ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เดอะคริสคอท ตอน หุบผาสะกดวิญญาณกับตำนานผู้กล้าทั้ง 4

    ลำดับตอนที่ #3 : ท่องราตรี

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 49


     

              " มหานครโคว์ ไม่มีวันหลับ " กอเลียสเอ่ยขึ้นขณะส่งแก้วชาให้
      
              ทามัสรับชามากุมไว้ในมือเพื่อลดความหนาวเย็น  แล้วค่อย ๆ จิบที่ละนิด  ความอุ่นของชาไหลผ่านลำคอลงไปจนรู้สึกได้ 
     
               " สงสัยพ่อนายคงลืม "
      
              " อย่าพูดถึงเลย  รายนั้นอย่างนี้ประจำ  ถ้าไม่ตามสาวไปไหนก็คงหลับ " 
     
              ดวงจันทร์ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า  ไม่มีดาวดวงไหนกล้าที่จะแข่งแสงกับมัน  พลันมีสายลมแรงพัดมากระทบผิวกาย  เงาสีดำเคลื่อนวูปผ่านหน้าต่างไปด้วยความเร็ว  ทามัสหันไปมองตามอย่างรู้สึกได้และเห็นเหมือนมีใครกำลังวิ่งไปบนหลังคา  กระโดดจากหลังนี้ไปหลังโน้น  
      
              " นายเห็นหรือปล่าว " ทามัสหันไปถามกอเลียสที่ตอนนี้กำลังจ้องมองตามเงานั้นอย่างสนใจ
     
               " สงสัยพวกขโมย   นายง่วงหรือยัง " 
      
              " ยัง "
      
              ทั้งสองมองหน้ากันและราวกับว่าได้นัดแนะกันไว้  กอเลียสกระโดดจากระเบียงลงไปยืนอยู่ด้านล่างอย่างง่ายดายเพราะมีพื้นฐานการใช้เวทมนตร์อยู่บ้าง  แต่คนไม่เคยเรียนรู้เวทมนตร์ก็ไม่น้อยหน้าเพราะมีวิชาการปีนป่านอยู่พอตัว 
      
              " ช้าหน่อยแต่ถึงที่หมายโดยปลอดภัย " ทามัสพูดยิ้ม ๆ 
      
              ทั้งสองเดินไปตามทางที่เต็มไปด้วยผู้คนและร้านรวงต่าง ๆ มากมาย  ร้านขายอาวุธดูจะเรียกความสนใจจากทามัสได้มากกกว่าร้านอื่นตามประสาเด็กผู้ชายที่ชอบต่อยตีโดยมักมีคำว่าศักดิ์ศรีเป็นข้ออ้าง  
     
               " ร้านนี้ใหญ่ที่สุดแล้วในเมืองนี้ "  กอเลียสพูดแล้วเดินนำเข้าไปในร้าน ทามัสตามเข้าไปและรู้สึกแปลกใจกับอาวุธรูปร่างประหลาดหลากหลายขนาด  บางชิ้นเล็กเสียจนไม่น่าจะเรียกว่าอาวุธ  เขาหยุดอยู่ที่ตู้กระจกใบใหญ่  ภายในมีธนู  และข้อความแปะอยู่

              " ครูซัส  ศรอาโปฐาตุ  คันศรทำจากไม้ลิมโบว์  สายทำจากเส้นผมของนางเงือก  ราคา 5,000,000  แบริ่ง "

              " ปล้นกันชัด  ๆ " ทามัสคิดในใจก่อนจะเดินผ่านไป   ถัดจากธนูก็มีอาวุธรูปร่างประหลาดอีกหลายชิ้น ซึ่งเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
      
              " นายมีหรือยัง " กอเลียสถามขึ้นเพราะเห็นเพื่อนดูจะสนใจอาวุธมาก

              ทามัสทำหน้างง ก่อนจะตอบ

              " ถ้าหมายถึงอาวุธละก็มีแล้ว  ดาบชั้นเลิศ  พ่อว่างั้น  เป็นสมบัติตกทอด  แต่สภาพมันไม่ต่างกับดาบขึ้นสนิมธรรมดา ๆ " ว่าพลางยิ้มเจือน ๆ

              เพล้ง!

