คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [Possible Love 2] ต่อจากนั้น? [100%!!!]
Possible Love 2
ต่อจากนั้น?
ต่อจากนั้น เมื่อเริ่มต้นขึ้น
ก็ต้องมีเรื่องราวต่อมา...ขึ้นอยู่กับว่า
มันจะเป็นเรื่องดี.......หรือ..ร้าย!
'ผมว่าเธอคงจะน่ารำคาญจริงๆแล้วละครับไม่งั้นองค์ชายคงไม่เป็นแบบนี้ -___-^'
'คงงั้นมั้ง แต่ฉันว่าเธอก็ไม่ได้น่า.......'
‘ว๊ายยยยย!’
“เห้ย!” องค์ชายแทซองร้องเสียงหลง
“เดินให้มันระวังหน่อยสิ อะไรของเธอเนี่ย ขอประธานอภัยด้วยเพคะ องค์ชายทั้งสอง แล้วก็คุณคยองโฮด้วย พอดีว่าเธอเพิ่งมาทำงานใหม่เลยอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับงานพวกนี้ ขอประธานอภัยด้วย” ยองจีนางข้าหลวงคนสนิทของคุณกาอิน(รองหัวหน้าซังกุง) รีบกล่าวขอโทษองค์ชายทั้ง และคยองโฮ
“คนนี้หรอครับนางข้าหลวงขององค์ชายแทบิน” คยองโฮถาม
“หึ! ไม่ใช่อะ คนนี้ใครก็ไม่รู้ สงสัยมาใหม่อีกคน คนที่เป็นนางข้าหลวงประจำตัวของแทบินนะ น่ารักจะตายไป ฮิๆ” องค์ชายแทซองบอก
“ชักอยากเห็นแล้วสิครับ องค์ชายแทซองชมไม่ขาดปากเลย” คยองโฮบอกแต่แล้วก็ต้องตกใจ
“กร๊ากๆๆๆๆ คึๆๆๆๆ คิกๆๆๆๆๆ” อยู่ดีๆองค์ชายแทซองก็หัวเราะออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“คึๆๆๆ ชมหรอ ก๊ากๆๆ......นี้ฟังนะคยองโฮ ถ้านายได้เจอยัยนั้นนะ นายจะต้องบอกว่า ขออย่าให้ได้เจออีกเลยละ คิกๆ”
“อ้าว! ก็องค์ชายบอกเองนิครับว่าน่ารักอย่างนู้นน่ารักอย่างผมก็.....”
“นี้! องค์ชายแทซอง นินทาอะไรเค้าหรอ”
“เฮ้ย! มาตอนไหนเนี่ย???”
“มาตั้งแต่ตอนที่องค์ชายหัวเราะนั้นละเพคะ!”
“ผมก็ไม่ได้หัวเราะพี่ก็แล้วกันละ - -” องค์ชายแทซองบอก ว่าแต่พี่? พี่อะไรละ??
“แล้วไป เจ้าขี้เก๊กนั้นมันอยู่ไหนละ” เธอถาม
“พี่แทบยอล อย่าไปกวนแทบินมันมากนะ วันนี้มันอารมณ์ไม่ค่อยดี” แทซองบอก แทบยอลก็คือองค์หญิงแทบยอลที่ใครๆหลายๆคนต่างเคารพนับถือ เธอสง่างาม ฉลาด มีพร้อมทุกอย่าง ใครๆต่างก็อยากได้องค์แทบยอลเป็นคู่ทั้งนั้นละ
“ใครทำอะไรเจ้านั้นอีกละ อ้าว! คยองโฮอยู่ด้วยหรอ ทำไมฉันไม่เห็นละเมื่อกี้” แทบยอลบอกอย่างตกใจ ดูเธอตกใจจริงๆนะที่เห็นคยองโฮ
“อ่าครับผมอยู่ตรงนี้นานแล้วละครับ - -” คยองโฮบอกพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ เหมือนเป็นส่วนเกินเลยวุ้ย!
“จริงง่ะ เอาเหอะ นี้ๆๆๆแทซองพี่มีเรื่องจะเล่าให้ฟังละ คันปากอยากจะเล่าใจจะขาดอยู่แล้วอะ เรียกแทบินมาด้วยๆๆๆ” แทบยอลบอกแล้วก็เอามือตีๆๆแทซองไปด้วย
“ครับๆๆ ใจเย็นๆๆก็ได้เจ๊ - -* แล้วตอนนี้มันไม่ใช่เวลาคุย งานมันจะถึงไฮไลท์แล้ว เดี๋ยวค่อยคุยพรุ่งเหอะ ตอนสายๆๆอะมาดื่มชาด้วยกันดิจะได้คุย” แทซองบอกแล้วก็หันไปทางอื่น เพราะเดี๋ยวแทบยอลจะต้องหันมาตื้อแน่นอน
“ชิ! ก็ได้ เดี๋ยวท่านพ่อกับท่านแม่จะต้องขึ้นมาตรัสอะไรน่าเบื่อๆๆอีกแล้วใช่มั้ย เบื่อจริง ไปละ” แทบยอลพูดเสร็จก็ตั้งท่าจะเดินออกไปจากงาน แต่ก็โดนใครบ้างคนดึงเอาไว้
“ดึงทำไม = =”
“อยู่ฟังก่อน เดี๋ยววุ่นวายอีก” แทบินบอกด้วยเสียงเรียบๆ เขารำคาญที่พอท่านพ่อพูดถึงแทบยอลแล้วแทบยอลไม่อยู่ทั้งงานก็วุ่นวายไปหมด เห็นคนพลุกพล่านแล้วมันน่ารำคาญตา - -
“สวัสดี ทุกท่าน! งานเลี้ยงคืนนี้มีคนมาเยอะแยะมากมาย ทำให้เรารู้สึกตื้นตันใจจริงๆ คืนนี้ถือเป็นคืนสำคัญอีกคืนหนึ่ง เรื่องที่เราจะบอกทุกคนก็คือ......”
