ตอนที่ 23 : ซนจนได้เรื่อง
ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับ เพื่อให้น้ำทิพย์ได้พักผ่อน ศิรินให้นมลุกเสร็จก็พาไปนอนเปลที่ทางโรงพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้ เพราะเห็นว่าเธอต้องอยู่เฝ้าน้ำทิพย์ ศิรินเดินมาหาน้ำทิพย์ที่นอนส่งสายตาอ้อนๆอยู่บนเตียง ศิรินนึกๆแล้วก็รู้ว่ามีนาขี้งอแงเหมือนใคร
“นอนได้แล้วค่ะบี..พักผ่อนเยอะๆร่างกายจะได้ฟื้นตัวเร็วๆ”
“บีไม่ง่วงนิคะ” คนบนเตียงทำสายตาละห้อย
“ก็นอนนิ่งๆเดี๋ยวก็หลับไปเองแหละ..ห้ามดื้อสิคะ” ศิรินแอบดุน้ำทิพย์ที่งอแงไม่ยอม ศิรินรู้สึกว่าน้ำทิพย์ซักจจะดื้อกว่ามีนาซะอีก
“คริสก็มานอนกับบีสิคะ” น้ำทิพย์กระพริบตาปริบๆ “นะคะ..ไม่ได้กอดคริสแล้วบีนอนไม่หลับอ่ะ นะๆๆ”
ว่าแล้วก็ส่งสายตาออดอ้อนหนักกว่าเดิม จนศิรินต้องใจอ่อนยอมขึ้นไปนอนด้วย เพราะเตียงของน้ำทิพย์สามารถนอนได้หลายคน พอศิรินยังไม่ทันจะล้มตัวนอนน้ำทิพย์ก็คว้าร่างเล็กมากอดอย่างรวดเร็ว
“เจ้าเล่ห์นักนะบี”
“ก็ถ้าบีไม่อ้อนคริสจะยอมขึ้นมานอนกับบีหรอคะ” ร่างสูงกดจมูกลงบนแก้มขาวเนียนและสูดความหอมเข้าปอดฟอดใหญ่
“เฮ้อ ชื่นใจจัง” น้ำทิพย์ว่าอย่างทะเล้น ศิรินได้แต่ส่ายหน้าหน่อยๆ
“ถ้าชื่นใจก็นอนได้แล้วค่ะ”
“ยังนอนไม่ได้ค่ะ”
ศิรินมองหน้าน้ำทิพย์ เลิกคิ้วสงสัยว่าทำไม ก่อนจะเห็นรอยยิ้มและแววตาเป็นประกายของคนขี้อ้อน
“ยังไม่ได้กู๊ดไนท์คิสเลยนะคะ” ว่าแล้วน้ำทิพย์ก็ทำปากจู่เพื่อให้ศิริน กู๊ดไนท์คิสก่อน ไม่นั้นเธอจะไม่นอน
“เยอะจริงเลยนะบี..แค่ให้นอนหลับเนี่ย”
“เร็วสิค่ะ..ช้ากว่านี้จะนอนไม่หลับแล้วนะ” น้ำทิพย์เร่งเร้าศิริน อย่างเอาแต่ใจคนโดนอ้อนจะทำไงได้ล่ะ ก็ต้องยอมตามใจนะสิ ศิรินโน้มไปแค่จะจุ้บเบาๆเท่านั้น
แต่ดันมาเสียรู้น้ำทิพย์จนได้เพราะร่างสูงกระซับกอดร่างปากพร้อมบดจูบ ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปชกชิงความหวาน เนินนานเท่าไหร่ไม่รู้ น้ำทิพย์พลิกตัวมาอยู่ด้านบนตัวศิริน มือซุกซนก็ล่วงเข้าไปในเสื้อก่อนจะปลดมันทิ้ง น้ำทิพย์เลื่อนไปหน้าจากซอกคอมาหยอกล้อกับก้อนเนื้อทั้งสอง
“อ๊ะ..บี..นั้นของลูก” ศิรินต้องเอ่ยปราม
“จะพ่อจะลูกดื่มก็เหมือนกันแหละค่ะ” น้ำทิพย์ไม่สนยังคงหยอกล้อต่อจนหนำใจ มือเรียวเลื่อนไปด้านล่างแต่ดูเหมือนว่าน้ำทิพย์จะลืมไป ว่ามีสายน้ำเกลือที่ยังไม่ได้ถอด เพราะน้ำทิพย์นอนไปนานเลยต้องให้น้ำเกลือ หมอบอกว่าต้องรอถุงนี้หมดก่อน
“โอ๊ะ”
พอความซนของน้ำทิพย์ทำให้สายน้ำเกลือหลุด เลือดไหลเต็มมือ ศิรินได้ยินน้ำทิพย์ร้องก็ลุกมาดู
“เป็นไงล่ะ ซนจนได้เรื่อง”
“ฮืออ..เจ็บอ่ะ..บีเจ็บ” น้ำทิพย์ทำท่าจะร้องไห้พร้อมกุมมือที่เลือดไหล และอ้อนศิรินสุดฤทธิ์
“ไม่ต้องมาอ้อนเลยนะ..เดี๋ยวจะให้คุณจับฉีดยานอนหลับซะให้เข็ด”
“ใจร้าย” พอได้ยินคำว่าเข็มฉีดยาน้ำทิพย์ก็ทำหน้างอ เพราะน้ำทิพย์กลัวเข็มตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ศิรินรีบจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่ก่อนจะไปตามพยาบาลมาดู
