คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Part 2 กุหลาบเคลือบช็อคโกแลต
Part 2 กุหลาบเคลือบช็อคโกแลต
.............................................................
ชายหนุ่มวัย 35 เดินตรงมาที่โซฟาข้างลูกชายตัวแสบที่เพิ่งกลับจากต่างประเทศได้ไม่นาน มือแกร่งยกกาแฟขึ้นจิบเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยปากถามทุกข์สุขจากอีกฝ่ายซึ่งนั่งเล่นที่โซฟาอยู่ก่อนหน้าแล้ว
“เรียนเป็นไงบ้างจุนซู... แล้วคุณย่าสบายดีหรือเปล่า”
“ก็ดีครับ แต่คุณย่าโหดครับ โหดกว่าคุณป๊าอีก”จุนซูตอบพร้อมกับทำหน้ามุ่ย
“ฮ่าๆๆ กับเราน่ะยังน้อย ป๊าโดนเยอะกว่านี้อีก”ร่างสูงยกมือลูบผมลูกชายเบาๆเป็นเชิงปลอบใจ
“ไม่น้อยนะครับป๊า ชีวิตที่นู่นของผมน่ะเหมือนโรงเรียนประจำเลย เลิกเรียนก็ต้องรีบกลับบ้าน วันๆเหมือนโดนขังอยู่แต่ที่บ้าน ขนาดจะซื้อหนังสือเรียนยังต้องให้คุณย่าไปด้วยเลย”คนน่ารักบ่นยาว แก้มใสพองลมอย่างน่ารัก
“คุณย่าเขากลัวเราหนีเที่ยวน่ะสิ ป๊าทำบ่อยจนคุณย่าเขาห่วงว่าเราจะเสียคนแบบป๊า ฮ่าๆๆ”ยุนโฮระเบิดหัวเราะเสียงดังทิ้งท้าย
“แล้วตอนนี้ล่ะ คุณป๊าไม่คิดจะมีใครซักคนบ้างเหรอ”ดวงตาเรียวหันไปมองหน้าผู้เป็นบิดาของตนพร้อมกับคำถาม ซึ่งคนฟังถึงกับขมวดคิ้วขุ่นอย่างสงสัย
“เราอยากมีแม่เลี้ยงหรือไงจุนซู”
“ไม่เชิงครับ ผมแค่คิดว่าถ้าป๊าอยู่แต่กับงานแบบนี้กลัวจะเป็นโรคเครียดน่ะสิครับ”
มือเล็กค่อยๆวางลงบนหลังมือของยุนโฮ
ความเป็นห่วงจากลูกชายที่น่ารักถูกถ่ายทอดผ่านสัมผัสนี้ทีละน้อย
“ป๊าแข็งแรงแบบนี้ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก ที่สำคัญงานที่บริษัทป๊าก็ไม่ได้ทำอะไรหนักซักหน่อย นั่งเซ็นต์เอกสารอย่างเดียว”
“งั้นให้ผมไปช่วยไหมครับ ^^”จุนซูพูดขึ้น แต่ก็ไม่พ้นที่จะโดนคุณป๊าสุดหล่อดุเข้าให้
“ไม่ต้องมาหาเรื่องไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยเลยนะ!”
“คุณป๊ารู้ทันตลอดอ่ะ ทีแจจุงไม่เรียนยังไม่เป็นไรเลย”ร่างเล็กขยับตัวออกห่างจากยุนโฮก่อนจะทิ้งแผ่นหลังไปพิงกับโซฟาอีกด้าน
...ชีวิตของเขาเมื่อไหร่จะพ้นจากการถูกบังคับให้ทำโน่นทำนี่เสียที...
