ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic TVXQ] Beside ฝากหัวใจไว้เคียงข้างคุณ YOOSU YUNJAE

    ลำดับตอนที่ #1 : Intro

    • อัปเดตล่าสุด 19 ม.ค. 57


     Intro [Beside ฝากหัวใจไว้ข้างคุณ ]
     

           ชองยุนโฮ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง หล่อ รวย เป็นที่ต้องการของสาวๆทั่วกรุงโซล แต่ใครจะรู้ว่าช่วงชีวิตในวัยเด็กแสนคึกคะนองของชายหนุ่ม ได้ผ่านการแต่งงานตั้งแต่อายุ 16 และมีบุตรตั้งแต่อายุ 17 ปี แต่ช่างโชคร้ายที่ภรรยาวัยเดียวของเขาได้เสียชีวิตลงขณะที่ให้กำเนิดทายาทตัวน้อยๆของตระกูลชองเนื่องจากร่างกายอ่อนแอ

    แต่ทว่านั่นก็ยังนับว่าโชคดีที่บุตรของเขาได้รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด

    เด็กน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกช่างน่ารักสดใสและมีใบหน้าหวานราวกับเด็กผู้หญิง

    อีกทั้งยังมีใบหน้าเหมือนกับภรรยาของเขาไม่มีผิดเพี้ยน

    ร่างสูงทอดสายตามองเด็กน้อยที่กำลังหลับพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม

     
    “ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าจะตั้งชื่อน้องว่าอะไรค่ะ”พยาบาลสาวคนสวยเอ่ยขัด ในมือเจ้าหล่อนถือสมุดและปากกาเตรียมที่จะจดชื่อของเด็กน้อย ยุนโฮยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งแบบลวกๆก่อนจะนิ่งคิดไปชั่วขณะ


    ...จินซู ผมจะตั้งชื่อลูกของเราว่าอะไรดีล่ะ...                          


    ...จินโฮ...


    ...โฮซู...


    ...ยุนจิน..


    ...ยุนซู...


    ...จุนซู...


    “อ๊ะ!”ชายหนุ่มหยุดความคิดก่อนจะระบายยิ้มกว้างแล้วหันไปแจ้งชื่อแก่พยาบาล


    “ชองจุนซูครับ”


    “ชองจุนซูนะค่ะ”ร่างบางจดชื่อตามคำบอกของผู้เป็นบิดา จากนั้นก็หยิบมาติดไว้ที่ผ้าสีฟ้าซึ่งพันอยู่รอบตัวเด็กทารก ยุนโฮลูบเบาๆที่ป้ายชื่อดังกล่าวพร้อมกับเอ่ยปาก


    “จุนซูลูกชายคนเก่งของพ่อ...พ่อขออวยพรให้ลูกโตมาแข็งแรงและเป็นคนเก่งแบบแม่ของลูกนะ”



    .......................................................

     



    8 ปีผ่านมา ที่โรงเรียนประถมศึกษา


         เสียงเครื่องยนต์จากรถคันหรูค่อยๆดับสนิทลง กระจกสีทึบลดลงทีละน้อยพร้อมกับแว่นกันแดดราคาแพงถูกถอดออก ชายหนุ่มเดินลงจากรถของตนอย่างวางมาดให้สมกับเป็นนักธุรกิจ วันนี้เขาเลิกงานเร็วกว่ากำหนด ซึ่งตรงกับเวลาที่ลูกชายเลิกเรียนพอดี ดังนั้นเขาจึงอาสาขับรถมารับลูกชายด้วยตนเองถึงหน้ารั้วโรงเรียน


    “คุณป๊า...”เสียงใสแจ๋วดังมาแต่ไกลพร้อมกับเร่งฝีเท้าจากเดินจนกลายเป็นวิ่ง การที่พ่อแท้ๆมายืนรอรับที่โรงเรียนช่างเป็นความสุขของจุนซูมากจริงๆ ปกติจะเจอแต่พี่เลี้ยงและคนขับรถ ขณะที่พ่อได้แต่ส่งเสียงผ่านโทรศัพท์มารับแทนทุกครั้ง


    “อย่าวิ่งสิจุนซู เดี๋ยวหกล้มขึ้นมา ป๊าจับตีก้นนะ”มือหน้ายีผมลูกชายอย่างหมั่นเขี้ยว


