คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ท่องราตรี
" มหานครโคว์ ไม่มีวันหลับ " กอเลียสเอ่ยขึ้นขณะส่งแก้วชาให้
ทามัสรับชามากุมไว้ในมือเพื่อลดความหนาวเย็น แล้วค่อย ๆ จิบที่ละนิด ความอุ่นของชาไหลผ่านลำคอลงไปจนรู้สึกได้
" สงสัยพ่อนายคงลืม "
" อย่าพูดถึงเลย รายนั้นอย่างนี้ประจำ ถ้าไม่ตามสาวไปไหนก็คงหลับ "
ดวงจันทร์ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า ไม่มีดาวดวงไหนกล้าที่จะแข่งแสงกับมัน พลันมีสายลมแรงพัดมากระทบผิวกาย เงาสีดำเคลื่อนวูปผ่านหน้าต่างไปด้วยความเร็ว ทามัสหันไปมองตามอย่างรู้สึกได้และเห็นเหมือนมีใครกำลังวิ่งไปบนหลังคา กระโดดจากหลังนี้ไปหลังโน้น
" นายเห็นหรือปล่าว " ทามัสหันไปถามกอเลียสที่ตอนนี้กำลังจ้องมองตามเงานั้นอย่างสนใจ
" สงสัยพวกขโมย นายง่วงหรือยัง "
" ยัง "
ทั้งสองมองหน้ากันและราวกับว่าได้นัดแนะกันไว้ กอเลียสกระโดดจากระเบียงลงไปยืนอยู่ด้านล่างอย่างง่ายดายเพราะมีพื้นฐานการใช้เวทมนตร์อยู่บ้าง แต่คนไม่เคยเรียนรู้เวทมนตร์ก็ไม่น้อยหน้าเพราะมีวิชาการปีนป่านอยู่พอตัว
" ช้าหน่อยแต่ถึงที่หมายโดยปลอดภัย " ทามัสพูดยิ้ม ๆ
ทั้งสองเดินไปตามทางที่เต็มไปด้วยผู้คนและร้านรวงต่าง ๆ มากมาย ร้านขายอาวุธดูจะเรียกความสนใจจากทามัสได้มากกกว่าร้านอื่นตามประสาเด็กผู้ชายที่ชอบต่อยตีโดยมักมีคำว่าศักดิ์ศรีเป็นข้ออ้าง
" ร้านนี้ใหญ่ที่สุดแล้วในเมืองนี้ " กอเลียสพูดแล้วเดินนำเข้าไปในร้าน ทามัสตามเข้าไปและรู้สึกแปลกใจกับอาวุธรูปร่างประหลาดหลากหลายขนาด บางชิ้นเล็กเสียจนไม่น่าจะเรียกว่าอาวุธ เขาหยุดอยู่ที่ตู้กระจกใบใหญ่ ภายในมีธนู และข้อความแปะอยู่
" ครูซัส ศรอาโปฐาตุ คันศรทำจากไม้ลิมโบว์ สายทำจากเส้นผมของนางเงือก ราคา 5,000,000 แบริ่ง "
" ปล้นกันชัด ๆ " ทามัสคิดในใจก่อนจะเดินผ่านไป ถัดจากธนูก็มีอาวุธรูปร่างประหลาดอีกหลายชิ้น ซึ่งเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
" นายมีหรือยัง " กอเลียสถามขึ้นเพราะเห็นเพื่อนดูจะสนใจอาวุธมาก
ทามัสทำหน้างง ก่อนจะตอบ
" ถ้าหมายถึงอาวุธละก็มีแล้ว ดาบชั้นเลิศ พ่อว่างั้น เป็นสมบัติตกทอด แต่สภาพมันไม่ต่างกับดาบขึ้นสนิมธรรมดา ๆ " ว่าพลางยิ้มเจือน ๆ
เพล้ง!