พยาบาลรีบเข้ามาดูว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า ก่อนจะเช็ดเลือดและทำการให้น้ำเกลือใหม่แต่น้ำทิพย์กลับชักมือออกไม่ยอมให้พยาบาลแทงเข็มน้ำเกลือ
“บี..อย่าดื้อสิคะ” ศิรินดุน้ำทิพย์ที่ดื้อไม่ยอมให้พยาบาลใส่สายน้ำเกลือ
“ไม่เอาอ่ะคริส..มันเจ็บอ่ะ..ไม่ใส่แล้วได้ไหมคะ” น้ำทิพย์ทำท่าจะร้องเพราะเห็นเข็มที่พยาบาลถือ
“ไม่ได้นะคะ..ดื้อแบบนี้เมื่อไหร่จะได้กลับบ้านค่ะ”
“ก็บีกลัวนิคะ”
“โตจนเป็นพ่อคนแล้วนะ..ยังไม่เลิกกลัวอีก..อายลูกไหมเนี่ย” ศิรินว่าให้เพราะทำยังไงน้ำทิพย์ก็ไม่ยอม
“อายทำไมค่ะ..ลูกไม่เห็นสักหน่อย” แล้วยังจะเถียงอีก
ศิรินมองหน้าพยาบาลอย่างรู้กัน ศิรินจับมือน้ำทิพย์ให้พยาบาล
“ไม่เอานะคริส..มันเจ็บอ่ะ”
กว่าจะแทงสายน้ำเกลือได้ก็เล่นเอาพยาบาลและศิรินเหนื่อยไปตามกันๆ ที่ยอมเพราะโดนศิรินขู่ว่าจะให้พยาบาลฉีดยานอนหลับให้ พยาบาลก็ร่วมมือโดยหลอกว่าเข็มใหญ่กว่าเข็มน้ำเกลืออีก จนน้ำทิพย์ต้องยอม
“ทนหน่อยนะคะถ้าน้ำเกลือหมดถุงนี้ก็จะเอาออกให้แล้วค่ะ” พยาบาลว่าอย่างยิ้มๆ
“ขอบคุณนะคะคุณพยาบาล” ศิรินกล่าวอย่างเป็นมิตร
“ขอเตือนหน่อนนะคะว่าอย่าทำอะไรกันจนสายน้ำเกลือหลุดอีก เพราะถ้าปอกเข็มหลุดเข้าเส้นเลือดจะเป็นอันตรายเอา”
พยาบาลแอบดุน้ำทิพย์และศิริน เพราะเธอแอบสังเกตเห็นรอยแดงบริเวณคอของศิริน
“ค่ะ”
ศิรินยิ้มแห้งๆให้พยาบาล แต่ร่างสูงที่นอนบนเตียงได้แต่ทำหน้างอ ยกมือที่โดนใส่สายน้ำเกลือไปมาอย่างขัดใจ และมองหน้าศิรินอย่างอนๆ
“ไม่ต้องมางอนเลย ใครกันล่ะซนเอง”
“ยังจะมาดุใส่กันอีก..แล้วใครกันล่ะ ที่ไม่ขัดขืนอ่ะ” น้ำทิพย์ยังเถียงศิรินเหมือนเด็กโดนผู้ใหญ่ดุในเรื่องที่คิดว่าตัวเองไม่ผิด
“ไม่งอนแล้วนะ..นอนได้แล้ว” ศิรินเดินมาห่มผ้าน้ำทิพย์ คนบนเตียงทำแก้มพองลมแล้วชี้นิ้วไป ศิรินเลิกคิ้วไม่เข้าใจ
“ถ้าไม่ทำไม่หายงอนนะ”
ศิรินเลยต้องยอมก้มลงไปหอมแก้มเด็กขี้เอาแต่ใจคนนี้ ไม่นั้นคืนนี้ก็ไม่ได้นอนสักที
“พอใจยังค่ะ”
“ขึ้นมานอนด้วยกันสิ” ร่างสูงส่งสายตาละห้อยกระพริบตาปริบๆอย่างออดอ้อน
“ไม่ค่ะ..ไม่นั้นคืนนี้ไม่ได้นอนสักที”
“แค่นอนกอดเฉยๆ นะคะ..บีสัญญา” น้ำทิพย์ชู้สามนิ้ว
ศิรินก็ใจอ่อนอีกตามเคย แต่คราวนี้น้ำทิพย์นอนกอดเฉยๆจริงๆ เพราะคงกลัวว่าจะโดนพยาบาลจับแทงเข็มน้ำเกลืออีก
“ฝันดีนะคะที่รัก” น้ำทิพย์จุมพิตที่หน้าผากศิรินเบาๆ
“ฝันดีค่ะเด็กดื้อ” ศิรินยืดตัวไปหอมแก้มน้ำทิพย์ก่อนจะซุกตัวเข้ากับอ้อมกอดของร่างสูง แล้วทั้งสองก็เข้าสู่ห้วงนิหราไปพร้อมกัน
หลังจากที่น้ำทิพย์ออกจากโรงพยาบาลได้หนึ่งเดือน คุณพ่อป้ายแดงก็ดูจะเห่อลูกสาวตัวน้อยเอาการ ขนาดมีเวลาพักระหว่างทำงานก็ต้องวิดีโอคอลหาศิริน เพราะอยากเห็นหน้าลูก บางวันถึงขั้นงอแงจะไม่ยอมไปทำงาน อย่างนู้นนั้นนี่สารพัด จนต้องโดนศิรินดุก่อนถึงจะยอม แต่พอเลิกงานน้ำทิพย์ก็รีบกลับบ้านทันที บางทีออกมาก่อนเวลางานตั้งครึ่งชั่วโมง อย่างเช่นวันนี้
