คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Part 2 :: เจ็บ
Story by :: Tachi_Naniki
Pairing :: YUNHO x JAEJOONG (Feat. YS & มากมายก่ายกอง)
Category ::Romantic comady,action,drama
Rate :: PG
คำเตือน :: เหมือนเดิมจ้ะ อย่าอ่านข้าม เพราะ พาร์ทนี้เฉลยแล้วว่า ทำไมท็อปถึงยอมให้ยุนโฮกับแจจุงพบกันตอนกลางคืนบ่อยๆ
/>
บ่าย 4 โมง หลังเลิกเรียนเจอกันที่ตรอก XXX
T.O.P.
วางแผ่นกระดาษสีขาวที่มีตัวอักษรสีแดงลงบนโต๊ะเขียนหนังสือ ... นัยน์ตาสีชาฉายแววกังวลจนคิ้วเข้มขมวดมุ่นเข้าหากันเป็นปมเมื่อยังไม่เห็นวี่แววของสหายรักเลยแม้แต่เงา ...
“คยู !! … เมิงเห็นไอยุนมั่งมั้ย?” เอ่ยถามเพื่อนหน้านิ่งประจำกลุ่มด้วยสีหน้าเป็นกังวล ... คยูฮยอนส่ายหน้าน้อยๆ เพราะ เขาเองก็ไม่เห็นวี่แววของชอง ยุนโฮเหมือนกัน ... ปกติมันจะมารออยู่หน้าประตูมหาวิทยาลัยก่อนคนอื่นทุกเช้า แต่วันนี้ .... กลับไม่เป็นอย่างนั้น ..
“เมื่อคืนเราเพิ่งตีกับไอพวกแก๊งค์ SS501 มาหมาดๆ .. ร่างกายไอยุนรับไม่ไหวแน่ .. นายดูนี่ ... คยู” ยื่นสารท้าตีให้คยูฮยอนรับไปอ่าน ... ใบหน้าคมที่นิ่งอยู่เสมอ บัดนี้กลับฉายแววแห่งความกังวลเอาไว้อย่างเห็นได้ชัด ...
“กุ .. เมิง แล้วก็ลูกน้อง .. ไหวอยู่แล้ว แต่ยุนโฮโดนไปหนักเหมือนกัน ... กุว่า .. ส่งสารไปเลื่อนดีกว่ามั้ย?”
“ไม่ต้อง !!!!” เสียงทุ้มนุ่มติดจะแหบนิดๆดังขัดจังหวะการสนทนาระหว่างปาร์คยูชอนและโจวคยูฮยอน ...
“ไอยุน ... เห็นๆกันอยู่ว่า เมิงกำลังป่วย ...” ปากบอกว่า ไม่ต้อง แล้วสภาพร่างกายโทรมๆเป็นซากศพอย่างนั้น ... คงแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มตีกันเลยด้วยซ้ำ ...
คงเพราะเมื่อคืนไม่ยอมกลับห้องพัก ... ยืนตากน้ำค้างคุยกับแจจุงตั้งหลายชั่วโมง ทั้งๆที่เพิ่งตีกับแก๊งค์ SS501 จนเหนื่อยล้าไปหมด ... พอตื่นเช้าขึ้นมาก็แทบจะลุกไม่ขึ้น .. ปวดหัวปวดเนื้อปวดตัวราวกับเพิ่งไปยกของหนักๆสักล้านตันแต่เขาก็ยังยอมมาเรียน ..
“เอาน่า ... กุยังไหว ... วันนี้ตอนเย็นบอกให้ลูกน้องทุกคนไปรวมตัวกันที่เดิม”
“เมิงกลับไปพักที่บ้านเหอะ ... เดี๋ยววันนี้กุกับคยูออกหน้าแทนเมิงเองก็ได้ ...” ยูชอนเอ่ยด้วยความเป็นห่วง .. ช่วงนี้พวกเขาตีกับแก๊งค์อันธพาลหลายแก๊งค์มากจนแทบไม่มีเวลาพักหายใจหายคอ ...
เห็นตีกันบ่อยๆอย่างนี้ไม่ใช่ว่า ชอบหรอกนะ ... แต่ถ้าได้เข้ามาอยู่ในวงการนี้แล้ว ... ก็หลีกหนีเรื่องแบบนี้ไม่พ้นอยู่ดี เพราะ หากไม่สู้ยิบตา ... ความตายอาจจะมารออยู่ตรงหน้าแล้วก็เป็นได้ ...
โดนซ้อมจนตายนะ ... เคยได้ยินกันหรือเปล่า? ..
แน่นอนว่า พวกเราไม่อยากตกอยู่ในสภาพอย่างนั้น ...
“กุจะปล่อยพวกเมิงไปกันสองคนได้ไง ... ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ... ทำตามที่กุสั่งก็พอ”หัว หน้าแก๊งค์เอ่ยเสียงดัง .. สหายทั้งสองจึงได้แต่ทำหน้าเอือมระอากับความดื้อดึงของท่านผู้นำที่ดันมี ความรับผิดชอบในหน้าที่สูงเกินคนปกติธรรมดาโดยทั่วไป
Part 2 :: เจ็บ ...
“เป็นอะไรไป ... สภาพดูไม่ได้เลยนะ ...” เสียงทุ้มต่ำของท็อปเรียกให้ใบหน้าคมชื้นเหงื่อต้องเงยขึ้นสบตากับคู่อริอันดับหนึ่งด้วยแววตาเลื่อนลอยพิกล ... ยุนโฮรู้ตัวเองดีว่า หากไม่ทำให้ศึกครั้งนี้จบลงโดยเร็ว ... เขาต้องเจ็บหนัก ไม่ก็ล้มลงหมดสติไปก่อนแน่ๆ ...
เคร้ง !!!!!!!!!
