คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : การสอบ
เสียงหวูดและแตรดังก้องสลับกับเสียงกลองที่รัวสะบัด มหานครโคว์เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่มาเข้าแถวรอเพื่อยื่นใบสมัคร ทามัสถูกปลุกตั้งแต่ตีสอง แต่กระนั้นเขาก็ยังมาหลังคนอีกเป็นร้อยที่เข้าแถวรออยู่ก่อนหน้าแล้ว ทามัสมองเด็กหนุ่มที่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกับเขาที่พากันหลั่งไหลมาจากทุกมุมโลก ในใจพลันคิดจะมีกี่คนที่ได้สมหวังและอีกกี่คนเล่าที่ต้องพลาดโอกาส สำหรับเขาก็คงมีแต่ในความฝันเท่านั้นที่ได้ดีใจ และหากฝันนั้นเป็นลางบอกให้รู้อนาคต ทามัสยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นลางดีหรือลางร้ายกันแน่ เสียงร่ำลือถึงการสอบที่แสนหินและการฝึกที่สุดโหดแต่เหตุใดผู้คนจึงยังไขว่คว้าที่จะเข้าสู่คริสคอท ทามัสได้แต่ตั้งคำถามถามตัวเอง ทั้งรู้ว่าไม่ได้คำตอบแต่ก็พอทำให้หายตื่นเต้นได้บ้าง
ประตูเมืองชั้นในเปิดออก โต๊ะหินสีเทาตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ธงสีแดงสลับเหลืองถูกปักอยู่ทางด้านซ้าย ส่วนทางขวาเป็นธงสีแสดที่มีสัญลักษณ์แห่งจตุรธาตุอยู่ตรงกลางผืน ถัดจากโต๊ะหินไปมีชายหน้าตาดุดันสองคนแต่งเครื่องแบบเต็มยศบอกให้รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของคริสคอท ที่กลางหน้าอกของชุดเกราะมีตราจตุรธาตุเช่นเดียวกับที่อยู่บนธงสีแสด ผ้าคลุมสีดำลาดกองไปกับพื้นเพราะชายทั้งสองนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้หิน
"เปิดรับสมัครได้" ชายคนที่นั่งอยู่ทางขวากล่าวขึ้น เสียงหวูดและแตรดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะเงียบลง
หัวแถวเคลื่อนเข้าไปหลังจากสิ้นสุดการบรรเลง ทามัสมองสีหน้าของเหล่าผู้สมัครคนแล้วคนเล่าที่เดินผ่าน ที่ดูจะตื่นเต้นระคนกับวิตกกังวล เขาก้าวเข้าไปยื่นใบสมัคร ชายคนขวามองดูชื่อจากใบสมัครก่อนจะหันขึ้นมองหน้าและไล่ลงไปจนจดปลายเท้า ก่อนจะส่งต่อใบสมัครให้ชายอีกคน ชายคนที่สองทำปากขมุบขมิบแล้วแตะลงบนการ์ดสีทองโล้น ๆ ที่ไม่มีลวดลายใด ๆ ทามัสรับการ์ดสีทองที่ชายคนที่สองยื่นให้ซึ่งบัดนี้มีชื่อของเขาปรากฏอยู่พร้อมกับหมายเลขลำดับที่หนึ่งร้อยเก้าสิบเอ็ด และภูมิลำเนาจากเวเลนเดีย
แสงแดดยามเช้าส่องผ่านผ้าม่านที่กำลังปลิวไหวด้วยแรงลม เก้าอี้ทองเหลืองสะท้อนกับแสงแดดส่องประกายแววาวยิ่งขึ้นกว่าวันแรกที่เห็น วันนี้ที่บาร์ค่อนข้างเงียบ เพราะคนที่มาพักที่นี่ส่วนใหญ่มีจุดประสงค์เดียวกันคือสมัครสอบเข้าองค์กรคริสคอท จึงทำให้คนไปรวมที่ประตูเมืองชั้นในหมด