“เราจะจัดการแข่งขันเลือกองค์รัชทายาท....” เพียงแค่พระราชาพูดประโยคนั้นออกมาก็ทำเอาแขกในงานตกใจกันเป้ฯแทบ ต่างมองหน้ากันลัวก็ซุบซิบกันว่านี้มันอะไรกัน?
“เนื่องจากว่าเมื่อสองวันก่อนเราได้ประชุมกับองค์มนตรีทั้งหมด แล้วผลก็ออกมาว่า มีคนเกือบครึ่งมีความเห็นว่า องค์ชายจองฮูนั้นดูน่าจะเหมาะกับตำแหน่งมากว่า องค์ชายแทบิน เพื่อความยุติธรรมเราจึงจะจัดการแข่งขันขึ้น แต่การแข่งขันนี้จะไม่ได้แข่งกันเพื่อเป็นองค์รัชทายาทอย่างเดียว องค์ลักษณ์เองนั้นก็ต้องทำการแข่งขันกันเพื่อที่จะมาเป็นหัวหน้าองค์ลักษณ์เต็มตัว นี้ละเรื่องสำคัญของเรา ขอตัวละ” พระราชาตรัสยิ้มๆก่อนจะเดินออกจากงานไป สร้างความงุนงงให้กับแขกในงานเป้ฯอย่างมาก องค์ชายจองฮูเมื่ได้ยินอย่างนั้นแล้วถึงกับยิ้มออกมาอย่างดีใจ ‘ความหวังของเรามันไม่ได้หริบหรี่ แต่มันกำลังลุกโชนตั้งหาก’
“สมใจละสิ! หึ ไม่น่าเชื่อจริงๆเลยนะว่า คุณชายแสนดี แสนเพอร์เฟ็คในสายตาของสาวๆทั้งหลายจะเป็นแบบนี้” เสียงของผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆจองฮูดังขึ้น
“เธอ......” เธอคือ คิม โบรา สาวน้อยหน้าหวานมาจากตระกลูดัง เธอเป็นคุณหนูผู้เพียบพร้อมไปทุกด้าน เขาโดนพ่อแม่บังคับให้รู้จักกับเธอ เขาคิดว่าพ่อแม่คงอย่างให้เขากับเธอรู้จักกันไว้ เพราะถ้าเขาได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวของเธอก็คงจะช่วยให้เขากลายเป็นองค์รัชทายาทได้ง่ายขึ้น
“คุณนี้เก่งจังเลยนะคะที่คิดอะไรแบบนี้ได้ หึ! ไม่น่าเชื่อจริงๆ” ว่าแล้วโบราก็ยืนมือออกไปหาจองฮูเหมือนเพื่อแสดงความนับถือ หึ แต่พอเธอปล่อยมือออก เขาก็เหมือนเพิ่งนึกได้ว่า เธอกำลังประชดประชันเขา เขาตั้งท่าจะเอาเรื่อง แต่เมื่อเห็นว่าเธอยังคงยิ้มเย้ยเขาเหมือนไม่กลัว เขาก็เข้าใจ ตอนนี้คนในงานมีอยู่มากมาย แถมทุกคนยังมองมาที่เขา มีหรอที่เขาจะกล้า จองฮูเลยได้แต่เดินหนีไปอีกทาง
“นายไม่มีทางเป็นองค์รัชทายาทได้หรอก คิม จองฮู.....”
ที่ตำหนักองค์ชายแทบิน
“อ๊ากกกกก นี้มันบ้าอะไรกันวะเนี่ยยย ตายยย ตายย อ๊ากกกก”
“หุบปาก! แทซอง แทบินฟังพี่นะ เธอต้องจัดการเอาให้ไอ้องค์ชายจอมปลอมนั้นให้ล้มจนลุกไม่ได้ไปเลยนะเข้าใจมั้ย” แทบยอลที่พอหลังเลิกงานเลี้ยงแทนที่จะกลับตำหนักตัวเอง ก็ตามแทบินกับแทวองมา เพื่อที่จะคุยเรื่องนี้กัน สงสัยคืนนี้คงไม่ได้นอนเพราะแทบยอลต้องคุยอะไรอีกยาว
“อืม...” แทบินแต่ตอบเบาๆ เขาไม่เชื่อหรอกว่าองค์มนตรีอะไรนั้นจะคิดแบบนั้น พ่อก็แค่อ้างเพื่อที่จะได้ให้จองฮูได้เป็นองค์รัชทายาทเขารู้ข้อนี้ดี พ่อทั้งชอบแล้วก็รักจองฮูมากเหมือนเป็นลูกชายอีกคน ทำไมเขาจะไม่รู้ แทบินคิดอย่างน้อยใจ พ่อไม่เคยรักเขาเลย
ตอนเช้า
“องค์ชาย....องค์ชายเพคะ.....องค์ชาย!!!!!!!!!!!”