เสียงท่อเหล็กกระทบกันของหัวหน้าแก๊งค์ทั้งสองคนเปรียบเสมือนเสียงนกหวีดเริ่มเกม .. จะผิดกันก็ตรงที่สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ได้เป็นเกมที่มีไว้ให้เด็กเล่นแต่อย่างใด ...
ทั้งสองฝ่ายเอาจริง ... เจ็บคือ เจ็บ ... ไม่สู้ยิบตา ก็นอนรอความอัปยศได้เลย ...
“น้องกุ ... น่ารักดีใช่มั้ย?” อยู่ๆท็อปก็เอ่ยถึงเด็กชายตัวเล็กผิวขาวคนนั้นขึ้นมา ... ที่ส่งสารท้ารบมาหาเขา .... มันเพราะอย่างนี้เองนะเหรอ? .. ทว่า ก็ยังไม่มีอะไรยืนยันได้ว่า ท็อปรู้เรื่องที่เขาแอบไปหาแอบไปคุยกับแจจุงอยู่หลายครั้งตลอดวันสองวันที่ผ่านมา ...
แต่ก็เป็นไปได้สูงทีเดียว ... ยุนโฮจึงเลือกที่จะนิ่งมากกว่าตีตนไปก่อนไข้ ...
ถ้าฝ่ายนั้นไม่เอ่ยว่ารู้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวล ...
“.................”
“เงียบทำไมละ ... ตอบกุมาสิ” ฟาดด้วยท่อนเหล็ก แต่ยุนโฮก็ยังครองสติที่เหลือตั้งรับมันเอาไว้ได้ ...
“น่ารักกว่าเมิงก็แล้วกันน่า” เลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามโดยตรง ก่อนที่ท่อนเหล็กในมือจะถูกดันออกไปด้วยพละกำลังของคนเป็นไข้ซึ่งท็อปก็พอจะรู้ว่า ยุนโฮไม่ได้อยู่ในสภาพครบสมบูรณ์ เพราะ ด้วยระยะเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เขาก็สามารถดันยุนโฮที่ขึ้นชื่อเรื่องพละกำลังอย่างมากให้ไปติดชิดขอบกำแพงได้ด้วยท่อนเหล็กซึ่งเสียดครูดกันไปมา ...
ปึก !!!!
ออกแรงอีกนิด ... ยุนโฮก็ล้มลงไปนั่งกองอยู่บนพื้นเสียแล้ว ...
แผ่นหลังหนาสัมผัสได้ถึงไอเย็นจากกำแพงเปียกๆชื้นๆที่เขาอาศัยมันพยุงตัวไม่ให้ลงไปนอนหมอบราบคาบแก้ว .. เมื่อคยูและยูชอนเห็นว่า สหายรักของพวกเขากำลังจะเสียท่าจึงออกแรงวิ่งในทันทีโดยไม่ต้องใช้สมองประมวลผลอะไรแต่อย่างใด ...
“ไม่ทันแล้ว !!!!!!!! ...”
ฉึก !!!!
พวก ที่กำลังเงื้อทั้งเหล็กทั้งไม้ตีกันอย่างเมามันชะงักค้างในทันใดเมื่อท็อป เงื้อมือที่ถือท่อนเหล็กอยู่ขึ้นสูงแล้วจัดการปักมันลงไปบนพื้นดินร่วนข้างๆ ตัวคู่อริ ... นัยน์ตาสีเข้มติดจะรื้นน้ำนิดๆปรือปรอยขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยความไม่ เข้าใจ ... ถ้าใช้ท่อนเหล็กนั่นแทงเข้ามาในร่างกายของเขา ... ไม่ถึงกับเอาให้ตายก็ได้ เพราะ เดี๋ยวจะซวยกันทั้งแก๊งค์... แต่แค่ทำให้เขาหมดทางสู้ ... ท็อปก็สามารถตั้งตนเป็นแก๊งค์อันธพาลทีใหญ่ที่สุดในมหาวิทยาลัยได้แล้วโดย ไม่จำเป็นต้องมาคานอำนาจกับแก๊งค์ของเขาอีกต่อไป ...
แล้วทำไม???
“ถือว่าเราหายกันแล้วนะ ...” ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงัน ... ยุนโฮยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่เมื่ออยู่ๆ ท็อปก็เดินจากไปพร้อมกับพรรคพวกอีกนับสิบคน ...
นี่มันหมายความว่ายังไงกัน ??
งงเป็นไก่ตาแตก ... ยูชอนเป็นคนแรกที่เข้ามาช่วยหิ้วปีกของยุนโฮ ตามมาด้วยคยูฮยอนที่หิ้วปีกอีกข้างเพื่อช่วยให้สหายรักยืนขึ้นได้ด้วยกำลังขาอันน้อยนิด ...
เมื่อสามปีก่อน ...
”ฮึกก ... พี่ ... พี่ซึงฮยอน ... ช่วยแจจุงด้วย ...”
“ไอดองวุค ... ปล่อยน้องกุเดี๋ยวนี้ !!!” ตะโกนด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ... ตอนนี้แขนขวาข้างที่ใช้จับอาวุธของเขากำลังนองไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน ... แน่นอนว่ามันคงหักไปแล้ว เพราะ ความปวดแปล๊บที่แล่นลิ้วๆอยู่เกือบจะตลอดเวลา ...
เพิ่งจะมาเป็นหัวหน้าอันธพาลได้ไม่ถึงเดือน ... ก็เจอเข้ากับเจ้าพ่อเข้าให้เสียแล้ว ... จึงไม่แปลกอะไรเลยที่เขาจะสู้มันไม่ได้ ... และถึงจะมีพรรคพวกซึ่งร่วมสู้อยู่ในสนามเดียวกัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก ...
