ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TVXQ YAOI FIC] ≧ω≦ ขอโทษครับ ผมเป็นหมี !! [YJ,YS]

    ลำดับตอนที่ #1 : [FIC] ≧ω≦ ขอโทษครับ ผมเป็นหมี !! Intro

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 53


    Title :: [FIC] [FIC] ≧ω≦ ขอโทษครับ ผมเป็นหมี !! Intro 
    Story by :: Tachi_Naniki
    Pairing :: YUNHO x JAEJOONG (Feat.YS)
    Category :: Romantic comedy
    Rate :: PG-NC


    QUOTE
    ฟิกเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากการ์ตูนเรื่อง Fruits Basket อาจจะคล้ายในบางอย่างแต่ไม่ทั้งหมดนะคับ




    INTRO 


    หล่อ เท่ เพอเฟ็ค .. แฮนซัมแมน ... ทุกอย่างที่กล่าวมาทั้งหมดคนทั้งโรงเรียนพร้อมใจกันยกให้ท่านประธานนักเรียนนาม "ชอง ยุนโฮ" แต่น่าแปลกที่คนหล่อๆแบบนี้ไม่เคยสนใจจะคบใครเป็นตัวเป็นตนเลยสักคน แถมยังเคยมีข่าวลือไม่ดีหนาหูอย่างการผลักเพื่อนนักเรียนหญิงที่พยายามจะเข้ามาสารภาพรักจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าตัวก็ออกมาให้เหตุผลด้วยหน้าตาเทพบุตรว่า ไม่อยากให้เพื่อนผู้หญิงเสียหายเพราะทางฝ่ายนั้นพยายามจะกระโจนเข้ามากอดตนจนตนจนเผลอพลั้งมือไปเนื่องจากศิลปะการป้องกันตัวที่ฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กเกิดทำงานขึ้นมากะทันหัน ... 

    ก็แค่คำแก้ตัวน้ำขุ่นๆละนะ.. แต่น่าแปลกที่คนทั้งโรงเรียนไม่แม้แต่จะติดใจสงสัยอะไรเพราะยังไงเสียก็จับยุนโฮมาคาดคั้นไม่ได้อยู่แล้ว .. แฟนคลับนายหน้าหมีคนนี้ขึ้นชื่อว่าน่ากลัวมากจนไม่มีใครกล้ายุ่ง... เพราะเหล่าบรรดาแฟนคลับถือคติหมู่ที่ว่า ใครกล้าเข้ามายุ่งกับยุนโฮก็ถือว่ายุ่งกับพวกเธอด้วยเช่นเดียวกัน .. 

    “ฉันว่ามันแปลกๆอยู่นะ .. เรื่องที่เราได้ยินกันมา..” หนุ่มน้อยตัวเล็กนัยย์ตาเล็กหยีหันไปกระซิบกระซาบกับเพื่อนหน้าสวยที่กำลังง่วนอยู่กับการลอกการบ้านโดยไม่ได้หันไปสนใจหนุ่มหล่ออันดับหนึ่งของโรงเรียนที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกองเชียร์สาวๆเลยแม้แต่หางตา

    “......................”

    “นายฟังฉันอยู่มั้ยเนี่ย .. แจจุง!!” 

    “เออๆ ฟังอยู่ .. ว่าต่อสิ ...”มือก็ลอกการบ้านยิกๆ หูก็ฟังเพื่อนพูด ตาก็มองสมุดต้นฉบับ ... จุนซูถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายให้กับการใช้ชีวิตแบบไฟลนก้นของเพื่อนสนิทแล้วจึงค่อยเริ่มพรรณาข้อสงสัยของตัวเองต่อด้วยแววตาฉงน....

    “ฉันว่าข่าวลือของยุนโฮมันดูยังไงๆอยู่นะ .. แล้วสิ่งที่หมอนั่นแก้ตัวมาก็แปลกๆแปร่งๆไม่น่าเชื่อยังไงก็ไม่รู้ นายไม่คิดแบบนั้นมั่งเหรอ ?...” 

