ตอนที่ 20 : ความจริง
“คุณคริส!” ทั้งหมดคืนการแสดงเพราะก่อนหน้านี้เธอนั้นแหละที่เป็นคนส่งข้อความไปให้ศิรินและจัดแจงปลดล็อคประตู
“เลว!” ศิรินโดดขึ้นเตียงไปกระซากผมเมย์ก่อนจะตบไม่ยั้ง น้ำตาลรีบเข้ามาดึงศิรินออกเพราะกลัวจะสะเทือนแก่ลูกในท้อง เมย์ที่โดนตบจนเลือดออกที่มุมปากก็โผเข้ากอดน้ำทิพย์อย่างออดอ้อนออเซาะ
“ปล่อยพี่นะตาล!” ศิรินพยายามสะบัดให้หลุดจากน้ำตาลแต่น้ำตาลลากเธอออกมาสงบสติอารมณ์ข้างนอกก่อน
“ใจเย็นๆนะคะพี่คริส” น้ำตาลพูดด้วยเสียงแผ่วเบา
“ตาลก็เห็นแล้วนิ ยังจะให้พี่เย็นลงอีกหรอ” ศิรินยังคงร้องไห้บวกกับอารมณ์โมโหทั้งโกรธทั้งเสียใจ
“ตาลรู้ว่าพี่คริสโกรธแต่พี่คริสช่วยห่วงลูกในท้องหน่อยได้ไหมคะ..ถ้าเกิดพี่คริสวู่วามแบบนี้..เกิดแท้งขึ้นมาเด็กที่ไม่ได้ผิดอะไรจะไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลกเลยนะคะ”
ศิรินนึกตามที่น้ำตาลพูดเธอยกมือมากุมที่ท้องของตัวเอง น้ำตาก็ไหลมากกว่าเดิม เธอเอาแต่โมโหจนลืมอีกชีวิตหนึ่งที่กำลังจะเกิดมาเลย น้ำทิพย์ที่ใส่เสื้อผ้าเสร็จก็วิ่งออกมาหาศิริน
“คริสคะ..ฟังบีก่อนนะ”
น้ำทิพย์เข้ามาคว้ามือศิรินไปกุมไว้สายตาอ้อนวอนบวกกับรู้สึกผิด ศิรินสะบัดมือน้ำทิพย์ออก
“คริสไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น..เราเลิกกัน!”
“ไม่นะคริส..บีไม่เลิกอ่ะ” น้ำทิพย์คว้าตัวศิรินมากอดไว้แน่น
“ปล่อย!” ศิรินพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของน้ำทิพย์ แต่ดิ้นได้ไม่สุดแรงเพราะเธอห่วงเด็กในท้อง
“บีไม่ปล่อย..ฟังบีอธิบายก่อนได้ไหม” น้ำเสียงที่สั่นเครือของน้ำทิพย์ทำให้ศิรินนิ่งฟัง น้ำทิพย์เล่าทุกอย่างว่าเมย์วางยาเธอ
“บีจะบอกว่าบีไม่ผิดงั้นสิ” ศิรินพูดอย่างไม่เชื่อเท่าไหร่
“บีพูดจริงๆนะคริส”
“ถึงมันจะจริงแต่บีก็โกหกคริสอยู่ดี..ไหนล่ะที่บอกประชุม..นี่หรอประชุมของบีอ่ะ!”
ศิรินโกรธที่น้ำทิพย์เลือกที่จะโกหกว่าติดประชุมเพื่อมาหาผู้หญิงคนนี้ ถึงเรื่องที่น้ำทิพย์บอกจะเป็นเรื่องจริงแต่ถ้าน้ำทิพย์ไม่มาหรือบอกศิรินสักนิดมันคงจะไม่เป็นแบบนี้
“บีขอโทษนะคริส..ขอโอกาสให้บีอีกครั้งได้ไหม” ศิรินถึงกับแค่นยิ้มและหัวเราะในลำคอ
“โอกาสหรอบี..มันหมดไปตั้งแต่วันที่บีสัญญาคราวนั้นแล้ว”
ศิรินผลักน้ำทิพย์ออกอย่างแรงเมย์ที่แต่งตัวเสร็จก็ออกมายืนเกาะแขนน้ำทิพย์หน้าตาเฉย น้ำทิพย์ก็ได้แต่สะบัดออกแต่เมย์ก็ยังยกขึ้นมาเกาะใหม่ ศิรินมองอย่างเจ็บปวดได้แต่บอกตัวเองว่าพอได้แล้ว
“เราจบกันแค่นี้เถอะบี”
ศิรินหันหลังเดินกลับไปที่ประตูน้ำทิพย์รีบวิ่งเข้ามารั้งศิรินไว้แต่น้ำตาลเข้ามาขวางซะก่อน
“อย่ามายุ่ง!” น้ำทิพย์ผลักน้ำตาลให้พ้นทางก่อนจะคว้าข้อมือศิรินไว้ได้ทัน
“อย่าไปเลยนะคริส”
“ปล่อยคริสไปเถอะนะบี..คริสไม่อยากเจ็บอีกแล้วอ่ะ” พูดไปก็ร้องไห้ไปเธอเจ็บมามากพอแล้วกับเรื่องเดิมๆ
“ถ้าบีไม่ให้คริส ไปคริสก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” น้ำทิพย์ลากศิรินให้เดินออกมาหวังจะพากลับบ้าน น้ำตาลรีบมาแย่งศิรินไว้และผลักน้ำทิพย์ออก น้ำทิพย์เริ่มจะโมโหเลยสวนหมัดใส่น้ำตาล
พลั๊ก!