เพราะ ... น้องชายของหัวหน้าโดนมันจับไปเป็นตัวประกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ... ไม่มีใครกล้าทำอะไรวู่วามหรอก ... หากก้าวขาไปข้างหน้ามากกว่านี้ .. คมมีดบนลำคอขาวเนียนคงได้อาบไปด้วยเลือดอย่างแน่นอน ...
ผัวะ !!!!!!!!!
“เฮ้ยยย ... ใครวะ ... บังอาจจจ !!!!” ร้องเห่าเป็นหมาถูกแว้งกัดเมื่ออยู่ๆก็มีเด็กหนุ่มรูปร่างแข็งแรงกระโดดถีบซะเจ้าพ่อหงายเก๋ง ... ตามมาด้วยพรรคพวกและมิตรสหายที่รุมกันกระทืบจนไม่เหลือซากและพาเด็กน่ารักออกมาจากภัยอันตรายได้อย่างปลอดภัย ... ส่วนลูกน้องของเจ้าพ่อนะเหรอ ?
โดนพรรคพวกของท็อปรุมสะกำไปแล้วเมื่อโอกาสมาเกยถึงตรงหน้า ...
“ฮึกก ... พี่... “ แต่ท็อปก็ไม่มีโอกาสได้ขอบคุณเด็กหนุ่มคนนั้นแต่อย่างใด เพราะ เขามัวแต่ปลอบน้องชายของตัวเองให้หายตกใจซึ่งฝ่ายที่เข้ามาช่วยเหลือก็รู้ดี .. ท็อปจึงได้แต่โค้งตัวสองสามครั้งเพื่อเป็นการขอบคุณ ...
และเหตุผลที่ดองวุคจับตัวแจจุงไป .. ท็อปไม่เคยเปิดเผยให้ลูกน้องหรือสหายสนิทได้รู้เลย ...
จนถึงปัจจุบันนี้ ... (คนอ่าน – มีปมให้กุคิดอีกและ)
“ปล่อยไว้แบบนี้จะดีหรอครับ?” แทยัง .. สหายมือขวาเอ่ย ...
“ไม่เป็นไร ..ที่เขาจำฉันกับแจจุงไม่ได้ ก็คงไม่แปลกเท่าไหร่ ... เรื่องมันผ่านมาตั้งสามปีแล้วนี่นะ” เมื่อเห็นว่า สหายรักของตัวเองพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้อยู่แล้ว .. แทยังจึงไม่ซักไซ้ถามอะไรต่อ เพราะ เขาเคารพในการตัดสินใจของท็อปมากกว่าใครๆ ...
ตอนที่ท็อปและพรรคพวกเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยได้ใหม่ๆ ... พวกเขาไม่เคยคิดเลยจริงๆว่า ตัวเองจะมีฝีมือถึงขนาดต่อกรกับ ชอง ยุนโฮได้ ... สารท้ารบฉบับแรกที่ได้รับนั้นไม่ได้ทำให้ท็อปหวาดกลัวหรือตกใจแต่อย่างใด เพราะ เขาไม่คิดว่า ... คนชื่อ ชอง ยุนโฮ จะเป็นคนๆเดียวกับที่ช่วยน้องชายและตัวเขาเอาไว้จากการบุกรุกของอันธพาลระดับเจ้าพ่อ ... พอได้เห็นใบหน้าหล่อคมเข้มเท่านั้นแหละ ... ท็อปถึงกับทำอะไรไม่ถูก ซ้ำร้าย ... ยุนโฮยังจำพวกเขาไม่ได้อีกด้วย ...
เลยได้แต่ปล่อยให้มันเป็นไปอยู่อย่างนั้น ...
ส่วนเรื่องที่ยุนโฮเข้ามายุ่งวุ่นวายกับแจจุงนั้น ... เขาคงต้องให้ลูกน้องบางส่วนตามดูอยู่ห่างๆต่อไป ...
XXXXXXXXXXXXXX
“ไอยุน ... เมิงไหวนะ ...” สหายรักสองหน่อที่หิ้วปีกเพื่อนหนุ่มร่างสูงกันคนละข้างเอ่ยถามขึ้นแทบจะพร้อมๆกัน ... คนถูกถามส่ายหน้าน้อยๆพร้อมกับพยายามปฏิเสธความช่วยเหลือจากเพื่อนซึ่งยูชอนและคยูต่างก็ยอมปล่อยยุนโฮให้ยืนด้วยตัวเองแต่โดยดี ...
“กุไม่คิดเลยว่า ท็อปจะจำพวกเราได้”
“หืม? ... “
“เขาจำเราได้มาตลอด ...” ยุนโฮเอ่ยด้วยน้ำเสียงเครียดๆ .. ความจริงเขาเพิ่งจะนึกออกเมื่อไม่กี่เดือนมานี้เอง ..
เขารู้ว่า ... เด็กน่ารักที่เขาได้ช่วยไว้เมื่อสามปีก่อนเป็นน้องชายของท็อปมาโดยตลอด แต่ไม่เคยคิดเลยว่า พอได้เห็นหน้าชัดๆเมื่อสองสามวันก่อนจะน่ารักน่าทนุถนอมขนาดนี้ ... คงเพราะ ความมืดในวันนั้นทำให้เขาพลาดรายละเอียดไปหลายอย่างเลยทีเดียว .. นี่คือสาเหตุที่ว่า ทำไมเขาถึงได้ยอมทำตัวปัญญาอ่อนเพียงเพื่อให้เด็กคนหนึ่งหยุดร้องไห้และกลับมาหัวเราะอย่างสดใสเหมือนเดิม ... แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะบอกเรื่องเมื่อสามปีก่อนให้แจจุงได้รู้ ... เรื่องแบบนี้ ... แจจุงคงไม่ค่อยอยากนึกถึงนัก ไว้พร้อมเมื่อไหร่ค่อยลองซักถามอีกทีว่า เจ้าตัวจำได้หรือเปล่าก็คงยังไม่สาย ...