"ไง" เสียงทักดังขึ้นจากด้านหลังทำให้คนถูกทักหันไปมอง
คามเดินเข้ามาแล้วตบบ่าลูกชายดังป๊าบ ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ
"พ่อ ผมว่างานนี้คงไม่มีหวัง " ทามัสพูดเสียอ่อย
"อย่าพึ่งถอดใจทั้งที่ยังไม่ได้พยายาม แล้วจะเสียใจไปตลอดชีวิต " คามพูดเสียงเครียด
"งานอื่นมีออกถมเถ ดันให้ทำอะไรที่เสี่ยงเอาชีวิตมาทิ้งซะนี่"
" ศักดิ์ศรีมันต่างกัน" คามพูดก่อนจะรินชาจากกาแล้วยกขึ้นจิบ เกิดความเงียบขึ้นชั่วครูก่อนที่ทามัสจะหยิบคู่มือการสอบขึ้นมาแล้วพลิกดู
"สิ่งที่ต้องเตรียมไปในการสอบมี
" ก่อนที่ทามัสจะบอกรายการของที่ต้องเตรียม
"นี่" คามส่งถุงกระดาษเก่า ๆ ให้
"สมบัติตกทอดอะไรอีกล่ะ" ทามัสคาดการณ์ เพราะสิ่งที่ได้จากพ่อมักจะเป็นของเก่าเสมอ ก่อนจะแกะห่อกระดาษนั้นดู แล้วไล่ดูรายการในระเบียบการสมัคร ของทุกชิ้นดูไม่แย่นักหากจะเทียบกับดาบขึ้นสนิมที่ทามัสหวังฝากชีวิตไว้กับมัน ทามัสห่อของเหล่านั้นกลับไว้อย่างเดิมก่อนจะยัดมันลงในกระเป๋าเสื้อคลุม
" อรุณสวัสดิ์ครับลุงคาม " กอเลียสทักขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาสมทบที่โต๊ะ
"ไงพ่อหนุ่ม "
" เรียบร้อยครับ" กอเลียสตอบด้วยเสียงราบเรียบเหมือนไม่ตื่นเต้นอะไรเลยกับการสอบครั้งนี้
การสอบคงจะเป็นหัวข้อการสนทนาติดอันดับของผู้คนที่นี่ แม้แต่สองคนที่ร่วมโต๊ะอยู่กับทามัสที่ดูจะไม่วิตกอะไรเลยกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น ทามัสพยายามเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาหลายครั้งแต่ท้ายที่สุดก็ยังต้องวกกลับเข้าสู่เรื่องเดิม
พายุหิมะหยุดตกแล้วแต่อากาศยังคงหนาวจัด การซุกตัวอยู่ในที่นอนดูจะเป็นสิ่งที่น่าพิสมัยกว่ากิจกรรมใด ๆ แต่สำหรับทามัสกลับไม่เป็นเช่นนั้น อากาศที่หนาวบาดเนื้อไม่ได้ช่วยให้ความร้อนรุ่มภายในใจของเขาเย็นลง ทั้งคืนเขาเฝ้าคิดถึงการสอบในวันรุ่งขึ้นพลิกตัวไปมาบนที่นอน ถอดหายใจชั่วโมงละหลาย ๆ ครั้ง หากจะมีปาฏิหาริย์ใดเกิดขึ้นก็ขอให้เขารอดพ้นจากความตายด้วยเถอะ
เสียงเครื่องดนตรีสารพัดชนิดบรรเลงประสานกันดังก้องไปทั่วมหานครโคว์ ร้านค้าที่เคยมีลูกค้าแน่นร้านวันนี้กลับปิดเงียบ สองข้างทางเต็มไปด้วยผู้คนที่มายืนรอดูขบวนเสด็จของคิงรูดอฟพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันของมหานครโคว์ที่จะเสด็จไปเป็นประธานในการสอบครั้งนี้
