ตอนที่ 43 : คนของใจ
อีกไม่กี่วันมีนาก็ต้องกลับแต่เหมือนมันยังมีอะไรบ้างอย่างคาใจอยู่นั้นคือยังไม่ได้เอ่ยขอพรีมเป็นแฟนจริงๆจังๆสักทีแต่พอจะพูดมันก็กลับไม่กล้าทำใจอยู่นานจะพูดทีไม่เมเบลก็บีเข้ามาขัดจังหวะซะก่อน
วันนี้อากาศค่อนข้างดีไม่มีฝนไม่มีลมเธอเลยชวนพรีมออกมาเดินเล่นแต่ก็ยังมีเมเบลและบีมาด้วยอีกนั้นแหละเพราะตอนนี้ค่อนข้างเย็นแล้วมากันหลายคนมันปลอดภัยดี
"เฮ้ มีนายูเคยล่องเรือที่แม่น้ำเทมส์ยัง"
"พรีมเองก็ยังไม่เคยหนิ เราชวนกี่ทีก็บอกไม่ว่าง" บีพูดขึ้นทำเอามีนาเบะปากแต่ก็แอบดีใจที่พรีมไม่ยอมไปด้วย
"จริงด้วยนั้นเราทั้งหมดไปนั่งเรือเล่นกัน"
พรีมเสนอก่อนที่เมเบลจะเป็นคนจัดการเรื่องตั๋วแต่ก็ไม่ลืมลากมีนาให้ไปเป็นเพื่อนตอนแรกมีนาก็ไม่ยอมที่จะปล่อยให้พรีมอยู่กับบีสองคนแต่ทำไงได้เมเบลเล่นลากเธอมาโดยไม่ถามความเห็นเลย
"ดูเขาหวงเธอดีจังเนาะ" อยู่ๆบีก็พูดขึ้น
"มีนาก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว"
"แสดงว่าตอนอยู่ไทยเขาก็หวงเธอแบบนี้นะหรอ" บีดูจะอึ้งไปนิด
"มีนากลัวเราไปมีเพื่อนใหม่และสนิทมากกว่าน่ะ"
"หวงก้าง" บีว่าก่อนจะหัวเราะพรีมเองก็อมยิ้มน้อยๆ
"เรา..ถามอะไรหน่อยสิ ที่เธอจูบเราวันนั้น.."
"ฉันชอบเธอ"
พรีมอึ้งหนักเขาไปอีกพูดอะไรไม่ออกเธอไม่รู้จะทำตัวยังไงเพราะอยู่ด้วยกันมาหลายเดือนบีไม่เห็นแสดงออกหรือว่าเธอไม่รู้ตัวกันแน่ "ไม่ต้องคิดมากนะชอบก็คือชอบไม่หวังจะครอบครอง"
บีอธิบายก่อนเพราะไม่อยากให้พรีมเก็บเอาไปคิดเยอะพรีมเองก็สบายใจที่ได้ยินบีพูดแบบนั้นนับถือใจจริงๆเพราะการชอบใครสักคนหลายคนก็ต้องการครอบครองทั้งนั้นแต่บีไม่เหมือนคนอื่นเธอเชื่อว่าสักวันบีจะเจอคนนั้นคนที่เขาก็ชอบบีเหมือนกัน
"ฉันเจอเพื่อนน่ะถ้ากลับมาไม่ทันก็ขึ้นไปก่อนเลยนะ"
"อ้าวเดี๋ยว..."
