ตอนที่ 33 : เหนื่อยแล้วเหมือนกัน
มีนาเดินกลับเข้ามาในรีสอร์ทกำลังจะเดินตรงไปที่ห้องอาหารก็เห็นน้าๆอาๆนั่งหน้าจ๋อยกันอยู่โดนเฉพาะแก็งพ่อบ้านที่ดูหน้าแต่ละคนเหมือนนักโทษกำลังจะถูกประหารเธอเดินเข้ามาหาศิรินก่อนจะเอ่ยถาม
"มีอะไรกันหรอคะหม่ามี๊"
"ถ้าหม่ามี๊กับป๊าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วมีนาจะเสียใจไหมลูก" มีนาไม่เข้าใจในคำถามว่ามันคืออะไร
"ไม่อยู่ด้วยกัน แล้วหม่ามี๊จะไปไหนหรอคะ"
"หม่ามี๊จะเลิกกับป๊าบี"
"หม่ามี๊/คริส/พี่คริส!!!!"
ทุกคนต่างตกใจในคำพูดของศิรินแต่เจ้าตัวกลับนิ่งไม่พูดอะไรมีนาถึงกับช็อคไปเลยตอนนี้ไม่มีใครพูดอะไรออกได้แต่เงียบกันไปหมดสักพักน้ำทิพย์ก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางอารมณ์ดี คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันก่อนจะตรงมาหาศิริน
"มีอะไรกันหรอคะ หน้าเครียดเชียว"
"ทานข้าวเสร็จก่อนแล้วค่อยคุยกัน"
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารตอนนี้ตึงเครียดไปหมดมีคนเดียวที่ยิ้มร่าก็คือน้ำทิพย์ผู้ไม่รู้อะไรเลยแต่ใจก็รู้สึกแปลกๆกับอาการของทุกคนเธอไม่ได้เอ่ยถามอะไรจนทานข้าวเสร็จแก็งพ่อบ้านก็ลากเธอออกมาด้านนอก
"มีอะไรกันว่ะ" น้ำทิพย์เอ่ยถาม
"บีแกทำใจดีๆก่อนนะ" เฌอมาลย์พูดเสียงจริงจังจนน้ำทิพย์เริ่มกลัว
"อะไรของมึงเนี่ย จะอำอะไรอีกไม่เล่นนะเว้ย"
"คือ..."
"บีคะ"
"จ๋า ที่รัก"
ยังไม่ทันที่เฌอมาลย์จะได้บอกศิรินก็เรียกน้ำทิพย์ซะก่อนร่างสูงเดินเข้าไปหาศิรินทั้งสองคุยกันก่อนจะเดินเลี่ยงไปยังมุมที่ไม่มีคนแม่บ้านทุกคนก็เดินออกมามองดูทั้งสองยืนคุยกันอย่างลุ้นๆ
"มีอะไรจะคุยกับบีหรอคะ" น้ำทิพย์ถามด้วยน้ำเสียงสดใส
"เมื่อคืนบีไม่ได้หนีคริสเที่ยวใช่ไหมคะ" ศิรินถามด้วยน้ำเสียงปกติ
"ไม่หนิคะ บีนอนอยู่ที่สระว่ายน้ำทั้งคืน"
"แน่หรอคะ แน่ใจนะว่าไม่ได้โกหก" ร่างบางปรับเสียงให้ดูจริงจังขึ้นน้ำทิพย์เองรู้สึกว่ามันเริ่มไม่ปกติแล้วเธอรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง
"คริสกำลังอำบีเล่นใช่ไหม"
"ตอบคำถามมาก่อนสิคะ บอกไว้ก่อนนะคะว่าคำตอบมีผลต่อการตัดสินใจ"
น้ำทิพย์เม้มปากแน่นกำลังคิดว่าควรบอกดีหรือเปล่าเพราะถ้าบอกไปแล้วศิรินยังไม่รู้ความจริงเธอก็ไม่รอดแล้วถ้าไม่บอกแต่ศิรินรู้อยู่แล้วและแกล้งถามเธอก็ไม่รอดอีกเหมือนกัน เหมือนว่าจะคิดนานไปหน่อยจนศิรินต้องเอ่ยเรียก
"ทำไมคิดนานจังคะ คำถามมันตอบยากขนาดนั้นเลยหรอ" ถ้าฟังดีๆน้ำเสียงของศิรินมันดูตัดพ้อนิดๆ
"บียอมรับก็ได้ค่ะว่าเมื่อคืนบีแอบไปเที่ยวมา"
มาถึงขนาดนี้แล้วเธอเลือกที่จะไม่โกหกล่ะกันอะไรจะเกิดก็จะยอมรับไว้เองแต่จะไม่โกหกเด็ดขาดเพราะไม่นั้นทุกอย่างอาจจะแย่ลงกว่าเดิม
"นอกจากหนีเที่ยวแล้วมีอย่างอื่นอีกไหมคะ"
"จะว่ามีก็มีค่ะ" น้ำทิพย์ก้มหน้าไม่กล้าสบตาศิริน
