ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [FIC] ≧ω≦ ขอโทษครับ ผมเป็นหมี !! Part 2
Title :: [FIC] [FIC] ≧ω≦ ขอโทษครับ ผมเป็นหมี !! Part 2
Story by :: Tachi_Naniki
Pairing :: YUNHO x JAEJOONG (Feat.YS)
Category :: Romantic comedy
Rate :: PG-NC
รังสีอำมหิตแทรกซึมทั่วทุกอณูบรรยากาศรอบๆสมาชิกกลุ่มแฟนคลับคนรักท่านประธานชอง ส่งผลทำให้ผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทั้งหลายต่างถอยกรูดไปสิงอยู่อีกมุมหนึ่งของตึกเรียนเพื่อเฝ้ามองดูสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ...
เด็กหนุ่มตัวเล็กบนแผ่นหลังกว้างรีบหลบหน้าหลบตาแทบจะทันทีที่เห็นกลุ่มสาวๆยืนอยู่ใกล้ๆกับห้องน้ำชายที่ยุนโฮและเขาเพิ่งออกมา .. นี่ถ้าแฟนคลับเห็นหน้าเขาเข้าละก็ มีหวังหาความสงบสุขในโรงเรียนไม่เจอแน่ๆ
"พี่ยุนโฮ ... นั่นใครน่ะ?... ผู้หญิงเหรอ?...เธอเป็นใคร? ทำไมถึงกล้าใส่ชุดนักเรียนชายมายั่วพี่ยุนโฮถึงในห้องน้ำ..."
แจจุง : อ้าว ... ใช้สมองส่วนไหนคิดวะเนี่ย ... ฉันผู้ชายทั้งแท่งเลยนะ ... T_T
โอดคราญในใจแต่ถึงยังไงก็ไม่กล้าโต้แย้งพวกผู้หญิงพวกนั้นอยู่ดีเพราะจำนวนฝ่ายนั้นมีมากกว่าอย่างน่าใจหาย .. แจจุงตัดสินใจใช้แผ่นหลังแข็งแรงเป็นโล่กำบังชั้นดีซึ่งเจ้าของแผ่นหลังเองก็เต็มใจจะเป็นโล่ห์กำบังให้ชั่วคราว
"แจจุง.........."
"???????.." ร่างบางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแต่ยังคงอยู่ในรัศมีที่เด็กผู้หญิงพวกนั้นจะมองไม่เห็น ถึงแม้แจจุงจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าของยุนโฮก็ตาม แต่เขาเชื่อว่า ยุนโฮคงมีอะไรอยากจะพูดแน่ๆ
"เกาะแน่นๆละ......."
เพิ่งเข้าใจคำว่า "หมีพริ้ว" ก็วันนี้นี่แหละ ... เทพบุตรสุดหล่อรีบวิ่งชิ่งออกจากรั้วโรงเรียนด้วยความเร็วของนักกีฬา ... ต่อให้ผู้หญิงหุ่นดีวิ่งตามก็เหอะ ไม่มีทางทันพ่อหนุ่มฝีเท้าไวคนนี้ไปได้แน่นอน ... ทว่าคิ้วเล็กมีอันต้องขมวดเมื่อเจ้าของฝีเท้าค่อยๆลดความเร็วลงจนกระทั่งหยุดอยู่กับที่ในที่สุด ...
"บ้านแจจุงอยู่ไหนเหรอ?..."
"ห๋าา?... เอ่อ ... " ....... นี่จะพาไปส่งถึงบ้านเลยเรอะ????
"ไม่สะดวกจะบอกผมเหรอครับ?..."
นี่ขนาดได้ยินแค่น้ำเสียงเศร้านะเนี่ย .. ถ้าได้เห็นหน้าหมีๆหงอยลงละก็ มีหวังคิม แจจุงละลายตายไปกับลูกอ้อนนานแล้ว ...
แล้วทำไมเขาต้องมาละลายกับลูกอ้อนของผู้ชายด้วยกันด้วย????
"กะ .. ก็เปล่านี่ .. คิดมากไปได้ ... เดินไปทางนี้นี่แหละ เดี๋ยวเลี้ยวตรงไหนฉันจะบอกเอง" แจจุงตอบเสียงอู้อี้เพราะเริ่มเคลิ้มไปกับฤทธิ์ยาที่กินไปเมื่อกี้นี้ ...
แผ่นหลังกว้างๆที่ซบอยู่ก็อุ่นนุ่มน่านอนน้อยเสียเมื่อไหร่ .. แก้มขาวย้วยและบิดเบี้ยวเล็กน้อยเมื่อเจ้าของแก้มเบียดใบหน้าเข้าหาความอุ่นนุ่ม ... ภายในเวลาไม่นานแจจุงก็ค่อยๆจมดิ่งสู่ห้วงนิทรา ...
"ไปทางไหนต่อครับ?..." พอถึงทางแยกที่ต้องเลือกว่าจะเลี้ยวไปทางซ้ายหรือทางขวา ยุนโฮกลับไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากคนป่วยบนแผ่นหลัง ... เด็กหนุ่มตัวสูงถอนหายใจเครียด ก่อนจะตัดสินใจเลี้ยวไปทางขวาซึ่งเป็นทางกลับบ้านตัวเอง ไม่ใช่ทางกลับบ้านของแจจุงแต่อย่างใด ...
...............................
.................
"โดดประชุมหลายรอบเหลือเกิน ท่านประธาน =*=" จุนซูซวยตลอดเวเพราะรู้ชะตากรรมว่าเย็นนี้คงต้องเข้าประชุมในสภาพเบ้รองเหมือนเช่นสองสามวันที่ผ่านมา .. ไม่รู้ยุนโฮนึกยังไงถึงพาแจจุงหนีออกจากโรงเรียน ก็เข้าใจว่ากลัวโดนแฟนคลับตามกระทืบแต่พอส่งแจจุงเสร็จ ยุนโฮก็น่าจะกลับมาเรียนนี่นา ...
ทำไมถึงได้มีแต่เรื่องเข้าใจยากนักก็ไม่รู้ช่วงนี้ ... เอือม ...
หมุนปากกาในมือเล่นไปมาเนื่องจากความเบื่อหน่าย .. อาจารย์สอนเลขอยู่หน้าห้องมาตั้งนานแล้วแต่จุนซูก็หาใช่สนใจนำเอาความรู้ที่อาจารย์พูดมาใส่ไว้ในหัวไม่เพราะถึงยังไงเลขคณิตที่สู้อุตส่าห์ร่ำเรียนมาก็อยู่ในระดับที่แทบเรียกได้ว่าเฉียดสมองไอสไตล์ไปมากกว่าครึ่งแล้ว
นัยน์ตาเล็กรีจ้องมองตรงไปข้างหน้าราวกับกำลังตั้งใจฟังในสิ่งที่อาจารย์ต้องการจะสื่อ แต่ในความเป็นจริงแล้ว สมองน้อยๆกลับมัวแต่คิดนู่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งจุนซูเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ ... คนตัวเล็กตวัดนัยน์ตาไปทางสถานที่ที่เหมือนมีใครสักคนกำลังจ้องมองมาทางนี้ .. ตอนแรกนึกว่าคิดไปเองแต่พอสายตาปะทะเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำชาของท่านรองประธานนักเรียน จุนซูจึงได้รู้ว่า ..... ตัวเองไม่ได้คิดไปเอง ....