ยังไม่ทันจะรั้งหรือถามอะไรบีก็เดินหายไปในกลุ่มคนพรีมพยายามชะเง้อมองดูว่าเพื่อนที่บีว่าคือใครแต่ก็มองไม่เห็นเพราะบีไม่เคยพาเพื่อนมาบ้านเลยไม่เคยพูดถึงเลยด้วยซ้ำจนบางทียังแอบคิดว่าคนอย่างบีมีเพื่อนกับเขาบ้างหรือเปล่า
บีเห็นผู้หญิงตัวเล็กที่เธอเคยเจอเมื่อสองวันก่อนเดินอยู่ไม่ไกลเธอก็รีบขอตัวและเดินตามเธอมาแต่เดินตามได้สักพักถึงรู้ว่าอีกคนมาคนเดียวบีเลยเข้าไปเดินข้างๆทำเอาเธอถึงกับตกใจหน้าเหวอไปแต่ก็เหวอได้แปบเดียว
"มาได้ไงอ่ะ"
"เดินมา" บีตอบสั้นๆไม่ได้คิดจะกวนนะก็เธอเดินมาจริงๆ
"มาคนเดียวหรอ"
"มากับเพื่อนน่ะแต่เพื่อนมากับแฟน"
"อ่อ แล้วไม่มีแฟนหรือไง"
"ก็พึ่งจะบอกชอบผู้หญิงคนหนึ่งก่อนหน้านี้ไม่ถึงห้านาทีอ่ะ"
ผู้หญิงด้านข้างหยุดเดินและหันกลับมามองบีอย่างสงสัยเหมือนต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมบีเองก็พอจะอ่านสายตาเธอออกเขายิ้มก่อนจะอธิบายให้ฟัง
"ก็เขาถามว่าที่จูบไปคืออะไรก็เลยบอกว่าชอบ"
"คงเป็นผู้หญิงในภาพวาดใช่ไหม"
"ใช่"
"แล้วเธอตอบว่าไง"
"จะตอบอะไรล่ะเธอมีแฟนแล้ว"
"เพราะแบบนี้นี่เองอิสระและรักที่ไม่ครอบครองในความหมายของภาพคือเธอมีแฟนแล้ว"
บีถูกใจผู้หญิงด้านข้างคนนี้เข้าไปอีกเธอฉลาดรอบรู้ช่างคิดช่างพูดเธอเดินเคียงข้างกับผู้หญิงตัวเล็กคนนี้มาสักพักก่อนที่เธอจะหยุดบีมองไปรอบๆมองจากตรงนี้จะเห็นหอนาฬิกาบิ๊กเบนชัดมาก คนด้านข้างเดินไปจับที่ราวกั้นและมองออกไปก็จะเห็นเรือที่ล่องในแม่น้ำเทมส์
"มีความหลังกับที่นี่หรอ" บีลองเดาดูเพราะเธอเคยวาดรูปจากตัวแบบที่เป็นคนก็ค่อนข้างจะมองแววตาออก
"สองปีที่แล้วน่ะฉันเคยมานั่งเรือจากตรงนี้แล้วไปยังหอนาฬิกา..วันนั้นยอมรับว่ามีความสุขมากเพราะเขาขอฉันแต่งงานตรงหน้าหอนาฬิกา"
บีพยักหน้าเข้าใจแต่ที่เธอไม่เข้าในเมื่ออีกคนบอกว่าหลังจากหย่าก็หนีมาอยู่ที่นี่เพื่อพักใจเธอก็คิดว่าอยากลืมซะอีกแต่วันนี้หล่อนกลับมายังสถานที่เดิมที่เขาเคยขอแต่งงาน ใบหน้าที่เศร้านั้นก็พอจะทำให้รู้ว่าเธอยังไม่ลืมคนรักเก่า
"ไหล่ฉันยังว่างนะคุณให้ยืมซบก่อนก็ได้" เธอหันมามองบีก่อนจะยิ้มบางๆ
"ขอกอดหน่อยดิ"
ไม่พูดเปล่าเธอสวมกอดบีทันทีที่เอ่ยขอบีเองก็แทบไม่ได้ตั้งตัวอะไรเลยไม่เคยมีใครได้กอดเธอถ้าเธอไม่เต็มใจแต่ผู้หญิงคนนี้กล้ามากที่จะโผเข้ากอดเธอแล้วเธอก็ไม่คิดจะผลักหล่อนออกด้วยแถมยังกอดตอบอีกด้วยรู้ว่าเธอกำลังร้องไห้
