คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Part 1 สัญญาแบบใหม่
Part 1 สัญญาแบบใหม่
...................................................
10 ปีผ่านไปไวเหมือนฟิค
หนุ่มน้อยผมสีแดงสดสะพายกระเป๋าเป้แฟชั่นเดินเข้ามาในห้องสี่เหลี่ยมสีขาวที่แสนคุ้นตา ก่อนที่แว่นกันแดดสีดำราคาแพงจะถูกถอดออกในเวลาไล่เลี่ยกัน
“นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เห็นที่นี้”ร่างเล็กพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มบางๆ ขณะที่สายตายังคงกวาดมองไปรอบๆเพื่อสำรวจและพบว่ามีอะไรหลายอย่างในห้องนี้ที่เปลี่ยนไป แต่คนที่อยู่ห้องนี้ล่ะ จะยังเปลี่ยนไปหรือยังนะ?
นิ้วเรียวยาวออกแรงปัดรูปภาพบนจอโทรศัพท์เครื่องสวยไปพลางๆ รูปดังกล่าวเป็นรูปที่เขาได้รับจากE-mailอยู่เป็นระยะ ซึ่งรูปที่ว่าไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือรูปของชายหนุ่มเจ้าของห้องที่เขากำลังยืนอยู่ บางภาพก็ทำท่าฮาเสียจนเขาหยุดหัวเราะไม่ได้ แต่วันนี้เขาจะจำผมได้ไหมนะ อุตส่าห์ลงทุนไปตัดและทำไฮไลท์สีผมใหม่ก่อนกลับมาเชียว
แกร๊ก!!!
“คุณเป็นใคร!”สิ้นเสียงประตูเปิดออกได้ไม่นาน คำถามก็ถูกถ่ายทอดมายังคนที่ถือวิสาสะนั่งโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม น้ำเสียงจริงจังทำเอาคนตัวเล็กถึงกับหัวเราะไม่ออก
“ขอโทษที่ผมเสียมารยาทครับคุณหมอ”ร่างบางลุกพรวดพร้อมกับคว้ากระเป๋าไปยืนชิดเตียงคนไข้ที่อยู่ด้านข้างทันที ร่างสูงทอดสายตาพร้อมกับขมวดคิ้วขุ่นมองหนุ่มน้อยในห้องอย่างนึกสงสัย
“ยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะ”เจ้าของห้องถามย้ำ แววตาของชายหนุ่มทำเอาร่างเล็กตอบได้แบบไม่เต็มเสียง
“เอ่อ...ผมจุนซูไงครับ”
“จุนซู??”
“จุนซูที่ชอบจุ๊บสัญญากับคุณหมอไงครับ แบบนี้ไง...”ร่างบางทำปากจู๋พร้อมกับหลับตาพริ้ม ยูชอนอมยิ้มบางๆก่อนจะตรงเข้าไปจุ๊บปากและหอมแก้มอีกฝ่าย
“หมอจำจุนซูได้ตั้งแต่ที่จุนซูพูดประโยคแรกแล้วล่ะครับ ฮ่าๆๆ”เสียงทุ้มกระซิบเบาๆปนหัวเราะที่หูอีกฝ่าย
“งั้นคุณหมอก็แกล้งจุนซูน่ะสิครับ”แก้มใสพองลมขึ้นอย่างน่ารักจนคนมองอดใจสั่นไม่ได้
...จีบลูกชายเพื่อนจะเป็นอะไรไหมว่ะ...เห็นตอนเด็กว่าน่ารักแล้ว...ตอนโตน่ารักน่าฟัดกว่าเยอะ...
“คุณหมอไม่ได้แกล้งนะครับ คุณหมอแค่อยากให้จุนซูทำสัญลักษณ์สัญญาของเราตั้งหาก ไม่ได้ทำมาตั้งสิบปี คุณหมอนึกว่าจุนซูคงลืมไปแล้วนะครับ”ร่างสูงยิ้มเจ้าเล่ห์ นัยน์ตาฉายแววสนุกจนปิดไม่มิด ซึ่งคนถูกแกล้งอย่างจุนซูได้แต่ยืนทำหน้าบึ้งตึงด้วยอาการที่เรียกว่า‘งอน’เข้าอย่างจัง
“ย้อมผมสีแดงแบบนี้เอาซะคุณหมอเกือบจำไม่ได้เชียวนะครับ”มือของอีกฝ่ายออกแรงยีผมสีสดด้วยความเอ็นดู แต่ทว่าเจ้าของผมสีเพลิงนั่นปัดมันออกอย่างไม่ไยดี
“อย่ามายุ่งนะ!”