น้ำตาลล้มลงไปกองกับพื้นเลือดไหลออกที่มุมปาก ศิรินตกใจจะวิ่งเข้ามาประคองน้ำตาลแต่น้ำทิพย์คว้าศิรินไว้ก่อนจะออกแรงดึงศิรินให้เดินตาม น้ำตาลรีบลุกขึ้นพร้อมสวนหมัดใส่น้ำทิพย์
พลั๊ก!
น้ำทิพย์ไม่ทันได้ตั้งตัวก็เซล้มไม่เป็นท่า ศิรินก็ตกใจเผลอลืมตัวจะเข้าไปประคองน้ำทิพย์แต่เมย์ออกมาประคองน้ำทิพย์ให้ลุกขึ้นก่อน น้ำทิพย์หมายจะชกน้ำตาลอีก
“หยุดนะบี!..มาทำตัวอัธพาลกับคนของคริส” ศิรินเน้นย้ำคำหลังจนน้ำทิพย์ต้องชะงักไป
“คนของคริสงั้นหรอ?..อย่าบอกนะว่าที่มาหากันบ่อยๆเพราะคริสกับมันเป็นชู้กันอ่ะ”
เพี๊ยะ!
ศิรินตบหน้าน้ำทิพย์อีกครั้งเพราะไม่คิดว่าน้ำทิพย์จะมาดูถูกเธอขนาดนี้ ศิรินยิ่งเสียใจหนักกว่าเดิมอีก
“อย่าคิดว่าคริสต้องเป็นเหมือนบีสิ”
“หรือว่ามันไม่จริง ที่คริสบอกเลิกบีเพราะคริสอยากไปอยู่กับมันใช่ไหม!”
น้ำทิพย์เผลอพูดออกมาด้วยความโมโหเพราะช่วงนี้ศิรินดูจะแปลกไปจนน้ำทิพย์อดคิดไม่ได้กับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ศิรินมองหน้าน้ำทิพย์นิ่งๆไม่เคยคิดเลยว่าน้ำทิพย์จะมองเธอเป็นคนแบบนั้น
“ตอบบีมาสิคริส..หรือว่าคริสกับมันได้กันแล้ว” น้ำตาลทนไม่ได้ที่น้ำทิพย์มาดูถูกศิริน เธอเข้าไปกระซากคอเสื้อของน้ำทิพย์ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างเอาเรื่อง
“อย่าตาล” ศิรินเข้ามาห้ามน้ำตาลไว้ น้ำตาลเลยยอมปล่อยมือออกจากคือเสื้อน้ำทิพย์
“มันจริงอย่างที่บีพูดใช่ไหมคริส”
“ใช่! รู้แบบนี้แล้วจะเลิกกับคริสได้หรือยัง” น้ำทิพย์นิ่งค้างไปกับคำตอบของศิริน น้ำตาลมองหน้าศิรินอย่างตกใจไม่คิดว่าศิรินจะประชดด้วยวิธีนี้
“ยอมรับออกมาจนได้นะคริส..นี่คงอยากไปอยู่กับมันมากสินะ” น้ำทิพย์รู้สึกเสียใจไม่แพ้กันแต่ก็ยังปากดีประชดประชัน
“คริสขอให้บีมีความสุขกับผู้หญิงของบีละกันนะ” ศิรินถอดแหวนจากนิ้วนางข้างซ้ายออกมาก่อนจะโยนใส่น้ำทิพย์ และควงแขนตาลเดินออกไป
น้ำทิพย์มองตามแผ่นหลังของคนรักพร้อมกับทรุดตัวลงกับพื้นอย่างคนหมดแรง มือเรียวเก็บแหวนแต่งงานขึ้นมาและร้องไห้อย่างไม่อายใคร เมย์เดินเข้ามาหวังจะกอดปลอบแต่น้ำทิพย์ก็ผลักเธอออก
“เลิกยุ่งกับฉันสักที!! จำไว้เลยนะต่อให้คริสจะทิ้งฉันไป ฉันก็ไม่มีทางรักผู้หญิงอย่างคุณ!”