มีนาเดินกลับมาพร้อมกับตั๋วในมือสองใบพรีมชะเง้อมองหาเมเบลแต่มีนาก็บอกเพียงแค่ว่าเดี๋ยวก็ตามมาและเมเบลบอกให้ขึ้นไปรอก่อนพรีมเองก็ขึ้นไปอย่างว่าง่ายทั้งสองได้มุมที่สามารถมองเห็นวิวได้ชัดดีที่วันนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่
"ทำไมตอนบีชวนถึงไม่ยอมมา" มีนาเอ่ยถาม
"ก็เราไม่ว่าง"
"พรีม"
"หืมม"
"อีกสองวันเราก็จะกลับแล้วนะ" มีนาว่าเสียงอ่อย
"นั้นสิอยากไปไหนเป็นพิเศษก่อนกลับป่ะล่ะ"
มีนาไม่ตอบแต่ดึงพรีมที่นั่งข้างๆมากอดพรีมเล่นเอาคนตัวเล็กหน้าแดงอย่างเลี่ยงไม่ได้ก็มีนาเล่นกอดเธอต่อหน้าคนอื่นในที่สาธารณะแบบนี้แต่ธรรมเนียมของคนที่นี่ไม่ค่อยถือกันเท่าไหร่
"ถ้าเรากลับไปจะคิดถึงเราไหม"
"คิดถึงสิ"
มือเรียวจับใบหน้าของพรีมให้มองสบตาเธอทั้งสองสบตากันอยู่อย่างนั้นอย่างไม่มีใครยอมใครความรู้สึกที่สามารถสื่อถึงกันโดยไม่ต้องมีคำพูดอะไรทั้งสิ้น
"เราชอบพรีม เป็นแฟนกับเรานะ"
คำนี้ที่เธอรอคอยมาตลอดไม่เคยคิดว่าจะได้ยินมันออกมาจากปากของมีนาพรีมดีใจจนพูดไม่ออกเธอได้แต่พยักหน้าเป็นคำตอบไม่มีการเล่นตัวอะไรทั้งนั้นสัมผัสแผ่วเบาประทับลงมาที่ริมฝีปากของเธออย่างอ่อนโยนบรรยากาศรอบข้างก็เป็นใจจูบที่เนินนานกว่าทุกครั้ง หวานและอ่อนโยนกว่าทุกที
แชะ!
"ว้าววว ยูทั้งสองกำลังทำให้ไออิจฉา" เมเบลที่มาตอนไหนไม่รูปแอบแชะภาพเรียบร้อยพรีมก็เขินม้วนรีบหันหน้าออกไปยังแม่น้ำทันที
"ไหนเตรียมกันไว้ว่าจะโผมาตอนเราจูบเสร็จ"
"จูบเสร็จก็ไม่ได้ภาพที่สวยนะสิ"
"แต่มันขัดจังหวะ" มีนาและเมเบลเถียงกันจนพรีมต้องปราบทั้งคู่
"นี่วางแผนกันหรอใครเป็นคนต้นคิด" พรีมมองหน้าของทั้งสองที่เอาแต่ก้มหน้า
"อย่ามองไอแบบนั้นบีนู้นเจ้าของไอเดีย"
"บีเนี่ยนะ" เธอไม่อยากจะเชื่อว่าอย่างบีจะเป็นคนเจ้าแผนการแบบนี้เมเบลถ่ายรูปให้เธอกับมีนาจนกว่าจะรูปสวยๆและเราสามคนก็ถ่ายรูปเล่นกันจนเรือจอดเธอพึ่งรู้ว่าเมเบลสนิทกับลูกสาวเจ้าของเรือเยขอให้ตีตั๋วกลับมาส่งที่เดิม
ทั้งสามเดินกลับบ้านพร้อมกันแต่ก่อนจะถึงบ้านเมเบลสาวปาร์ตี้ก็ขอตัวแยกออกไปส่วนบีก็หายไปเลยทิ้งข้อความบอกไว้ว่าไม่ต้องรอ มีนาเดินจับมือพรีมมาตลอดทางไม่ยอมปล่อยเลยพรีมเองก็ชอบที่มีนาจับมือเธออยู่อย่างนี้