ยุนโฮ ... ยอมเป็นหมีขาวที่น่ารักให้แจจุงเพียงคนเดียวเท่านั้น ...
แต่ถ้ามีใครคิดจะทำร้ายแจจุงละก็ ... ต่อให้เขาต้องกลายร่างเป็นหมีควายที่ดุร้ายที่สุดในโลก เขาก็ยอม ...
“นี่หมายความว่า ต่างฝ่ายต่างก็นึกว่าจำกันไม่ได้งั้นสิ” ยูชอนเสริม ..
“ก็คงอย่างนั้น .. ต่อจากนี้ ... จะเป็นยังไง ... กุก็ไม่รู้เหมือนกัน ...” ทุกคนต่างพร้อมใจกันพยักหน้าเห็นด้วย .. คงได้แต่รอดูว่า ฝ่ายของท็อปจะมีความเคลื่อนไหวยังไงบ้าง ..
นอกจากนั้นก็ทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ ...
XXXXXXXXXXX
“เฮ้อ ~ คิดถึงพี่ยุนจัง” กระโดดถลาลงเตียงนอนนุ่มๆ เพราะ ไม่มีสมาธิจะทำการบ้านอีกต่อไป ... ใจมันพลันนึกไปถึงใบหน้าหล่อคมแสนอบอุ่นเกือบตลอดเวลาตั้งแต่แยกกันเมื่อคืนวาน ...
ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร
นี่ แจจุงเป็นอะไรไปแล้วกันแน่นะ ? ...
กระเด้งลุกพรวดขึ้นจากเตียงส่งผลทำให้ทรงผมงามๆของเจ้าตัวฟูยุ่งไม่เป็นทรง แต่กลับดูน่ารักแบบเซอๆจนคนตัวใหญ่ที่แอบดูอากัปกิริยาน่ารักๆนั้นต้องหลุดยิ้มออกมา พอดีกับนัยน์ตากลมสวยที่หันไปเจอะคนที่ตัวเองกำลังคิดถึงอยู่พอดีเข้าอย่างจัง ...
ใบหน้าหวานแดงซ่านทันทีที่รู้ว่า ... ยุนโฮแอบแอบมองเขาทำอะไรบ้าๆอยู่ตั้งนานสองนานโดยไม่คิดจะเรียก ...
ผลก็คือ .. ใบหน้าหวานนั้นบูดสนิทกันเลยทีเดียว ...
“รอพี่อยู่ใช่หรือเปล่า?...”
“อื้อออ ...” แจจุงพูดอะไรไม่ออก .. นอกจากขานรับในลำคอพร้อมกับคลี่ยิ้มหวานๆส่งไปให้ ....
อย่างน้อย ... พี่ยุนโฮก็มาตามสัญญานั่นแหละนะ ...
เรื่องที่มาแอบดูเขาเมื่อครู่ ... แจจุงทำแกล้งลืมๆมันไป เพราะ ไม่อยากให้เสียบรรยากาศ ...
มือนิ่มเลื่อนบานหน้าต่างให้เปิดออกกว้าง... ก่อนจะอ้าแขนรอให้หมีตัวโตๆมากอด ...
“คิดถึง ^///^ … กอดหน่อย” อ้อนกันขนาดนี้มีหรือที่หมีขาวตัวโตของชาวเราจะอดใจไหว .. ยุนโฮกระเถิบตัวเองให้เข้าใกล้ขอบหน้าต่างมากขึ้นแล้วสอดมือลงโอบรอบเอวบอบบางภายใต้ชุดนอนตัวบางสีชมพูลายเห็ดน้อย ... บ่งบอกถึงรสนิยมการซื้อเสื้อผ้าของท็อปได้เป็นอย่างดี ...
เลี้ยงน้องชายให้เป็นหญิงได้ ... ชอง ยุนโฮนับถือด้วยหัวใจ - - “
“ฮึ้บบบ”
“ฮ้า ~ ... พี่ยุน ... > <!!!”กอด คอร่างสูงแน่นเมื่อถูกคนแรงดียกขึ้นจนตัวลอยออกมาข้างนอก ... กายบางรู้สึกได้ถึงความอุ่นร้อนผิดปกติจากร่างกายของยุนโฮเมื่อเขาถูกรวบจน จมหายเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดแข็งแรง ... กลิ่นโคโลญผสมกลิ่นเหงื่อลอยโชยมาแตะจมูกเล็กแต่มันกลับไม่ได้ทำให้แจจุ งรู้สึกรังเกียจแต่อย่างใด ตรงข้าม อ้อมกอดนี้มันกลับอุ่นซ่านไปทั่วทั้งหัวใจ ...
นี่เป็นครั้งแรกที่กายนิ่มแนบชิดกับร่างกายของยุนโฮจนแทบไม่มีอากาศไหลผ่านได้ถึงขนาดนี้ ...
“พี่ยุน ... ตัวร้อนจัง ..” เอ่ยเสียงอู้อี้อยู่กับแผงอกกว้าง ...
“แจจุง ... เงียบก่อน ...”
“????”
“ใครอยู่ตรงนั้นนะ ... ออกมาเดี๋ยวนี้เลย !!!” ตะโกนเสียงกร้าว ... มือหนากระชับกอดคนตัวเล็กเข้าหาตัว ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบคัทเตอร์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาถือไว้เพื่อใช้ป้องกันตัว ...