    “เรื่องแบบนี้มันพูดยากนะ จุนซู .. ใครจะรู้ความจริงดีเท่าเจ้าตัว .. ถ้านายสงสัยมากๆก็เดินไปถามเขาสิ..” แจจุงวางปากกาในมือแล้วเงยหน้าขึ้นโบ้ยไปทางยุนโฮประกอบคำพูด .. เล่นเอาหนุ่มน้อยตาหยีคิม จุนซูถึงกับเบ้ปาก

    “ไม่ละ .. “

    เสียงเจี้ยวจ้าวของเหล่าสาวๆยังคงกระหึ่มดังไปทั่วทั้งห้องเรียน .. แจจุงพอจะทำใจได้แล้วกับความไม่สงบที่เกิดขึ้นในห้องเรียนทุกวัน แต่สำหรับเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆรวมถึงจุนซูนั้นมันเป็นเรื่องที่ชินชาได้ยากจริงๆ .. ซวยเป็นบ้าที่ได้มาอยู่ห้องเดียวกับหนุ่มป๊อบอันดับหนึ่ง ..


    “รุ่นพี่ยุนโฮคะ .. ไม่สบายทำไมไม่บอกกันเลย ดูสิ เหงื่อออกใหญ่แล้ว ..”

    “หมอนั่นไม่สบายเป็นกับเขาด้วยเรอะ?..” จุนซูยังคงกัดไม่เลิก .. นี่ดีนะที่แฟนคลับตานั่นไม่ได้มารู้เห็นหรือได้ยินเข้า .. 

    โชคดีที่คุณครูประจำวิชาเดินเข้ามาเตรียมตัวสอนพอดี กลุ่มนักเรียนหญิงจึงปล่อยให้ยุนโฮได้นั่งพักผ่อนเสียที แม้จะเป็นการพักก่อนเรียนไม่กี่นาทีก็ตาม ..

    การเรียนแน่นอนว่าย่อมน่าเบื่อในสายตาของเด็กๆอยู่แล้ว .. ไม่เว้นแม้กระทั่งแจจุงที่ภาวนาอ้อนวอนต่อทุกสรรพสิ่งว่า ขอให้เวลาผ่านไปเร็วๆ เขาจะได้กลับบ้านไปเล่นเกมที่ค้างไว้เสียที ... คนเราดูแต่ภายนอกไม่ได้จริงๆ .. ถึงแจจุงจะมีหน้าตาสวยหวานค่อนไปทางผู้หญิงแต่นิสัยใจคอของเจ้าตัวนั้นก็ไม่ได้ต่างจากผู้ชายวัยรุ่นทั่วๆไปมากนักหรอก....

    หลังจากนั่งอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมมาทั้งวัน เวลาเลิกเรียนที่เฝ้าปรารถนาก็มาถึงจนได้ .... และดูเหมือนคนที่ดีใจที่สุดก็เห็นจะหนีไม่พ้นหนุ่มน้อยบ้าเกมเป็นชีวิตจิตใจซึ่งลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะเรียนหลังเสียงออดโรงเรียนดังขึ้นได้ไม่นาน ..

    “จุนซู .. ฉันกลับบ้านก่อนนะ ...”

    “เออ .. ฉันต้องเข้าประชุมสภานักเรียน.. นายไปก่อนเถอะ” แจจุงพยักหน้าน้อยๆแล้วพุ่งตัววิ่งออกจากห้องด้วยความเร็วสูง .. ปล่อยให้คิมจุนซูทอดถอนหายใจอยู่เพียงลำพัง .. ความจริงจุนซูก็เป็นแค่หนึ่งในสมาชิกสภานักเรียนที่ไม่ได้เด่นดังอะไรมากนักเพราะมีพ่อแม่และชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างจะเหมือนคนฐานะปานกลางโดยทั่วไป ผิดกับนักเรียนในสภาคนอื่นๆที่พ่อแม่เป็นเจ้าบ้าง ตำรวจบ้าง ทหารบ้าง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บ้าง .. พวกนั้นมีฐานะทางบ้านที่ร่ำรวยมากจนแทบจะเรียกได้ว่าลูกหลานหลายๆรุ่นเกิดมาพร้อมกับกองเงินกองทองไม่เว้นแม้กระทั่งคุณชายปาร์คยูชอน รองประธานนักเรียนที่มีนิสัยเงียบขรึมและที่สำคัญโคตรบรมคุณชาย .. 