แถมจ้องไม่ยอมหลบสายตาเลยด้วย .... ปาร์ค ยูชอน !!!! ต้องการอะไรจากสังคม T_T
"พักกินข้าวเที่ยงได้..." เสียงสวรรค์ของอาจารย์ช่วยฉุดสติจุนซูออกจากห้วงความคิด .. ร่างเล็กผละสายตาจากท่านรองประธานแล้วลุกขึ้นเตรียมตัวไปหาข้าวกลางวันกิน ...
ยูชอนพยายามเดินแทรกกลุ่มเพื่อนนักเรียนเพื่อเข้าให้ถึงตัวจุนซูก่อนคนอื่นๆ แต่กลับกลายเป็นว่าคนพูดน้อยเสียเปรียบคนอื่นอย่างมากมายเพราะมีกลุ่มเพื่อนนักเรียนที่อยู่ใกล้กว่าชวนจุนซูไปกินข้าวด้วยกันเสียแล้ว .. คงไม่แปลกอะไรที่จุนซูจะมีเพื่อนเยอะแยะมากมายคอยชวนไปนู่นชวนไปนี่มิได้ขาด ..
ก็คิม จุนซูเป็นคนของประชาชนมากกว่ารองประธานอย่างเขาเสียอีกนี่นะ ... เพราะความมีมนุษยสัมพันธ์ดีนี่แหละ เพื่อนๆในห้องถึงได้ชอบอยู่ใกล้ๆจุนซูกันทั้งนั้น ...
เกิดมาหล่อ รวยฐานะดีก็เปล่าประโยชน์จริงๆ สำหรับ ปาร์ค ยูชอนแล้ว เขาไม่ต้องการให้ใครมารุมล้อม ขอแค่คนที่เขาแอบสนใจหันหน้ามามองเขาบ้างก็พอ ...
"ยูชอน........" เพื่อนนักเรียนในสภาคนหนึ่งเอ่ยเรียกชื่อของท่านรองที่ยืนหงอยอยู่คนเดียว
"????........"
"มาทางนี้หน่อยๆ .. ของที่นายให้ฉันไปซื้อสำหรับวันงานโรงเรียนมีเท่านี้ใช่มั้ย?.." ในที่สุดยูชอนก็ไม่มีบุญมากพอที่จะตามจุนซูไป .. เขาต้องทำหน้าที่เช็คของสำหรับวันงานโรงเรียนเพื่อที่ว่าจะได้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด ...
.........................
.............
อะไรแฉะๆ ...
สิ่งที่แจจุงสัมผัสได้ในครั้งแรกทั้งๆที่ยังสะลึมสะลืออยู่คือความเปียกชื้นบริเวณใบหน้าและแขนข้างขวา ... ร่างบางค่อยๆเปิดเปลือกตารับภาพห้องนอนที่ยังคงความโบราณอยู่บ้างแต่ก็ไม่ใช่ว่าโบราณมากเลยเสียทีเดียว ... ตัวบ้านประยุกต์แบบนี้มีให้เห็นบ่อยไปในแถบชานเมืองของเมืองหลวง ... ทว่านั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญเลยแม้แต่น้อย ... ประเด็นสำคัญจริงๆมันอยู่ตรงที่หมีปุกปุยหน้าตาน่ารักหลายตัวที่คอยเลียคอยออดอ้อนแจจุงอยู่ในขณะนี้ต่างหาก....
"เฮ้ยยย ...." กระเด้งพรวดลุกขึ้นจากเตียงแทบจะทันทีทันใดพร้อมกับกวาดมองไปทั่วทั้งห้องซึ่งมีหมีสีขาวขนปุยขนาดต่างกันไม่มากนักนั่งๆนอนๆอยู่ในห้องเต็มไปหมด ... บางตัวก็เข้ามาเลียหน้าเลียขาออดอ้อน บางตัวก็ถือวิสาสะขึ้นมานอนอยู่บนตัก ...
"ละ แล้วตัวไหนคือยุนโฮละเนี่ย?.." ถึงจะไม่รู้ว่ายุนโฮกลายเป็นหมีเพราะอะไรแต่ที่แน่ๆแจจุงกลัวจะหาประธานนักเรียนไม่เจอมากกว่า ...
"ผมอยู่นี่ ... ที่นี่เป็นบ้านของผม ตามสบายนะครับ" นัยน์ตากลมใสตวัดมองตามต้นเสียงทุ้มนุ่มแล้วก็ได้พบกับประธานนักเรียนหล่อระดับเทพบุตรในชุดนักเรียนปล่อยชายและไม่สวมเนคไท ... เห็นแต่งตัวเรียบร้อยอยู่ทุกวัน แจจุงเพิ่งจะได้เห็นประธานแต่งตัวไม่เรียบร้อยก็วันนี้นี่แหละ ...แต่เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญสักหน่อย ... เขาอยากรู้ว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วทำไมยุนโฮถึงกลายเป็นหมี แล้วหมีในห้องนี่มันอะไรกัน .. อยากถามอะไรเยอะแยะเลยแต่ไม่รู้จะหยิบยกประเด็นไหนมาถามก่อน โฮก .. .
"ดูเหมือนพวกหมีจะชอบอยู่กับแจจุงมากนะครับ ... พวกมันไม่มาอยู่กับผมเลย พอผมวางแจจุงลงบนที่นอน..."
จะดีใจดีมั้ยที่ คิม แจจุง ดึงดูดหมี ...
"เอ่อ .. คือ .. ฉันมีอะไรจะถามนายเยอะเลย แต่ฉันไม่รู้จะถามอะไรก่อน..."
"ผมก็คิดว่าแจจุงมีอะไรจะถามผมอยู่แล้ว .. พอจะลุกไหวมั้ย?.. ไปคุยกันที่ห้องน้ำชาดีกว่า" ยุนโฮทำท่าจะเข้ามาพยุงตัวแจจุงให้ลุกขึ้นจริงๆ แจจุงจึงต้องห้ามปรามเอาไว้ก่อนเพราะเขาได้นอนไปบ้างแล้ว .. ร่างกายเลยพอปรับสมดุลได้...
"ไม่ต้องหรอก .. ฉันเดินไหว.."
"ครับ .. งั้นเดินตามผมมานะ.." ยุนโฮเดินนำผ่านสวนดอกไม้ในบ้านเพื่อข้ามไปยังบ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นบ้านหลังเล็กๆสำหรับพักผ่อนดื่มน้ำชา... แม่บ้านที่เพิ่งเสร็จจากการปัดกวาดทำความสะอาดถูกเด็กหนุ่มเรียกใช้ให้ไปเอาเสื้อหนาๆและเครื่องดื่มมาต้อนรับแขก ...
