ตอนที่ 3 : EP.2
ศิรินลืมตาตื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติแต่วันนี้เธอตื่นสายไปกว่าครึ่งชั่วโมงคงเป็นเพราะอ้อมกอดอบอุ่นของน้ำทิพย์ที่ทำให้เธอหลับสบายแทบจะไม่อยากตื่นศิรินคลายกอดออกเบาๆพร้อมกับยกมือน้ำทิพย์ออกช้าๆและเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะเดินออกมาปลุกน้ำทิพย์
“คุณบีคะ ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอแตะไหล่น้ำทิพย์และเขย่ามันเบาๆ
“งื้ออ..เช้าแล้วหรอคะ” น้ำทิพย์ว่าอย่างงัวเงียพร้อมพยายามลืมตามองศิริน
“คุณให้ฉันปลุกทำไมหรอคะ”
“บีอยากไปกับคุณคริสไงคะ ให้บีไปด้วยนะ” พูดไปก็หาวไปศิรินเห็นแล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้จึงไม่ปฏิเสธเพราะเห็นว่าน้ำทิพย์ตั้งใจตื่นเช้า
“ค่ะ ไปอาบน้ำนะคะเดี๋ยวฉันลงไปรอด้านล่าง อย่าช้านะคะ”
น้ำทิพย์พยักหน้าพร้อมหาวออกมาเธอหันไปมองนาฬิกาตรงหัวเตียงตอนนี้พึ่งจะตีสี่ครึ่งเช้ามากสำหรับเธอแต่มันสายมากสำหรับศิรินเพราะเวลานี้ที่จริงศิรินควรออกจากบ้านไปแล้วน้ำทิพย์ไม่อยากให้ศิรินรอนานเลยรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปหาหล่อน
“ไปกันยังคะคุณคริส”
ศิรินพยักหน้าพร้อมลุกขึ้นเดินออกไปหน้าบ้านน้ำทิพย์เดินตามออกมาด้วยใบหน้าเหมือนคนที่ยังไม่ตื่นนอนดีแม้จะอาบน้ำไปแล้วก็ตามศิรินเห็นแบบนั้นก็บอกว่าจะขับรถเองไม่อยากเสี่ยงให้คนง่วงขับ ตลอดทางมาที่ไร่น้ำทิพย์ก็กอดอกและเอนตัวหลับอย่างเดียวโดยไม่รู้เลยว่ารถได้จอดลงแล้ว
“เด็กน้อยของฉัน”
ศิรินว่าแล้วก็ยิ้มก่อนจะหยิบเสื้อคลุมที่เบาะหลังมาห่มให้น้ำทิพย์อากาศตอนเช้าค่อนข้างจะเย็นนิดหน่อยเธอไม่อยากให้น้ำทิพย์นอนหนาวอยากจะปลุกก็เกรงใจก่อนจะลงจากรถไปทำงานของเธอและไม่ลืมเปิดกระจกให้พร้อมหันมามองแล้วก็ยิ้ม
ร่างผอมบางเดินมายังกลุ่มคนงานพวกเขาก็เอ่ยทักทายเธอตามปกติหน้าที่ของศิรินตอนเช้าก็ไม่มีอะไรมากก็แค่มาดูว่าลูกน้องทำตามที่เธอสั่งไหมหรืองานมีปัญหาหรือเปล่าที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องตื่นเช้าแบบนี้ก็ได้แต่เพราะเป็นคนมีความรับผิดชอบเลยไม่อยากบกพร่องต่อหน้าที่
“คิดยังไงพาคู่หมั้นมานอนเฝ้าครับ” เสียงลูกน้องคนสนิทเอ่ยถาม
“ไม่ดีหรอ นายจะได้หมดห่วงเรื่องฉันจะขึ้นคาน” ศิรินพูดด้วยใบหน้านิ่งๆและยิ้มมุมปากเขาก็หัวเราะนิดๆและยื่นคลิปบอร์ดให้
“ตั้งแต่นายน้อยคนนี้มาเหยียบที่ไร่นายหญิงของผมดูยิ้มมากกว่าทุกครั้งเลยนะครับ”
ศิรินหยุดมองเอกสารการสั่งไวน์ตรงหน้าพร้อมหันไปมองน้ำทิพย์ที่นอนอยู่ในรถก็จริงอย่างที่เขาพูดเพราะน้ำทิพย์เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ศิรินยิ้มและอารมณ์ดีแต่เหมือนศิรินจะเหม่อนานไปหน่อยเขาเลยเอ่ยดึงสติหล่อน
“เขินเสร็จแล้วเซ็นอนุมัติให้ผมด้วยนะครับ”
“ไม้!”
