุนโฮมีโอกาสได้มารู้จักกับเด็กหนุ่มตัวเล็กเจ้าของตุ๊กตาหมีสีขาวเจ้าปัญหาที่ดันมีหน้าตาละม้ายคล้ายกับอันธพาลเถื่อนๆอย่างเขา ...  แน่นอนว่า ของขวัญวันครบรอบนั้นได้มาจากน้ำพักน้ำแรงทั้งนั้น .. เงินในบัญชีที่คุณพ่อส่งมาให้ทุกเดือน .. ยุนโฮตัดสินใจว่า จะใช้มันสร้างเนื้อสร้างตัวในภายหลัง .. จึงไม่ได้นำออกมาใช้แม้แต่แดงเดียวนับตั้งแต่ได้พบกับนางฟ้าตัวน้อยๆ ...

     

    พาแจจุงมาส่งให้แล้วฮะ... เสียงหวานของฟักทองน้อยเรียกให้คนตัวโตต้องตวัดสายตาหันไปมองว่า เรื่องที่เขาขอร้องให้ซองมินเป็นหน้าม้าเดินทางไปรับแจจุงออกมาเที่ยวข้างนอกเพื่อตบตาท็อปนั้น .. ซองมินทำได้สำเร็จตามที่พูดหรือเปล่า ... และเมื่อเห็นเด็กตัวเล็กพร้อมกับตุ๊กตาหมีสีขาวในมือ ... ยุนโฮก็ถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจอย่างถึงที่สุด ...

     

    ถ้าท็อปจับได้ว่า เขาใช้ให้ซองมินไปรับแจจุงที่บ้าน ... เรื่องคงไม่จบที่แค่ตีกันตายแน่ๆ ..

     

    แจจุงลอบมองเสี้ยวหน้าหล่อภายใต้หมวกแก๊ปสีดำเข้าคู่กับเสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงยีนสีซีดๆขาดๆและรองเท้าผ้าใบสีเดียวกันทั้งเซ็ต ... ผมทรงชี้ฟ้าซอยสั้นระเรี่ยแก้มไปจนถึงต้นคอผิวสีแทนขับให้ใบหน้าหล่อคมนั้นดูหล่อมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว ...

     

    นัยน์ตาสีเข้มเองก็จ้องแจจุงตอบเช่นเดียวกัน แจจุงจึงต้องเสสายตาหนีไปทางอื่น ... ใบหน้าหวานแดงเรื่อเมื่อพบเข้ากับสายตามีความหมายนั้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ...

     

    งั้น .. ผมไปหาพี่คยูก่อนนะฮะ รู้สึกถึงบรรยากาศของสองเราจนซองมินต้องพูดขอตัว ... ยุนโฮพยักให้ช้าๆ ก่อนจะเอ่ยคำขอบคุณออกไปอย่างจริงใจ ...  

     

    ซองมินแยกไปเที่ยวกับคยูอีกทางหนึ่ง ... ตอนนี้จึงเหลือแต่แจจุงและยุนโฮที่ยังคงยืนเงียบ ... ผลสุดท้าย ... เมะจึงต้องเป็นฝ่ายเริ่มทุกอย่างก่อนทั้งหมด

     

    แจจุงชอบไปเที่ยวน้ำตกมั้ย?

     

    เอ๋? ... อื้อ .. ชอบฮะ พี่ท็อปพาไปปีละครั้ง ... แต่ปีนี้ยังไม่ได้ไปเลย

     

    อ่า .. งั้น ... ให้พี่พาไปนะ คว้ามือนิ่มข้างที่ไม่ได้โอบตุ๊กตาหมีมาจับแล้วออกแรงดึงเล็กน้อยเพื่อเดินไปรอรถเมล์ด้วยกัน .. หญิงวัยกลางคนอายุคราวแม่หลายต่อหลายคนที่นั่งรอรถเมล์อยู่เช่นเดียวกันต่างก็ส่งรอยยิ้มไปให้ยุนแจอย่างนึกเอ็นดู ..