ร่างบางสะดุ้งหน่อยๆเมื่อหันไปเห็นลูกหมีหลายตัวเดินตามกันมาเป็นขบวนรถไฟ .. พอจะก้าวขาเดินตามยุนโฮต่อ ขาเรียวเล็กก็ต้องชะงักอยู่กับที่ชั่วคราวเพราะหมีน้อยปุกปุยตัวเล็กนัยน์ตาสีฟ้าตัวหนึ่งไม่รู้ว่าเข้ามาเกาะขาทำท่าออดอ้อนตั้งแต่เมื่อไหร่
แจจุงแพ้สัตว์ออดอ้อนมากถึงมากที่สุด ดังนั้นจึงตัดสินใจอุ้มหมีตัวน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดอุ่นโดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าถูกเจ้าของบ้านจ้องมองด้วยรอยยิ้มเอ็นดู ... แต่พอแจจุงเงยหน้าขึ้น .. ยุนโฮกลับเสนัยน์ตามองไปทางอื่นแล้วเดินนำไปข้างหน้าต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
บ้านหลังเล็กๆตรงหัวมุมสวนดอกไม้ถูกตกแต่งด้วยของใช้สไตล์เกาหลีสมัยเก่า .. ภาพวาดพู่กันรูปดอกไม้และสัตว์ป่าหลายชนิดถูกบุอยู่ตามฝาผนังแลดูแปลกตาสำหรับแจจุงที่มีบ้านสมัยใหม่แบบคนรุ่นใหม่ทั่วไป...
"เชิญนั่งเลยครับ..." ยุนโฮผายมือไปที่เบาะนั่งด้านหนึ่ง ส่วนตัวเองเดินไปนั่งอีกด้านหนึ่ง .. โต๊ะเตี้ยๆไม่เล็กไม่ใหญ่ขนาดกำลังพอดีคือสิ่งที่เด่นที่สุดในห้องนี้ ... แจจุงนั่งลงพลางมองนู่นมองนี่ไปเรื่อยๆแล้วหันไปให้ความสนใจเจ้าหมีขาวหลายสิบตัวอีกครั้งเมื่อพวกมันเริ่มอิจฉาพวกเดียวกันที่แจจุงอุ้มอยู่ในอ้อมแขน....
"อย่าเสียมารยาทสิ .." หันขวับแทบจะทันทีหลังจากยุนโฮพูดจบ ...ตอนแรกนึกว่ายุนโฮกำลังตำหนิแม่บ้านที่ยกน้ำชามาเสิร์ฟให้ แต่ปรากฏว่าเขาคิดผิดเพราะหมีทั้งสิบตัวนั้นเชื่อฟังยุนโฮอย่างน่าประหลาดเลยทีเดียว ..
พวกมันวิ่งไปนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ด้านหลังยุนโฮแทน .. เปิดโอกาสให้ยุนโฮได้คุยกับแจจุงเสียที
"ถามเลยก็ได้นะครับ.."
"เอ่อ .. ก็ ... ทำไม .... " ตั้งใจจะถามตั้งแต่ต้น แต่พออยู่ต่อหน้ายุนโฮเขากลับพูดไม่ออก มัวแต่ติดอ่างอยู่แบบนี้ ยุนโฮก็เบื่อพอดีนะสิ...
"ทำไมผมถึงเป็นแบบนั้นใช่มั้ย?..." เดาคำพูดของแจจุงให้เสร็จสรรพแล้วชี้ไปที่หมีหลายสิบตัวซึ่งนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ด้านหลังเป็นการประกอบคำพูด ร่างบางพยักหน้าหงึกๆไม่กล้าสบตาคนพูด รู้สึกเหมือนกำลังไปละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของคนอื่นยังไงไม่รู้
ยุนโฮลุกขึ้นหยิบของบางอย่างจากตู้ลิ้นชักไม้โบราณพลางเป่าฝุ่นที่เกาะสะสมหนาเป็นชั้นจนลูกหมีหลายตัวจามกันเป็นแถบๆแล้วยื่นส่งให้แจจุงรับไปดู ..
"นี่เป็นหนังสือภาพตำนานตระกูลผม... "
แจจุงรับมาเปิดอย่างงุนงง .. หน้าแรกปรากฏสัญลักษณ์ตัวป้ำรูปหมีตัวโตสองตัวกำลังต่อสู้กัน ... คาดว่าคงเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลชองที่มีมาเนิ่นนานหลายร้อยปี ... มือขาวอวบพลิกเปิดหน้าหนังสือไปอีกหน้าแล้วยกหนังสือขึ้นตั้งบนโต๊ะเพื่อเพ่งมองภาพวาดเข้าใจง่ายที่ถูกวาดด้วยพู่กันจุ่มหมึก ...
บ่อน้ำหมีขาวต้องสาปกลางเทือกเขาหิมาลัยที่ถูกระบุด้วยอักษรภาษาเกาหลีมีผู้ชายคนหนึ่งกำลังฝึกวิชาอยู่ใกล้ๆ ลายเส้นเหมือนจะง่ายๆแต่ภาพร่างที่ออกมากลับดูสวยงามตามสไตล์โบราณ... ร่างบางอมยิ้มน่อยๆเพราะเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ก่อนจะพลิกหนังสือภาพเปิดไปอีกหน้าจึงได้เห็นว่าผู้ชายคนนั้นลื่นตกลงไประหว่างคิดค้นท่าต่อสู้พิศดาร ... พอพลิกเปิดไปอีก ผู้ชายที่ลื่นตลงไปในบ่อน้ำกลับหายไปเหลือแต่หมีน้อยสีขาวตัวเท่าลูกแมวยืนหนาวสั่นอยู่ข้างบ่อน้ำ ...
"จริงเหรอเนี่ย???.." อุทานเสียงหวานพลางเปิดภาพตำนานไปอีกหน้าเพราะเริ่มอยากรู้เรื่องต่างๆให้มากขึ้น ...
คราวนี้เป็นรูปเด็กผู้หญิงน่ารักๆคนหนึ่งกำลังเดินถือตระกร้าเตรียมตัวไปจ่ายตลาด ... ที่อีกด้านหนึ่งของมุมถนนซึ่งเป็นสถานที่อับสายตาปรากฏภาพชายหนุ่มคนเดิมที่ทะเล่อทะล่าลื่นลงบ่อน้ำต้องสาป ... แจจุงเปิดไปอีกหน้าอย่างลุ้นๆแล้วก็ได้พบคำตอบของเรื่องราวทั้งหมด ...
เด็กผู้หญิงคนนั้นลื่นล้มสะดุดก้อนหินพอดีกับชายหนุ่มที่ถูกความเป็นสุภาพบุรุษเข้าสิง เขาเข้าไปรับเด็กผู้หญิงคนนั้นโดยลืมไปว่าสภาพของตัวเองไม่ได้เป็นเหมือนก่อนแล้ว แจจุงสำรวจรายละเอียดในภาพอีกนิดหน่อย ดูภาพให้พอเข้าใจแล้วพลิกหนังสือเปิดไปอีกหน้าหนึ่งซึ่งผู้ชายคนนั้นได้กลายร่างเป็นหมีตัวน้อยน่ารัก แถมยังหล่นลงไปในตระกร้าใส่ผักของเด็กผู้หญิงในภาพอีกด้วย ...