ศิรินแอบดุเพราะเขาชอบจะแซวเธออยู่เรื่อยตามจริงไม้ไม่ใช่ลูกน้องของเธอหรอกเขาก็เป็นพนักงานโรงแรมในกรุงเทพแต่ช่วงนั้นนักท่องเที่ยวลดน้อยลง เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดีที่โรงแรมไม่มีลูกค้าเลยจึงมีการคัดคนงานออกไม้เองที่ขยันและตั้งใจทำงานเขาก็ยังโดนไล่ออกเพียงเพราะเขาทำงานได้ไม่นานเลยถูกเลือกให้ออก
แต่โชคดีที่มาเจอศิรินเพราะศิรินส่งไวน์ไปยังโรงแรมนั้นอยู่บ่อยครั้งและได้พูดคุยกับไม้บ้างเลยชวนเขามาทำงานที่ไร่เห็นว่าเขาจัดการงานได้เรียบร้อยดีและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เลยยกให้เป็นคนสนิทเปรียบเสมือนเลขาคู่ใจของศิริน ด้วยความที่ทำงานด้วยกันมามากกว่าสิบปีไม้มักจะรู้ใจนายหญิงคนนี้ไปซะทุกอย่าง
“เรื่องคุณผู้จัดการเดี๋ยววันนี้ผมเข้าไปจัดการให้นะครับ” ไม้ว่าพร้อมรับคลิปบอร์ดคืนมา
“ฉันไม่อยากให้เขาเสียหน้าช่วยบอกพนักงานคนอื่นว่าเขาได้งานที่ใหม่ละกัน”
“ใจดีอีกแล้วนะครับ”
“ถึงเขาจะโกงแต่เขาก็ไม่เคยทำงานบกพร่องถือว่าเป็นโบนัสครั้งสุดท้าย”
ไม้พยักหน้ารับก่อนจะขอตัวไปจัดการงานต่อเพราะเขาต้องเข้าไปโรงบ่มไวน์เพื่อนำเอกสารนี้ไปให้หัวหน้าโรงบ่มจัดการบรรจุไวน์แล้วนำไปส่งตามโรงแรมรีสอร์ทหรือร้านอาหารที่มีชื่ออยู่ในลิสต์ก่อนที่เขาจะไปจัดการงานที่โรงแรมให้ศิรินต่อ
คนตัวเล็กเดินกลับมาดูพนักงานในไร่องุ่นเธอมักจะถามไถ่หรือชวนคนงานคุยบ้างเพื่อให้เขาไม่คิดว่าเธอเป็นเจ้านายที่หยิ่งยโสหรือชอบแบ่งชนชั้นเรียกว่าซื้อใจคนงานก็ว่าได้ เวลาเดินมาจน7โมงครึ่งแสงแดดอ่อนๆก็สาดส่องลงมาทำให้ศิรินเตรียมตัวจะเดินกลับไปที่รถพอหันมาก็เจอน้ำทิพย์ที่ยืนทำหน้างอกอดอกมองเธออยู่
“คุณคริสใจร้ายมากเลย รู้ตัวไหมคะ” น้ำทิพย์ว่าเสียงดังทำให้ศิรินขมวดคิ้วงุนงงคนงานแถวนั้นก็พากันมองอย่างให้ความสนใจ
“ฉันทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรอคะ” ศิรินเอ่ยถามอย่างสงสัยไม่รู้ว่าไปเผลอทำอะไรที่ผิดหรือเปล่า
“คุณคริสทิ้งบีให้นอนอยู่ที่รถแล้วตัวเองหนีมาทำงานแบบเนี่ยนะ ใจร้ายมากๆ”
น้ำทิพย์ว่าอย่างงอแงใบหน้าคมจอมเจ้าเล่ห์ตอนนี้บึ้งตึงเสียยิ่งกว่าอะไรศิรินเองเพียงแค่ยิ้มขำก็เข้าดันงอนเธอเรื่องไม่เป็นเรื่องนะสิ แบบนี้แหละน้าจะมีแฟนเด็กทั้งทีเธอก็ต้องง้อสินะศิรินเดินเข้ามาใกล้น้ำทิพย์อีกนิดก่อนจะเอ่ยถาม
“ฉันต้องทำยังไงคุณถึงจะหายงอนคะ”
น้ำทิพย์แอบอมยิ้มก่อนจะแกล้งตีหน้าขรึมก้มตัวลงมาให้พอดีกับศิรินและยืนแก้มให้หล่อนหอมแต่ตอนนี้พวกเธอทั้งสองยืนอยู่ท่ามกลางคนงานหลายสิบคนศิรินคงจะไม่ทำอย่างนั้นต่อหน้าคนงานอย่างแน่นอนเธอเลยจับมือน้ำทิพย์ไว้ก่อนจะออกแรงดึงเขา
“ไว้ไปง้อที่บ้านนะคะ”
แล้วก็พาน้ำทิพย์มาที่รถคนตัวสูงก็ไม่ว่าอะไรเพราะรู้ว่าศิรินคงจะอายสายตาคนงานเธอก็แค่จะแกล้งนายหญิงคนนี้ให้เขินเล่นเท่านั้นแหละพอขับรถมาถึงหน้าบ้านน้ำทิพย์ก็เอ่ยท้วงทันทีศิรินหันมามองคนที่นั่งด้านข้างก่อนจะขยับตัวไปหอมแก้มน้ำทิพย์เป็นการง้อ
“หายงอนนะคะ” ศิรินว่าออกมาอย่างซื่อๆตามประสาคนที่ไม่เคยมีแฟน
“อีกข้างสิคะ”
“ไม่ค่ะ”
“นั้นบีไม่ง่ายงอนน้า” น้ำทิพย์ว่าพลางกอดอกและทำหน้ายู่อย่างเอาแต่ใจ
“ถ้าวันนี้คุณไม่งอแง คืนนี้ค่อยมาทวงเอานะคะ”
ศิรินไม่ยอมตามใจน้ำทิพย์และลงจากรถทันทีเพราะมันเลยเวลามื้อเช้ามาสิบนาทีแล้วน้ำทิพย์เองก็รู้สึกขัดใจนิดหน่อยแต่เธอคงไม่อยากขัดใจศิรินหรอกก็อีกคนอายุเยอะกว่าจะมาทำตัวเหมือนเด็กใส่เดี๋ยวศิรินก็รำคาญแย่
ทานข้าวเสร็จแล้วน้ำทิพย์ก็ขอไปทำงานกับศิรินที่ไร่อีกและสัญญาว่าจะไม่ทำตัวเกะกะซึ่งวันนี้ศิรินก็อนุญาตเพราะถ้าน้ำทิพย์อยากทำตัวเป็นชาวไร่จริงๆ ศิรินก็พร้อมจะสอนงานให้แต่ถ้าเขาบ่นร้อนหรืออยากกลับศิรินจะให้คนงานกลับมาส่งที่บ้านทันทีและจะไม่อนุญาตให้น้ำทิพย์ตามมาอีก