“อือ.....อะไร.....”
“นับ1-3 ลองไม่ลุกดูสิคะ = =”
“ว่าไงนะ เธอกล้าพูดแบบนี้กับฉันงั้นหรอ อยากตายมากใช่มั้ย” องค์ชายแทบินที่พอได้ยินว่านางข้าหลวงประจำตัวจอมลามปามของเขาพูดจาแบบนั้น ถึงกับลุกขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
“ไม่ทราบสิเพคะ คิๆ รีบไปอาบแต่งตัวเถอะเพคะ วุ้ย!! กระดากปากจริง - - ไปอาบเถอะนะขอเหอะ” เธอพูดกับเจ้าชายตัวเสียงห้วนๆในท้ายประโยค เธอเองก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงต้องมาทนอยู่กับเจ้าชายแสนเย็นชาน่าเบื่อนี้ด้วย เธอออกจะต่างกับเขาคนละขั้ว เขาพูดน้อยเหมือนกลัวพิกุลจะหล่น เธอพูดมากเหมือนอยากจะให้พิกุลหล่นให้หมดปาก = = อาจจะเป็นเพราะข้อตะ....
“พูดว่าอะไรนะ!!!!” องค์ชายแทบินที่ทนไม่ไหวกับนิสัยที่เหมือนเด็กของเธอตะโกนออกมาขัดความคิดของเธอ
“ง่า~!! ขอโทษเพคะ อย่าตะคอกสิเพคะ หม่อมฉันตกใจหมด องค์ชายทรงเข้าใจหม่อมฉันหน่อยสิเพคะ หม่อมฉันไม่เคยเรียนพูดคำพวกนี้มาก่อนก็ต้องมีติดขัดกันบ้าง อีกอย่างหม่อมฉันเป็นแค่เด็กคนหนึ่งนะเพคะ เด็กธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องเรียนหนังสือนะเพคะ ทรงเข้าใจปะเพคะ?”
“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิเพคะ คืองี้เพคะ หม่อมฉันว่าตอนนี้องค์ชายทรงไปสรงน้ำ เอ้ย อาบน้ำเถอะเพคะ” องค์ชายแทบินที่พอได้ยินเธอพูดแบบนั้นแล้วก็เริ่มรำคาญเลยยอมลุกออกจากเตียงเพื่อไปอาบน้า
“แต่งตัวหล่อๆนะเพคะ >[]<!!” แน่ะยังไม่วายดูเธอทำเข้าสิ - -* องค์ชายแทบินเลยได้แต่ส่ายหัวในความเป็นเด็กของเธอนางข้าหลวงที่ชื่อ ซอ อึนพโย!!!
ที่โรงเรียนหลวงในวัง
โรงเรียนหลวงเป็นเขตการศึกษาของพวกลูกไฮโซ หรือว่าพวกคนใหญ่คนโต พูดง่ายๆก็คนมีเงิน เพราะงั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นี้ เด็กส่วนใหญ่จะมีของแบรนเนมเต็มตัว แต่ก็มีเด็กบ้างคนที่ใช้สมองมากกว่าเงินเพื่อที่จะเข้ามาเรียนที่นี้ แต่จะให้พูดยังไง จริงๆแล้ว ต่อให้สมองดีแค่ไหนเงินก็สำคัญกว่าอยู่ดีนั้นละสำหรับโรงเรียนนี้น่ะ
“เรียบร้อยแล้วนะจ๊ะ ถือดีๆละ หนังสือเยอะหน่อยนะจ๊ะ แหมก็ช่วยไม่ดีนี้เนอะ ก็จูเรอยากน่ารักเองทำไมละเนอะ หุหุ”
“นะ...น่ารักงั้นหรอ =[]=!!!”