"เรียนจบแต่งงานกันเลยป่ะ" มีนาถามขณะที่สวมกอดคนรักจากทางด้านหลังเมื่อขึ้นมาถึงห้องแล้ว
"เวอร์น่า"
"เราพูดจริงนะ กลับไปจะบอกป๊าให้ไปคุยกับอาพลอยเลย"
"ถามเราหรือยังว่าอยากแต่งหรือเปล่า"
"แล้วอยากแต่งหรือเปล่า"
"เรื่องแบบนี้ใครถามกันตรงๆล่ะ"
"ไม่รู้แหละ ยังไงเจ้าสาวของเราก็คือพรีม"
มีนากอดพรีมให้แน่นกว่าเดิมและขโมยหอมแก้มหล่อนอีกเธออยากจะให้ถึงวันนั้นเร็วๆรู้สึกว่าเวลาเดินช้าเกินเธออยากดูแลพรีมให้มากกว่านี้อยากอยู่ด้วยทุกวันตื่นมาเจอหน้ากันในทุกๆเช้า แต่เพราะเธอยังเด็กก็คงทำได้แค่รอ
บียืนกอดคนตัวเล็กอยู่นานคนตรงหน้าที่ยิ้มสดใสให้เธอเมื่อสองวันก่อนวันนี้เปลี่ยนเป็นคนละคนเธอรู้ว่าเราทุกวันย่อมมีมุมที่อ่อนแอกันทั้งอยู่ทีว่าเราจะแสดงมันให้ใครเห็นและผู้หญิงคนนี้ก็เลือกที่จะแสดงให้เธอได้เห็น
"โอเคไหม" บีลูบหัวเธอเบาๆเพื่อปลอบก่อนที่อีกคนจะผละออกแต่มือก็ยังกอดเอวบีอยู่
"ถ้าบอกว่าไม่โอเคล่ะ" เธอพูดทั้งเสียงสะอื้น
"ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าคุณจะโอเค"
บีคิดว่าน้ำตาไม่เหมาะกับผู้หญิงยิ้มสวยคนนี้เอาซะเลยเธอเกลี่ยน้ำตาบนใบหน้าให้เธอแต่ก็ไม่ทันตั้งตัวหล่อนโน้มคอเธอลงไปจูบเป็นจูบที่ไม่ได้มีการลุกล้ำแต่อย่างใดแต่มันก็มากพอที่จะทำให้เธอใจเต้นแรง
"ขอบคุณไง" เธอเอ่ยบอกเมื่อบีทำหน้าสงสัยว่าจูบเธอทำไม
"กลับบ้านไหมเดี๋ยวฉันไปส่ง"
"อื้ม"
ทั้งสองนั่งรถมายังบ้านพักของอีกคนมันก็ไกลจากบ้านเธอพอสมควรบีเดินไปส่งคนตัวเล็กถึงหน้าห้องเธอก้มมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะฉุดบีเข้าไปในห้อง
"นอนที่นี่แหละมันดึกแล้ว"
"ไม่เป็นไร ฉันกลับได้"
"ไหนบอกจะอยู่เป็นเพื่อน"
บีไม่เถียงเธอเดินมานั่งที่โซฟาก่อนที่เจ้าของห้องจะเดินกลับมาพร้อมแก้วไวน์สองแก้วและไวน์อีกหนึ่งขวดเธอยื่นแก้วไวน์ให้บีแต่คนตัวสูงกลับส่ายหน้า
"ฉันไม่ดื่ม"
"ดื่มเป็นเพื่อนหน่อยนะ แก้วเดียวก็ได้" บีมองแก้วไวน์อย่างลังเล "ฉันไม่ใส่ยาคุณหรอกน่า" บีรับมันมาถือไว้ทันทีร่างบางเดินลงนั่งข้างๆพร้อมกระดกไวน์รวดเดียว
"ค่อยๆดื่มก็ได้เดี๋ยวก็เมาพอดี"
"ฉันเมาคุณก็ดูแลสิ"
"คุณคงรักแฟนคุณมากเลยเนอะ" บีว่าไปตามจริงไม่อย่างนั้นผู้หญิงด้านข้างคงไม่เสียศูนย์ขนาดนี้
"เมื่อก่อนฉันก็คิดแบบคุณว่าฉันรักเขามากแต่ตอนนี้ไม่เลยกลับกันฉันรู้สึกโกรธตัวเอง"
