ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [FIC] ▧ ▨【WHITE BLOOD】▧ ▨ INTRO
Title :: [FIC] ▧ ▨【WHITE BLOOD】▧ ▨ INTRO
Story by :: Tachi_Naniki
Pairing :: YUNHO x JAEJOONG
Category :: Drama,Romantic comedy,Fantasy
Rate :: PG - NC 17
:: INTRO ::
ลมหนาวพัดผ่านกรีดต้องผิวกายขาวละเอียดราวหิมะที่ร่างบอบบางพยายามฝ่าฟันและ ฝืนเดินต่อไปจนกระทั่งหมดเรี่ยวแรงในที่สุด ... นัยน์ตากลมใสอ่อนแสงค่อยๆปิดปรือลงเนื่องจากความเหนื่อยล้ามากมายที่ถาโถม เข้ามามิได้ขาด ... แม้ร่างบางตรงหน้าจะมีเสื้อผ้าติดกายแต่ความบางของเนื้อผ้าก็ไม่ได้ช่วยให้ เด็กน้อยคลายหนาวแต่อย่างใดและก่อนที่สัญญาณแห่งชีวิตสุดท้ายจะดับวูบลง สองสามีภรรยาตระกูลสูงส่งก็ตัดสินใจอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอกแล้วพาไปยังรถที่ ใช้เดินทางบนหิมะหนาโดยเฉพาะ ...
พื้นที่สุดขอบประเทศแห่งนี้เคยได้สัมผัสกับแสงของพระอาทิตย์ยามรุ่งอรุณเพียงน้อยครั้งจนแทบนับจำนวนได้ ...
พื้นที่แห่งนี้ไม่เคยมีมนุษย์คนไหนย่างกรายเข้ามาได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ถือสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว ...
พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยภัยธรรมชาติที่เหล่ามวลมนุษย์ต่างพร้อมใจกันเรียกว่า “พายุหิมะ” ...
ช่วงฤดูกาลแห่งความหนาวเหน็บไม่เคยมีใครย่างกรายเข้ามาแล้วรอดชีวิตไปได้เลยแม้แต่คนเดียว ... นอกจาก ....
“เธอ ชื่ออะไรหรอ?..” ใบหน้าหวานปานนางฟ้าหันไปมองเด็กผู้ชายรุ่นราวเดียวกันด้วยความฉงน ... ริมฝีปากบางซีดและแห้งผากเนื่องจากพิษไข้ของคนตัวเล็กบนเตียงขยับขึ้นลงช้าๆ เพื่อบอกชื่อเสียงเรียงนามให้เพื่อนใหม่รู้ ...
“คิม ... คิม แจจุง”
“ฉัน ชอง ยุนโฮ ... ยินดีที่ได้รู้จัก”
นัยน์ตากลมใสแอบแฝงความเศร้าชวนให้ผู้ชายหลายต่อหลายคนต่างหลงใหลทอดมองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยก้อนเมฆสีหม่นมากมาย .. แสงอาทิตย์ลอดผ่านม่านเมฆได้เพียงน้อยนิดเพราะช่วงนี้ของประเทศเกาหลีเป็น ช่วงต้นฤดูหนาว ...
“คุณแจจุงคะ ...คุณชายยุนโฮเรียกพบค่ะ ...” สาวใช้ในบ้านที่มีผิวขาวซีดเฉกเช่นเดียวกับครอบครัวบุญธรรมที่รับอุปการะ เลี้ยงดูร่างบางมาจนเติบใหญ่เอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ ... แจจุงเพียงแค่พยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตั้งไว้ข้างๆบานหน้าต่างคฤหาสน์แล้วเปิดประตูไม้ สลักลายสไตล์ยุโรปเดินออกจากห้องนอนเพื่อตรงไปยังห้องทำงานส่วนตัวของคุณชาย “ยุนโฮ” ผู้คุมอำนาจเป็นอันดับสองรองจากคุณท่าน...
ยังไม่ทันที่คนตัวเล็กจะได้ยกมือขึ้นเคาะประตูเลยด้วยซ้ำ เสียงทุ้มโทนเบสก็ดังออกมาจากในห้องเสียก่อน ...
“เข้ามาสิ ... ประตูไม่ได้ล็อค”
มือ นิ่มเปลี่ยนจากเคาะประตูไปเป็นบิดลูกบิดช้าๆแทนแล้วแทรกกายเข้าไปยืนอยู่ใน ห้องพร้อมกับก้มหน้าลงมองพื้นเป็นนัยว่าไม่กล้าสบตากับบุคคลที่นั่งอยู่บน เก้าอี้หนังมันวับเพราะร่างบางรู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ...
ร่างสูงหยัดกายลุกจากเก้าอี้ทำงานแล้วสาวเท้าเดินเข้าประชิดตัวมนุษย์คนสวยจนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างกัน...