“ทำไมพูดห้วนแบบนี้ล่ะครับ ไม่น่ารักเลยรู้ไหม”ยูชอนพูดตำหนิอีกฝ่าย
“ก็เรื่องของผมสิ!”จุนซูตอบพร้อมกับพาร่างกายของตัวเองไปนั่งห้อยขาอยู่บนเตียงคนไข้ ขณะที่คุณหมอขี้แกล้งเองก็เดินตามมายืนตรงหน้าเพื่อง้อ
“จุนซูเป็นอะไรครับ งอนที่คุณหมอแกล้งหรอ??”
“เปล่า!”คนน่ารักปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ก็ไม่วายที่จะโดนคนตรงหน้าจับได้อีก
“ปฏิเสธแบบนี้แสดงว่าใช่แน่เลย”
“ก็บอกว่าเปล่าไง!”จุนซูสะบัดหน้าหนีอีกคนก่อนที่จะโดนคุณหมอเจ้าเล่ห์ขโมยหอมแก้มไปฟอดใหญ่
“หืม หอมจัง... กลิ่นตัวนักเรียนนอกมันหอมแบบนี้นี่เอง”
“ไม่ต้องมาแตะตัวผมนะ!”สองมือบางผลักยูชอนออกห่าง
“จุนซูจะไม่หายงอนคุณหมอใช่ไหมครับ งั้นคุณหมอไปจากชีวิตจุนซูเลยดีไหม”น้ำเสียงทุ้มพูดขึ้นอย่างน้อยใจ ในเมื่อเขาทำอะไร คนตัวเล็กก็ไม่หายโกรธซักที ขาเรียวยาวเตรียมที่จะก้าวออกห่างคนน่ารัก
“อย่านะ!”มือบางรีบรั้งข้อมือยูชอนทันที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำเอาคุณหมอแอบยิ้มเพียงลำพัง หลังจากนั้นไม่นาน คุณหมอเจ้าเล่ห์ก็หันมาหาด้วยสีหน้าเศร้าและทำแววตาละห้อยเพื่อเรียกคะแนนความน่าสงสารเพิ่มขึ้นจากอีกฝ่ายพร้อมกับคำถาม
“งั้นจะหายโกรธได้หรือยังครับ”
“หายก็ได้ครับ”ร่างเล็กตอบ จริงๆก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอก แค่อยากจะแกล้งคืน แต่ทำไมเขาต้องแกล้งคุณหมอไม่สำเร็จซักที หรือ เพราะว่าเขายังไม่โตพอที่จะแกล้งได้แบบเนียนๆสินะ
“ดีแล้วครับ คุณหมอจะได้สอนสัญลักษณ์สัญญาแบบใหม่”สีหน้าของยูชอนดูสดใสขึ้นพร้อมกับซ่อนเลศนัยบางอย่างไว้ใต้ดวงตาคม
“ยังไงครับ?”คิ้วสวยย่นเข้าหากันด้วยความสงสัย
“แบบนี้ไง”สองมือแกร่งจับที่หัวไหล่กลมก่อนจะเลื่อนริมฝีปากเข้าหาแล้วมอบจูบอย่างนุ่มนวลชวนฝันให้อีกฝ่าย ลิ้นอุ่นค่อยๆไล่เลียไปตามแนวซี่ฟันขาวก่อนที่จะหาจังหวะสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากอ่อนนุ่ม ความหอมหวานภายในริมฝีปากบางทำเอายูชอนรู้สึกสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“อะ...อื้มมม...”จุนซูหลุดเสียงครางเพียงแผ่วเบา ทำให้คุณหมอหนุ่มแทบอยากจะกระชากเสื้อผ้าอีกฝ่ายออกแล้วจับกดให้รู้แล้วรู้รอด เสียงแหบแสนพราวเสน่ห์ครางยั่วแบบนั้นใครไม่หลงก็บ้าแล้ว แต่ทว่าจะรักเขาก็ต้องเฝ้าถนุถนอมให้ดีเสียก่อน คุณหมอเลยได้แต่ถอนริมฝีปากออกแล้วยิ้มให้
“เป็นไงครับ สัญญาแบบใหม่...ชอบไหม”
“เอ่อ...มันต้องเอาลิ้นเข้ามาในปากด้วยหรอครับ”มือเล็กยกขึ้นจับริมฝีปากตัวเองพร้อมแก้มใสที่ซับสีเลือดอย่างน่ารัก