“คึคึ! ถือดีๆนะจ๊ะ เอาไปส่งอาจาร์ยซังกุงให้ได้ละ คะแนนของเพื่อนๆทุกคนขึ้นอยู่กับเธอแล้วนะจ๊ะ^^ ... นี้ ฮายัง วันนี้ไปช้อปปิ้งกันเถอะ ฉันเพิ่งได้เงินเดือนมาละ เมื่อวานเพิ่งเจอกระเป๋าใหม่สวยม๊ากก มากเลยละเธอ ไปด้วยกันนะจ๊ะ” ยัยนกกระจิบนั้นยังไม่เลิกจีบปากจีบคอ ทำเอาจูเรเริ่มฉุนนิดๆ = =
“ต๊ายย ซูยองเธอจะซื้อกระเป๋าอีกแล้วหรอจ๊ะเนี่ย ใบล่าสุดที่ซื้อก็เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองนิ ตั้งเกือบแสนวอน ตายละ แล้วใบนี้เท่าไรละจ๊ะเนี่ย” ยัยฮายังลูกสมุนยัยนกกระจิบกำลังพยายามอวดสรรพคุณอันไม่น่าพึงประสงค์ของนังนกกระจิบนั้นให้คนทั้งห้องรับรู้
“ก็ไม่แพงมากหรอกนะจ๊ะ แค่ แสนต้นๆเองอะ ของมันดีอะนะก็งี้ละ! ถ้าไม่ใช่หนังแท้เดี๋ยวฉันก็แพ้เป็นผื่นขึ้นอีกอะ มันไม่คุ้มเท่าไรอะจ๊ะ” ยัยนกกระจิบยังอวดความรวยของตัวเองต่อไป จูเรก็เบื่อที่จะฟังยัยสองคนนี้คุยกัน เลยเดินออกไปพร้อมกับหนังสือกองโต ข้างหลังก็สะพายเป้ ข้างหน้าก็หนังสือตั้ง เกือบ 30 เล่มบังหน้าเธอ ทำเอาเธอมองแทบไม่เห็นทางเดินเซไปเซมา เดินเอียงซ้าย อะๆๆ เดี๋ยวก็เอียงขวา ยังกะเด็กเพิ่งเริ่มฝึกเดิน =[]=!!!!
“อ๊ายย ทำไมมันหนักอย่างงี้เนี่ยย ทำไมต้องทำกับจูเรแบบนี้ด้วยเนี่ย TT” จูเรเดินไปก็บ่นไป
“ชิ คราวหน้าจะไม่รับหน้าที่บ้าอะไรนี้อีกแล้ว หนังสือใช้ว่าเล่มบางๆ เล่มยังกะเขียงสับหมู เรียนอะไรนักหนาเนี่ย” แล้วจูเรก็บ่นสัพเพเหระไปตลอดทาง เธอใช่เวลาเดินจากหน้าวังมาถึงตำหนักในก็จะครึ่งชั่งโมงแล้ว = = หนังสือก็จะหล่นแหล่ ไม่หล่นแหล่ เธอเองก็เหนื่อยจะแย่ แล้วในที่สุดมันก็หล่นจนได้ แถมเธอยังลงไปนั่งกับพื้นด้วยท่าพับเพียบแสนสวยอีกด้วย
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ? ผมช่วยนะครับ^^” ผู้ชายคนนั้นพูด กรี๊ดดด หล่อ~!!! ยิ้มละลายใจ ไม่ไหวแล้วว จูเรจะละลายแล้วคร่า~!!
“โอ้โห้ หนังสือเยอะแยะขนาดนี้ให้ผู้หญิงตัวเล็กๆถือมาคนเดียวได้ไงครับนี้ น่าสงสารจังเลย จะเอาไปให้ใครหรอครับ?” เขาถาม
“หะ..ให้...อะ..อาจาร์ย..ซังกุง..คะ!” จูเรบอกด้วยเสียงตะกุกตะกัก อ๊ากกก ทำไมเวลาอยู่ต่อหน้าคนหล่อต้องเป็นแบบนี้ทุกทีเลยนะ
“อ๋อ คุณกาอินนั้นเอง มาครับเดี๋ยวผมช่วย อ่า ไม่ต้องครับไม่ต้องคุณถือแค่เล่มสองเล่มก็พอเดี๋ยวผมถือให้ดีกว่านะครับ^^ ไม่ต้องห่วง” เขาบอกอย่างใจดี ทำเอาจูเรหน้าแดงแปร๊ดไปถึงหูแล้ว
ที่ตำหนักซังกุง
“เรียบร้อยแล้วทีนี้เพื่อนๆก็มีคะแนนกันทุกคนแล้ว..ขอบคะ....”
“อ้าว! หายไปไหนแล้วหว่า? ยังไม่ได้ขอบคุณเลย คนอะไรเท่เป็นบ้าเลย >///< เห็นแล้วจะละลาย อ๊า~จะได้เจอกันอีกมั้ยเนี่ย!” แล้วจูเรก็เดินกลับบ้านแล้วก็เพ้อถึงคุณคนนั้นไปตลอดทางกลับบ้าน แล้วนึกในใจว่า ‘ต้องหาทางขอบคุณให้ได้เลย!’
ร้านบะหมี่กุงกุง~
“ฮึก.....ฮึก...ฮือๆ....แงๆๆ ฮึกๆ ฮือๆๆๆ”
“- -* หุบปากซะทีเหอะ บอกแล้วไงว่ามันจบแล้ว”
“จบแล้วแล้วไงละ ฮือๆๆ ทำไมพี่ทำกับฉันแบบนี้ละ ฮือๆ”
“อะไรนะ ฉันไปทำอะไรเธอไม่ทราบฮะ!”
“พี่ชีฮูใจร้าย พี่ทำแบบนี้กับฉันแล้ว ยังจะขึ้นเสียงกับฉันอีกหรอ ฮือๆ ฮึก...”
“อะไรฉันขึ้นเสียงอะไร เธออยากจะมีเรื่องกับฉันใช่มั้ย?”
