คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : เป็นเรื่อง
9
“แฮะๆ หวัดดี”
ฉันส่งเสียงทักทาย ไอ้เฟรม เพื่อนสาวผู้น่าหมั่นเขี้ยวของฉันเอง ฉันนัดมันมาเดินเที่ยวจตุจักร
เอาเป็นว่าฉันยังไม่อยากเห็นหน้าพี่ซอง ถึงจะมีพี่แนทลูกพี่ลูกน้องอีกคนคอยเป็นคนกลางก็เถอะ
สรุปว่าตอนนี้ฉันอยู่ในอารมณ์งี่เง่าของคนอกหักน่ะ ปล่อยฉันไว้สักพักเดี๋ยวก็หายดีเองแหละ
“ไอ้ซายน์ แกโดนอะไรต่อยหน้า หรือว่าแกแพ้อะไรหรือเปล่าว่ะ ทำไมตาแกตุ่ยๆแดงๆ ยังงั้นล่ะ”
“นอนไม่หลับเว้ยเมื่อคืน ไม่มีอะไรหรอก ไปๆๆ ไปเดินดูของกันดีกว่าฉันอยากได้กระเป๋า อยากได้เสื้อผ้า อยากได้เครื่องประดับ”
“นี่แม่คุณจะเหมาจตุจักรเหรอไงย่ะ ที่พูดมานั่นนะ”
“แกตามใจฉันซักวันแล้วกันนะ เฟรม” เฟรมมองฉันด้วยสายตาประหนึ่งมองลูกหมากำพร้าแม่
เอ่อ รู้นะว่าสงสารแต่มันช่วยมองฉันแบบมองคนได้ไหมเนี่ย(-_-;)
“เออ ฉันจะตามใจแก แล้วฉันจะเลี้ยงคาราโอเกะแกด้วยแล้วกัน โอเคป่าว”
“กรี๊ดดดด เฟรมเพื่อนเลิฟ แกน่ารักที่สุดเลย”
“เพิ่งรู้เหรอย่ะ เพื่อนแบบฉันแกหาไม่ได้แล้วนะ”
“หาได้ก็คงแปลกไม่ได้เท่านี้ แล้วว่ะ ฮะๆๆๆๆๆ”
“เออๆ ปากดีนะหล่อนไปๆ ไปเดินได้แล้ว ฉันหิวแล้ว ไปหาของกินด้วย”
มีเพื่อนดีก้ดีอย่างนี้แหละน้า ปากหมาไปบ้าง ทะเลาะกันบ้างแต่มันก็ทำให้เราสนิทกันมากขึ้น
เอาว่ะ วันนี้ฉันจะชอปปิ้งแก้แห้วว้อย ฮึ้ยๆๆ
“อ้าว บังเอิญเจอกันบ่อยจริงๆเลยนะ”
“ว้าย สวัสดีค่ะพี่พรีม” ไอ้เฟรมทักทายเสียงหวาน ดีนะฉันดึงแขนมันไว้ทันไม่งั้นมันคงกระโดดไปเกาะเขาแล้ว (-_-;;)
“ค่ะ โลกมันกลมไม่แปลกหรอกค่ะ ถ้าจะเจอกันบ่อยๆ”
“แล้วทำไมพี่พรีมมาคนเดียวล่ะค่ะวันนี้” เฟรมยังจีบปากจีบคอถาม
“ก็น้องสาวพี่เขาไม่อยากมาด้วย พี่เลยต้องมาเดินเจเจคนเดียว”
น้องสาวแน่เหรอ จะไปพรากผู้เยาว์มาล่ะซิไม่ว่า(-_-) ฉันกลัวจะเสียมารยาทมากไปเลยได้แต่ดึงแขนเฟรม แล้ว กระซิบให้เฟรมรีบไปได้แล้ว แต่ยัยเพื่อนบังเกิดเกล้านี่ซิ
“ไอ้ซายน์ฉันตามใจแกแล้ว แกต้องตามใจฉันด้วย” เฟรมดึงฉันให้หันหลังมาคุยกัน พี่พรีมก็ยังคงยืนอยู่อย่างนั้น และมองมาด้วยสายตากรุ่มกริ่ม ฉันล่ะเกลียดจริงเชียวสายตาแบบนี้
“พี่พรีมต้องไปกับพวกเราด้วยวันนี้ โอเค๊ ตกลง ห้ามแย้ง ไปกันเถอะ”