"ทำไมล่ะ? ก็เห็นว่าคุณเศร้า"
บีถามอย่างไม่เข้าใจคนด้านข้างก็กระดกไวน์ไปเป็นแก้วที่สองซึ่งเธอยังไม่ได้ดื่มมันเลยสักนิดก่อนที่คนตัวเล็กจะหันมาตอบเธอ
"ที่ฉันเสียใจไม่ใช่เพราะว่าฉันรักเขาแต่เสียใจ...เพราะฉันเชื่อใจเขามากเกินไป"
"ชีวิตรักคุณดราม่าดีแหะ" หล่อนขำกับคำพูดของบี
"แล้วชีวิตรักคุณล่ะไม่เห็นเล่าให้ฟังบ้างเลย"
"ก็เท่าที่คุณรู้นั้นแหละ" บีตอบก่อนจะยกไวน์ขึ้นจิบ
"ทำไมผู้หญิงคนนั้นไม่เลือกคุณนะ คุณออกจะมีเสน่ห์น่าค้นหาจะตาย" บีเหลือบมองหน้าอีกคนที่เท้าคางมองหน้าเธอด้วยสายตาหยาดเยิ้ม
"ทุกคนย่อมมีเหตุผลเป็นของตัวเองกันทั้งนั้นแหละ"
"รู้ไหม ว่าความคิดคุณดูโตกว่าคนที่แต่งงานแล้วอย่างฉันเลย"
"ไม่หรอกคุณแค่ยังไม่เข้าใจโลกมากกว่า"
"เข้าใจโลกเลยหรอ?" เธอว่าก่อนจะขำเพราะบีก็ช่างเปรียบเทียบ
"คุณไม่สังเกตหรอโลกมักจะเหวี่ยงคนที่ไม่ใช่มาให้เราก่อนเสมอพอเราผิดหวังมากๆจนแทบไม่อยากจะรักใครโลกก็จะเหวี่ยงคนที่ใช่หรือคู่ชีวิตที่แท้จริงมาให้เพื่อปลอบใจคุณไงล่ะ"
"พูดได้ดีนิ"
เธอไม่คิดเลยว่านักศึกษาปีสุดท้ายอย่างบีที่ไร้ซึ่งประสบการณ์ด้านการมีแฟนจะเข้าใจอะไรแบบนี้เหมือนบีมาเปิดโลกใหม่ให้กับเธอและเธอก็อยากจะเข้าไปในโลกของบี
"ฉันพูดไปตามที่เห็นเพราะคนรอบข้างฉันก็เป็นแบบคุณเยอะแยะ"
"ฉันชักจะสนใจคุณแล้วสิ"
"สนใจฉัน? ฉันว่าคุณต้องเมาแล้วแน่ๆ"
"ฉันพูดจริงๆนะ"
เธอเอื้อมมือมาจับแขนบีไว้สายตาที่ส่งมากำลังจะบอกว่าที่เธอพูดมันคือเรื่องจริงและหมายความอย่างที่พูดจริงๆ บีเองก็นิ่งไปเธอไม่เคยเจอใครเข้าหาแบบนี้มาก่อน
"คุณกำลังจะเสียเวลา"
"ฉันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว" หม้ายอย่างเธอไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกแล้ว
"ฉันว่าคุณแค่เหงา..พอคุณหายเหงาฉันอาจจะไม่ได้น่าสนใจอย่างที่คุณพูดก็ได้"
ไม่ใช่ว่ารังเกียจอะไรหรอกนะแต่บีคิดว่าการที่คนเราจะสนใจใครสักคนมันไม่น่าจะเกิดขึ้นในเวลาแบบนี้เพราะอีกคนกำลังอ่อนแออาจจะแค่ต้องการเพื่อนคลายเหงาเท่านั้น ซึ่งเธอไม่เห็นด้วยถ้าหากจะตอบรับหล่อนเพียงแค่เขาบอกว่าสนใจในตัวเธอ
"ฉันขอพิสูจน์ว่าที่ฉันพูดมันคือเรื่องจริง"