     

    น้องชายหรอจ๊ะ? คุณป้าคนหนึ่งถามขึ้น ... ยุนโฮมีท่าทางกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย แต่ก็ยอมตอบออกไป ...

     

    น้องชายเพื่อนนะครับ

     

    งั้นก็เป็นแฟนกันนะสิ ... คุณป้าอีกคนโพล่งขึ้นมาเรียกให้แก้มสีขาวนุ่มนิ่มขึ้นสีเรื่อได้ไม่ยาก ... คนตัวเล็กก้มหน้ามองพื้นเป็นพัลวัน เพราะ ความเขินมันแล่นปรี่จนไม่รู้จะลูกกะตาไปโฟกัสไว้ที่ไหน .. ยุนโฮหัวเราะขำเบาๆ ก่อนจะตอบอะไรออกไปที่มันทำให้แจจุงยิ่งเขินหนักมากขึ้นกว่าเดิม ...

     

    ไม่ใช่หรอกครับ ... แต่ในอนาคตมันก็ไม่แน่ ^^”

     

    ว๊าย โรแมนติกจังเลย เหล่าป้าๆเริ่มเคลิ้มเมื่อย้อนนึกไปถึงสมัยที่ตัวเองเพิ่งถูกสามีจีบใหม่ๆ ..

     

     

    โชคดีที่รถเมล์มาถึงก่อนที่แจจุงจะละลายหายไปกับอากาศมากกว่านี้ เพราะ ความเขินอาย .. ยุนโฮเปิดทางให้แจจุงเข้าไปข้างในก่อนโดยที่ยุนโฮเดินตามขึ้นไปอีกที เพื่อป้องกันไม่ให้คนตัวเล็กโดนผู้คนจากด้านหลังเบียดเอา..

     

    ยืนได้มั้ย? เสียงทุ้มข้างใบหูนุ่มทำให้แจจุงไม่กล้าหันไปมองหรือสบตากับชายหนุ่มที่ยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง ... เข้าใจแล้วว่า ทำไมนางเอกหนังเกาหลีถึงได้เขินทุกครั้งเวลาพระเอกกันผู้คนที่เบียดเสียดในรถเมล์ให้โดยการใช้ร่างกายกำยำเป็นโล่กำบัง ...

     

    พี่ยุน ...

     

    หืม?

     

    บอกตามตรงนะ ... คือ...  แจจุงเขินอ่ะ .. >///< “

     

    หยุดทำให้ใจเต้นสักทีได้มั้ย ?

     

    หยุดทำให้คิดไปเองคนเดียวได้หรือเปล่า ?

     

    ช่วยบอกทีได้มั้ย? ... ว่าจูบเมื่อสามเดือนก่อน พี่ยุนทำไปเพื่ออะไร ?

     

    ทั้งๆที่อยากรู้คำตอบใจจะขาด แต่เด็กตัวเล็กๆไร้ประสบการณ์อย่างเขาก็ทำได้แค่เพียงเงียบรอเท่านั้น ..

     

    เขินในความหมายของแจจุง ... ครอบคลุมในทุกๆเรื่องอย่างที่พี่ยุนคงไม่มีวันเข้าใจ .......  

     

     

     

    อย่าไปเขินกับผู้ชายคนอื่นก็แล้วกัน ... เขินกับพี่คนเดียวก็พอนะ ^^”  โอบเอวบางเข้าหาตัวอย่างถือวิสาสะ ... หน้าอกแกร่งที่เสียดสีอยู่กับแผ่นหลังบางทำให้แจจุงรู้สึกสงบอย่างประหลาด ถึงแม้จะเขินจนหน้าแดงไปไม่รู้กี่ครั้งแต่กี่ครั้ง ... แต่แจจุงก็ไม่ได้ปฏิเสธสัมผัสอบอุ่นนี้เลยแม้แต่น้อย .. ตรงข้าม กลับเต็มใจเสียด้วยซ้ำไป ...

     

    ภาพเหตุการณ์หวีดหวานทุกอย่างล้วนอยู่ในสายตาของจียง ... อดีตแฟนสาว(?)ของท็อปที่ดัน ขึ้นรถเมล์สายเดียวกัน หลังจากถูกพี่ดองวุคตามตัว... เพราะ มัวแต่ซ้อมร้องเพลงจนสว่าง ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง ...