“เฮ้ย แกอย่ามัดมือชกดิไอ้เฟรม”
“ฉันแค่ขอให้แกตามใจฉันด้วย แค่นี้ไม่มากไปใช่ไหมว่ะ ไปๆๆ เดินเที่ยวกัน นะค่ะพี่พรีม” ไอ้เฟรมหันไปดึงมือพี่พรีมให้มาด้วยกัน ดูท่าเจ้าตัวก็ยัง งงๆ แต่ก็แอบส่งยิ้มมาให้ฉัน อี๊~ไอ้เฟรมแกรับผิดชอบไปเลยนะ บอกฉันด้วยแล้วกันว่าจะแต่งกันเมื่อไหร่ อี๊ๆๆ
“ทำไมทำหน้ามุ่ยยังงั้นล่ะ”
“แดดมันเข้าตามั้งค่ะ”
“อ๊ะ พี่ให้ยืม” จู่ๆพี่พรีมก็เอาหมวกที่สวมอยู่ มาสวมให้ฉันแทน
“เอ่อ ขอบคุณค่ะ” จะเป็นไปได้เหรอที่เขาทำแบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่มีทางหรอกน่าผู้ชายเจ้าชู้แบบนี้ ยังไงก็ต้องเทคแคร์ผู้หญิงเป็นอยู่แล้ว เกือบหวั่นไหวแล้วเชียว เฮ้อ~
ระหว่างทางที่เดินด้วยกันฉันสังเกตเห็นสายตาผู้หญิงหลายคนมองพี่พรีมไม่วางตาเลยล่ะ ก็ยอมรับนะว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาดี ถ้าฉันมองแบบไม่เข้าข้างทีมละก็ พี่พรีมหล่อกว่าทีมจริงๆ ดูเฟรมก็ยืดน่าดูได้เดินกับหนุ่มหล่อ มีแต่ฉันที่ทำตัวมืดมนใช่ไหมเนี่ย
“ดูดิ ผู้ชายคนนั้นหล๊อ หล่อ แต่ผู้หญิงก็พอดูได้นะ แต่ไม่สมกันเลยอ่ะ”
(.V.)เฮ้ยนินทาระยะเผาขนแบบนี้ได้ยินนะย่ะ ฮึ้ย ยายนี่ยิ่งหงุดหงิดๆอยู่ คนอกหักนะเฟ้ย แง่งๆๆ หนอยแน่ะๆ ทำไมไม่มาพูดกันต่อหน้าล่ะย่ะ แถมยังหัวเราะแบบนั้นอีก
“เอ่อ ขอทางหน่อยนะครับ แฟนผมเดินผ่านไม่ได้”
จู่ๆพี่พรีมก็พาฉันเดินเข้าไปหายัยปากมอมสองคนนั่น (จริงๆมันก็มีทางให้เดินอีกเยอะแยะอ่ะนะ) ยายสองคนนั่นจะทำอะไรได้ล่ะนอกจากมองตาค้าง น้ำลายย้อย เพราะพี่พรีม โอบไหล่ฉันด้วยนะซิ ฉันแอบได้ยินเสียงไอ้เฟรมกรี๊ดตามหลังเลย เขินนะเว้ย เขิน(>//////////<)
“พี่พรีมปล่อยได้แล้วค่ะ ซายน์เดินเองได้” ฉันรู้สึกได้เลยว่าหน้าตัวเองตอนนี้ร้อนๆชอบกล แล้วทำไมฉันต้องพูดอะไรอย่างกับนางเอกนิยายน้ำเน่าด้วยเนี่ย(-_-III) รับตัวเองไม่ได้แหวะ
“โทษทีพอดีพี่หมั่นไส้ ยัยฮิปโปสองคนเมื่อตะกี้น่ะ อย่าบอกนะว่าซายน์ไม่หงุดหงิดเวลามีคนพูดแบบนั้น” (-_-)โอ้ว โน พี่พรีมซายน์ไม่เป็นนางฟ้าแสนดีขนาดนั้นหรอกค่ะ เหอๆ ฉันอยากจะเอาเก้าอี้ที่วางอยู่ตรงร้านอาหารข้างทางมาฟาดปากฮิปโปปากมอมสองตัวโน้นด้วยซ้ำ ฮึๆๆ