“นี่เราไปหาเจ้าเด็กนั่นมาเหรอจุนซู โดนแจจุงยุยงอะไรผิดๆมาอีกแล้วใช่ไหม”น้ำเสียงของชายหนุ่มเริ่มแสดงอาการความไม่พอใจขึ้นมา
ยิ่งได้ยินชื่อนั้นยิ่งโมโห ทั้งๆที่10ปีผ่านมาแล้ว
แต่เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องที่เจ้าเด็กนั่นทำไว้ แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตาม
“ผมไปหาคุณหมอแล้วก็บังเอิญได้เจอแจจุงน่ะครับป๊า แต่แจจุงเขายากจนเขาเลยไม่มีเงินเรียนน่ะครับ ไม่ได้ยุยงซะหน่อย”จุนซูรีบแก้ตัวให้เพื่อน เพราะดูท่าทางคุณป๊าเขาจะโมโหแจจุงขึ้นมาอีกแล้ว
“เพื่อนไม่ดีแบบนั้นปกป้องกันเข้าไป เมื่อไหร่จะเลิกคบเพื่อนแบบนี้ซักที”ยุนโฮพูดอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ทำเอาจุนซูเองก็หมดความอดทนอีกเหมือนกัน
“คุณป๊า!! จุนซูโตพอที่จะแยกแยะได้แล้วนะครับ”
“แต่เด็กนั่นร้ายกว่าที่เราคิดเยอะ”ยุนโฮยังคงยืนยันคำเดิมตามความคิดของเขา
และนั่นก็ทำให้ลูกชายถามย้อนกลับมาเข้าให้
“ร้ายยังไงครับ ไหนคุณป๊าลองบอกผมหน่อยสิครับ”
“เอ่อ...ร้ายแบบที่ยุยงไม่ให้เราเรียนหนังสือไงจุนซู เดี๋ยวนี้กล้าย้อนป๊าแล้วเหรอ”
“เปล่าซักหน่อย ก็คุณป๊ามั่ว! จุนซูบอกแล้วไงว่าแจจุงไม่ได้ยุ! จุนซูไม่คุยกับคุณป๊าแล้ว!”จุนซูทำท่าจะลุกหนีถ้าไม่เพราะลุงชอนเจคนขับรถของบ้านเดินเข้ามาพร้อมกับหนุ่มน้อยที่เป็นหัวเรื่องสำคัญของการที่เขาเถียงกับป๊าตลอดเวลา
“คุณหนูครับ คุณแจจุงมาหา...”
“อ่า....แจจุงมาแล้ว ไวกว่าที่คิดเลย”
“พอดีเราปิดร้านก่อนเวลากำหนดน่ะ เพราะเราอยากจะมาช่วยจุนซูจัดงาน”แจจุงตอบแล้ววาดยิ้มบางๆบนริมฝีปาก
“งานอะไรกัน”เสียงทุ้มถามขึ้นก่อนที่จะจุนซูขยับตัวหันกลับไปมอง ซึ่งนั่นก็ทำให้แจจุงกับยุนโฮได้พบหน้ากันแบบเป็นทางการ
“งานปาร์ตี้ต้อนรับจุนซูเองแหละคุณป๊า แขกที่พามาก็มีแค่แจจุงกับคุณหมอ คงไม่วุ่นวายรบกวนคุณป๊าหรอก”ร่างเล็กรีบตอบก่อนที่เพื่อนรักของเขาจะโดนหาว่าเป็นคนต้นเรื่องนี้ขึ้นมาอีก
“สวัสดีครับคุณอา”แจจุงก้มหัวทักทาย ขณะที่ยุนโฮเอาแต่จ้องใบหน้าของผู้มาใหม่ไม่ละ แจจุงเปลี่ยนไปเยอะมากจริงๆ เปลี่ยนจนเขาจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ไม่ว่าจะเป็นดวงตากลมโตที่ยังคงแสดงความหวาดกลัวเรื่องอดีตจนนัยน์ตาสวยสั่นระริก
สีผมประกายทองพร้อมกับทรงผมซอยสั้นโชว์คอขาวระหงส์
จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากสีแดงสดทำเอาคนมองใจสั่นได้ดีเชียวนัก
ทั้งหมดนั่นไม่น่าเชื่อว่าจะถูกจัดสรรมาบนใบหน้าของหนุ่มน้อยคนนี้ได้ราวกับเป็นสตรีเพศ
...แค่เพียงได้พบเธอก็หวั่นไหว...
...แค่เพียงสบสายตาก็ปักใจ...
...หลงรักเพียงแรกเจอ...
...แล้วเธอล่ะเป็นไหม...
...ช่วยเปิดใจให้รู้ที...
...ไม่เคยจะรักใครเร็วอย่างนี้...
...ไม่เคยมีผู้ใดมากี่ปี...
...แต่ฉันก็แพ้เธอแล้วไงล่ะทีนี้...
...เธอจะรักฉันหรือเปล่าไม่รู้...