“ฮือๆๆๆๆๆ พี่ใจร้าย ใจร้ายมาก พี่ทำร้ายจิตใจฉันแบบนี้แล้วจะหนีใช่มั้ย พี่ตัวใหญ่กว่า ฉันตัวเล็กกว่าเพราะงั้นพี่ผิดนะรู้มั้ย”
“คนนะเว้ยไม่ใช่รถ = = พอซะทีเถอะ เชวจีซู! เธอกำลังล้อฉันเล่นอีกแล้วใช่มั้ย” ชีฮูที่รำคาญจนทนไม่ไหวตะโกนเสียงดังลั่น
“เอ๊ะ อะ อะไรกันลูก เสียงดังเชียว ชีฮูไปตะคอกน้องทำไม เห็นมั้ยว่าน้องร้องไห้แล้ว จริงๆเลย เลิกเล่นกันได้แล้ว ชีฮูเดี๋ยวเอาบะหมี่ไปส่งในวังด้วยนะลูก” แล้วพ่อของพวกเขาก็หายเข้าไปในครัวอีกครั้ง
“คึๆๆๆๆ โดนพี่จับได้ทุกทีเลยน๊า แต่หนังมันเศร้าจริงๆนะ ฉันร้องไห้เพราะหนังจริงๆนะ” จีซูบอกชีฮูด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉันไม่มีวันเชื่อเธอหรอก พอทีไปช่วยพ่อทำงานเดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าเธอยังกล้าเปิดปากพูดอีกคำ พี่จะตบปากเธอจริงๆด้วย = =” แน่นอนชีฮูพูดเล่น เขาชอบทำเป็นโหดกับจีซูเพื่อให้จีซูกลัว แต่จีซูก็ไม่เคยกลัวสักครั้งหรอก เพราะเธอรู้ว่าชีฮูไม่กล้าหรอก แต่ครั้งนี้เธอเริ่มไม่ค่อยแน่ใจแล้วละ อย่าลองดีกว่า ทำตามที่บอกแล้วจากพี่ชีฮูไปจะดีกว่าถ้าอยู่ในสถานการ์ณนี้ =[]=!!!
“ชีฮู^^ หวัดดี!” แทยังทักชีฮู เขามาที่ร้านนี้ประจำ เขามีชีฮูเป้นเพื่อนสนิทอยู่คนเดียวนี้ละ แถมอีกอย่างคุณลุงยังใจดีชอบเลี้ยงบะหมี่เขาบ่อยๆอีกด้วย
“อืมหวัดดี = =” ชีฮูทักตอบแบบเซ็งๆ
“เป็นอะไรไปอีกละเนี่ย”
“ไม่รู้ ไปละนะ นายกินบะหมี่นี้ไปก่อนก็แล้วกัน ฉันต้องไปส่งบะหมี่ช้าแล้วก็โดนด่าอีก” ว่าแล้วชีฮูก็คว้าหมวกกันน็อกออกไป
“อะไรของมันหว่า?..” แทยังพูดกับตัวเอง ยักไหล่อย่างไม่สนใจ แล้วก็นั่งลงกินบะหมี่
“อ๊า~ อิ่มชะมัดเลย...คุณลุงครับ!ขอบคุณมานะครับ!” แทยังตะโกนบอกคุณลุงเหมือนอย่างเคย คุณลุงมักจะให้เขาทานบะหมี่ฟรีเสมอๆๆ ทำให้เขาไม่ต้องเสียค่าอาหารอะไรเท่าไร หิวก็มาที่นี้ละ แต่พอเขาจะลุกก็มีใครบางคนมาขวางเอาไว้
“พี่อ่านหน้าร้านหรือยังคะ?” จีซูถามด้วยเสียงน่ารักๆ
“คะ..ครับ = =” แทยังตอบกลับไปด้วยท่าทางเหมือนกับงงเล็กน้อย
“พอดีว่าพี่ชีฮูบอกให้ฉันไปติดไว้น่ะ แล้วบอกให้ฉันถามคนอื่นก่อนเก็บเงินอะ” จีซูบอกยิ้มๆแต่มันดูเป็นยิ้มที่เจ้าเล่ห์ยังไงชอบกล แต่แทยังก็ยังดูงงๆ เธอเลยได้แต่บอกว่า
“พี่ออกไปอ่านอีกรอบก็ได้ แต่อย่าลืมกลับเข้ามาในร้านหล่ะ^^” เธอบอก แทยังเลยรับคำแล้วก็ออกไปอ่านอีกรอบ พอเห็นคำที่ติดอยู่ที่หน้าร้านก็ทำเอาเขาถึงกับเงียบ...
“อ่าววว กลับมาแล้วหรอคะ ตกลงเขาเขียนว่าอะไรหรอคะ?” จีซูถาม
“ชิ! นี้เธอจะแกล้งกันหรือไง...” แทยังสถบออกมาเบาๆ
“อะไรนะคะ พี่บ่นอะไรน่ะ???”
“ที่นี้ไม่ใช่โรงเจ!”
“ห๊ะ? อะไรนะคะ”
“ที่-นี้-ไม่-ใช่-โรง-เจ!!!!!!”
“แล้วยังไงละคะ?^^” เธอถามเขาด้วยท่าทางกวนๆ จริงๆแล้วเธอเป็นคนติดไว้เองละ ชีฮูไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย =[]=!!!!