“ดีนะพี่พรีมออกโรงไม่งั้น เฟรมฉะยัยสองคนนั้นหัวแบะแน่”
“พี่แค่ไม่ชอบ คนที่ตัดสินอะไรคนอื่นจากภายนอกน่ะ เราไม่มีทางรู้หรอกว่าจริงๆแล้วแต่ละคนมันเป็นยังไง”
“แล้วพี่พรีมไม่เคย เกลียดใครตั้งแต่แรกเจอบ้างเหรอค่ะ” พูดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วฉันรู้สึกเหมือนโดนหลอกด่าเลยแฮะ เพราะฉันไม่ชอบหน้าพี่พรีมตั้งแต่แรกเจอเลย
“ก็มีบ้าง พี่ก็ไม่ใช่คนที่เป็นผู้ใหญ่มากนักหรอก แต่พอได้คุย ได้รู้จัก ก็ทำให้หายเกลียดนะ”
“เหรอค่ะ” ฉันแอบรู้สึกผิดนิดๆที่ตัดสินพี่พรีมจากภายนอกแล้วซิ(-_-)
“ซายน์ๆ ดูเสื้อร้านนี้ดิ น่ารักว่ะ” เฟรมมาดึงมือฉันให้ไปดูเสื้อ พี่พรีมยืนคอยพวกเราโดยที่ไม่บ่นซักคำ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันนี้ทั้งวัน พี่พรีมไม่ได้ทำตัวกะล่อนใส่ฉันเลยแม้แต่น้อย แถมเวลาพวกเราแวะดูร้านโน้น ร้านนี้ ยังยืนคอยพวกเราอีกต่างหาก ทั้งวันพี่พรีมแทบจะไม่ได้ดูของให้ตัวเองเลยด้วยซ้ำ ถ้าพวกเราไม่ลากพี่พรีมให้ไปดูเสื้อ ฉันคงรู้สึกผิดน่าดู เหมือนพาพี่พรีมมาเป็นเบ๊นะซิ(-_-)
“จะหกโมงแล้ว ซายน์ กับ เฟรมจะไปไหนต่อหรือเปล่า”
“เอ่อ เฟรมกะจะพายัยซายน์ไปเลี้ยงคาราโอเกะค่ะ”
“อ้าว วันนี้โอกาสพิเศษอะไรเหรอ” พี่พรีมถามแบบพาซื่อ
“ยายซายน์อกหักน่ะค่ะ อุ๊บ~อืม”
“แกปากมากไปแล้วนะเฟ้ย” (=3=) ไอ้เฟรมบ้าดันมาเผยความลับฉัน
พี่พรีมเลิกคิ้วมองฉันเหมือนลูกหมาทำท่าสงสัย แล้วก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก คงไม่ได้จะมีแผนชั่วร้ายหลังจากเป็นคนดีมาทั้งวันหรอกนะ
“อย่ามองพี่แบบนั้นซิ พี่แค่คิดจะพาเราสองคนไปเลี้ยงคาราโอเกะแค่นั้นเอง”
“อ่ะค่ะ แฮะๆๆ” หน้าฉันมันส่งกระแสอาฆาตขนาดนั้นเชียว(-_-)
“ไปกับพี่แล้วกันเดี๋ยวจะพาไปร้านประจำ”
“เอ่อ เราสองคนไม่อยากไปไกลน่ะค่ะ เดี๋ยวกลับบ้านลำบาก”
“พี่ขับรถมาไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่รับผิดชอบเอง ไปเถอะ” ก็นั่นแหละที่น่าห่วง(-_-;;) ฉันยังไม่อยากไปกับพี่พรีมน่ะ (ยังไม่ไว้ใจ100%หรอก)