"นั่นน่ะ .. ปู่ของปู่ของปู่ของปู่ผม .. ส่วนผู้หญิงในภาพเป็นภรรยาของท่าน"
"อย่างงี้นี่เอง..." แจจุงยังคงจดจ่ออยู่กับสมุดภาพในมือ ... แม้มันจะเก่ามากจนอยากจาม แต่เพราะความอยากรู้มันมีมากกว่า แจจุงจึงไม่ลดละที่จะเปิดดูหน้าสุดท้าย ...
คราวนี้ไม่มีรูปภาพแฮะ ... แต่เป็นตัวอักษรภาษาเกาหลีหวัดๆที่น่าเวียนหัวสองสามประโยค ..
"มันแปลว่า ... นอกจากการถูกผู้หญิงกอดแล้ว อาการป่วยหรือมีความรู้สึกเสียใจมากๆก็ทำให้กลายเป็นหมีได้เหมือนกัน ... "
"อ้าว .. ก็นายไม่ได้เป็นคนลื่นตกบ่อเองนี่ ทำไมถึงได้เป็นเหมือนบรรพบุรุษละ?" ปิดหนังสือภาพแล้วยิงคำถามทันที
"มันสืบทอดกันได้ผ่านทางสายเลือด... "
"แล้วทำไมนายถึงกล้าบอกฉัน?.."
"................"
เงียบ .................
ยุนโฮก้มหน้าไม่กล้าสบตากับแจจุง .. แถมยังปล่อยให้หมีตัวเล็กตัวน้อยกัดบ้างแทะบ้างเขี่ยตัวเองบ้างโดยไม่ดุหรือห้ามปรามแบบเมื่อกี้
"เอ่อ .. ขอโทษ .. ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร..."
อ้าว เอาเข้าไป งอนกันไปงอนกันมา ... แจจุงทำหน้าบูดพลางเสหน้ามองไปทางอื่น และเหมือนหมีน้อยหลายสิบตัวจะรู้สึกถึงรังสีมาคุจากตัวแจจุงได้ พวกมันรีบไปกองอยู่กับแจจุงจนร่างบางทำอะไรไม่ถูก
"ผมก็อยากบอก แต่ตอนนี้คงไม่ได้น่ะ..."
แน่ะ .. ทำหน้าหงอยสู้ ... หมีอีกหลายสิบตัวที่เพิ่งมาใหม่เข้ามาช่วยหมีเซ็ตเดิมและคุณพ่อหมีตัวใหญ่ออดอ้อนแจจุงจนแทบจะหายไปอยู่ในดงหมี ...
"กะ .. ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย .. พร้อมค่อยบอกก็ได้..."
ก็บอกแล้วว่า คิมแจจุง ทนลูกอ้อนไม่ไหวววว ... แค่ชอง ยุนโฮ พ่อหมีตัวเดียวก็ใจอ่อนยวบแล้ว ... เล่นมีหมีอีกกว่ายี่สิบตัวมารุมล้อมออดอ้อนแบบนี้ ... แจจุงจะเหลืออะไร .. ถึงจะแมนทั้งแท่ง แต่พอเจออะไรแบบนี้ก็แมนหลุดทุกทีไป
"นั่งเล่นกับพวกมันไปก่อนก็ได้นะ ..." แจจุงพยักหน้าหงึกๆเป็นการขานรับยุนโฮไปในตัว .. ลูกหมีพวกนี้น่ารักมาก ไม่รู้เหมือนกันว่ามาจากไหน ลองถามดูก็แล้วกัน
"ลูกหมีพวกนี้มาจากไหนเหรอ ยุนโฮ?.."
"คนที่แปลงร่างเป็นหมีได้ .. มักจะดึงดูดหมีด้วยกันน่ะ .. ส่วนใหญ่เป็นตัวเมียทั้งนั้น... "
"หมีตัวเมีย???.." หรือเพราะยุนโฮเป็นผู้ชายนะ หมีพวกนี้เลยหลงเข้ามาติดกับความหล่อ? ...
ตลกกกกก ... แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อละนะ 555
ยุนโฮกระเถิบเข้ามานั่งใกล้ๆแจจุงพร้อมกับจับหมีบางตัวมาอุ้มเพื่อแบ่งเบาภาระให้แจจุงบ้าง ... ดูๆไป .. แจจุงเหมือนคุณแม่หมีแล้วเขาเหมือนคุณพ่อหมีเลยจริงๆ ...
กำลังเพลินอยู่กับจินตนาการแต่เพราะแม่บ้านเดินเอาเสื้อกันหนาวหนาๆมาให้แจจุง ยุนโฮจึงหลุดจากภวังค์ความคิดแล้วรับเสื้อมาสวมให้แจจุงอย่างสุภาพบุรุษ ... ร่างบางที่ถูกปรนนิบัตรจากเพื่อนที่ไม่ค่อยได้คุยกัน ได้แต่นั่งนิ่งตัวแข็งเป็นหินเพราะรู้สึกเขินอย่างหนัก
"ไข้หายแล้วนะ?..." อยู่ๆยุนโฮก็ทำลายความเงียบและเรียกร้องความสนใจจากแจจุงโดยการถามคำถามที่น่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว
"อื้อ ดีขึ้นเยอะเลย .. โทษทีนะ วันนี้นายต้องโดดเรียนกับฉันเลย.."
"อ่อ .. ไม่เป็นไร .. อย่างน้อยก็ได้คุยกับแจจุงที่นี่..." เหมือนประโยคธรรมดาแต่ความจริงแล้วมันแฝงอะไรเอาไว้บางอย่าง ... ร่างบางหันไปมองหน้ายุนโฮเพียงชั่วครู่ ก่อนจะเสกลับมามองลูกหมีบนตักแทบไม่ทันเมื่อเห็นสายตาหล่อคมเรียบนิ่งที่หาได้ยากจากท่านประธานขี้อาย
".........................."
"เดี๋ยวผมไปสั่งแม่บ้านให้ทำยาแก้ไข้นะ กินเผื่อๆไว้ก่อน.."
"เอ๋?.. ไม่ต้องหรอก ... เกรงใจนายจะแย่อยู่แล้ว.."
"ไม่เป็นไรครับ นั่งอยู่นี่แหละ เดี๋ยวผมมา" .....
ในที่สุดแจจุงก็ห้ามไว้ไม่ทัน ... ทำไมเขาถึงได้รู้สึกหน้าร้อนแบบนี้นะ ยิ่งตอนที่มองหน้ายุนโฮ อาการที่ว่าก็จะยิ่งชัดเจน ....
เขาเป็นอะไรไปกันแน่ ....