บีสบตากับคนด้านข้างอย่างไม่เข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่คนดีๆที่เหมาะกับเธอมีมาให้เลือกตั้งมากมายแต่หล่อนกับเลือกเธอที่เป็นแค่นักศึกษาไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย หน้าที่การงานก็ยังไม่มี ไม่รู้ว่าอีกคนเห็นอะไรในตัวเธอ
"จะพิสูจน์ยังไง"
"ตอนนี้ยังคิดไม่ออกอ่ะ"
"ถามหน่อยสิ อะไรในตัวฉันที่ทำให้คุณสนใจ"
"ทุกอย่างที่เป็นคุณ"
บีทำหน้าไม่อยากจะเชื่อถ้านี้เป็นมุขที่หล่อนใช่จีบเธอบอกเลยว่ามันเชยสุดๆแต่สายตาของอีกคนมันดูจริงจังในทุกคำพูดและเธอเองก็ดันเชื่อด้วยถ้าเกิดต้องเสียใจเพราะคนตรงหน้าเธอจะไม่โทษใครเลยนอกจากตัวเองเพราะแค่มองตาก็เชื่อหล่อนสนิทใจ
"ไม่เคยได้ยินหรอเวลาเราสนใจใครต่อให้เขามีข้อเสียมากกว่าข้อดีเราก็จะมองข้ามมันไปโดยไม่มีเหตุผลมันก็คงเหมือนทฤษฎีเข้าใจโลกของคุณนั้นแหละ"
โอเคบียอมเธอแล้วความคิดและคำพูดของคนด้านข้างบางทีเธอก็หาอะไรมาเถียงไม่ได้จริงๆทั้งสองนั่งพูดคุยและดื่มจนไวน์หมดไปเป็นขวดที่สองซึ่งบีดื่มไปไม่ถึงห้าแก้ว
"ฉันว่าคุณเข้าไปนอนในห้องดีกว่านะ"
"ฉันสนใจคุณจริงๆนะ"
ดูเหมือนว่าเจ้าของห้องจะไม่ไหวซะแล้วบีจำเป็นต้องแบกเธอให้เข้ามานอนในห้องดีจะเช็ดตัวให้ก็เห็นว่าจะไม่ควรเธอดึงผ้าห่มมาคลุมกายหล่อนและกลับออกมานอนที่โซฟาด้านนอก อากาศในห้องก็อุ่นกว่าที่บ้านเธอเยอะแต่ถ้าได้ห่มผ้าอุ่นก็จะดีกว่านี้แต่จะให้เธอไปนอนแย่งผ้าห่มกับอีกคนก็เห็นจะไม่ได้บีจึงต้องเอาโค้ทมาห่มแทน
เช้านี้ดูมีนาจะงอแงไม่ยอมหยุดเพราะเธอได้โทรไปขอศิรินว่าอยากอยู่ต่ออีกหนึ่งอาทิตย์แต่ศิรินไม่อนุญาตเธอบอกว่าถ้ามีนาไม่ทำตามสัญญาเธอจะไม่ไปหาพรีมอีก มีนาขอให้พรีมช่วยพูดแต่เหมือนกับว่าจะไม่ได้ผล
"สวัสดีค่ะน้าคริส สบายดีไหมคะ"
"สบายดีจ้ะ มีนากวนใจอะไรหนูพรีมหรือเปล่า"
"ก็นิดหน่อยค่ะตามประสาคนเอาแต่ใจ" มีนานั่งหน้ายู่อยู่ข้างๆ
"น้าคงให้มีนาอยู่ต่อไม่ได้หนูพรีมคงไม่ว่าอะไรเนอะ"
"ไม่หรอกค่ะพรีมก็กะจะบอกให้น้าคริสรีบรับตัวมีนากลับไปเร็วๆเหมือนกัน" พรีมแกล้งพูดเสียงดังให้มีนาได้ยิน
"จ้ะ ไว้เจอกันนะ"
"ค่ะ สวัสดีค่ะ"
เพียงแค่พรีมวางสายมีนาก็เอ่ยถามอย่างอยากรู้ว่าตกลงเธอจะได้อยู่ต่อหรือเปล่า
"หม่ามี๊ว่าไงบ้างอ่ะ"
"ก็บอกว่าไว้เจอกัน"
"แค่เนี่ย? แล้วตกลงว่าเราต้องกลับป่ะ" มีนาเอ่ยถามในใจก็ขอให้ได้อยู่ต่อ