“แล้วอย่างอแงอยากกลับบ้านนะคะ”
“บีไม่ใช่เด็กๆแล้วนะคะ ไม่งอแงแน่นอน”
น้ำทิพย์ยืนยันเป็นหมั้นเป็นเหมาะมีอาการเคืองนิดๆที่ศิรินว่าเธอเป็นเด็กน้ำทิพย์เตรียมตัวอย่างดีโดยการใส่เสื้อยืดแขนยาวเพราะรู้ว่าตอนสายๆมันต้องร้อนแน่ๆ บางคนอาจจะคิดว่างานในไร่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรมากแต่ทุกๆวันนายหญิงอย่างศิรินจะต้องมาตรวจเช็คแปลงองุ่นว่าคนงานใส่ปุ๋ยมากไปหรือน้อยไปหรือเปล่าไหนจะต้องถางหญ้าที่ขึ้นมาอีกเพื่อไม่ให้ทันแย่งสารอาหารจากต้นองุ่น
และต้องตรวจดูถ้าพบว่าต้นองุ่นติดเชื้อก็ต้องนำออกไม่นั้นองุ่นต้นอื่นจะต้องตายตามกันมีหวังทั้งไร่คงไม่มีองุ่นให้เก็บตามฤดูการอย่างแน่นอน น้ำทิพย์ที่เดินตามศิรินก็พยามยามซึมซับและจดจำว่างานแต่ละอย่างมันทำอย่างไร
ศิรินหันมาเห็นน้ำทิพย์ที่ยืนหน้าแดงเพราะเขาไม่ได้ใส่หมวกมานะสิเธอจึงเดินถอยหลังมาหาเขาและถอดหมวกของตัวเองออกก่อนจะสวมมันลงไปบนหัวของน้ำทิพย์ คนตัวสูงตกใจนิดหน่อยก่อนจะขัดขืนและพยายามจะหยิบมันออก
"ใส่ไว้นั้นแหละ ไม่ต้องถอด"
"บีทนร้อนได้ค่ะคุณคริสเอาคืนไปเถอะ" น้ำทิพย์ว่าอย่างเกรงใจ
"กล้าขัดใจฉันหรอคะ" คำถามเชิงดุของศิรินทำให้น้ำทิพย์แอบเกร็งก่อนจะหาข้อแก้ตัวที่มันพอจะฟังขึ้น
"เปล่านะคะ แต่ถ้าบีใส่คุณคริสก็ร้อนนะสิคะ"
"ฉันยอมร้อนดีกว่าเห็นคุณเป็นลมไปต่อหน้า ถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงรู้สึกแย่"
น้ำทิพย์ไม่เถียงอะไรออกไปอีกเพราะรู้สึกว่าที่ตามมาก็ทำตัวเป็นภาระมากพอแล้วถ้าเธอเป็นลมไปอย่างที่ศิรินว่าก็ไม่อยากให้หล่อนต้องพาคนงานมาแบกเธอกลับบ้าน เดินมาได้สักพักก็เจอเข้ากับคนงานคนหนึ่งเขายกมือไหว้ศิรินเหมือนคนงานคนอื่น
“สวัสดีค่ะนายหญิง”
หญิงวัยกลางคนยกมือไหว้ศิรินจนเธอแทบจะยกมือมารับไหว้ไม่ทันเธอเคยบอกคนงานหลายครั้งแล้วว่าไม่ต้องไหว้เพราะบางคนก็อายุเยอะกว่าเธอด้วยซ้ำ เธอไม่อยากอายุสั้นแต่พวกเขาก็ไม่เคยจะทำตามเลย
“ทำไมวันนี้มาคนเดียวละ สามีไปไหน” ศิรินเอ่ยถามเสียงเรียบตามประสาคนเป็นนายที่ต้องคีพลุค
“มันป่วยมาสองวันแล้วค่ะวันนี้มันลุกไม่ไหวเลยให้นอนพักแต่นายหญิงไม่ต้องห่วงนะคะงานในส่วนของมันเดี๋ยวฉันจะทำเอง”
หญิงวัยกลางคนว่าอย่างกลัวๆเพราะไม่อยากให้ศิรินหักค่าแรงถึงแม้จะไม่ต้องเสียเงินค่าที่พักหรือค่าอาหารแต่เขาก็อยากเก็บเงินส่งให้ลูกที่ตอนนี้กำลังเรียนอยู่มหาลัยและต้องใช้เงิน ศิรินเองทราบดีเพราะเธอใส่ใจรายละเอียดของลูกน้องทุกคนรู้ว่าใครมีครอบครัวหรือไม่มีหรือว่าใครมีปัญหาทางการเงินบ้าง ถ้าพวกเขาไม่มาขอให้เธอช่วยเธอจะไม่เข้าไปก้าวก่ายแต่ถ้าคนงานมาเอ่ยขอเธอจะยื่นมือเข้าไปช่วยทันที
“นับตั้งแต่ตอนนี้ไปเธอไม่ต้องมาทำงานแล้วนะ”
“นายหญิง” หล่อนเอ่ยเรียกศิรินแผ่วเบาราวกับคนเพ้อ
“คุณคริสคะ อย่าไล่เขาออกเลยนะคะเขาน่าสงสารออก” น้ำทิพย์ช่วยพูดให้อีกแรงศิรินก็เพียงแต่ยิ้มบางๆเพราะเธอไม่ได้จะไล่ออกซะหน่อย
“เห็นฉันใจร้ายขนาดนั้นเลยหรอคะ” ศิรินเอียงคอถามน้ำทิพย์
“ก็..”
คู่หมั้นตัวสูงของเธอพูดไม่ออกก่อนที่ศิรินจะยิ้มขำและหันไปทางคนงานของเธอซึ่งหล่อนก็มองศิรินอย่างขอความเห็นใจเพราะขืนโดนไล่ออกตอนนี้หล่อนไม่มีที่ไปแน่ๆจะกลับบ้านนอกก็ไม่รู้จะทำมาหากินอะไร
“ฉันอนุญาตให้เธอไปดูแลสามีจนกว่าจะหายแล้วค่อยกลับมาทำงาน”
“แต่งาน..”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าแรง ฉันไม่หักหรอก”
“ขอบคุณนะคะนายหญิง ขอบคุณจริงๆ” คนงานเอ่ยขอบคุณรัวๆด้วยความดีใจ
“รีบไปสิคะ เดี๋ยวนายหญิงเปลี่ยนใจขึ้นมาบีช่วยไม่ได้แล้วน้า”
น้ำทิพย์แกล้งว่าก่อนที่หญิงวัยกลางคนจะรีบลุกและเดินกลับที่พักไปดูแลสามีน้ำทิพย์เองก็ได้แต่มองตามและหัวเราะโดยไม่รู้ว่าศิรินกำลังยืนมองเธออยู่พอหันมาก็เจอสายตาของนายหญิงที่มองเธอแล้วหล่อนก็ยิ้มเล่นเอาน้ำทิพย์เขินซะอย่างนั้นยกมือเกาหัวเสียดื้อๆ