แต่คราวนี้พี่พรีมไม่ปล่อยให้เราสองคนปฏิเสธได้เลย พี่พรีมพาเราสองคนเดินมาที่รถ(โชคดีมากนะเนี่ยหาที่จอดรถแถวจตุจักรได้) แล้วก็พาพวกเรามาที่ร้าน ดูน่าจะเป็นผับในตัว แต่ก็มีห้องคาราโอเกะแยกไปเป็นส่วนตัวหลายห้องทีเดียว ดูพี่พรีมจะรู้จักกับเจ้าของร้าน ดูจากการทักทายอย่างสนิทสนม นี่แหละน้าโลกของผู้ใหญ่ดูพี่พรีมจะเหมาะกับบรรยากาศแบบนี้มากกว่าเดินในตลาดนัดซะอีก แล้วฉันกับเฟรมก็หันมามองการแต่งตัวของเราสองคน โดยไม่ต้องนัดหมายเราสองคนส่งสายตาให้กันได้ความว่า ฉันกับแกแต่งตัวได้โครตจะไม่เข้ากับสถานที่เลย
“ไปที่ห้องคาราโอเกะกัน แล้วค่อยสั่งอาหาร กับ เครื่องดื่ม ไม่ต้องเกรงใจนะ พี่เลี้ยงเอง”
“เอ่อ พี่แน่ใจเหรอค่ะว่าจะไม่เป็นไร คือ เฟรมยังอายุไม่ถึงเลยนะค่ะที่นี่ดูเหมือนจะเป็นผับด้วย” ฉันเป็นห่วงสวัสดิภาพของเพื่อนมากกว่าเพราะไอ้เฟรมยังอายุแค่19น่ะซิ
“ฮะๆ ไม่เป็นไรหรอกพี่สนิทกับเจ้าของร้าน นี่เป็นกรณีพิเศษ ไม่เป็นไรแน่นอน”
ฉันกับเฟรมก็ได้แต่เดินตามหลังพี่พรีมต้อยๆไปจนถึงห้องคาราโอเกะ ที่ดูดีมากกกกก มากกว่าที่ๆฉันกับเฟรมชอบไปประจำซะอีก(ก็ดูจากร้าน และ หน้าที่การงานของพี่พรีมแล้วมันก็โอเคอ่ะ) วู้วๆ ฉันไม่เคยมาคาราโอเกะแบบนี้เลยนะ หุๆๆ เข้าไปถึงโซฟาฉันกับเฟรมแทบจะแย่งหนังสือรายชื่อเพลงกันเลยทีเดียวถ้าพี่พรีมไม่โยนอีกเล่มมาให้ สงสัยเฟรมจะตบฉันตายด้วยไมโครโฟน
“เลือกเพลงได้เลย เดี๋ยวพี่สั่งอาหารกับเครื่องดื่มให้ มีใครดื่มแอลกอฮอลบ้างหรือเปล่า”
“สั่งเป็นคอกเทลได้ไหมค่ะ ซายน์เคยดื่มแต่คอกเทล แฮะๆ”
“โอเค แล้วเฟรมล่ะ”
“ยัยซายน์กินอะไรเฟรมก็กินเหมือนกันแหละฮ่ะ”
แล้วเรื่องอาหารก็ไม่ได้อยู่ในหัวสมองของฉันกับเฟรมไปอีกนาน พวกเรามัวแต่เลือกเพลง แล้วก็ร้องเพลงอย่างสนุกสนาน พออาหารกับเครื่องดื่มมาฉันก็ดื่มคอกเทลแบบไม่บันยะบันยัง กี่แก้วแล้วหว่าที่ดื่มเข้าไป เอิ๊ก~ ฮ่าๆๆ ทำไมฉันอารมณ์ดีอย่างนี้น้อ~
“เอาล่ะ ยายซายน์ฉันเลือกเพลงนี้ให้แกแล้วร้องแล้วก็เลิกเศร้าจากนายทีมได้แล้วนะ เอิ๊ก” เสียงเฟรมเริ่มแสดงให้รู้ว่าเมาหน่อยๆ แต่ก็คงไม่เท่าฉันหรอก ทำไมเพลงมันโดนยังงี้ว่ะ
“ฉัน...ไม่รู้ว่านานแค่ไหนไม่รู้ว่าถึงเมื่อไหร่ที่ใจจะต้องเก็บไว้ ไม่ให้เธอรู้ว่าใจฉันมันพร่ำเพ้อ ถึงแต่เธอ
(เอื๊อก~เอิ๊ก) แล้ว กี่ครั้งที่เราเจอกันทุกครั้งที่เธอหันมา ส่วนฉันไม่กล้าสบตาเธอจะรู้บ้างไหม