น้ำทิพย์ลุกขึ้นและตรงไปที่ลิฟต์หวังจะตามศิรินแต่ก็ไม่ทันเพราะลงมารถของน้ำตาลก็เคลื่อนออกไปแล้ว น้ำทิพย์กลับไปที่รถและขับกลับบ้าน เธอพึ่งนึกได้ว่าไม่ควรประชดศิรินออกไปแบบนั้น
พอขึ้นรถมาศิรินก็เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด น้ำตาลทำได้เพียงนั่งเงียบให้ศิรินร้องไห้ให้พอเพราะหลังจากนี้เธอจะไม่ให้ศิรินต้องมีน้ำตาอีก เธอคิดว่าน้ำตามันไม่เหมาะกับศิรินเอาซะเลย
น้ำตาลพาศิรินมาส่งที่บ้านศิรินลงจากรถและเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านก่อนจะลงมาพร้อมกระเป๋าเดินทาง น้ำตาลมองอย่าง งงๆ
“พี่คริสจะไปไหนคะ” น้ำตาลเอ่ยถามศิริน
“ตาลก็เห็นแล้วนิว่าพี่เลิกกับบีแล้ว..พี่ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่”
“พี่คริสจะไม่อยู่รอพี่บีมาก่อนหรอคะ” น้ำตาลมองศิรินที่กำลังเอากระเป๋าไปใส้ท้ายรถของน้ำตาล
“ถ้าตาลไม่อยากเห็นพี่ต้องร้องไห้อีกช่วยพาพี่ไปจากที่นี่ที” น้ำตาลได้แต่ถอนหายก่อนจะทำตามความต้องการของศิริน น้ำทิพย์เคลื่อนรถเข้ามาจอดพอดี ก่อนจะวิ่งมาหาศิริน
“คริสจะไปไหนคะ”
“เราเลิกกันแล้วคริสก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีก” ศิรินเปิดประตูจะขึ้นไปนั่งบนรถแต่น้ำทิพย์รั้งเธอไว้ก่อน
“คริสยังไม่หายโกรธบีอีกหรอคะ” น้ำทิพย์คิดว่าศิรินก็แค่โกรธเท่านั้น
“คริสไม่ได้โกรธบีแล้วค่ะ” น้ำทิพย์ยิ้มกว้างเมื่อศิรินพูดแบบนั้น “เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว”
ศิรินสะบัดมือน้ำทิพย์และขึ้นรถไปก่อนจะล็อคประตูน้ำทิพย์พยายามทุบกระจกรถให้ศิรินเปิด
“พอเถอะพี่บี” น้ำตาลเอ่ยห้าม
“แกยุ่งไรด้วยวะ..ชอบมากใช่ไหมที่มายุ่งกับเมียชาวบ้านเนี่ย!”
น้ำทิพย์พูดด้วยความโมโหรู้สึกไม่ชอบน้ำตาลเอาซะเลย
“ตอนนี้พี่คริสเป็นอิสระแล้วถ้าตาลจะยุ่งก็คงไม่ผิดอะไร”
“แก!” น้ำทิพย์กระซากคอเสื้อน้ำตาลด้วยความโกรธ น้ำตาลแกะมือน้ำทิพย์และจ้องหน้าน้ำทิพย์อย่างเอาเรื่องเหมือนกัน
“ในเมื่อพี่บีดูแลพี่คริสและทำให้พี่คริสมีความสุขไม่ได้ก็ปล่อยพี่คริสไปเถอะค่ะ..เพราะต่อจากนี้ตาลจะเป็นคนดูแลพี่คริสเอง”
น้ำตาลพูดเสร็จก็เดินไปขึ้นรถฝั่งคนขับน้ำทิพย์เคาะกระจกรถฝั่งของศิริน
“คริสคะ..บีขอโทษ..อย่าไปเลยนะคะ
ศิรินเบือนหน้าหนีพยายามกั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
“คริสคะ..อย่าทิ้งบีไปเลยนะ”
น้ำตาลมองหน้าศิรินแต่ยังไม่ออกรถเพราะศิรินอาจจะเปลี่ยนใจ น้ำทิพย์ยังคงขอโทษและบอกศิรินว่าอย่าไปซ้ำแล้วซ้ำอีก ศิรินหันมามองหน้าน้ำตาล
“ออกรถเลยตาล”
“พี่คริสแน่ใจแล้วนะคะ” น้ำตาลลองถามดูให้ศิรินตัดสินใจดีๆ
“พี่ตัดสินฝจแล้วตาล”
“แล้วลูก..”
“พี่จะเลี้ยงเขาเอง..ไปเถอะตาลอย่าถามอะไรพี่อีกเลยนะ”
น้ำตาลพยักหน้าอย่างเข้าใจพร้อมออกรถโดยไม่สนว่าน้ำทิพย์จะวิ่งตามมาศิรินไม่แม้แต่จะมองเพราะกลัวจะใจอ่อน
“คริส!!!...อย่าทิ้งบีไป!”