ช่วงเช้าศิรินสอนงานน้ำทิพย์ในไร่องุ่นเธอแอบเห็นน้ำทิพย์ยกมือขึ้นมาพัดไปมาเพื่อไล่ความร้อนแต่พอเธอหันไปมองน้ำทิพย์ก็รีบหยุดทำและส่งยิ้มแห้งๆมาให้เธอ ศิรินก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจก่อนจะพาน้ำทิพย์เดินต่อไปยังแปลงองุ่นที่มีอายุวันต่างกันจะมีที่พร้อมเก็บและเริ่มปลูกซึ่งมันก็จะมีวิธีการที่ดูแลต่างกัน
ศิรินเชื่อว่าน้ำทิพย์ไม่ได้ฟังที่เธอพร่ำบอกหรอกเพราะอากาศที่แสงแดดที่ทำให้เขาร้อนจนไม่สามารถโฟกัสอะไรได้แต่ศิรินก็แอบยิ้มที่น้ำทิพย์ไม่ปริปากบ่นออกมา คงจะกลัวว่าถ้าบ่นแล้วเธอจะส่งเขากลับบ้านซึ่งนั้นไม่ใช่ทางเลือกที่ดี
“ดูคุณจะร้อนนะคะ” ศิรินตัดสินใจถาม
“นิดหน่อยค่ะ แต่บีทนได้” น้ำทิพย์เอ่ยตอบแต่ก็ยืนยันว่าจะอยู่แถมตอนนี้ใบหน้าเขาก็แดงก่ำมองแล้วก็อดสงสาร
“กลับบ้านกันค่ะ” ศิรินทำทีจะเดินไปที่รถแต่น้ำทิพย์ก็คว้าแขนเธอเอาไว้
“บีทนได้จริงๆนะคะคุณคริส”
น้ำทิพย์ไม่อยากให้ศิรินพาเธอไปส่งที่บ้านเพราะในบ้านแทบไม่มีอะไรเลยหากมันไม่มีศิรินอยู่ถึงแม่จะมีทีวีหรือไวไฟเธอก็มองว่ามันน่าเบื่ออยู่ดี ศิรินมองหน้าเด็กน้อยของเธออย่างนึกขำก่อนจะตีหน้าขรึมใส่เขาจนน้ำทิพย์ลุบตาลงต่ำไม่กล้ามองหน้าเธอทำให้ศิรินแอบยิ้มกว้าง
“กลับเถอะค่ะ เที่ยงแล้ว ฉันหิว”
ศิรินพูดแค่นั้นก็เดินตรงไปยังรถยนต์ของเธอน้ำทิพย์ที่ได้ยินคำพูดของนายหญิงก็ยกมือซ้ายที่ใส่นาฬิกาขึ้นมาดูพบว่ามันเที่ยงแล้วจริงๆ ก่อนจะยิ้มร่าและก้าวขาเดินตามศิรินไปโล่งใจที่ศิรินไม่ได้คิดจะพาเธอกลับไปส่งบ้าน
เมื่อลงจากรถน้ำทิพย์ก็เดินลงมาอย่างคนอารมณ์ดีเธอเห็นศิรินถอดรองเท้าบูทออกเธอก็ถอดรองเท้าผ้าใบของเธอและนำมันไปวางข้างๆรองเท้าบูทของศิรินเพราะอยากให้มันอยู่ข้างกันเหมือนเวลาเดินเธอก็อยากจะเดินข้างๆศิริน
มื้อกลางวันก็ไม่ได้ต่างจากมื้ออื่นๆเพราะน้ำทิพย์ก็ชวนเธอคุยเหมือนเดิมไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะ นั่งเงียบๆเคยแอบสงสัยเหมือนกันว่ามีคนรำคาญที่เขาพูดหรือเปล่า หรือว่าเขาเป็นแบบนี้กับเธอคนเดียวกันนะ
“บ่ายนี้คุณคริสไปไหนต่อหรือเปล่าคะ” น้ำทิพย์เอ่ยถามเมื่อทานข้าวเสร็จ
“โรงบ่มไวน์ค่ะ”
“ขอบีไปด้วยได้ไหมคะ” เด็กดื้อของเธอถามเสียงเบาก่อนจะส่งสายตาอ้อนๆมาให้กัน
“ถ้าคุณอยากไปก็ได้ค่ะ”
การมาโรงบ่มไวน์ครั้งนี้น้ำทิพย์ดูตื่นเต้นกว่าครั้งแรกเพราะศิรินพาเธอไปรู้จักกับไวน์รสชาติต่างๆแถมหล่อนยังอธิบายถึงความแรงของมัน บอกได้เลยว่าเธอไม่ได้สนใจเนื้อหาที่ศิรินกำลังพูดแต่สายตาของน้ำทิพย์จับจ้องไปยังริมฝีปากอวบอิ่มและใบหน้าอ่อนกว่าวัยนั้น เสียงของใครบางคนทำให้ศิรินหยุดพูดและหันไปมองน้ำทิพย์เองก็หันไปเช่นกัน
“ขอเสียมารยาทสักครู่นะครับ” เขาว่าอย่างนอบน้อมก่อนที่ศิรินจะหันมาหาน้ำทิพย์
“คุณรอฉันอยู่แถวนี้ก่อนนะเดี๋ยวฉันมา”
น้ำทิพย์ดูจะขัดใจเล็กน้อยที่ชายคนนั้นมาฉกตัวศิรินไปเสียดื้อๆแต่ก็เข้าใจว่าเขาพาหล่อนไปคุยเรื่องงานแต่ก็อย่างว่าเธอแทบไม่อยากให้ศิรินไปไหนไกลจากตัวเธอเลย แบบนี้เรียกว่าหลงนายหญิงได้หรือเปล่า? ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เธอสนใจได้เท่าศิรินเลยสักคน
รออยู่นานศิรินก็ไม่กลับมาสักทีพอเดินมาตามก็กลับหาตัวศิรินไม่เจอเดินมาเรื่อยๆก็เริ่มจะงงกับเส้นทางมองไปทางไหนก็มีแต่ถังไวน์และเครื่องมือที่ใช้บรรจุมันใส่ขวดเธอก็จำไม่ได้ซะด้วยสิว่าตอนเข้ามาเธอเดินมาจากทางไหน
“อะไรว่ะ นี่หลงทางในโรงบ่มไวน์หรอ” น้ำทิพย์สบถกับตัวเอง
เขาเดินหาทางอยู่อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเจอและออกมาได้สำเร็จเมื่อเดินออกมาก็ไม่อยากจะกลับเข้าไปอีกคิดว่าเดินเล่นข้างนอกรอให้ศิรินเดินออกมาตามหาจะดีกว่าแต่พอมองไปรอบๆก็มีเรือนใหม่ที่เป็นเหมือนร้านขายของตั้งอยู่ขาเรียวยาวก้าวเข้าไปในนั้น