ประตูเมื่องชั้นในเปิดออก เผยให้เห็นขบวนเครื่องดนตรีสารพัดชนิดที่บรรเลงสอดประสานกัน ท่วงทำนองบอกถึงความแข็งแกร่ง ชวนให้หึกเหิม ขบวนทหารสี่ธาตุของคริสคอทแต่งกายในเครื่องแบบคนละสีได้แก่สีแดง ฟ้า ขาว และน้ำตาล เครื่องแบบทุกสีล้วนมีเครื่องหมายจตุรธาตุติดอยู่ที่กลางอกของเสื้อเกราะ ตามด้วยขบวนทหารเสื้อเกราะสีดำ ราชรถเทียมม้าสีขาวสี่ตัว เคลื่อนออกมาจากประตูเมืองชั้นในก่อนจะเลี้ยวขวาตามขบวนไป คิงรูดอฟโบกพระหัตถ์ให้กับประชาชนที่เฝ้ารอรับเสด็จ ทุกคนต่างค้อมศีรษะให้ราชรถของพระองค์ผ่านไป
เหล่าผู้สมัครถูกเรียกไปแต่เช้าตรูเพื่อร่วมขบวนในครั้งนี้ ขบวนผู้สมัครทั้งหมดถูกจัดให้ต่อท้ายขบวนของคิงรูดอฟ เหล่าญาติที่มารอส่งลูกหลานของตนเข้าสนามต่างพากันสอดส่ายสายตาหาคนของตัวเอง บ้างก็ร้องให้ด้วยความปลื้มใจ หรืออาจสงสารและคงจะเข้าใจความรู้สึกของทามัสดี
ขบวนสวนสนามที่ยาวเหยียดไปสิ้นสุดที่สนามกีฬาเกอกอเรียมของมหานครโคว์ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระราชวัง ขบวนทหารเข้าประจำที่ในสนาม เมื่อพระราชาเข้าสู่พลับพลาที่ประทับ อัฒจันทร์โดยรอบสนามเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่มารูดูพิธีเปิดการสอบในปีนี้
" ถวายความเคารพ ทั้งหมด แถว
ตรง " ผู้บังคับบัญชาคนหนึ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มีพลัง ได้ยินก้องไปทั่วทั้งสนาม สิ้นเสียงสั่งนั้น ทุกคนทั้งที่อยู่บนอัฒจันทร์และในสนามต่างยืนตรงดนตรีถูกบรรเลงอีกครั้ง หากแต่เป็นเพลงประจำชาติที่มีจังหวะและท่วงทำนองน่าฟังกว่าที่เคยได้ยินจากเสียงแตรที่เป่าในตอนเช้า
" ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฤดูกาลแห่งการสอบประจำปีนี้ " เสียงกล่าวดังขึ้นจากพลับพลาที่ประทับ น้ำเสียงมีพลังสะกดผู้คนในสนามและบนอัฒจันทร์ให้นิ่งเงียบ
" คิดว่ากฎกฏิกาต่าง ๆ ผู้สมัครทุกท่านคงจะได้ศึกษาจากคู่มือแล้ว ด้วยปีนี้มีผู้ให้ความสนใจสมัครเข้าสอบคัดเลือกเป็นจำนวนมากกว่าทุก ๆ ปี แสดงให้เห็นถึงความเสียสละและความกล้าหาญของเหล่าผู้สมัคร ขอให้ทุกท่านจงทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง นั่นก็คือฟันฝ่าเข้าไปให้ได้ ศักดิ์ศรีและเกียรติยศคือรางวัลสำหรับคนที่ไม่ย่อท้อ ขอให้ผู้สมัครทุกท่านจงโชคดี " จบคำกล่าววงดนตรีบรรเลงขึ้นอีกครั้งตามด้วยเสียงโห่ร้องกึกก้องของผู้ชมที่อยู่บนอัฒจันทร์ ไม่มีใครรู้ว่าการสอบจะเป็นแบบไหน ผู้เข้าสอบต่างหันมองหน้ากันอยู่กลางสนาม หลังจากที่เหล่าทหารกองเกียรติยศเคลื่อนออกจากสนามไปหมดแล้ว