แปะ!! เสียงปรบมือดังขึ้นตรงหน้ายุนโฮ ทำเอาชายหนุ่มหลุดออกจากภวังค์คนตกหลุมรัก และผู้ตบมือคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกเสียจากลูกชายตัวแสบของเขา
“คุณป๊าจ้องแจจุงนานไปแล้วนะ รับทักทายก็ไม่รับ คิดจะฆ่าแจจุงอยู่หรือไง ผมไม่ยอมหรอกนะ!!!”จุนซูพูดดักทางเมื่อเห็นว่าคุณป๊าจ้องเพื่อนของเขาราวกับจะจับเขมือบเข้าท้องได้อยู่แล้ว
“คิดอะไรไปใหญ่แล้วนะเรา ป๊าไม่ฆ่าแจจุงหรอก”ยุนโฮรีบตอบพร้อมกับเขกหัวลูกชายที่คิดอะไรไม่เข้าท่า
...จะฆ่าแจจุงได้ยังไงออกจะสวยขนาดนี้...
...แต่ถ้าอยากจะฆ่า...
...ขอฆ่าบนเตียงดีกว่า...
“เอ่อ...จุนซู เราเตรียมอุปกรณ์ทำคุกกี้กับเค้กมาด้วยนะ เราอยากให้จุนซูได้ชิมสูตรของร้านเราล่ะ”แจจุงชูถุงพลาสติกใส่ที่ใส่วัตถุดิบมาพร้อมที่จะโชว์ฝีมือ
“แจจุงเอามาเยอะแยะแบบนี้ เดี๋ยวร้านก็ขาดทุนหรอก”จุนซูบ่นอีกฝ่าย ยิ่งเห็นเพื่อนเขาไม่ค่อยมีเงิน เขาก็ไม่อยากจะให้เพื่อนเดือดร้อน อุปกรณ์ที่เตรียมมานี่ก็น่าจะขายได้เงินไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
“ไม่เป็นไร ถือว่าเราให้เป็นของขวัญต้อนรับกลับโซลนะ”คนสวยยิ้มหวาน
แต่ใครจะรู้ว่ารอยยิ้มนั้นไม่เพียงแค่สายตาจุนซูที่มองเห็นมัน
แต่ยังมีสายตาจากยุนโฮอีกคนที่มองทุกการกระทำและฟังทุกคำพูดของเด็กหน้าหวานคนนี้
“ทำอะไรกันอยู่คร้าบบบบ”เสียงของคุณหมอหนุ่มดังมาแต่ไกล และทันทีที่ได้ยินจุนซูก็ผละออกจากแจจุงไปหาต้นเสียงทันที
“คุณหมอมาแล้ว~~~”จุนซูโผเข้ากอดก่อนจะจุ๊บปากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
“ก็มาแล้วน่ะสิครับ ใจมันเรียกร้องหาคนน่ารักไง ^^”ยูชอนหยิกแก้มใสเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว
และการกระทำของทั้งคู่หากคนที่ไม่รู้จักมาพบเห็นก็คงมองว่าเป็นคู่รักที่หวานกันจนมดแห่มาขึ้นยกรัง
แต่ทว่ายุนโฮกลับดึงเจ้าลูกชายตัวดีกลับมายืนข้างๆเพื่อถามให้แน่ชัด
“เมื่อกี้ทำอะไรลงไปน่ะจุนซู”
“ก็จุ๊บกับคุณหมอไงครับ”ร่างเล็กยิ้มตาหยีโดยไม่รับรู้ถึงรังสีความโกรธจากผู้เป็นพ่อที่กำลังแผ่มาช้าๆ
“เราโตแล้วนะ ทำแบบนั้นได้ยังไง คนอื่นเขาจะมองว่าไม่ดีนะรู้ตัวไหม”ยุนโฮดุ ทำให้จุนซูถึงกับหน้าซีด แม้แต่ริมฝีปากที่จะเอ่ยแก้ตัวยังถึงกับพูดไม่ออกราวกับน้ำท่วมปาก
“นี่ไอ้คุณชายชอง! ทำซีเรียสไปได้ ถ้าเขามองไม่ดี ฉันจะรับผิดชอบลูกแกเอง”มือแกร่งวางบนไหล่เพื่อนรักพร้อมกับแสดงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่ยุนโฮกลับปัดมือเพื่อนออกจากไหล่ตัวเองอย่างไม่ไยดี
“ไม่ต้องมารับผิดชอบลูกชายของฉัน เพราะฉันไม่มีวันยกลูกชายของฉันให้เป็นเมียแก!”