"วันนี้ไม่มีเอกสารอะไรแล้วใช่ไหม" น้ำทิพย์เอ่ยถามเลขาคนใหม่ที่ศิรินจัดหามาให้
"ไม่มีแล้วค่ะ..คุณบีมีอะไรหรือเปล่าค่ะ"
"เปล่าค่ะ นั้นบีกลับก่อนนะคะ" น้ำทิพย์ยิ้มน้อยๆให้กับเลขาของเธอ หญิงวัยกลางคนที่ดูจะอายุมากกว่าน้ำทิพย์ตั้งหลายปี ทำให้น้ำทิพย์ต้องเกรงใจอยู่บ้าง แต่ในเมื่อศิรินหามาให้เธอจะขัดอะไรได้
พอน้ำทิพย์จอดรถปุ๊บก็วิ่ง4*100 เข้าบ้านทันทีก่อนจะเข้าไปกอดภรรยาของเธอที่อุ้มลูกสาวอยู่ในห้องนั่งเล่น
"กลับมาแล้วค่าา" ฟอดดดดดด
น้ำทิพย์โอบกอดศิรินจากทางด้านหลังพร้อมขโมยหอมแก้มภรรยาไปหนึ่งที
"มีนาคิดถึงแด๊ดดี๊ไหมค่ะ..ไหนๆขอแด๊ดดี๊อุ้มหน่อยสิคะ"
"ไม่ได้ค่ะบี..ตัวบีสกปก..ไม่อาบน้ำก่อนนะคะ" ศิรินถึงกับดุ
"วันๆบีก็อยู่แต่ห้องทำงานไม่ได้ออกไปไหน..ไม่สกปกหรอก..ขอบีอุ้มหน่อยนะ" น้ำทิพย์ยังดึงดันจะอุ้มให้ได้ แต่ศิรินก็เบี่ยงหนี
"ไม่ได้ค่ะ..ไปอาบน้ำก่อน..แค่แปบเดียวเอง"
"มีนาดูหม่ามี๊สิค่ะ..ไม่ยอมให้แด๊ดดี๊อุ้มหนูเลย" น้ำทิพย์ก้มลงไปอ้อนลูกแทน เด็กน้อยก็มองตาแป๋วก่อนจะดิ้นหน่อยๆ
"ไม่ต้องไปอ้อนลูกเลย..ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ แล้วรีบลงมานะคริสจะได้ไปทำอะไรให้บีทาน"
"ก็ได้ค่ะ" น้ำทิพย์ถึงกับทำหน้างอ ก่อนจะเดินคอตกขึ้นห้องไป แต่ก็ไม่วายหันกลับมาหอมแก้มศิรินและวิ่งขึ้นห้องอย่างไว
เพียงครู่เดียวน้ำทิพย์ก็เดินลงมาด้วยชุดสบายๆ ก่อนจะนั่งลงข้างๆศิรินแต่ว่ามีนาดันหลับไปแล้ว
"เห็นไหมคะ..พอบีอาบน้ำเสร็จทีไรลูกก็หลับไปทุกที บียังไม่ได้เล่นกับมีนาเลยนะ"
ศิรินรู้สึกว่าน้ำทิพย์ชักจะงอแงมากกว่ามีนาซะอีก จนเธออดที่จะปวดหัวไม่ได้กับคุณพ่ออย่างน้ำทิพย์ที่มักจะงอแงได้ตลอดเวลา
"ไม่ต้องมาทำหน้างอใส่คริสเลย..บีดูลูกไปก่อนนะคริสจะไปทำอะไรให้บีทาน"
ศิรินวางมีนาลงบนแปลและให้น้ำทิพย์เฝ้า คนตัวลูกเบ้ปากหนักกว่าเดิม เพราะงอนที่ไม่เคยจะได้เล่นกับลูกเลย
"อย่างอนคริสเลยนะ..เอางี้ไหมคะ เดี๋ยวคริสให้พี่พาเคลียตารางให้บี บีจะได้หยุดมาอยู่กับลูกหนึ่งวันเต็ม"
ได้ยินแบบนี้น้ำทิพย์ก็ยิ้มกว้างอย่างปิดไม่อยู่ เพราะตอนนี้ศิรินถือว่าใหญ่สุดในบริษัทไปโดยปริยาย เมียประธานใหญ่กว่าเสมอ
"จริงนะคะ"
"จริงสิคะ"
ฟอดดด ฟอดด
น้ำทิพย์คว้าศิรินมาหอมแก้มอย่างดีใจ เพราะเธอจะได้อยู่กับลูกสักที
ศิรินโทรให้ประพาเคลียงานให้น้ำทิพย์ได้ลาหยุดหนึ่งวัน ดูคนตัวสูงจะดีใจยกใหญ่ ตื่นแต่เช้าเพื่อจะได้มาเล่นกับลูก
"บีอุ้มลูกได้ยังคะ" น้ำทิพย์ตื่นมาก็ถามศิรินที่ให้นมลูกอยู่
"ไปอาบน้ำก่อนสิคะ..คริสให้นมลูกเสร็จบีก็จะได้อุ้มลูกทั้งวันเลย"
"ก็ได้ค่ะ"
น้ำทิพย์รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำทันที ครั้งนี้น้ำทิพย์อาบน้ำไวกว่าเดิมเพราะกลัวออกมาแล้วลูกสาวจะชิ่งหลับไปอีก ศิรินให้นมลูกเสร็จก็อุ้มเด็กน้อยรอให้พ่อของเขาออกมาอุ้มแทน
