คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : แค้นนี้ต้องชำระ
ประตูห้องปิดลง อาจารย์วันดานั่งลงที่เก้าอี้ประจำตำแหน่ง เธอเชิดหน้าขึ้นมองเด็กนักเรียนตัวแสบทั้งสาม
“นี่พวกเธออีกแล้ว ไม่รู้จักเข็ดจักจำบ้าง” อาจารย์วันดาพูดขึ้นยังกับคุ้นเคยกับเด็กนักเรียนกลุ่มนี้เป็นอย่างดี
“เบลซ อูริค เลนนอน นี่มันครั้งที่แปดร้อยแปดสิบแปดแล้วนะที่พวกเธอก่อเรื่อง เอกสารคดีของพวกเธอ
มันเต็มห้องแล้วรู้บ้างมั้ย!!”
“ครั้งที่แปดร้อยแปดสินแปด ชะอุ้ย! แป้ด แป้ด แปร้ด.ดด..ด เหม็นตดจังวู้”
“นี่มันห้องปกครอง ไม่ใช่ตลกคาเฟ่ ไปลงบันทึกไว้ซะแล้วมารอรับโทษ!”
“ครับผม!” สามเสียงผสานตอบ
“ทำไมพวกเราต้องมาปีนป่ายเช็ดหลังคาโรงเรียนอย่างนี้ด้วยวะ” เบลซบ่นขณะที่กำลังเช็ดหลังคาที่สกปรกราวกับ
ไม่ได้ขัดมาร้อยปี
“ก็เพราะแกนั่นแหละ ไอเบลซ ที่ออกอุบายหม้อสาวน่ะ” เลนนอนสบถเสียงดัง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นี่นายไปทำอะไรอยู่บนนั้นน่ะ” เด็กหนุ่มทั้งสามมองลงไปทางต้นเสียง ผมน้ำตาลแดงถูกส่องจนเห็นเป็น
ประกายสีแดงแป๊ดโดดเด่นมาแต่ไกล
“ยัยตัวแสบ เธอมาที่นี่ได้ยังไงน่ะ” เบลซพูดขึ้น
“ก็เดินตามนายมาน่ะสิ ตั้งแต่ตอนที่พวกนายหม้อสาว แล้วก็ตอนที่พวกนายโดนเรียกเข้าห้องปกครอง จนกระทั่งถึง
ตอนที่พวกนายมาอยู่บนหลังคาเนี่ยล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า สะใจจริงๆเล๊ยย..ย..ย”
“แสดงว่าเป็นฝีมือเธอใช่มั้ย? ที่ไปฟ้องอาจารย์วันดา”
“เยส ฉันทำไปก็เพื่อความถูกต้อง” เด็กสาวกอดอกด้วยความภาคภูมิใจในคำว่าความถูกต้องของเธออย่างเต็มที่
“เพื่อความถูกต้องหรือเพื่อสนองความอยากแกล้งของเธอกันแน่”
“นี่ พวกเธอ ไม่ต้องไปหาเรื่องระรานคนอื่น อยากโดนอีกสักคดีนึงหรือไง” อาจารย์วันดาเดินมาพอดี เล่นเอาหนุ่ม
ทั้งสามสะดุ้งเฮือก จีอาร์มองในท่าทีของหนุ่มทั้งสามแล้วแอบขำซะแทบแย่
“โอ๊ยยย เมื่อยไปหมดทั้งตัวเลยโว้ยยย” เสียงเลนนอนร้องครวญคราง
“แย่ๆๆ ดำหมดงานนี้” เบลซพูดพร้อมเอามือลูบผิวอย่างเร็ว
“ไก่ย่างถูกเผา ไก่ย่างถูกเผา โดนไม้เรียวตีตูด ว้าว! โดนไม้เรียวตีตูด เจ็บตูดซ้าย เจ็บตูดขวา จี๊ดจริงๆ จี๊ดจริงๆ
จี๊ดจริงๆ” เสียงร้องเพลงไก่ย่างดังมา
“ยัยตัวแสบ เธอรู้มั้ย งานนี้เธอทำแสบมาก” เบลซหันมามองจีอาร์อย่างเอาเรื่องที่สุด แต่จีอาร์ก็หาได้
กระทบกระเทือนไม่ เธอยังคงร้องเพลงเสียงดังต่อไปอย่างสบายอารมณ์
“นี่ยัยตัวแสบ พอสักที” เบลซตวาดเสียงดังลั่น
“อะไร นายอายรึไง งั้นฉันจะร้องเพลงต่อล่ะ ไก่ย่างถูกเผา นายเบลซถูกเผา...”