“เหอะ!...” แล้วแทยังก็ควักเงินออกมาวางแล้วก็เดินออกไป
“คิๆ รวยจะตาย แค่นี้มาทำเป็นอารมณ์เสีย หุหุ” จีซูพูดคนเดียวก่อนจะหยิบเงินที่แทยังวางไว้ขึ้นมาดูอย่างพอใจ
ที่วังหลวง
ชีฮู ขับมอเตอร์ไซค์ผ่านประตูวังหลวงไปจนถึงตำหนักซังกุง ทุกคนที่นี้ต่างยิ้มให้เขา เอ็นดูเขา เพราะความเป็นกันเองของเขา เขาเป็นคนฉลาดมีไหวพริบ หลายๆคนมักจะชอบพูดว่า ‘คนอย่างชีฮูเนี่ย น่าจะเข้าโรงเรียนหลวงได้เนอะ น่าเสียด้ายจริงๆเลย...’ เขาเองก็อยากจะเขานะโรงเรียนหลวงมันติดอยู่ที่ งบ! นี้ละ บ้านเขาไม่ได้มีเงินมากพอที่จะเขาไปเรียนโรงเรียนหลวงในวังหรอกนะ
“ชีฮูนี่~~~!!!”
“อึนพโย^^” ไม่มีใครเรียกเขาแบบนี้อยู่แล้วละมีแต่ อึนพโยนี้ละที่จะเรียกเขาว่า ชีฮูนี่ เหอๆ ทำไมเหมือนเด็กแบบนี้นะ ไม่เข้าใจเลยว่าพวกซังกุงคิดยังไงถึงเลือกยัยนี้ เขากับอึนยพโยรู้จักกันมาก่อนตั้งแต่อึนพโยยังเป้ฯเด็กธรรมดาอยู่นอกวัง เพราะว่าบ้านของเขากับอึนพโยอยู่ใกล้กัน โรงเรียนยังอยู่โรงเรียนเดียวกันเลย
“เอาของมาส่งแล้วหรอ มาๆๆ วันนี้พวกป้าๆๆซังกุงไม่มีใครว่างสักกะคน น่าเบื่อชะมัด!” อึนพโยพูดแบบนั้นทำเอาชีฮูแทบจะเอามือไปปิดปากเธอไม่ทัน
“ยัยบ้าใครเขาให้พูดแบบนี้ในวังหลวงฮะ! เธอนี้น๊า ฉันละห่วงความเป็นอยู่ของเธอในวังจริงๆนะเนี่ย เพราะเธอเป็นแบบนี้ละ เพราะเธอทั้ง ซื่อ ทั้งเซ่อ มันจะทำให้เธอลำบากนะ -_________-” ชีฮูบอกแบบนั้นแต่ดูอึนพโยก็ยังงงๆแล้วก็เฉยๆอยู่ดี
“ก็มันจริงนิ มัวแต่ไปเอาใจองค์ชายจองฮูนั้น ชิๆๆ องค์ชายแทบินเหมาะที่จะเป็นองค์รัชทายาทมากกว่าตั้งเยอะ”
“อึนพโย!!!” ชีฮูตะโกนใส่อึนพโยเสียงดัง
“ห้ามพูดอะไรแบบนี้นะ บอกแล้วไงว่านี้มันวังหลวง เข้าใจมั้ย วังหลวงๆๆๆๆ” ชีฮูบอกอึนพโย อึนพโยเลยได้แต่ทำเซ็งๆแล้วเอาของออกมาจากท้ายรถ
“โอเคไม่พูดก็ไม่พูด เฮ้อ~! งั้นฉันไปก่อนนะ ขับรถกลับดีๆๆละ บอกที่บ้านฉันด้วยนะว่าฉันคิดถึงมากๆๆๆเลยอะ^^”
“ได้ๆๆ ดูแลตัวเองดีๆๆนะอึนพโย.....โอ๊ะ!! นั้นมัน.......”
“อ้อ!! องค์หญิงแทบยอลน่ะ สวยใช่มั้ยละ คิๆๆ องค์หญิงอะน่ารักมากๆๆเลยรู้มั้ย เป็นอีกคนที่ทำให้องค์ชายแทบินยอมพูดออกมาน่ะ =[]=” อึนพโยบอก
“อืมงั้นหรอ.......ฉันไปละบาย” แล้วชีฮูก็ขับรถออกไปพร้อมกับคิดถึงเรื่องวันนั้น....อย่างมีความสุขแล้วก็ยิ้มไปตลอดทางกลับบ้าน
ที่ตำหนักองค์ชายแทบิน
“องค์หญิงแทบยอลเองหรอเพคะ^^” ป้าซังกุงที่กำลังเอาอาหารเช้าขององค์ชายแทบินและองค์ชายแทซองไปเก็บทักองค์หญิงแทบยอล
“อืม เราเอง สองคนนั้นทำอะไรอยู่หรอ?” แทบยอลถาม
“องค์ชายแทบินทรงอ่านหนังสืออยู่เพคะ ส่วนองค์ชายแทซองก็ทรงเอ่อ....” ป้าซังกุงยังพูดไม่ทันจบดี แทบยอลก็รู้คำตอบแล้วละเพราะ....