     

    จียงแอบนับถือในความอดทนของท็อปที่ไม่ได้สอดมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความรักระหว่างคนสองคนอย่างที่พี่ดองวุคเคยทำกับเขามาก่อน ...

     

    ก็ดูรักกันดี .. อย่างงี้คงไม่ต้องห่วงอะไรแล้วละมั้ง จียงพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะลงรถป้ายหน้าด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ...

     

     

    ผ่านไปเพียงไม่กี่ป้ายรถ ... ยุนโฮก็พาแจจุงลงแล้วเดินต่อไปอีกนิดหน่อยก็ถึงที่หมาย ...

     

    แค่ทางเข้ายังเป็นธรรมชาติซะขนาดนี้ ... ข้างในคงจะเหมือนกับป่าในเทพนิยายเลยก็เป็นได้ ...

     

    ที่นี่เป็นที่ของพ่อพี่เอง ... เขาไม่อนุญาตให้ใครเข้า นอกจากคนในตระกูล .. ไม่ต้องห่วงเรื่องคนรบกวน แต่มาคนเดียวบ่อยๆมันก็เหงานะ ...  แจจุงเงยหน้ามองคนพูดทันทีที่รับรู้ได้ถึงน้ำเสียงแฝงความเหงาหงอยเอาไว้ลึกๆ ...

     

    ไม่ชอบเลย .. เวลาพี่ยุนโฮพูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้ ...

     

    ถือนี่ไว้แทนแจจุงนะฮะ มือนุ่มยื่นส่งตุ๊กตาหมีสีขาวไปข้างหน้าเพื่อให้ยุนโฮรับไปถือไว้ในมือ ... ถึงจะแปลกใจอยู่นิดๆ แต่อันธพาลร่างสูงของชาวเราก็ยอมรับหมีตัวนั้นมาอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก ...

     

    .............

     

    วันนี้ขอฝากตัวด้วยนะ ... ดูแลแจจุงกับน้องหมีดีๆด้วยละ ^///^” ริมฝีปากหยักยิ้มกว้าง เพราะ เขาเข้าใจความหมายแฝงของแจจุงดี ...

     

    การที่แจจุงยอมให้เขาดูแลกันขนาดนี้ ... คงไม่มีเหตุผลอื่นใด นอกจาก แจจุงยอมอยู่เป็นเพื่อนแก้เหงาให้เขาทั้งวันจนกว่าจะถึงเวลาที่ท็อปกลับจากการทำงานนั่นแหละ ...

     

     

    ซ่า ซ่า ซ่า ...

     

    เสียงน้ำตกดังขึ้นเรื่อยๆ ตามมาด้วยไอน้ำและอากาศที่ชื้นเสียจนต้นไม้ใบหญ้าเจริญเติบโตได้ดี ... สีเขียวสดของมันช่วยให้คนตัวเล็กรู้สึกผ่อนคลาย หลังจากอุดอู้อยู่แต่ในบ้านและตัวเมืองมาตลอดทั้งปี ...

     

       

    อ๊ะ ... พี่ยุน ... นก ..??? แจจุงยื่นมือไปข้างหน้าเมื่อนกพิราบสีขาวปรอททั้งตัวบินร่อนลงมาเกาะโขดหินข้างๆ ... นกน้อยตัวนั้นกระพือปีกพับๆ ก่อนจะร่อนลงเอาขาเกาะเกี่ยวนิ้วเล็กเอาไว้เพื่อทรงตัว ...

     

    สวย ...... ยุนโฮบอกได้คำเดียว ว่า แจจุงเหมือนนางฟ้าในป่าใหญ่ที่ราวกับเพิ่งหลุดออกมาจากหนังสือนิยายปรัมปรา ..

     

    โขดหินก้อนใหญ่ข้างธารน้ำใสเป็นที่นั่งประจำของชายหนุ่มตัวสูง ... เขายังจำได้ดีว่า เขาใช้ที่นี่เป็นที่สงบจิตสงบใจ หลังจากเพิ่งไปมีเรื่องหรือเพิ่งไปดักตีทะเลาะวิวาทกับอันธพาลคนอื่นๆ ... แผลตามตัวนั้นสาหัสใช่ย่อยในแต่ละครั้ง...