แจจุงได้แต่คิดในใจพลางลูบหัวหมีสีขาวหลายตัวสลับไปสลับมา ....
TO BE CON
Story by :: Tachi_Naniki
Pairing :: YUNHO x JAEJOONG (Feat.YS)
Category :: Romantic comedy
Rate :: PG-NC
รังสีอำมหิตแทรกซึมทั่วทุกอณูบรรยากาศรอบๆสมาชิกกลุ่มแฟนคลับคนรักท่านประธานชอง ส่งผลทำให้ผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทั้งหลายต่างถอยกรูดไปสิงอยู่อีกมุมหนึ่งของตึกเรียนเพื่อเฝ้ามองดูสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ...
เด็กหนุ่มตัวเล็กบนแผ่นหลังกว้างรีบหลบหน้าหลบตาแทบจะทันทีที่เห็นกลุ่มสาวๆยืนอยู่ใกล้ๆกับห้องน้ำชายที่ยุนโฮและเขาเพิ่งออกมา .. นี่ถ้าแฟนคลับเห็นหน้าเขาเข้าละก็ มีหวังหาความสงบสุขในโรงเรียนไม่เจอแน่ๆ
"พี่ยุนโฮ ... นั่นใครน่ะ?... ผู้หญิงเหรอ?...เธอเป็นใคร? ทำไมถึงกล้าใส่ชุดนักเรียนชายมายั่วพี่ยุนโฮถึงในห้องน้ำ..."
แจจุง : อ้าว ... ใช้สมองส่วนไหนคิดวะเนี่ย ... ฉันผู้ชายทั้งแท่งเลยนะ ... T_T
โอดคราญในใจแต่ถึงยังไงก็ไม่กล้าโต้แย้งพวกผู้หญิงพวกนั้นอยู่ดีเพราะจำนวนฝ่ายนั้นมีมากกว่าอย่างน่าใจหาย .. แจจุงตัดสินใจใช้แผ่นหลังแข็งแรงเป็นโล่กำบังชั้นดีซึ่งเจ้าของแผ่นหลังเองก็เต็มใจจะเป็นโล่ห์กำบังให้ชั่วคราว
"แจจุง.........."
"???????.." ร่างบางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแต่ยังคงอยู่ในรัศมีที่เด็กผู้หญิงพวกนั้นจะมองไม่เห็น ถึงแม้แจจุงจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าของยุนโฮก็ตาม แต่เขาเชื่อว่า ยุนโฮคงมีอะไรอยากจะพูดแน่ๆ
"เกาะแน่นๆละ......."
เพิ่งเข้าใจคำว่า "หมีพริ้ว" ก็วันนี้นี่แหละ ... เทพบุตรสุดหล่อรีบวิ่งชิ่งออกจากรั้วโรงเรียนด้วยความเร็วของนักกีฬา ... ต่อให้ผู้หญิงหุ่นดีวิ่งตามก็เหอะ ไม่มีทางทันพ่อหนุ่มฝีเท้าไวคนนี้ไปได้แน่นอน ... ทว่าคิ้วเล็กมีอันต้องขมวดเมื่อเจ้าของฝีเท้าค่อยๆลดความเร็วลงจนกระทั่งหยุดอยู่กับที่ในที่สุด ...
"บ้านแจจุงอยู่ไหนเหรอ?..."
"ห๋าา?... เอ่อ ... " ....... นี่จะพาไปส่งถึงบ้านเลยเรอะ????
"ไม่สะดวกจะบอกผมเหรอครับ?..."
นี่ขนาดได้ยินแค่น้ำเสียงเศร้านะเนี่ย .. ถ้าได้เห็นหน้าหมีๆหงอยลงละก็ มีหวังคิม แจจุงละลายตายไปกับลูกอ้อนนานแล้ว ...
แล้วทำไมเขาต้องมาละลายกับลูกอ้อนของผู้ชายด้วยกันด้วย????
"กะ .. ก็เปล่านี่ .. คิดมากไปได้ ... เดินไปทางนี้นี่แหละ เดี๋ยวเลี้ยวตรงไหนฉันจะบอกเอง" แจจุงตอบเสียงอู้อี้เพราะเริ่มเคลิ้มไปกับฤทธิ์ยาที่กินไปเมื่อกี้นี้ ...
แผ่นหลังกว้างๆที่ซบอยู่ก็อุ่นนุ่มน่านอนน้อยเสียเมื่อไหร่ .. แก้มขาวย้วยและบิดเบี้ยวเล็กน้อยเมื่อเจ้าของแก้มเบียดใบหน้าเข้าหาความอุ่นนุ่ม ... ภายในเวลาไม่นานแจจุงก็ค่อยๆจมดิ่งสู่ห้วงนิทรา ...
"ไปทางไหนต่อครับ?..." พอถึงทางแยกที่ต้องเลือกว่าจะเลี้ยวไปทางซ้ายหรือทางขวา ยุนโฮกลับไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากคนป่วยบนแผ่นหลัง ... เด็กหนุ่มตัวสูงถอนหายใจเครียด ก่อนจะตัดสินใจเลี้ยวไปทางขวาซึ่งเป็นทางกลับบ้านตัวเอง ไม่ใช่ทางกลับบ้านของแจจุงแต่อย่างใด ...
...............................
.................
"โดดประชุมหลายรอบเหลือเกิน ท่านประธาน =*=" จุนซูซวยตลอดเวเพราะรู้ชะตากรรมว่าเย็นนี้คงต้องเข้าประชุมในสภาพเบ้รองเหมือนเช่นสองสามวันที่ผ่านมา .. ไม่รู้ยุนโฮนึกยังไงถึงพาแจจุงหนีออกจากโรงเรียน ก็เข้าใจว่ากลัวโดนแฟนคลับตามกระทืบแต่พอส่งแจจุงเสร็จ ยุนโฮก็น่าจะกลับมาเรียนนี่นา ...
ทำไมถึงได้มีแต่เรื่องเข้าใจยากนักก็ไม่รู้ช่วงนี้ ... เอือม ...
หมุนปากกาในมือเล่นไปมาเนื่องจากความเบื่อหน่าย .. อาจารย์สอนเลขอยู่หน้าห้องมาตั้งนานแล้วแต่จุนซูก็หาใช่สนใจนำเอาความรู้ที่อาจารย์พูดมาใส่ไว้ในหัวไม่เพราะถึงยังไงเลขคณิตที่สู้อุตส่าห์ร่ำเรียนมาก็อยู่ในระดับที่แทบเรียกได้ว่าเฉียดสมองไอสไตล์ไปมากกว่าครึ่งแล้ว
นัยน์ตาเล็กรีจ้องมองตรงไปข้างหน้าราวกับกำลังตั้งใจฟังในสิ่งที่อาจารย์ต้องการจะสื่อ แต่ในความเป็นจริงแล้ว สมองน้อยๆกลับมัวแต่คิดนู่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งจุนซูเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ ... คนตัวเล็กตวัดนัยน์ตาไปทางสถานที่ที่เหมือนมีใครสักคนกำลังจ้องมองมาทางนี้ .. ตอนแรกนึกว่าคิดไปเองแต่พอสายตาปะทะเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำชาของท่านรองประธานนักเรียน จุนซูจึงได้รู้ว่า ..... ตัวเองไม่ได้คิดไปเอง ....