บรรยากาศทั้งมืดทั้งวังเวง ... น่ากลัวจนแจจุงต้องซุกหน้าลงกับแผงอกกว้างเอาไว้
“ไม่ต้องกลัวนะ ... ถ้าพี่นับถึงสามเมื่อไหร่ กระโดดเข้าบ้านทางหน้าต่างแล้วล็อคทุกอย่างที่เป็นกลอนให้หมด..” กระซิบเสียงแหบ ... คงเพราะ พิษไข้อย่างแน่นอน .. แต่แจจุงไม่มีเวลาคิดอะไรต่อทั้งนั้น .. เขาได้แต่พยักหน้ารัวๆสองสามทีเป็นเชิงบอกว่า เขาพร้อมแล้ว ..
“หนึ่ง ....”
ชายหนุ่มร่างสูงสองคนกระโดดออกมาจากพุ่มไม้มืดๆข้างบ้าน ... ยุนโฮรู้ในทันทีว่า พวกนี้มาจากแก๊งค์ไหน ... เขาไม่มีอาการตื่นกลัวเลยสักนิด ... และยังคงนับเลขให้แจจุงต่อไป ...
“สอง ...”
แจจุงหลับตาปี๋ ... ได้ยินแม้แต่เสียงเดินของบุคคลที่สามและสี่ ...
“สาม !!!!!!!!” กลั้นใจผละออกจากอ้อมกอดปลอดภัยแล้วรีบปีนเข้าบ้านทางหน้าต่างทันที ... กลอนทุกอย่างภายในบ้านถูกล็อค ก่อนที่คนตัวเล็กจะแอบมองการต่อสู้อันดุเดือดของเหล่าอันธพาลแบบเต็มๆลูกกะตา ...
เมื่อเห็นว่า ศัตรูไม่มีแม้แต่อาวุธสักชิ้น .. ยุนโฮจึงเก็บคัทเตอร์ลงกระเป๋ากางเกงตามเดิม ...
“เด็กน่ารักนี่หว่า ... หวงเชียวนะ ...”
“อย่าแม้แต่จะคิด ... กุไม่ให้พวกเมิงแตะคนๆนี้ได้หรอก...” ยุนโฮพูดเสียงแข็ง ... ไอบ้าพวกนี้เห็นผู้หญิง ... ไม่สิ. .เด็กผู้ชายหน้าตาหวานๆหน่อยไม่ได้ .. จะจับทำเมียแม่งทุกคน ...
ฟึ่บ !!!!!
หมัด ถูกเหวี่ยงมาจากทางไหน ... ยุนโฮหลบได้หมด แต่เพราะ สภาพร่างกาย .. พออ่อนแรงลงกลับกลายเป็นว่า เขาโดนบ้าง ชกกลับได้บ้าง สลับกันไป ... เลือดสีสดจากมุมปากที่แตกเริ่มไหลลงมาเปอะเปื้อนเสื้อผ้าเรียกให้นัยน์ตาสี หวานของคนในบ้านเริ่มรื้นน้ำขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ...
ยิ่งเห็นยุนโฮเจ็บ ...
แจจุงยิ่งเจ็บกว่าหลายเท่า ...
ไม่ใช่เจ็บที่กาย ... แต่มันเจ็บที่หัวใจ ...
“ย่าห์หหหหหหหหหห !!!!!!!!” เมื่อตะหนักว่า ตัวเองกำลังจะไม่ไหว ... ยุนโฮใช้กำลังที่มีทั้งหมดซัดหมัดใส่ฮยอนจุงไม่ยั้ง ... ส่วนคนน้อง .. ฮยองจุนที่กำลังพุ่งตรงมาทางนี้หวังช่วยพี่ชายของตน ... ยุนโฮก็ไม่รอช้าจัดการกระโดดถีบขาคู่เล่นเอาคนถูกถีบลงไปนอนกุมท้องอยู่บนพื้นตามพี่ชายของตนเองไปติดๆ ...
“อู้ยยย .. ฝากไว้ก่อนเหอะ ... แก” วิ่งแจ้นหนีไปกันหมด .. ปล่อยให้เด็กหนุ่มร่างสูงทรุดลงกับพื้น ...
“พี่ ... พี่ยุนโฮ ... พี่ยุน ...” ปลดล็อคแล้วกระโดดลงมาจากทางหน้าต่างโดยที่ไม่ยอมใส่รองเท้า ... แต่แจจุงไม่สน .. เขารีบพยุงตัวคนเจ็บเข้าไปในบ้านโดยไม่คำนึงถึงคำสั่งสอนของพี่ชายเลยแม้แต่นิด ...
จริงอยู่ที่พี่ชายของเขาไม่ยอมให้ผู้ชายเข้ามาอยู่ในห้องนอนของแจจุงไม่ว่าใครก็ตาม ... แต่ครั้งนี้มันเป็นเหตุสุดวิสัย ... แจจุงรีบสั่งให้ยุนโฮไปล้างแผลในห้องน้ำทันที ...
“ให้พี่เข้ามาอย่างนี้จะดีหรอ?” ถามทั้งๆที่ถูกมือบางกดไหล่ลงนั่งบนเตียงนุ่มสีขาวสะอาดตา .. แจจุงส่ายหน้าเป็นพัลวันพร้อมกับหยิบเอากล่องปฐมพยาบาลออกมาจากข้าง ใต้โต๊ะซึ่งมีของใช้จำพวกสำลีและอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆอีกจำนวนหยิบมือ ..
เป็นเรื่องปกติที่แจจุงจะมีของอย่างนี้อยู่ในห้อง ... เพราะ ท็อปคงไม่มีเงินไปโรงพยาบาลใหญ่ๆมากนักหรอก .. เดาได้ไม่ยากว่า แจจุงคงฝึกทำแผลให้พี่ชายตัวเองมาตั้งแต่ยังเล็ก ...
มือนิ่มหมุนฝาขวดแล้วใช้คีมอันเล็กคีบเอาสำลีสีขาวราวกับปุยนุ่มจุ่มลงในน้ำยาสีฟ้านั้นอย่างชำนิชำนาญ ...