"เสร็จแล้วค่ะ"
ศิรินค่อยๆเอามีนาให้น้ำทิพย์อุ้ม เด็กน้อยมองน้ำทิพย์ตาแป๋ว ดีดตัวดิ้นเมื่อได้ยินเสียงของน้ำทิพย์ ศิรินเลยออกมาเตรียมอาหารเช้าให้น้ำทิพย์
"ว่าไงคะมีนา..วันนี้แด๊ดดี๊จะอยู่กับหนูทั้งวันเลยนะ" มีนาดิ้นใหญ่ น้ำทิพย์ก็ชอบใจที่เห็นลูกตอบรับเธอ
น้ำทิพย์อุ้มมีนาไปก็คุยกับเด็กน้อยไป สักพักจนศิรินทำอาหารเช้าเสร็จ มีนาก็ร้องงอแง จนน้ำทิพย์พยายามกล่อมเท่าไหร่ก็ไม่หยุดร้อง น้ำทิพย์ใจเสียนึกว่าลูกเป็นอะไร
"คริสคะ..ทำไมมีนาร้องไม่หยุดเลยค่ะ"
น้ำทิพย์เอ่ยถามศิรินที่เดินเข้ามาพอดี ศิรินเดินเข้ามาดูก่อนจะยิ้มให้สามีเธอ
"ลืมบอกไปค่ะว่าหลังจากมีนาดื่มนมเสร็จลูกจะต้องอึ"
"อึหรอคะ?" น้ำทิพย์เลิกคิ้วถามซ้ำอีกที ก่อนจะมองดูเด็กน้อย
น้ำทิพย์ยื่นมีนาให้ศิรินอย่างซื่อๆ
"บีก็เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกสิคะ..แล้วทำความสะอาดให้มีนาด้วย" น้ำทิพย์ดูจะเอ๋อๆ ไม่น้อย เธอไม่รู้ว่ามันต้องทำยังไง
"แล้วมันทำยังไงละคะ..บีทำไม่เป็นอ่ะ" ศิรินถึงกับขำกับหน้าตาเหลอหลาของน้ำทิพย์ ก่อนจะเข้าไปอุ้มมีนามาจากน้ำทิพย์
"คริสว่าบีไปทานข้าวเถอะค่ะ..เดี๋ยวคริสจัดการเอง"
วันนี้ทั้งวันน้ำทิพย์พึ่งจะรู้ว่าการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งมันไม่ง่ายเลย เธอมองศิรินที่คอยดูแลมีนาเห็นแล้วก็รู้ว่าศิรินต้องเหนื่อยมากแน่ๆ ไหนจะต้องตื่นเช้ามาให้นมลูก เตรียมเสื้อผ้าให้เธอก่อนออกไปทำงานและยังจะทำอาหารเช้าอีก เสร็จแล้วก็ต้องมาเปลี่ยนผ้าอ้อมให้มีนา แล้วทั้งวันก็ต้องคอยดูมีนาไม่ห่าง ศิรินจะได้พักก็ต่อเมื่อมีนาหลับแต่ก็แค่แปบๆ ตกเย็นก็ยังต้องมาโดนน้ำทิพย์งอแงใส่ แต่ศิรินก็ไม่เคยเหวี่ยงเลย ส่วนบางคืนก็ยังต้องมีเวลาให้น้ำทิพย์อีก ไม่นั้นคนตัวสูงจะงอน น้ำทิพย์เห็นแล้วก็สงสารศิริน
"เหนื่อยไหมค่ะคริส" น้ำทิพย์ถามขณะศิรินวางมีนาลงบนแปลแล้ว
"แค่กล่อมลูกหลับเอง ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ" ศิรินว่าอย่างยิ้มๆ
"บีหมายถึงที่ทำทุกวันอ่ะ..เหนื่อยไหม" น้ำทิพย์มองศิรินด้วยสายตาละห้อย
"เหนื่อยค่ะ"
"ให้บีจ้างพี่เลี้ยงให้เอาไหม คริสจะได้ไม่เหนื่อย"
"ถึงจะเหนื่อยแต่มีความสุขค่ะ..แค่ได้เห็นรอยยิ้มของบีกับลูก คริสก็หายเหนื่อยแล้วค่ะ..ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงหรอก"
น้ำทิพย์ดึงศิรินเข้ามากอด เธอเลือกไม่ผิดจริงๆที่รักผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ศิรินยังคงเป็นเหมือนเดิม เธอทำให้น้ำทิพย์สบายใจและยิ้มได้เสมอ
"ขอบคุณนะคะคริส..ที่ยอมเหนื่อยเพื่อความสุขของเรา"
"ก็บีเหนื่อยกับงานนอกบ้านแล้วนิคะ..งานในบ้านให้เป็นหน้าที่คริสนะ"
น้ำทิพย์กระซับกอดศิรินให้แน่นขึ้น ไม่อยากจะปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปเลย น้ำทิพย์รู้สึกโชคดีกว่าใครที่ได้ศิรินมาเป็นแม่ของลูกเธอ