“ใช่แล้ว เพราะเราโตแล้ว การเอาลิ้นเข้าไปในปากหมายความว่าเราแสดงถึงความจริงใจต่อกันไง ^^”ยูชอนพูด เหตุผลจากการหาทางฉวยโอกาสเพื่อให้ได้สัมผัสแบบลึกซึ้งนั้นดูช่างน่าเชื่อถือเสียจนคนไข้ยังโดนหลอกได้โดยง่ายดาย
“อ่า...ผมเพิ่งรู้นะครับว่ามันเป็นแบบนี้”
“นี่แสดงว่ายังไม่เคยทำกับใครใช่ไหมเนี่ย”ริมฝีปากหนาคลี่ยิ้ม การที่คนไข้ของเราดูลังเลไม่มั่นใจแบบนี้แสดงว่าคนไข้ของเขายังคงบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหมือนกับแต่ก่อนไม่มีผิด
“ครับ ผมยังไม่เคย แต่ผมเคยเห็นเพื่อนที่เมืองนอกทำ แสดงว่าเขากำลังจริงใจต่อกันใช่หรือเปล่าครับ”จุนซูย้อนถาม และคำถามนี้ ยิ่งทำให้ยูชอนมั่นใจมากขึ้นว่าจุนซูของเขา[ตั้งแต่เมื่อไหร่]ไม่เคยผ่านมือของใครมาแน่นอน
“ใช่แล้วครับ แต่จุนซูห้ามทำแบบนี้กับคนอื่นนะครับ ทำได้แค่หมอคนเดียว”ยูชอนก้มลงหอมแก้มนุ่มอีกครั้งด้วยความเสน่หา ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ขัดขืนเพียงเพราะถูกกระทำจนเคยชิน และไม่ได้เอะใจถึงเส้นสื่อบางๆที่คุณหมอพยายามส่งให้อยู่เป็นระยะเลยซักนิด
“กับคุณป๊า กับแจจุง ก็ไม่ได้หรอครับ”ร่างบางถามขึ้น
“ไม่ได้เลยครับ หมอสั่งห้าม!!”คนตัวสูงตอบเสียงดัง
“ครับ ผมเข้าใจแล้ว แต่พูดถึงแจจุง แล้วแจจุงล่ะครับคุณหมอ”จุนซูพยักหน้ารับปากแล้วยิ้ม รอยยิ้มของคนน่ารักทำหัวใจคนมองแทบจะหยุดเต้น
...ไอ้คุณชายชอง...ขอฉันได้เรียกแกว่าพ่อเถอะ...
“เอ่อ...เดี๋ยวแจจุงก็มาแล้ว พอดีแจจุงเขาตัดสินใจไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยเพราะเขาตั้งใจจะทำร้านกาแฟตั้งแต่ช่วงม.ปลายน่ะ แล้วเขาก็จะแวะเอากาแฟกับขนมปังมาให้คุณหมอที่โรงพยาบาลทุกวัน เพราะคุณหมอช่วยเขาเรื่องต้นทุนสำหรับเปิดร้านได้เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมาน่ะครับ”ยูชอนเล่ายาวถึงเพื่อนรักของคนน่ารัก ขณะที่คนฟังก็นั่งมองเขาตาแป๋วแอ๊บแบ๊วตามแบบฉบับของชองจุนซูสุดน่ารัก จากนั้นจึงถามต่อเมื่ออีกฝ่ายพูดจนจบ
“ครับ แล้วคุณป๊าไม่ได้ไปรังแกแจจุงใช่ไหมครับ”ร่างบางถามขึ้น เมื่อนึกขึ้นได้ว่าก่อนที่ตนเองจะไปจากที่นี่ เพื่อนรักของเขาดันถูกคุณป๊าเขาไม่พอใจขึ้นมาแบบไม่ได้ตั้งใจเสียได้
“ไม่หรอก ตั้งแต่จุนซูไม่อยู่ คุณป๊าของจุนซูก็ไม่ได้ยุ่งเรื่องนี้อีกเลย เพราะมัวแต่ทำงานที่บริษัทเหมือนเคยแหละครับ แล้วนี่จุนซูยังไม่ได้ไปหาคุณป๊าหรอ”ยูชอนย้อนถาม
“ใช่แล้วครับ เพราะจุนซูคิดถึงคุณหมอก็เลยมาหาคุณหมอคนแรก ไปหาคุณป๊าก่อน เดี๋ยวก็พาลจะทะเลาะกันเรื่องในอดีตอีก ฮ่าๆๆ”ร่างเล็กหัวเราะทิ้งท้าย
แกร๊ก!