น้ำทิพย์ยังคงวิ่งตามน้ำตาลก็ขับแบบชะล้อเพราะอยากจะให้ศิรินตัดสินใจดีๆถึงเธอจะโกรธที่น้ำทิพย์ทำศิรินเสียใจแต่ยังไงน้ำทิพย์ก็เป็นพ่อเด็ก ถ้าเด็กคนนี้เกิดมาแล้วไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ เขาจะรู้สึกยังไง
“ขับเร็วกว่านี้ได้ไหมตาล”
ศิรินหันมาบอกน้ำตาลเพราะขืนช้ากว่านี้ศิรินคงได้สับสนอีกเป็นแน่ น้ำตาลถือว่าศิรินตัดสินใจดีแล้วเลยเร่งเครื่องให้เร็วขึ้นจนน้ำทิพย์เหนื่อยที่จะวิ่งตามเลยทรุดลงกับพื้นและเรียกชื่อศิรินซ้ำๆ น้ำใสๆก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว
น้ำทิพย์เดินกลับเข้ามาในบ้านรู้สึกว่ามันว่างเปล่าไม่มีแล้วผู้หญิงคนที่คอยมายืนรอเวลาเธอกลับบ้านน้ำทิพย์มองไปที่โซฟานั่งนั่งเล่นก่อนภาพวันเก่าๆจะย้อนกลับมา
“กลับมาแล้วหรอคะบี..เหนื่อยไหมคะ..ทานอะไรมาหรือยัง”
น้ำทิพย์ยิ้มน้อยๆก่อนภาพเหล่านั้นจะจางหายไปเหลือเพียงห้องนั่งเล่นที่ว่างเปล่าไม่มีแล้วคนที่คอยถามไถ่เป็นห่วงเป็นใย น้ำทิพย์ก้าวขาเดินขึ้นบันไดภาพที่ภรรยาคนสวยของเธอทำหน้างอที่เวลาน้ำทิพย์กลับบ้านดึก
“ไหนบอกจะกลับก่อนเที่ยงคืน..หนีเที่ยวอีกแล้วใช่ไหมบี”
“เปล่านะคะ..บีไปคุยงานมาจริงๆ”
“คืนนี้หาที่นอนเอาเองล่ะกัน”
ภาพที่ศิรินปิดประตูห้องห้องใส่จนน้ำทิพย์ต้องลงมานอนที่โซฟาห้องนั่งเล่น มันคงจะไม่มีอีกแล้วสินะ
น้ำทิพย์เดินเข้ามาในห้องนอนของเธอกับศิรินภาพตอนที่น้ำทิพย์แอบย่องเข้าห้องเพราะหนีเที่ยวมาและโดนศิรินจับได้แต่ก็เอาตัวรอดมาได้
พรึ้บ!
ไฟในห้องสว่างขึ้นทันทีน้ำทิพย์หันไปมองก็พบศิรินยืนกอดอกจ้องน้ำทิพย์อย่างจับผิด
"ที่รักมายืนทำอะไรตรงนี้คะบีคิดว่าคริสนอนไปแล้วซะอีก" น้ำทิพย์รีบพูดขึ้นอย่างออดอ้อน
"ถ้านอนก็ไม่รู้สิว่าบีหนีเที่ยว" ศิรินพูดเสียงแข็ง
"หนีเที่ยวที่ไหนบีไปทำงานมานะคะพอดีลูกค้าคนนี้เขาเรื่องมากนิดหน่อยกว่าจะเคลียเสร็จคริสอย่างอนบีนะ"
น้ำทิพย์พูดเสียงออดอ้อนแล้วเดินไปกอดศิรินแล้วหอมแก้มคนรักอย่างเอาใจแต่ในใจตอนนี้กลัวแทบตาย
"รีบแก้ตัวเลยนะ"
ศิรินพูดก่อนจะผลักน้ำทิพย์ออกแต่ดันได้กลิ่นน้ำหอมที่มันไม่ใช่ของน้ำทิพย์
"นี่มันกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงนิ" "คุยงานกันยังไงถึงได้มีกลิ่นติดมาแบบนี้ หึ้ม!"
ศิรินโมโหขึ้นมาทันทีแล้วกำลังจะเดินหนีแต่น้ำทิพย์คว้าตัวศิรินไว้ก่อน
"บีไปคุยงานมาจริงๆนะไม่เชื่อคริสถามเลขาบีดูก็ได้"
"แล้วกลิ่นน้ำหอมนี่ละจะอธิบายว่าไง" ศิรินพูดเสียงแข็งและจ้องหน้าน้ำทิพย์เพื่อเอาเรื่องเพราะถ้าน้ำทิพย์ตอบไม่ได้คงได้นอนนอกห้องแน่ๆ
"วันนี้บีนัดคุยกับลูกค้าที่ผับจีน่ามาคะ"
"แล้ว?!" ศิรินพูดเสียงดังจนน้ำทิพย์ตกใจก่อนจะรีบแถออกไป
"ก็ก่อนจะกลับมีน้องคนหนึ่งเขามาแล้วเซมาซบบีแต่บีไม่ได้อะไรเลยนะพอเพื่อนเขามารับบีก็รีบออกมาเลย"
ศิรินจ้องตาน้ำทิพย์เพื่อจับโกหกศิรินรู้ว่าน้ำทิพย์เอาตัวรอดเก่งเพราะถ้าไม่มีหลักฐานศิรินก็เอาผิดน้ำทิพย์ไม่ได้