    “คุณป๊าอ่ะ จุนซูไม่ล้มง่ายๆหรอกครับ”เด็กน้อยยิ้มตาหยี


    “ลูกชายป๊าอวดเก่งตลอด อวดเก่งเหมือนใครเนี่ย”ยุนโฮก้มลงหอมแก้มลูกชายฟอดใหญ่


    “เหมือนป๊าไง”นิ้วชี้เล็กจิ้มที่แขนบิดาแล้วทำแก้มป่อง ศีรษะกลมถูอกแกร่งอ้อนๆพร้อมกับเอ่ยคำขออย่างไม่รีรอ


    “ป๊าครับ วันนี้ให้แจจุงไปเล่นที่บ้านเราอีกนะ”ยุนโฮละสายตาไปมองคนที่ยืนแอบอยู่ข้างหลังลูกชายตัวเอง ริมฝีปากหนานึกขันเด็กชายตัวน้อยอีกคนที่เอาแต่ยืนก้มหน้าหลบสายตา


    ...เจ้าเด็กนี่ขี้กลัวจัง เจอกันอยู่ทุกวันแต่ก็สบตาเขาได้ไม่นานซักที...


    “วันนี้ป๊าคงให้แจจุงไปบ้านเราไม่ได้นะจุนซู”ร่างสูงตอบลูกชายด้วยน้ำเสียงเรียบ มือหนาลูบศีรษะเล็กเป็นเชิงปลอบ ทั้งจุนซูและแจจุงต่างก็เงยหน้ามองด้วยความสงสัย ซึ่งแจจุงเองก็คิดหนักไม่น้อยว่าเมื่อวานตัวเองไปซนอะไรให้คุณพ่อของจุนซูไม่พอใจหรือเปล่าเพราะปกติเขาก็ไปเล่นกับจุนซูที่บ้านแทบทุกวัน


    “ทำไมครับป๊า”จุนซูถามพร้อมกับทำหน้าตาสงสัยอย่างน่ารัก


    “เพราะว่าอีกไม่นานจุนซูต้องไปเรียนต่อเมืองนอก”ริมฝีปากหน้าคลี่ยิ้ม แต่คนฟังกลับโวยวายขึ้นมาอย่างเอาแต่ใจ


    “ไม่เอา! จุนซูไม่ไป!


    “ฟังป๊านะ จุนซูไปเรียนถึงแค่มัธยมเอง มหาวิทยาลัยจุนซูก็กลับมาเรียนที่เกาหลีก็ได้”ยุนโฮยังคงพยายามอธิบายให้ลูกชายฟัง แต่เด็กน้อยที่กำลังรู้สึกแย่กลับไม่ฟังและไม่ทำความเข้าใจในสิ่งที่ได้ยินอีกแล้ว


    “เรียนแค่วันเดียวจุนซูก็ไม่ไป!!!”เสียงใสตะโกนจนเส้นเสียงปูดออกมา


    “จุนซู......”แววตาคมเริ่มดุ อีกทั้งน้ำเสียงเย็นชาของยุนโฮทำเอาหยาดน้ำใสเริ่มเอ่อคลอที่ขอบตาของเด็กน้อย


    “เพราะป๊าไม่รักจุนซู! แล้วจุนซูก็ไม่ใช่ลูกป๊าใช่ไหม! ป๊าถึงไล่จุนซู! จุนซูเกลียดป๊า!!”เด็กน้อยวิ่งร้องไห้ออกจากบริเวณนั้นในทันที คำพูดของจุนซูทำเอาผู้เป็นบิดาตกใจไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้วิ่งตามลูกชายออกไป เนื่องจากรู้อยู่แก่ใจว่าจุนซูกำลังวิ่งหนีไปที่แห่งไหน ทางด้านแจจุงก็ยืนตัวสั่นด้วยความกลัว เมื่อนึกได้ว่าตัวเองเป็นคนบอกกับจุนซูเรื่องที่จุนซูกับยุนโฮอาจจะไม่ใช่พ่อลูกกัน เพียงเพราะยุนโฮไม่ค่อยมีเวลาเอาใจใส่จุนซู ทำให้จุนซูมาบ่นให้เขาฟังประจำ และเขาก็ทำได้แค่เพียงแนะนำไปเท่านั้นเอง


    “ทำไมกัน ทำไมจุนซูถึงพูดว่าตัวเองไม่ใช่ลูก พอจะรู้สาเหตุไหม...แจจุง...”ในเมื่อไม่รู้จะพึ่งพาใครสุดท้ายต้องหันมาสนใจเพื่อนสนิทซี้ปึกของลูกชาย