"อะไรคะ" ขอบตาศิรินเริ่มร้อนผ่าวเธอไม่อยากจะได้ยินคำตอบเลยแต่อยากรู้ว่าน้ำทิพย์ยังจะทำตัวแบบเดิมอีกหรือเปล่า
"บีขอโทษค่ะคริส" น้ำทิพย์คว้าร่างบางมากอดไว้ "ขอโทษ"
ไม่ต้องถามอะไรต่อก็พอจะรู้ว่ามันเรื่องอะไรน้ำตาที่เก็บไว้มันกำลังไหลช้าๆเธอกับน้ำทิพย์แต่งงานกันมาหลายปีเมื่อก่อนเธอพอจะเข้าใจว่ามันก็เป็นธรรมดาของน้ำทิพย์สาวสุดฮอตที่ก่อนแต่งงานใครต่อใครก็เตือนเธอเรื่องเสือผู้หญิงแต่เธอก็ไม่สนเพราะคิดว่าเธอจะปราบน้ำทิพย์ได้ แต่มาวันนี้มันไม่ใช่เลยน้ำทิพย์ก็ยังเป็นเหมือนเดิมถึงแม้จะมีลูกแล้วก็ยังไม่เลิก
"เราเลิกกันเถอะ"
ประโยคสั้นๆที่หลุดออกจากปากศิรินไม่ต้องมีการขยายความอะไรต่อน้ำทิพย์นิ่งไปเหมือนใจหยุดเต้นมือบางค่อยๆผละเธอออกศิรินเงยหน้ามองเธอด้วยน้ำตาก่อนจะถอดแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายออกช้าแต่น้ำทิพย์ก็คว้ามือเธอให้หยุด
"ไม่ๆ อย่าทำอย่างนี้สิคริส"
"ปล่อย!"
"ขอร้องล่ะ ไม่เลิกนะคะ" น้ำทิพย์พูดเสียงสั่นเครือเธอเสียศิรินไปไม่ได้จริงๆเมื่อคืนมันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้นเธอไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิด
"ไหนคริสบอกว่าจะไม่ถอดแหวนวงนี้ออกถ้าวันไหนที่คริสถอดมันแปลว่าคริส..ไม่ได้รักบีแล้ว" ท้ายประโยคน้ำทิพย์พูดเสียงเบาจนมันแทบจะเหมือนเสียงกระซิบ
"บีจะมาโทษคริสไม่ได้นะ ทุกอย่างมันเป็นเพราะบีทั้งนั้น"
"บีขอโทษ" น้ำทิพย์ดึงศิรินเข้ามากอดอีกรอบและกอดแน่นกว่าเดิมเหมือนกว่าว่าเธอจะหาย "ไม่เลิกนะคะ"
"เจอกันที่เขตตอนกลับกรุงเทพนะคะ"
15%
ศิรินพูดจบก็ผลักน้ำทิพย์ออกกำลังจะเดินหนีแต่อีกคนก็เอ่ยรั้งเธอด้วยคำถามซึ่งเขาคงคิดว่ามันน่าจะทำให้ศิรินตัดสินใจใหม่
“แล้วลูกล่ะ คริสไม่สงสารลูกหรอ” น้ำทิพย์เอาลูกมาอ้างทันที
“คริสจะให้ลูกเลือกค่ะว่าจะอยู่กับใคร”
ศิรินตอบโดยไม่หันหน้าไปมองน้ำทิพย์เห็นว่าน้ำทิพย์ไม่พูดอะไรต่อเธอก็เดินออกมาทันทีทุกคนที่ยืนลุ้นอยู่เห็นน้ำทิพย์ก้มหน้าร้องไห้ก็พอจะรู้คำตอบ แก็งพ่อบ้านรีบพากันเดินเข้าไปหาน้ำทิพย์ทันทีเฌอมาลย์ตบไหล่เพื่อนเบาๆเป็นการปลอบใจ
“ขอโทษนะเฮีย..ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้อ่ะ” จีน่าก้มหน้าสำนึกผิด
“เกี่ยวอะไรกับมึงว่ะจอนอ”
“ก็..เค้าทำแผนแตกเอง”
จีน่าว่าก้มจะก้มหัวและหลับตาทันทีเพราะไม่รู้น้ำทิพย์จะถีบหรือตบหัวถ้าเป็นทั้งสองอย่างเธอยอมน้ำทิพย์ยกมือปาดน้ำตาก่อนจะถอนหายใจออกมา
“คริสยังโกรธอยู่ แกรอคริสใจเย็นค่อยคุยกันอีกทีนะ” เฌอมาลย์บอกเพื่อนถึงจะรู้ว่าศิรินพูดคำไหนคำนั้น
แม่บ้านทั้งสี่พากันเดินเข้ามาหาศิรินไม่มีใครกล้าถามอะไรเพราะศิรินดูนิ่งจนน่าขนลุกขนาดรฐาที่เป็นเพื่อนกันมายังแอบกลัวเลย แต่ก็เป็นหน่วยกล้าตายเดินเข้ามานั่งข้างๆศิริน
“คิดดีแล้วหรอที่จะเลิกกับบี” ศิรินหันหน้าไปมองรฐาก่อนจะยิ้มจางๆ