น้ำทิพย์พยายามจะไม่งอแงใส่ศิรินอีกเพราะรู้ว่าคนตัวเล็กเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พอกลับจากที่ทำงานน้ำทิพย์ก็จะรีบไปอาบน้ำเพื่อจะมาอุ้มลูกแทนศิริน แต่เหมือนวันนี้จะศิรินจะดีใจกับอะไรบางอย่าง
“บี..วันนี้มีนาเรียกคริสด้วยนะ”
“จริงหรอคะ”
ดูทั้งคู่จะดีใจมาก เพราะตอนนี้มีนาอายุ11เดือนกว่าแล้วตอนมีนาเริ่มหัดเดินตอน8เดือนว่าดีใจแล้วตอนนี้ดีใจกว่า ด้วยความที่มีพัฒนาการไวกว่าเด็กคนอื่น เลยพูดออกมาได้บางคำ และเริ่มได้ไวกว่าเด็กคนอื่น
“ไหนๆลองเรียกแด๊ดดี๊หน่อยสิคะ”
น้ำทิพย์ก้มลงไปรอฟังว่ามีนาจะเรียกเธออย่างที่เรียกศิรินหรือเปล่า มีนามองหน้าน้ำทิพย์ก่อนจะเอ่ยออกมา
“มี๊” แต่ดันเรียกศิรินซะงั้น
“เรียกแด๊ดดี๊สิคะไม่ใช่หม่ามี๊ซะหน่อย” น้ำทิพย์ถึงกับงอแงใสลูก
พยายามให้มีนาเรียกตัวเองว่าแด๊ดดี๊เท่าไหร่มีนาก็เรียกได้แต่ “มี๊” คำเดียวทำเอาน้ำทิพย์งอนไปเลยที่ลูกไม่เรียก
“ไม่งอนสิคะ..มีนาพึ่งจะเริ่มพูดเอง ให้เวลาลูกหน่อยนะ” ศิรินโอ๋น้ำทิพย์ก่อนไม่นั้นคงงอนไปอีกนาน
“ทำไมลูกยังเรียกคริสแต่ไม่ยอมเรียกบีอ่ะ”
“เดี๋ยวมีนาก็เรียกเองแหละ..งอแงแบบนี้คริสไม่ง้อแล้วนะ”
“ก็ได้ๆ ไม่งอแงแล้วก็ได้ค่ะ..แต่บีจะทำให้มีนาเรียกบีให้ได้”
ภายในผับที่ผู้คนมากมายเหมือนทุกวัน วันนี้น้ำทิพย์มาสังสรรค์กับเพื่อนๆแก๊งน้ำชาเพราะตั้งแต่มีลูกน้ำทิพย์ก็ไม่ได้แตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกเลย แต่วันนี้ที่ศิรินอนุญาตเพราะว่าหนึ่งในแก๊งของเธอกำลังจะสละโสด
“ไงว่าไอ้ปรางดีใจด้วยนะ..ที่ซ่ายอมแต่งงานด้วย” น้ำทิพย์มาถึงก็เอ่ยแซวทันที
“ถ้าไม่ยอมก็ลากเข้าห้องเลยไม่เห็นจะยาก” มะปรางก็ไม่น้อยหน้าตอบกลับน้ำทิพย์ทันควัน
“ว่าแต่แกเถอะไอ้บี..เลี้ยงลูกเป็นไงบ้าง..สนุกป่ะ” เฌอมาลย์ถามขึ้นเพราะเห็นว่าบางวันน้ำทิพย์มาทำงานด้วยสภาพที่เหมือนจะไม่พร้อมทำงานเท่าไหร่
“เหนื่อยเป็นบ้า..ไม่คิดเลยว่าเลี้ยงเด็กคนหนึ่งมันจะยากขนาดนี้”
คำตอบของน้ำทิพย์ทำเอาทุกคนขำ เพราะเสืออย่างน้ำทิพย์กลายเป็นลูกแมวไปซะได้และยังต้องมาเลี้ยงลูกอีก ทุกคนคิดภาพออกเลย
“ว่าแต่อย่างเฮียเนี่ยนะจะเลี้ยงลูก..เป็นภาระเพิ่มให้พี่คริสมากกว่านะสิ” จีน่าที่เหล้าเข้าปากก็แขวะไปทั่ว
“ภาระอะไรล่ะ มีอยู่ครั้งหนึ่งคริสใช้ฉันซักผ้าอ้อมลูกทั้งตระกร้าแถมบอกให้ซักมือด้วยนะ”
น้ำทิพย์ได้ทีก็บ่นชุดใหญ่ เพราะอยู่ต่อหน้าศิรินบ่นไม่ได้ไม่นั้นได้นอนนอกห้องแน่ๆ
“แล้วแกทำไงว่ะ” เฌอมาลย์เอ่ยถามเพราะคนอย่างน้ำทิพย์เคยทำงานบ้านซะที่ไหน
“ถีบเลยดิว่ะ”
“เห้ย!” ทั้งสามถึงกับตกใจที่น้ำทิพย์ตอบแบบนั้น
“นี่เฮียถีบพี่คริสเลยหรอ”
“ถีบจักรยานไปซื้อแฟ๊บมาซักผ้าไงล่ะ”
“ถุย!” แต่ละคนต่างหันหน้าหนี เพราะนึกว่าน้ำทิพย์จะแน่จริง โดยเฉพาะเฌอมาลย์ที่คอยเอาแต่ถามเรื่องลูกน้ำทิพย์ไม่หยุด จนน้ำทิพย์สงสัย
“รู้สึกว่าแกจะถามแต่เรื่องลูกฉัน มีอะไรหรือเปล่าว่ะ”
“ก็..ก็ไม่มีอะไร”
“อย่าบอกนะว่าหญิงท้อง..เห้ย..”
