ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เดอะคริสคอท ตอน หุบผาสะกดวิญญาณกับตำนานผู้กล้าทั้ง 4

    ลำดับตอนที่ #5 : การสอบ

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ย. 49



              เสียงหวูดและแตรดังก้องสลับกับเสียงกลองที่รัวสะบัด  มหานครโคว์เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่มาเข้าแถวรอเพื่อยื่นใบสมัคร  ทามัสถูกปลุกตั้งแต่ตีสอง  แต่กระนั้นเขาก็ยังมาหลังคนอีกเป็นร้อยที่เข้าแถวรออยู่ก่อนหน้าแล้ว  ทามัสมองเด็กหนุ่มที่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกับเขาที่พากันหลั่งไหลมาจากทุกมุมโลก  ในใจพลันคิดจะมีกี่คนที่ได้สมหวังและอีกกี่คนเล่าที่ต้องพลาดโอกาส  สำหรับเขาก็คงมีแต่ในความฝันเท่านั้นที่ได้ดีใจ  และหากฝันนั้นเป็นลางบอกให้รู้อนาคต  ทามัสยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นลางดีหรือลางร้ายกันแน่  เสียงร่ำลือถึงการสอบที่แสนหินและการฝึกที่สุดโหดแต่เหตุใดผู้คนจึงยังไขว่คว้าที่จะเข้าสู่คริสคอท  ทามัสได้แต่ตั้งคำถามถามตัวเอง  ทั้งรู้ว่าไม่ได้คำตอบแต่ก็พอทำให้หายตื่นเต้นได้บ้าง

              ประตูเมืองชั้นในเปิดออก  โต๊ะหินสีเทาตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า  ธงสีแดงสลับเหลืองถูกปักอยู่ทางด้านซ้าย  ส่วนทางขวาเป็นธงสีแสดที่มีสัญลักษณ์แห่งจตุรธาตุอยู่ตรงกลางผืน  ถัดจากโต๊ะหินไปมีชายหน้าตาดุดันสองคนแต่งเครื่องแบบเต็มยศบอกให้รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของคริสคอท  ที่กลางหน้าอกของชุดเกราะมีตราจตุรธาตุเช่นเดียวกับที่อยู่บนธงสีแสด  ผ้าคลุมสีดำลาดกองไปกับพื้นเพราะชายทั้งสองนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้หิน 

              "เปิดรับสมัครได้"  ชายคนที่นั่งอยู่ทางขวากล่าวขึ้น  เสียงหวูดและแตรดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะเงียบลง

              หัวแถวเคลื่อนเข้าไปหลังจากสิ้นสุดการบรรเลง  ทามัสมองสีหน้าของเหล่าผู้สมัครคนแล้วคนเล่าที่เดินผ่าน  ที่ดูจะตื่นเต้นระคนกับวิตกกังวล  เขาก้าวเข้าไปยื่นใบสมัคร  ชายคนขวามองดูชื่อจากใบสมัครก่อนจะหันขึ้นมองหน้าและไล่ลงไปจนจดปลายเท้า  ก่อนจะส่งต่อใบสมัครให้ชายอีกคน ชายคนที่สองทำปากขมุบขมิบแล้วแตะลงบนการ์ดสีทองโล้น ๆ ที่ไม่มีลวดลายใด ๆ  ทามัสรับการ์ดสีทองที่ชายคนที่สองยื่นให้ซึ่งบัดนี้มีชื่อของเขาปรากฏอยู่พร้อมกับหมายเลขลำดับที่หนึ่งร้อยเก้าสิบเอ็ด  และภูมิลำเนาจากเวเลนเดีย

              แสงแดดยามเช้าส่องผ่านผ้าม่านที่กำลังปลิวไหวด้วยแรงลม  เก้าอี้ทองเหลืองสะท้อนกับแสงแดดส่องประกายแววาวยิ่งขึ้นกว่าวันแรกที่เห็น  วันนี้ที่บาร์ค่อนข้างเงียบ  เพราะคนที่มาพักที่นี่ส่วนใหญ่มีจุดประสงค์เดียวกันคือสมัครสอบเข้าองค์กรคริสคอท  จึงทำให้คนไปรวมที่ประตูเมืองชั้นในหมด