“คริสคิดดีแล้วหญิง”
“แต่พี่สองคนแต่งงานกันมาจะยี่สิบปีแล้วนะ” กวางพูดเตือนสติศิริน
“คุณคริสคะเมย์ว่าค่อยๆคุยกันดีไหมคะ อย่างน้อยก็เห็นแก่ลูก”
“ช่าเห็นด้วยนะพี่คริส ลูกยูต้องไม่โอเคแน่ๆ”
ศิรินมองและรับฟังความคิดเห็นของทุกคนมันก็มีเหตุผลมากพอที่จะไม่ทำให้เธอเลิกกับน้ำทิพย์ในเมื่อเธอตัดสินใจไปแล้ว
“ขอบคุณทุกคนนะ แต่คริสตัดสินใจแล้ว”
ศิรินลุกขึ้นทันทีตอนนี้เธออยากอยู่คนเดียวพวกเพื่อนก็ได้แต่มองหน้ากันก่อนจะส่ายหน้าไปมามองตามแผ่นหลังของร่างบางก็ต้องถอนหายใจออกมาพร้อมกันว่าจะพูดยังไงศิรินก็ไม่เปลี่ยน เรื่องใจแข็งคงต้องยกให้เธอเป็นที่หนึ่งเลยแหละ
ร่างบางทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงระเบียงสายตาเหมอมองออกไปเธอคิดว่าลมที่พัดผ่านใบหน้าจะทำให้สดชื่นขึ้นแต่ไม่เลยสักนิด ก่อนจะรู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังยืนอยู่ข้างๆเธอแต่ศิรินก็ไม่ได้หันไปมอง
“หม่ามี๊” มีนาคุกเข่าลงไปเลื่อนมือไปกุมมือศิรินเอาไว้ “ไม่เลิกกับป๊าบีได้ไหมคะ” น้ำตาที่กั้นไม่ให้ไหลตอนนี้คงไม่มีประโยชน์อีกแล้วมีหน้าซบหน้าลงบนตักของศิริน
“ไม่ร้องไห้สิคะคนเก่ง” ศิรินลูบหัวมีนาอย่างแผ่วเบา
“หม่ามี๊ก็บอกมาก่อนสิคะว่าจะไม่เลิกกับป๊าบี” มีนาสะอื้นแทบจะพูดไม่เป็นประโยคก่อนจะเงยหน้ามามองศิริน ร่างบางไม่ตอบคำถามของมีนาเพียงมองหน้าลูกสาวนิ่งๆ
“ตอบมาสิคะว่าจะไม่เลิก” ตอนนี้มีนาเริ่มจะพูดเสียงดังคงเป็นเพราะได้นิสัยอารมณ์ร้อนมาจากน้ำทิพย์ทำให้เธอคุมสติตัวเองได้ไม่ค่อยเก่ง
“อย่าเงียบสิหม่ามี๊..ตอบมีนามาสิ” มีนาร้องไห้หนักกว่าเดิม ศิรินเห็นลูกร้องไห้ก็จะร้องตามเธอแงนหน้าขึ้นกระพริบตาไม่ให้น้ำตาไหล
“หม่ามี๊ไม่รักมีนาแล้วหรอคะ” คำถามนี้ทำให้ศิรินชะงักไปเธอยกมือมากุมหน้ามีนาไว้
“มีนาฟังหม่ามี๊นะ ถึงหม่ามี๊กับจะเลิกกันแต่หม่ามี๊ก็รักหนูนะ..รักที่สุด”
“ถ้ารักแล้วทำไมไม่ทำตามที่มีนาขอล่ะคะ”
“ป๊าบีทำผิดสัญญาหม่ามี๊ก็ต้องทำแบบนี้แหละ มีนาเข้าใจหม่ามี๊นะ” มีนามองหน้าศิรินอย่างไม่อยากจะเข้าใจเลยสักนิดเธอไม่อยากจะรับรู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ไม่เข้าใจเลยว่าผู้ใหญ่เขาคิดอะไรกันอยู่
น้ำทิพย์ทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาเหมือนคนหมดแรงเธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อคิดไม่ถึงว่าเรื่องมันจะบานปลายขนาดนี้เธอไม่โทษจีน่าหรอกแต่โทษตัวเองมากกว่าถ้าเธอยับยั้งชั่งใจสักนิดเรื่องแบบนี้คงไม่เกิด ถ้าย้อนเวลาได้เธอจะไม่ชวนพวกเพื่อนๆไปเที่ยวเลย
“ป๊าบีครับ” มาวินที่เดินจูงมือเฌอมาลย์มาก็วิ่งขึ้นมานั่งบนตักเธอน้ำทิพย์รีบปาดน้ำตาออกไม่อยากให้ลูกเห็น
“ว่าไงครับ” เธอพยายามทำเสียงให้ดูสดใส
“มาวินหาหม่ามี๊ไม่เจอครับ” เด็กชายตัวน้อยทำหน้าจะร้องไห้ก็เขาติดศิรินยิ่งกว่าอะไรดี