เมื่อเข้ามามันก็ไม่เชิงกับร้านขายของหรอกแต่เป็นตู้แช่องุ่นมากกว่าและองุ่นในตู้มันก็น่ากินซะเหลือเกินน้ำทิพย์มองอย่างชั่งใจไม่รู้ว่ามันมีไว้ขายหรือว่ามีไว้สำหรับคนงานเธอจึงเดินไปที่เคาน์เตอร์และเอ่ยถามพนักงานสาวที่ยืนหันหลังอยู่
“ขอโทษนะคะ องุ่นในตู้ขายหรือเปล่า” เสียงของเธอทำให้หล่อนหันมา
“ค่ะ ต้องการรับกี่กล่องดีคะ”
หล่อนเอ่ยตอบเสียงใสพร้อมยิ้มให้อย่างเป็นมิตรน้ำทิพย์เกาคางอย่างคุ้นคิดว่าเธอจะซื้อไปกี่กล่องดีและจะซื้อไปเผื่อศิรินด้วยดีไหม ก่อนจะตัดสินใจได้ก็เงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวตรงหน้ากำลังจะเอ่ยปากขอซื้อแต่มือที่คลำกระเป๋ากางเกงอยู่ก็พบว่าเธอไม่ได้พกเงินติดตัวมาเลย
“เออ เอาไว้พรุ่งนี้จะมาซื้อนะคะ” น้ำทิพย์เอ่ยบอก
“อ้าว แต่พรุ่งนี้ถ้ามาเราก็ไม่ได้เจอกันแล้วน้า” น้ำทิพย์ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ “หนูสลับเวรกับพี่อีกคนอ่ะจะมาอีกทีก็อีกสองวัน”
น้ำทิพย์พยักหน้าขึ้นลงเป็นเชิงบอกว่ารับรู้แต่ก็ไม่เข้าใจว่าหล่อนบอกทำไมก่อนจะมองหน้าหญิงสาวคนนั้นเธอยิ้มให้และเลื่อนมือมาสัมผัสกับมือของเธอ ซึ่งน้ำทิพย์ก็รู้ในทันทีว่าสิ่งที่หล่อนพูดมันหมายถึงอะไร..ก็คนมันประสบการณ์เยอะนิ
“แต่ถ้าพรุ่งนี้อยากเจอหนูก็มาหาที่นี่นะ” กระดาษแผ่นเล็กถูกยัดใส่ในมือเธอพร้อมนิ้วเรียวลูบหลังมือก่อนจะผละออก
“ถ้าไปเจอแล้วจะได้อะไร” น้ำทิพย์ถามกลับอย่างเจ้าเล่ห์
“พี่ต้องการอะไรล่ะ หนูให้ได้หมดแหละ”
สายตาหล่อนมันเชิญชวนเธอเหลือเกินถ้านี่ไม่ใช่เวลางานหญิงสาวตรงหน้าคงจะพาเธอกลับที่พักไปด้วยกันแล้วแหละน้ำทิพย์จ้องมองสายตาของเธอย่างไม่ลดละฝ่ายนั้นก็จ้องกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้เหมือนกันแค่นี้ก็มองออกมาเด็กคนนี้ประสบการณ์ไม่ได้น้อยกว่าเธอเลย
“แล้วพี่จะมาหรือเปล่า”
หล่อนถามย้ำเพื่อความแน่ใจ น้ำเสียงที่พูดฟังดูแล้วมันพยายามดัดให้เซ็กซี่เพื่อยั่วยวนใจอีกนิดน้ำทิพย์ก็จะหลงไปกับคำเชิญชวนของหล่อนถ้าไม่ได้ยินเสียงของ..นายหญิง
“จะพาคู่หมั้นของฉันไปไหนหรอ”
น้ำเสียงที่เอ่ยถามมันไม่ได้ดังหรือเบาจนเกินไปหากแต่เป็นน้ำเสียงปกติที่แฝงความไม่พอใจปนลงไปด้วยถ้าน้ำเสียงนี้สามารถฆ่าคนได้หญิงสาวตรงหน้าก็คงได้ตายไปนานแล้ว น้ำทิพย์ยืนนิ่งเพราะไม่เคยเจอศิรินในโหมดนี้
“นายหญิง!”
หญิงสาวคนนั้นมีท่าทีตกใจก่อนจะตวัดสายตากลับมามองยังน้ำทิพย์ที่ยืนนิ่งเหมือนต้องการจะบอกว่า ‘ทำไมไม่บอกว่าเป็นคนของนายหญิง!’ หล่อนพึ่งรู้ว่าน้ำทิพย์คือคู่หมั้นของนายหญิงก็ได้ยินมาเหมือนกันว่าคู่หมั้นนายหญิงพึ่งจะมาอยู่ที่ไร่แต่ก็ไม่คิดว่าจะคือน้ำทิพย์ สายตาของศิรินจับจ้องไปยังหญิงสาวที่เอาแต่ยืนก้มหน้า
“ทำไมไม่ตอบคำถามล่ะ” ศิรินถามเสียงแข็ง
“เออ..” หล่อนอึกอักเพราะไม่รู้จะแก้ตัวยังไงดี
“ไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะ น้องแค่ถามว่าพรุ่งนี้บีจะมาซื้อองุ่นหรือเปล่า” น้ำทิพย์ว่าอย่างเอาตัวรอดเพราะดูจากสถานการณ์มันตึงเครียดเกินไป ศิรินปรายตามามองเขาอย่างจับผิดก่อนจะแปรเปลี่ยนสีหน้าปกติ
“แล้วทำไมไม่ซื้อวันนี้ละคะ” เธอถามอย่างสงสัย
“ก็บีไม่มีตังติดตัวเลยนิคะ” น้ำทิพย์ตอบตามจริงก่อนจะยิ้มแห้งๆให้หล่อน
“คุณอยากได้กี่กล่องคะ”
“หนึ่งกล่องก็พอค่ะ” ศิรินพยักหน้าก่อนจะหันไปหาพนักงานสาว
“ได้ยินแล้วก็ช่วยจัดการทีนะ”
“ค่ะ นายหญิง”
ตามจริงศิรินเห็นตั้งแต่พนักงานสาวคนนั้นยัดอะไรบางอย่างใส่มือของน้ำทิพย์แต่เธอก็ทำเพียงแค่มองเพราะอยากจะรู้ว่ามันจะเป็นยังไงต่อแต่ก็ไม่คิดว่าความเจ้าชู้ของคู่หมั้นเธอจะแพรวพราวขนาดนี้ ทั้งๆที่พามาอยู่ป่าอยู่เขาแล้วเชียว