     

    ทั้งเจ็บปวด ... ทั้งเหงาที่ชีวิตนี้มีแต่ถูกผู้อื่นดูถูกมาตลอดเรื่องที่เขาไม่มีแม่ .. พอพ่อแต่งงานใหม่ ... เขาก็ยอมย้ายออกมาใช้ชีวิตอยู่คนเดียว .. เพื่อหลีกหนีจากคำดูถูกดูแคลน .. เขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มกับเพื่อนๆชะตากรรมเดียวกันอีกหลายคน ..

     

    ไม่ได้ตั้งใจมาเป็นอันธพาล ...

     

    แต่พวกเขาสู้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี. เพราะ บ่อยครั้ง ... ที่เรื่องราวลุกลามใหญ่โตก็ผลอันเนื่องจากถูกคู่อริดูถูกว่าพวกเขาเป็นแก๊งค์ไร้ผู้ปกครอง(พ่อแม่)คุ้มหัว ... เว้นก็แต่แก๊งค์ของท็อปเท่านั้นที่ยุนโฮคิดเห็นแตกต่างกันออกไป ..

     

    ตอนแรก ยุนโฮอยากล้มท็อปให้ได้เพื่อแสดงให้แก๊งค์อื่นๆนอกมหาวิทยาลัยได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพวกเขาที่ไม่มีแม้แต่พ่อแม่มาคอยเอาอกเอาใจดั่งเช่นอันธพาลรวยๆที่ใช้อำนาจเงินและตำแหน่งสูงๆทางราชการของบุพการีมาข่มขู่ ...

     

    เรียกได้ว่า ยุนโฮใช้ฝีมือล้วนๆ ...

     

    แต่หลังจากปะทะกันหลายต่อหลายครั้ง ยุนโฮก็ตระหนักได้ว่า ท็อปมีอะไรที่คล้ายกับเขาหลายอย่าง ...

     

    ไม่ได้เลว แต่ก็ไม่ได้ดีด้วยเช่นเดียวกัน ...

     

    ขั้วอำนาจในมหาลัยจึงมีสองขั้วมาจนถึงทุกวันนี้นั่นเอง ...

     

    ท็อปเองก็คงสัมผัสถึงความเหมือนของยุนโฮได้เช่นกัน ... จึงไม่ค่อยเอาจริงมากนักเวลาต้องวิวาทกัน

     

     

     

    พี่ยุน ... คิดอะไรอยู่หรอฮะ? เสียงหวานทำให้ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์ความคิด ... ทว่า แจจุงกลับไม่ได้รับคำตอบใดใด นอกจากรอยยิ้มบนริมฝีปากหยัก และ อ้อมแขนแข็งแกร่งที่ถูกส่งมารวบเอวบางเข้าสู่อ้อมกอดอุ่น ... นัยน์ตาสีหวานเบิกโพล่งด้วยความตกใจ ... แต่แจจุงก็ยอมอยู่นิ่งๆ ไม่กระดุกดิกตัวไปไหน ... กลิ่นกายแบบผู้ชายผสมโคโลญอ่อนๆค่อยๆลอยมาแตะจมูกโด่งเล็กพาให้ใจดวงน้อยค่อยๆสงบลงอย่างช้าๆ ...

     

    ชายหนุ่มตัวโตเองก็เช่นเดียวกัน ... เขารู้สึกสงบในทุกๆครั้งที่มีแจจุงอยู่ใกล้ๆ ... แต่ก็เพียงไม่นานเท่านั้น เพราะ กลิ่นหอมอ่อนๆคล้ายเด็กทารกแรกเกิดกำลังทำให้เขารู้สึกปั่นป่วน...

     

    ยิ่งได้ใกล้ชิด ... ก็ยิ่งถลำลึก ...

     

    ยิ่งได้อยู่ใกล้ ... ก็ยิ่งสูญเสียการควบคุมได้ง่ายๆ ...