“ง่วงนอนหรอครับ” มาวินพยักหน้าและขยี้ตาเพราะนี่ก็จะบ่ายแล้วตามประสาเด็กก็ง่วงเป็นธรรมดาน้ำทิพย์ลูบหัวลูกชายก่อนจะอุ้มมาวินขึ้นมาเธอมองหน้าเฌอมาลย์เล็กน้อยแค่สบตาก็รู้แล้วว่าเพื่อนเป็นห่วงเธอเพียงแค่ยิ้มบางๆให้
“เดี๋ยวป๊าบีพาขึ้นไปนอนนะครับ”
น้ำทิพย์อุ้มมาวินขึ้นมาบนห้องกว่าจะมาถึงมาวินก็หลับซบไหล่ของเธอไปแล้วมือเรียวกำลังจะไขประตูแต่คนด้านในก็เปิดมันออกมาซะก่อนต่างคนต่างชะงักสบตากันแต่ไร้ซึ่งคำพูดก่อนที่น้ำทิพย์จะพูดขึ้นทำลายความเงียบ
“บีพาลูกมานอนน่ะ”
ศิรินหลบทางให้น้ำทิพย์เดินเข้ามาร่างสูงอุ้มมาวินมานอนบนเตียงก่อนจะหันไปหาศิรินร่างบางเดินมาห่มผ้าให้ลูกและปรับอุณภูมิของแอร์ให้พอดีแต่ยังไม่ทันจะเดินออกไปแขนสองข้างของน้ำทิพย์ก็กอดเอวบางของเธอไว้ รับรู้ถึงหยดน้ำตาที่หยดลงบนไหล่ของเธอ
“อย่าไปเลยนะ บีอยู่ไม่ได้อ่ะถ้าไม่มีคริส”
มีนานั่งตากลมที่ใต้ต้นไม้มาเป็นชั่วโมงแล้วเธอไม่มีท่าว่าจะลุกไปไหนจนพรีมเดินมานั่งลงข้างๆมีนาก็เพียงหันไปมองและหันกลับไปมองทะเลเหมือนเดิมตอนนี้เธอไม่ร้องไห้แล้วแต่ใจเธอมันกำลังร้องแทนคิดถึงหน้าศิรินที่ได้แต่บอกว่ารักเธอกับน้องแต่ก็ยังจะหย่ากับน้ำทิพย์แค่นี้ก็เจ็บจนร้องไห้ไม่ออก
“ให้เราอยู่เป็นเพื่อนนะ”
พรีมเองก็ไม่รู้จะปลอบใจยังไงเลยขออยู่เป็นเพื่อนแทนล่ะกันทั้งสองนั่งนิ่งไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกจนมีนาลุกขึ้นจะเดินกลับพรีมเองก็ลุกขึ้นเดินตามเห็นมีนาเศร้าเธอก็พลอยเศร้าไปด้วย
น้ำทิพย์ยืนอยู่ริมสระน้ำช่วงเวลานี้ไม่ค่อยมีคนเธอเลยออกมาเดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยหันไปมองด้านบนที่มันตรงกับห้องของศิรินเป็นพักถึงแม้ร่างบางจะไม่ได้ยืนตรงระเบียงก็ตาม
“ป๊า!” น้ำทิพย์หันไปตามเสียงเรียกเห็นมีนายืนมองเธอด้วยสายตาที่ยากคาดเดา
พรีมที่เดินตามมีนามาก็คาดกันเธอหันซ้ายหันขวามองหามีนาแต่ก็ไม่เจอคงเป็นเพราะขามีนาที่ยาวกว่าทำให้เดินไวจนเธอตามไม่ทัน พรีมเดินเข้ามาในรีสอร์ทเจอเข้ากับเฌอมาลย์และรฐาพอดี
“พ่อคะ แม่คะ เห็นมีนาไหมคะ”
“ไม่เห็นนะ มีอะไรหรือเปล่าลูก” รฐาเอ่ยถาม
“เปล่าค่ะ พรีมเห็นมีนาดูเศร้าเลยอยากจะอยู่เป็นเพื่อนแต่พอเดินกลับมาก็หามีนาไม่เจอแล้ว”
“พี่เขาคงอยู่แถวๆนี้แหละ” เฌอมาลย์ตอบก่อนจะลูบหัวลูกสาว
“แล้วนี่พ่อกับแม่จะไปไหนคะ”
“พอดีเมื่อวานแม่เขาบ่นอยากได้ของฝากพ่อเลยจะพาไปซื้อ ไปกับพ่อไหม”
“ไม่ค่ะ พรีมอยากอยู่เป็นเพื่อนมีนา” เฌอมาลย์หันไปมองรฐาก่อนจะยิ้มให้กันเมื่อพรีมไม่ไปเธอสองคนเลยไปกันเองส่วนพรีมก็ยังเดินตามหามีนา
“ป๊าทำอย่างนี้ได้ยังไง รู้ไหมว่าหม่ามี๊เสียใจแค่ไหน” มีนาขึ้นเสียงใส่น้ำทิพย์สองมือก็ผลักร่างสูงจนเซแต่น้ำทิพย์ก็ไม่ขัดขืนและไม่โกรธลูกด้วยเพราะมันคือความจริงเธอทำศิรินเสียใจจริง
“อย่าเงียบดิป๊า! ช่วยทำอะไรให้มันดีขึ้นหน่อยได้ไหม!!”