“บอกให้พอไง” เบลซตวาดเสียงดังกว่าเดิม จิตสังหารของเขาโพยพุ่งไปที่ร่างของจีอาร์
“นายคิดว่าฉันกลัวจิตสังหารของนายหรือยังไง” จีอาร์พูดเสียงเรียบเฉยราวกับไม่รู้สึกถึงจิตสังหารนั่นเลยซักนิด
เธอยังคงร้องเพลงกวนประสาทเบลซไปเรื่อยๆ
“ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ งานนี้เธอตาย” เบลซพูดพร้อมร่ายเวทย์ตรงไปที่จีอาร์ทันที แต่ทว่ามีเกราะมากำบัง
ตัวจีอาร์ไว้
“อ่อนหัดน่า นายคิดจะเล่นกับฉันคิดผิดซะแล้วล่ะ” จีอาร์พูดเสียงเย็นเยือกกว่าเดิม คนทั้งสามถึงกับสะดุ้ง
เสียวสันหลังวาบ
“หึหึ ขู่ฉันอย่างนั้นหรอ ฉันไม่กลัวเธอหรอก” แล้วเบลซก็ลงมือร่ายเวทย์อีกครั้ง
“ถ้านายไม่อยากตาย หยุดร่ายเวทย์นั้นซะ!” จีอาร์พูดขึ้นแต่เบลซไม่ได้สนใจ เขาลงมือร่ายเวทย์ต่อทันที
“แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน” จีอาร์พูดพร้อมร่ายเวทย์ปะทะกับเบลซทันที ทั้งสองผลัดกันรับผลัดกันรุก
อย่างไม่มีใครยอมใคร
“จีอาร์ เธอทำอะไรอยู่น่ะ” แอ๊ปเปิ้ลที่เดินผ่านมาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวพูดขึ้น ทำให้จีอาร์พลั้งโดนเวทย์ของเบลซ
เข้าอย่างจัง
“จ..จีอาร์” แอ๊ปเปิ้ลรีบวิ่งเข้าไปประคองจีอาร์
“เธอแพ้แล้วล่ะ จีอาร์” เบลซยิ้มมุมปากเย้ยหยัน เพื่ออวดถึงชัยชนะของตน จีอาร์เหลือกตามองเบลซอย่าง
แค้นเคืองเป็นที่สุด ถ้าแอ๊ปเปิ้ลไม่เข้ามาล่ะก็ นายแตกเป็นเสี่ยงๆไปแล้ว
“กลับบ้านกันเถอะนะจีอาร์ เธอบาดเจ็บมาก” แอ๊ปเปิ้ลพูดพร้อมประคองจีอาร์ลุกขึ้น
“ให้ผมไปส่งที่บ้านนะครับ” อูริคพูดพร้อมกำลังจะเดินเข้าไปช่วย
“ไม่ต้อง ยัยนั่นมันอยากอวดดี ก็ปล่อยให้มันกลับบ้านไปในสภาพแบบนั้นแหละ” เบลซพูดเสียงเหี้ยม
“แต่ว่า...”
“นายไม่มีสิทธิ์ขัดคำสั่งฉัน รู้เอาไว้ด้วย”
“ครับ” แล้วอูริคก็ต้องยอมถอย
กรุ๊ง! กริ๊ง!
“โฮม เบเกอรี่ ยินดีต้อนรับค่ะ” แอ๊ปเปิ้ลยังคงทำหน้าที่กล่าวต้อนรับหน้าร้านเค้กเช่นเดิม
“เอ่อ..คือ...” เด็กหนุ่มผมเงินกำลังจะกล่าวอะไรบางอย่าง
“คุณ..”
