ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TVXQ Fic YAOI] \\ อันธพาลแอ๊บเถื่อน กับ นางฟ้าแอ๊บแบ๊ว //

    ลำดับตอนที่ #2 : Part 1 :: ประทับใจ

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 52


    Title :: [Fic] อันธพาลแอ๊บเถื่อน กับ นางฟ้าแอ๊บแบ๊ว 1
    ตอน :: ประทับใจ
    Story by :: Tachi_Naniki
    Pairing :: YUNHO x JAEJOONG (Feat. YS & มากมายก่ายกอง)
    Category ::Romantic comady,action,drama
    Rate :: PG - 13



    ความเดิมตอนที่แล้ว


    ยุนโฮ เกิดเปลี่ยนใจเดินกลับมาหาร่างเล็กอย่างกะทันหันเมื่อเหลือบไปเห็นชายแปลก หน้าสวมหมวกแก๊ปเดินตามแจจุงมา ... ถึง ชอง ยุนโฮ จะเป็นอันธพาลรกเมืองก็เถอะ แต่เขาก็ไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดปล่อยเด็กตัวเล็กๆให้ไปเผชิญกับอันตรายเพียง ลำพังได้ลงคอ ..

    บางที ... นี่อาจจะเป็นหรหมลิขิตก็ได้ .... ใครจะรู้ ...


    TO BE CON !!!

    Part 1

    ------------------------------



    คำเตือน :: อย่าอ่านข้ามนะ เดี๋ยวไม่เข้าใจจ้า





    Part 1 :: ประทับใจ



    “พี่ ไปก่อนนะ .....” โบกมือลาเด็กร่างบางเมื่อเดินทางมาส่งจนถึงหน้าบ้านหลังเล็กสีขาว ... ยุนโฮไม่ค่อยอยากเจอหน้าท็อปมากนัก เขาจึงเลือกที่จะมองแจจุงอยู่ห่างๆมากกว่า ... รอจนกระทั่งแผ่นหลังบางหายวับเข้าไปในบ้านเรียบร้อยแล้วจึงค่อยวกกลับมา สะสางธุระอะไรบางอย่างต่อ ...

    ยุนโฮกระชากคอเสื้อของชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเดินตามเขากับแจจุงมาตั้งแต่สี่แยกไฟแดง ...

    “ตาม เด็กคนนั้นมาทำไม?” กดเสียงต่ำแสดงความไม่พอใจ ... หมวกแก๊ปอำพรางใบหน้าถูกมือหนาปัดออกจนตกลงบนพื้นเผยให้เห็นโฉมหน้าหื่นๆของ มันเต็มสองลูกกะตา ... นัยน์ตาสีเข้มดุดันถูกส่งไปคาดคั้นคำตอบตามประสาหนุ่มอันธพาลเลือดร้อนที่ พูดน้อยๆแต่ต่อยทีต่อยหนัก ...

    “นายเป็นแฟนเขาเหรอ? ... ฉะ .. ฉันขอโทษ ... วันหลังจะไม่มายุ่งอีกแล้ว .. ปะ .. ปล่อยฉันไปเถอะ” ชะงักเล็กน้อยเมื่อถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอะไรกับน้องชายของคู่อริตลอดกาล .. แต่เขาไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้มันมากความแต่อย่างใด ... แค่เฉดหัวไอหื่นนี่ออกไปให้พ้นๆทางเด็กน่ารักก็พอ ...

    ผัวะ !!!!

    ซัด หมัดเข้าเต็มหน้าคนหื่นหวังให้เข็ดหลาบกันไปข้างหนึ่ง ... มันตะเกียกตะกายวิ่งหนีเด็กหนุ่มร่างสูงขี้โมโหอย่างเอาเป็นเอาตาย .. ช่างเป็นภาพที่น่าสมเพชและอนาถจิตที่สุดเลยก็ว่าได้ ...

    ริมฝีปากหยักเหยียดยิ้มร้ายอย่างที่ชาตินี้แจจุงคงไม่มีโอกาสได้เห็น ...

    “อย่า ตามเด็กคนนั้นมาอีก ... ถ้าฉันเห็นหน้านายเป็นครั้งที่สองละก็ ... ไม่จบแค่ต่อยแน่ๆ ..” ขู่เสียงดุอย่างผู้เหนือกว่า .. ก่อนจะไล่ตะเพิดบุคคลไม่พึงประสงค์ไปให้พ้นๆจากตรงนั้น ..


    XXXXXXXXXXX



    ไฟ ถูกเปิดจนสว่างจ้าไปทั่วทั้งบ้านบ่งบอกให้เด็กตัวเล็กรู้ว่า พี่ชายแท้ๆซึ่งเป็นคนในครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่เดินทางกลับถึงบ้าน มารอเขาตั้งนานแล้ว ... แขนบางกระชับกอดหมีสีขาวตัวโปรดแน่นเมื่อข้อแก้ตัวต่างๆที่วนเวียนอยู่ภายใน หัวสมองมันตีกันยุ่งไปหมดจนไม่รู้จะหยิบเอาเหตุผลไหนมาแก้ต่างเรื่องที่ไม่ ยอมรอพี่ไปรับที่โรงเรียนหลังเลิกเรียน แถมยังต้องให้คู่อริของพี่มาส่งจนถึงหน้าประตูบ้านอีกต่างหาก ......

    แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่นา ... พี่ไม่เคยฟังเหตุผลของน้องชายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ... เมื่อวานแจจุงลงทุนไปหาพี่ชายเองถึงที่กบดาน..(?) .. เพราะ พี่ไม่ยอมไปรับซะทีจนเผลอหลงเข้าไปอยู่ในสนามรบขนาดย่อมๆของแก๊งคู่อริ ... พอกลับถึงบ้านปุ๊บก็โดนสวดอีกเป็นชุดๆปั๊บ ...

    รู้ทั้งรู้ว่าพี่ เป็นห่วง แต่เพราะแจจุงไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันออกมาเป็นแบบนี้ .. ผลสุดท้ายเรื่องราวก็จบลงด้วยน้ำตาของแจจุงอีกตามเคย ...

    คืนนั้น ... ร่างบางจงใจตั้งนาฬิกาปลุกให้เช้ามากกว่าเดิมเพื่อตื่นไปโรงเรียนก่อนโดยไม่ รอให้พี่ชายเดินไปส่งเหมือนอย่างเคย ... ส่วนตอนเย็นก็ได้พี่ยุนโฮเดินมาส่งจนถึงหน้าบ้านอย่างที่เห็น ...