“ยังเว้ย..แต่ก็เร็วๆนี้แหละ” เฌอมาลย์ยกมือลูบท้ายทอยแก้เขินเพราะเธอได้พารฐาไปพบหมอ เรื่องการทำกิฟต์มาแล้ว ตอนนี้ก็แค่รอเท่านั้นเอง
“ดีๆ ฉันจะได้เตรียมตัวต้อนรับแกมาอยู่ในกลุ่มพ่อบ้านกับฉัน” น้ำทิพย์ดูจะดีใจที่จะมีเพื่อนมาร่วมใช่ชะตากรรมในการเลี้ยงลูกแบบเดียวกัน
“เอาเข้าไป..เบื่อจริงๆพวกแต่งงานมีลูกเนี่ย” จีน่าแอบตัดพ้อนิดๆ
“ก็แกมันอ่อนนิหว่า..คนอื่นเขาแต่งงานกันหมดล่ะ..แกยังขอกวางไม่ได้อีก…อ่อนๆๆ” น้ำทิพย์เยาะเย้ยจีน่า เพราะตอนแรก ตอนที่ยังไม่มีใครแต่งงาน จีน่าได้ประกาศวว่าจะเป็นคู่แรกที่จะเข้าประตูวิวาห์ แต่ไหงยังนั่งหงอยแบบนี้
“เอ่อๆๆ ยอมรับว่าอ่อน..แต่พวกเฮียคอยดูนะถ้ากวางตกลงเมื่อไหร่ฉันจะปิดผับฉลองสละโสดเลย”
จีน่ายืนขึ้นประกาศอย่างยิ่งใหญ่ จนมะปรางคว้าตัวให้นั่งลงอย่างเดิม
“อย่าเวอร์ๆ แค่ขอหมั้นไปสามสี่รอบกวางยังปฏิเสธ..นี่จะขอแต่งงาน เฮ้ออ!” มะปรางว่าอย่างเหนื่อยใจ ก็จีน่าดันทำตัวให้กวางไม่ไว้ใจเอง
ทางด้านว่าที่เจ้าสาวคนใหม่อย่างติซ่า ก็พาเพื่อนๆมาปาร์ตี้ที่บ้านของศิริน เพราะศิรินมีลูกเลยออกไปข้างนอกไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่าจะแขกอีกสองคนมาด้วย คนหนึ่งทุกคนรู้จักดี แต่อีกคน..
“คุณเมย์”
ทั้งสามหันไปมองหน้าศิริน เพราะคนที่มากับน้ำตาลคือเมย์ ศิรินมองหน้าเมย์นิ่งๆ ไม่ได้แสดงอาการใดใด
“สวัสดีคะพี่คริส..เอ่อ..จะว่าอะไรไหมคะ..ถ้าตาลจะขอพาคุณเมย์..”
“ตามสบายเลยนะคะ” ศิรินพูดแค่นั้นก็เดินไปนั่งที่โซฟา รฐาขอตัวน้ำตาลมาคุยด้วย
“นี่ตาลไปรู้จักคุณเมย์ได้ยังไง..แล้วยังพามาที่นี่อีก..ไม่รู้หรอว่าสองคนนี้เขาไม่ค่อยจะลงรอยกัน”
“ตาลรู้ค่ะ..แต่ตอนนี้คุณเมย์เขาเปลี่ยนไปแล้วนะคะ”
รฐาทำหน้าไม่เชื่อ ก็จริงอยู่ที่เกือบจะปีมานี่เมย์ไม่มายุ่งกับน้ำทิพย์และศิรินอีกเลย
ย้อนกลับไปเมื่อ10เดือนที่แล้ว
น้ำตาลออกมาเดินเล่นที่ชายหาดของรีสอร์ทก่อนจะเดินชนเข้ากับใครบางคน
“คุณ” น้ำตาลจำเมย์ได้แต่ดูเหมือนอีกคนจะจำเธอไม่ได้
“เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรอคะ” เมย์เลิกคิ้วถามเพราะเธอคิดว่าเธอไม่เคยเจอน้ำตาลมาก่อน
“ฉันเป็นน้องสาวพี่คริสค่ะ..คนที่บุกไปหาคุณกับพี่บีที่คอนโดไงค่ะ” เมย์พยายามนึก ก่อนจะนึกออกวันนั้นเธอไม่ทันได้มองน้ำตาลแค่มองผ่านๆ
“จำได้แล้วค่ะ”
“ว่าแต่คุณมาทำอะไรที่นี่ค่ะ”
“พอดีฉันมาทำโรงแรมที่นี่นะคะ..กำลังจะเปิดอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า ฉันเลยมาพักที่รีสอร์ทนี้รอเปิดโรงแรมค่ะ” เมย์เดินไปก็คุยกับน้ำตาลไปแต่รีสอร์ทที่เมย์พักเป็นรีสอร์ทของน้ำตาลเอง
“ทำไมถึงมาพักที่รีสอร์ทนี้ละคะ” น้ำตาลพอจะรู้ว่าโรงแรมชองเมย์อยู่ห่างจากรีสอร์ทของเธอพอสมควร
“วิวสวยดีค่ะ”
“หว่า..นึกว่าจะชอบเจ้าของรีสอร์ทซะอีก” น้ำตาลว่าอย่างๆขำเพราะเห็นอีกคนทำหน้าเครียดๆ เมย์ยิ้มบางๆเพราะเธอไม่รู้หรอกว่าน้ำตาลคือเจ้าของรีสอร์ท
“แล้วคุณล่ะ..พักที่นี่เหมือนกันหรอคะ” เมย์หันไปถามน้ำตาลบ้าง
“เปล่าหรอกค่ะ..ฉันเป็นเจ้าของที่นี่” เมย์ถึงกับมองหน้าน้ำตาลอย่างไม่เชื่อว่าโลกมันจะกลมอะไรขนาดนี้
“บังเอิญจังเลยนะคะ..แต่ก็หน้าแปลก”