" การสอบรอบที่หนึ่ง สอบสัมภาษณ์ " เสียงประกาศดังขึ้นทำให้ทามัสรู้สึกโล่งเป็นที่สุดเพราะคิดว่าถ้าสัมภาษณ์ไม่ผ่านก็ไม่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงกับการสอบปฏิบัติอีก
เสียงลมที่หวีดหวิวดั้งขึ้น เมฆหมอกดำทะมึนลอยมาปกคลุมเหนือบริเวณสนาม กลุ่มหมอกเริ่มแผ่ขยายตามเสียงบริกรรมที่ดังก้องอยู่เหนือท้องฟ้า ชั่วพริบตาทุกอย่างก็อยู่ในความมืด ทามัสมองไม่เห็นสิ่งรอบตัว แม้แต่คนที่ยืนอยู่ด้านข้างก็พลันหายไปจากสายตาด้วย ทั้ง ๆ ที่เขายืนนิ่งไม่ได้ขยับจากที่เลย เสียงร่ายเวทยังคงดังก้องอยู่ก่อนจะหยุดลงและเปลี่ยนเป็นเหมือนเสียงลมที่พัดก้องอยู่ในหู
" ทามัส ฮอนเทรต " เสียงแหบแห้งนำความรู้สึกเย็บเยียบบาดลึกเข้าไปในโสตประสาททำให้คนใจไม่ดียิ่งขวัญหนีดีฝ่อไปใหญ่ ใครกันที่กล้ามาก่อกวนการสอบทามัสคิดอยู่ในใจ และทำไม่มหานครโคว์หรือแม้แต่คริสคอทที่แข่งแกร่งและเก่งกาจจึงยังจัดการกับผู้ก่อกวนไม่ได้เสียที
" นั่นใคร " ทามัสกระชับดาบในมือแน่น ก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ
" เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่ " เสียงแหบแห้งนั้นดังขึ้นอีกครั้ง "เหตุใดเจ้าจึงต้องการเข้าร่วมกับคริสคอท" เสียงนั้นถามรุกขึ้นอีก
"ข้าไม่ได้อยากมานักหรอก ไอ่องค์กรป่าเถื่อนนี่นะ"
"ป่าเถือน
.ฮะฮะๆๆๆๆ ป่าเถือน" เสียงหัวเราะยิ่งชวนให้คนฟังเสียวสันหลัง
"ข้ามีข้อเสนอให้เจ้า ถ้าเจ้าตอบถูกใจข้าเจ้าจะเป็นอิสระและกลับเข้าไปสู่สนามสอบอย่างปลอดภัย" เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ
"ว่ามา" ทามัสตะคอกตอบเสียงนั้น
"ถ้าเจ้าต้องตาย เจ้าจะเลือกตายเดี๋ยวนี้แบบง่าย ๆ ไม่ต้องทรมานซึ่งข้สามารถทำให้เจ้าได้ หรือว่าเจ้าจะไปตายในสนามสอบที่ป่าเถื่อนนั่น"
"จะไม่มีการตายเกิดขึ้นที่ไหนทั้งนั้น หากเจ้าเผยตัวให้ข้าเห็นแล้วมาตัดสิ้นกันด้วยเพลงดาบ" ทามัสท้าทายเจ้าของเสียงแหบแห้งนั้น
" ด้วยดาบขึ้นสนิมของเจ้านั้นรึ ฮึม
กล้าหาญแต่
" ทามัสรู้สึกแปลกใจมากที่เสียงนั้นรู้ว่าเขามีดาบที่ขึ้นสนิมทั้งที่เขายังไม่ได้ชักมันออกมาจากฝัก เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง
" จะไม่มีการใช้กำลังใด ๆ ทั้งนั้น ฮะฮะๆๆๆๆๆ ฮะฮะๆๆๆๆ "
เสียงหัวเราะนั้นลอยห่างออกไปเรื่อย ๆ ฉับพลันความสว่างกลับสู่ทามัสอีกครั้ง แต่ที่นี่กลับไม่ใช่สนามกีฬาที่เขายืนอยู่เมื่อสักครู่ แล้วคนอื่น ๆ หายไปไหนหมด แล้วที่ที่เขาอยู่นี่คือที่ไหน หรือว่าเขาตายแล้วอย่างที่เจ้าเสียงนั้นบอกว่า ตายอย่างไม่ทรมาน เขายังไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่าเขาตายตอนไหน คำถามมากมายผุดขึ้นในหัว