              เสียงกระจกแตก  ตามด้วยเสียงเอะอะโวยวาย  ใครคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมสีดำวิ่งออกมาจากร้านด้วยความเร็ว  ก่อนจะตามมาด้วยเสียงร้องแหลมของสตรีเจ้าของร้านว่า "ขโมย !"  กอเลียสออกวิ่งตามร่างนั้นไป  ราวกับเหาะได้  ทามัสวิ่งหอบแฮกตามมาห่าง ๆ อาศัยแรงอึดอย่างเดียว

              " เกิดไรขึ้น…มันเป็นใคร…นายตามมาทำไม " ชุดคำถามถูกส่งไปตามความเคยชิน  กอเลียสส่งสัญญาณบอกให้เงียบเพราะใครบางคนกำลังยืนอยู่ในมุมมืดของถนน   แสงไฟจากคบเพลิงยอดปราสาททำให้เห็นรูปร่างของคนชุดดำ  แท้จริงแล้วเธอเป็นหญิง  กลิ่นหอมเย็นโชยมาตามลม ชวนให้ผู้ที่ได้กลิ่น พลอยเคลิ้มไปด้วย  กอเลียสและทามัสหลบเขาไปในตรอกใกล้ ๆ  แต่ทันใดนั้นเกิดเสียงเฟี้ยวบอกให้รู้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังแหวกผ่านอากาศมา  กอเลียสผลักทามัสคะมำไปแล้วตัวเองก็กระโดดหลบเหมือนกับมองเห็นสิ่งที่กำลังพุ่งมานั้น  
     
              ฉึก ๆๆ! 

              เสียงวัตถุบางอย่างปักลงบนพื้น
     
              " ไอ่บ้า  ผลักทำไมวะ " เมื่อเริ่มสนิทความเป็นทางการดูเหมือนจะยิ่งลดลง

              " เจ็บตัวกับตายเลือกเอา "

              สายลมเย็นพัดเลาะไปตามตรอกเกิดเป็นเสียงสะท้อนดังหวีดหวิว  ความรู้สึก
    เหมือนน้ำในกายกำลังระเหยหายไป  ผิวหน้าแห้งผาก  หายใจขัด  หูอื้อ ตาลาย จนไม่อาจทรงตัวให้ยืนอยู่ได้  ทามัสล้มลงนอนราบไปกับพื้น

              " ศรครูซัส " 
        
              กอเลียสโพล่งขึ้นก่อนกระโดดหลบวูบเข้าหลังกำแพงอิฐ  พร้อมตะโกนบอกให้ทามัสอยู่นิ่ง ๆ

              เฟี้ยว!

              เสียงอะไรบางอย่างเคลื่อนแหวกผ่านอากาศพุ่งตรงมาทางเขา  พลานุภาพแห่งศรทำให้กำแพงอิฐพังเป็นแถบ  กอเลียสหลบได้อย่างหวุดหวิด  คว้าหมับเข้าที่คอเสื้อของทามัสแล้ววิ่งหนีสุดกำลัง 
     
              " เธอขโมยศรครูซัส "  ทามัสสรุป ก่อนจะไอแค๊ก ๆ เพราะถูกรัดคอมาตั้งไกล
        
              " นายรู้สึกหรือปล่าว  เหมือนกำลังจะแห้งตาย "

              กอเลียสพยักหน้าหงึก ๆ พร้อมกล่าวอย่างเหนือกว่า " แต่ไม่เป็นลมเหมือนนาย "   ก่อนจะอธิบายสาเหตุ

              " ศรครูซัส เป็นอาวุธธาตุน้ำที่ลงเวทกำกับเป็นหนึ่งในอาวุธที่อันตรายที่สุดหากตกอยู่ในมือผู้ไม่ประสงค์ดี  ความรุ่นแรงขึ้นอยู่กับอำนาจเวทของผู้ที่ครอบครองด้วย  ศรนี้ไม่จำเป็นต้องมีลูก  แค่ง้างสายความชื้นและน้ำที่อยู่ในรัศมีจะถูกดึงมาสร้างเป็นลูกศร "

              " หวิดเอาชีวิตมาทิ้งซะแล้ว  ถ้าพ่อรู้เข้าคงด่าขรม "

              เหตุการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น  ทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองคนสนิทสนม และได้เรียนรู้นิสัยของกันและกันจนพัฒนาไปสู่ความเป็นเพื่อน  ทำให้คนเจ้าปัญหากล้าที่จะพูดความจริงอะไรบางอย่าง  ที่ทำให้เขาไม่สบายใจ  