"จริงๆน้าบีว่าคริสไปนอนเถอะนะเดี๋ยวบีอาบน้ำเสร็จจะตามไป" น้ำทิพย์พูดอย่างออดอ้อนศิรินไม่ตอบอะไรก่อนจะเดินกลับไปนอน
น้ำทิพย์ยิ้มมันทั้งน้ำตาพอเดินมาที่เตียงนอนภาพที่ศิรินคอยปลุกเธอทุกเช้าฉายซ้ำอีกครั้ง
"บีคะบี ตื่นได้แล้วคะ"
"อื้ออออีกแปบนะคะ" น้ำทิพย์บ่นอู้อี้อยู่ใต้ผ้าห่มแต่ก็ยังไม่ยอมลืมตาและก็หลับต่อจนศิรินต้องปลุกอีกที
"ตื่นได้แล้วเดี๋ยวไปทำงานสายนะ" ศิรินยังไม่ยอมแพ้เพราะน้ำทิพย์ปลุกยากยิ่งกว่าอะไรดี
"บีง่วงอ่ะขอนอนต่ออีกหน่อยไม่ได้หรอ"
"ถ้าบีไม่ตื่นคริสงอลจริงๆนะ" แค่ประโยคนี้ประโยคเดียวน้ำทิพย์เด้งตัวลุกขึ้นมานั้งทันทีก่อนจะคว้าตัวศิรินมากอดแล้วทำเสียงออดอ้วน
"เมียใครเนี่ยดุจัง"
"ไปอาบน้ำได้แล้วคะจะได้ลงไปทานข้าวกัน"
"ก็ได้ค้าา"
น้ำทิพย์มองไปที่หมอนของศิรินทำให้นึกถึงตอนก่อนจะเข้านอน ภาพใบหน้าหมวยๆตอนไร้เครื่องสำอางนอนตาแป๋วมองเธอเพราะถ้าคืนไหนไม่ได้กอดศิรินจะนอนไม่หลับ ยกเว้นเวลาโกรธน้ำทิพย์เท่านั้นแหละ
“ทำไมยังไม่หลับคะ” น้ำทิพย์เอ่ยถามคนที่นอนตาแป๋วมองเธออยู่
“ก็รอบีอาบน้ำเสร็จนิคะ”
“จะอ้อนอะไรบีอีกล่ะ..ไหนลองบอกมาสิ” น้ำทิพย์ขึ้นมานั่งบนเตียงพลางถามคนที่หน้าอ่อนกว่าวัย
“ก็รอบีมากอดไง..ไม่นั้นคืนนี้คริสคงนอนไม่หลับ..กอดหน่อยน้า นะๆๆ” ศิรินพูดด้วยเสียงออดอ้อน
“ถึงไม่ขอบีก็กอดอยู่แล้ว” น้ำเสียงที่อ้อนเป็นเด็กน้อยทำให้น้ำทิพย์หมั่นไส้ไม่ได้ก่อนจะสวมกอดและหลับไปพร้อมกัน
ไม่ว่าจะมองไปทางไหนน้ำทิพย์ก็เห็นเป็นภาพของศิรินไปหมด น้ำทิพย์พึ่งจะรู้ว่าการไม่มีศิรินอยู่มันอ้างว้างเกินกว่าที่จะอยู่คนเดียว เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าการมีศิรินอยู่ข้างๆมันมีความสุขมากแค่ไหน
มองไปยังตู้เก็บของที่ปลายเตียงมันเป็นของขวัญที่ทั้งสองต่างให้กันในวันสำคัญ ศิรินค่อยดูแลปัดฝุ่นและเช็ดทำความสะอาดจนไม่มีแม้แต่ฝุ่นเกาะบ่งบอกว่าเธอเอาใจใส่มันเป็นอย่างดี
น้ำทิพย์คว้าหมอนที่ศิรินเคยหนุนมากอดไว้ พลางคิดถึงเจ้าของมันกลิ่นสบู่อ่อนๆของศิรินยังคงติดอยู่ น้ำทิพย์ก้มหน้าซุกลงบนหมอนและร้องไห้ออกมา จนน้ำตาไม่มีจะให้ไหลแล้ว
น้ำทิพย์ไม่อยากจะอยู่ที่บ้านเพราะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ภาพของศิรินเต็มไปหมด น้ำทิพย์เลยมาหาจีน่าที่ผับเพราะอยากดื่มเพื่อจะได้ทำให้หายคิดถึงศิรินน้อยลงบ้าง
ส่วนศิรินก็มาอยู่ที่รีสอร์ทของน้ำตาลเธอโทรบอกเพื่อนๆของเธอหมดแล้วแต่ห้ามไม่ให้บอกน้ำทิพย์ พวกเพื่อนๆก็ต่างเห็นใจทั้งคู่ แต่ถ้านึกย้อนกลับไปถือว่าศิรินอดทนกับความเกเรของน้ำทิพย์มามาก มันคงจะถึงขีดจำกัดแล้วจริงๆแต่ยังไงก็ไม่อยากให้ทั้งคู่เลิกรากันแบบนี้เลย
“พี่คริสคะ..มานั่งตากลมแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกค่ะ” น้ำตาลถือผ้าคลุมมาคลุมไหล่ให้ศิริน
“พี่มานั่งมองหระอาทิตย์ตกดินน่ะ” ศิรินตอบยิ้มเพราะเธอรู้สึกสบายใจและชอบที่จะมองมัน
“เหมือนเดจาวูเลยนะคะ” น้ำตาลว่าอย่างขำๆ
“เดจาวูยังไงอ่ะ” ศิรินทำหน้าไม่เข้าใจ