“ไม่ต้องกลัวนะ..” ใบหน้าหวานซบลงบนแผงอกกว้างเมื่อสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดอุ่นแสนคุ้นเคยมา ตั้งแต่เด็ก ... แม้จะหวาดกลัวแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยขัดขืน ...
ผ้าพัน คอสีแดงสลับดำบนลำคอขาวถูกชายหนุ่มร่างสูงปลดออกอย่างช้าๆ ..ทันทีที่ชิ้นผ้าหลุดร่วงลงไปกองอยู่บนพื้นร่างเล็กก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อ ริมฝีปากร้อนแตะประทับลงบนผิวนุ่มลื่นบริเวณต้นคอสวย ... ความเปียกชื้นเนื่องจากลิ้นพลิ้วที่ถูกส่งออกมาลิ้มชิมรสหวานเป็นสัญญาณ เตือนสุดท้ายก่อนที่ความเจ็บปวดจะแผ่ซ่านมาแทนที่พร้อมกับโลหิตสีแดงสดที่ ไหลทะลักออกมาจากบาดแผลตื้นๆ
“ยุนโฮ ...” เสียงหวานสั่นเครือแสดงถึงความเจ็บปวดช่วยฉุดสติของคนที่ฝังเขี้ยวเพื่อลิ้มรสชาติหวานล้ำของ “เลือด” อันเป็นอาหารหลักของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ ...
ร่างสูงถอนเขี้ยวที่ยาวเพียงแค่ครึ่งเดียวจากเวลาปกติออกจากลำคอขาวก่อนจะยกคน ตัวเล็กขึ้นนั่งบนโต๊ะทำงานแล้วหันไปละเมียดของเหลวสีแดงที่เหลืออยู่ด้วย ลิ้นอย่างอ้อยอิ่ง ...
นิ้วหยาบไล้เกลี่ยเช็ดน้ำตาบนผิวแก้มขาวเบาๆ อย่างทะนุถนอม .. ถึงแม้จะเจ็บแต่แจจุงก็แค่ร้องไห้ออกมาเท่านั้น ไม่เคยคิดโกรธ ไม่เคยคิดขัดใจหรือแม้แต่ขัดขืน .. ยอมเป็นแค่ “อาหาร” ของผู้ชายคนนี้ เพราะ แจจุงไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ ..
ก็แค่เด็กหลงทางที่บังเอิญมีคนมาเจอและช่วยชีวิตเอาไว้เท่านั้น .. จะมีสิทธิ์เรียกร้องอะไรจากใครได้ ..
“ขอ โทษนะ ... ที่ทำให้เจ็บ...” โอบกอดร่างนิ่มๆน่าทะนุถนอมเอาไว้อย่างรักใคร่ ... ยุนโฮไม่อยากทำแบบนี้แต่ก็ไร้ทางเลือกเพราะ เขาจำเป็นต้องได้รับเลือดทุกๆเดือนละครั้งหรือสองครั้ง ไม่อย่างนั้นเขาจะหมดเรี่ยวแรงและอาจเผลอลงมือฆ่าใครลงไปก็ได้ ...
แจ จุงคือคนเดียวที่ถูกยุนโฮกัดนับครั้งไม่ถ้วนแต่กลับไม่มีอะไรบ่งบอกถึงการ กลายพันธุ์เลยแม้แต่อย่างเดียว ...... พ่อแม่ของยุนโฮจึงตกลงเลี้ยงแจจุงเอาไว้ในบ้านเหมือนกับสัตว์เลี้ยงก็มิปาน จะมีก็แต่ยุนโฮเท่านั้นที่ไม่ได้คิดว่า “คิม แจจุง” คือสัตว์เลี้ยงแต่คือเพื่อนคนหนึ่งที่เสียสละให้เพื่อนอย่างเขาได้ทุกอย่าง ...
ยุนโฮจัดการสวมพันคอให้แจจุงกลับเหมือนเดิม ... นัยน์ตากลมใสฉ่ำน้ำนิดๆหลุบมองการกระทำอันอ่อนโยนของยุนโฮทุกอย่าง ... ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของคนทั้งคู่ มีเพียงแต่การกระทำบางอย่างของยุนโฮเท่านั้นที่แจจุงคุ้นเคยดี ...
“จับ แน่นๆนะ...” ร่างเล็กผวากอดคอคนตัวโตกว่าแน่นเมื่อรู้สึกว่าร่างทั้งร่างกำลังลอยอยู่บน พื้น ... ก่อนที่แผ่นหลังบางจะสัมผัสได้ถึงความหนานุ่มของเตียงนอนที่แน่นอนว่าตั้ง อยู่ข้างๆกันกับเตียงของยุนโฮภายในห้องนอนที่แจจุงเพิ่งจากมาเมื่อครู่ ...