เมื่อทั้งสองเกือบจะดิลกันสำเร็จเธอเลยต้องเสียมารยาทเข้าไปขัดจังหวะแอบเห็นหน้าน้ำทิพย์ตกใจแบบสุดขีดและเอามือที่กำกระดาษแผ่นนั้นไปซ่อนไว้ด้านหลังเธอพยายามจะไม่ตีหน้าขรึมหรือดุด่าลูกน้องต่อหน้าน้ำทิพย์เพราะไม่อยากให้เขามองเธอว่าร้ายกาจ
แต่เหมือนอารมณ์โกรธที่มีอยู่มันจะเก็บไม่มิดตอนน้ำทิพย์พูดแก้ตัวให้หล่อนเสียงเขาดูสั่นๆและเกรงใจเธอไม่น้อยแต่เธอคิดว่ามันดีที่น้ำทิพย์เกรงกลัวเธอ เมื่อขับรถมาจอดยังหน้าบ้านน้ำทิพย์ก็นั่งนิ่งไม่พูดไม่จาต่างจากคนช่างพูดไปเสียสนิท
“แบมือข้างนั้นหน่อยสิคะ” ศิรินว่าและมองไปยังมือข้างซ้ายของน้ำทิพย์
“ทำไมคะ อยากจับมือบีหรอ” เขาทำใจดีสู้เสือซึ่งศิรินก็ยิ้มมุมปากให้เขาได้กลัวอีกครั้ง
“เร็วสิคะ ถ้าช้าฉันอาจจะโกรธ”
น้ำทิพย์ลังเลก่อนจะค่อยๆแบมือข้างนั้นออกช้าๆแผ่นกระดาษยับยู่ยี่นอนอยู่กลางมือเธอยังไม่ทันจะตั้งตัวศิรินก็โน้มตัวมาคว้ามันไปทำให้น้ำทิพย์สะดุ้งสุดตัวและหันไปมองคนด้านข้าง ศิรินแกะมันออกมาอ่านแวบหนึ่งเธอเห็นแววตาแข็งกร้าวของศิรินก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นสายตาปกติและฉีกยิ้มนิดๆ
“เบอร์โทรร้านหรอคะ”
ในกระดาษแผ่นนั้นเป็นเบอร์โทรของร้านน้ำทิพย์เพียงพยักหน้ารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นเด็กน้อยที่กำลังโดนผู้ใหญ่จับได้ว่าทำความผิดร้ายแรง ศิรินไม่ถามอะไรอีกเธอขยำกระดาษแผ่นนั้นทิ้งและเดินลงจากรถย่างเท้าเข้าไปในบ้านน้ำทิพย์ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะตามหล่อนเข้าไป
ระหว่างทานข้าวไม่มีใครพูดอะไรเลยเป็นมื้อแรกที่มันเงียบและน่าอึดอัดน้ำทิพย์ปรายตามองศิรินเป็นบางครั้งแต่หล่อนก็ไม่ได้สนใจเธอเลยเอาแต่ทานข้าวของเธอไปเงียบๆ ก่อนจะลุกขึ้นเมื่อทานเสร็จเดาไม่ออกเลยว่าศิรินกำลังคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่แต่ก่อนจะเดินออกไปหล่อนก็บอกเพียงแค่ว่าจะขึ้นไปอาบน้ำเท่านั้น
น้ำทิพย์ใช้เวลาทานข้าวต่ออีกนิดอย่าเรียกว่าทานเลยเรียกว่าเขี่ยมันไปมาจะดีกว่าพอกะเวลาแล้วว่าศิรินน่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จน้ำทิพย์จึงเดินขึ้นห้องไปเจอศิรินนั่งจ้องมือถืออยู่บนเตียงไม่ได้หันมาสนใจเมื่อเธอเปิดประตูและปิดมันลง
วันนี้น้ำทิพย์ใช้เวลาอาบน้ำค่อนข้างนานเพราะคิดอยู่ว่าจะหาทางง้อศิรินยังไงดีเธอควรจะทำตัวปกติดีหรือเปล่าหรือบอกความจริงหล่อนไปดี เพราะตามจริงมันก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นแค่หญิงสาวคนนั้นชวนเธอไปหา..หล่อนที่ห้อง
อาบน้ำเสร็จน้ำทิพย์ก็เดินออกมาด้วยชุดคลุมอาบน้ำแต่ก็ต้องตกใจเพราะศิรินยืนกอดอกมองกันอยู่คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาหัวคือเธอมายืนทำไมตรงนี้ คำถามที่สองคือสีหน้านี้ต้องการจะสื่อถึงอะไร..โกรธหรอ?
“คุณคริสมายืนทำอะไรตรงนี้คะ” ตัดสินใจถามออกไปด้วยเสียงแผ่วเบา
“มาดูหน้าคนโกหกค่ะ” หล่อนตอบเสียงเรียบทำเอาใจน้ำทิพย์กระตุกวูบ
“อะไรนะคะ?” ถามออกไปอย่างไม่แน่ใจทั้งที่น่าจะรู้อยู่แล้วว่าศิรินหมายถึงอะไร แม้แต่สบตาน้ำทิพย์ยังไม่กล้าเลยไม่เคยคิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆยิ้มเก่งเวลาไม่พอใจจะน่ากลัวถึงขนาดนี้
“คุณทำตัวไม่น่ารักเลยนะคะ คิดจะหลอกฉันงั้นหรอ..เห็นฉันโง่ว่างั้น”
ศิรินก็ยังพูดด้วยเสียงปกติแต่ทำไมกันนะรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังโกรธและอยากจะบีบคอน้ำทิพย์ให้ตายเสียตรงนี้คนตัวสูงพูดอะไรไม่ออกคิดว่าศิรินน่าจะแกล้งโกรธเพื่อให้เธอบอกความจริงก็ได้น้ำทิพย์เห็นร่างบางกำหมัดแน่นก่อนจะหันหลังเดินออกไป ไวกว่าความคิดมือเรียวเกี่ยวรั้งข้อมือเล็กไว้พร้อมเรียกชื่อหล่อนแผ่วเบาอย่างต้องการจะอ้อน
“คุณคริส”
“ฉันเกลียดคนโกหก!!”