    “คือผมเป็นคนบอกกับจุนซูเรื่องนั้นเองครับ”แจจุงตัดสินใจตอบตามความจริง


    “อะไรนะ!!!!”มือแกร่งตรงเข้ามาบีบแขนเล็กอย่างลืมตัวว่าคนตรงหน้าเป็นเพียงเด็กน้อยอายุ 8 ขวบ ขณะที่เด็กน้อยแจจุงยืนตัวสั่นก้มหน้าด้วยความกลัว


    “แจจุง...คุณครูจะกลับแล้วนะ”เสียงของหญิงสูงวัยในชุดเครื่องแบบคุณครูดังขึ้นขัดสถานการณ์ที่กำลังย่ำแย่ เสียงของเธอช่วยทำให้แจจุงรอดพ้นจากสถานการณ์ตึงเครียดได้โดยง่าย


    “ครับคุณครู”แจจุงรีบสะบัดตัวออกแล้ววิ่งไปหาหญิงผู้มาใหม่อย่างเร่งรีบ เพราะทุกวันเขามักจะกลับบ้านพร้อมคุณครูเสมอหากไม่ได้ถูกจุนซูชวนไปเล่นที่บ้านเสียก่อน ขณะเดียวกัน ยุนโฮยืนมองทั้งสองเดินจากไป และนั่นก็เป็นเพียงภาพสุดท้ายที่เขาจะมองแจจุงว่าเป็นเด็กน่ารัก เพราะตอนนี้แจจุงเหมือนพยายามยุยงเรื่องไร้สาระให้จุนซู ซึ่งเขาไม่พอใจอย่างมาก ไม่รู้ว่าแจจุงอิจฉาที่จุนซูมีพร้อมทุกอย่างหรืออย่างไรกัน

      .
     .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
     . 
      .



          ทางด้านเด็กน้อยจุนซูก็วิ่งตรงเข้ามาในโรงพยาบาลที่ไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไหร่นัก มือเล็กเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของนายแพทย์ท่านหนึ่งอย่างคุ้นชินทั้งน้ำตา


    “คุณหมอ...ฮึก...ฮือ...”



    “จุนซูเป็นอะไรครับ แล้วคุณป๊าล่ะ”เจ้าของชื่อที่เด็กน้อยเอ่ยเรียกถึงกับลุกเดินมาหาผู้มาใหม่ด้วยความตกใจ ร่างสูงย่อตัวลงนั่งแล้วจับมือเล็กเอาไว้เป็นเชิงปลอบ



    “คุณป๊าไม่รักจุนซูแล้วครับ”ใบหน้าหวานของจุนซูตรงเข้าซุกที่อกแกร่งทันที ความรู้สึกที่มีตอนนี้มันช่างเคว้งคว้างไร้ที่พึ่งพิง


    “คุณป๊าจะไม่รักจุนซูได้ไงครับไหนบอกคุณหมอซิ”ริมฝีปากหนาหอมแก้มนุ่มไปฟอดใหญ่จนแก้มใสแดงปลั่งเป็นลูกมะเขือเทศ


    “ก็...ฮึก...คุณป๊า...จะส่งจุนซูไปนอกเมือง”


    “นอกเมือง?? ฮ่าๆๆ คุณป๊าไม่ทำแบบนั้นหรอกนะครับคนเก่ง”ยูชอนพูดปลอบแต่ในใจนึกขำอยู่ไม่น้อย



    ...นี่ไอ้บ้าชองมันไม่มีอะไรจะขู่ลูกมันหรือไงว่ะ...ถึงจะส่งลูกไปต่างจังหวัดเนี่ย...



    “ฮึก..แต่คุณป๊าพูดเมื่อกี้...”


    “โอ๋ๆๆ ไม่ร้องแล้วน้าาา ไว้เดี๋ยวคุณป๊าตามมา แล้วคุณหมอจะจับคุณป๊าตีก้นเลยดีไหมครับ”ยูชอนทำท่าทางจริงจังแต่ก็ยังเผลออมยิ้มให้จุนซูเห็น


    “คุณหมอไม่ทำหรอกครับ เพราะคุณหมอกับคุณป๊าเป็นเพื่อนกัน”จมูกสวยเชิดขึ้นเล็กน้อย แขนเรียวยกขึ้นกอดอกด้วยความเอาแต่ใจ



    “ทำสิครับ เพราะครั้งนี้เพื่อนคุณหมอทำจุนซูร้องไห้ มาครับ..คุณหมอจุ๊บๆสัญญา”ยูชอนทำปากจู๋รออีกฝ่าย ซึ่งคำว่าจุ๊บๆสัญญา เป็นสัญลักษณ์ที่เขาตกลงกับจุนซูเพื่อใช้ในการรักษาสัญญากันตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเป็นคุณหมอประจำตัวของเด็กน้อยคนนี้ และเด็กน้อยเองเมื่อเห็นอีกฝ่ายให้สัญญาก็เดินเข้าไปจุ๊บปากหนึ่งทีก่อนจะตามด้วยหอมแก้มของอีกฝ่าย