“ยุ น...” มือนิ่มคว้าหมับเข้าที่ชายเสื้อสูทพร้อมกับออกแรงกำแน่นจนยับยู่ยี่ .. ใบหน้าหวานก้มงุดไม่กล้าสบตากับชายหนุ่มที่มองมาอย่างสงสัย...
ก็แค่ไม่อยากอยู่คนเดียว ... ในห้องกว้างๆชวนหวิวห้องนี้ ...
“มี อะไร ... ยังเจ็บอยู่หรอ?” ย่อตัวลงข้างเตียงจนใบหน้าเสมอกัน.. มือใหญ่ค่อยๆปลดผ้าพันคอออกช้าๆเพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะเจ็บ ... ร่างเล็กยังคงเงียบไม่พูดอะไรออกมาตามนิสัยคนไม่ช่างพูดซึ่งยุนโฮรู้ดีจึง ไม่ได้ถามอะไรต่อ...
“เลือดยังไหลอยู่เลย....” สิ้นเสียงทุ้ม ร่างนิ่มก็สะดุ้งสุดตัวอีกครั้งพร้อมกับเริดหน้าขึ้นเปิดทางให้ชายหนุ่มร่าง สูงละเมียดชิมของเหลวสีแดงสดอย่างช้าๆเนิบนาบไม่รีบร้อนหรือตะกรุมตะกราม ... เสียงหวานครางเจ็บพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลรื้นเพราะยุนโฮส่งเรียวลิ้นอุ่น ร้อนชโลมบาดแผลเล็กๆจนกระทั่งเลือดหยุดไหล ... ริมฝีปากหนาเลื่อนขึ้นจุมพิตลงบนมุมปากอิ่มเป็นการปลอบประโลมให้หายจากความ เจ็บปวด ..นัยน์ตาสวยหลับพริ้มรับจูบหวานๆที่ไม่ได้ลึกล้ำแต่กลับอ่อนโยนด้วยความ เต็มใจ ....
อย่างน้อย ก็ขอคิดเอาเองไปก่อนได้มั้ยว่า ยุนโฮเห็น “คิม แจจุง” เป็น “มนุษย์” คนหนึ่งและสิ่งที่ยุนโฮกำลังทำอยู่ไม่ใช่เพราะต้องการทะนุถนอม “อาหาร” แต่เป็นการทะนุถนอม “เพื่อนมนุษย์” ด้วยกันที่ถึงแม้จะเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาแต่แน่นอนว่า แจจุงเองก็มีจิตใจเฉกเช่นเดียวกับ “มนุษย์ชั้นสูง” อย่างยุนโฮ ...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ...
เสียงเคาะประตูเรียกให้ดวงหน้าคมต้องผละออกจากริมฝีปากอวบอิ่มชวนสัมผัส ...
“ใคร??...”
“พ่อ เอง ...” ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในบ้านหลังนี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ ... แจจุงถดตัวหนีพร้อมกับคว้าผ้าห่มผืนหนามาคลุมร่างกายบอบบางของตัวเองเอาไว้ เพราะไม่อยากเจอะเจอกับ ...
คนที่ได้ขึ้นชื่อว่า ไม่เคยเห็น “มนุษย์” อยู่ในสายตา
คนที่ได้ขึ้นชื่อว่า เห็น “มนุษย์” เป็นสิ่งมีชิวิตชั้นต่ำเทียบเท่ากับ “หนอนแมลง”
คนที่ได้ขึ้นชื่อว่า ไม่มี “หัวใจของความเป็นคน” ทั้งๆที่ก็เคยเป็น “มนุษย์” มาก่อน
.... สำหรับตัวแจจุงแล้วไม่มีใครน่ากลัวเกินไปกว่าพ่อของยุนโฮอีกแล้วจริงๆ ...
ร่างสูงลูบหัวกลมทุยที่โผล่พ้นผ้านวมออกมาเพื่อปลอบโยน ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ผู้เป็นพ่อย่างกรายเข้ามาในห้อง
“กลิ่นเลือดหึ่งเชียว ...”
“...................”
“ขลุก อยู่กับมนุษย์ ... ไม่แสลงบ้างหรอ?...” ไวเท่าความคิด มือหยาบใหญ่เย็นเยียบคว้าหมับเข้าที่ข้อมือขาวบางภายใต้ผ้านวมผืนใหญ่ ... แรงบีบที่ข้อมือมีมากเสียจนคนตัวเล็กเริ่มส่งเสียงร้องเจ็บปวด .. เพิ่งแบ่งเลือดอันเป็นสารอาหารที่สำคัญอันดับต้นๆของมนุษย์ไปให้ยุนโฮไม่ทัน ไร ก็ต้องรับอารมณ์โทสะของมนุษย์ชั้นสูงที่เกลียดมนุษย์เข้ากระดูกดำ ...