    แต่ ถึงจะโดนดุโดนสวดยังไง ... แจจุงก็ได้พี่ ชเว ซึงฮยอนที่ใช้นามสกุลคุณพ่อนี่แหละคอยหาเงินมาจ่ายค่าครองชีพต่างๆให้ ... ยิ่งเรื่องอบรมจริยธรรมยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะ ถึงพี่จะเป็นหัวหน้าใหญ่ของแก๊งค์อันธพาลก็เถอะ ... พี่ก็ไม่เคยปล่อยให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องชั่วๆเลย ...

    พี่ ยอมแบกรับเรื่องเลวๆเอาไว้คนเดียวเพียงเพื่อให้เขาได้เรียนหนังสือ .. มีบ้าน .. มีเงินใช้ .. มีข้าวกิน ... ทว่า เงินส่วนใหญ่นั้น.. พี่หามาได้อย่างสุจริตจากการทำงานพิเศษหลังเลิกเรียน ... จะมีก็บางครั้งเท่านั้นที่ไปขโมยหรือรีดไถเขามา ... หากแต่พี่ก็พยายามเลี่ยงที่จะไม่เบียดเบียนคนอื่น ... นอกจากเดือนนั้นจะขัดสนเรื่องเงินๆทองๆจริงๆ ..

    ตุ๊กตาหมีสีขาวใน มือตัวนี้ พี่ชายก็เป็นคนเก็บเงินซื้อให้เขาเหมือนกัน .. เพราะ พี่กลัวว่าเขาจะเหงาเวลาที่พี่ต้องออกไปทำงานหาเงินจนเหลือแต่เขาซึ่ง ต้องอยู่เฝ้าบ้านเพียงคนเดียวในตอนกลางคืน ..

    “ยังโกรธพี่อยู่อีก เหรอ ....?” เสียงทุ้มดังขึ้นจากทางด้านหลังเรียกให้นัยน์ตาสีหวานต้องตวัดหันไปมองด้วย ความตกใจ ... เมื่อพบว่า คนๆนั้นเป็นใคร ... แจจุงเลือกที่จะก้มหน้าลงต่ำ .. ไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงหรือสบตาคู่คมคู่นั้น ก่อนจะค่อยๆอ้อมแอ้มตอบคำถามออกมาด้วยน้ำเสียงอู้อี้ ...

    “แจ ... ไม่ได้... โกรธพี่ ...” ....... แค่อยากให้พี่ใจเย็นๆเท่านั้น ...

    ประโยค หลังได้แค่คิด เพราะ พูดอะไรไม่ออกเมื่อรู้สึกถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดของพี่ชาย ... ใบหน้าหวานซบลงบนแผงอกกว้างโหยหาความอบอุ่นที่ไม่เคยได้รับจากพ่อแม่อีกเลย หลังจากพวกท่านเสียชีวิตลงทั้งๆที่พวกท่านเพิ่งหย่ากันได้ไม่ถึงเดือน ... นี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไมพี่ถึงใช้นามสกุล ชเวของพ่อ และ เขาใช้นามสกุลคิมของแม่ ...

    หากพวกท่านยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ ละก็ ... พี่ชายและเขาคงต้องแยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง ... เพราะ พวกท่านวางแผนเอาไว้ว่า หาก สะสางธุรกิจของครอบครัวเสร็จเมื่อไหร่ คุณพ่อจะมารับตัวพี่ซึงฮยอนไปอยู่ด้วย ... ส่วนแจจุงนั้น .. คุณแม่จะเป็นคนรับไปดูแลเอง ...

    โชคร้าย ... ที่เครื่องบินของพวกท่านตกระหว่างเดินทางไปทำธุระที่ต่างประเทศ ... ทิ้งให้ลูกชายสองคนต้องดิ้นรนสู้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป ....

    แจ จุงเงยหน้าขึ้นช้อนมองผู้เป็นพี่ชายด้วยนัยน์ตารื้นน้ำ ... พี่เป็นคนเลี้ยงดูเขามาแท้ๆ แต่เขากลับดื้อดึงไม่เชื่อฟัง .. แต่แทนที่จะถูกดุเหมือนทุกๆครั้ง ... ท็อปกลับคลี่ยิ้มอบอุ่นส่งมาให้ทำเอาคนตัวเล็กเริ่มรู้สึกใจชื้นขึ้นมาอีก นิด ...

    “งั้นเหรอ ดีใจจังที่น้องแจไม่ได้โกรธพี่ ... ถ้างั้นวันหลัง ... อย่ากลับมาเองแบบนี้อีกนะ .. มันอันตราย รู้มั้ย” ท็อปเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล.. การเป็นหัวหน้าแก๊งค์อันธพาลนั้นมักมีศัตรูตามจองล้างจองผลาญอยู่เกือบจะ ตลอดเวลา ... ถ้ามันตามแต่เขาก็คงจะดี ... แต่นี่ ... เขายังมีน้องชาย ... น้องชายซึ่งเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ .. เชื่อได้ว่า พวกมันคงกำลังเล็งทำร้ายคนที่อ่อนแอกว่าอยู่แหงๆ ... แล้วไหนจะพวกหื่นกามที่มักคอยเดินตามคนสวยๆ พอมีโอกาสงามๆก็ฉุดกระชากไปทำมิดีมิร้ายอย่างไม่ทันให้เหยื่อได้ตั้งตัว ... เรียกได้ว่า มีอันตรายพลุกพล่านอยู่รอบด้านกันเลยทีเดียว ...

    “พี่บอกเองว่า พี่มีเพื่อนอยู่เกลื่อนเมือง .. พวกเขาคงช่วยดูแลแจได้อยู่แล้วละ ... พี่อย่ากังวลเรื่องแจเลยนะ ...”

    “ใช่ ... พี่มีเพื่อนเยอะมากๆ .. แถมวันนี้พี่ยังได้ยินมาอีกด้วยว่า น้องแจกลับมากับ ...”

    “???”

    “ชอง ยุนโฮ ... เป็นเรื่องจริงเหรอ?”

    “เอ่อ ... ฮะ...” ก้มหน้าเตรียมถูกดุเมื่อพี่ชายดันหูตาสับปะรดไปเสียทุกเรื่อง ...