แถมจ้องไม่ยอมหลบสายตาเลยด้วย .... ปาร์ค ยูชอน !!!! ต้องการอะไรจากสังคม T_T
"พักกินข้าวเที่ยงได้..." เสียงสวรรค์ของอาจารย์ช่วยฉุดสติจุนซูออกจากห้วงความคิด .. ร่างเล็กผละสายตาจากท่านรองประธานแล้วลุกขึ้นเตรียมตัวไปหาข้าวกลางวันกิน ...
ยูชอนพยายามเดินแทรกกลุ่มเพื่อนนักเรียนเพื่อเข้าให้ถึงตัวจุนซูก่อนคนอื่นๆ แต่กลับกลายเป็นว่าคนพูดน้อยเสียเปรียบคนอื่นอย่างมากมายเพราะมีกลุ่มเพื่อนนักเรียนที่อยู่ใกล้กว่าชวนจุนซูไปกินข้าวด้วยกันเสียแล้ว .. คงไม่แปลกอะไรที่จุนซูจะมีเพื่อนเยอะแยะมากมายคอยชวนไปนู่นชวนไปนี่มิได้ขาด ..
ก็คิม จุนซูเป็นคนของประชาชนมากกว่ารองประธานอย่างเขาเสียอีกนี่นะ ... เพราะความมีมนุษยสัมพันธ์ดีนี่แหละ เพื่อนๆในห้องถึงได้ชอบอยู่ใกล้ๆจุนซูกันทั้งนั้น ...
เกิดมาหล่อ รวยฐานะดีก็เปล่าประโยชน์จริงๆ สำหรับ ปาร์ค ยูชอนแล้ว เขาไม่ต้องการให้ใครมารุมล้อม ขอแค่คนที่เขาแอบสนใจหันหน้ามามองเขาบ้างก็พอ ...
"ยูชอน........" เพื่อนนักเรียนในสภาคนหนึ่งเอ่ยเรียกชื่อของท่านรองที่ยืนหงอยอยู่คนเดียว
"????........"
"มาทางนี้หน่อยๆ .. ของที่นายให้ฉันไปซื้อสำหรับวันงานโรงเรียนมีเท่านี้ใช่มั้ย?.." ในที่สุดยูชอนก็ไม่มีบุญมากพอที่จะตามจุนซูไป .. เขาต้องทำหน้าที่เช็คของสำหรับวันงานโรงเรียนเพื่อที่ว่าจะได้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด ...
.........................
.............
อะไรแฉะๆ ...
สิ่งที่แจจุงสัมผัสได้ในครั้งแรกทั้งๆที่ยังสะลึมสะลืออยู่คือความเปียกชื้นบริเวณใบหน้าและแขนข้างขวา ... ร่างบางค่อยๆเปิดเปลือกตารับภาพห้องนอนที่ยังคงความโบราณอยู่บ้างแต่ก็ไม่ใช่ว่าโบราณมากเลยเสียทีเดียว ... ตัวบ้านประยุกต์แบบนี้มีให้เห็นบ่อยไปในแถบชานเมืองของเมืองหลวง ... ทว่านั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญเลยแม้แต่น้อย ... ประเด็นสำคัญจริงๆมันอยู่ตรงที่หมีปุกปุยหน้าตาน่ารักหลายตัวที่คอยเลียคอยออดอ้อนแจจุงอยู่ในขณะนี้ต่างหาก....
"เฮ้ยยย ...." กระเด้งพรวดลุกขึ้นจากเตียงแทบจะทันทีทันใดพร้อมกับกวาดมองไปทั่วทั้งห้องซึ่งมีหมีสีขาวขนปุยขนาดต่างกันไม่มากนักนั่งๆนอนๆอยู่ในห้องเต็มไปหมด ... บางตัวก็เข้ามาเลียหน้าเลียขาออดอ้อน บางตัวก็ถือวิสาสะขึ้นมานอนอยู่บนตัก ...
"ละ แล้วตัวไหนคือยุนโฮละเนี่ย?.." ถึงจะไม่รู้ว่ายุนโฮกลายเป็นหมีเพราะอะไรแต่ที่แน่ๆแจจุงกลัวจะหาประธานนักเรียนไม่เจอมากกว่า ...
"ผมอยู่นี่ ... ที่นี่เป็นบ้านของผม ตามสบายนะครับ" นัยน์ตากลมใสตวัดมองตามต้นเสียงทุ้มนุ่มแล้วก็ได้พบกับประธานนักเรียนหล่อระดับเทพบุตรในชุดนักเรียนปล่อยชายและไม่สวมเนคไท ... เห็นแต่งตัวเรียบร้อยอยู่ทุกวัน แจจุงเพิ่งจะได้เห็นประธานแต่งตัวไม่เรียบร้อยก็วันนี้นี่แหละ ...แต่เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญสักหน่อย ... เขาอยากรู้ว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วทำไมยุนโฮถึงกลายเป็นหมี แล้วหมีในห้องนี่มันอะไรกัน .. อยากถามอะไรเยอะแยะเลยแต่ไม่รู้จะหยิบยกประเด็นไหนมาถามก่อน โฮก .. .
"ดูเหมือนพวกหมีจะชอบอยู่กับแจจุงมากนะครับ ... พวกมันไม่มาอยู่กับผมเลย พอผมวางแจจุงลงบนที่นอน..."
จะดีใจดีมั้ยที่ คิม แจจุง ดึงดูดหมี ...
"เอ่อ .. คือ .. ฉันมีอะไรจะถามนายเยอะเลย แต่ฉันไม่รู้จะถามอะไรก่อน..."
"ผมก็คิดว่าแจจุงมีอะไรจะถามผมอยู่แล้ว .. พอจะลุกไหวมั้ย?.. ไปคุยกันที่ห้องน้ำชาดีกว่า" ยุนโฮทำท่าจะเข้ามาพยุงตัวแจจุงให้ลุกขึ้นจริงๆ แจจุงจึงต้องห้ามปรามเอาไว้ก่อนเพราะเขาได้นอนไปบ้างแล้ว .. ร่างกายเลยพอปรับสมดุลได้...
"ไม่ต้องหรอก .. ฉันเดินไหว.."
"ครับ .. งั้นเดินตามผมมานะ.." ยุนโฮเดินนำผ่านสวนดอกไม้ในบ้านเพื่อข้ามไปยังบ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นบ้านหลังเล็กๆสำหรับพักผ่อนดื่มน้ำชา... แม่บ้านที่เพิ่งเสร็จจากการปัดกวาดทำความสะอาดถูกเด็กหนุ่มเรียกใช้ให้ไปเอาเสื้อหนาๆและเครื่องดื่มมาต้อนรับแขก ...