“อูริคครับ ผมอยากพบจีอาร์น่ะครับ อาการเธอเป็นอย่างไรบ้าง” เด็กหนุ่มยืนก้มหน้าก้มตาถามด้วยรู้สึกผิด
“ก็หายเป็นปกติแล้วล่ะค่ะ” แอ๊ปเปิ้ลตอบเสียงใส
“ห๊ะ! หายเป็นปกติแล้ว!!” เด็กหนุ่มเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อ
“ค่ะ พรุ่งนี้ก็คงไปโรงเรียนได้ปกติแล้ว คุณไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ” แอ๊ปเปิ้ลพูดพร้อมยิ้มร่า แต่ท่าทางของ
เด็กหนุ่มคนนั้นก็ยังบ่งบอกว่าไม่เชื่ออยู่ดี
“ฮ้าว..ว มีอะไรน่ะแอ๊ปเปิ้ล ลูกค้าหรอ” จีอาร์เดินลงมาจากบันไดเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน
“จีอาร์ เธอจะลงมาทำไม แทนที่จะนอนพักผ่อน” แอ๊ปเปิ้ลพูดขึ้น
“ก็ฉันหายแล้วนี่นา ไม่เห็นต้องนอนมากมายอะไรเลยนี่ ฮ..ฮ้าววว อ้าว! แล้วนายนั่นมาได้ไงน่ะ” จีอาร์พูดพร้อมชี้
ไปที่อูริค
“อ่อ.. คือ.. ผมมาเยี่ยมน่ะครับ ผมต้องขอโทษแทนเบลซจริงๆนะครับ” อูริคพูดพร้อมโค้งให้จีอาร์
“วางกองไว้ตรงนั้นแหละ” จีอาร์พูดสั้นๆ อูริคสะดุ้งขึ้นตามเสียง
“ฉันไม่ต้องการมัน เอ่อ.. ไม่สิ อย่าไปวางกองตรงนั้น มันรกบ้านฉัน เอาไปกองไว้ที่อื่น”
“ คือ..ผมต้องขอโทษ..”
“นายไม่ต้องขอโทษ นายไม่ได้ผิด เข้าใจ๊?” จีอาร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้อูริคมากขึ้น สายตาของเธอแข็งกร้าว เธอกำลัง
บีบบังคับให้เขาตอบได้เพียงคำตอบเดียว
“ครับๆ งั้นผมกลับก่อนล่ะครับ” อูริคพูดพร้อมเตรียมจะรีบเผ่นไปจากร้านเค้กในทันใด
“เดี๋ยว!!” จีอาร์พูดขึ้น
“อ..อะไรหรอครับ” อูริคพูดเสียงสั่นๆอย่างกลัวๆ
“นายอุตส่าห์ถ่อมาถึงร้านเค้ก ไม่คิดจะซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับไปด้วยหรือ?”
“อ้อ! จริงด้วยสินะครับ” อูริคพูดพร้อมเบนความสนใจของตนไปที่ขนมนานาชนิด เขาลงมือเลือกซื้อขนมอย่าง
สนุกสนาน
“เอ้า! นายซื้อเยอะขนาดนั้นไม่กลัวไม่อร่อยหรอ” จีอาร์พูดขึ้น
“ผมเชื่อว่ามันต้องอร่อยอย่างแน่นอนครับ” อูริคหันมายิ้มให้จีอาร์อย่างอ่อนโยน เฮ่อ... นายนี่ช่างต่างจากนายนั่น
ลิบลับ จีอาร์คิดในใจ
“อูริค นายหายไปไหนมา” เบลซยืนกอดอกอย่างไม่พอใจ เมื่อเห็นเพื่อนรักดูจะกลับบ้านช้าเป็นพิเศษ
“ก็แวะไปซื้อขนมมา กินด้วยกันมั้ย?” อูริคพูดพร้อมยกถุงขนมขึ้นให้เบลซดู