    “ตลอด ชีวิตที่ผ่านมา ... พี่ต่อยตีกับอันธพาลมามากมาย .. เลวเดนนรกกันทุกคน แต่ ... ชอง ยุนโฮ ... แตกต่างจากเดนพวกนั้น .... มากทีเดียว” ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่ว่า เขาไว้ใจยุนโฮ ... เพียงแต่ ท็อป .. รู้สึกได้ถึงความเด็ดเดี่ยวและความมุ่งมั่นที่คล้ายกับตัวเขาไม่มีผิด ...

    ที่ ท้าต่อยท้าตีกันอยู่ทุกวันนั้นไม่ใช่ว่า เกลียดกัน ... แต่เป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกันตามนิสัยอันธพาลเลือดร้อนมากกว่า .. จนเมื่อสองวันก่อนที่เขาเกิดมีปากเสียงกับแจจุง ... เขาตัดสินใจหยุดและหลบหน้ายุนโฮ เพราะ ยังไม่มีอารมณ์ต่อยตีอะไรทั้งสิ้น หากยังไม่ได้เคลียร์กับน้องชายให้รู้เรื่อง ... แต่ตอนนี้ทุกๆอย่างเคลียร์แล้ว ... เพราะฉะนั้น ...

    พรุ่งนี้ ท็อปจะกำเนิดใหม่ ...

    ...

    “ไป อาบน้ำอาบท่าซะ ... เดี๋ยวค่อยมากินข้าว” แจจุงพยักหน้าหงึกๆแล้ววางตุ๊กตาหมีสีขาวไว้ในห้องรับแขก .. วิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำ .. พออาบเสร็จก็หย่อนก้นลงนั่งกินข้าวร่วมกับพี่ชาย

    ท็อป ยอมรับว่าไม่ค่อยมีเวลาให้น้องนอกจากช่วงเวลาหลังเลิกเรียนประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพราะ ท็อปต้องออกไปทำงานหาเงินข้างนอกต่อ .. ไม่ว่าจะเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านเหล้า ... เต้น B-BOY หากินตามข้างถนนร่วมกับเพื่อนๆอันธพาลอีกสามสี่คน ... ร้องเพลงในร้านอาหาร ... เป็นดีเจในผับ ..เรียกได้ว่า ทำทุกๆอย่างจริงๆ แต่สินทรัพย์ที่ได้มาในแต่ละคืนก็มากพอจะประทังชีวิตให้อยู่รอดไปได้ ... นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาต้องเข้าร่วมแก๊งค์อันธพาลเพื่อหาลู่ทางทำมาหา กิน ... พรรคพวกของเขาช่วยได้มาก เพราะ หากมีงานที่ไหน พวกนั้นก็จะชวนเขาไปทำด้วยเสมอ ...

    โชคยังดีที่พ่อทิ้งเงินจากการ เล่นหุ่นเอาไว้ให้บ้าง ท็อปจึงนำเงินเหล่านั้นไปใช้เป็นทุนการศึกษาของแจจุง ส่วนคาเทอมของตัวเองไม่ค่อยสูงมากนัก เพราะ เป็นมหาลัยของรัฐบาล จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรแต่อย่างใด .. จะมีก็แต่ปัญหาเรื่องของปัจจัยสี่เท่านั้นที่ต้องทำงานหาเงินมาจ่ายเอง ...

    “เอ่อ .. พี่ไปทำงานก่อนนะ .. ล็อคประตูบ้านแล้วก็ห้องนอนด้วยละ”

    “ฮะ ...” ยิ้มหวานให้พี่หนึ่งที ก่อนจะกระโดดจุ๊บแก้มกร้านเป็นการบอกลา ...

    “อ่า ... พี่ไปจริงๆละ”

    “พี่ ฮะ ... พรุ่งนี้แจจุงว่าจะเอาของไปคืนเพื่อนหน่อย .. ถ้าพี่ตื่นมาแล้วไม่เห็นแจจุงก็ไม่ต้องตกใจนะฮะ ... สัญญาว่าจะรีบกลับบ้าน ^^”

    “อ่อ .. งั้นหรอ .. โอเค ...” ที่ท็อปยอมให้น้องชายออกไปไหนมาไหนคนเดียวได้ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นั้น ไม่ใช่ว่า เขาไม่ห่วงน้อง เพียงแต่ว่า ... พรรคพวกที่ว่างงานของเขามักจะเดินเพ่นพ่านไปมาอยู่ในเมือง .. หากมีอันตรายเกิดขึ้น พวกนั้นก็มักจะเป็นมือเป็นเท้าแทนหัวหน้าอย่างเขาอยู่เสมอๆ ...


    “...............”

    “ราตรี สวัสดิ์นะ .. น้องแจ” คลี่ยิ้มบางๆให้น้องชาย ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตูแล้วเดินออกจากบ้านไปโดยมีน้องชายตัวเล็กตามออก มาส่งที่หน้าบ้าน....

    แจจุงยืนมองแผ่นหลังกว้างของพี่ชายค่อยๆถูก ความมืดยามค่ำคืนกลืนหายไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง ... ลับสายตาไปในที่สุด ... ความเหงาเริ่มเกาะกินหัวใจดวงน้อยอีกครั้งอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ... พอรู้ตัวอีกที ... น้ำใสๆก็หยดลงบนขนปกปุยของตุ๊กตาหมีสีขาวในอ้อมแขนเล็กเสียแล้ว ....

    “ฮึก ... ทำไมถึงได้อ่อนแออย่างนี้นะ” ปาดคราบน้ำตาออกพร้อมกับปิดล็อคประตูหน้าต่างเพื่อเตรียมตัวเข้านอน ...

    คืนนี้ ... ก็คงเป็นอีกคืนที่ร่างบางต้องพยายามทำตัวให้ชินกับการอยู่คนเดียวให้ได้ ...




    XXXXXXXXXXXXXXX


    หนุ่ม น้อยตัวเล็กในชุดเสื้อแขนกุดมีฮู้ดสีขาวบริสุทธิ์เข้าคู่กับกางเกงขาสามส่วน สีน้ำตาลอ่อนและร้องเท้าผ้าใบสีเดียวกับเสื้อ ... ทั้งๆที่แต่งชุดเหมือนกับเด็กผู้ชายทั่วๆไป แต่วงแขนเล็กก็ยังหอบเอาตุ๊กตาหมีสีขาวมาด้วย ..

    เป็นเด็กน่ารัก ที่โดดเด่นมากจริงๆ ... ทั้งรูปร่าง หน้าตา สไตล์การแต่งตัว หรือแม้แต่เอกลักษณ์เฉพาะตัว .... ยุนโฮรู้ได้ทันทีว่า คนๆนี้เป็นใคร ถึงแม้เด็กคนนั้นจะยังเดินมาไม่ถึงก็ตาม ..