“พ่อค รับ ... แจจุงคือมนุษย์ในความดูแลของผม ... ถ้าไม่เห็นแก่เขา ก็เห็นแก่ผมเถอะครับ...” ลูกไม้นี้ใช้ได้ผลเสมอเพราะคุณพ่อได้ยกแจจุงให้ยุนโฮเป็นผู้ดูแลไปแล้ว .. ชายวัยกลางคนจึงยอมปล่อยข้อมือขาวที่ช้ำจนเป็นรอยแดงให้เป็นอิสระ .. ร่างบางมุดหายเข้าไปในผ้าห่มอีกครั้งพร้อมกับกอดตัวเองแน่น ...
“แก กับแจจุงเตรียมเก็บของ .. พรุ่งนี้เช้าพ่อจะให้คนมารับเข้าเมืองหลวง ... ไปทำงานในฐานะผู้บริหาร เพราะ พ่อไม่มีอะไรจะสอนแกแล้ว ...”
ตระกูล ชองเป็นเจ้าของบริษัทผลิตของใช้และเครื่องอุปโภคบริโภคของมนุษย์ชั้นสูงราย ใหญ่เพียงรายเดียวในประเทศ .. คราวนี้ก็ถึงตายุนโฮแล้วที่ต้องขึ้นนั่งแท่นผู้บริหารสูงสุดด้วยอายุอานาม ที่ยังน้อยมาก
“ครับพ่อ ...”
“อีกอย่างนึง .. อย่าคิดหนีไปจากเราเด็ดขาด ... คิม แจจุง...” ตั้งใจ ตะโกนขึ้นเสียงให้ร่างเล็กที่มุดอยู่ใต้ผ้าห่มได้ยิน ก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่คิดจะหันกลับมามองใครทั้งสิ้นแม้แต่ลูกชายของ ตัวเองก็ตาม ...
หลังจากประตูห้องบานใหญ่ปิดลง ยุนโฮก็รีบทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงแล้วค่อยๆดึงผ้าห่มออกจากกายบางช้าๆเพราะ เกรงว่าคนตัวเล็กจะตกใจกลัวและก็เป็นดังคาดเมื่อแจจุงหลับตาปี๋ยังผลให้น้ำ ใสๆไหลอาบเต็มแก้มขาวนวลเนียนเนื่องจากความหวาดกลัว ..
ร่างบางตรงหน้าแลดูบอบบางและน่าสงสารเพราะแจจุงคือ “มนุษย์” เพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ ... บางทีอาจจะดีกว่าก็ได้ หากแจจุงจะถูกพายุหิมะกลืนกินหายไปตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ...
แจจุงอาจจะคิดแบบนั้น แต่สำหรับชอง ยุนโฮแล้ว แจจุงคือ “เพื่อน” เพียงคนเดียวที่คอยอยู่ด้วยกันเสมอไม่ว่าจะยามทุกข์ สุข เศร้าหรือเหงา ... แม้ว่าเจ้าตัวอาจไม่ได้เต็มอกเต็มใจ แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยๆ ชองยุนโฮก็มีใครสักคนมาอยู่เป็นเพื่อน
“แจจุง ... นี่ฉันเองนะ... ไม่ต้องกลัวแล้ว..” นิ้วเรียวเกลี่ยเช็ดน้ำตาบนผิวแก้มใสอย่างเบามือที่สุด .. นัยน์ตาสีหวานบวมช้ำค่อยๆช้อนสบกับนัยน์ตาคู่คม ก่อนที่แจจุงจะค่อยๆวางศีรษะลงบนตักของคนตัวโต อาจเป็นเพราะความเหนื่อยล้าเนื่องจากเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหรืออาจ เป็นเพราะร่างกายที่อ่อนแอลงมากเนื่องจากปริมาณของเหลวหล่อเลี้ยงชีวิตที่ลด ต่ำลงจนเกิดความไม่สมดุล ร่างบางจึงหลับไปทั้งๆแบบนั้น ...
ยุนโฮ ลูบหัวกลมๆไปมาพลางลอบมองใบหน้าหวานสวยเกินชายอยู่เป็นระยะๆพลางพรูลมหายใจ ออกมาเฮือกใหญ่เพราะภายในใจของยุนโฮนั้นเกิดความหวาดกลัวที่สั่งสมมานานแล้ว ว่า แจจุงอาจจะหนีไปได้ทุกเมื่อเมื่อเจ้าตัวมีโอกาสได้ย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง หลวงซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “มนุษย์” อันเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวกันกับแจจุงทุกประการ...
เพราะการที่ได้อยู่กับพวกเดียวกันย่อมอุ่นใจกว่าการที่ได้อยู่กับมนุษย์ที่ไม่ใช่มนุษย์อย่างเขาอยู่แล้ว ....
"ขอโทษนะ .. เพราะพวกเราแท้ๆ ... แจจุงถึงได้ขาดอิสระแบบนี้.."