“หืม ขนมหรอ?” เบลซพูดพร้อมไปฉกถุงมาจากมืออูริคทันที เขาสำรวจดูในถุงราวกับจะจับผิดอูริคเสียให้ได้
ทว่าในถุงนั้นมันมีขนมอยู่จริงๆ เขาจึงหยิบขนมออกมากัดหนึ่งชิ้นก่อนจะส่งถุงขนมคืนให้อูริค
“อร่อยดีนี่ วันหลังซื้อมาฝากกันอีกก็แล้วกัน” เบลซว่าพลางเดินขึ้นห้อง อูริคได้แต่ยิ้มให้เพื่อน ไม่รู้ซะแล้วว่าขนมที่
นายกินลงไปน่ะ ใครเป็นคนทำ ถ้านายรู้มีหวังช็อกนอนดิ้นกับพื้นแน่ อูริคยิ้มพร้อมส่ายหัวเบาๆ
“ขนมนี่คุณทำเองหมดเลยหรือครับ” อูริคถามขึ้น
“ใช่แล้ว อร่อยจนน้ำตาซึมเลยใช่มั้ยล่ะ” จีอาร์พูด
“คิดไม่ผิดจริงๆที่ผมซื้อมาเยอะขนาดนี้” อูริคพูดพร้อมหยิบขนมในถุงที่ตนได้จ่ายเงินไปแล้วขึ้นมากินอีก
“ว่างๆก็แวะมาอุดหนุนกันได้นะ แต่กรุณาอย่าเอาอีตาเพื่อนตัวแสบของนายมา ฉันเห็นหน้าแล้วรู้สึกระคายตาอย่าง
บอกไม่ถูก” จีอาร์พูดชักสีหน้า อูริคมองไปที่จีอาร์ ใบหน้าของเธอตอนนี้ดูเหมือนปีศาจน้อยแสนดื้อที่ทำหน้าไม่ถูกใจเมื่อ
พ่อแม่ไม่ซื้อของเล่นให้
“ม..มองอะไร?” จีอาร์ถาม
“เปล่าๆๆ แค่กำลังคิดอะไรเพลินๆน่ะ ฉันขอตัวกลับก่อนนะ” อูริคตอบอย่างร้อนลน แล้วเดินออกจากร้านไปอย่าง
หน้าแดงแจ๋ เขาแหงนหน้ามองไปบนท้องฟ้ายามราตรี ใบหน้าของจีอาร์โผล่เข้ามาในความคิดของเขาเรื่อยๆ สงสัยผมคง
ตกหลุมรักจีอาร์เข้าแล้วสินะ อูริคคิดในใจ
“แก..บังอาจมากนักนะ” เสียงของเด็กสาวแสนแสบดังขึ้น
“ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เธอมาหาเรื่องฉัน” เด็กหนุ่มผมแดงยังคงโต้ตอบไปอย่างกวนประสาท
“แกไม่ตายดีแน่ จำใส่หัวเอาไว้” เด็กสาวมองด้วยแววตาอาฆาตที่สุด
“เลือดผสมอย่างเธอจะมาทำอะไรฉันได้”
“แล้วนายจะได้เห็นดีกัน” พูดจบแล้วเธอก็ร่ายเวทย์ใส่เขาทันที
“เธอมัน...” ยังไม่ทันที่เบลซจะพูดอะไรต่อไป จีอาร์ก็ร่ายเวทย์ปล่อยพลังต่อเนื่องกระหน่ำไปที่เบลซ เบลซวิ่งหนี
พลังเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็หนีไปได้ไม่ทัน พลังนั่นเข้ามาใกล้ตัวเบลซเรื่อยๆ เบลซไม่สามารถหลบไปไหนได้อีกแล้ว
“อย่า....”
“เบลซ นายเป็นอะไรน่ะ” อูริคถามขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเบลซโวยวายลั่น
“ฝันไปหรอเนี่ย?” เบลซพึมพำเบาๆ
“นายฝันร้ายอย่างงั้นหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอก นายนอนต่อเหอะ”