“เจ็บ ... หน่อยนะฮะ” พูดเสียงอ่อย ... ใบหน้าหวานดูสลดลงจนน่าใจหาย...
“ไม่เป็นไร ... หนักกว่านี้ พี่ก็เคยโดนมาแล้ว .. ไม่ต้องกลัวว่า พี่จะเจ็บนะครับ” มันได้ผล ... ใบหน้าหวานๆของแจจุงเริ่มคลายความกังวลลงไปบ้าง ... พร้อมๆกับมือนิ่มที่ค่อยๆคีบสำลีทาลงบนบาดแผลที่หางคิ้วและข้างริมฝีปากหยัก ... ตามด้วยยาทิงเจอร์และพลาสเตอร์ลายการ์ตูน ... (ทำไมต้องลายการ์ตูน?)
“พี่ยุน ... เจ็บหนักบ่อยๆใช่มั้ยฮะ?”
“หือ? ... อื้ม ... พี่ชินแล้วละ...”
“ถ้าวันไหน ... พี่เจ็บหรือป่วย ... มาหาแจจุงที่บ้าน ... ก็ได้นะ” พูดเสียงแผ่วแทบไม่ได้ยิน แต่ยุนโฮก็พอจะจับใจความเหล่านั้นได้บ้างเป็นบางคำ ... เขาฉีกยิ้มกว้าง ถึงแม้จะยังรู้สึกเจ็บแผลที่มุมปากอยู่ก็ตาม ...
“อย่าดีกว่า .. เดี๋ยวพี่ท็อปจะว่าเอา ... เจอกันตอนกลางคืนก็พอแล้ว ^^”
“กะ ... ก็ได้ ...”
ขอแค่ได้เจอ ... มันก็เพียงพอแล้วสำหรับแจจุง ...
“พี่ยุนนอนลงหน่อยนะ ... เดี๋ยวแจจุงจะเช็ดตัวให้” หากตัวยังร้อนอยู่แบบนี้ เขาคงกลับบ้านในสภาพปลอดภัยไม่ได้แน่ ... ยุนโฮจึงได้แต่ทำตามโดยไม่ปริปากพูดอะไร ... แจจุงหายเข้าไปในห้องน้ำสักพัก ก่อนจะออกมาพร้อมกับกะละมังใบเล็กๆและผ้าขนหนูสีขาว ...
มือเล็กบรรจงปลดกระดุมเสื้อของคนบนเตียงทีละเม็ดๆจนกระทั่งหมดแผงในที่สุดเผยให้เห็นแผ่นอกแข็งแรงเต็มไปด้วยมัดกล้ามสมส่วน ... ความเปียกและเย็นจากผ้าบนใบหน้าคมทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด มือนิ่มยังคงเลื่อนต่ำมาจนถึงแผ่นอกหนา ... หน้าท้องผิวสีแทน ก่อนที่แจจุงจะหันไปถลกกางเกงขึ้นเพื่อใช้ผ้าเช็ดเรียวขายาวให้อุณหภูมิทั้งร่างลดลงไปบ้าง ...
“สะ ... เสร็จแล้ว” เอ่ยเพียงแค่นั้นแล้วรีบวิ่งแจ้นเอาอุปกรณ์เช็ดตัวไปเก็บเพื่อหลบสายตาหล่อคมที่จ้องมองเขาอยู่เกือบจะตลอดเวลาที่ลงมือเช็ดตัวให้. ...
ยุนโฮลุกขึ้นนั่งเพื่อจัดการกับเสื้อหลุดลุ่ยของตัวเองให้เข้าที่เข้าทางก่อนที่แจจุงจะออกมาจากห้องน้ำ ...
รู้ว่า เด็กเขิน ...
เขินมากเสียด้วย ....
“เอ่อ ... พี่ยุนฮะ...”
“อะไรครับ ?...”
“ร้องเพลงกล่อมแจจุงหน่อย..” ร่างบางเอนกายลงนอนบนตักแข็งแรง ... นัยน์ตาสีหวานเริ่มปรือเยิ้มเมื่อถึงเวลาที่เด็ก ม.ต้นจะต้องนอนได้แล้ว .. ปฏิกิริยาอ้อนๆอย่างนี้เรียกให้หนุ่มร่างสูงต้องส่งมือไปลูบเส้นผมสีดำขลับระต้นคออย่างเอ็นดู ก่อนจะเริ่มเปล่งเสียงร้องเพลง HUG ของ TVXQ ออกมา ...
ไม่นานเด็กตัวเล็กบนตักก็หลับสนิท ... เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกให้ยุนโฮรู้ว่า ... ถึงเวลาที่เขาต้องไปแล้ว ...
ยุนโฮค่อยๆเคลื่อนตัวออกโดยที่ส่งมือทั้งสองข้างไปพยุงศีรษะกลมนั้นเอาไว้แล้ววางลงอย่างช้าๆ ... เขาสอดแขนลงใต้ร่างกายบอบบางนั้นแล้วยกขึ้นไปวางไว้ตรงกลางเตียง ... หมีสีขาวตัวเดิมถูกมือหนาหยิบสอดเข้าใต้ผ้าห่มสีขาว
“อื้อออ ... พี่ยุน ... จะไป .. แล้วหรอ?”
“อื้ม ... ขอโทษนะ พี่ทำให้เราตื่นจนได้?”
“กอดก่อนไปนะ ... น้าๆๆๆ...” อ้าแขนรอ ทั้งๆที่นัยน์ตาสีหวานยังคงปิดสนิท .... จริงอยู่ที่ชายหนุ่มหมีขาวยอมทำตามความต้องการของเด็กตัวเล็ก แต่ .. ยุนโฮกลับทำอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้นนิดหน่อยเนื่องจากอดใจไม่ไหว (?) ...