“แทบินฉันบอกนายแล้วใช่มั้ยว่าอย่าอ่านหนังสือหลังกินข้าวหัดฟังกันบ้างเซ่ ทำไมพูดกี่ที่ก็ไม่เคยฟังแล้วเดี๋ยวก็ปวดท้องเดือดร้อนกันไปทั่ว” เสียงของแทซองดังออกมานอกตำหนัก ทำเอาแทบยอลส่ายหัว
“ไปเถอะ เดี๋ยวเราจะเข้าไปคุยอะไรกับพวกนี้หน่อย เตรียมชุดน้ำชามาให้ด้วยนะ” แทบยอลบอก ป้าซังกุงก็ก้มหัวรับคำสั่งแล้วก็รีบเดินไป
“นี้พวกนายสองคนหุบปากหน่อยได้มั้ยเสียงดังจริงๆเลย” แทบยอลที่ทันทีที่เข้าไปในตำหนักก็แว้ดใส่ทั้งสองทันที
“ก็แทบินมัน.....” แทซองยังพูดไม่ทันจบดีแทบยอลก็เอามือจะฟาดให้ = =
“บอกให้เงียบไง ฉันมีเรื่องจะเล่าให้ฟังจำได้มั้ย นายสัยญาเองนะว่าจะให้ฉันเล่า” แทบยอลบอก สองคนได้แต่พยักหน้ารับคำ
“ก็คือว่า..............”
ย้อนกลับไปเมื่อวานต้อนเช้า
ที่สวนในเขตพระราชฐาน
“เฮ้อ~! ค่อยยังชั่งหน่อยที่นี้ไม่ค่อยมีคน สบายหูขึ้นเยอะ” แทบยอลพูดกับตัวเองแล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆ
“เมื่อไรในวังจะเลิกมีเรื่องขัดแย้งกันซะทีนะ แทบินเองก็คงจะต้องปวดหัวอีกสักพัก แทซองเองก็คงต้องเจ็บปวดเพราะเรื่องบ้าๆนั้น.......”ขณะที่แทบยอลกำลังพูดกับตัวเองอยู่นั้นอยู่ๆๆก็มีใครที่ไม่รู้เข้ามาหาเธอ
“นี้~! ชอบที่นี้เหมือนกันหรอ ^^ สวัสดีครับ” เขาทักเธออย่างเป็นกันเองทำเอาเธองง เธอไม่เคยเจอคนที่พูดอะไรแบบนี้มาก่อน....ทำไมถึงได้สามหาวแบบนี้นะ
“ทำไมไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ฉันเป็นถึงเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์บาซอน จะพูดจาอะไรหัดคิดซะบ้างนะ ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นนะที่นายจะมาล้อเล่นได้ แล้วอีกอย่าง........” แทบยอลหยุดพูดไปแปปนึงแล้วก็มองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเหยียดๆ
“ก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาในเขตพระราชฐาน!!!!”
“อ๊า~ งั้นหรอ งั้นก็ขอโทษแล้วกันนะ ^^ โอ๊ะ! ฉันสายแล้วละ ไปก่อนน๊า แล้วเราค่อยเจอกันใหม่นะ คิๆ” แล้วเขาก็ทำท่าจะวิ่งไปแต่แล้วก็หยุดซะงั้นก่อนจะหันกลับมาแล้วก็พูดว่า
“นี้ๆๆ องค์หญิงชื่ออะไรหรอ?^^” เขาหันกลับมาถามด้วยรอยยิ้มสดใส
“จะรีบไปก็ไปซิชิ!........แทบยอล!” เธอพูดเหมือนจะไล่เขา แต่ก็กลับบอกชื่อเขาไปซะงั้น = =
“อ๊า องค์หญิงแทบยอล แล้วเจอกันอีกนะ ^w^” ว่าแล้วเขาก็รีบวิ่งไป
กลับมาเวลาปัจจุบัน
“มันก็เป็นแบบนี้ละ อย่าให้รู้นะว่านายคนนั้นคือใคร ฉันจะ.......” แทบยอลที่กำลังพูดต่อก็ต้องสงสัยว่าทำไมแทบินกับแทซองถึงได้หัวเราะกันขนาดนั้น
“5555555+ ก๊ากๆๆๆ คึๆๆๆๆ โอ๊ยไม่ไหวแล้ว แทซองฉันหยุดไม่ได้จริงๆ คึๆๆๆๆ” แม้แต่แทบินที่ว่าเย็นชานักเย็นชาหนายังขำ =[]= ก็คงสร้างความสงสัยให้กับแทบยอลได้ไม่น้อยหรอก มากเลยละ - -
“หยุดขำนะย่ะ!!! บอกมาเลยนะว่าขำอะไร??” องค์ชายทั้งสองไม่ได้ตอบ แต่กลับมองหน้ากันแล้วก็ขำอีกครั้ง
“กร๊ากกกกกกกก 55555+” น่านนนน หมดลุกเจ้าชายหมดแล้ว - -*
“บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าพวกนายสองคนไม่บอกพี่นะ พี่จะเอาเรื่องที่พวกนาย คิดว่า อุนจิจิ้งจกเป็นช็อคโกแล็ตแล้วเอามากิน เนี่ยถ้าแพ่รออกไปจะเป็ฯยังไงน๊า เอ๋? ถ้าแค่อึนพโยรู้ก็แย่แล้วมั้งจ๊ะองค์แทบิน คึๆๆๆ” แทบยอลหวเราะอย่างเป็นต่อ ทำเอาองค์ทั้งสองหน้าถอดสี
“ก็ได้ เราจะบอกพี่ก็ได้ว่าเราหัวเราะอะไรกัน แต่อย่ามองใครนะเรื่องนั้น โดนเฉพาะอึนพโย เพราะยัยนั้นอยู่กับพวกผมทุกวัน โดนล้อทุกวันก็ไม่ไหวนะ TT” แทซองบอก
“อืม......” แทบินตอบสั้นๆ
“ที่เราขำพี่ก็เพราะว่า.....”