“ก็สองเดือนก่อนพี่คริสก็มานั่งมองพระอาทิตย์ตกดินแบบนี้จนตาลต้องเดินออกมาตามไงคะ” ศิรินนึกย้อนจนจำได้เพราะตอนนั้นเธอก็ทะเลาะกับน้ำทิพย์มาเหมือนกัน
“นั้นสิเนาะ..ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีวันนี้อีก” ความหมายของศิรินไม่ใช่การมองพระอาทิตย์ตกดินหรอก แต่หมายถึงเรื่องน้ำทิพย์ต่างหาก
“ตาลถามอะไรพี่คริสหน่อยสิคะ”
“อะไรหรอ” ศิรินเอียงคอมองน้ำตาล
“พี่คริสตัดสินใจดีแล้วใช่ไหมคะ..ว่าจะเลิกกับพี่บีจริงๆ” ศิรินมองหน้าน้ำตาลเพราะน้ำตาลเอาแต่ถามประโยคนี้กับเธอบ่อยๆ
“พี่ว่าบ้างทีพี่กับบีอาจจะไม่ใช่คู่กันก็ได้มั้ง” ศิรินพูดตัดพ้อตัวเอง
“ถ้าวันหนึ่งพี่บีเขาพิสูจน์ตัวเองได้ว่าเขาจะมีแค่พี่คริสคนเดียว..พี่คริสจะให้โอกาสพี่บีไหมคะ”
“ไม่รู้สิตาล..พี่ตอบไม่ได้หรอก..แต่ตอนนี้ถ้าให้พี่กลับไปพี่คงทำไม่ได้..ภาพทุกอย่างมันยังติดตาและคอยเตือนใจพี่ตลอดว่าอย่ากลับไปให้เสียใจอีก”
น้ำเสียงสั่นเครือคล้ายคนจะร้องไห้ ศิรินก้มหน้าลงซ่อนน้ำตาเอาไว้ น้ำตาลพอจะเข้าใจว่าศิรินคงจะทนมามากพอแล้ว
“พี่คริสคะ” น้ำตาลเอ่ยเรียกศิรินด้วยเสียงแผ่วเบา หล่อนเงยหน้ามามองน้ำตาล
“จะเป็นไปได้ไหมคะ..ถ้าตาลจะขอดูแลพี่คริส”
“ก็ที่ทำอยู่เนี่ยไม่เรียกว่าดูแลหรือไง” ศิรินเอ่ยถามเพราะตั้งแต่มาที่นี่น้ำตาลคอยดูแลเธอทุกอย่าง
“ตาลหมายถึงในฐานะอื่นที่ไม่ใช่น้องสาว..ตาลขอเป็นคนนั้นได้ไหมคะ”
ศิรินมองหน้าน้ำตาลนิ่งๆ เธอรู้ว่าน้ำตาลคิดยังไงเธอไม่ปฏิเสธเลยว่าน้ำตาลเป็นคนที่ดีคนหนึ่ง ศิรินสบายใจทุกครั้งที่อยู่กับน้ำตาลแต่ตอนนี้เธอไม่พร้อมจะมีใครทั้งนั้น
“อย่าเลยตาล..พี่ยังไม่พร้อมจะมีใครตอนนี้อ่ะ”
ศิรินไม่อยากจะให้ความหวังน้ำตาล เพราะยังไงตอนนี้ในใจเธอก็มีแต่ผู้หญิงที่ชื่อน้ำทิพย์เท่านั้น
“ไม่เป็นไรค่ะ..ตาลรอได้ไหม”
“อย่ารอเลยตาล..พี่ไม่อยากให้ตาลมาเสียเวลากับพี่นะ..ตาลยังมีโอกาสได้เจอคนดีๆอีกเยอะ”
“เป็นการปฏิเสธที่สุภาพมากเลยค่ะ” น้ำตาลว่าอย่างยิ้มๆ
“โอเคค่ะ..ตาลยอมก็ได้นั้นตาลขออยู่ข้างๆพี่คริสแบบนี้ตลอดไปนะคะ” ศิรินแอบคิดว่าถ้าเธอเจอน้ำตาลก่อนที่จะเจอน้ำทิพย์เธอคงหลงรักน้ำตาลและตอบรับน้ำตาลไปแล้วแหละ
“ขอบคุณนะตาล..ขอบคุณจริงๆ”
น้ำทิพย์ดูโทรมลงไปเยอะตั้งแต่ไม่มีศิริน มื้อเช้าแทบไม่ได้แตะเพราะทนคิดถึงแต่กับข้าวฝีมือศิริน เสื้อผ้าที่ศิรินเคยจัดแจงให้เดี๋ยวนี้น้ำทิพย์ก็ต้องทำเองหมดแต่ยังดีที่แม่บ้านคอยรีดและเก็บเข้าตู้ให้ไม่นั้นน้ำทิพย์คงจะใส่เสื้อผ้ายับๆมาทำงาน เฌอมาลย์เดินเข้ามาหาน้ำทิพย์มองสภาพของเพื่อนตัวเองเหมือนคนพึ่งสร่างเมา เพราะหลังเลิกงานน้ำทิพย์ก็จะไปดื่มที่ผับจีน่า เวลากลับบ้านไปจะได้นอนหลับ ไม่ต้องนั่งคิดถึงศิริน แต่พอตื่นเช้ามาก็คิดถึงเหมือนเดิมและมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“เพลาๆบางเถอะว่ะไอ้บี ช่วงนี้แกดื่มหนักไปแล้วนะ..ร่างพังพอดี”
เฌอมาลย์เอ่ยเตือนก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามน้ำทิพย์ แต่น้ำทิพย์กับทำหน้าพะอืดพะอม