    “แจจุง .....” เสียงทุ้มนุ่มเรียกให้ดวงหน้าหวานต้องหันไปมองอย่างเสียไม่ได้ ... นัยน์ตาเล็กหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเห็นเด็กหนุ่มร่างสูงหน้าตาดีคนหนึ่งกำลัง โบกมือมาให้ ... ร่างบางยิ้มหวานในทันทีที่ตระหนักได้ว่าผู้ชายที่ยืนอยู่บนฟุตบาทตรงอีกมุม ถนน คือ ชอง ยุนโฮ ... คู่อริอันดับหนึ่งของพี่ซึงฮยอนนั่นเอง ...

    คงไม่ผิดใช่มั้ยที่เขาจะมีความรู้สึกดีๆให้กับคนๆนี้ตั้งแต่พบหน้ากันครั้งแรก ...

    “โหย ยย ... ไอยุน ... นี่แกไปสนิทชิดเชื้อกับน้องชายคู่อริตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ... แม่งไวกว่ากุตอนจีบจุนซูอีก ...” โดนไก่จิกกบาลเข้าให้หนึงทีเรียกสายตาประหลาดๆจากสหายรักสายพันธุ์หมีขั้ว โลกได้เป็นอย่างดี ... คยูฮยอนซึ่งยืนอยู่ข้างๆจึงต้องรีบห้ามปรามศึกภายในแก๊งค์ที่กำลังจะเกิด ขึ้นแน่นอนหากปากไก่ๆของยูชอนยังรั่วได้รั่วดีอยู่แบบนี้ ...

    ระวังเหอะ ... ฟันซี่สวยๆจะได้หายทั้งแถบโดยไม่ต้องรอให้อายุอานามขึ้นเลข 8 แต่อย่างใด ...

    “บังเอิญ จังเลยนะฮะ ^^” เสียงหวานชวนเคลิ้มหลุดออกมาจากริมฝีปากแดงอิ่มพร้อมกับแจกจ่ายยิ้มหวานๆให้ ชายหนุ่มทั้งแก๊งค์ได้บริหารหัวใจกันตั้งแต่เช้าตรู่ ... ยุนโฮกระแอมไอเบาๆเมื่อพรรคพวกทั้งหลายแหล่ชักจะทำสายตาหยาดเยิ้มใส่ เพราะ ความน่ารักมันกระแทกตาเข้าให้อย่างจัง ...

    เดี๋ยวเหอะ ... เดี๋ยวได้โดนพี่ชายเขาตะปบหัวเอาไปเสียบประจานกันทั้งแก๊งค์ -*-

    ยุนโฮหันกลับไปสนใจร่างเล็กที่ลงทุนเดินข้ามถนนมาหาพร้อมกับเอ่ยถามคำถามสุดแสนจะธรรมดาออกไป ...

    “แจจุงจะไปไหนเหรอ?”

    “กำลัง จะเอาของไปคืนเพื่อนนะฮะ ... แล้วพี่ยุนโฮละ ?” ถามกลับอย่างเป็นธรรมชาติสร้างความงุนงงให้กับปาร์ค ยูชอนและโจวคยูฮยอนได้เป็นอย่างดีว่า ไอยุนมันไปรู้จักมักจี่กับน้องชายคู่อริตั้งแต่ตอนไหน ... คุยกันอย่างกับรู้จักกันมานานแรมปียังไงยังงั้น ...

    “พี่ว่าจะไปซื้อหนังสือที่ร้านซองมินบุ๊คสักหน่อยนะ ...”

    โกหก !!! แล้วเมื่อกี้ใครเป็นคนบอก(วะ) ว่า จะไปวางแผนตีกับคนอื่นที่บ้านปาร์ค ยูชอน - * -

    ทำเป็นขยันเรียกร้องความสนใจจากเด็ก ... โด่ ... !! เอามุขกุมาใช้นี่หว่า (นั่นไง)

    “เอ๋? .. นั่นร้านเพื่อนแจจุงเองฮะ .. นี่ หนังสือที่แจจุงยืมของซองมินมาอ่าน ว่าจะเอาไปคืนที่นั่นพอดี ... ไปด้วยกันมั้ยฮะ?” ฉีกยิ้มหวานเมื่อหาเพื่อนร่วมเดินทางได้ทั้งฝูง (?) ... ยุนโฮแปลกใจนิดๆกับการปรับตัวอันรวดเร็วของแจจุง ... เมื่อวันนั้นยังร้องไห้จ้าที่เห็นหน้าโหดๆของพวกเขาอยู่แท้ๆ แต่วันนี้กลับชวนให้เดินทางไปด้วยกันซะอย่างนั้น ...

    “ไปด้วยอยู่แล้ว แต่ ... แจจุงไม่กลัวพวกพี่แล้วเหรอ? ...” ถามหยั่งเชิง ... ร่างบางชะงักเมื่อได้ยินคำถามนั้น ก่อนจะส่ายหัวช้าๆเป็นคำตอบ ...

    “พี่ ท็อปบอกเองว่า พี่ยุนโฮไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ...” อึ้งกิมกี่กันทั้งแก๊งค์อย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยินไป เมื่อครู่ ... แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะ ตลอดหลายปีที่ฉะกันเลือดนองนั้น ไม่เคยมีสักครั้งที่พวกเขาพ่นด่าคำว่า “เกลียด” ใส่กัน

    บางที .. พวกเขาอาจจะกำลังเรียนรู้ซึ่งกันและกันอยู่ก็เป็นได้ ...


    เดิน คุยกันไปอีกสักพัก .. แจจุงก็พายุนโฮและสหายสองหน่อเข้าไปในร้านหนังสือตรงหัวมุมถนน โดยปล่อยให้ลูกน้องประมาณสิบคนยืนรออยู่ข้างนอก เพราะ กลัวเจ้าของร้านจะตกใจ

    “ยินดีต้อนรับฮะ ... อะ .. อ้าว .. แจจุง ??” กระดี้กระด้ากระโดดกอดคอเพื่อนรักร่างบางที่นำหนังสือนิยายมาคืนถึงที่ร้าน ... คยูฮยอนเผลอจ้องมองกระต่ายน้อยร่างอวบขาวตาเป็นมัน ... น่ารักจนแอบถูกใจ ...