“น้ำชามาแล้วเพคะ!!!!!” เสียงแจ้วๆของอึนพโยดังมาแต่ไกล~ สร้างความเซ็งอย่างมากให้แก่ องค์ชายทั้องสองและ องค์หญิงแทบยอล =_______________=****
“เอาน้ำชามาตอนนี้คราวหลังไม่ต้องเอามาดีกว่า!!” แทบยอลบอก
“เอ้า!ก็แล้วใครสั่งละเพคะ?” อึนพโย๊ยยยย ช่างไม่รู้อะไรบ้างเล๊ยยย~ พูดแบบนี้เดี๋ยวก็โดนตบหรอก - -*
“ดิปั๊ด! เงียบไปเลยไป ว่าต่อสิ แทซอง” องคืหญิงแทบยอลได้แต่ทำเสียงให้อึนพโยกลัวแล้วก็หันมาฟังองค์ชายแทซองพูดต่อ
“ก็ที่เราขำพี่ก็เพราะว่า.....ผู้ชายคนนั้นคือชีฮู!!” เท่านั้นละองค์หญิงแทบยอลก็......ยังงงเหมือนเดิม =[]=
“ชีฮูทำอะไรหรอเพคะองค์ชาย?” อึนพโยถามอย่างอยากรู้อยากเห็น แต่กลับได้รับสายตาเย็นๆจากองค์ชายแทบินมาแทน -0-
“ก็ชีฮูเขา..........” แล้วองค์ชายแทซองเล่าให้อึนพโยฟังแล้ว อึนพโยก็ขำออกมาจนได้
“คึๆๆๆ คิๆๆ องค์ชายเชื่อมั้ยเพคะ เมื่อเช้าชีฮูเพิ่งจะเตือนหม่อมฉันมาเองว่าให้ระวังปากระวังคำ แต่ตัวเองกลับเป็นซะเอง
“ตกลงแล้วชีฮูคือใคร? นิอึนพโยเธอรู้ก็บอกมาสิ เร็วๆ”
“เพคะๆๆ ก็คือว่าชีฮูเป็นเด็กส่งบะหมี่ที่น่ารักมากๆๆเลยคนหนึ่ง แค่นั้นละเพคะชีฮูนิสัยดีมากๆๆเลยนะเพคะ” อึนพโยบอก
“เป็นแค่เด็กส่งบะหมี่กล้ามาพูดแบบนี้กับฉันงั้นหรอ =____=** แล้วยังจะเข้ามาในเขตพระราชฐานอีก ฮึ่ม! แบบนี้เรียกว่านิสัยดีหรือไง!!”
“ฟังก็สิพี่แทบยอล ก็จริงๆๆแล้วชีฮูกับพวกผมนะรู้จักกันที่โรงเรียนหลวงน่ะ ชีฮูเป้นคนเก่งมากๆๆเลยนะพี่ อย่างฉลาดอะ สอนพวกผมด้วนซ้ำไป พวกผมก็เลยสนิทไม่แปลกหรอกที่เขาเข้าไปในสวยนะ เพราะพวกผมเป็นคนพาเขาไปเอง แล้วก็บอกให้เขาเข้ามาเมื่อไรก็ได้ ตามสบาย ที่นี้ใครๆก็รู้จักเขาทั้งนั้นละ” แทซองอธิบาย
“งั้นหรอ......เริ่มน่าสนใจแล้วสิ.......เอ่อ!งั้นฉันไปก่อนละกัน” แล้วแทบยอลก็รีบออกไปจากตำหนักขององค์ชายแทบินทันที พรางคิดว่า
‘ชีฮู......ชื่อนี้ทำไมคุ้นหูจังละ.....’
-----------------------
((100% แล้ววววว~!!!))
ดีใจกะแทนโหน่อยยยยยย TT
เม้นๆๆกันหน่อยเน้อ โหวตด้วยจะดีมากๆๆๆ
แล้วจะรีบมาต่อตอนต่อไปให้ ตอนต่อไปคิดว่า
บอมกับนางเอกบอมจะเด่อนค่อดๆๆๆ
เพราะงั้นเม้นนนนนนนนนนนนนนนนน~!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ใครไม่เม้นแทนจะด๊องไปตบถึงบ้านจริงๆด้วย =[]=!!
ความคิดเห็น