“เป็นไรว่ะ..อย่าบอกว่าแฮงค์”
“แกใช่น้ำหอมอะไรว่ะโคตรเหม็นเลย” น้ำทิพย์ยกมือมาปิดจมูก เฌอมาลย์ก้มลงดมกลิ่นน้ำหอมของตนมันก็ไม่ได้เหม็นสักหน่อย
“พอดีหญิงเปลี่ยนน้ำหอมกลิ่นใหม่ให้ฉันน่ะ..ออกจะหอม..แกลองดมดูดีๆ”
เฌอมาลย์โน้มตัวมาใกล้น้ำทิพย์จนน้ำทิพย์ทนไม่ไหว วิ่งเข้าห้องน้ำและอาเจียนออกมาเฌอมาลย์วิ่งเข้าไปดูอาการน้ำทิพย์ดูเหมือนว่าจะหนักเอาเรื่อง
“แกถอยออกไปห่างๆฉันเลย..เหม็นว่ะ”
น้ำทิพย์ยกมือห้ามไม่ให้เฌอมาลย์เข้าใกล้เพราะเหม็นกลิ่นน้ำหอมอย่างรุนแรง เฌอมาลย์คิดว่าน้ำทิพย์คงจะแฮงค์เลยพาลไปทั่ว
เที่ยงนี้เฌอมาลย์ชวนน้ำทิพย์ไปทานข้าวเพราะดูน้ำทิพย์ซูบลงไปเยอะ น้ำทิพย์ก็บอกไม่หิวแต่อยากทานเค้กมากกว่าเฌอมาลย์ถึงกับตกใจ คนอย่างน้ำทิพย์อยากทานเค้ก
“แกเนี่ยนะอยากกินเค้ก..น้ำจะท่วมกรุงเทพเปล่าว่ะ”
“ไม่รู้ว่ะ..ก็คนมันอยากอ่ะ..แกช่วยไปซื้อให้หน่อยสิ..เอาเค้กช็อคโกแลตนะขอหนึ่งปอนด์”
“หนึ่งปอนด์!..แกจะเอามาเป่าเทียนวันเกิดหรือไง” อยากทานเค้กว่าแปลกแล้วนี่ยังสั่งอีกหนึ่งปอนด์
สุดท้ายเฌอมาลย์ก็สั่งเลขาให้ไปซื้อมาให้น้ำทิพย์ พอได้เค้กมาเท่านั้นแหละน้ำทิพย์ใช้เวลาไม่นานก็ทานจนหมดเกลี้ยง เฌอมาลย์ได้แต่มองอย่างอึ้งๆ
“ไอ้บี..แกไม่สบายป่ะว่ะ”
“ไม่นิ..ก็สบายดี” น้ำทิพย์ที่ทานเค้กเสร็จก็ดูจะอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย จนเฌอมาลย์ประหลาดใจ
และน้ำทิพย์ก็สั่งให้ซื้อมาให้อีกหนึ่งปอนด์เพื่อเอากลับบ้าน
เฌอมาลย์กลับมาที่บ้านก็นึกถึงตอนที่เห็นน้ำทิพย์ทานเค้กช็อคโกแลตจนหมดเพียงคนเดียวในเวลาไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ รฐาเห็นเฌอมาลย์เอาแต่นั่งเหม่อจนต้องเอ่ยถาม
“เป็นไรคะเครียดเรื่องงานหรอ”
“เปล่าคะ..เครียดเรื่องไอ้บีมากกว่า” รฐาเอียงคอมองเฌอมาลย์
“บีเป็นอะไรหรอคะ”
“ช่วงนี้มันทำตัวแปลกๆนะสิ”
“แปลกยังไงคะ” เฌอมาลย์มองหน้ารฐาก่อนจะเล่าให้ฟังถึงอาการแปลกของน้ำทิพย์
“ก็วันนี้ตอนพลอยไปหามันพอเข้าไปใกล้มันนะมันบอกว่าเหม็นน้ำหอมที่พลอยใส่แถมอาเจียนออกมาด้วย..ยังมีอีกนะตอนกลางวันมันสั่งเค้กช็อคโกแลตมาทาน”
“แปลกยังไงคะแค่ทานเค้กเอง”
“ไม่แปลกหรอกคะ..ถ้ามันไม่ทานตั้งหนึ่งปอนด์ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง”
รฐาก็กับอึ้งก่อนจะคิดตามที่เฌอมาลย์บอกอาการแบบนี้มันเหมือน..
“อาการเหมือนคนแพ้ท้องเลย” รฐาเอ่ยเบาๆ
“หญิงว่าไงนะคะ..แพ้ท้องงั้นหรอ..เป็นไปไม่ได้หรอกไอ้เนี่ยนะจะท้อง..ถ้าเป็นคริสว่าไปอย่างเพราะถ้าคริสท้องไอ้บีคงจะแพ้ท้องแทนเมีย”
“แพ้ท้องแทนนะหรอ” รฐาเอ่ยอย่างตกใจจนเฌอมาลย์รู้สึกว่ารฐาต้องมีอะไรแน่ๆ
“ทำไมหรอคะ”
“เอ่อ..ปะ..เปล่าหรอกค่ะ” รฐาเบนหน้าหนีไม่สบตาเฌอมาลย์
“เวลาหญิงโกหกหญิงจะไม่สบตาพลอยและเอาแต่หันหน้าหนี..ตกลงหญิงปิดบังอะไรพลอยอยู่คะ”
เฌอมาลย์เอ่ยเสียงเข้มนานๆทีเฌอมาลย์จะเป็ยฝ่ายข่มรฐาบ้าง
“เอ่อ..คือ”
“บอกพลอยมาเถอะค่ะ..สามีภรรยาไม่ควรมีความลับต่อกันนะคะ”
“คือคริส...”