              "ไง"  เสียงทักดังขึ้นจากด้านหลังทำให้คนถูกทักหันไปมอง  
      
              คามเดินเข้ามาแล้วตบบ่าลูกชายดังป๊าบ  ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ข้าง  ๆ 

              "พ่อ  ผมว่างานนี้คงไม่มีหวัง " ทามัสพูดเสียอ่อย

              "อย่าพึ่งถอดใจทั้งที่ยังไม่ได้พยายาม  แล้วจะเสียใจไปตลอดชีวิต " คามพูดเสียงเครียด

              "งานอื่นมีออกถมเถ  ดันให้ทำอะไรที่เสี่ยงเอาชีวิตมาทิ้งซะนี่" 
      
              " ศักดิ์ศรีมันต่างกัน" คามพูดก่อนจะรินชาจากกาแล้วยกขึ้นจิบ  เกิดความเงียบขึ้นชั่วครูก่อนที่ทามัสจะหยิบคู่มือการสอบขึ้นมาแล้วพลิกดู
      
              "สิ่งที่ต้องเตรียมไปในการสอบมี…" ก่อนที่ทามัสจะบอกรายการของที่ต้องเตรียม
      
              "นี่"  คามส่งถุงกระดาษเก่า ๆ ให้
      
              "สมบัติตกทอดอะไรอีกล่ะ" ทามัสคาดการณ์ เพราะสิ่งที่ได้จากพ่อมักจะเป็นของเก่าเสมอ  ก่อนจะแกะห่อกระดาษนั้นดู  แล้วไล่ดูรายการในระเบียบการสมัคร  ของทุกชิ้นดูไม่แย่นักหากจะเทียบกับดาบขึ้นสนิมที่ทามัสหวังฝากชีวิตไว้กับมัน  ทามัสห่อของเหล่านั้นกลับไว้อย่างเดิมก่อนจะยัดมันลงในกระเป๋าเสื้อคลุม

              " อรุณสวัสดิ์ครับลุงคาม " กอเลียสทักขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาสมทบที่โต๊ะ
      
              "ไงพ่อหนุ่ม "
      
              " เรียบร้อยครับ" กอเลียสตอบด้วยเสียงราบเรียบเหมือนไม่ตื่นเต้นอะไรเลยกับการสอบครั้งนี้  
      
              การสอบคงจะเป็นหัวข้อการสนทนาติดอันดับของผู้คนที่นี่  แม้แต่สองคนที่ร่วมโต๊ะอยู่กับทามัสที่ดูจะไม่วิตกอะไรเลยกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น ทามัสพยายามเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาหลายครั้งแต่ท้ายที่สุดก็ยังต้องวกกลับเข้าสู่เรื่องเดิม

              พายุหิมะหยุดตกแล้วแต่อากาศยังคงหนาวจัด  การซุกตัวอยู่ในที่นอนดูจะเป็นสิ่งที่น่าพิสมัยกว่ากิจกรรมใด ๆ แต่สำหรับทามัสกลับไม่เป็นเช่นนั้น  อากาศที่หนาวบาดเนื้อไม่ได้ช่วยให้ความร้อนรุ่มภายในใจของเขาเย็นลง  ทั้งคืนเขาเฝ้าคิดถึงการสอบในวันรุ่งขึ้นพลิกตัวไปมาบนที่นอน  ถอดหายใจชั่วโมงละหลาย ๆ ครั้ง  หากจะมีปาฏิหาริย์ใดเกิดขึ้นก็ขอให้เขารอดพ้นจากความตายด้วยเถอะ


              เสียงเครื่องดนตรีสารพัดชนิดบรรเลงประสานกันดังก้องไปทั่วมหานครโคว์  ร้านค้าที่เคยมีลูกค้าแน่นร้านวันนี้กลับปิดเงียบ  สองข้างทางเต็มไปด้วยผู้คนที่มายืนรอดูขบวนเสด็จของคิงรูดอฟพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันของมหานครโคว์ที่จะเสด็จไปเป็นประธานในการสอบครั้งนี้  