    “สัญญาแล้วนะครับ”ดวงตาเรียวมองคุณหมอของเขาอย่างเชื่อใจ


    “ครับ”ร่างสูงพยักหน้าแล้วยีผมเด็กน้อยเบาๆ



    แกร๊ก!!! ยุนโฮเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าจริงจังที่จ้องลูกชายอย่างเอาเรื่อง



    “นี่ไอ้คุณชายชอง จะส่งลูกแกไปนอกเมืองทำบ้าอะไรว่ะ!!!”ยูชอนเปิดบทสนทนาขึ้นทันที ขณะที่จุนซูยืนชิดกับคุณหมอเป็นปาท่องโก๋



    “ใครบอกแกไอ้หมอปาร์ค”คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันพร้อมกับสีหน้าสงสัย


    “ก็จุนซูน่ะสิ”ร่างสูงตอบแล้วก้มไปหอมแก้มนิ่มของจุนซูอีกครั้ง


    “ไอ้ปาร์คแกอย่ามาลวนลามลูกชายฉันนะเว้ย ที่สำคัญฉันจะส่งจุนซูไปเรียนเมืองนอก ไม่ใช่นอกเมือง!!!”ยุนโฮชี้หน้าคุณหมอจอมเจ้าเล่ห์



    “อ้าวเมืองนอกงั้นหรอ”ร่างสูงหันขวับมามองเด็กน้อยที่ยืนข้างๆซึ่งจุนซูเมื่อรู้ว่าตัวเองบอกข้อมูลผิดก็รีบเข้าซุกอกแกร่งพร้อมแสดงปฏิกิริยาออดอ้อน


    “นั่นแหละครับคุณหมอ...ฮึก...คุณหมอต้องจัดการนะ คุณหมอสัญญาแล้วนี่นา”


    “ครับสัญญา มาจุ๊บๆกันอีกทีซิ”คุณหมอจอมเจ้าเล่ห์ทำปากจู๋ แต่ทว่าครั้งนี้กลับถูกผู้เป็นบิดาของเด็กน้อยผลักศีรษะเสียจนเซแทบจะตกเก้าอี้


    “โอ๊ยยย เล่นแรงไปแล้วนะเว้ยไอ้คุณชายชอง”เสียงทุ้มโวยวาย เมื่อกี้หัวใจคุณหมอปาร์คแทบหล่นไปตาตุ่มเมื่อถูกเพื่อนรักกระทำแบบไม่รู้ตัว


    “แกจะได้เลิกลวนลามลูกชายฉันซักทีไง”ใบหน้าคมทำสีหน้าจริงจังประหนึ่งคุณพ่อหวงลูกสาว(?)


    “อะไรว่ะ นี่มันแค่เด็กอายุ 8 ขวบนะเว้ย”ยูชอนโวยวายอีกครั้ง


    “ฉันมองตาแกก็รู้แล้วว่าแกหวังอะไรในตัวลูกชายฉัน”ยุนโฮชี้แจงด้วยความรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของเพื่อน


    “หวังอะไรว่ะ ฉันก็แค่อยากเป็นลูกเขยแกเองนะ ฮ่าๆๆ”คุณหมอหนุ่มระเบิดเสียงหัวเราะ


    “ลูกเขยคืออะไรหรอครับ”เสียงของเด็กน้อยเอ่ยถามอย่างสงสัย ร่างสูงจึงยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะตอบคำถามของจุนซูทันที


    “ถ้าคุณหมอได้เป็นลูกเขยของคุณป๊าของจุนซู คุณหมอก็จะได้อยู่กับจุนซูตลอดไปไงครับ”


    “อ่า...จริงหรอครับ”แววตาของเด็กน้อยดูตื่นเต้นและดีใจแบบสุดๆเมื่อได้ฟังความหมายของคำว่าลูกเขย


    “ถ้าไม่อยากโดนดีอีกรอบ แกเลิกทำเจ้าชู้ใส่ลูกชายฉันซักทีไอ้คุณหมอปาร์ค แล้วก็กรุณาช่วยอธิบายให้จุนซูฟังเรื่องที่ฉันจะส่งเขาไปเรียนต่อเมืองนอกให้สมกับอาชีพหมอแกด้วย!!! กล่อมคนไข้ทำเป็นไหมห๊ะ!!!”เสียงทุ้มเริ่มไม่พอใจเมื่อเพื่อนรักทำทีเอาแต่จีบลูกชายตัวเองเป็นบ้าเป็นหลัง