“โห....ไอ้ชอง นี่ฉันยังดีไม่พออีกหรือไง อาชีพฉันก็เป็นตั้งนายแพทย์เลยนะเว้ย”ยูชอนยืดอกเต็มความภาคภูมิกับอาชีพอันเป็นเลิศของตัวเอง
“เออ อาชีพแกมันก็ดี แต่นิสัยไม่ดีพอ”ยุนโฮตอบ
“ทำไมวะ ก็แค่ชอบไปเที่ยวกลางคืนหิ้วสาวกลับมาบางครั้งบางคราวเนี่ยนะ”คุณหมอหนุ่มกลับมายืนในท่าทางปกติพร้อมกับหันไปมองหน้าเพื่อนรักอย่างไม่เข้าใจ
“นั่นแหละ เพราะลูกชายของฉันบริสุทธิ์เกินกว่าจะเป็นคู่ชีวิตกับเพลย์บอยอย่างแกไอ้หมอปาร์ค เป็นแค่หมอประจำตัวจุนซูก็พอแล้วแกอ่ะ!”
“เออๆๆๆ เป็นแค่หมอก็ได้”ยูชอนยุติบทสนทนาก่อนจะทิ้งตัวนั่งที่โซฟา แต่ก็ยังไม่วายมือไวคว้ามือจุนซูมาจุ๊บเบาๆ
“ว่าแต่ปาร์ตี้วันนี้จุนซูเตรียมอะไรไว้ให้คุณหมอบ้างครับ”
เพี๊ยะ! ยุนโฮตีมือคุณหมอจอมกะล่อนเข้าเต็มแรง ทำให้จุนซูที่กำลังจะอ้าปากตอบรีบปิดปากแทบไม่ทัน
“โอ๊ยยยยย เจ็บนะเว้ย”ยูชอนโวยวายพร้อมกับสะบัดมือรัว
...ไอ้เพื่อนบ้าแรงมันก็ยังกับหมี...ตีมาได้ไม่ยั้งมือเลย...
“มือไวไม่เลิกนะแก...”ยุนโฮพูด
“ก็ฉันแค่จะถามจุนซูเฉยๆ”เสียงทุ้มเอ่ยแก้ตัว แต่ก็โดนย้อนเข้าให้ในทันที
“ถามเฉยๆก็ไม่ต้องเอามือมาจับก็ได้”
“โอเค ฉันจะยอมแกไอ้คุณชายชอง”ร่างสูงเอนหลังพิงกับโซฟา
เพื่อนเขานี่มันหวงลูกชายอย่างกับหวงลูกสาวเลย
ให้ตายเถอะ แล้วแบบนี้จะเป็นลูกเขยได้ยังไง คิดแล้วกลุ้ม
“ว่าแต่จุนซูจะทำอะไรให้คุณหมอทานครับ”คุณหมอหนุ่มหันกลับมาย้อนถาม
“คือจุนซูอยากกินสุกี้เลยว่าจะชวนคุณหมอไปซื้อวัตถุดิบที่ห้างน่ะครับ”ร่างเล็กยิ้มหวาน ยิ้มหวานอีกแล้ว ถ้าอยู่โรงพยาบาล คงจะโดนคุณหมอจับมาทำสัญญาให้หายชื่นใจ
“ได้เลย”ยูชอนรีบลุกขึ้นยืน เมื่อเขาได้พบทางที่จะอยู่กับจุนซูแบบสองต่อสองแล้ว แต่ก็ไม่พ้นมารผจญที่ส่งเสียงขึ้นมา
“ป๊าจะไปด้วยจุนซู!”
“คุณป๊า...”จุนซูทำหน้าตกใจก่อนจะเขย่งเท้ากระซิบที่หูอีกฝ่าย
“ถ้าคุณป๊าไปกับผมแล้วทิ้งแจจุงไว้ที่บ้านคนเดียว คุณป๊าไม่กลัวแจจุงจะขโมยของบ้านเราหรอครับ”ร่างเล็กสร้างเรื่องมายุยงบิดาตนเอง จากนั้นหันไปมองแจจุงด้วยแววตาละห้อย
...ขอโทษที่แกล้งใส่ร้ายนายนะเพื่อนรัก...แต่เพราะฉันจำเป็นจริงๆ...