เสียงกระจกแตก ตามด้วยเสียงเอะอะโวยวาย ใครคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมสีดำวิ่งออกมาจากร้านด้วยความเร็ว ก่อนจะตามมาด้วยเสียงร้องแหลมของสตรีเจ้าของร้านว่า "ขโมย !" กอเลียสออกวิ่งตามร่างนั้นไป ราวกับเหาะได้ ทามัสวิ่งหอบแฮกตามมาห่าง ๆ อาศัยแรงอึดอย่างเดียว
" เกิดไรขึ้น
มันเป็นใคร
นายตามมาทำไม " ชุดคำถามถูกส่งไปตามความเคยชิน กอเลียสส่งสัญญาณบอกให้เงียบเพราะใครบางคนกำลังยืนอยู่ในมุมมืดของถนน แสงไฟจากคบเพลิงยอดปราสาททำให้เห็นรูปร่างของคนชุดดำ แท้จริงแล้วเธอเป็นหญิง กลิ่นหอมเย็นโชยมาตามลม ชวนให้ผู้ที่ได้กลิ่น พลอยเคลิ้มไปด้วย กอเลียสและทามัสหลบเขาไปในตรอกใกล้ ๆ แต่ทันใดนั้นเกิดเสียงเฟี้ยวบอกให้รู้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังแหวกผ่านอากาศมา กอเลียสผลักทามัสคะมำไปแล้วตัวเองก็กระโดดหลบเหมือนกับมองเห็นสิ่งที่กำลังพุ่งมานั้น
ฉึก ๆๆ!
เสียงวัตถุบางอย่างปักลงบนพื้น
" ไอ่บ้า ผลักทำไมวะ " เมื่อเริ่มสนิทความเป็นทางการดูเหมือนจะยิ่งลดลง
" เจ็บตัวกับตายเลือกเอา "
สายลมเย็นพัดเลาะไปตามตรอกเกิดเป็นเสียงสะท้อนดังหวีดหวิว ความรู้สึก
เหมือนน้ำในกายกำลังระเหยหายไป ผิวหน้าแห้งผาก หายใจขัด หูอื้อ ตาลาย จนไม่อาจทรงตัวให้ยืนอยู่ได้ ทามัสล้มลงนอนราบไปกับพื้น
" ศรครูซัส "
กอเลียสโพล่งขึ้นก่อนกระโดดหลบวูบเข้าหลังกำแพงอิฐ พร้อมตะโกนบอกให้ทามัสอยู่นิ่ง ๆ
เฟี้ยว!
เสียงอะไรบางอย่างเคลื่อนแหวกผ่านอากาศพุ่งตรงมาทางเขา พลานุภาพแห่งศรทำให้กำแพงอิฐพังเป็นแถบ กอเลียสหลบได้อย่างหวุดหวิด คว้าหมับเข้าที่คอเสื้อของทามัสแล้ววิ่งหนีสุดกำลัง
" เธอขโมยศรครูซัส " ทามัสสรุป ก่อนจะไอแค๊ก ๆ เพราะถูกรัดคอมาตั้งไกล
" นายรู้สึกหรือปล่าว เหมือนกำลังจะแห้งตาย "
กอเลียสพยักหน้าหงึก ๆ พร้อมกล่าวอย่างเหนือกว่า " แต่ไม่เป็นลมเหมือนนาย " ก่อนจะอธิบายสาเหตุ
" ศรครูซัส เป็นอาวุธธาตุน้ำที่ลงเวทกำกับเป็นหนึ่งในอาวุธที่อันตรายที่สุดหากตกอยู่ในมือผู้ไม่ประสงค์ดี ความรุ่นแรงขึ้นอยู่กับอำนาจเวทของผู้ที่ครอบครองด้วย ศรนี้ไม่จำเป็นต้องมีลูก แค่ง้างสายความชื้นและน้ำที่อยู่ในรัศมีจะถูกดึงมาสร้างเป็นลูกศร "
" หวิดเอาชีวิตมาทิ้งซะแล้ว ถ้าพ่อรู้เข้าคงด่าขรม "
เหตุการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น ทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองคนสนิทสนม และได้เรียนรู้นิสัยของกันและกันจนพัฒนาไปสู่ความเป็นเพื่อน ทำให้คนเจ้าปัญหากล้าที่จะพูดความจริงอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เขาไม่สบายใจ