ศิรินสะบัดมืออกอย่างแรงพร้อมหันมาเผชิญหน้าและปากระดาษแผ่นเล็กใส่หน้าน้ำทิพย์ก่อนจะตะคอกใส่เขาอย่างหมดความอดทนเธอโกรธจนเก็บอาการไม่อยู่อีกต่อไปจนมันแสดงออกมาทางอารมณ์และสีหน้าไม่สนแล้วว่าน้ำทิพย์จะมองเธอ..ร้ายกาจ ยังไง
น้ำทิพย์ยืนมองร่างเล็กนิ่งไม่พูดอะไรเห็นศิรินพยายามคุมสติหล่อนสูดหายใจอย่างสกัดกั้นอารมณ์และเดินออกไปเธอเอนตัวพึงกับตู้เสื้อผ้าเพราะเราทะเลาะกันในห้องแต่งตัว สมควรที่ศิรินจะโกรธเพราะกระดาษที่หล่อนปามามันคือที่อยู่ของพนักงานคนนั้นเป็นกระดาษที่หล่อนยัดมันใส่มือน้ำทิพย์ในตอนแรก
แต่กระดาษที่น้ำทิพย์เอาให้ศิรินดูบนรถคือกระดาษแผ่นใหม่ที่หล่อนแอบส่งให้ก่อนที่เธอจะเดินตามศิรินออกจากร้านพอน้ำทิพย์คลี่ดูก็พอจะเข้าใจเธอยัดกระดาษแผ่นเก่าลงในกระเป๋ากางเกงและถือกระดาษแผ่นใหม่ไว้
เมื่อคิดได้ว่าอยากจะขอโทษก็รีบแต่งตัวและเดินออกมาเห็นว่าศิรินนอนหลับไปแล้วและนอนหันหลังให้ด้วยน้ำทิพย์ไล่ปิดไฟทั้งหมดและขึ้นมานอนบนเตียงลังเลว่าจะกอดหล่อนดีหรือเปล่าแต่เพราะความต้องการของใจมันมากกว่าสมองเรียวแขนพาดทับลงบนเอวคอดกิ่ว
“บีขอโทษ” เสียงแผ่วเบาแทบจะไม่ได้ยิน “อย่าโกรธบีเลยนะ”
น้ำทิพย์ซบหน้าลงกับแผ่นหลังของศิรินการหายใจที่ไม่เป็นจังหวะทำให้รู้ว่าศิรินยังไม่ได้หลับใจก็แอบกลัวยิ่งศิรินนิ่งเธอยิ่งอึดอัดน้ำทิพย์กอดคนตัวเล็กแน่นกว่าเดิมเพราะอยากให้ศิรินตอบอะไรกลับมาบ้าง
"ช่วยเอาแขนของคุณออกไปจากตัวฉันทีค่ะ" ศิรินว่าเสียงเย็น
"บีขอโทษ หายโกรธบีเถอะนะ"
ศิรินไม่ตอบเธอเลือกที่จะเงียบเพราะความโกรธที่มีมันยังไม่หายไปแต่น้ำทิพย์เองที่ไม่เคยง้อใครและไม่ชอบให้ใครมาเงียบใส่เธอพลิกตัวให้ศิรินหันมาและบดจูบหล่อน ศิรินไม่ตอบโต้หรือขัดขืนเธอนิ่งอย่างเดียวจนน้ำทิพย์ต้องถอนจูบออกและมองหน้าคนตัวเล็กด้วยแววตาสับสน
"พอใจหรือยังคะ" หล่อนถามเสียงเรียบ
"บี.."
"อย่าพูดว่าขอโทษ ถ้าเมื่อกี้คุณตั้งใจ" ศิรินชิงพูดก่อน และแกะมือน้ำทิพย์ออกพร้อมลุกขึ้นแต่น้ำทิพย์ก็คว้าเธอเอาไว้
"จะไปไหนคะ"
น้ำทิพย์เดาใจศิรินไม่ออกเลยแววตาว่างเปล่านั้นมันทำให้เธอไม่ชอบเอาซะเลยนายหญิงคนอ่อนโยนและยิ้มเก่งของเธอหายไปไหนกัน ศิรินหันมามองน้ำทิพย์ที่จับมือกันอยู่
"คุณนอนเถอะ ฉันนอนไม่หลับ"
"นอนด้วยกันสิคะ" น้ำทิพย์ว่าเสียงอ้อนและไม่ยอมปล่อยข้อมือเล็ก
"อยากนอนกับฉันหรอคะ"
ศิรินเอ่ยถามพร้อมยิ้มเล็กๆน้ำทิพย์ก็ยิ้มตอบและพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าใช่และสีหน้าของศิรินก็เหมือนจะยิ้มเยาะเย้ยตัวเองและหันมามองหน้าน้ำทิพย์
"นึกว่าอยากจะนอนกับเด็กนั่นซะอีก"
ศิรินสะบัดมือออกทำทีจะลุกแต่น้ำทิพย์ก็ดึงตัวให้เธอมานอนอยู่ในอ้อมกอดศิรินเองก็ไม่ได้ดิ้นหรือขัดขืนน้ำทิพย์โคตรจะไม่เข้าใจนายหญิงคนนี้เลย ไม่เหมือนตอนที่วทานิกาโกรธเธอจะดีดดิ้นหรือไม่ก็โวยวายทุบตีเธอยกใหญ่แต่ศิรินไม่เธอนิ่งซะจน...ความรู้สึกผิดแล่นเข้ามาปะทะ
"เลิกประชดได้ไหมคะ" น้ำทิพย์พูดอย่างเหลืออดเพราะเธอไม่เคยง้อใครนานขนาดนี้
"ก็เอามือที่จับมือคนอื่นออกไปสิคะ" ศิรินตอกกลับ
"บีต้องทำยังไงคะ คุณคริสถึงจะหายโกรธ"
อะไรที่ทำให้ศิรินหายจากการเย็นชาแบบนี้ได้น้ำทิพย์ยอมทำเพราะเธอทนอยู่กับความอึดอัดแบบนี้ไม่ได้แล้วแต่ต้องไม่ใช่การนอนแยกกันถ้าเป็นแบบนั้นเธอยอมให้ศิรินตอบหน้าเธอยังจะดีกว่า
"ผ่านผู้หญิงมาเยอะแบบคุณ ก็หาวิธีง้อเอาเองสิคะ"
"แต่บีไม่เคยง้อใคร"
"ไม่เคยก็เคยซะสิ"
ไม่มีใครตอบอะไรมีเพียงความเงียบและศิรินก็ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของน้ำทิพย์เพราะคนตัวสูงไม่ยอมคล้ายอ้อมกอดเลยเหมือนตัวมาเธอจะหนี น้ำทิพย์มีสีหน้าคิดหนักเกิดมาไม่เคยง้อใครเพราะถ้าใครงี่เง่าใส่เธอแค่เลือกที่จะตีตัวออกห่างจนเขาเลิกราไปแต่น้ำทิพย์ไม่ได้เศร้าโศกเสียใจเพราะเธอก็แค่หาใหม่
เพราะเป็นคนที่ง้อใครไม่เป็นน้ำทิพย์เชยคางศิรินขึ้นมาสบตาก่อนจะทาบทับฝีปากลงบนปากอวบอิ่มแต่ครั้งนี้นุ่มนวลและอ่อนโอนกว่าครั้งแรกจากจูบที่ไม่ลุกล้ำก็เปลี่ยนเป็นจูบที่ดูดดื่ม