    “อย่าทำมาเสียงดังกับฉันหน่อยเลย แกเป็นพ่อยังไงว่ะ กล่อมลูกตัวเองยังทำไม่ได้”ยูชอนส่ายหน้าพร้อมกับหัวเราะเยาะเย้ย


    “ก็เป็นพ่อที่คิดผิดส่งแกมาเป็นหมอประจำตัวจุนซูจนเขาติดแกมากกว่าฉันนี่ไง!!”ร่างสูงยังคงเสียงดังเหมือนเดิม ก่อนจะส่งสายตามองทั้งคู่คุยกัน

     



          ยูชอนค่อยๆลดตัวลงนั่งตรงหน้าเด็กน้อยจุนซูอีกครั้ง แววตาขี้เล่นแสดงถึงความจริงจังจนจุนซูได้แต่ยืนก้มหน้านิ่ง รอฟังคำพูดของอีกคนอย่างใจจดใจจ่อ


    “จุนซูอยากพูดภาษาอังกฤษได้ อยากเป็นคนเก่งอย่างคุณหมอไม่ใช่หรอครับ”คำถามที่ถูกถามขึ้นทำให้คนฟังพยักหน้ารับ


    “ครับ แต่จุนซูไม่อยากห่างคุณป๊า ไม่อยากห่างคุณหมอ ไม่อยากห่างแจจุง”



    “เดี๋ยวคุณหมอกับคุณป๊าโทรหาจุนซูหรือส่งE-mailหาก็ได้นี่ครับ”คุณหมอสุดหล่อวาดยิ้มพร้อมกับกุมมือเล็กเอาไว้


    “แต่แจจุงไม่มี...”เด็กน้อยแสดงสีหน้าเศร้า


    “เดี๋ยวคุณหมอคอยดูแลแจจุงให้โอเคไหมครับ คุณหมอจะส่งข่าวแจจุงให้จุนซูฟังเป็นระยะเลย”


    “แต่ป๊าอยากให้จุนซูตัดขาดกับแจจุงนั่นซะ เพราะเขากำลังทำให้ป๊ากับจุนซูทะเลาะกัน”ยุนโฮพูดขัดขึ้น ซึ่งเรียกหยดน้ำใสออกมาจากดวงตาของลูกชายได้โดยง่าย


    “ทะเลาะกันเรื่องอะไรว่ะ”ยูชอนหันกลับมามองยุนโฮที่แสดงสีหน้าโมโหสุดขีดเมื่อพูดถึงเพื่อนของลูกชาย


    “ก็เด็กนั่นบอกว่าฉันไม่ใช่พ่อแท้ๆของจุนซู พูดแล้วฉันหงุดหงิด!


    “แจจุงยังเด็ก ที่สำคัญแจจุงเป็นเด็กกำพร้านายก็รู้นี่ แล้วแจจุงจะรู้จักและเข้าใจความรักจากพ่อแม่ได้ยังไง”เสียงคุณหมอหนุ่มเอ่ยแย้ง


    “เออ ฉันผิดเอง ฉันไปรอข้างนอกก็แล้วกัน!!”ร่างสูงเดินออกจากห้องอย่างหัวเสีย ด้วยความที่เป็นพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยเลยทำให้เขายังขาดความเข้าใจและเอาใจใส่ลูกมากกว่านี้ เรื่องบางเรื่องที่พ่อแม่ควรจะเข้าใจ บางทียุนโฮเองก็ยังไม่เข้าใจเลยเสียด้วยซ้ำ จึงไม่แปลกที่เขาจะยอมให้เพื่อนรักวัยเดียวกันดูแลลูกของเขา เนื่องจากการงานอาชีพของเพื่อนที่เป็นแพทย์ดูเข้าใจในสิ่งที่เขาขาดไป


    “คุณหมอต้องดูแลแจจุงดีๆนะครับ อย่าให้ป๊าผมไปทำร้ายแจจุงนะ”จุนซูใช้สองมือของเขาจับมือคุณหมอเอาไว้แน่น


    “ครับ หมอจะดูแลให้ดีที่สุด แล้วจุนซูก็รีบตั้งใจเรียนรีบกลับมาหาคุณหมอนะครับ”ยูชอนยิ้มหวาน ริมฝีปากหนาเลื่อนเข้าจูบแก้มใสอีกครั้ง



    ..................................................................................



    [โปรดติดตามตอนต่อไป]

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×