“คริสทำไมคะ” เฌอมาลย์มองรฐาอย่างเอาคำตอบ
“คริสท้องค่ะ” รฐาตัดสินใจบอกเฌอมาลย์เพราะไหนๆก็ปิดไม่อยู่แล้ว
“ว่าไงนะ..หญิงไม่ได้ล้อพลอยเล่นใช่ไหม” เฌอมาลย์ตกใจและเอ่ยถามรฐาให้แน่ใจอีกครั้ง
“จริงค่ะพลอย..แต่คริสไม่ให้หญิงบอกบี”
เฌอมาลย์ถึงกับกุมขมับอดสงสารน้ำทิพย์ไม่ได้ โดนเมียเทแล้วยังแพ้ท้องแทนโดยไม่รู้เลยว่าศิรินกำลังตั้งท้องลูกของตัวเองอยู่
น้ำทิพย์เดินเข้ามาในบ้านในมือถือกล่องเค้กก่อนจะเอาไปแช่ตู้เย็น พลางถอนหายใจไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงอยากทานเค้กช็อคโกแลตเพราะมันเป็นของโปรดของศิริน เมื่อก่อนน้ำทิพย์ไม่ชอบที่จะทานมันเลยไม่แม้แต่จะทานเลยด้วยซ้ำ
น้ำทิพย์ขึ้นมาบนห้องนอนอาบน้ำชำระร่างกายให้สดชื่นก่อนจะเปิดตู้เสื้อผ้าก็ยังคงมีเสื้อผ้าของศิรินอยู่บางส่วน และชุดนอนลายสติซที่เป็นชุดนอนคู่ที่ศิรินบังคับให้น้ำทิพย์ซื้อและใส่นอนคู่กันแต่น้ำทิพย์ปฏิเสธจะใส่มันทุกครั้ง วันนี้น้ำทิพย์เลยหยิบมันมาใส่
ร่างสูงล้มตัวลงนอนคว้าหมอนศิรินมานอนกอด ความคิดถึงเจ้าของหมอนถาถมมาทำเอาน้ำทิพย์รู้สึกเหงา ไม่อยากจะนอนกอดหมอนอีกแล้วอยากกอดเจ้าของมันมากกว่า
จะหนึ่งเดือนแล้วที่น้ำทิพย์ไม่ได้เจอหน้าศิริน จะไปหาศิรินก็คงไม่อยากจะเจอเธอ น้ำทิพย์คิดเพียงแค่ว่าถ้าศิรินอยู่กับน้ำตาลแล้วมีความสุขเธอก็พร้อมที่จะเห็นมีความสุขของศิริน ถึงแม้ในใจจะอยากให้ศิรินกลับมาก็ตามน้ำทิพย์คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนเผลอหลับไป
Rrrr Rrrr Rrrr
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำเอาน้ำทิพย์ต้องคว้ามันมากดรับโดยไม่สนใจจะดูเบอร์เลย
“ฮัลโหล” น้ำเสียงงัวเงียของน้ำทิพย์ ปลายสายรู้เลยว่าน้ำทิพย์ยังไม่ตื่น
“ตื่นเดี๋ยวนี้เลยไอ้บี”
“มีไรแต่เช้าว่ะ..ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าวันนี้ฉันไม่เข้าบริษัท”
“ถ้าแกไม่ตื่นแกจะไม่ได้เจอคริส” พอได้ยินชื่อศิรินน้ำทิพย์ก็เด้งตัวขึ้นมาทันที
“หมายความว่าไงว่ะ”
“รีบไปอาบน้ำก่อนเถอะเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง”
น้ำทิพย์รีบอาบน้ำแต่งตัวด้วยความว่องไว ก่อนจะออกจากบ้านระหว่างทางที่ขับรถก็คุยโทรศัพท์กับเฌอมาลย์ไปด้วยว
“จะบอกได้ยังว่ะว่าให้ฉันไปหาที่ไหน”
“มาที่โรงพยาบาลxxx”
“ไปทำไมว่ะ?” น้ำทิพย์ดูจะไม่เข้าใจว่าเฌอมาลย์นัดเธอไปที่โรงพยาบาลทำไม
“ก็พาเมียแกไปพบหมอไง”
“คริสเป็นอะไร? แล้วตอนนี้คริสเป็นยังไงบ้าง?” น้ำทิพย์ดูจะร้อนร้น
“คริสไม่ได้เป็นไรหรอกแค่มาตรวจครรภ์”
“ตรวจครรภ์?”
“เมียแกท้อง”
“ท้อง!” น้ำทิพย์ถึงกับตกใจ เฌอมาลย์เลยอธิบายว่าศิรินท้องได้ยังไงเพราะรฐาพึ่งบอกเธอเมื่อคืน น้ำทิพย์รู้แบบนั้นก็รีบขับรถไปหาศิรินที่โรงพยาบาลทันที ในใจก็ดีใจที่จะได้เจอศิริน อีกใจก็ดีใจที่เธอกำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว
“รอพ่อก่อนนะ..พ่อกำลังจะไปรับหนูกับแม่กลับบ้าน” น้ำทิพย์เอ่ยออกมา
หน่วงทั้งตอน แต่งไปก็หน่วงไป หลังจากนี้จะไม่มีม่ามาล้าวววว!
พี่บีจะไปรับลูกกับเมียกลับบ้านแล้วเด้อ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หวั่งว่าตอนหน้าดราม่าจะไม่มีแล้วนะคะ