“แล้วถ้าไอ้หมอมันทำอะไรไม่ดีกับจุนซูล่ะ ป๊าจะทำยังไง”ยุนโฮหันมาตอบด้วยน้ำเสียงกระซิบเหมือนกัน
“ผมไปห้างนะครับ มันเป็นที่สาธารณะคนพลุกพล่าน เขาไม่กล้าทำอะไรหรอกครับ”ดวงตาใสยิ้มตาหยี เมื่อรู้สึกได้ว่าป๊าเขาเริ่มที่จะลังเลกับเหตุการณ์ที่เขาสร้างขึ้นมา
ยุนโฮพยักหน้ารับเป็นสัญญาณอนุญาตให้กับลูกชาย แม้นัยน์ตาจะห่วงจุนซูจากไอ้เพื่อนรักเพลย์บอยก็ตาม แต่ถ้าเจ้าเด็กนั่นมันขโมยของขึ้นมา เขาก็เดือดร้อนอีก
“เอาล่ะ ฉันจะอยู่ที่บ้านก็ได้... อยู่เป็นเพื่อนแจจุง”ร่างสูงพูดขึ้นโดยเน้นเสียงในเหตุผลสุดท้ายพร้อมกับหันไปมองร่างเล็กตาโตที่ถึงกับสะดุ้ง เมื่อรู้สึกถึงสถานการณ์ไม่ค่อยปลอดภัยขึ้นมาทันที
“แล้วคุณป๊าก็ห้ามรังแกแจจุงนะครับ ไม่งั้นจุนซูจัดการคุณป๊าแน่!”จุนซูทำหน้ามุ่ยเอาเรื่องเหมือนแมวขู่
“ป๊าไม่ทำหรอกน่า...”ยุนโฮลากเสียง นี่ไอ้ลูกชายเขาจะหวงเพื่อนคนสวยไปถึงไหนกัน
“งั้นเราไปกันเถอะครับ”คุณหมอหนุ่มรีบจูงจุนซูออกไปโดยไม่รีรอเพราะกลัวว่าเจ้าหมีบ้าเพื่อนรักจะเปลี่ยนใจขึ้นมาแล้วจะพากันแย่ไปเสียหมด
ยุนโฮและแจจุงยืนมองคุณหมอกับคนไข้จนลับสายตาก่อนที่เสียงหวานจะเอ่ยขึ้น
“ผมขอตัวไปทำคุกกี้นะครับ”
“เชิญ!”เสียงทุ้มเอ่ยตอบห้วนๆ แต่ก็ก้าวเท้าตามร่างบางเข้าไปในห้องครัว
“คุณอาตามผมมาทำไมครับ”แจจุงเอ่ยถาม
“ฉันไม่ไว้ใจนาย”วาจาเฉือดเชือนดูถูกเอ่ยแบบชนิดที่ตรงสุดๆกับคนสวย
แจจุงได้แต่ถอนหายใจก่อนจะที่ลงมือทำคุกกี้ด้วยวัตถุดิบที่เตรียมมา
ระหว่างที่กำลังทำก็ไม่พ้นที่จะโดนเจ้าของบ้านพูดจาดูถูกดูแคลนตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น ...