     

    ยิ่งได้สัมผัส ... ก็ยิ่งอยากลิ้มลองความหอมหวานที่ซ่อนอยู่ภายใน ..

     

     

    แจจุงสะท้านเฮือกเมื่อรับรู้ถึงความร้อนชื้นบริเวณต้นคอของตัวเอง ...   

     

    อื้ออ.. .พี่ยุน ... ทำอะไร ... พยายามดันแผ่นอกแข็งแรงออกห่างตัว ... ถึงร่างบางจะเด็กยังไงแต่ก็พอรู้มาบ้างว่าพี่ยุนโฮต้องการอะไรจากเขา .. ทว่า ... ผลสุดท้าย แรงต่อต้านอันน้อยนิดบวกกับขนาดที่เสียเปรียบอย่างมากทำให้ แจจุงต้องยอมอยู่นิ่งๆ ไม่ดิ้นไปมากกว่านี้พร้อมกับเริดหน้าขึ้นเล็กน้อยเมื่อใบหน้าหล่อยังคงจูบซับไปมาจนทั่ว ...

     

    แต่น่าแปลกที่ชายหนุ่มกลับไม่ได้สร้างรอยรักสีแดงจ้ำไว้เป็นหลักฐานเลยแม้แต่รอยเดียว...

     

    เขารู้ ... ว่า ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่นั่นเอง ...

     

    อื้ออ .. เจ็บ..  ริมฝีปากหยักกดจูบลงบนรอยปานสีน้ำตาลอ่อนบนต้นคอขาวสวย ... แจจุงเบ้หน้าเล็กน้อยเมื่อรู้สึกเจ็บเนื่องจากแรงขบเม้ม ....

     

    ไม่ได้อยากทำอะไรที่มันมากไปกว่านั้น ... ชอง ยุนโฮ แค่อยากตีตราจองคนๆนี้เอาไว้มันก็เท่านั้นเองจริงๆ ...

     

    แจจุง .....

     

    ....................

     

    คบกับพี่ ... เป็นของพี่คนเดียวได้มั้ย?

     

    เร็วไปหรือเปล่า ที่จะพูดแบบนี้ ?

     

    เร็วไปหรือเปล่าที่หัวใจของชอง ยุนโฮ ... กลายเป็น ของคิม แจจุง ตั้งแต่แรกเห็น ...

     

    ไม่เพียงเท่านั้น ... ยิ่งได้พบ ยิ่งได้ใกล้ชิด  ... ก็ยิ่งรักมากขึ้นจนแทบถอนตัวไม่ขึ้น ...

     

     

    ถึงแม้จะถูกแจจุงปฏิเสธ เขาก็จะไม่มีวันเสียใจเลย ...

     

    ขอเพียงแค่ได้บอกความรู้สึกในใจที่มีออกไป ... แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้ว ...

     

    หลังจากนั้น ... ค่อยหาวิธีทำให้เด็กคนนี้รักเขาให้ได้ ...

     

    ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ... เขาก็จะรอ ...

     

     

     

    ตกใจกับคำพูดที่เพิ่งออกจากปากของคู่อริพี่ชาย ... ความเงียบทำให้คนทั้งคู่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงนกร้อง ... เสียงน้ำ และเสียงใบไม้เสียดสีกันเนื่องจากลมเย็นที่พัดผ่านผืนป่าแห่งนี้..

     

    พี่ยุน....

     

    ...........

     

    พี่ยุนไม่ได้หลอกแจจุงใช่มั้ย? ... พี่ยุนแน่ใจแล้วนะว่า อยากจะคบกับแจจุง ??

     

    จะหาว่า เขากลัวก็ได้ ...

     

    กลัวจะถูกทิ้ง ...

     

    กลัวจะถูกหลอก ..

     

    แจจุงรู้ดีว่า ตัวเองยังเด็กและอ่อนต่อโลกมากนัก ...

     

    ไม่ใช่ว่า เขาไม่เชื่อใจพี่ยุนโฮ ... แต่แจจุงเพียงแค่ไม่แน่ใจว่า สิ่งที่พวกเขาสองคนกำลังทำอยู่ มันถูกต้องหรือไม่ ...