    วันนี้ต้องเจอยูชอนอีกเหรอเนี่ย ... ประสาทจะแดกกับความเงียบที่ชวนน่าอึดอัดตาย ...

    “เฮ้อออ...” ถอนใจอีกรอบปลดปล่อยความเซ็ง ก่อนจะหยิบจับเอกสารทุกชิ้นขึ้นมากองรวมกันบนโต๊ะเพื่อเตรียมตัวเข้าประชุมในหัวข้อเรื่อง “งานโรงเรียน” 

    นั่งอ่านเอกสารต่างๆจนคิ้วแทบจะขมวดติดกันเป็นปมเดียวโดยไม่ได้สังเกตเลยว่า ใครเดินมุ่งหน้ามาทางนี้ จนกระทั่งหางตาหยีเหลือบไปเห็นรองเท้าสีดำมันวับข้างๆตัว ... จุนซูค่อยๆไล่สายตาจากรองเท้าคู่นั้น .. ไล่ขึ้นมาตามเรียวขาเพรียว เอวหนา ลาดไหล่กว้างและในที่สุดก็ไล่มาจนถึงใบหน้าหล่อเหลาแบบผู้ดี .... 

    เก๊กซะไม่มีละ .. ไอไก่เอ๊ย .. อย่าให้กูรวยมั่งแล้วกัน ... =*=

    “เอ่อ .. นายมาทำไม?..” ถามเสียงห้วนกับท่านรองประธานด้วยหน้าตาใสซื่อแต่ความจริงแล้วในใจคิดแต่สิ่งเลวร้าย .... ท่านรองประธานสบตากับจุนซูเพียงชั่วครู่ ก่อนจะหันไปทางนาฬิกาหน้าห้องเรียนซึ่งบ่งบอกเวลาว่า “สายแล้ว” 

    “เฮ้ยยยยยยยย...” ร้องอุทานเสียงหลงเมื่อสำเหนียกได้ว่าตัวเองเข้าประชุมสายไปแล้วกว่าสิบนาที .. มัวแต่นั่งอ่านเอกสารจนลืมดูเวลา นี่ดีนะที่ไอท่านรองมาตามด้วยวิธีของท่าน ไม่โวยวายอะไรสักอย่างว่าเขาสายแล้วแต่ดันใช้วิธีบอกใบ้ที่กว่าจุนซูจะเข้าใจก็เล่นเอาเสียเวลาไปหลายนาที ...

    “วันนี้ประธานไม่อยู่เพราะไม่สบาย .. ปาร์คยูชอน ... รองประธานจะเป็นคนเปิดประชุมแทน” แม้การเปิดองค์ประชุมจะล่าช้าเพราะท่านรองประธานมาช้าเพราะใครบางคน.. แต่การประชุมก็ไม่ได้ติดขัดอะไรแต่อย่างใดเพราะทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีไม่แพ้กัน...

    ........................
    ...............
    ..........


    “ว้า .. ฝนตก...” หนุ่มน้อยหน้าหวานเปลี่ยนจากวิ่งเป็นเดินกลับบ้านแทนเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ .. ใบหน้าหวานและเส้นผมสีอ่อนเริ่มเปียกปอนโชกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำซึ่งโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า .. เท้าเล็กเหยียบย่ำถนนเส้นเล็กชื้นแฉะอย่างระมัดระวังเพราะเกรงว่าจะลื่นไถล .. 