“แปลก? อะไรแปลกหรอคะ” น้ำตาลเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“ก็แปลกที่คุณมาคุยดีกับฉัน ทั้งๆที่ฉันกะจะแย่งแฟนของพี่คุณ” เมย์หัวเราะหน่อยๆ เพราะดูน้ำตาลจะไม่รังเกียจอะไรเธอเลย แถมยังเดินคุยเป็นเพื่อนเธออีก
“คงเป็นเพราะเราหัวอกเดียวกันมั้งคะ” น้ำตาลว่าอย่างยิ้มๆ
“ยังไงคะ” เมย์ไม่เข้าใจในสิ่งที่น้ำตาลพูดว่ามันเหมือนกันยังไง
“แอบชอบคนที่เขามีเจ้าของแล้ว..เพียงแต่ว่าฉันไม่ได้คิดที่จะแย่งเขามาก็เท่านั้น”
“เหมือนคุณกำลังหลอกด่าฉันเลยนะคะ” เมย์หยุดเดินและหันมามองหน้าน้ำตาล อีกคนพึ่งจะรู้ตัวว่าพูดตรงเกินไป
“เอ่อ..เปล่านะคะ..ฉันแค่..”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ..ฉันชอบคนพูดตรงๆ” เมย์ไม่โกรธน้ำตาลเลยสักนิด เธอรู้สึกว่าคุยกับน้ำตาลแล้วรู้สึกสบายใจอย่างประหลาด
“ถ้างั้นฉันขอพูดอะไรตรงๆหน่อยได้ไหมคะ”
“อะไรหรอคะ” เมย์เลิกคิ้วถาม
“ฉันอยากให้คุณเลิกยุ่งกับพี่บีซะ..คนสวยๆแบบคุณไม่เหมาะจะเป็นเมียน้อยใครหรอกนะคะ..หวังว่าคุณจะเข้าใจที่ฉันพูด..โชคดีค่ะ”
น้ำตาลยิ้มให้เมย์จากใจจริงก่อนจะเดินหันหลังให้ เมย์มองน้ำตาลที่กำลังเดินจากไปช้าๆ แต่ใจมันกลับสั่งให้เธอเรียกน้ำตาลไว้
“เดี๋ยวค่ะ”
“คะ?” น้ำตาลหันมามองเมย์อย่าง งงๆ
“ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป..ฉันขอทำความรู้จักคุณได้ไหมคะ”
น้ำตาลมองเมย์อย่างชั่งใจ ผู้หญิงตรงหน้าเธอก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอคิด น้ำตาลมองสบตาเมย์ความรู้สึกมันบอกให้เธอลองดู
“ถ้าไม่รังเกียจเย็นนี้ดินเนอร์กับฉันที่ริมสระน้ำตอน1ทุ่มนะคะ..ฉันจะรอ”
เมย์ได้แต่มองตามแผ่นหลังของน้ำตาลที่เดินห่างออกไปช้า ความรู้สึกแบบนี้ที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน มันรู้สึกดีแบบนี้นี่เอง
“อย่าบอกนะว่ายูกับคุณเมย์” ติซ่าทำหน้าอึ้งๆ รวมรฐากับกวางด้วย
“ยังค่ะ..ตาลกับคุณเมย์เราแค่ดูๆกันอยู่ค่ะ..แล้วที่ตาลพาคุณเมย์มาวันนี้ เธออยากจะมาขอโทษพี่คริส..ตาลคิดว่าถ้าตาลจะคบคุณเมย์จริงๆ ตาลก็ไม่อยากให้คุณเมย์ต้องมีเรื่องบาดหมางกับพวกพี่ๆ ตาลไม่อยากลำบากใจอีกอย่างอยากให้จบกันด้วยดี”
น้ำตาลอธิบายเหตุผลซะยืดยาว เพราะเท่าที่เธอทำความรู้จักกับเมย์ตั้งแต่วันนั้น เมย์ก็เป็นคนน่ารักคนหนึ่ง น้ำตาลเลยอยากให้โอกาสเมย์บ้าง
เมย์เดินเข้ามาหาศิรินที่อุ้มมีนาอยู่เพราะเด็กน้อยพึ่งตื่น
“คุณคริสคะ” เมย์เอ่ยเรียกศิริน คนตัวเล็กหันมามองเมย์ที่ยิ้มให้เธอ ยิ้มที่มาจากใจจริง ศิรินก็ยิ้มตอบ
“นั่งก่อนสิคะ” เมย์โล่งใจไปเพราะนึกว่าศิรินจะไม่ยอมคุยกับเธอซะแล้ว
“ฉันไม่อ้อมค้อมนะคะ..ที่ฉันมาวันนี้เพราะฉันอยากจะมาขอโทษคุณกับทุกเรื่อง..คุณคริสจะไม่หายโกรธหรืออาจจะเกลียดฉันไปแล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ..ถือว่าฉันได้พูดในส่วนของฉันแล้วแค่นี้ฉันก็สบายใจแล้วค่ะ”
ศิรินมองหน้าเมย์ที่เหมือนจะโล่งใจ เพราะได้พูดเรื่องที่ตัวเองอยากจะพูดออกมาหมดแล้ว
“ฉันเกลียดคุณ”
เมย์ถึงกับเหวอไปเลย ที่จู่ๆศิรินก็พูดออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยนั้น ก่อนที่คนตัวเล็กจะคลี่ยิ้มบางๆ
“แต่ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ..ฉันใจกว้างพอที่จะให้อภัยคุณ”