ที่จริงในใจได้แต่ฝืน... ทั้งใจมันเรียกร้องให้เธอคนนี้มาครอบครอง
แต่ดูว่าฝันมันไกลห่างเหลือเกิน” ในสมอของฉันรีเพลย์ภาพทีม ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน จนมาจบที่คำว่า
ให้ฉันช่วยเป็นแม่สื่อ น้ำตาฉันรื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ ฤทธิ์แอลกอฮอล หรือว่า เป็นอารมณ์ส่วนตัว แต่ฉันอยากจะร้องไห้เหลือเกิน
“อยากฟังไหม (ฮึก)หัวใจมันเรียกหาเธอเฝ้ารอให้เธอเข้ามาเป็นทุกสิ่ง เป็นทุกอย่างจะมอบความรักให้เธอหมดใจ แต่ฉัน ต้องทนเก็บไว้ข้างใน(ฮือ~ฮึก) และหวังสักวันเธอจะเข้าใจ จะเห็นใจวันนั้น ในวันที่ฉันกล้าพอจะพูดไป(จะเข้าใจว่าฉัน นั้นมันรักเธอ)” ฉันร้องเพลงไป สะอื้นไป ฮือ~ไอ้ทีมบ้าๆๆ
“โฮๆๆๆๆ~ทำไมไม่เป็นเราล่ะทีม ฮือๆ ทำไมต้องเป็น ฮึก พี่สาวเราด้วย เอิ๊ก~” ฉันร้องเพลงต่อไม่ได้
ฉันระบายความอัดอั้นตันใจออกมาผ่านไมโครโฟนที่ตอนนี้ ฉันมองเห็นแค่พี่พรีมลุกขึ้นจากโซฟา กำลังเดินมาหาฉัน บนโซฟามีซากไอ้เฟรมหลับอยู่ โอย ฉันชักจะมึนๆแล้วด้วยซิ
“ซายน์ พี่ว่าเราเมาพอแล้วล่ะ ไปกลับบ้านเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ม่ายอ่ะ ซายน์ไม่เมาน้าพี่พรีม ฮ่าๆ ยังเหลืออีกตั้ง ชั่วโมงนี่กว่าจา หมดเวลา ที่จอง ว้าย~เอิ๊ก”
“ยังจะมาบอกว่าไม่เมา ไปเด็กๆ ได้เวลาเข้านอนแล้ว” พี่พรีมทำท่าจะมาพยุงฉัน ฉันรู้สึกมวนๆท้องชอบกลแฮะ
“อึ้ก~พี่พรีม ซายน์รู้สึกพะอืดพะอมอ่ะ ฮึบ~” แหวะ ฉันจะอ้วก ฉันกำลังจะอ้วก
“เฮ้ย อย่าเพิ่งอ้วกนะ เดี๋ยวพี่พาไปห้องน้ำ ทนหน่อย”
พี่พรีมพาฉันเดินออกมาจากห้องคาราโอเกะ ตอนนี้คงจะค่อนข้างดึก ฉันยังมีสติพอที่จะสังเกตเห็นผู้คนมากมาย ที่เพิ่มขึ้นจากตอนแรกที่พวกเรามาถึง
“ฮึก~ม่ะหวายแล้วพี่พรีม ฮึบ~” ฉันพยายามเอามืออุดปาก ทำอย่างกับว่าจะทำให้มันไหลย้อนกลับลงไปในกระเพาะได้ โอ้ว~มันกำลังมาระลอกใหญ่ด้วยซิ
“เฮ้ย อย่าเพิ่งจะถึงแล้ว ทนอีกนิดนะ”
“อ้วกกกกกกกกกกกก~~~~” ขาดคำพี่พรีม และ อีกไม่กี่เมตรจะถึงห้องน้ำฉันดันปล่อยระเบิดลงที่หน้าห้องน้ำ โอ๊ย ให้ตายซิ~T^T ฉันรู้สึกวิงเวียน ตาลาย คล้ายจะเป็นลม เอิ๊ก~
“อ้าว~เฮ้ย ซายน์ ซายน์
.”