“กาแฟลาเต้กับขนมปังกระเทียมมาส่งแล้วครับ อ๊ะ...”แจจุงเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับเซตอาหารกลางวันที่ส่งกลิ่นโชยมาแต่ไกล แต่สุดท้ายเสียงหวานก็เอ่ยตกใจ เมื่อเห็นว่ายูชอนไม่ได้อยู่ในห้องเพียงลำพัง
“ขอโทษนะครับ ผมไม่รู้ว่าคุณหมอยูชอนมีแขก”ร่างบางโค้งให้แล้วทำท่าจะหันหลังเดินออกหลังจากที่วางของกินบนโต๊ะเป็นที่เรียบร้อย
“เดี๋ยวแจจุง...”จุนซูขยับตัวลงจากเตียงแล้วรีบไปรั้งแขนเพื่อนของเขาไว้ทันที ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เพื่อนของเขาก็ยังคงเรียบร้อย พูดน้อย ขี้อายเสมอ
“จำฉันไม่ได้เหรอ ฉันจุนซูไง”คนตัวเล็กเอ่ยรั้งทำเอาแจจุงต้องหันกลับมา แต่เพียงได้มองแค่เสี้ยวหน้า แจจุงก็ละสายตาไปมองทางอื่น
“จุนซู?? จุนซูเพื่อนสมัยประถมของเราน่ะเหรอ”ริมฝีปากสวยถาม แต่สายตายังคงไม่กล้าสบตากับจุนซู
“ใช่แล้ว มองหน้าฉันสิแจจุง”จุนซูขยับกายไปยืนให้ตรงกับระยะสายตาของอีกฝ่าย รอยยิ้มใสผุดขึ้นที่ริมฝีปากสวยของแจจุงก่อนจะตามมาด้วยอ้อมกอดจากหนุ่มน้อยร้านกาแฟ
“จุนซูจริงๆด้วย ฉันคิดถึงนายจัง”
“ฉันก็คิดถึงแจจุง คิดถึงทุกวันเลย แจจุงสบายดีใช่ไหม”
“เราสบายดี พอดีได้คุณหมอยูชอนช่วยในหลายๆเรื่องน่ะ”แจจุงหันไปยิ้มกับผู้มีพระคุณเล็กน้อย
“ดีแล้วล่ะ แต่แจจุงดูสวยขึ้นนะ”มือบางหยิกแก้มคนสวยเบาๆเป็นชิงหยอกล้อ
“สวยอะไรกัน เราเป็นผู้ชายนะจุนซู เราต้องหล่อสิ”แจจุงรีบเถียง
“สวยจะตาย ฉันจีบได้ไหมเนี่ย”จุนซูเอ่ยแซว แต่ก็ถูกขัดคอจากคุณหมอที่ยืนฟังบทสนทนาของคู่เพื่อนรักรุ่นลูกมาเสียนาน
“อะแฮ่ม!!!”