    ... เมื่อกระต่ายน้อยรู้สึกตัวว่ากำลังถูกหมาป่า(?)มอง .. ซองมินจึงกระซิบถามแจจุงเบาๆว่าไอสามคนข้างหลังนั้นเป็นใครมาจากไหน ...

    “อ่า .. แจลืมไป. .. นี่ ... เพื่อนๆของพี่ท็อปเขานะ ...”

    เพื่อน ??? ... หนังตาพ่อปลาช่อนชักกระตุกยิกๆ ...

    “อ่อ .. อย่างนี้นี่เอง .. “ ซองมินส่งยิ้มไปให้แขก ก่อนจะหันกลับมาสนใจแจจุงและชายหนุ่มร่างสูงผู้เป็นลูกค้าต่อ

    “พี่ยุนโฮจะซื้อหนังสืออะไรเหรอฮะ .. เดี๋ยวซองมินเขาจะไปค้นมาให้ ...” เสียงหวานเอ่ยถามคู่อริของพี่ชาย ...

    “เอ่อ .. เอาเล่มนั้นก็แล้วกัน” ชีวิตนี้ไม่เคยแตะหนังสือได้เกินสิบนาทีเลยด้วยซ้ำ .. ยุนโฮจึงชี้นิ้วไปที่หนังสือเกี่ยวกับรถยนต์ที่ตั้งไว้บนเคาน์เตอร์ ... ใหม่เอี่ยมแกะกล่องราคากำลังพอดี ...

    เนียนได้อีก ... คุณมะหมี - -“

    “เอ่อ ... พี่ขอเล่มนี้ด้วยคนนะ” ซองมินพยักหน้าให้กับหนุ่มร่างสูงอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเด็กหนุ่มหน้าตา คล้ายหมีขั้วโลกเหนือพร้อมกับหยิบหนังสือแบบเดียวกันมาคิดเงิน ...

    ยู ชอนมองทึ่งๆเมื่อ “พ่อหน้านิ่ง” ประจำแก๊งค์ยอมเปิดปากพูดเป็นครั้งแรก ... สงสัยเกิดติดใจเด็กร้านหนังสือคนนี้เข้าให้แล้วมั้ง ... >__<

    “ไอ ยุน ... เดี๋ยวกุพาลูกน้องไปเล่นเกมส์หน่อยนะ ... ส่วนแกกับคยูก็เริงร่ากันต่อไป ... เจอสาวๆถูกใจแล้วนี่” ยูชอนตัดสินใจหาคู่ให้เพื่อนโดยไม่ต้องสุมหัวประชุมให้มากความ ..

    อยู่ไปก็ยิ่งรู้สึกพะอืดพะอม เพราะ บรรยากาศสีม่วงมันปกคลุมทั่วร้านไปหมด ..

    คยูมองซองมิน ...

    ไอยุนก็ลอบมองแผ่นหลังบางๆของแจจุงเป็นระยะๆ ...

    ใช่ซี่ ~ !!!!!!!!!!! ก็ไก่ไม่มีโลมาให้มองนี่ >[] <!!!!



    “เออ ... พรุ่งนี้เจอกัน ...”

    ผิด คาด ... ปกติ ชอง ยุนโฮ มักจะปรามปากรั่วๆด้วยสายตาคมเข้มเชือดเฉือนอยู่เสมอๆ ... แต่ไหงวันนี้แลดูสงบเสงี่ยมผิดปกติ แถมยังไม่ต่อล้อต่อเถียงคำพูดส่อๆที่เขาพูดออกไปเมื่อกี้นี้เลย ...

    เอาแล้วสิ ... ติดใจเด็กเข้าให้แล้ว ... สหายตู - -+

    เห็นที .. แก๊งค์อันธพาลลือชื่อ .... จะได้แตกออกเป็นสามก๊กก็คราวนี้ ...

    ก๊กแรกนำทีมโดย ปาร์ค ยูชอน พร้อมสหาย ...

    ก๊กที่สอง ฉายเดี่ยวโดยคยูฮยอน

    และก๊กที่สาม ฉายเดี่ยวโดย ชอง ยุนโฮ หัวหน้าแก๊งค์ผู้ลือชื่อ ...


    XXXXXXXXXXXXXXXXX



    “แจจุงกินข้าวมาหรือยัง?”

    “เอ๋? .. เอ่อ ... ยังเลยฮะ ...” เอ่ยเขินๆเมื่อสังเกตมานานแล้วว่า ยุนโฮเอาแต่จ้องมองเขาอยู่เกือบจะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ... ยิ่งเพื่อนของพี่ยุนโฮที่ชื่อ คยูอะไรนั่นตัดสินใจอยู่คุยกับซองมินต่อด้วยแล้ว ... คราวนี้เลยไม่มีใครตามมาด้วย ...

    เหลือแค่ยุนโฮกับเขา ... เท่านั้น ...

    “พี่ก็ยังเหมือนกัน ... ไปหาอะไรกินกัน”

    “กะ .. ก็ได้” รีบหันหน้าไปทางอื่นเมื่อเผลอสบเข้ากับนัยน์ตาคมเข้าอย่างจัง ...

    ทั้งๆ ที่เขินจนหน้าแดง แต่แจจุงก็อดที่จะไม่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เวลาอยู่ใกล้ยุนโฮทีไร เขามักจะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย .... ความเหงาที่เกาะกุมหัวใจดวงน้อยมานานหลายปีเหมือนจะค่อยๆถูกทลายลงช้าๆราว กับก้อนน้ำแข็งหนาหลายเมตรที่ถูกละลายด้วยความร้อนจากแสงสว่างของพระอาทิตย์ ...



    แจจุงสะดุ้งหลุดจากภวังค์เมื่อรู้สึกถึงมือหยาบกร้าน เนื่องจากการจับถืออาวุธแข็งๆมาเป็นเวลานานเอื้อมมาคว้ามือนุ่มนิ่มของเขาไป จับแล้วเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นร้านเจ้าประจำของยุ นโฮกับเพื่อนๆเลยก็ว่าได้ ..

    “อ้าว ... ยุนโฮ .... วันนี้แปลกจัง ... มากับแฟนเหรอจ๊ะ ?” คุณป้าเจ้าของร้านเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง ... ยุนโฮส่ายหน้าเป็นพัลวันพร้อมกับหันหน้าไปมองร่างบางว่าจะมีปฏิกิริยาอย่าง ไรบ้าง .. ผลปรากฏว่า ...