TO BE CON !!!
Story by :: Tachi_Naniki
Pairing :: YUNHO x JAEJOONG
Category :: Drama,Romantic comedy,Fantasy
Rate :: PG - NC 17
:: INTRO ::
ลมหนาวพัดผ่านกรีดต้องผิวกายขาวละเอียดราวหิมะที่ร่างบอบบางพยายามฝ่าฟันและ ฝืนเดินต่อไปจนกระทั่งหมดเรี่ยวแรงในที่สุด ... นัยน์ตากลมใสอ่อนแสงค่อยๆปิดปรือลงเนื่องจากความเหนื่อยล้ามากมายที่ถาโถม เข้ามามิได้ขาด ... แม้ร่างบางตรงหน้าจะมีเสื้อผ้าติดกายแต่ความบางของเนื้อผ้าก็ไม่ได้ช่วยให้ เด็กน้อยคลายหนาวแต่อย่างใดและก่อนที่สัญญาณแห่งชีวิตสุดท้ายจะดับวูบลง สองสามีภรรยาตระกูลสูงส่งก็ตัดสินใจอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอกแล้วพาไปยังรถที่ ใช้เดินทางบนหิมะหนาโดยเฉพาะ ...
พื้นที่สุดขอบประเทศแห่งนี้เคยได้สัมผัสกับแสงของพระอาทิตย์ยามรุ่งอรุณเพียงน้อยครั้งจนแทบนับจำนวนได้ ...
พื้นที่แห่งนี้ไม่เคยมีมนุษย์คนไหนย่างกรายเข้ามาได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ถือสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว ...
พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยภัยธรรมชาติที่เหล่ามวลมนุษย์ต่างพร้อมใจกันเรียกว่า “พายุหิมะ” ...
ช่วงฤดูกาลแห่งความหนาวเหน็บไม่เคยมีใครย่างกรายเข้ามาแล้วรอดชีวิตไปได้เลยแม้แต่คนเดียว ... นอกจาก ....
“เธอ ชื่ออะไรหรอ?..” ใบหน้าหวานปานนางฟ้าหันไปมองเด็กผู้ชายรุ่นราวเดียวกันด้วยความฉงน ... ริมฝีปากบางซีดและแห้งผากเนื่องจากพิษไข้ของคนตัวเล็กบนเตียงขยับขึ้นลงช้าๆ เพื่อบอกชื่อเสียงเรียงนามให้เพื่อนใหม่รู้ ...
“คิม ... คิม แจจุง”
“ฉัน ชอง ยุนโฮ ... ยินดีที่ได้รู้จัก”
นัยน์ตากลมใสแอบแฝงความเศร้าชวนให้ผู้ชายหลายต่อหลายคนต่างหลงใหลทอดมองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยก้อนเมฆสีหม่นมากมาย .. แสงอาทิตย์ลอดผ่านม่านเมฆได้เพียงน้อยนิดเพราะช่วงนี้ของประเทศเกาหลีเป็น ช่วงต้นฤดูหนาว ...
“คุณแจจุงคะ ...คุณชายยุนโฮเรียกพบค่ะ ...” สาวใช้ในบ้านที่มีผิวขาวซีดเฉกเช่นเดียวกับครอบครัวบุญธรรมที่รับอุปการะ เลี้ยงดูร่างบางมาจนเติบใหญ่เอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ ... แจจุงเพียงแค่พยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตั้งไว้ข้างๆบานหน้าต่างคฤหาสน์แล้วเปิดประตูไม้ สลักลายสไตล์ยุโรปเดินออกจากห้องนอนเพื่อตรงไปยังห้องทำงานส่วนตัวของคุณชาย “ยุนโฮ” ผู้คุมอำนาจเป็นอันดับสองรองจากคุณท่าน...
ยังไม่ทันที่คนตัวเล็กจะได้ยกมือขึ้นเคาะประตูเลยด้วยซ้ำ เสียงทุ้มโทนเบสก็ดังออกมาจากในห้องเสียก่อน ...
“เข้ามาสิ ... ประตูไม่ได้ล็อค”
มือ นิ่มเปลี่ยนจากเคาะประตูไปเป็นบิดลูกบิดช้าๆแทนแล้วแทรกกายเข้าไปยืนอยู่ใน ห้องพร้อมกับก้มหน้าลงมองพื้นเป็นนัยว่าไม่กล้าสบตากับบุคคลที่นั่งอยู่บน เก้าอี้หนังมันวับเพราะร่างบางรู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ...
ร่างสูงหยัดกายลุกจากเก้าอี้ทำงานแล้วสาวเท้าเดินเข้าประชิดตัวมนุษย์คนสวยจนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างกัน...