“จะให้ป๊าทำยังไงล่ะหม่ามี๊เขาตัดสินใจไปแล้ว”
ตอนนี้ทั้งสองทะเลาะกันเสียงดังไม่สนว่าใครจะมาได้ยินมีนามองหน้าน้ำทิพย์อย่างไม่พอใจถ้าไม่ติดว่าเป็นพ่อเธอคงชกหน้าน้ำทิพย์ไปแล้วสองมือได้แต่ทุบตีน้ำทิพย์อย่างไม่คิดจะหยุดคนเป็นพ่อก็ปล่อยให้ลูกตีอยู่อย่างนั้นจนกว่ามีนาจะพอใจ
“มีนาพอได้แล้ว” พรีมวิ่งเข้ามาห้าม
“ป๊ามันขี้ขลาด! แค่นี้ก็ยอมแพ้แล้วหรอ!”
“มีนา” พรีมรีบปรามมีนาไว้ก่อนน้ำทิพย์แต่คนอย่างมีนาได้อารมณ์ร้อนแล้วดับง่ายๆซะที่ไหนล่ะ เธอพุ่งตัวเข้าไปพักน้ำทิพย์จนตกลงไปในสระ พรีมเองก็ตกใจจนต้องยกมือปิดปาก
“มีป๊าขี้แพ้แบบนี้! สู้ไม่มีจะดีซะกว่า!” พูดจบเธอก็เดินฟึดฟัดออกไปพรีมที่ยืนอยู่ก็ไม่รู้จะไปทางไหนดีก่อนจะวิ่งตามมีนาไปเพราะไม่รู้ว่ามีนาจะไปทำอะไรอีก
ร่างสูงค่อยๆขึ้นมาจากสระก่อนจะเดินมานั่งที่เตียงสำหรับนอนอาบแดดเธอมันขี้ขลาดแบบที่มีนาว่าจริงๆแค่ศิรินบอกเลิกถึงกับจะยอมน้ำทิพย์คิดได้ก็บอกกับตัวเองว่าตราบใดที่เธอไม่ยอมเซ็นใบหย่าศิรินก็เลิกกับเธอไม่ได้อยู่ดี น้ำทิพย์นั่งตัวเปียกอยู่อย่างนั้นจนมีมือบางเอาผ้าเช็ดตัวมาคลุมให้น้ำทิพย์ยกยิ้มก่อนจะหันหน้าไป
“เมย์”
“มานั่งตัวเปียกทำไมตรงนี้คะ” น้ำทิพย์หุบยิ้มก่อนจะหันกลับมาอย่างเดิม
“ขอบคุณนะคะ”
“อย่ายอมแพ้สิคะ ถึงคุณคริสจะใจแข็งแต่เชื่อเมย์นะคะว่าเขาไม่ใจร้ายกับบีหรอก” น้ำทิพย์ยิ้มให้บางๆกำลังใจจากคนรอบข้างทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น
ตั้งแต่วันนั้นจนกลับกรุงเทพนี่ก็สองอาทิตย์แล้วที่น้ำทิพย์เลี่ยงที่จะไม่ไปเขตกับศิรินเธออ้างว่างานเยอะและมีประชุมกับลูกค้าศิรินเองก็ไม่เชื่อแต่น้ำทิพย์ก็ยืนยันว่าไม่ไปจนกว่าจะว่างจริงๆ ทำให้ร่างบางต้องรอเธอถามน้ำทิพย์ย้ำๆทุกกวันเรื่องการหย่าแต่ร่างสูงก็ทำได้เพียงเดินหนีหรือไม่ก็หลับใส่
“บี”
ศิรินเอ่ยเรียกน้ำทิพย์แต่อีกคนไม่หยุดที่จะฟังเธอน้ำทิพย์รีบเดินขึ้นไปด้านบนไม่อยากฟังเรื่องที่ศิรินจะขอหย่าแต่ก็ต้องหยุดกับคำพูดของศิริน
“คริสอยากเคลียทุกอย่างก่อนที่ลูกจะเปิดเทอม”
น้ำทิพย์ยืนนิ่งศิรินคิดว่าน้ำทิพย์คงได้ยินแล้วเธอเดินเลี่ยงเข้าไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมมื้อเย็นน้ำทิพย์หันมามองเธอไม่เจอร่างบางแล้วสองขาไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินเธอแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้น
อีกสองวันมีนาและมาวินก็จะเปิดเทอมแต่น้ำทิพย์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะคุยกับเธอเรื่องแต่งงานศิรินอาบน้ำแต่งตัวเสร็จน้ำทิพย์ก็ยังไม่กลับมาเธอรอที่จะพูดเรื่องหย่ากับเขาแต่เหมือนว่าน้ำทิพย์จะหลบเลี่ยงตลอดศิรินเลยตัดสินใจจะรอจนกว่าน้ำทิพย์จะกลับมา เธอเกือบจะหลับเสียงประตูก็เปิดออกมาซะก่อน