" ขอต้องรับเข้าสู่ห้องพักสำหรับผู้ที่สอบผ่าน" เสียงหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลัง ทามัสตกใจกระโดดวูบชักดาบอยู่ในท่าเตรียมพร้อม
" เจ้าสอบสัมภาษณ์ผ่านแล้ว ข้าจะนำเจ้าไปสู่ห้องพัก" ชายในชุดเครื่องแบบสีดำบอกให้รู้ว่าเป็นทหาร กล่าวแก่ทามัส ที่ยืนทำหน้างงอย่างสังเกตเห็นได้ชัด
ทามัสเดินตามทหารหนุ่มคนนั้นไปยังห้องพัก ผ่านทางเดินแคบ ๆ ขึ้นบันใดไปสองชั้นก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปในห้องที่อยู่สุดทางเดิน กำแพงที่เขาเดินผ่านล้วนทำมาจากหินศิลา ที่นี่ค่อนข้างเก่า เงียบ และมีกลิ่นอับ ๆ ในห้องมีเตียงนอนหนึ่งเตียง โต๊ะและเก้าอี้สำหรับเขียนหนังสือหนึ่งชุด มีตะเกียงน้ำมันเก่า ๆ ตั้งอยู่บนโต๊ะ และมีหนูหนึ่งตัวที่พึ่งกระโดดลงจากโต๊ะไปเมื่อมามัสทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้
หน้าต่างถูกผลักเปิดออก สายลมหอบเอากลิ่นหอมเย็นมาปะทะจมูก นกพิราบหลายตัวตีปีกบินหนีไป ป่าสีเขียวขจีอยู่เบื้องล่าง ภูเขาสูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ยอดปราสาทไกลลิบนั่นคงเป็นมหานครโคว์ ใบไม้ด้านล่างพลิ้วปลิวตามลม ยิ่งเพิ่มกลิ่นหอมเป็นทวีคูณ
"ป่าลิมโบว์" ทามัสอุทานเบา ๆ ก่อนจะมองผ่านไปยังท้องฟ้าที่มีเมฆรูปร่างประหลายลอยเอื่อยอยู่สองสามก้อน นี่คงเป็นส่วนท้ายของมหานครโคว์ ทามัสคิดขึ้นในใจโดยเดาความจากที่กอเลียสเคยเล่าให้ฟังว่ามีป่าลิมโบว์อยู่ท้ายเมือง ความครางแครงใจ และคำถามมากมายผุดขึ้นในใจ เขาสอบผ่านได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ทำการสอบเลยด้วยซ้ำ หรือว่าตอนนี้เข้ากำลังฝัน พลันย้อนคิดถึงเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านไป หรือว่าเสียงที่แหบแห้งชวนขนลุกนั้นคือกรรมการ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเขาก็ยังไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับคริสคอทเลยสักคำถาม มิหนำซ้ำยังหาว่าเป็นองค์กรป่าเถื่อนอีกต่างหาก
ความมืดกลืนกินทุกอย่าง เสียงหมาป่าเห่าหอนดังมาเป็นระยะ ๆ เสียงนกแสกและค้างคาวดังมากับสายลม ทามัสหยุดโลกแห่งความเป็นจริงไว้แล้วปล่อยใจให้หลุดลอยไปในโลกแห่งความฝัน หากนี่คือความฝันเขาไม่อยากจะตื่นไปพบโลกแห่งความจริงซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเขาไม่มีโอกาสได้กลับไปตั้งคำถามใครต่อใครถึงเรื่องที่อยากรู้อีกเลยก็ได้
ความคิดเห็น