“ไม่ต้องนอนต่อแล้ว ใกล้ถึงเวลาตื่นแล้วเนี่ย ไปออกกำลังกายดีกว่า” อูริคพูดพลางหยิบเสื้อออกกำลังกายไปเปลี่ยน
เบลซก็เช่นกัน เขาคิดว่าหากจะนอนต่อก็คงจะหลับตาไม่ลงหรอก ฝันบ้าๆนั่นยังคงตามติดอยู่ในหัวตลอดเวลา
“โธ่เว้ยย ทำไมต้องตามมาหลอกหลอนด้วยวะยัยนี่” เบลซสบถเสียงเบา
“แอ๊ปเปิ้ลๆๆ ดูนี่สิ” จีอาร์พูดขึ้นพร้อมยื่นกระดาษในมือของตนให้แอ๊ปเปิ้ล
“หืม ตารางเรียนใหม่ของเธอเหรอจีอาร์”
“ใช่แล้วจ้า” จีอาร์พูดอย่างยิ้มร่า แอ๊ปเปิ้ลกวาดสายตามองไปในกระดาษแผ่นนั้นอย่างพินิจพิเคราะห์ขึ้น
“น..นี่มัน.. ตารางเรียนหรือเนี่ย!!!” แอ๊ปเปิ้ลสีหน้าตกใจเป็นที่สุด เพราะในตารางเรียนของจีอาร์นั้นแน่นเอี้ยดไปหมด
ทุกชั่วโมง ไม่มีชั่วโมงว่างเหลือเลย
“จีอาร์ เธอไม่เรียนหนักไปเหรอ” แอ๊ปเปิ้ลหันมาถามด้วยสีหน้าเป็นกังวลมาก
“ไม่ร๊อก สบายมากจ้ะ” จีอาร์พูดเสียงใส ไม่รู้ว่าเธอจะมีความสุขอะไรกับวิชาการเหล่านั้นนักหนา
“สวัสดีค่ะรุ่นพี่เซวาส” จีอาร์กล่าวทักทายชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง ผมสีเงินกับรูปร่างสูงใหญ่พร้อมใส่แว่นกรอบเหลี่ยม
ทำให้เขาดูน่าหลงใหลยิ่งนัก
“สวัสดีครับจีอาร์ มาทำอะไรที่ตึกนี้ล่ะ”
“อ้าว หนูจะมาเรียนที่ตึกนี้ไม่ได้เหรอคะ ในเมื่อหนูก็มีเลือดเทพผสมอยู่” สิ้นสุดคำพูดของเธอทุกคนรอบข้างต่างหัน
มามองเธอกันอย่างสงสัย ไม่มีใครอยากเชื่อว่าเด็กคนนี้มีเลือดเทพผสมอยู่ก็ในเมื่อทั้งเส้นผมนัยน์ตาล้วนแสดงออกถึงความ
เป็นปีศาจอย่างเด่นชัด ไม่มีเค้าของความเป็นเทพเลยแม้แต่นิดเดียว
“แต่จีอาร์ยังอายุไม่ถึงไม่ใช่เหรอครับ มาเรียนวิชาเฉพาะได้แล้วเหรอ” เซวาสยิ้มพร้อมวางมือขยี้ผมจีอาร์เบาๆ
“หนูต่อรองจนมาได้แหละค่ะ”
“เก่งจริงๆนะเรา เข้าเรียนกันเถอะ” เซวาสพูด ร่างสูงใหญ่และร่างเล็กค่อยๆหายเข้าไปในตึกพร้อมกัน
ทิ้งห่างจากสายตาคู่หนึ่งซึ่งกำลังจ้องมองทั้งคู่อย่างแค้นเคืองที่สุด
กริ๊ง...ง...ง เสียงกริ่งหมดเวลาเรียนดังขึ้น
“พักเที่ยงแล้ว พี่เซวาสจะไปกินข้าวเลยมั้ยคะ” จีอาร์ถามขึ้น
“พี่ต้องไปรับฟาเวลน่ะ” ชายหนุ่มบอกเสียงอ่อนลง
“จริงด้วยสินะ ตอนนี้ ฟาเวลคือคนที่พี่ต้องห่วงมากที่สุด เขาเป็นคู่หมั้นของพี่แล้วสินะ” จีอาร์พูดพร้อมหันไปมอง
ทางอื่น ทั้งสองฝ่ายต่างเงียบลงทั้งคู่
“เอ่อ..จีอาร์ คือ..พี่..”