" เรื่องหนูของนาย " ทามัสพูดอย่างหยั่งเชิง
" ไงเหรอ " กอเลียสย้อนถามทันควัน
" คือ มันค่อนข้างพูดยากนะ คือ มันตายแล้ว " ทามัสพูดตะกุกตะกัก
" มันตายยังไง "
" ฉันเผลอไปเหยียบมันเอง " ทามัสพูดอย่างรู้สึกผิด ก่อนจะควักซาดหนูตายออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วความเงียบก็ปกคลุมชั่วขณะ
" ความจริงฉันรู้ตั้งนานแล้ว เพียงแต่รอว่านายจะพูดขึ้นมาเองหรือรอให้ฉันถามถึงก่อน ตอนนี้นายพูดแล้วสรุปว่านายเป็นคนน่าคบอยู่เหมือนกัน "
คนฟังรู้สึกร้อนที่ใบหู และฉุนนิด ๆ ที่ถูกอำมาตลอด
" แสดงว่านายใช้เวทมนตร์อ่านใจฉัน เดี๋ยวนายต้องถูกจับ " ทามัสรีปสรุป
" ฉันลืมบอกนายว่าฉันมีใบอนุญาติแล้ว " กอเลียสพูดด้วยน้ำเสียงเชิงมีชัยแล้วเดินผ่านหน้าไป ทิ้งให้คนโดนอำยืนกัดฟันกรอดอยู่ในความมืด
เสียงแตรเป็นทำนองเพลงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง บอกให้รู้ว่าวันใหม่มาถึงแล้ว ทามัสงัวเงียลุกจากเตียงขณะที่เพื่อนอีกคนนั่งจิบชาอยู่นอกระเบียงห้อง เกล็ดหิมะสีขาวลอยเอื่อยลงมาจากท้องฟ้าเนรมิตทุ่งหญ้าที่เคยเขียวขจีให้กลายเป็นสีขาวไปสิ้น ถนนที่เคยทอดยาวหายไปใต้กองหิมะ กลิ่นหอมเย็นลอยมากับสายลม
" กลิ่นนี่ "
" กลิ่นต้นลิมโบว์ จากป่าท้ายเมือง " กอเลียสยกถ้วยชาขึ้นจิบก่อนจะพูดต่อ
"อย่างนายคงต้องเรียนรู้อีกมาก "
ทามัสรู้สึกร้อนที่ใบหู แต่จะทำไงได้ในเมื่อไม่มีใครให้พึ่งแล้วนอกจากเจ้าคนที่กำลังคุยด้วย
" นายมีใบสมัครหรือยัง " กอเลียสเปลี่ยนเรื่องพูด สิ้นเสียง ทามัสมองกลับไปอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
" สงสัยพ่อคงจัดการให้แล้ว " ว่าแล้วยักไหล่ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
" ที่บ้านนายเป็นไงบ้าง หมายถึงใช้ชีวิตกันยังไง มีกฎห้ามเกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์หรือปล่าว แล้วเวลาเดินทางทำยังไง มีพรมเหาะหรือขี่ไม้กวาดอย่างพ่อมดแม่มดในเทพนิยายหรือปล่าว แล้ว
.." คำถามชุดใหญ่ถูกปล่อยออกไปแต่ก่อนที่จะหมดคำถามก็ถูกพลาสเตอร์ลอยมาแปะตรงปากเรียบร้อย
" เอาแค่นี้ก่อน " กอเลียสพูดขึ้นแล้วเริ่มเล่าเรื่องเฮเลียนให้เพื่อนใหม่ที่ตอนนี้ดูเหมือนพลาสเตอร์จะน่าสนใจมากกว่าเรื่องที่ถามไปแล้ว