    แจจุงกอดหมีขาวในมือแน่นมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเลือดส่วนใหญ่ในร่างกายกำลังวิ่งลิ้วๆไปหล่อเลี้ยงใบหน้าขาวๆของตัวเอง ... หัวใจดวงน้อยเต้นตูมตามแทบหลุดกระเด็นออกมานอกอก

    แฟน ? ... แฟนงั้นหรอ? ... เขากับพี่ยุนโฮเป็นผู้ชายเหมือนกันนะ ><!!!

    จะเป็นแฟนกันได้ยังไง ...

    “ไม่ ใช่ครับป้า ... เขาเป็นน้องชายของเพื่อนผมนะครับ...” คุณป้าหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อดันทักผิดซะอย่างนั้น ... เธอหายเข้าไปในครัวสักพัก ก่อนจะออกมารับออเดอร์ของยุนโฮแล้วกลับเข้าไปผัดกับข้าวที่ลูกค้าสั่งต่อ อย่างขยันขันแข็ง ...

    เพราะว่า ยุนโฮเสียแม่ไปตั้งแต่วินาทีแรกที่ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้ ... เขาจึงมาหาคุณป้าใจดีที่นี่บ่อยๆ ... ไม่แน่ว่า .. เขาอาจจะกำลังโหยหาความอบอุ่นที่ไม่เคยได้รับจากคุณแม่ก็เป็นได้ ...

    เพราะ ... ถึงแม้คุณพ่อที่ไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่ยุนโฮเพิ่งอายุได้ 15 ปีจะโอนเงินผ่านทางบัญชีธนาคารมาให้ทุกเดือน... แต่เงินไม่สามารถซื้อหาความรักและความอบอุ่นได้ ... ดังนั้น ตลอด 4 ปีที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวเนื่องจากว่า เขาตัดสินใจย้ายออกจากบ้านหลังเก่าเพื่อมาใช้ชีวิตอยู่คนเดียวร่วมกับ เพื่อนๆชะตากรรมเดียวกันอีกเป็นโขยง เพราะ ไม่อยากขัดขวางความสุขระหว่างแม่ใหม่กับคุณพ่อ.. เขาจึงพยายามแสวงหาความรักที่แท้จริงจากใครสักคนหนึ่งมาโดยตลอด ..

    แต่ จนถึงบัดนี้ ... เขาก็ยังไม่พบ ... ได้แต่ทำตัวแหลกเหลวไปวันๆเพื่อปิดซ่อนความอ่อนแอภายในจิตใจของตัวเองไม่ให้ คนอื่นรับรู้ได้ ...

    “อ่า ... กับข้าวได้แล้วจ้า” คุณป้ายกกับข้าวมาเสิร์ฟ ก่อนที่เธอจะนั่งลงข้างๆเด็กตัวเล็กหน้าหวานท่าทางน่ารักเอ็นดู ... แต่ไหนแต่ไรมาเธอเป็นคนที่ชอบพูดคุยกับเด็กอยู่แล้ว เพราะ มันคล้ายกับว่า เธอกำลังคุยอยู่กับลูกๆหลานๆ ...

    “หนูชื่ออะไร ลูก?”

    “แจจุงฮะ ...” ตอบด้วยรอยยิ้มน่ารัก ...

    “ป้า ชื่อ เยอึนนะจ๊ะ ... ถ้าถูกพี่ยุนโฮแกล้งละก็ ... ฟ้องป้าได้เลย .. เดี๋ยวป้าจะจัดการให้” ลูบศีรษะเล็กเบาๆอย่างนึกเอ็นดู ... ยุนโฮหัวเราะขำเมื่อคุณป้าพูดอะไรที่ค่อนข้างเป็นไปได้ยากเสียเหลือเกิน

    “โอ้ ววว ... ลูกค้ามา .. เดี๋ยวป้าไปทำงานก่อนนะ ...” ป้าเยอึนรีบลุกไปต้อนรับแขกเหรื่อที่แน่นร้านอยู่เป็นประจำด้วยใบหน้าเปื้อน รอยยิ้ม ...

    เมื่อได้อยู่กันสองต่อสอง ... ยุนโฮจึงเริ่มเปิดปากถามเกี่ยวกับเรื่องทั่วๆไปของเด็กตัวเล็กที่กำลังเพลิด เพลินอยู่กับข้าวหน้าหมูเกาหลี ...

    “แจจุงอาศัยอยู่กับพี่ท็อปแค่ สองคนเหรอ?” มือที่จับช้อนชะงักค้าง ก่อนที่แจจุงจะรวบช้อนและส้อมเอาไว้ข้างๆชามข้าวอย่างเรียบร้อย... อัตราความเร็วในการเคี้ยวช้าลงเล็กน้อยแต่มันก็ถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอขาว ภายในเวลาไม่ถึงเสี้ยววิ .. นัยน์ตาสีหวานตวัดขึ้นสบกับนัยน์ตาของอีกฝ่ายสร้างความแปลกใจให้คนถามคำถาม ได้ไม่ยาก

    “ ฮะ ... พี่ท็อปเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวของแจจุงนะ...” ตอบออกไปตามความเป็นจริงซึ่งยุนโฮเองก็พอรู้มาบ้างเกี่ยวกับเรื่องของคู่อริ หมายเลขหนึ่ง ....เพียงแต่อยากจะถามให้แน่ใจถึงสภาพครอบครัวที่ดูยังไงๆก็ไม่น่าจะเป็นไป ได้สักนิด ...

    แจจุงเหมือนเด็กที่ได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่อย่างครบถ้วน ... แถมยังเป็นเด็กดี ขี้อาย และน่ารักมากๆ ..



    “พี่เห็นท็อปไปทำงานที่ผับบ่อยๆ ... ตอนกลางคืนอยู่บ้านคนเดียวคงจะเหงาสินะ”

    “เอ๋? ... เอ่อ ... ฮะ ...” ก้มหน้างุดๆหลบสายตาคู่คมที่เหมือนกับตาทิพย์ซึ่งคอยเอาแต่จ้องจะอ่านใจผู้ อื่น ... แต่แจจุงไม่โกรธเลยสักนิด เพราะ เรื่องที่พี่ยุนโฮพูดมันถูกหมดแทบทุกประการ ...

    “ จะไม่เหงาแล้วละ ...”

    “???”

    “พี่จะไปหาแจจุงที่บ้านเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาทุกคืนเลยดีมั้ย?”

    “เอ๋? ... จะ ... จะดีหรอ” อยู่ๆก็รู้สึกเขินขึ้นมาเมื่อพี่ยุนโฮอาสาจะมาเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาที่บ้านทุกคืน ....

    “พี่ ไม่เข้าไปในบ้านหรอก ... ไม่ต้องกลัว” คลี่ยิ้มอบอุ่นไปให้อย่างอ่อนโยน ... แจจุงเองก็เช่นเดียวกัน ... เขารู้สึกว่า ไม่ได้ยิ้มกว้างๆแบบนี้มานานแล้ว ...

    เมื่อคนขี้เหงามาเจอกับคนขี้เหงา ... ก็มักจะเข้าใจความรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายของกันและกันดีกว่าคนที่มีทุกๆอย่างเพียบพร้อม ...

    นี่คงเป็นพรหมลิขิตจริงๆสินะ .... ที่ทำให้คนเหงาๆได้มาเติมเต็มความรู้สึกให้แก่กัน ...


    อาหาร มื้อเที่ยงที่เต็มไปด้วยความสุขผ่านพ้นไปได้ด้วยดีในความคิดของ ชอง ยุนโฮ ... เพราะถึงแม้เด็กคนนี้จะเป็นน้องชายของคู่อรินัมเบอร์วัน แต่นิสัยและสไตล์การใช้ชีวิตช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ...

    “แจจุงไปก่อนนะฮะ ....”

    “อืม .. คืนนี้เจอกัน ..” โบกมือลาด้วยรอยยิ้มแล้วรีบกุลีกุจอหาที่หลบซ่อนดีๆสักที่เป็นพัลวันเพื่อ ไม่ให้ท็อปที่น่าจะเปิดประตูออกมารับแจจุงเห็นว่า เขามาส่งแจจุงจนถึงหน้าบ้าน ... หารู้ไม่ว่าเส้นสายของท่านท็อปนั้นเยอะแยะอย่าบอกใคร ...

    เพียงแต่คนรู้ มันไม่ปริปากพูดก็เท่านั้นเอง ...

    เห็นอย่างงี้คงจะสงสัยกันแล้วละสิ ... ว่าคู่อริคู่นี้มันมีอะไรในกอไผ่กันหรือเปล่า? ... (คนอ่าน – กุสงสัยตั้งนานแล้ว)



    คืนนั้น ....

    “พี่ ไปก่อนนะ ... ล็อคประตูกับหน้าต่างให้ดีๆละ” ท็อปเอ่ยกับน้องชายเหมือนทุกๆครั้งที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ... ร่างบางยืนมองผู้เป็นพี่ชายจนกระทั่งแผ่นหลังหนาหายวับเข้าไปในความมืด

    “เฮ้อ ~ “ ยืนถอนหายใจอยู่คนเดียวเมื่อเอื้อมมือไปปิดประตูบ้านแล้วลงกลอนเสร็จสรรพ ... ตรวจเช็คบานหน้าต่างว่าล็อคหมดแล้วหรือยังอย่างที่ทำเป็นประจำทุกคืนก่อน เข้านอน ...

    เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่มีอะไรผิดปกติ ... แจจุงจึงหย่อนกายลงนั่งทำการบ้านอยู่บนโต๊ะในห้องนอนส่วนตัว ...

    แอบลุ้นอยู่นิดๆว่า คนๆนั้นจะมาหาที่บ้านอย่างที่พูดไว้เมื่อเช้าหรือเปล่า ? ...

    ใน ขณะที่นัยน์ตาเล็กกำลังหวานเยิ้มได้ที่เนื่องจากเลยเวลานอนมานานมากแล้ว ... อยู่ๆแจจุงก็รู้สึกเหมือนกับว่า กำลังถูกใครใช้สายตาจ้องมองมาที่ตัวเอง ... นัยน์ตาสีสวยรีบตวัดหันไปโฟกัสอยู่ที่หน้าต่างบานข้างๆซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำ ให้เจ้าตัวรู้สึกอย่างนั้นตามสัญชาตญาณของมนุษย์โดยทั่วไปเมื่อถูกใครจับ จ้องนานๆ ..

    “พี่ .. พี่ยุนโฮ???” นัยน์ตากลมที่เยิ้มในคราแรก เบิกกว้างเท่าไข่ห่านเมื่อหันไปเจอะกับเด็กหนุ่มร่างสูงที่ยังคงอยู่ในชุด เดิม ... แต่ดูเหมือนจะไปมีเรื่องกับใครมาจนเสื้อผ้าหน้าผมยุ่งเหยิงไปหมด ... ทว่ากลับดูดีได้อย่างไม่น่าให้อภัย ...

    แจจุงรีบเปิดบาน หน้าต่างออกทันที เพราะ อยากเจอคนๆนี้มากจนเจ้าตัวเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า จะนั่งรออยู่ทำไมตั้งนานสองนาน ทั้งๆที่ไม่มีอะไรมารับประกันได้เลยว่า พี่ยุนโฮจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเด็กอายุ 14 เช่นเขาจริงๆ ...

    “ไง ... ขอโทษนะ ... พี่มาซะดึกเลย” เคลื่อนกายเข้าชิดบานหน้าต่างมากขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มแหยๆไปให้เด็กร่างบางใน บ้าน ... ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ... เผลอแค่ไม่กี่วินาที ... ร่างบอบบางน่าทนุถนอมก็กระโดดกอดรอบลำคอของเด็กช่างกลร่างสูงเข้าเสียแล้ว ... คนถูกกอดยืนนิ่งไม่ไหวติง ... แอบช็อคอยู่หน่อยๆเมื่อไม่คิดว่า น้องชายคู่อริจะทำแบบนี้ ...

    โชคดีที่มีกำแพงกั้นขวางระหว่างคน ทั้งสอง ... ผิวเนื้อและสาปเสื้อบางหอมกรุ่มจึงสัมผัสโดนแต่ท่อนบนของยุนโฮที่โผล่พ้น หน้าต่างบานใหญ่มาท่านั้น ... ถ้าผิวกายสัมผัสโดนกันทั้งตัวละก็ .... เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่า จะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ..

    เหงามาเจอเหงา ... หากบรรยากาศมันพาไป .... เรื่องที่ไม่ถูกไม่ควรก็มักเกิดขึ้นได้เสมอ ...

    “นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว...” ผละออกจากคนตัวสูงแล้วเอ่ยวาจาเชิงน้อยใจออกไป ...