“ไม่ต้องกลัวนะ..” ใบหน้าหวานซบลงบนแผงอกกว้างเมื่อสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดอุ่นแสนคุ้นเคยมา ตั้งแต่เด็ก ... แม้จะหวาดกลัวแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยขัดขืน ...
ผ้าพัน คอสีแดงสลับดำบนลำคอขาวถูกชายหนุ่มร่างสูงปลดออกอย่างช้าๆ ..ทันทีที่ชิ้นผ้าหลุดร่วงลงไปกองอยู่บนพื้นร่างเล็กก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อ ริมฝีปากร้อนแตะประทับลงบนผิวนุ่มลื่นบริเวณต้นคอสวย ... ความเปียกชื้นเนื่องจากลิ้นพลิ้วที่ถูกส่งออกมาลิ้มชิมรสหวานเป็นสัญญาณ เตือนสุดท้ายก่อนที่ความเจ็บปวดจะแผ่ซ่านมาแทนที่พร้อมกับโลหิตสีแดงสดที่ ไหลทะลักออกมาจากบาดแผลตื้นๆ
“ยุนโฮ ...” เสียงหวานสั่นเครือแสดงถึงความเจ็บปวดช่วยฉุดสติของคนที่ฝังเขี้ยวเพื่อลิ้มรสชาติหวานล้ำของ “เลือด” อันเป็นอาหารหลักของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ ...
ร่างสูงถอนเขี้ยวที่ยาวเพียงแค่ครึ่งเดียวจากเวลาปกติออกจากลำคอขาวก่อนจะยกคน ตัวเล็กขึ้นนั่งบนโต๊ะทำงานแล้วหันไปละเมียดของเหลวสีแดงที่เหลืออยู่ด้วย ลิ้นอย่างอ้อยอิ่ง ...
นิ้วหยาบไล้เกลี่ยเช็ดน้ำตาบนผิวแก้มขาวเบาๆ อย่างทะนุถนอม .. ถึงแม้จะเจ็บแต่แจจุงก็แค่ร้องไห้ออกมาเท่านั้น ไม่เคยคิดโกรธ ไม่เคยคิดขัดใจหรือแม้แต่ขัดขืน .. ยอมเป็นแค่ “อาหาร” ของผู้ชายคนนี้ เพราะ แจจุงไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ ..
ก็แค่เด็กหลงทางที่บังเอิญมีคนมาเจอและช่วยชีวิตเอาไว้เท่านั้น .. จะมีสิทธิ์เรียกร้องอะไรจากใครได้ ..
“ขอ โทษนะ ... ที่ทำให้เจ็บ...” โอบกอดร่างนิ่มๆน่าทะนุถนอมเอาไว้อย่างรักใคร่ ... ยุนโฮไม่อยากทำแบบนี้แต่ก็ไร้ทางเลือกเพราะ เขาจำเป็นต้องได้รับเลือดทุกๆเดือนละครั้งหรือสองครั้ง ไม่อย่างนั้นเขาจะหมดเรี่ยวแรงและอาจเผลอลงมือฆ่าใครลงไปก็ได้ ...
แจ จุงคือคนเดียวที่ถูกยุนโฮกัดนับครั้งไม่ถ้วนแต่กลับไม่มีอะไรบ่งบอกถึงการ กลายพันธุ์เลยแม้แต่อย่างเดียว ...... พ่อแม่ของยุนโฮจึงตกลงเลี้ยงแจจุงเอาไว้ในบ้านเหมือนกับสัตว์เลี้ยงก็มิปาน จะมีก็แต่ยุนโฮเท่านั้นที่ไม่ได้คิดว่า “คิม แจจุง” คือสัตว์เลี้ยงแต่คือเพื่อนคนหนึ่งที่เสียสละให้เพื่อนอย่างเขาได้ทุกอย่าง ...
ยุนโฮจัดการสวมพันคอให้แจจุงกลับเหมือนเดิม ... นัยน์ตากลมใสฉ่ำน้ำนิดๆหลุบมองการกระทำอันอ่อนโยนของยุนโฮทุกอย่าง ... ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของคนทั้งคู่ มีเพียงแต่การกระทำบางอย่างของยุนโฮเท่านั้นที่แจจุงคุ้นเคยดี ...
“จับ แน่นๆนะ...” ร่างเล็กผวากอดคอคนตัวโตกว่าแน่นเมื่อรู้สึกว่าร่างทั้งร่างกำลังลอยอยู่บน พื้น ... ก่อนที่แผ่นหลังบางจะสัมผัสได้ถึงความหนานุ่มของเตียงนอนที่แน่นอนว่าตั้ง อยู่ข้างๆกันกับเตียงของยุนโฮภายในห้องนอนที่แจจุงเพิ่งจากมาเมื่อครู่ ...