" เฮเลียนเป็นประเทศเล็ก ๆ ความจริงต้องว่าเป็นเกาะถึงจะถูก อยู่ทางใต้ พวกเราใช้ชีวิตกันอย่างปกติเพราะที่นั่นก็มีพวกที่ไม่มีเวทมนตร์เหมือนกันแต่เป็นชนกลุ่มน้อยน่ะพึ่งอพยพไปอยู่ใหม่และมาขอเจือสายเลือดกับพวกเรา ที่นั่นมีกฎหมายเกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์เยอะมากเพื่อป้องกันการใช้เวทในทางที่ผิด และเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น อย่างเวทอ่านใจนั้นมีกฎกำหนดการใช้ว่าต้องมีใบอนุญาติก่อน ส่วนการเดินทางไม่มีไม้กวาดอย่างที่นายว่าหรอกเพราะนั่นมันโบราณมากและนั่งไม่สบาย เดี๋ยวนี้ใช้รองเท้าลงอาคม (ว่าพลางตบเบาๆที่รองเท้า) ที่ทำให้เดินหรือวิ่งไปที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว "
รอยแดงปรากฎตรงริมฝีปากของทามัสหลังจากปล้ำเอาพลาสเตอร์ยางที่ปิดปากออกจนสำเร็จ
" ว่าไงต่อ " กอเลียสถามเชิงยั่ว
ทามัสทำตาเขียวใส่ก่อนจะระวังตัวให้มากขึ้นเนื่องจากกำลังคุยอยู่กับพ่อมด
" นายคิดว่านายจะสอบได้หรือเปล่า "
" แน่นอน " กอเลียสตอบอย่างมั่นใจ
" เด็กเส้นหรือปล่าว "
พ่อมดหนุ่มหันมามองด้วยแววตากร้าว ทำให้คนถามต้องรีบออกตัว " แค่ล้อเล่นน่ะ " แล้วยกมือเกาท้ายทอยพร้อมยิ้มแหย่ ๆ
" ฉันว่าฉันก็น่าจะได้ " คนเจ้าปัญหาพูดอย่างไม่เจียมตัวเอง ทำให้คนฟังเพ่งมองสารรูปคนพูดอย่างพิเคราะห์
" ไม่แน่ถ้านายขอร้องฉัน " น้ำเสียงฟังแล้วอยากเลิกคบเป็นที่สุด ทามัสคิดในใจ
" ช่างเหอะ ฉันไม่ได้ตั้งใจมาหรอกถ้าพ่อไม่บังคับ " ว่าแล้วก็หยิบเสื้อคลุมสีดำมาคลุมแล้วเดินออกประตูไป แล้วโผล่หัวกลับเข้ามา
" ขอบใจนะเมื่อคืนน่ะ "
ทามัสยืนชะเง้อมองที่บาร์ด้านล่างก่อนจะเดินตรงไปยังโต๊ะตัวหนึ่งที่มีใครนั่งจิบน้ำชาอยู่อย่างสบายอารมณ์
" เมื่อคืนสนุกหรือปล่าว "
เสียงทักดังขั้นก่อนทามัสจะเดินไปถึงดาบเล่มยาวในฝักสีน้ำตาลมีลวดลายสีเงินพาดไปมาวางพาดอยู่บนโต๊ะ น้ำชาชั้นดีส่งกลิ่นหอมและไออุ่นลอยวนขึ้นไปเหนือหัวคนนั่งตรงหน้า หากเมื่อคืนเขาต้องนอนอยู่ที่บาร์หรือห้องฝากสัตว์เลี้ยง บทสนทนาในเช้านี้คงไม่พ้นการต่อว่าต่อขาน ทามัสหยิบถ้วยชาจากชุดน้ำชาแล้วรินชาจากกา ก่อนจะกุมถ้วยชาขึ้นจิบอย่างสบายอารมณ์ คามเฝ้ามองลูกชายด้วยสายตาที่แปลกใจแต่ก็ไม่พูดอะไร กลับหยิบหนังสือเก่า ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากเสื้อคลุมแล้วส่งให้
ด้านนอกหิมะยังคงตกและดูเหมือนจะตกหนักกว่าเมื่อตอนเช้าตรู่เสียอีก เสียงลมที่หวีดหวิวฟังราวกับเสียงกรีดร้องของปีศาจหิมะที่โหยหวนด้วยความเจ็บปวด หากได้ยินเสียงนี้ในยามค่ำคืน ต่อให้มีความกล้าสักแค่ไหนก็คงต้องมีระแวงบ้างเป็นแน่
ความคิดเห็น