              ประตูเมื่องชั้นในเปิดออก  เผยให้เห็นขบวนเครื่องดนตรีสารพัดชนิดที่บรรเลงสอดประสานกัน ท่วงทำนองบอกถึงความแข็งแกร่ง  ชวนให้หึกเหิม  ขบวนทหารสี่ธาตุของคริสคอทแต่งกายในเครื่องแบบคนละสีได้แก่สีแดง  ฟ้า  ขาว  และน้ำตาล  เครื่องแบบทุกสีล้วนมีเครื่องหมายจตุรธาตุติดอยู่ที่กลางอกของเสื้อเกราะ  ตามด้วยขบวนทหารเสื้อเกราะสีดำ ราชรถเทียมม้าสีขาวสี่ตัว เคลื่อนออกมาจากประตูเมืองชั้นในก่อนจะเลี้ยวขวาตามขบวนไป  คิงรูดอฟโบกพระหัตถ์ให้กับประชาชนที่เฝ้ารอรับเสด็จ  ทุกคนต่างค้อมศีรษะให้ราชรถของพระองค์ผ่านไป 
      
              เหล่าผู้สมัครถูกเรียกไปแต่เช้าตรูเพื่อร่วมขบวนในครั้งนี้  ขบวนผู้สมัครทั้งหมดถูกจัดให้ต่อท้ายขบวนของคิงรูดอฟ  เหล่าญาติที่มารอส่งลูกหลานของตนเข้าสนามต่างพากันสอดส่ายสายตาหาคนของตัวเอง  บ้างก็ร้องให้ด้วยความปลื้มใจ  หรืออาจสงสารและคงจะเข้าใจความรู้สึกของทามัสดี 

               ขบวนสวนสนามที่ยาวเหยียดไปสิ้นสุดที่สนามกีฬาเกอกอเรียมของมหานครโคว์ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระราชวัง  ขบวนทหารเข้าประจำที่ในสนาม เมื่อพระราชาเข้าสู่พลับพลาที่ประทับ  อัฒจันทร์โดยรอบสนามเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่มารูดูพิธีเปิดการสอบในปีนี้ 
      
              " ถวายความเคารพ  ทั้งหมด แถว…ตรง " ผู้บังคับบัญชาคนหนึ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มีพลัง  ได้ยินก้องไปทั่วทั้งสนาม  สิ้นเสียงสั่งนั้น ทุกคนทั้งที่อยู่บนอัฒจันทร์และในสนามต่างยืนตรงดนตรีถูกบรรเลงอีกครั้ง  หากแต่เป็นเพลงประจำชาติที่มีจังหวะและท่วงทำนองน่าฟังกว่าที่เคยได้ยินจากเสียงแตรที่เป่าในตอนเช้า
     
              " ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฤดูกาลแห่งการสอบประจำปีนี้ " เสียงกล่าวดังขึ้นจากพลับพลาที่ประทับ  น้ำเสียงมีพลังสะกดผู้คนในสนามและบนอัฒจันทร์ให้นิ่งเงียบ 

              " คิดว่ากฎกฏิกาต่าง ๆ ผู้สมัครทุกท่านคงจะได้ศึกษาจากคู่มือแล้ว  ด้วยปีนี้มีผู้ให้ความสนใจสมัครเข้าสอบคัดเลือกเป็นจำนวนมากกว่าทุก ๆ ปี  แสดงให้เห็นถึงความเสียสละและความกล้าหาญของเหล่าผู้สมัคร  ขอให้ทุกท่านจงทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง  นั่นก็คือฟันฝ่าเข้าไปให้ได้  ศักดิ์ศรีและเกียรติยศคือรางวัลสำหรับคนที่ไม่ย่อท้อ  ขอให้ผู้สมัครทุกท่านจงโชคดี "  จบคำกล่าววงดนตรีบรรเลงขึ้นอีกครั้งตามด้วยเสียงโห่ร้องกึกก้องของผู้ชมที่อยู่บนอัฒจันทร์  ไม่มีใครรู้ว่าการสอบจะเป็นแบบไหน  ผู้เข้าสอบต่างหันมองหน้ากันอยู่กลางสนาม หลังจากที่เหล่าทหารกองเกียรติยศเคลื่อนออกจากสนามไปหมดแล้ว