แขนแข็งแรงสอดลงใต้ร่างบอบบางอีกครั้งจนรู้สึกได้ถึงความร้อนจากร่างกายของอีกฝ่าย ...
“อื้อออ...” เสียงครางอื้อในลำคอดังขึ้นท่ามกลางความเงียบเมื่อริมฝีปากหนาประกบลงบนกลีบ ปากแดงสีเชอรี่ ... ทว่า ... ชายหนุ่มไม่ได้ลุกล้ำหรือจาบจ้วงเข้าไปชิมรสภายในแต่อย่างใด .. มันเป็นจูบที่หอมหวานแต่ไม่ลึกซึ้งถึงขนาดดึงดูดลมหายใจกันเอง ... นานพอดูกว่าคนด้านบนจะยอมละริมฝีปากออก ..
“ราตรีสวัสดิ์” เลื่อนไปกระซิบข้างใบหูนุ่มนิ่ม ... แจจุงพยักหน้าช้าๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะจมลึกเข้าสู่ห้วงนิทราไปอีกครั้ง ... พรุ่งนี้เช้าแจจุงจะจำเรื่องคืนนี้ได้หรือไม่นั้น เห็นทีคงต้องรอดูกันต่อไป ...
ทางอีกด้านหนึ่งของเมือง ...
“อ่ะ ...นี่ ... ค่าจ้าง... ^^” กระต่ายน้อยยื่นซองสีน้ำตาลที่บรรจุธนบัตรเอาไว้จำนวนหนึ่งให้กับเด็กหนุ่ม ร่างสูงซึ่งขอมาทำงานพาร์ทไทน์ที่ร้านหนังสือของพ่อแม่เขาทุกเย็น ...
“ขอบคุณนะครับ”
“ไม่เป็นไร ... พี่ช่วยน้องได้มากเลยฮะ...” เอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะกระโดดกอดคอพี่ชายตัวสูงแบบไม่มีให้ตั้งตัวเล่นเอาคนถูกกอดถึงกับแข็งทื่อไปเสี้ยววิ ...
“.............”
“พรุ่งนี้เจอกันนะ...” โบกมือลาอย่างน่ารัก ... คยูฮยอนเพียงแต่ส่งยิ้มบางๆไปให้พร้อมกับแบกความสุขกลับไปที่บ้านด้วย .... ทว่า ยังไม่ทันได้เปิดประตูเข้าบ้านเลยด้วยซ้ำ .. เสียงข้อความเข้าในมือถือก็ดังขึ้น
- กลับถึงบ้านหรือยัง ? ^O^/ !!! –
อมยิ้มให้กับข้อความน่ารักๆที่ถูกส่งมาเป็นประจำทุกครั้งตอนกลับบ้าน ...
ลูกเจ้าของร้านใหญ่ๆแบบนี้มีน้อยคนนักที่จะใส่ใจลูกน้องของตัวเอง ... หรือบางที ... ซองมินอาจจะไม่เคยนับว่า โจว คยูฮยอนเป็นลูกน้องอยู่แล้วก็ได้ ...
เพราะ ... เหมือนพี่ชายมากกว่า .. ถ้าจะเรียกให้ถูกละก็นะ ...
- ถึงแล้ว .. ยังไม่นอนอีก พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอครับ –
กดข้อความส่งกลับไปเรียกรอยยิ้มน่ารักจากฟักทองน้อยได้เป็นอย่างดี ..
- พี่ก็เหมือนกันนั่นแหละ >///< -
ซองมินมักใช้อีโมต่อท้ายเสมอ .. มันทำให้คยูจินตนาการใบหน้าหวานๆตอนที่กดส่งข้อความมาให้เขาได้ราวกับเห็นเอง...
- คร้าบ ... ราตรีสวัสดิ์นะ พรุ่งนี้เย็นเจอกัน –
- ฮะ ราตรีสวัสดิ์ ^///^ -
กำลังจะเอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตูบ้าน ... ทว่าเสียงคนคุยกันพะงึมพะงำก็เรียกให้ดวงหน้าคมต้องหันไปมองด้วยความสงสัยว่า ดึกดื่นปานนี้ยังจะมีใครอยู่นอกบ้านอีกเหรอ?
“ท็อป?” อุทานเสียงเบาพร้อมกับสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ ถึงแม้บรรยากาศรอบกายจะมืด แต่คยูก็พอมองออกว่า หนึ่งในนั้นเป็นคู่อริอันดับหนึ่งของพวกเขา ...
“เป็นยังไงบ้าง ... สบายดีมั้ย ... จียง ?”
“อื้ม ... แล้วพี่ซึงฮยอนละฮะ?” เอ่ยถามเสียงเบา แต่คยูก็ยังได้ยิน ...
“ก็ ... โอเคนะ ... แค่ช่วงนี้แอบกังวลเรื่องแจจุงนิดหน่อย ..” ตอบออกไปตามตรงเรียกให้ดวงหน้าน่ารักต้องเงยขึ้นสบตาสีเข้มของอดีตแฟนหนุ่มอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ...
“น้องแจเขาดื้อกับพี่เหรอฮะ?”
“เปล่าหรอก ... แจจุงเขาน่ารักกับพี่มาตลอด ... แต่เพราะ ความน่ารักอันนี้นี่แหละที่ทำให้ ...เริ่ม ... มีผู้ชายเข้ามาจีบเขาแล้ว ...” ท็อปเอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวล .. เพราะ ถึงแม้ชอง ยุนโฮจะเป็นคนดีและเคยช่วยเหลือเขากับแจจุงเอาไว้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า .. ยุนโฮจะทิ้งแจจุงไปไม่ได้ ...
ความรักเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน .. เขากลัวว่า น้องจะต้องเจ็บมากไปกว่านี้ ...
“แล้ว .. ใครเหรอฮะที่มาจีบน้องแจ?” จียงยังคงถามต่อ .. เขาเคยเจอแจจุงที่มีอายุน้อยกว่าเขาประมาณสี่ปีกว่าๆมาแล้วหลายครั้ง แต่นั่นมันก็นานมากจนเผลอๆ แจจุงอาจจะจำเขาไม่ได้แล้วก็เป็นได้ ...
“เขาเป็นคู่อริของพี่นะ .... เราคานอำนาจกันเองในมหาวิทยาลัย... ตีกันแทบทุกเย็น ”
นัยน์ตาของจียงเบิกกว้างเมื่อเรื่องที่ฟังชวนให้หวนนึกไปถึงอดีตอันไม่น่าพิสมัยนักซึ่งท็อปเองก็เช่นเดียวกัน ... ที่เขาไม่คัดค้านหรือพยายามห้ามปรามแจจุงเรื่องที่เข้าไปยุ่งกับยุนโฮ ก็เป็นเพราะ .. เขาไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ...
แน่นอนว่า เขากับจียงเคยเป็นแฟนที่รักกันมากมาก่อน ... แต่เพราะ พี่ชายของจียงเป็นเจ้าพ่อในวงการอันธพาลเกาหลี ... ท็อปจึงไม่ได้รับการยอมรับ
”ถ้าแกไม่ยอมเลิกยุ่งกับจียงละก็ ... น้องชายแกตายแน่ ... ชเว ซึงฮยอน !!!” มีดสีเงินในมือของเจ้าพ่อทำให้นัยน์ตาคมเข้มที่มักจะเรียบนิ่งเสมอต้องเบิกกว้างอย่างเสียไม่ได้
“แจจุงไม่เกี่ยวด้วยนะ .. ถ้าจะทำ ก็มาทำกุสิวะ ” ตะโกนสุดเสียง ... ยิ่งเห็นน้ำตาของน้องชาย ท็อปยิ่งดูลุกลี้ลุกลน
“ก็พูดสิว่า จะเลิกกับจียง .. ถ้านายให้สัญญา .. ฉันจะปล่อยน้องนายไป... เรามันหัวอกพี่ชายด้วยกันทั้งคู่ ก็น่าจะเข้าใจนะว่า ฉันไม่อยากได้น้องเขยเป็นอันธพาลมือใหม่ .. มันไม่คู่ควร .. ” เป็นเรื่องจริงทุกประการ เพราะ พ่อแม่ของเขาเพิ่งเสียชีวิตไปได้ไม่นาน ... แถมยังเริ่มเข้าสู่วงการอันธพาลได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น ..ถือว่า น้องใหม่มากสำหรับเจ้าพ่อผู้โชกโชนเรื่องการต่อยตีอย่าง .. ชเว ดองวุค ..
“ไอดองวุค ... ปล่อยน้องกุเดี๋ยวนี้ !!!” หมดความอดทนจนแม้แต่พูดของดองวุคเขาก็ไม่ได้ยินแล้วในตอนนี้ ... และก่อนที่คมมีดจะฝังลงในลำคอขาวของแจจุง .. ก็ได้แก๊งค์ที่โชกโชนมากกว่าเข้ามาช่วยเหลือได้ทันท่วงที ...
กว่าจียงจะรู้เรื่องว่า เกิดอะไรขึ้น ก็ตอนที่ซึงฮยอนขอเลิกในอีกวันหนึ่ง ...
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีทางกลับมาคบกันได้ ... จียงกำลังรอวันที่ ชเว ซึงฮยอน .. เก่งถึงขนาดโค่นล้มพี่ดองวุคได้อย่างสวยงาม ..
เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ต้องขาดไป .. หลังเลิกงานตอนดึกๆ ท็อปจึงแอบมาหาจียงบ้างเป็นระยะๆ ...
เหมือนมาก ...
ชอง ยุนโฮ กับ ชเวซึงฮยอน ...
เหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อ ...
“หวังว่า พี่ซึงฮยอนคงไม่ทำอย่างพี่ผมนะฮะ...”
“ไม่หรอก ... พี่เข้าใจหัวอกของยุนโฮดี .... ดีมากเสียด้วย”
“..................”
“แต่ถ้า ยุนโฮทำให้แจจุงเสียใจละก็ ... มันไม่ตายดีแน่... ถึงแม้มันจะเคยช่วยพี่กับแจจุงไว้ก็ตาม”
TO BE CON !!!
Naniki Talk ~ หันซ้าย แลขวา .. แปะฟิกดังป๊าบ ..
ก่อนอื่นต้องขออภัยที่ผ่านมาสามวันแล้วก็ยังไม่ได้มาต่อฟิก ..
เพราะ บอร์ดฟิกของดงบังบอร์ดใหญ่มันดันล่ม แล้วปกตินิกจะก็อปจากที่นั่น
มาลงจากที่นี่เลย .. แต่วันนี้นิกต้องเอาจากเวิร์ดมาลง (แอบขี้เกียจมานั่งทำตัวหนา เน้นคำ หรือใส่สีใหม่)
แถมเมื่อวานแอบนอยมากมาย จารย์สลิดเลื่อนสอบไปเป็นเสาร์หน้า
เออนะ ... ขอบคุณมาก เสียเวลาไปวันเต้มๆ ..
ถ้ายังไงก็อ่านฟิกให้สนุกนะจ้ะ ..
นิกคงต้องไปแ้ล้ว .. ยังแอบง่วงอยู่เลย
ปล. THX! 4 Your Comment !!!!
谢谢 !
อุ๊ยๆๆ เกือบลืม มีภาพให้จิ้นสุดฤทธิ์
ความคิดเห็น