“ยุ น...” มือนิ่มคว้าหมับเข้าที่ชายเสื้อสูทพร้อมกับออกแรงกำแน่นจนยับยู่ยี่ .. ใบหน้าหวานก้มงุดไม่กล้าสบตากับชายหนุ่มที่มองมาอย่างสงสัย...
ก็แค่ไม่อยากอยู่คนเดียว ... ในห้องกว้างๆชวนหวิวห้องนี้ ...
“มี อะไร ... ยังเจ็บอยู่หรอ?” ย่อตัวลงข้างเตียงจนใบหน้าเสมอกัน.. มือใหญ่ค่อยๆปลดผ้าพันคอออกช้าๆเพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะเจ็บ ... ร่างเล็กยังคงเงียบไม่พูดอะไรออกมาตามนิสัยคนไม่ช่างพูดซึ่งยุนโฮรู้ดีจึง ไม่ได้ถามอะไรต่อ...
“เลือดยังไหลอยู่เลย....” สิ้นเสียงทุ้ม ร่างนิ่มก็สะดุ้งสุดตัวอีกครั้งพร้อมกับเริดหน้าขึ้นเปิดทางให้ชายหนุ่มร่าง สูงละเมียดชิมของเหลวสีแดงสดอย่างช้าๆเนิบนาบไม่รีบร้อนหรือตะกรุมตะกราม ... เสียงหวานครางเจ็บพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลรื้นเพราะยุนโฮส่งเรียวลิ้นอุ่น ร้อนชโลมบาดแผลเล็กๆจนกระทั่งเลือดหยุดไหล ... ริมฝีปากหนาเลื่อนขึ้นจุมพิตลงบนมุมปากอิ่มเป็นการปลอบประโลมให้หายจากความ เจ็บปวด ..นัยน์ตาสวยหลับพริ้มรับจูบหวานๆที่ไม่ได้ลึกล้ำแต่กลับอ่อนโยนด้วยความ เต็มใจ ....
อย่างน้อย ก็ขอคิดเอาเองไปก่อนได้มั้ยว่า ยุนโฮเห็น “คิม แจจุง” เป็น “มนุษย์” คนหนึ่งและสิ่งที่ยุนโฮกำลังทำอยู่ไม่ใช่เพราะต้องการทะนุถนอม “อาหาร” แต่เป็นการทะนุถนอม “เพื่อนมนุษย์” ด้วยกันที่ถึงแม้จะเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาแต่แน่นอนว่า แจจุงเองก็มีจิตใจเฉกเช่นเดียวกับ “มนุษย์ชั้นสูง” อย่างยุนโฮ ...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ...
เสียงเคาะประตูเรียกให้ดวงหน้าคมต้องผละออกจากริมฝีปากอวบอิ่มชวนสัมผัส ...
“ใคร??...”
“พ่อ เอง ...” ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในบ้านหลังนี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ ... แจจุงถดตัวหนีพร้อมกับคว้าผ้าห่มผืนหนามาคลุมร่างกายบอบบางของตัวเองเอาไว้ เพราะไม่อยากเจอะเจอกับ ...
คนที่ได้ขึ้นชื่อว่า ไม่เคยเห็น “มนุษย์” อยู่ในสายตา
คนที่ได้ขึ้นชื่อว่า เห็น “มนุษย์” เป็นสิ่งมีชิวิตชั้นต่ำเทียบเท่ากับ “หนอนแมลง”
คนที่ได้ขึ้นชื่อว่า ไม่มี “หัวใจของความเป็นคน” ทั้งๆที่ก็เคยเป็น “มนุษย์” มาก่อน
.... สำหรับตัวแจจุงแล้วไม่มีใครน่ากลัวเกินไปกว่าพ่อของยุนโฮอีกแล้วจริงๆ ...
ร่างสูงลูบหัวกลมทุยที่โผล่พ้นผ้านวมออกมาเพื่อปลอบโยน ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ผู้เป็นพ่อย่างกรายเข้ามาในห้อง
“กลิ่นเลือดหึ่งเชียว ...”
“...................”
“ขลุก อยู่กับมนุษย์ ... ไม่แสลงบ้างหรอ?...” ไวเท่าความคิด มือหยาบใหญ่เย็นเยียบคว้าหมับเข้าที่ข้อมือขาวบางภายใต้ผ้านวมผืนใหญ่ ... แรงบีบที่ข้อมือมีมากเสียจนคนตัวเล็กเริ่มส่งเสียงร้องเจ็บปวด .. เพิ่งแบ่งเลือดอันเป็นสารอาหารที่สำคัญอันดับต้นๆของมนุษย์ไปให้ยุนโฮไม่ทัน ไร ก็ต้องรับอารมณ์โทสะของมนุษย์ชั้นสูงที่เกลียดมนุษย์เข้ากระดูกดำ ...