    “อ๊ะ???...” ร้องเสียงหลงเมื่อรู้สึกว่ามีตัวอะไรนิ่มๆวิ่งผ่านขาไป .. แม้จะรู้สึกเพียงน้อยนิดแต่แจจุงแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกไปเองแน่นอนร้อยเปอเซนต์ .. น่าแปลกที่บนถนนชุ่มน้ำไม่มีสิ่งมีชีวิตจำพวกสัตว์ขนปุยอย่างสุนัข แมว นกอยู่เลยแม้แต่ตัวเดียว ... คิ้วเล็กขมวดมุ่นและตัดสินใจเลิกสนใจรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านั้นเพราะถึงจะมีสัตว์วิ่งผ่านขาเข้าจริงๆก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว .. 

    แกร๊ง !!!!

    ฝาถังขยะเหล็กข้างทางร่วงหล่นลงมานอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น ... นัยน์ตากลมตวัดควับหันไปตามต้นเสียงแทบจะทันทีด้วยอารามตกใจ ... เสียงฝนฟ้าโปรยปรายกลับมาดังก้องอยู่ในหัวอีกครั้งแทนที่เสียงของตกเมื่อครู่ ... ทว่าสิ่งที่แจจุงได้เห็นกลับทำให้หนุ่มน้อยมึนงงไปหมด ... 

    “หมี??...หมีขาวเนี่ยนะ???..” อุทานเสียงเบา ไม่ได้สนใจตัวเองเลยสักนิดว่าเริ่มเปียกไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ...เสื้อนักเรียนสีขาวเปียกชุ่มเผยให้เห็นสัดส่วนบอบบางมากขึ้น แต่ที่แน่ๆมันคงไม่ทำให้หมีขาวตัวน้อยสั่นเทาเนื่องจากความหนาวช็อคตายไปได้หรอก ... ร่างบางจึงค่อยๆเคลื่อนกายนั่งยองๆหน้าถังขยะที่มีสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆนอนขดหนาวสั่นอยู่ด้านหลัง .. เห็นได้ชัดว่ามันหวาดกลัว

    “หลงมาจากไหนกันเนี่ย .. ไม่ต้องกลัวนะ ..” ค่อยๆเอื้อมมือไปข้างหน้าเพราะเกรงว่าหากยื่นเข้าไปเร็วเกินไป หมีขาวขนปุยจะตกใจ .. ในจังหวะที่มือเล็กกำลังจะยื่นถึงตัวนุ่มนิ่ม อาการกลั้นหายใจก็เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ .. แจจุงเตรียมใจโดนมันข่วนหรือไม่ก็กัดสวนมาแต่ปรากฏว่า หมีขาวตัวนี้กลับไม่ทำได้ทำอะไรแบบนั้นเลย แถมยังลืมตาขึ้นมองใบหน้าหวานสวยที่อยู่สูงกว่าเนื่องจากสัดส่วนของมนุษย์และสัตว์ตัวเล็กมักไม่พอดีกันอยู่แล้ว ...

    “โอ๋ๆๆ..” ในที่สุดหนุ่มน้อยก็อุ้มหมีขาวขึ้นมาได้สำเร็จโดยไม่มีรอยกัดหรือรอยข่วน .. อาจเป็นเพราะความหนาวก็ได้มันถึงได้ไม่ขยับตัว แถมยังซุกตัวเข้าหาแผ่นอกบางเปียกชุ่มอย่างต้องการความอบอุ่นอีกด้วย

    “เฮ้ยย .. หลีกทางเด้ ..” หน้าตาแลดูเรียบร้อยอ่อนหวานน่ารักแต่คำพูดแต่ละคำที่หลุดออกมากลับไม่ได้น่ารักตามเลยแม้แต่น้อย ... แจจุงทำท่าไล่เตะหมาที่เข้ามาดอมๆดมราวกับอยากรู้อยากเห็นสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดในอ้อมแขนของคนตัวเล็ก .. ก็รู้หรอกนะว่าที่เกาหลีไม่มีหมีขาวแต่ช่วยยืนมองอย่างเดียวก็ได้ ทำไมต้องมารุมตะกายจนกางเกงนักเรียนสีดำของเขาเปื้อนดินเปื้อนโคลนไปหมด..