“คริสมีเรื่องจะคุยด้วย..อื้ออ”
เรียวปากร้อนบดจูบศิรินจนเธอไม่ได้ตั้งตัวสองมือก็ตีไหล่น้ำทิพย์อีกคนก็ไม่ปล่อยก่อนจะลุกล้ำเข้าไปมากกว่านี้ น้ำทิพย์ผลักให้เธอมาที่เตียงกดเธอนอนราบลงไปสองมือปัดป่ายปลุกอารมณ์ของศิริน ร่างบางผลักอกน้ำทิพย์ออกเธอมองหน้าน้ำทิพย์พร้อมหอบหายใจ
“คิดว่าทำแบบนี้แล้วคิดจะเปลี่ยนใจหรอคะ”
“บีรักคริสนะคะ” เสียงของน้ำทิพย์สั่นนิดๆ
ร่างสูงไม่รอให้ศิรินได้ตอบอะไรกับมาเธอยังดำเนินเพลงรักต่อศิรินเองก็ไม่ได้ขัดขืนหรือห้ามแต่อย่างใดสองร่างกอดรัดกันเสียงครางที่ดังลั่นห้องกิจกรรมรักดูจะไม่มีที่สิ้นสุดทั้งสองปล่อยมันไปตามความต้องการของตัวเอง
น้ำทิพย์แต่งตัวไปทำงานอย่างอารมณ์ดีกว่าทุกวันจะไม่ให้อารมณ์ดีได้ยังไงศิรินเป็นคนอาบน้ำและแต่งตัวให้เธอเองกับมือและร่างบางก็ยิ้มให้เธอเหมือนว่าเราสองไม่มีเรื่องทะเลาะกันเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญานที่ดีศิรินอาจจะเปลี่ยนใจไม่หย่ากับเธอแล้วก็ได้
“ขอบคุณนะคะ” น้ำทิพย์ก้มลงหอมแก้มศิรินก่อนจะจูงมือคนรักลงมาด้านล่าง
มีนามองน้ำทิพย์และศิรินที่ยิ้มให้กันแต่มันก็รู้สึกแปลกๆเมื่อวานยังเห็นหลบหน้ากันอยู่เลยแล้ววันนี้กลับมานั่งยิ้มให้กันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอว่ามันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ น้ำทิพย์ทานข้าวเสร็จก็เตรียมจะออกไปทำงานมีนาก็รีบตามมา
“เดี๋ยวป๊า”
“ว่าไงคะคุณลูกสาว”
“นี่ป๊ากับหม่ามี๊ดีกันแล้วหรอ” มีนาถามออกไปอย่างไม่มั่นใจ
“ก็ใช่นะสิ ไม่ดีใจหรือไง” น้ำทิพย์ตอบอย่างอารมณ์ดี
“มันแปลกๆนะป๊า อยู่ๆก็ดีกันง่ายๆแบบนี้ป๊าไม่คิดว่ามันแปลกบ้างหรอ” น้ำทิพย์ยิ้มให้กับความสงสัยของลูกสาวก่อนจะโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูว่าเธอง้อศิรินยังไง
“หายสงสัยหรือยัง ป๊าไปทำงานก่อนนะ”
แต่มีนาก็ยังว่ามันแปลกอยู่ดีโกรธกันอยู่แล้วยอมง่ายๆแบบนี้ก็มีหรอเธอว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรร่างบางเดินกลับเข้ามาในบ้านจะถามศิรินก็ไม่กล้าเธอเลยรอดูก่อนว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าเธอรู้ว่าหม่ามี๊ของเธอไม่มีทางจะใจอ่อนง่ายขนาดนี้
ตอนนี้ก็สิบเอ็ดโมงศิรินเดินลงมาพร้อมมาวินที่แต่งตัวเหมือนจะออกไปไหนสักที่มีนาละสายตาจากจอทีวีมามองศิรินทั้งสองก็เดินมาหาเธอ
“หม่ามี๊จะไปไหนคะ”
“ไปแต่งตัวก่อนเดี๋ยวจะบอก”
มีนาว่าหม่ามี๊ของเธอดูแปลกไปทั้งรอยยิ้มคำพูดและน้ำเสียงแววตาอีกทุกอย่างที่เป็นศิรินตอนนี้มันแปลกไปจากเดิมเธอรู้สึกว่ามันต้องเกิดเรื่องไม่ดีแน่ๆแต่ภาวนาขอให้ไม่เป็นอย่างที่คิด มีนาเดินเข้าไปในห้องแล้วก่อนจะเดินออกมาแต่ก็ต้องชะงักเท้าไว้ก่อนเมื่อได้ยินเสียงศิรินคุยโทรศัพท์