“พ่อค รับ ... แจจุงคือมนุษย์ในความดูแลของผม ... ถ้าไม่เห็นแก่เขา ก็เห็นแก่ผมเถอะครับ...” ลูกไม้นี้ใช้ได้ผลเสมอเพราะคุณพ่อได้ยกแจจุงให้ยุนโฮเป็นผู้ดูแลไปแล้ว .. ชายวัยกลางคนจึงยอมปล่อยข้อมือขาวที่ช้ำจนเป็นรอยแดงให้เป็นอิสระ .. ร่างบางมุดหายเข้าไปในผ้าห่มอีกครั้งพร้อมกับกอดตัวเองแน่น ...
“แก กับแจจุงเตรียมเก็บของ .. พรุ่งนี้เช้าพ่อจะให้คนมารับเข้าเมืองหลวง ... ไปทำงานในฐานะผู้บริหาร เพราะ พ่อไม่มีอะไรจะสอนแกแล้ว ...”
ตระกูล ชองเป็นเจ้าของบริษัทผลิตของใช้และเครื่องอุปโภคบริโภคของมนุษย์ชั้นสูงราย ใหญ่เพียงรายเดียวในประเทศ .. คราวนี้ก็ถึงตายุนโฮแล้วที่ต้องขึ้นนั่งแท่นผู้บริหารสูงสุดด้วยอายุอานาม ที่ยังน้อยมาก
“ครับพ่อ ...”
“อีกอย่างนึง .. อย่าคิดหนีไปจากเราเด็ดขาด ... คิม แจจุง...” ตั้งใจ ตะโกนขึ้นเสียงให้ร่างเล็กที่มุดอยู่ใต้ผ้าห่มได้ยิน ก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่คิดจะหันกลับมามองใครทั้งสิ้นแม้แต่ลูกชายของ ตัวเองก็ตาม ...
หลังจากประตูห้องบานใหญ่ปิดลง ยุนโฮก็รีบทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงแล้วค่อยๆดึงผ้าห่มออกจากกายบางช้าๆเพราะ เกรงว่าคนตัวเล็กจะตกใจกลัวและก็เป็นดังคาดเมื่อแจจุงหลับตาปี๋ยังผลให้น้ำ ใสๆไหลอาบเต็มแก้มขาวนวลเนียนเนื่องจากความหวาดกลัว ..
ร่างบางตรงหน้าแลดูบอบบางและน่าสงสารเพราะแจจุงคือ “มนุษย์” เพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ ... บางทีอาจจะดีกว่าก็ได้ หากแจจุงจะถูกพายุหิมะกลืนกินหายไปตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ...
แจจุงอาจจะคิดแบบนั้น แต่สำหรับชอง ยุนโฮแล้ว แจจุงคือ “เพื่อน” เพียงคนเดียวที่คอยอยู่ด้วยกันเสมอไม่ว่าจะยามทุกข์ สุข เศร้าหรือเหงา ... แม้ว่าเจ้าตัวอาจไม่ได้เต็มอกเต็มใจ แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยๆ ชองยุนโฮก็มีใครสักคนมาอยู่เป็นเพื่อน
“แจจุง ... นี่ฉันเองนะ... ไม่ต้องกลัวแล้ว..” นิ้วเรียวเกลี่ยเช็ดน้ำตาบนผิวแก้มใสอย่างเบามือที่สุด .. นัยน์ตาสีหวานบวมช้ำค่อยๆช้อนสบกับนัยน์ตาคู่คม ก่อนที่แจจุงจะค่อยๆวางศีรษะลงบนตักของคนตัวโต อาจเป็นเพราะความเหนื่อยล้าเนื่องจากเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหรืออาจ เป็นเพราะร่างกายที่อ่อนแอลงมากเนื่องจากปริมาณของเหลวหล่อเลี้ยงชีวิตที่ลด ต่ำลงจนเกิดความไม่สมดุล ร่างบางจึงหลับไปทั้งๆแบบนั้น ...
ยุนโฮ ลูบหัวกลมๆไปมาพลางลอบมองใบหน้าหวานสวยเกินชายอยู่เป็นระยะๆพลางพรูลมหายใจ ออกมาเฮือกใหญ่เพราะภายในใจของยุนโฮนั้นเกิดความหวาดกลัวที่สั่งสมมานานแล้ว ว่า แจจุงอาจจะหนีไปได้ทุกเมื่อเมื่อเจ้าตัวมีโอกาสได้ย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง หลวงซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “มนุษย์” อันเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวกันกับแจจุงทุกประการ...
เพราะการที่ได้อยู่กับพวกเดียวกันย่อมอุ่นใจกว่าการที่ได้อยู่กับมนุษย์ที่ไม่ใช่มนุษย์อย่างเขาอยู่แล้ว ....
"ขอโทษนะ .. เพราะพวกเราแท้ๆ ... แจจุงถึงได้ขาดอิสระแบบนี้.."
TO BE CON !!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น