     

    ถ้าพี่ท็อปรู้ว่า น้องชายตัวเองแอบหนีมาอยู่กับคู่อริอันดับหนึ่งบ่อยๆ ถึงตอนนั้น แจจุงก็ไม่อาจเดาได้เลยว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรตามมาบ้าง ..

     

    พี่รู้ว่าแจจุงยังไม่ค่อยแน่ใจในตัวพี่ ... ถ้าอยากได้ความมั่นใจละก็ ... พี่จะไปหาพี่ท็อปพรุ่งนี้ ... โอเคมั้ย? แจจุงพยายามจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายราวกับจะอ่านใจ ... เมื่อเห็นแต่ความมุ่งมั่นจริงใจไร้แววขี้เล่น ... เสียงถอนหายใจเบาๆจากคนตัวเล็กก็ดังตามมาแทบจะทันที ....

     

    เรื่องนั้น ... อย่าเพิ่งเลยนะ ... แจจุงรู้แล้วว่า พี่ยุนเอาจริง

     

    ..............

     

    สัญญาก่อนสิ .. ว่าจะไม่นอกใจ...  ยื่นนิ้วก้อยไปให้เกี่ยวซะอย่างนั้น ... ทั้งๆที่เมื่อกี้ยังทำหน้าไม่มั่นใจอยู่เลยแท้ๆ ... น่ารักจริงๆ ...

     

    ยุนโฮยื่นนิ้วก้อยข้างหนึ่งไปเกี่ยวกับนิ้วเล็กของอีกฝ่ายสร้างคำสัญญาระหว่างคนสองคนด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ...

     

    พี่มีของมาให้เราด้วยนะ ... หยิบกล่องใบเล็กๆออกมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ต ... แล้วค่อยๆบรรจงแกะมันออกอย่างเบามือที่สุด ... นัยน์ตาสีสวยเบิกกว้างเมื่อเห็นสร้อยสีเงินเส้นเล็กที่มีจี้หมีน้อยประดับอยู่....

     

    นะ .. นี่ .. พี่ยุน ... มัน .. ไม่แพงหรอ?

     

    อย่าปฏิเสธเลยนะ .. ไม่งั้นพี่จะเสียใจให้ดู ทำหน้าบูดเป็นตูดหมีจนแจจุงต้องยอมนั่งอยู่นิ่งๆปล่อยให้พ่อหมีสวมสร้อยเส้นนั้นให้ ...

     

    ทั้งคู่ส่งสายตาให้แก่กันและกันอยู่นาน จนกระทั่ง ... ยุนโฮเป็นฝ่ายที่ทนไม่ไหวเสียเอง ...  

     

     

    ใบหน้าคมค่อยๆประกบลงบนริมฝีปากแดงอิ่มช้าๆ ... ความชื้นเนื่องจากลิ้นเปียกที่ถูกส่งออกมาขออนุญาตเรียกให้คนตัวเล็กต้องเผยอปากเล็กน้อยเพื่อให้หมีตัวโตรุกร้ำเข้าไปลิ้มชิมรสน้ำหวานภายในได้ดั่งใจ ...

     

     แจจุงส่งมือเรียวบางไปโอบรอบลำคอสีน้ำผึ้งเพื่อการทรงตัวทันทีเมื่อถูกอีกฝ่ายรุกหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ...

     

    อึก .. อื้ออ.. ลิ้นร้อนตวัดเกี่ยวลิ้นเล็กไปมาด้วยความชำนาญจนแจจุงแทบหายใจหายคอไม่ทัน ... น้ำหวานสีใสไหลย้อยลงมาตามแนวสันคางสวยโดยไม่มีใครคิดจะเช็ดมัน ...

     

    อื้ออ ... ส่งเสียงครางเครือเบาๆอย่างรู้สึกดีราวกับร่างทั้งร่างกำลังจะละลายคาจูบแสนหวานแฝงความร้อนแรงนี้ ...  