              " เรื่องหนูของนาย " ทามัสพูดอย่างหยั่งเชิง

              " ไงเหรอ " กอเลียสย้อนถามทันควัน

              " คือ  มันค่อนข้างพูดยากนะ  คือ  มันตายแล้ว "  ทามัสพูดตะกุกตะกัก

              " มันตายยังไง "

              " ฉันเผลอไปเหยียบมันเอง " ทามัสพูดอย่างรู้สึกผิด ก่อนจะควักซาดหนูตายออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วความเงียบก็ปกคลุมชั่วขณะ

              " ความจริงฉันรู้ตั้งนานแล้ว  เพียงแต่รอว่านายจะพูดขึ้นมาเองหรือรอให้ฉันถามถึงก่อน ตอนนี้นายพูดแล้วสรุปว่านายเป็นคนน่าคบอยู่เหมือนกัน "

              คนฟังรู้สึกร้อนที่ใบหู  และฉุนนิด ๆ ที่ถูกอำมาตลอด

              " แสดงว่านายใช้เวทมนตร์อ่านใจฉัน  เดี๋ยวนายต้องถูกจับ " ทามัสรีปสรุป

              " ฉันลืมบอกนายว่าฉันมีใบอนุญาติแล้ว " กอเลียสพูดด้วยน้ำเสียงเชิงมีชัยแล้วเดินผ่านหน้าไป  ทิ้งให้คนโดนอำยืนกัดฟันกรอดอยู่ในความมืด

              เสียงแตรเป็นทำนองเพลงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง  บอกให้รู้ว่าวันใหม่มาถึงแล้ว  ทามัสงัวเงียลุกจากเตียงขณะที่เพื่อนอีกคนนั่งจิบชาอยู่นอกระเบียงห้อง  เกล็ดหิมะสีขาวลอยเอื่อยลงมาจากท้องฟ้าเนรมิตทุ่งหญ้าที่เคยเขียวขจีให้กลายเป็นสีขาวไปสิ้น  ถนนที่เคยทอดยาวหายไปใต้กองหิมะ  กลิ่นหอมเย็นลอยมากับสายลม 
     
             " กลิ่นนี่ "

             " กลิ่นต้นลิมโบว์  จากป่าท้ายเมือง " กอเลียสยกถ้วยชาขึ้นจิบก่อนจะพูดต่อ   
        
              "อย่างนายคงต้องเรียนรู้อีกมาก "

              ทามัสรู้สึกร้อนที่ใบหู  แต่จะทำไงได้ในเมื่อไม่มีใครให้พึ่งแล้วนอกจากเจ้าคนที่กำลังคุยด้วย

              " นายมีใบสมัครหรือยัง " กอเลียสเปลี่ยนเรื่องพูด  สิ้นเสียง ทามัสมองกลับไปอย่างไม่ค่อยแน่ใจ 
      
              " สงสัยพ่อคงจัดการให้แล้ว " ว่าแล้วยักไหล่ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย 
     
              " ที่บ้านนายเป็นไงบ้าง   หมายถึงใช้ชีวิตกันยังไง  มีกฎห้ามเกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์หรือปล่าว  แล้วเวลาเดินทางทำยังไง  มีพรมเหาะหรือขี่ไม้กวาดอย่างพ่อมดแม่มดในเทพนิยายหรือปล่าว  แล้ว….." คำถามชุดใหญ่ถูกปล่อยออกไปแต่ก่อนที่จะหมดคำถามก็ถูกพลาสเตอร์ลอยมาแปะตรงปากเรียบร้อย

              " เอาแค่นี้ก่อน " กอเลียสพูดขึ้นแล้วเริ่มเล่าเรื่องเฮเลียนให้เพื่อนใหม่ที่ตอนนี้ดูเหมือนพลาสเตอร์จะน่าสนใจมากกว่าเรื่องที่ถามไปแล้ว