“เจอกันที่เขตนะคะ ถ้าบีไม่มาบีก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้อยู่กับลูกอีกค่ะ”
มีนาเข้าใจแล้วพอศิรินวางสายเธอก็กลับเข้ามาในห้องเดินวนไปวนมาศิรินกำลังใช่เธอและมาวินเป็นข้อต่อรองถึงพ่อกับแม่เธอจะหย่ากันแต่เธอก็ต้องเลือกอยู่ดีว่าจะอยู่กับใครซึ่งเธอเลือกไม่ได้บางทีเธอก็อยากเป็นมาวินนะที่ไม่ต้องมารับรู้อะไรแบบนี้ มือเรียวคว้าโทรศัพท์มาโทรหาน้ำทิพย์
“ฮัลโหลป๊า”
“มีนาอยู่ไหนลูก”
“ป๊าฟังมีนานะ ป๊าห้ามไปที่เขตเด็ดขาดยังไงก็ห้ามไปเข้าใจไหมป๊า” มีนาเอ่ยบอกอย่างจริงจัง
“แต่มี๊เขา..”
“เรื่องนั้นมีนารู้”
“แล้วมีนาจะให้ป๊าทำยังไงป๊าเสียเราสามคนไปไม่ได้หรอกนะ”
“แกล้งป่วยไปเลยป๊า”
“จะป่วยได้ยังไงเมื่อเช้าคริสก็เห็นว่าป๊ายิ้มหน้าบานก่อนออกจากบ้าน”
มีนากัดเล็บตัวเองคิดหาทางช่วยให้ทั้งสองไม่ต้องหย่ากันสองขาก็เดินวนไปวนมาก่อนที่สองมองของเธอมันจะคิดอะไรออกแต่ก็ไม่รู้ว่าวิธีนี้น้ำทิพย์จะยอมทำตามหรือเปล่ามีนาเอ่ยบอกรายละเอียดและตอนนี้ก็อยู่ที่น้ำทิพย์จะตัดสินใจว่าจะทำตามแผนเธอหรือเปล่า
“ตกลง ยังไงมีนาถ่วงเวลาหม่ามี๊ไว้ก่อนนะ”
สามแม่ลูกนั่งรอน้ำทิพย์ที่เขตใกล้เวลานัดเข้ามาทุกทีแต่น้ำทิพย์ก็ยังไม่โผล่มาขนาดเธอเผื่อเวลาให้ขนาดนี้แล้วยังจะมาช้าอีกแต่ไม่เป็นไรสถานที่ราชการปิดตั้งห้าโมงเย็นยังไงเธอก็จะรอ
“หม่ามี๊ครับ เรามาทำอะไรที่นี่หรอครับ” มาวินกระตุกชายเสื้อศิรินเอ่ยถามอย่างงงๆ
“ทำธุระครับ”
“ธุระอะไรหรอครับ” ศิรินหันมามองมีนาซึ่งลูกสาวของเธอก็เบือนหน้าหนีไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลย
“หม่ามี๊นัดป๊าบีมาเซ็นเอกสารสำคัญครับ”
เสียงโทรศัพท์ของศิรินก็ดังขึ้นร่างบางควานหามันในกระเป๋าเห็นเป็นเบอร์แปลกซึ่งไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์มือถือแน่นอน เธอครุ่นคิดก่อนจะกดรับสายและกรอกเสียงลงไป
“คุณเป็นภรรยาของคุณน้ำทิพย์หรือเปล่าคะ”
“ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“คุณน้ำทิพย์ประสบอุบัติเหตุตอนนี้อยู่ในห้องไอซียูค่ะ”
โทรศัพท์ล่วงจากมือศิรินทันทีขอบตามีน้ำใสๆเอ่อคลอมีนายิ้มก่อนจะทำหน้าตกใจเพราะรู้ว่าน้ำทิพย์กำลังทำตามแผนมีนารีบเข้ามาถามศิรินว่าเกิดอะไรขึ้น ศิรินก็ตอบเสียงสั่นว่าน้ำทิพย์อยู่โรงพยาบาลเธอเลยบอกให้ศิรินรีบไปหาน้ำทิพย์
พอศิรินมาถึงพยาบาลก็บอกว่าย้ายน้ำทิพย์มาที่ห้องพักฟื้นแล้วมีนาเดินเข้าไปคนแรกและตามมาด้วยศิรินแต่ห้องก็มีแก็งพ่อบ้านยืนอยู่ แขนน้ำทิพย์ถูกพันไว้ไหนจะปลอกที่คออีกอาการหนักพอดูศิรินยืนนิ่งไม่ได้เดินเข้าไปหา