"กลับสิ ใกล้เปิดเทอมแล้วไม่ใช่หรอ"
แค่คำตอบที่ได้ฟังจิตใจมันก็ห่อเหี่ยวจนไม่อยากจะทำอะไรแล้วถ้าเอาพรีมกลับไปด้วยได้เธอทำไปนานล่ะแต่ก็อย่างว่าลูกเขามีพ่อมีแม่จะทำอะไรก็ต้องเกรงใจพ่อแม่เขาหน่อย
"เราไม่อยากกลับเลยอ่ะ" มีนาว่าอย่างอ้อนๆหัวก็เอนซบไหล่ของพรีม
"ไม่งอแงสิเดี๋ยวซัมเมอร์เราก็กลับ"
"จริงหรอ พูดจริงอ่ะ"
มีนาเด้งตัวขึ้นมาทันทีก็เท่ากับว่าเธอกลับไปรอพรีมอีกไม่กี่เดือนพรีมก็จะกลับไปหาเธอที่นู้นจากหน้าเศร้าเป็นหมาหงอยก็ยิ้มแย้มแจ่มใสทันที
"แต่..." คำสั้นๆที่มีนาไม่ค่อยชอบมันซะเลย
"อะไรอ่ะ"
"มีนาต้องสอบให้ได้หนึ่งในสิบถ้าทำไม่ได้ซัมเมอร์เราก็ไม่กลับ"
"ไม่ได้ดิ แค่สอบผ่านไม่ได้หรอหนึ่งในสิบมันยากไปป่ะ"
ปกติเกรดเฉลี่ยของมีนาก็อยู่อันดับท้ายๆแต่มีพรีมคอยช่วยเลยยังอยู่ที่อันดับสิบเก้าซึ่งเพื่อนในห้องมีเกือบๆสามสิบแต่พรีมเล่นขอให้เธอติดหนึ่งในสิบมีนาถึงกับเครียดแค่เรียนให้รอดไม่ติดศูนย์ติดรอได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว
"ทำให้ได้นะถ้าอยากเจอเรา"
คำประกาศิตจากพรีมมาขนาดนี้ก็คงไม่กล้าขัดทั้งคู่ก็ยังคงเถียงกันเรื่องต่างๆเพราะพรุ่งนี้มีนาก็ต้องกลับแล้วเลยงอแงหนักหน่อยกลัวไปหมดทุกอย่าง กลัวคนมาจีบคนรักของเธอบ้างล่ะกลัวพรีมไปหวั่นไหวใส่คนอื่นบ้างยิ่งนิสัยของพรีมที่ชอบใจดีกับคนอื่นไปทั่วแบบนี้ด้วย
แก้วไวน์และขวดไวน์ที่วางเกะกะเมื่อคืนถูกเก็บอย่างเรียบร้อยในครัวที่ไม่ค่อยได้ทำอาหารเท่าไหร่กลับมีร่างสูงยืนอยู่และดูท่าทางคล่องแคล่วในการทำมื้อเช้ามือนี้เอามากๆ
"ตื่นแล้วหรอคะ" บีเอ่ยถามเจ้าของห้องที่ยืนกอดอกมองเธออยู่
"คุณทำอาหารเป็นด้วยหรอ"
"พอได้ค่ะ ทานเลยไหม"
"ไม่ทานด้วยกันหรอ"
เธอเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าบีทำมาแค่ที่เดียวเท่านั้นบีส่ายหน้าพร้อมกับล้างกะทะและทุกอย่างให้เรียบร้อยแต่คนตัวเล็กกลับทำหน้ายู่ที่ต้องทานมื้อเช้าคนเดียว
"ฉันไม่ค่อยทานข้าวเช้าฝีมือตัวเองเท่าไหร่"
บีว่าก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามของอีกคนเพื่อนอยู่เป็นเพื่อนในการาทานมื้อเช้าคนตัวเล็กเห็นแบบนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรต่อเธอลองชิมอาหารฝีมือบีดูคนทำก็ลุ้นจนตัวโก่งว่าจะถูกปากหรือเปล่า
"ก็อร่อยดีนิทำไมถึงไม่ชอบทานฝีมือตัวเอง"