“ไปรับฟาเวลเถอะค่ะ หนูขอตัวก่อน..” จีอาร์พูดแล้ววิ่งออกไป
“เดี๋ยว!! จีอาร์!” เซวาสวิ่งตามคว้าแขนจีอาร์ไว้ได้ เขาดึงตัวจีอาร์ให้หันมาทางเขา จีอาร์กำลังร้องไห้
“จีอาร์ ร้องไห้ทำไม” เซวาสปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของจีอาร์ แต่จีอาร์ก็ยังร้องไห้ไม่หยุด เซวาสดึงตัวจีอาร์
เข้ามากอดแน่น
“สำหรับพี่ จีอาร์สำคัญที่สุดนะ”
“พี่เซวาสคะ” เสียงหวานเล็กๆดังขึ้น
“ฟ..ฟาเวล” จีอาร์รีบปล่อยมือจากเซวาสแล้ววิ่งหนีไปทางอื่นทันที
“พี่เซวาส” เสียงหวานเรียกเซวาสอีกครั้ง เขาสีหน้าแย่เพราะไม่รู้ว่าจะตอบอะไร หากนางฟ้าน้อยถามถึงเด็กผู้หญิง
คนเมื่อกี๊
“ไปกินข้าวกันเถอะค่ะ” ฟาเวลยิ้มอย่างอ่อนโยน นั่นทำให้เซวาสสีหน้าดีขึ้นมาก
จีอาร์รีบเดินออกจากตึกเรียนวิชาเฉพาะของเทพอย่างรวดเร็ว ในหัวของเธอเต็มไปด้วยภาพเก่าๆที่ตัวเธอเอง
ไม่อาจจะลืมเลือน ความทรงจำระหว่างเธอกับเซวาสตั้งแต่พบกันครั้งแรกในตอนที่เธอยังอยู่กับแม่ เธอกับเซวาส
ถูกจับให้เป็นคู่หมั้นกัน เธอกับเซวาสจึงสนิทกันมาก จนกระทั่งวันที่เธอเดินออกจากครอบครัวนั้นไป เซวาสก็กลายเป็น
คู่หมั้นของฟาเวลแทน ถึงแม้ว่าจีอาร์จะพยายามข่มใจมากเท่าไรก็ตาม แต่เธอก็ยังคงรักเซวาสอยู่จนถึงตอนนี้
“ไม่ได้นะจีอาร์ รุ่นพี่เป็นคู่หมั้นของฟาเวล เป็นคู่หมั้นของน้องสาวเธอนะ” จีอาร์พูดกับตัวเองอยู่เสมอ
“ไง! สิ้นฤทธิ์แล้วสิท่ายัยตัวแสบ ผู้ชายเขาไปกับสาวอื่นอย่างนั้นน่ะ” เบลซพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกวนประสาท
เช่นเดิม หากครั้งนี้จีอาร์ไม่ได้โต้ตอบกลับแต่อย่างใด
“ฉันพูดแทงใจดำเธอเลยสิใช่ไหม? ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เบลซยังคงพูดจากวนประสาทต่อไปเรื่อยๆ เขาเพียงต้องการให้
จีอาร์อารมณ์เสียแล้วตอบกลับ แต่ดูเหมือนว่าคราวนี้คงจะไม่เป็นดังเขาหวัง จีอาร์ยืนก้มหน้าแข็งนิ่งราวกับท่อนไม้
“โอ้โห! สงสัยวันนี้จะมาไม้ใหม่ ยืนแข็งนิ่งไม่ตอบกลับ สงสัยต้องเพิ่มความกวนประสาทให้รุนแรงขึ้นอีก
นี่! ยัยเลือดผสม! แน่จริงเธอก็ร่ายเวทย์ใส่ฉันสิ ฮ่า ฮ่า เธอนี่มันอ่อนหัดจริงๆ” เบลซเริ่มพูดรุนแรงขึ้น แต่ท่าทีของ
จีอาร์ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เธอยังยืนอยู่ที่เดิมในท่าเดิมไม่ได้เปลี่ยนไปไหนเลย
“นี่! ยัยตัวแสบ วันนี้เธอเป็นอะไรของเธอเนี่ย ดูท่าทางเธอแปลกๆ” เบลซพูดพร้อมเดินเข้าไปจับตัวจีอาร์เขย่า
“เบลซ นายจะทำอะไรน่ะ” อูริคพูดแล้วรีบวิ่งตรงเข้ามาทันที เบลซหันไปมองเป็นจังหวะเดียวกับที่จีอาร์ร่วงลงไป
นอนกับพื้นพอดี
“เบลซ นายทำอะไรจีอาร์น่ะ” อูริครีบวิ่งเข้ามาประคองจีอาร์
“ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอนะ เธอมีท่าทางแปลกๆตั้งแต่ก่อนนี้แล้ว” เบลซพูดอย่างตกใจกลัวเพราะภาพที่เห็นตอนนี้
จีอาร์เนื้อตัวซีดราวกับศพ ตาของเธอเบิกกว้าง ดวงตาแน่นิ่ง นัยน์ตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีม่วง
“รีบพาเธอส่งห้องพยาบาลเร็วเข้า”
To be continue
ความคิดเห็น