     

    ใบหน้าหวานที่เริ่มขึ้นสีและอาการหอบหนักที่แจจุงแสดงออกมาทำให้ยุนโฮต้องละการกระทำทุกอย่างลง เพราะ กลัวว่า คนตรงหน้าจะขาดอากาศหายใจตายไปซะก่อน ...

     

    ใจร้าย ... นั่นจูบแรกของแจจุงนะ...

     

    ครั้งที่สองแล้วต่างหาก...แต่ยังหวานเหมือนเดิมเลย  

     

    หง่า ... พี่ยุน ... พูดอะไรแบบนั้น ... แจจุง ... เขินเป็นนะ... >///<”

     

    อ้าว .. ที่ไม่ค้านเนี่ย เพราะ จำครั้งแรกได้ใช่มั้ย?

     

    .......................

     

    จำได้สิ ... จำได้แม่นเลย ...

     

    พี่ยุนบ้า ... งอนแล้ว...!!!!!!!!!!!!!!”

     

    แกล้งให้เขินจนม้วนงอขนาดนี้ ... เขาไม่โกรธก็บ้าแล้วละนะ  ...  

     

     

     

    XXXXXXXXXXXX

     

     

     

    โทรศัพท์ตามจียงไปเป็นชั่วโมงแล้ว แต่ตอนนี้แม้แต่เงาของน้องชายสายเลือดเดียวกัน ดองวุคก็ยังไม่เห็นวี่แวว... นั่งรออย่างเดียวไม่ใช่นิสัยของเจ้าพ่อ ... ดองวุคจึงสั่งให้ลูกน้องเตรียมรถให้เขา ...

     

    ขับไปดักรอหน้าหมู่บ้านเลยท่าจะดี ...

     

    บึ่งรถสปอร์ตคันงามเปิดประทุนมุ่งตรงไปยังทางเข้าหน้าหมู่บ้าน ... อาจเป็นเพราะความดีของท็อปที่คุ้มหัวมาโดยตลอด .... ท็อปจึงมาส่งจียงได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น เพราะ ติดงานพิเศษ

     

    บังเอิญครั้งแรก ... จียงลงรถเมล์ได้ไม่ทันไร ก็พบกับท็อปที่กำลังเดินไปทำงาน ...

     

    บังเอิญครั้งที่สอง . ก็เรื่องที่ท็อปติดงานพิเศษจนมาส่งเขาได้แค่ครึ่งทางเท่านั้นนั่นแหละ  ...

     

    บังเอิญถึงสองครั้งในวันเดียว ... เป็นอะไรที่โชคดียิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเสียอีก  ..

     

    จียง ... ทำไมกลับช้าจัง ... พี่รอตั้งนานแน่ะ ... คนตัวเล็กสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงพี่ชายดังมาจากทางด้านหลัง ... เขาค่อยๆตวัดสายตาหันไปมองชายหนุ่มร่างสูงที่ลงทุนไขกระจกรถลงเพื่อตัดพ้อน้องชายโดยไม่คิดจะชวนขึ้นรถ ...

     

    แต่จียงไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นมากนัก ...เขาได้แต่โล่งใจที่วันนี้ท็อปติดงานพิเศษจนมาส่งเขาไม่ได้ ... ไม่อย่างนั้น .. พี่คงได้ตีกับท็อปอีกรอบเป็นแน่ ...

     

    ยืนเอ๋ออยู่ทำไม ... ขึ้นรถเถอะ ... กลับบ้านไปกินข้าวกัน... จียงพยักหน้าหงึกๆแล้วเดินอ้อมไปขึ้นรถอีกด้านหนึ่งอย่างว่าง่าย ...

     

    ถึงพี่ของเขาจะโหดร้ายระดับเจ้าพ่อแค่ไหน ... แต่พี่ก็ดูแลและทะนุถนอมเขาดีมากๆ ..  

     

     

     

    พี่ดองวุคนะ ... เป็นคนดี เพียงแต่ ... ต้องแบกรับหน้าที่และอำนาจล้นฟ้า(?)ต่อจากคุณพ่อมาตั้งแต่เด็กๆมากไปหน่อย มันก็เท่านั้นเอง ...