“นายคงไม่เอาของเหลือจากร้านมาทำให้ลูกฉันหรอกนะ”
“วัตถุดิบของนายจะราคาซักเท่าไหร่กันเชียว”
“ทำออกมารสชาติจะแย่ซักแค่ไหน”
“คนอย่างนายไม่น่าจะทำอะไรแบบนี้ได้นะ”
“ไปก็อปปี้สูตรการทำจากใครเค้ามา”
“สภาพคุกกี้นายให้ฟรี ฉันยังไม่อยากได้เลย”
“แล้วนั่นใส่อะไรลงไป ... นายคงไม่ใส่ยาพิษให้ลูกฉันกินหรอกนะ”ยุนโฮพูดกดดันคนสวยไปเรื่อยจนในที่สุดมันก็ได้ผลในประโยคสุดท้าย เมื่อแจจุงถึงกับวางมือจากการจับสิ่งของทุกอย่างแล้วหันมาเผชิญหน้า
“จุนซูเป็นเพื่อนของผม ถ้าผมจะใส่ยาพิษลงไป ผมสู้ใส่ให้คุณอาคนเดียวเสียดีกว่า”
“แจจุง นี่นาย!!”มือแกร่งชี้หน้าคนสวยอย่างเอาเรื่องด้วยความโมโห แต่แววตาที่เคยกลัวของแจจุงซึ่งตอนนี้กลับจ้องมาที่เขาด้วยสายตาเย็นชาจนบรรยากาศเหมือนตกอยู่ในขั้วโลก เพราะหมีหล่อเริ่มรู้สึกหนาวเมื่อถูกเพื่อนลูกชายเอาจริงเอาจังขึ้นมาบ้าง
“คุณอาไม่พอใจอะไรผมนักหนาหรอครับ ถึงได้พูดจาดูถูกผมนัก”ริมฝีปากสวยต่อบทสนทนาที่ทำเอาหมีถึงกับอ้าปากค้าง
“ฉัน...ฉันบอกไปแล้วไงว่าฉันไม่ไว้ใจนาย”ร่างสูงพูดอย่างติดขัด แถมยังรู้สึกลืนน้ำลายลงคอได้อย่างยากลำบาก
...นั่นสิ...เขาจะไม่ไว้ใจอะไรแจจุงนักหนากันนะ...
“ทำไมครับ เพียงเพราะผมมันจน เพราะผมมันเด็กกำพร้า ไม่ใช่ลูกคุณหนูคุณนายใช่ไหมครับ”แจจุงมองอีกคนด้วยแววตาตัดพ้อ
ถ้าเลือกได้เขาก็ไม่ได้อยากอยู่ในสภาพที่พูดไปเท่าไหร่นักหรอก
“ใช่!!!”ยุนโฮตอบแบบขอไปที เพราะเขาเองก็ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาไม่พอใจแจจุง นอกเสียจากเรื่องวันนั้นที่เขาไม่อยากจะรื้อฟื้นมันขึ้นมา เดี๋ยวจะหาว่าผู้ใหญ่รังแกเด็ก ปัญหาไร้สาระจากเด็กอายุ 8 ขวบวันนั้นทำเขามีอคติได้จนถึงทุกวันนี้ จะว่าไปเขานี่มันไร้สาระสิ้นดี
“ผมไม่คิดเลยนะครับว่าคุณอาจะมองคนที่ฐานะมากกว่าที่จิตใจ โชคดีนะครับที่จุนซูน่าจะได้เลือดแม่ของเขามามากกว่าเลือดคนชั้นสูงแต่ดูถูกคนอื่นอย่างคุณ”คำพูดของแจจุงจุดประกายไฟความโกรธในตัวของยุนโฮได้เป็นอย่างดี สองมือแกร่งดันแผ่นหลังบางจนติดกับตู้เย็น
“นายจะพูดมากเกินไปแล้วนะ นายคิดว่านายกำลังพูดอยู่กับใคร ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นของนายนะแจจุง!!!”
แจจุงพยายามขืนตัวออกจากการจับกุมของอีกฝ่ายแต่ก็ไม่สำเร็จเลยได้แต่ตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“ผมก็ไม่ใช่เด็กรับใช้ที่จะมายืนให้คุณดูถูกนะครับ”
“ฉันคงต้องสั่งสอนนายให้รู้สำนึกว่านายไม่ควรพูดจาแบบนี้กับฉัน”ยุนโฮเอ่ยก่อนที่จะทาบทับริมฝีปากลงบนกลีบปากบาง จูบนี้คือการลงโทษเด็กดื้อที่เถียงคำไม่ตกฟากอย่างแจจุง ร่างสูงบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างไร้ความปราณี แต่ทำตามอารมณ์ร้อนได้เพียงไม่นานนัก ชายหนุ่มก็ถูกคนสวยผลักออกเต็มแรง
“คุณทำบ้าอะไร!”แจจุงใช้หลังมือถูปากตัวเอง สมองของร่างบางตอนนี้รู้สึกขาวโพลนจนคิดอะไรไม่ออก การจู่โจมที่ช่วงชิงเฟิร์สคิสของเขาไปด้วยอารมณ์ความโมโห ทำเอาเขาใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก
“สั่งสอนเด็กดื้ออย่างนายไง คราวหลังถ้ากล้าเถียงกล้าย้อนฉันอีก ฉันจะจูบให้นายขาดใจตายเลยดีไหม”ยุนโฮยกนิ้วโป้งขึ้นเช็ดปากตัวเองอย่างลวกๆพร้อมกับแววตาแบดบอยแบบพระเอกในนิยายแนวตบจูบ สัญชาตญาณการล่าเหยื่อเหมือนจะกลับมาที่ตัวเขาอีกครั้งตั้งแต่วันนี้ที่ได้พบกับแจจุง
...เด็กดื้อปากร้าย...
“คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนผม เพราะคุณไม่ใช่เจ้าชีวิตของผม”พูดจบแจจุงก็รีบยกมือปิดปากแน่น ใบหน้าคมแสยะยิ้มเพียงเล็กน้อยเหมือนเห็นปฏิกิริยาความดื้อที่ซ่อนความกลัว ...จะกล้าก็กล้าให้มันตลอดนะคิมแจจุง...
“เด็กปากดีอย่างนาย ฉันจะเป็นเจ้าชีวิตกำหนดทางเดินของนายให้ได้ คอยดู!!”ยุนโฮพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินย้อนออกไป หลังจากที่แผ่นหลังแกร่งผ่านพ้นประตูไปได้เพียงเสี้ยววินาที แจจุงก็ถึงกับทรุดลงนั่งที่หน้าตู้เย็น หยาดเหงื่อไหลไปทั่วใบหน้าหวาน ทั้งๆที่อากาศในบ้านออกจะเย็นสบาย
ตุ้บ! เสียงกระเป๋าเดินทางถูกทิ้งลงกับพื้น ขณะที่หญิงวัยกลางคนวิ่งตรงเข้ามาประคองคนสวย
“ตายแล้ว... คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ผมไม่เป็นไรครับ”แจจุงตอบพร้อมกับพยายามพิจารณาใบหน้าคุ้นเคยของคนตรงหน้า คิ้วสวยขมวดเข้าหากันครู่หนึ่งก่อนจะทำตาโตเมื่อนึกขึ้นได้
“ป้ามินอาใช่ไหมครับ”เสียงหวานเอ่ยถาม
ถ้าจำไม่ผิด ผู้หญิงคนนี้เป็นทั้งแม่บ้านและพี่เลี้ยงของจุนซู เขาเคยเจอบ่อยๆทั้งตอนที่ไปรับจุนซูที่โรงเรียนและตอนที่มาเที่ยวที่บ้านจุนซูเมื่อวัยเด็ก
“ใช่แล้วค่ะ แล้วนี่.....คุณแจจุงใช่ไหมคะ โตเป็นหนุ่มหล่อแล้วป้าจำไม่ได้เลย”มินอาหัวเราะแห้งๆ
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แล้วทำไมป้า...”ร่างบางชี้มือไปยังกระเป๋าเดินทาง
“อ๋อ... ป้าลาพักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาน่ะค่ะ แล้วคุณแจจุงมาเที่ยวบ้านคุณยุนโฮแบบนี้แสดงว่าคุณหนูจุนซูของป้ากลับมาแล้วใช่ไหมค่ะเนี่ย”
“ใช่แล้วครับ วันนี้เราจะมีปาร์ตี้เล็กๆต้อนรับจุนซูด้วยล่ะครับ”คนสวยระบายยิ้มบางๆบนริมฝีปาก
............................................................................
ที่ห้างสรรพสินค้าซูเปอร์มาเก็ตชื่อดังกลางกรุงโซล ยูชอนเดินเข็นรถเข็นตามจุนซูต้อยๆ ขณะที่คนน่ารักเดินเลือกผักและเนื้อสัตว์อย่างสบายใจ
“จุนซูครับ คุณหมอว่านะ สถานการณ์แบบนี้เหมือนเราเป็นคู่รักกันเลยเนอะ”ยูชอนเอ่ยปากเปิดบทสนทนาหลังจากที่ปล่อยให้เงียบมานาน
“คู่รักอะไรกันครับ ไม่เหมือนซักหน่อย”แก้มใสซับสีแดงระเรื่อ ถึงจะปฏิเสธออกไปในใจอยากจะกรีดร้องดังๆกับคำพูดของคุณหมอปากหวาน
“ฮ่าๆๆ ก็จุนซูเป็นคุณแม่ แล้วคุณหมอก็เป็นคุณพ่อ วันนี้เรากำลังจะทำอาหารให้ลูกๆที่น่ารักของเราไงครับ”มือแกร่งปล่อยรถเข็นให้จอดทิ้งไว้ก่อนจะพาร่างกายมาเดินเคียงข้างจุนซู
“คุณหมอเพ้อใหญ่แล้วนะครับ”จุนซูทำแก้มป่อง และเมื่อยูชอนเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหอมแก้มใสพองลมนั่นไปฟอดใหญ่ท่ามกลางสายตาของคนบริเวณนั้นที่มองทั้งคู่เป็นตาเดียว
“คุณหมอไม่ได้เพ้อนะครับ แต่แก้มจุนซูหอมจัง...”