"อยากให้คนอื่นทำให้ทานมากกว่ามั้ง"
"อย่างเช่นผู้หญิงในภาพวาดนั้น"
"ก็ประมาณนั้นแหละ"
บีเป็นคนที่ไม่ชอบพูดจาให้ความหวังใครรู้สึกอะไรก็จะพูดออกไปตรงๆคงเป็นเพราะแบบนี้ล่ะมั้งเธอถึงได้อยู่เป็นโสดมาจนถึงทุกวันนี้
"วันนี้คุณไปไหนหรือเปล่า"
"ก็ไม่นะ แต่ฉันมีงานต้องทำคุณมีอะไรหรือเปล่า"
"ก็ถามดู ว่าแต่คุณไม่คิดจะถามชื่อฉันหน่อยหรอ"
นั้นคือคำถามที่ทำให้บีนิ่งไปเธอพึ่งนึกได้ว่ายังไม่รู้จักชื่อของอีกคนเลยเท่ากับว่าตอนนี้เธอกับหล่อนไม่ได้ทำความรู้จักกันอย่างจริงจังแต่จะให้ถามไปตอนนี้ก็คงจะไม่ใช่แนวเธอเท่าไหร่
"ฉันคิดว่าคุณไม่อยากบอกซะอีก"
"ฉันไม่บอกคุณก็ไม่คิดจะแนะนำตัวเลยหรือไง"
"ก็คุณไม่ถามฉันคิดว่าคุณคงไม่อยากรู้จักฉัน"
เธอยอมแพ้บีเลยไม่ว่าจะพูดอย่างไรอีกคนก็หาเรื่องมาเถียงจนได้เธอเลยเป็นฝ่ายเอ่ยถามชื่อก่อน "คุณชื่ออะไร?"
"บี"
"บีที่แปลว่าผึ้งนะหรอ"
"เปล่าอ่ะ บีที่เป็นตัวอักษรเฉยๆ" หล่อนพยักหน้าเข้าใจก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ
"ไม่อยากรู้จักชื่อฉันบ้างหรอ"
"ก็รอคุณบอกอยู่"
บีมองคนตรงหน้าแต่เธอก็ยังเฉยไม่มีท่าว่าจะบอกชื่อหล่อนให้เธอรู้จักเลยแล้วก็ตักข้าวเข้าปากสบายใจเฉิ่มบีเองก็ไม่ได้ทักท้วงหรือเอ่ยถามเธอก็ได้แต่นั่งมองอีกคนทานข้าวไปอย่างเงียบๆ
"มิลิน"
อยู่ๆอีกคนก็พูดขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ยบีที่กำลังเดินออกจากห้องก็หันกลับมาทำหน้างงๆจนอีกคนต้องอธิบายว่ามันคืออะไร "ชื่อฉันเอง ยินดีที่ได้รู้จักนะบี"
"เช่นกันค่ะ"
"พรุ่งนี้ฉันจะกลับไทยแล้วนะ" บีชะงักไปก่อนจะมองหน้าอีกคนด้วยแววตาสับสน
"ให้ฉันไปส่งไหม"
มิลินหลุดขำกับคำถามของบีเพราะนิสัยซื่อๆหรือเป็นคนคิดบวกของอีกคนละมั้งที่ทำให้เธอรู้สึกสนใจทั้งที่ก่อนหน้าเธอก็แต่งงานกับผู้ชายแต่ใช่ว่าก่อนแต่งงานเธอจะไม่เคยคบผู้หญิงนิ โดยเฉพาะผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอจำเขาไม่เคยลืมและไม่คิดจะลืมด้วยซ้ำ
"แล้วฉันจะรอนะเครื่องออกหกโมงเย็น"
พึ่งคบกันได้แค่วันเดียวแสบของเราก็กลัวแฟนซะแล้ว
เห็นอนาคตร่ำไรว่าต้องเหมือนป๊า 55555
ส่วนบีจะได้คู่มิลินหรือเปล่าน้า?
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แล้วก็ให้ป๊าขอพ่อพลอยให้เสร็จสรรพเลย55