    และในที่สุดแจจุงก็เดินทางมาถึงบ้านอันเป็นสถานที่เป้าหมายพร้อมกับกระโดดขึ้นห้องนอนแบบไม่สนใจพ่อแม่ที่นั่งคุยกันอยู่หน้าทีวีเลย....

    “หมีมันอาบน้ำกันมั้ยวะ...” พูดขึ้นมาลอยๆพลางวางเจ้าหมีน้อยลงบนผ้าขนหนูสำรองที่แจจุงนำมาปูไว้บนเตียง .. โดยไม่ต้องรอคำตอบจากสวรรค์วิมานที่ไหน ร่างบางถอดชุดนักเรียนท่อนบนที่เปียกออกโดยไม่ได้สนใจหมีขาวตัวน้อยที่เอามือปิดตาแทบจะทันที ... แจจุงหายเข้าไปอยู่ในห้องน้ำเพื่อลองน้ำอุ่นใส่ไว้ในกะละมังแล้วอุ้มเจ้าหมีที่ยังคงเอามือขนๆของมันปิดตาขึ้นแนบอกเปลือยเปล่าหวังจะพาเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำไล่สิ่งสกปรกออกจากขนปุกปุยสีหมองเนื่องจากโคลนตมและเม็ดฝน...

    ลงกะละมังที่มีน้ำอุ่นบรรจุอยู่ปุ๊บ หมีตัวเล็กก็ตะเกียกตะกายเกาะขอบกะละมังพลาสติกแทบไม่ทัน .. ร่างบางค่อยๆวักน้ำอุ่นๆลูบไล้ขนนุ่มไปมาไล่สิ่งสกปรก .. การกระทำนุ่มนวลเหล่านั้นกำลังทำให้หมีในอ่างเคลิบเคลิ้ม .. ตาของมันปรือง่วงใกล้หลับได้ที่เรียกร้อยยิ้มหวานๆจากเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี..

    “ไม่ทันไรจะหลับก่อนแล้วเหรอ?.. ขี้โกงชะมัด..” พูดไปอย่างนั้นเองเพราะรู้ดีว่าเจ้าหมีไม่มีทางเข้าใจภาษาคน .. ร่างบางอุ้มหมีตัวนิ่มขึ้นจากกะละมังแล้วห่อตัวของมันด้วยผ้าขนหนูผืนนิ่มกรุ่นกลิ่นสบู่เหลวเจือจางยี่ห้อประจำ ไดป์เป่าผมถูกนำมาใช้งานเพื่อเป่าขนขาวปุกปุยให้แห้งสนิทป้องกันอาการป่วยจากหวัด แต่แจจุงคงลืมไปว่าตัวเองก็เปียกฝนมาไม่ต่างกัน ... 

    “เห็นทีจะเล่นเกมไม่ไหวแล้วละ...” แจจุงเอ่ยกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะพาร่างเปลือยท่อนบนของตัวเองเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ... ออกมาในสภาพชุดนอนแล้วกินยาลดไข้กันไว้ก่อน .. แจจุงทำนู่นทำนี่ทำนั่นทั้งๆที่รู้สึกเวียนหัวเหมือนจะเป็นไข้ ... นัยน์ตากลมร้อนผ่าวใกล้ปิด .. เพราะอาการเหล่านี้แจจุงจึงพยายามลากสังขารขึ้นไปนอนบนเตียงโดยระวังไม่ให้หมีน้อยที่ขดตัวหลับอยู่ในผ้าห่มอีกด้านหนึ่งของเตียงตื่น

    ความเงียบเคลื่อนเข้าปกคลุมห้องทั้งห้องอีกครั้งหลังจากทั้งหมีทั้งคนนอนหลับไปด้วยกันทั้งคู่ ... 




    แจจุงคงลืมนึกอะไรไปอย่าง .... หมีขาวที่มีแต่เฉพาะในขั้วโลกเหนือ ... มันมาที่ประเทศเกาหลีได้ยังไงกันนะ?





    TO BE CON 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×