ร่างบางสะดุ้งหน่อยๆเมื่อหันไปเห็นลูกหมีหลายตัวเดินตามกันมาเป็นขบวนรถไฟ .. พอจะก้าวขาเดินตามยุนโฮต่อ ขาเรียวเล็กก็ต้องชะงักอยู่กับที่ชั่วคราวเพราะหมีน้อยปุกปุยตัวเล็กนัยน์ตาสีฟ้าตัวหนึ่งไม่รู้ว่าเข้ามาเกาะขาทำท่าออดอ้อนตั้งแต่เมื่อไหร่
แจจุงแพ้สัตว์ออดอ้อนมากถึงมากที่สุด ดังนั้นจึงตัดสินใจอุ้มหมีตัวน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดอุ่นโดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าถูกเจ้าของบ้านจ้องมองด้วยรอยยิ้มเอ็นดู ... แต่พอแจจุงเงยหน้าขึ้น .. ยุนโฮกลับเสนัยน์ตามองไปทางอื่นแล้วเดินนำไปข้างหน้าต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
บ้านหลังเล็กๆตรงหัวมุมสวนดอกไม้ถูกตกแต่งด้วยของใช้สไตล์เกาหลีสมัยเก่า .. ภาพวาดพู่กันรูปดอกไม้และสัตว์ป่าหลายชนิดถูกบุอยู่ตามฝาผนังแลดูแปลกตาสำหรับแจจุงที่มีบ้านสมัยใหม่แบบคนรุ่นใหม่ทั่วไป...
"เชิญนั่งเลยครับ..." ยุนโฮผายมือไปที่เบาะนั่งด้านหนึ่ง ส่วนตัวเองเดินไปนั่งอีกด้านหนึ่ง .. โต๊ะเตี้ยๆไม่เล็กไม่ใหญ่ขนาดกำลังพอดีคือสิ่งที่เด่นที่สุดในห้องนี้ ... แจจุงนั่งลงพลางมองนู่นมองนี่ไปเรื่อยๆแล้วหันไปให้ความสนใจเจ้าหมีขาวหลายสิบตัวอีกครั้งเมื่อพวกมันเริ่มอิจฉาพวกเดียวกันที่แจจุงอุ้มอยู่ในอ้อมแขน....
"อย่าเสียมารยาทสิ .." หันขวับแทบจะทันทีหลังจากยุนโฮพูดจบ ...ตอนแรกนึกว่ายุนโฮกำลังตำหนิแม่บ้านที่ยกน้ำชามาเสิร์ฟให้ แต่ปรากฏว่าเขาคิดผิดเพราะหมีทั้งสิบตัวนั้นเชื่อฟังยุนโฮอย่างน่าประหลาดเลยทีเดียว ..
พวกมันวิ่งไปนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ด้านหลังยุนโฮแทน .. เปิดโอกาสให้ยุนโฮได้คุยกับแจจุงเสียที
"ถามเลยก็ได้นะครับ.."
"เอ่อ .. ก็ ... ทำไม .... " ตั้งใจจะถามตั้งแต่ต้น แต่พออยู่ต่อหน้ายุนโฮเขากลับพูดไม่ออก มัวแต่ติดอ่างอยู่แบบนี้ ยุนโฮก็เบื่อพอดีนะสิ...
"ทำไมผมถึงเป็นแบบนั้นใช่มั้ย?..." เดาคำพูดของแจจุงให้เสร็จสรรพแล้วชี้ไปที่หมีหลายสิบตัวซึ่งนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ด้านหลังเป็นการประกอบคำพูด ร่างบางพยักหน้าหงึกๆไม่กล้าสบตาคนพูด รู้สึกเหมือนกำลังไปละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของคนอื่นยังไงไม่รู้
ยุนโฮลุกขึ้นหยิบของบางอย่างจากตู้ลิ้นชักไม้โบราณพลางเป่าฝุ่นที่เกาะสะสมหนาเป็นชั้นจนลูกหมีหลายตัวจามกันเป็นแถบๆแล้วยื่นส่งให้แจจุงรับไปดู ..
"นี่เป็นหนังสือภาพตำนานตระกูลผม... "
แจจุงรับมาเปิดอย่างงุนงง .. หน้าแรกปรากฏสัญลักษณ์ตัวป้ำรูปหมีตัวโตสองตัวกำลังต่อสู้กัน ... คาดว่าคงเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลชองที่มีมาเนิ่นนานหลายร้อยปี ... มือขาวอวบพลิกเปิดหน้าหนังสือไปอีกหน้าแล้วยกหนังสือขึ้นตั้งบนโต๊ะเพื่อเพ่งมองภาพวาดเข้าใจง่ายที่ถูกวาดด้วยพู่กันจุ่มหมึก ...
บ่อน้ำหมีขาวต้องสาปกลางเทือกเขาหิมาลัยที่ถูกระบุด้วยอักษรภาษาเกาหลีมีผู้ชายคนหนึ่งกำลังฝึกวิชาอยู่ใกล้ๆ ลายเส้นเหมือนจะง่ายๆแต่ภาพร่างที่ออกมากลับดูสวยงามตามสไตล์โบราณ... ร่างบางอมยิ้มน่อยๆเพราะเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ก่อนจะพลิกหนังสือภาพเปิดไปอีกหน้าจึงได้เห็นว่าผู้ชายคนนั้นลื่นตกลงไประหว่างคิดค้นท่าต่อสู้พิศดาร ... พอพลิกเปิดไปอีก ผู้ชายที่ลื่นตลงไปในบ่อน้ำกลับหายไปเหลือแต่หมีน้อยสีขาวตัวเท่าลูกแมวยืนหนาวสั่นอยู่ข้างบ่อน้ำ ...
"จริงเหรอเนี่ย???.." อุทานเสียงหวานพลางเปิดภาพตำนานไปอีกหน้าเพราะเริ่มอยากรู้เรื่องต่างๆให้มากขึ้น ...
คราวนี้เป็นรูปเด็กผู้หญิงน่ารักๆคนหนึ่งกำลังเดินถือตระกร้าเตรียมตัวไปจ่ายตลาด ... ที่อีกด้านหนึ่งของมุมถนนซึ่งเป็นสถานที่อับสายตาปรากฏภาพชายหนุ่มคนเดิมที่ทะเล่อทะล่าลื่นลงบ่อน้ำต้องสาป ... แจจุงเปิดไปอีกหน้าอย่างลุ้นๆแล้วก็ได้พบคำตอบของเรื่องราวทั้งหมด ...
เด็กผู้หญิงคนนั้นลื่นล้มสะดุดก้อนหินพอดีกับชายหนุ่มที่ถูกความเป็นสุภาพบุรุษเข้าสิง เขาเข้าไปรับเด็กผู้หญิงคนนั้นโดยลืมไปว่าสภาพของตัวเองไม่ได้เป็นเหมือนก่อนแล้ว แจจุงสำรวจรายละเอียดในภาพอีกนิดหน่อย ดูภาพให้พอเข้าใจแล้วพลิกหนังสือเปิดไปอีกหน้าหนึ่งซึ่งผู้ชายคนนั้นได้กลายร่างเป็นหมีตัวน้อยน่ารัก แถมยังหล่นลงไปในตระกร้าใส่ผักของเด็กผู้หญิงในภาพอีกด้วย ...