     

     

     

    XXXXXXXXXXXXXXXX

     

     

    ท้องฟ้าสีส้มอ่อนๆตัดกับปุยเมฆเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ยุนโฮต้องพาแจจุงกลับบ้านก่อนที่พี่ชายสุดหวงน้องจะกลับจากที่ทำงาน ... ช่วงปิดเทอมแบบนี้ .. ยุนโฮไม่จำเป็นต้องไปหาแจจุงตอนกลางคืนอีกต่อไปแล้ว เพราะ ท็อปเปลี่ยนเวลาทำงานมาเป็นช่วงเช้าถึงพลบค่ำแทน ... ประมาณสองสามทุ่มจึงจะกลับบ้านมานอนกับแจจุง ...

     

    ชีวิตแบบแอบๆซ่อนๆจึงถูกเปลี่ยนมาเป็นช่วงเช้าจนถึงเย็นแทนซึ่งยุนโฮเองก็มีเวลามากพอจะพาแจจุงไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา ..

     

    พี่ยุนฮะ ... เสียงหวานเอ่ยเบาๆ ทั้งๆที่นัยน์ตาสีสวยนั้นรื้นไปด้วยหยาดน้ำตา ... ยุนโฮตกใจมาก ...เขารีบซักถามแจจุงทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ...  

     

    ในรถเมล์ก็มีแต่เขากับแจจุงนี่นา .. ไม่น่าจะมีใครมาแกล้งแจจุงในขณะที่เขาเผลอคิดอะไรอยู่คนเดียวหรอก ...

     

    ฮืออ ... พี่ยุน ... แจจุงโดนตัวอะไรกัดไม่รู้อ่า ... ดูสิ... ชี้ไปที่ปานสีน้ำตาลอ่อนบนต้นคอที่ตอนนี้มันกลายเป็นสีแดงช้ำจนน่ากลัว ... แจจุงคงเห็นมันจากกระจกรถที่สะท้อนภาพของพวกเขาสองคนเป็นแน่ ..

     

    ยุนโฮยิ้มแห้งๆ ก่อนจะขุดหาข้อแก้ตัวมาหลอกเด็กแทบไม่ทัน ...

     

    หมีกัดชัดๆเหอะ .. รอยนั้นนะ ... = =”  สงสัยแจจุงคงลืมไปแล้วละมั้ง เรื่องที่เกิดขึ้นที่น้ำตกวันนี้ ..

     

    อ่า .. ไม่เป็นไร  คงแค่แมงในป่ามันกัดเอานะ ...  เดี๋ยวพี่หาพลาสเตอร์มาแปะให้ทีหลัง ... สองสามวันเดียวก็หาย ..

     

    เอ๋? ... จริงหรอ?

     

    อื้ม ... พี่เคยหลอกแจจุงด้วยหรอ?

     

    อื้ม .. เชื่อก็ได้ ^^”

     

     

    ตลกและ ... อิยุน  น้องแจก็เชื่อง .. เอ๊ย... เชื่อมันอีก .. =*=

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TO BE CON !!!!


    Talk~ อ่า .. บอร์ดฟิก กระทู้ฟิกหายเกลี้ยง นิกเลยต้องขุดเวิร์ดมาก็อป 


    ไม่อยากจะให้ทุกคนเชื่อในสิ่งที่เขียนมากนัก เพราะ มันอาจมีอะไรซ่อนอยู่อีกก็เป็นได้เนอะ


    ขอโทษจริงๆนะฮับที่มาต่อให้ช้าเนื่องจากนิกประสบปัญหาทางจิตใจอย่างร้ายแรง

    ถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับมาเกือบอาทิตย์เลยทีเดียว ... 


    แต่ตอนนี้หายแล้ว ฮ่าๆๆๆ ... 

    แล้วจะมาลงพาร์ทต่อไปนะ ... อาจจะอีกสักสองสามวัน .. 

    ขอบคุณคนเม้นมากนะฮับ

    นิกแอบเห็นคนที่ตามฟิกนี้มาโดยตลอดด้วย .. ขอบคุณมากจริงๆที่ยังไม่ลืมกัน ... 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×