“หม่ามี๊ครับ ป๊าบีเป็นอะไรหรอครับ” มาวินกระตุกมือเธอและถามอย่างสงสัยที่เห็นป๊าตัวเองนอนไม่ขยับตัวเลย
“ไม่สบายนิดหน่อยครับ”
“แล้วป๊าบีจะเป็นอะไรมากไหมครับ”
“ไม่หรอกครับ ป๊าบีเก่งจะตายไม่ตายง่ายๆหรอกครับ”
คำพูดของศิรินเล่นเอามีนาและแก็งพ่อบ้านสะดุ้งไปตามๆกันน้ำทิพย์เองที่นอนอยู่ก็จุกไปเลยแต่ก็ไม่สามารถจะลืมตาขึ้นมาได้เธอคิดว่าศิรินอาจจะพูดไปอย่างนั้นไม่ได้คิดอะไรมีนารู้สึกว่าทั้งห้องมันเงียบเกินไปเลยพูดขึ้น
“หม่ามี๊มาดูป๊าบีหน่อยสิ”
“ไม่ล่ะ มี๊จะพามาวินกลับบ้านถ้าป๊าเราฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่โทรบอกมี๊ด้วยนะจะได้เอาใบหย่ามาให้เซ็น” ศิรินหันหลังจะเดินกลับคนป่วยที่ดูอาการหนักลุกพรวดขึ้นมาก่อน
“เดี๋ยวค่ะคริส”
น้ำทิพย์ดึงปลอกคอออกและลุกมากอดรั้งศิรินไว้เธอรู้สึกว่าครั้งนี้ศิรินเอาจริงเธอไม่อยากให้มันจบลงแค่นี้ยังไงเธอก็ไม่ยอม ร่างบางแอบยิ้มก่อนจะหันมามองน้ำทิพย์ด้วยใบหน้านิ่งๆ
“ฟื้นเร็วจังเลยนะคะ แล้วนี่ไม่เจ็บคอแล้วหรอ”
“ไม่หย่านะคะ บีขอล่ะ”
“จะเซ็นที่นี่หรือที่เขตดีคะ” ศิรินยังคงเอ่ยถามด้วยใบหน้าเรียบเฉยมีเพียงรอยยิ้มที่มุมปากเท่านั้น
“จะที่ไหนบีก็ไม่เซ็นทั้งนั้น อย่าทำอย่างนี้เลยนะคะบีอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคริสถ้าไม่เห็นแก่บีก็เห็นแก่ลูกได้ไหมคะ อย่าทิ้งบีไปได้ไหม”
น้ำทิพย์ดึงศิรินเข้ามากอดและร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายมาวินที่จับมือศิรินอยู่ก็เงยหน้าคนเป็นพ่อไม่เข้าใจว่าทั้งสองคุยอะไรกันแต่เห็นน้ำทิพย์ร้องไห้ก็ดันร้องตามออกมาซะงั้นดูเหมือนจะร้องหนักกว่าน้ำทิพย์ด้วยจนน้ำทิพย์ต้องผละออกมาย่อตัวลงมาหามาวิน
“คนเก่งของป๊าร้องไห้ทำไมครับ”
“มาวินเห็นป๊าบีร้องไห้ มาวินสงสารป๊าบีครับ ป๊าบีเจ็บแผลใช่ไหม”
“ไม่เอานะครับ ไม่ร้องนะ” บอกลูกไม่ให้ร้องแต่ตัวเองก็ร้องออกมาแบบนี้ลูกจะหยุดได้ยังไงน้ำทิพย์ปาดน้ำตาบนใบหน้าของมาวินก่อนจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
“ไม่หย่านะคะที่รัก บีร้องไห้จนเหนื่อยแล้วนะ” น้ำทิพย์กอดศิรินอีกครั้งแต่ศิรินไม่ได้ยกมือขึ้นมากอดเธอเลยสักนิด
“คริสก็เหนื่อยที่ต้องแกล้งบีแล้วเหมือนกัน”
ไรท์ก็เหนื่อยที่จะแกล้งรีดให้ใจหายเล่นแล้วเหมือนกัน
ก็บอกแล้วว่าไม่มาม่า
แค่หน่วงทั้งตอนแล้วแฮปปี้กับประโยคสุดท้ายเท่านั้นเอง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พีคยิ่งกว่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา
เว้ยไรท์เเต่งดีมาก สมหน้าอีพี่บี เจอของจิง แกล้งส่ะหัวใจเกือบหยุดเต้น 5555
อ เอ่อ... อินเฉยเลยตู