"นั่นน่ะ .. ปู่ของปู่ของปู่ของปู่ผม .. ส่วนผู้หญิงในภาพเป็นภรรยาของท่าน"
"อย่างงี้นี่เอง..." แจจุงยังคงจดจ่ออยู่กับสมุดภาพในมือ ... แม้มันจะเก่ามากจนอยากจาม แต่เพราะความอยากรู้มันมีมากกว่า แจจุงจึงไม่ลดละที่จะเปิดดูหน้าสุดท้าย ...
คราวนี้ไม่มีรูปภาพแฮะ ... แต่เป็นตัวอักษรภาษาเกาหลีหวัดๆที่น่าเวียนหัวสองสามประโยค ..
"มันแปลว่า ... นอกจากการถูกผู้หญิงกอดแล้ว อาการป่วยหรือมีความรู้สึกเสียใจมากๆก็ทำให้กลายเป็นหมีได้เหมือนกัน ... "
"อ้าว .. ก็นายไม่ได้เป็นคนลื่นตกบ่อเองนี่ ทำไมถึงได้เป็นเหมือนบรรพบุรุษละ?" ปิดหนังสือภาพแล้วยิงคำถามทันที
"มันสืบทอดกันได้ผ่านทางสายเลือด... "
"แล้วทำไมนายถึงกล้าบอกฉัน?.."
"................"
เงียบ .................
ยุนโฮก้มหน้าไม่กล้าสบตากับแจจุง .. แถมยังปล่อยให้หมีตัวเล็กตัวน้อยกัดบ้างแทะบ้างเขี่ยตัวเองบ้างโดยไม่ดุหรือห้ามปรามแบบเมื่อกี้
"เอ่อ .. ขอโทษ .. ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร..."
อ้าว เอาเข้าไป งอนกันไปงอนกันมา ... แจจุงทำหน้าบูดพลางเสหน้ามองไปทางอื่น และเหมือนหมีน้อยหลายสิบตัวจะรู้สึกถึงรังสีมาคุจากตัวแจจุงได้ พวกมันรีบไปกองอยู่กับแจจุงจนร่างบางทำอะไรไม่ถูก
"ผมก็อยากบอก แต่ตอนนี้คงไม่ได้น่ะ..."
แน่ะ .. ทำหน้าหงอยสู้ ... หมีอีกหลายสิบตัวที่เพิ่งมาใหม่เข้ามาช่วยหมีเซ็ตเดิมและคุณพ่อหมีตัวใหญ่ออดอ้อนแจจุงจนแทบจะหายไปอยู่ในดงหมี ...
"กะ .. ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย .. พร้อมค่อยบอกก็ได้..."
ก็บอกแล้วว่า คิมแจจุง ทนลูกอ้อนไม่ไหวววว ... แค่ชอง ยุนโฮ พ่อหมีตัวเดียวก็ใจอ่อนยวบแล้ว ... เล่นมีหมีอีกกว่ายี่สิบตัวมารุมล้อมออดอ้อนแบบนี้ ... แจจุงจะเหลืออะไร .. ถึงจะแมนทั้งแท่ง แต่พอเจออะไรแบบนี้ก็แมนหลุดทุกทีไป
"นั่งเล่นกับพวกมันไปก่อนก็ได้นะ ..." แจจุงพยักหน้าหงึกๆเป็นการขานรับยุนโฮไปในตัว .. ลูกหมีพวกนี้น่ารักมาก ไม่รู้เหมือนกันว่ามาจากไหน ลองถามดูก็แล้วกัน
"ลูกหมีพวกนี้มาจากไหนเหรอ ยุนโฮ?.."
"คนที่แปลงร่างเป็นหมีได้ .. มักจะดึงดูดหมีด้วยกันน่ะ .. ส่วนใหญ่เป็นตัวเมียทั้งนั้น... "
"หมีตัวเมีย???.." หรือเพราะยุนโฮเป็นผู้ชายนะ หมีพวกนี้เลยหลงเข้ามาติดกับความหล่อ? ...
ตลกกกกก ... แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อละนะ 555
ยุนโฮกระเถิบเข้ามานั่งใกล้ๆแจจุงพร้อมกับจับหมีบางตัวมาอุ้มเพื่อแบ่งเบาภาระให้แจจุงบ้าง ... ดูๆไป .. แจจุงเหมือนคุณแม่หมีแล้วเขาเหมือนคุณพ่อหมีเลยจริงๆ ...
กำลังเพลินอยู่กับจินตนาการแต่เพราะแม่บ้านเดินเอาเสื้อกันหนาวหนาๆมาให้แจจุง ยุนโฮจึงหลุดจากภวังค์ความคิดแล้วรับเสื้อมาสวมให้แจจุงอย่างสุภาพบุรุษ ... ร่างบางที่ถูกปรนนิบัตรจากเพื่อนที่ไม่ค่อยได้คุยกัน ได้แต่นั่งนิ่งตัวแข็งเป็นหินเพราะรู้สึกเขินอย่างหนัก
"ไข้หายแล้วนะ?..." อยู่ๆยุนโฮก็ทำลายความเงียบและเรียกร้องความสนใจจากแจจุงโดยการถามคำถามที่น่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว
"อื้อ ดีขึ้นเยอะเลย .. โทษทีนะ วันนี้นายต้องโดดเรียนกับฉันเลย.."
"อ่อ .. ไม่เป็นไร .. อย่างน้อยก็ได้คุยกับแจจุงที่นี่..." เหมือนประโยคธรรมดาแต่ความจริงแล้วมันแฝงอะไรเอาไว้บางอย่าง ... ร่างบางหันไปมองหน้ายุนโฮเพียงชั่วครู่ ก่อนจะเสกลับมามองลูกหมีบนตักแทบไม่ทันเมื่อเห็นสายตาหล่อคมเรียบนิ่งที่หาได้ยากจากท่านประธานขี้อาย
".........................."
"เดี๋ยวผมไปสั่งแม่บ้านให้ทำยาแก้ไข้นะ กินเผื่อๆไว้ก่อน.."
"เอ๋?.. ไม่ต้องหรอก ... เกรงใจนายจะแย่อยู่แล้ว.."
"ไม่เป็นไรครับ นั่งอยู่นี่แหละ เดี๋ยวผมมา" .....
ในที่สุดแจจุงก็ห้ามไว้ไม่ทัน ... ทำไมเขาถึงได้รู้สึกหน้าร้อนแบบนี้นะ ยิ่งตอนที่มองหน้ายุนโฮ อาการที่ว่าก็จะยิ่งชัดเจน ....
เขาเป็นอะไรไปกันแน่ ....
แจจุงได้แต่คิดในใจพลางลูบหัวหมีสีขาวหลายตัวสลับไปสลับมา ....
TO BE CON
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น