              " เฮเลียนเป็นประเทศเล็ก ๆ ความจริงต้องว่าเป็นเกาะถึงจะถูก  อยู่ทางใต้  พวกเราใช้ชีวิตกันอย่างปกติเพราะที่นั่นก็มีพวกที่ไม่มีเวทมนตร์เหมือนกันแต่เป็นชนกลุ่มน้อยน่ะพึ่งอพยพไปอยู่ใหม่และมาขอเจือสายเลือดกับพวกเรา  ที่นั่นมีกฎหมายเกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์เยอะมากเพื่อป้องกันการใช้เวทในทางที่ผิด  และเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น  อย่างเวทอ่านใจนั้นมีกฎกำหนดการใช้ว่าต้องมีใบอนุญาติก่อน  ส่วนการเดินทางไม่มีไม้กวาดอย่างที่นายว่าหรอกเพราะนั่นมันโบราณมากและนั่งไม่สบาย  เดี๋ยวนี้ใช้รองเท้าลงอาคม  (ว่าพลางตบเบาๆที่รองเท้า) ที่ทำให้เดินหรือวิ่งไปที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว "

              รอยแดงปรากฎตรงริมฝีปากของทามัสหลังจากปล้ำเอาพลาสเตอร์ยางที่ปิดปากออกจนสำเร็จ

              " ว่าไงต่อ " กอเลียสถามเชิงยั่ว

              ทามัสทำตาเขียวใส่ก่อนจะระวังตัวให้มากขึ้นเนื่องจากกำลังคุยอยู่กับพ่อมด

              " นายคิดว่านายจะสอบได้หรือเปล่า "

              " แน่นอน " กอเลียสตอบอย่างมั่นใจ

              " เด็กเส้นหรือปล่าว "

              พ่อมดหนุ่มหันมามองด้วยแววตากร้าว  ทำให้คนถามต้องรีบออกตัว " แค่ล้อเล่นน่ะ " แล้วยกมือเกาท้ายทอยพร้อมยิ้มแหย่ ๆ

              " ฉันว่าฉันก็น่าจะได้ " คนเจ้าปัญหาพูดอย่างไม่เจียมตัวเอง  ทำให้คนฟังเพ่งมองสารรูปคนพูดอย่างพิเคราะห์ 

              " ไม่แน่ถ้านายขอร้องฉัน " น้ำเสียงฟังแล้วอยากเลิกคบเป็นที่สุด  ทามัสคิดในใจ

              " ช่างเหอะ  ฉันไม่ได้ตั้งใจมาหรอกถ้าพ่อไม่บังคับ " ว่าแล้วก็หยิบเสื้อคลุมสีดำมาคลุมแล้วเดินออกประตูไป  แล้วโผล่หัวกลับเข้ามา

              " ขอบใจนะเมื่อคืนน่ะ "

              ทามัสยืนชะเง้อมองที่บาร์ด้านล่างก่อนจะเดินตรงไปยังโต๊ะตัวหนึ่งที่มีใครนั่งจิบน้ำชาอยู่อย่างสบายอารมณ์

              " เมื่อคืนสนุกหรือปล่าว "

              เสียงทักดังขั้นก่อนทามัสจะเดินไปถึงดาบเล่มยาวในฝักสีน้ำตาลมีลวดลายสีเงินพาดไปมาวางพาดอยู่บนโต๊ะ  น้ำชาชั้นดีส่งกลิ่นหอมและไออุ่นลอยวนขึ้นไปเหนือหัวคนนั่งตรงหน้า  หากเมื่อคืนเขาต้องนอนอยู่ที่บาร์หรือห้องฝากสัตว์เลี้ยง บทสนทนาในเช้านี้คงไม่พ้นการต่อว่าต่อขาน  ทามัสหยิบถ้วยชาจากชุดน้ำชาแล้วรินชาจากกา ก่อนจะกุมถ้วยชาขึ้นจิบอย่างสบายอารมณ์  คามเฝ้ามองลูกชายด้วยสายตาที่แปลกใจแต่ก็ไม่พูดอะไร  กลับหยิบหนังสือเก่า ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากเสื้อคลุมแล้วส่งให้ 

              ด้านนอกหิมะยังคงตกและดูเหมือนจะตกหนักกว่าเมื่อตอนเช้าตรู่เสียอีก  เสียงลมที่หวีดหวิวฟังราวกับเสียงกรีดร้องของปีศาจหิมะที่โหยหวนด้วยความเจ็บปวด  หากได้ยินเสียงนี้ในยามค่ำคืน ต่อให้มีความกล้าสักแค่ไหนก็คงต้องมีระแวงบ้างเป็นแน่ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×