              " การสอบรอบที่หนึ่ง  สอบสัมภาษณ์ " เสียงประกาศดังขึ้นทำให้ทามัสรู้สึกโล่งเป็นที่สุดเพราะคิดว่าถ้าสัมภาษณ์ไม่ผ่านก็ไม่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงกับการสอบปฏิบัติอีก

              เสียงลมที่หวีดหวิวดั้งขึ้น  เมฆหมอกดำทะมึนลอยมาปกคลุมเหนือบริเวณสนาม  กลุ่มหมอกเริ่มแผ่ขยายตามเสียงบริกรรมที่ดังก้องอยู่เหนือท้องฟ้า  ชั่วพริบตาทุกอย่างก็อยู่ในความมืด  ทามัสมองไม่เห็นสิ่งรอบตัว  แม้แต่คนที่ยืนอยู่ด้านข้างก็พลันหายไปจากสายตาด้วย  ทั้ง ๆ ที่เขายืนนิ่งไม่ได้ขยับจากที่เลย  เสียงร่ายเวทยังคงดังก้องอยู่ก่อนจะหยุดลงและเปลี่ยนเป็นเหมือนเสียงลมที่พัดก้องอยู่ในหู

              " ทามัส  ฮอนเทรต " เสียงแหบแห้งนำความรู้สึกเย็บเยียบบาดลึกเข้าไปในโสตประสาททำให้คนใจไม่ดียิ่งขวัญหนีดีฝ่อไปใหญ่  ใครกันที่กล้ามาก่อกวนการสอบทามัสคิดอยู่ในใจ  และทำไม่มหานครโคว์หรือแม้แต่คริสคอทที่แข่งแกร่งและเก่งกาจจึงยังจัดการกับผู้ก่อกวนไม่ได้เสียที 
      
              " นั่นใคร " ทามัสกระชับดาบในมือแน่น  ก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ 
      
              " เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่ " เสียงแหบแห้งนั้นดังขึ้นอีกครั้ง  "เหตุใดเจ้าจึงต้องการเข้าร่วมกับคริสคอท" เสียงนั้นถามรุกขึ้นอีก
      
              "ข้าไม่ได้อยากมานักหรอก  ไอ่องค์กรป่าเถื่อนนี่นะ"
      
              "ป่าเถือน….ฮะฮะๆๆๆๆ  ป่าเถือน" เสียงหัวเราะยิ่งชวนให้คนฟังเสียวสันหลัง
      
              "ข้ามีข้อเสนอให้เจ้า  ถ้าเจ้าตอบถูกใจข้าเจ้าจะเป็นอิสระและกลับเข้าไปสู่สนามสอบอย่างปลอดภัย" เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ
      
              "ว่ามา" ทามัสตะคอกตอบเสียงนั้น
      
              "ถ้าเจ้าต้องตาย  เจ้าจะเลือกตายเดี๋ยวนี้แบบง่าย ๆ ไม่ต้องทรมานซึ่งข้สามารถทำให้เจ้าได้  หรือว่าเจ้าจะไปตายในสนามสอบที่ป่าเถื่อนนั่น"
     
               "จะไม่มีการตายเกิดขึ้นที่ไหนทั้งนั้น  หากเจ้าเผยตัวให้ข้าเห็นแล้วมาตัดสิ้นกันด้วยเพลงดาบ" ทามัสท้าทายเจ้าของเสียงแหบแห้งนั้น
      
              " ด้วยดาบขึ้นสนิมของเจ้านั้นรึ  ฮึม…กล้าหาญแต่…"   ทามัสรู้สึกแปลกใจมากที่เสียงนั้นรู้ว่าเขามีดาบที่ขึ้นสนิมทั้งที่เขายังไม่ได้ชักมันออกมาจากฝัก  เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง
      
              " จะไม่มีการใช้กำลังใด ๆ ทั้งนั้น ฮะฮะๆๆๆๆๆ  ฮะฮะๆๆๆๆ "