“อะไรติดคอหรอครับคุณหมอ”จุนซูหันไปถามพร้อมกับยิ้มโชว์ฟันขาว
“ความรักน่ะครับ”ยูชอนตอบแล้วยิ้มมุมปาก แถมเป็นรอยยิ้มชนิดที่มิคกี้ยูชอน TVXQ ยังสู้ไม่ได้ ใครเห็นเป็นต้องละลายไปเป็นแถบๆ
“ความรักของคุณหมอหรอครับ ใครหนอผู้โชคดี”คนน่ารักยืนนึก แต่นึกได้ไม่ทันไร เจ้าของความรักที่ว่าก็ช่วยเฉลยคำตอบให้ในทันที
“คนถามนั่นแหละ”
“ขี้โม้! คุณหมอแกล้งจุนซูอีกแล้วนะ!”ร่างบางทำแก้มป่องพองลมอีกครั้งก่อนจะหันกลับไปหาเพื่อนรัก เมื่อรู้ว่าความพ่ายแพ้ในบทสนทนากับคุณหมอใกล้จะมาถึง
“วันนี้แจจุงไปที่บ้านฉันด้วยนะ วันนี้ฉันจะขอคุณป๊าจัดปาร์ตี้ต้อนรับฉันกลับมาที่โซลล่ะ”
“อ่า.. จะดีเหรอ คุณป๊าของจุนซู ไม่ค่อยชอบหน้าเราเลยนะ”แจจุงยืนก้มหน้า ความผิดครั้งนั้นมันยังคงติดตราตรึงใจเสียจนเขาไม่กล้าเข้าไปเหยียบที่บ้านตระกูลชองอีก
“ดีสิ คุณป๊าทำอะไรแจจุงไม่ได้หรอก เพราะฉันจะปกป้องแจจุงเอง”
“ฮ่าๆๆ สัญญานะ”แจจุงหัวเราะพร้อมกับประกาศทวงสัญญา
“สัญญาแน่นอน!”จุนซูทำท่าจะโน้มหน้าเข้าไปหาแจจุงทีละนิด ทีละนิด ทีละนิด . . . . .
“จุนซู!!”เสียงทุ้มของคุณหมอหนุ่มเอ่ยขัดอีกครั้งพร้อมกับขายาวที่ก้าวมาประชิดตัวทั้งคู่อย่างรวดเร็ว มือแกร่งจับมือจุนซูให้ชูนิ้วก้อยไปหาแจจุง
“สัญญาระหว่างเพื่อนต้องทำแบบนี้สิ”
“ครับๆ แบบนี้ก็แบบนี้”จุนซูตอบเออออแบบงงๆ เมื่อเขาลืมไปเสียสนิทว่าสัญญาแบบปากต่อปากต้องทำกับคุณหมอคนเดียวเท่านั้น
“งั้นตอนเย็นเดี๋ยวเราไปหาที่บ้านนะ ตอนนี้เราคงต้องกลับไปดูร้านก่อน”แจจุงเกี่ยวก้อยสัญญาพร้อมกับเอ่ยขอตัวเพื่อกลับไปยังร้านกาแฟของเขา
“บ๊าย บาย แล้วเจอกัน”ร่างบางโบกมือ
สิ้นเสียงประตูปิดลงได้ไม่นาน คุณหมอหนุ่มก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก ในเมื่อคนไข้ของเขาดื้อ ไม่ฟังที่เขาสั่ง มันก็ต้องมีตำหนิกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา
“จุนซู คุณหมอสั่งคำสัญญาไว้ว่ายังไงครับ!”
“ก็...จุนซูลืมนี่ครับ ^^ ”คนกระทำผิดได้แต่ยิ้มจืดเจื่อน
“คราวหลังห้ามลืมอีกนะ! สัญญาที่สอนไปสำหรับ Only Dr.Yuchun!”ร่างสูงชี้มือ ใบหน้าที่ดูจริงจังทำเอาคนมองนึกอะไรสนุกๆได้
“โอนลี่ อนลี่ โอนลี่ อนลี่~ ศัพท์เกาหลีคำใหม่หรอครับ มันแปลว่าอะไรหรอ *0*”แววตาใสสะท้อนเป็นประกายฉายขึ้นเพื่อแกล้งคุณหมอสุดหล่อของเขา ไฟโมโหในตัวคุณหมอถึงกับโหมกระหน่ำเข้ามาทันที
“ชองจุนซู!!!!!”
“ครับ! แบร่~~”ลิ้นสีชมพูแลบออกมายั่วอารมณ์อีกคน ก่อนที่คนน่ารักจะขยับตัวพร้อมกับกระเป๋าเตรียมตัวจะหนีออกจากห้องในทันที แต่สุดท้าย จุนซูก็ยังไม่วายเอ่ยคำพูดทิ้งท้าย
“ปาร์ตี้คืนนี้ เชิญคุณหมอไปด้วยนะครับ โอนลี่ อนลี่ ^^
...................................................
ความคิดเห็น