“ขอบคุณนะคะ” เมย์ว่าอย่างดีใจ เธอโล่งใจขึ้นมาทันทีก่อนจะหันไปยิ้มให้น้ำตาล ศิรินมองตามสายตาของเมย์ก้พอจะรู้ว่าระหว่างสองคนนี้ต้องมีอะไรมากกว่าแค่รู้จักกันธรรมดา
“คุณกับตาลมันยังไงกันค่ะ..ไปแอบคุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่” ศิรินเอ่ยถามเมย์
“เรื่องมันยาวค่ะ..แต่ว่าน้องสาวคุณคริสใจแข็งจริงๆเลยนะคะ” เมย์ว่าอย่างยิ้มๆเพราะดูใจกันมาก็นานแต่น้ำตาลยังไม่เอ่ยขอเธอเป็นแฟนเลย
“ตาลเขาเป็นคนใจเย็นค่ะ..ไม่รีบร้อนแต่ถ้าเขารักใครแล้ว..เค้าก็ให้ทั้งใจนะคะ” ศิรินว่าอย่างให้กำลังใจเมย์
“เมย์ทราบค่ะ เพราะตาลเป็นแบบนี้แหละค่ะ..เมย์ถึงยอมรอ”
“คุณเมย์โชคดีมากนะคะ..คนนี้อย่าปล่อยให้หลุดมือเชียว”
“ถึงคุณคริสไม่บอกเมย์ก็ไม่ปล่อยหรอกค่ะ”
ทั้งสี่คนยืนมองศิรินและเมย์คุยกันอย่างสนิทสนม ก็แปลกใจไม่คิดว่าจะได้มาเห็นภาพนี้ เสียงหัวเราะของทั้งสองทำเอาพวกเพื่อนๆไม่รู้ว่าจะต้องรู้ยังไงหรืออารมณ์ไหนดี แต่เห็นทั้งสองปรับความเข้าใจกันได้ก็น่าจะโอเคแล้ว
พอเคลียทุกอย่างเรียบร้อย ทุกคนก็มาฉลองให้กับติซ่าที่กำลังจะสละโสดเร็วๆนี้ เพราะวันนี้ศิรินให้น้ำทิพย์ไปปาร์ตี้สละโสดให้กับมะปรางก่อน ส่วนวันพรุ่งนี้เป็นตาของสาวๆบ้าง เมย์และน้ำตาลก็พากันชวนมีนาคุยและให้มีนาเรียกชื่อตัวเอง
“เรียกน้าตาลสิคะ” มีนานั่งจ้องหน้าน้ำตาลนิ่งๆ
“เรียกอาเมย์ดีกว่า..ไหนๆ เรียกอาเมย์สิคะ” มีนามองหน้าทั้งสองสลับกันไปมา เหมือนจะ งง ว่าสองคนนี่คือใครเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน
“มี๊” และคำเดียวที่มีนาเรียกคือ มี๊ ทั้งสองทำหน้าไม่ต่างจากน้ำทิพย์เลยที่ตอนบังคับให้มีนาเรียกว่าแด๊ดดี๊
ทุกคนเห็นว่ามันดึกแล้วเลยแยกย้ายกันกลับเพราะศิรินจะได้พามีนาเข้านอนด้วย ศิรินอุ้มมีนาขึ้นมานอนพอเด็กน้อยหลับเธอก็ไปอาบน้ำนอนบ้าง แต่รู้สึกว่านอนไม่หลับ หันไปมองนาฬิกาก็จะเที่ยงคืนแล้วแต่น้ำทิพย์ยังไม่กลับ
ศิรินกำลังจะกดโทรหาแต่ก็ชั่งใจไว้ เพราะอยากจะให้น้ำทิพย์ได้สนุกกับเพื่อนๆบ้าง ศิรินเลยนอนเล่นไปพลางและเผลอหลับ ก่อนจะสะดุ้งตื่นอีกทีก็ตอนน้ำทิพย์เปิดประตูเข้ามา
“กลับมาแล้วหรอคะบี” ศิรินลุกจากเตียงไปเปิดไฟ กลิ่นเหล้าจากตัวน้ำทิพย์ลอยมาแตะจมูกเธอแต่ไกล
“ที่ร้ากกกกกกกกกก” น้ำเสียงยานครางไม่ต้องบอกก็รู้มาเมามาก
“ไปนอนที่เตียงก่อนนะเดี๋ยวคริสเอาผ้ามาเช็ดตัวให้” ศิรินพยุงน้ำทิพย์มานอนที่เตียงก่อนจะหาผ้ามาเช็ดตัวให้ร่างสูง แต่น้ำทิพย์กลับคว้าศิรินมานอนลงและขึ้นไปคร่อมร่างบาง
“ลูกหลับแล้วหรอคะ” น้ำทิพย์เอ่ยถามใบหน้าที่แดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ บวกกับสายตาที่หวานเยิ้มเพราะความเมา
“หลับแล้วค่ะ..บีเมามากแล้วนะ..นอนเฉยๆเดี๋ยวคริสเช็ดตัวให้”
“ไม่เอาค่ะ..บีอยากทำอย่างอื่นมากกว่า”
“อะไรระ..อื้อออ”
เสียงศิรินขาดหายเพราะโดนคนด้านบนประทับริมฝีปากแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ศิรินไม่อาจขัดขืนกับสัมผัสที่อ่อนโยนของน้ำทิพย์ได้เลย ทั้งสองเลยมอบความรักให้กันโดยภาษากาย
ไหนที่สุดก็ลงเอยกันหมดทุกคู่แล้วนะ
พี่บีจะมีน้องให้มีนาอีกหรือเปล่าน้า? ข่าวดีหรือข่าวร้ายไม่รู้นะเพราะไรท์จะบอกว่า เรื่องนี้ใกล้จะจบแล้ว
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ขอบคุณครับไรต์
ไม่เอามาม่าแล้วนะไรต์
ใจเย็นๆนะคะแด๊ดดี๊หม่ามี๊