              เสียงหัวเราะนั้นลอยห่างออกไปเรื่อย ๆ ฉับพลันความสว่างกลับสู่ทามัสอีกครั้ง  แต่ที่นี่กลับไม่ใช่สนามกีฬาที่เขายืนอยู่เมื่อสักครู่  แล้วคนอื่น ๆ หายไปไหนหมด  แล้วที่ที่เขาอยู่นี่คือที่ไหน  หรือว่าเขาตายแล้วอย่างที่เจ้าเสียงนั้นบอกว่า ตายอย่างไม่ทรมาน  เขายังไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่าเขาตายตอนไหน  คำถามมากมายผุดขึ้นในหัว

              " ขอต้องรับเข้าสู่ห้องพักสำหรับผู้ที่สอบผ่าน"  เสียงหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลัง  ทามัสตกใจกระโดดวูบชักดาบอยู่ในท่าเตรียมพร้อม
      
              " เจ้าสอบสัมภาษณ์ผ่านแล้ว ข้าจะนำเจ้าไปสู่ห้องพัก" ชายในชุดเครื่องแบบสีดำบอกให้รู้ว่าเป็นทหาร  กล่าวแก่ทามัส  ที่ยืนทำหน้างงอย่างสังเกตเห็นได้ชัด  
      
              ทามัสเดินตามทหารหนุ่มคนนั้นไปยังห้องพัก  ผ่านทางเดินแคบ ๆ ขึ้นบันใดไปสองชั้นก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปในห้องที่อยู่สุดทางเดิน  กำแพงที่เขาเดินผ่านล้วนทำมาจากหินศิลา  ที่นี่ค่อนข้างเก่า  เงียบ  และมีกลิ่นอับ ๆ  ในห้องมีเตียงนอนหนึ่งเตียง  โต๊ะและเก้าอี้สำหรับเขียนหนังสือหนึ่งชุด  มีตะเกียงน้ำมันเก่า ๆ ตั้งอยู่บนโต๊ะ  และมีหนูหนึ่งตัวที่พึ่งกระโดดลงจากโต๊ะไปเมื่อมามัสทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้
      
              หน้าต่างถูกผลักเปิดออก  สายลมหอบเอากลิ่นหอมเย็นมาปะทะจมูก  นกพิราบหลายตัวตีปีกบินหนีไป  ป่าสีเขียวขจีอยู่เบื้องล่าง  ภูเขาสูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ยอดปราสาทไกลลิบนั่นคงเป็นมหานครโคว์  ใบไม้ด้านล่างพลิ้วปลิวตามลม  ยิ่งเพิ่มกลิ่นหอมเป็นทวีคูณ
      
              "ป่าลิมโบว์" ทามัสอุทานเบา ๆ ก่อนจะมองผ่านไปยังท้องฟ้าที่มีเมฆรูปร่างประหลายลอยเอื่อยอยู่สองสามก้อน นี่คงเป็นส่วนท้ายของมหานครโคว์  ทามัสคิดขึ้นในใจโดยเดาความจากที่กอเลียสเคยเล่าให้ฟังว่ามีป่าลิมโบว์อยู่ท้ายเมือง  ความครางแครงใจ และคำถามมากมายผุดขึ้นในใจ  เขาสอบผ่านได้อย่างไร  ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ทำการสอบเลยด้วยซ้ำ  หรือว่าตอนนี้เข้ากำลังฝัน  พลันย้อนคิดถึงเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านไป  หรือว่าเสียงที่แหบแห้งชวนขนลุกนั้นคือกรรมการ  แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเขาก็ยังไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับคริสคอทเลยสักคำถาม มิหนำซ้ำยังหาว่าเป็นองค์กรป่าเถื่อนอีกต่างหาก 

              ความมืดกลืนกินทุกอย่าง  เสียงหมาป่าเห่าหอนดังมาเป็นระยะ ๆ เสียงนกแสกและค้างคาวดังมากับสายลม  ทามัสหยุดโลกแห่งความเป็นจริงไว้แล้วปล่อยใจให้หลุดลอยไปในโลกแห่งความฝัน  หากนี่คือความฝันเขาไม่อยากจะตื่นไปพบโลกแห่งความจริงซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเขาไม่มีโอกาสได้กลับไปตั้งคำถามใครต่อใครถึงเรื่องที่อยากรู้อีกเลยก็ได้

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×