"นี่คือการง้อของคุณหรอคะ"
"..." น้ำทิพย์ไม่ตอบเขาเพียงแค่มองหน้าศิรินนิ่ง
"ลืมไป เจ้าชู้แบบคุณคงถนัดแต่เรื่องอย่างว่า"
ศิรินมองหน้าคู่หมั้นของเธอที่เอาแต่เงียบยิ่งน้ำทิพย์ไม่ตอบมันเหมือนกับเขายอมรับในสิ่งที่ศิรินพูดและมันก็ทำให้ศิรินเริ่มไม่พอใจเธอรู้ว่าน้ำทิพย์เจ้าชู้แต่ตอนนี้เขามีสถานะเป็นคู่หมั้นของเธอ จะทำอะไรก็น่าจะคิดถึงเธอบ้าง
"นอนเถอะค่ะ ฉันง่วงแล้ว"
พยายามจะพลิกตัวกลับแต่น้ำทิพย์ไม่ยอมปล่อยศิรินเลยเลือกจะนอนอยู่อย่างนั้นนอนฟังเสียงหัวใจของเขาที่มันเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา สักพักก็รับรู้ถึงสัมผัสแผ่วเบาที่หน้าผากและลมหายใจอุ่นๆของเขา
"คุณคริสเป็นผู้หญิงคนแรกที่บีง้อนะคะ"
"..." ศิรินนิ่งฟังที่เขาพูด รู้สึกดีเหมือนกันที่ได้ยินแบบนั้น
"รีบใจอ่อนแล้วหายโกรธบีไวไวนะ"
น้ำทิพย์ไม่รู้จะง้อยังไงแล้วเรียวแขนกระซับกอดให้แน่นอีกนิดรู้ว่าศิรินได้ยินในสิ่งที่เธอพูดทุกคำและหวังว่าพรุ่งนี้ตื่นมาทุกอย่างจะเป็นปกติ ศิรินคงจะคุยและยิ้มให้เธอเหมือนเดิม
Talk ::
ที่งอนนี่คืออยากให้นุ้งบีของเราง้อใช่ป่ะ?
นายหญิงมีความร้ายกาจ
บอกไว้ก่อนว่านายหญิงของเราร้ายกว่านี้เยอะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

987 ความคิดเห็น
-
#981 ByTheJ (จากตอนที่ 3)วันที่ 19 มีนาคม 2562 / 09:33ไม่อยากจะคิดถึงตอนวทาปรากฏตัวเลย หืมมม คุณคริสเขาไม่ชอบคนโกหกนะ#9810
-
#47 nook1518 (จากตอนที่ 3)วันที่ 26 มิถุนายน 2560 / 15:19ทีมนายหญิงค่ะ ต้องลงโทษให้เข็ดหลาบ#470
-
#42 clubbc (จากตอนที่ 3)วันที่ 25 มิถุนายน 2560 / 22:07น้องบีนี่ร้ายนะคะ นายหญิงต้องปราบน้องนะคะ#420
-
#38 Fox demon (จากตอนที่ 3)วันที่ 25 มิถุนายน 2560 / 18:14พี่บีคนเจ้าชู้ต้องเจอกับนายหญิงผู้ร้ายกาจ#380
-
#37 clubbc (จากตอนที่ 3)วันที่ 25 มิถุนายน 2560 / 15:46งอนต่อไปค่ะนายหญิง ดูสิน้องบีจะง้อยังไงอีก#370
-
#36 Pream_fata (จากตอนที่ 3)วันที่ 25 มิถุนายน 2560 / 15:03นายหญิงปราบคนเจ้าชู้ทีค่ะ#360
-
#35 4530656 (จากตอนที่ 3)วันที่ 25 มิถุนายน 2560 / 15:00สมควรแระ พี่บีนี่ก็ไวไฟเกิน#350
-
#34 JJ2543 (จากตอนที่ 3)วันที่ 25 มิถุนายน 2560 / 14:22ขอต้อนรับนุ้งบีเข้าสู่สมาคมพ่อบ้านใจกล้าค่าาาา555555555#340
-
#33 Anyaey (จากตอนที่ 3)วันที่ 25 มิถุนายน 2560 / 12:57#พ่อบ้านใจกล้า ให้พี่บี#330
-
#32 namwhan_ka (จากตอนที่ 3)วันที่ 25 มิถุนายน 2560 / 12:56นุ้งบีเป็นเสือสิ้นลายเลย... ว่าแต่ระเบิดแพรยังไม่ได้กู้นะ#320
-
#31 บีคริส (จากตอนที่ 3)วันที่ 25 มิถุนายน 2560 / 12:28เจอฤทธิ์พี่คริสเข้าไป นิ่งสงบความเคลื่อนไหว เป็นไงล่ะคุณบี ง้อไม่เป็นไปเลย55#310
-
#30 nanaki_yui (จากตอนที่ 3)วันที่ 22 มิถุนายน 2560 / 17:37จุดๆนี้ขอฟันธงว่าพี่บีโดนเสียงแข็งค่ะ#300
-
#29 clubbc (จากตอนที่ 3)วันที่ 21 มิถุนายน 2560 / 14:56วงแตก555#290
-
#28 Pream_fata (จากตอนที่ 3)วันที่ 20 มิถุนายน 2560 / 20:28น้องคะถ้าจะอ่อยดูเจ้าของเค้าด้วยนะคะว่าเป็นใคร555#280
-
#27 Niwkoysw (จากตอนที่ 3)วันที่ 20 มิถุนายน 2560 / 18:16อู้ววววว มีควาหวง5555555#270
-
#26 Hobgoblin (จากตอนที่ 3)วันที่ 20 มิถุนายน 2560 / 17:25จุดนี้รอดูพี่บีแถค่ะ#260
-
#25 Fox demon (จากตอนที่ 3)วันที่ 20 มิถุนายน 2560 / 17:18แหม น้องบีคนใจง่าย --#250
-
#24 nokmaneerat (จากตอนที่ 3)วันที่ 20 มิถุนายน 2560 / 17:12งานนี้ตายกับตายถ้าแถไม่ดีน้องบี#240
-
#23 บีคริส (จากตอนที่ 3)วันที่ 20 มิถุนายน 2560 / 17:01พี่บีต้องแถแน่นอนแต่จะรอดไหมเนี่ย55#230
-
#22 Ampz.S (จากตอนที่ 3)วันที่ 20 มิถุนายน 2560 / 15:59ตายหมู่55555#220
-
#21 NISI_WOO (จากตอนที่ 3)วันที่ 20 มิถุนายน 2560 / 13:10พี่บีต้องแถเพื่อเอาตัวรอดแน่ๆ#210