    “มาแล้วนี่ไง ... หมีตัวเป็นๆเลย ^^” แจจุงหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อยุนโฮเปลี่ยนชื่อให้ตัวเองเสียแล้ว ...

    ร่าง บางจึงรีบคว้าเก้าอี้มานั่งพร้อมกับเกาะบานหน้าต่างเพื่อจะได้นั่งฟังเรื่อง ราวต่างๆที่พี่ยุนโฮภูมิใจจะมานำเสนอ... แต่ไหงช่วงหลังๆกลายเป็นแจจุงซะเองที่เริ่มถามนู่นถามนี่ ..

    “พี่ยุน ... เจอกับพี่ท็อปครั้งแรกเมื่อไหร่ฮะ?”

    “อื้มมม ... ประมาณครึ่งปีที่แล้วละมั้ง....”

    “แล้ว ... ทำไมพวกพี่ถึงต้องตีกันด้วย?” ร่างสูงส่งยิ้มละมุนละไมไปให้คนตัวเล็กที่นัยน์ตาชักจะเยิ้มๆ ... ก่อนจะยอมเปิดใจคุยกับแจจุงตรงๆโดยไม่มีอะไรปิดบัง ...

    “อ่า .. ตอนแรกเป็นเพราะเรื่องความเป็นใหญ่ในมหาลัยนะ ... แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วละ ...”

    “เอ๋?... แจจุงไม่เข้าใจอ่ะ”

    “อืม มม .. ว่าไงดีละ ... ถ้าท็อปกับพี่ไม่ใช่หัวหน้าแก๊งค์ที่ต้องควบคุมลูกน้องนับสิบละก็ ... พวกเราคงเป็นเพื่อนที่รักกันได้ ... พี่เชื่ออย่างนั้นนะ ... และอีกอย่าง ท็อปก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ... ออกจะเป็นคนดี แต่ปากแข็งไปหน่อย มันก็เท่านั้น ... ที่พี่ส่งสารไปท้าตีกับท็อปบ่อยๆ ก็เพราะ มันเคยชินไปแล้ว ... ถ้าวันไหนไม่ได้ตีกัน เหมือนขาดอะไรไปอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ ...” แจจุงพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่คู่อริพี่ชายพูด .. ทว่าคำถามแรกเพิ่งจะจบไปได้ไม่นาน .. คำถามที่สองก็ตามมาแบบติดๆ ... เล่นเอายุนโฮถึงกับพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว ...

    “แล้ว ... ทำไม ... พี่ยุนถึงมาเป็นอันธพาลละ ?... คือ ... ถ้าไม่สะดวกจะตอบก็ไม่เป็นไรนะ”

    แจจุงก้มหน้าลงต่ำ เพราะไม่แน่ใจว่า คำถามส่วนตัวอย่างนี้ พี่ยุนโฮจะยอมตอบเขาหรือเปล่า ...

    แต่ที่ถามไปทั้งหมดนั้นมันก็ไม่ได้มีอะไรเลย ... เขาแค่อยากรู้จักพี่ยุนโฮให้มากขึ้น มันก็เท่านั้นเองจริงๆ ...

    “พี่ เสียแม่ไปตั้งแต่เกิดมาลืมตาดูโลกใบนี้ได้ไม่นาน .... พออายุ 15 ... พ่อพี่ก็แต่งงานใหม่กับผู้หญิงจิตใจดีคนหนึ่ง ... พี่เลยย้ายออกมาอยู่คนเดียว ก็ได้เพื่อนๆที่แจจุงเห็นเมื่อตอนเช้านั่นแหละ คอยช่วยเหลือ ... มันก็พอจะทำให้หายเหงาไปได้บ้างละนะ ...”

    ใช่ .... ก็แค่พอให้หายเหงา ... แต่ไม่ได้ช่วยหายขาดไปเลยซะทีเดียว ....

    ยุนโฮต้องการอะไรที่มันมากกว่านั้น ...

    “ขอโทษนะ ... แจจุง ... ถามอะไรไม่เข้าเรื่องเลย...”

    “ไม่ หรอก ... ถ้าเป็นแจจุงละก็ ... พี่ยินดีที่จะตอบ...” ลูบหัวกลมๆที่เชยคางอยู่บนขอบหน้าต่าง ... นัยน์ตาสวยหยาดเยิ้มเป็นสัญญาณเตือนว่า เวลาแห่งความสุขกำลังจะผ่านพ้นไปอีกครั้ง ..

    “..................”

    “ไปนอนเถอะ ... พรุ่งนี้พี่จะมาหาใหม่นะ “

    “อื้อ อ ....” เมื่อเห็นว่า ร่างบางยังคงนั่งแช่ไม่ยอมลุกไปนอนบนเตียง ... ยุนโฮ กลัวว่า เด็กคนนี้จะไม่สบายเพราะนั่งคุยกับเขาจนหลับคาขอบหน้าต่าง ... ร่างสูงตัดสินใจปีนเข้ามาข้างในห้องพร้อมกับช้อนตัวคนหลับขึ้นอุ้มไปวางไว้ บนเตียงอย่างนุ่มนวลที่สุด ... หยิบตุ๊กตาหมีขาวบนโต๊ะทำการบ้านสอดลงข้างใต้ผ้าห่มเพื่อให้แจจุงนำไปกอด

    โคม ไฟบนหัวเตียงถูกดับลงโดยไม่ลืมเอื้อมมือไปล็อคบานหน้าต่างบานนั้นแล้วออกจาก บ้านทางประตูแทน เพราะ ประตูล็อคจากทางด้านนอกได้ ... ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อความปลอดภัยของคนในบ้านทั้งสิ้น ...


    ยุ นโฮลอบถอนหายใจออกมาช้าๆแล้วแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวนับล้าน ดวง ... มันแข่งกันกระพิบส่องแสงเรืองรองอยู่ท่ามกลางความมืดมิดยามค่ำคืนแลดูสวยงาม และน่าค้นหา .. เด็กหนุ่มช่างกลรีบสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปจนเต็มปอด ... ก่อนจะค่อยๆลืมนัยน์ตาคมเข้มขึ้นอย่างช้าๆ ....


    “แม่ครับ ... ผมเจอคนที่ผมรอมาทั้งชีวิตแล้วครับ ...”





    TO BE CON !!!!

    PART 2
    tvxqfic_yenta4-emoticon-0034.gif



    ขอบคุณคนเม้นจ้าา ..

    ปล. ชื่อเรื่องมันฮาจริงๆนั่นละ ... ฮ่าๆๆ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×