อะไรหนอ รู้สึกอบอุ่น แล้วก็นุ่มจัง ฉันรู้สึกตัวลอยๆ ฮ้า~~~สบายจังเลย เหมือนอยู่บนปุยเมฆ
ฉันพอจะมองเห็นลางๆ ทีมนี่นา มาได้ไงอ่ะ ทีมดูเหมือนกำลังอุ้มฉันอยู่
“เราชอบนายนะ~ เราจะเป็นมากกว่าเพื่อนได้ไหม”
“แน่นอน” ฉันเห็นรอยยิ้มแบบที่ทีมชอบยิ้มให้ทุกคน และ มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ฉันละลายได้เสมอ
ทีมเราไม่ได้ฝันไปใช่ไหม อยู่กับเราตรงนี้นะ ฉันยิ้มให้ทีม แล้วฉันก็ไม่รู้สึกตัวอีก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ฉันรู้สึกได้ถึงแสงสว่างที่ส่องเข้ามา มันตรงกับตาฉันพอดี ฉันหรี่ตาขึ้นมอง เช้าแล้ว ฉันนอนอยู่บนเตียง เอ~ฉันกลับมาถึงบ้านได้ไงหว่า ฉันค่อยๆลุกขึ้นมา จากที่นอน โอ๊ย~แสงแดดทำไมมันจ้า อย่างกับตาฉันจะทะลุออกมาจากเบ้า
“โอ๊ย~ปวดหัว จี๊ดๆ เลย” มันทรมานขนาดนี้ทำไมพี่ฉันยังชอบดื่มอีกนะ ฉันปวดหัวตุบๆ จนต้องเอามือมานวดๆบริเวณขมับ
“อืม~” ฉันหยุดนวดขมับ หลังจากได้ยินเสียงครางของบุคคลที่สาม เฮ้ย~เสียงผู้ชาย แล้วทำไมฉันกลับมาบ้านพร้อมผู้ชายว่ะ เฮ้ย เดี๋ยวก่อนo_0!!
ฉันเริ่มมองรอบๆห้อง ดูยังไงก็เป็นห้องนอนผู้ชายชัดๆ ก้มลงมาดูตัวเอง เสื้อนอนผู้ชาย!!
เฮ้ย อะไรว่ะเนี่ย!! ฉันก้มลงไปมองบุคคลที่สามที่ส่งเสียงครางเมื่อกี้ หัวใจฉันเต้นแรงจนแทบจนรู้สึกเหมือนมันจะทะลุออกมานอกอก แล้วคนที่นอนอยู่ข้างๆฉันตอนนี้ก็ค่อยๆลืมตา
“อ้าว~ตื่นแล้วเหรอ ยายตัววุ่น” เจ้าของเสียงพูดยิ้มๆ พลางยืดมือบิดขี้เกียจในท่านอนหงาย
ฉันมานอนบนเตียงเดียวกันกับพี่พรีมได้ยังไง o_0!!!!
ความคิดเห็น