“คุณหมอทำอะไรครับคนมองเต็มเลยเห็นไหม เดี๋ยวผมฟ้องป๊าซะหรอก”คนน่ารักทำหน้ามุ่ย
“แล้วแต่สิครับ ถ้าจุนซูฟ้องไป คุณหมอก็แค่จะได้เจอจุนซูน้อยลงหรืออาจจะไม่ได้เจอเลย”ยูชอนพูดขึ้นพร้อมกับแสดงแววตาเศร้าให้สมบทบาท และก็เป็นไปตามคาดเมื่อคนน่ารักตกหลุมพรางของนายพรานตัวร้ายได้อย่างง่ายดาย
“อ่า...ผมไม่ฟ้องหรอกครับ เพราะผมน่ะอยากเจอคุณหมอทุกๆวันเลย”
“ทุกวันสำหรับคุณหมอมันไม่พอหรอกนะ อยากเจอทุกวินาทีที่หายใจเลยมากกว่า”ร่างสูงจุ๊บปากอีกฝ่ายเบาๆ ริมฝีปากหนาของคุณหมอหนุ่มเปรียบดั่งพู่กันชั้นดี เพราะเพียงแค่แต้มเบาๆเพียงจุดเดียวก็เรียกสีแดงกระจายทั่วใบหน้าน่ารักได้อย่างง่ายดาย
“คุณหมอเพลย์บอยปากหวาน มุขจีบสาวแบบนี้ใช้มากี่คนแล้วครับ”จุนซูพูดขึ้น เมื่อนึกถึงคำพูดของป๊าและตัวของคุณหมอที่เคยพูดเองกับปากว่าหิ้วสาวกับบ้านตอนไปเที่ยวแทบทุกครั้ง
“มุขของคุณหมอจีบสาวมาแล้วกี่คนก็ไม่รู้ แต่มุขที่เล่นไปเมื่อซักครู่ใช้จีบจุนซูแค่คนเดียว”ดวงตาคมขยิบตาทิ้งท้าย ทำเอาคนถูกหยอดถึงกับยิ้มไม่หุบ
“คุณหมอบ้า ไม่คุยด้วยแล้ว...”ร่างเล็กเดินหนีไปแผนกขายเครื่องดื่มด้านในก่อนจะปะทะเข้ากับร่างสูงที่ยืนอยู่แล้วก่อนหน้า
“โอ๊ะ ขอโทษครับ”
“จุนซู!!!”เสียงทักทายดังขึ้น ขณะที่ใบหน้าใสก็ระบายยิ้มออกมา
“รุ่นพี่ชางมิน!!!”คนตัวเล็กกระโดดกอดคนตัวสูงอย่างแนบแน่นก่อนที่คนตัวสูงจะหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข โดยที่ทั้งคู่กำลังอยู่ในสายตาของคุณหมอหนุ่มที่เพิ่งเข็นรถตามมา
...ไอ้หน้าหล่อนี่มันเป็นใครกัน...ยูชอนได้แต่คิด
สีหน้าของชายหนุ่มเริ่มบอกบุญไม่รับเมื่อเห็นท่าทางสนิทสนมกันเกินเหตุของจุนซูกับไอ้ผู้ชายคนนั้น
......................................................................
[โปรดติดตามตอนต่อไป]
ห่างหายจากเรื่องนี้ไปนานเหมือนกัน อยากบอกว่าแต่งไปเขินไป ยูซูหวานกันรับวันวาเลนไทน์เลยจริงๆ แต่อุปสรรคชิ้นใหญ่ก็บังเกิดซะแล้วววววว
ความคิดเห็น