ตอนที่ 16 : พอกันที (รีไรท์+ปรับเนื้อหา)
หลังจากวันนั้นหนึ่งอาทิตย์น้ำหวานก็คอยทำหน้าที่ขัดขวางเมย์ตามที่บีบอก และเมย์ก็หงุดหงิดออกไปทุกครั้งจนตอนนี้ผ่านมาสองอาทิตย์แล้วเมย์ก็หายไปไม่โผลมาอีก บีก็คิดว่าคงถอดใจไปแล้วมันก็เป็นผลดีต่อบีที่จะได้ไม่ต้องมานั่งระแวงว่าเมย์จะโผล่มาตอนไหนอีก
ช่วงนี้บีไม่ออกไปเกเรที่ไหนเลยทำงานเสร็จก็กลับบ้านทันทีคริสก็ดูเอาใจบีเป็นพิเศษแบบนี้ไงล่ะที่ทำให้บีไม่อยากไปไหนอยากแต่จะกลับบ้านให้มันเร็วๆ
งานก่อสร้างโรงแรมของเมย์เริ่มขึ้นโครงไปแล้วพลอยเลยต้องมาคุมเข้มเป็นพิเศษเพราะไม่อยากให้งานออกมามีปัญหา ส่วนบีจะเข้ามาบางครั้งเท่านั้นเพราะต้องมาตรวจเช็ควัสดุที่ใช้ว่ามีคุณภาพหรือเปล่า วิศกรทำงานแปลนที่วางไว้ไหมรวมๆ ก็ออกมาดีไม่มีปัญหา
แต่ว่าโรงแรมของเมย์ที่สร้างอยู่หัวหินการที่น้ำทิพย์จะไปๆ มาเลยดูจะลำบากแต่บีไม่คิดจะค้างเพราะอยากกลับบ้านไปหาคริสไม่อยากให้อยู่คนเดียวส่วนพลอยต้องอยู่ที่นี่เลยหญิงก็มาอยู่ด้วยเพราะไม่ไว้ใจ
สามเดือนแล้วโรงแรมของเมย์เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นบีเลยไม่ต้องมาดูแล นานทีจะมาสักเดือนละสองครั้งเพราะยังไงพลอยก็ดูอยู่แต่งานที่บริษัทก็หนักเอาการเอกสารทุกอย่างที่เป็นของพลอยตกมาอยู่ที่บีหมด
เพราะบีให้พลอยทำงานนั้นแค่อย่างเดียวเพื่อกันเมย์ออกไปและบียอมเหนื่อยดีกว่ามีปัญหาที่หลัง แต่ดูเหมือนวันนี้โชคจะไม่เข้าข้างบีเลยคนคุมงานโทรมาบอกว่าที่ไซต์งานมีปัญหาส่วนพลอยต้องดูแลหญิงเพราะดันป่วยกะทันหันเนื่องจากเข้าฤดูฝนเลยทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน
“คริสคะ..บีต้องไปดูงานที่หัวหินนะคะ..เอาไว้จะรีบกลับนะ”
‘ขับรถดีๆนะคะ..ไม่ต้องรีบคริสเป็นห่วง’
“ค่ะ”
บีโทรบอกคริสเสร็จก็ขับรถไปหันหินทันทีพอไปถึงก็เห็นว่าโครงสร้างเกิดการทรุดตัวเพราะรับน้ำหนักไม่ไหวเหล็กที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน
“ทำไมถึงใช้เหล็กที่มีไซต์ที่เล็กกว่าล่ะ..คุณเป็นวิศวกรคุณก็น่าจะรู้นี่ว่ามันรับน้ำหนักไม่ไหว” บีต่อว่าวิศวกรยกใหญ่
“ผมอยู่วงการนี้มากี่ปีผมรู้ดีว่าควรทำยังไงเด็กอย่างคุณจะเอาอะไรมาสู่ประสบการณ์กว่าสี่สิบปีอย่างผม” วิศวกรยังคงเถียงเพราะเขาแก่กว่าและเสียหน้าที่โดนเด็กอย่างบีต่อว่า
“เหล็กที่คุณใช้มันเล็กกว่าเหล็กที่เราสั่งตั้งครึ่งถ้าขืนคุณยังดึงดันไม่ยอมโรงแรมหลังนี้ได้มีปัญหาอีกแน่ๆ แล้วคนที่มีประสบการณ์สี่สิบปีอย่างคุณจะรับผิดชอบไหวไหมรื้อทั้งหมดเดี๋ยวนี้”
บียืนกรานสั่งให้รื้อเพราะไม่นั้นโครงสร้างโรงแรมนี้ได้ถล่มลงมาทับคนตายแน่ๆ ถ้าเป็นแบบนั้นเธอรับผิดชอบไม่ไหวหรอกนะ แต่วิศวกรก็ยังทำหน้าไม่พอใจแถมยังพูดออกมาเซ็งๆอีก
“เสียเวลาตาย”
“ถ้าคุณไม่ทำฉันว่าคนมีประสบการณ์สี่สิบปีอย่างคุณคงหางานใหม่ได้นะ” วิศวกรมองหน้าบีอย่างไม่พอใจก่อนจะยอมทำตามที่บีสั่งและบอกให้ลูกน้องรื้อทั้งหมด
บีโทรบอกคริสว่างานมีปัญหามากกว่าทีคิดคงจะกลับช้าหน่อยคริสอดที่จะเป็นห่วงบีไม่ได้แต่บีก็ยืนยันว่ายังไงจะกลับไปหาคริสแน่นอนคริสเลยยอม
บียืนคุมงานอยู่นานแต่เหมือนว่าฟ้าฝนจะไม่เป็นใจอยู่ก็ตกหนักขึ้นมาซะอย่างนั้น ลูกน้องเลยมาบอกให้บีกลับบ้านพักที่พลอยอยู่ก่อน ส่วนงานที่ไซต์คงจะทำต่อไม่ได้บีเลยขับรถมารอจนกว่าฝนจะหยุดตก
บีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรบอกคริสแต่ศิรินก็บอกว่าถ้ามันดึกเกินไปก็ให้ค้างที่นั่นไปเลย ดูท่าว่าฝนจะไม่หยุดตกง่ายๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นบีรีบเดินมาเปิดนึกว่าเป็นพลอยแต่ผิดคลาด
“คุณเมย์”
“อ้าวคุณบี..คุณพลอยล่ะคะ” เมย์ตกใจก่อนจะยืนตัวสั่นเพราะตากฝนมา
“ฉันว่าคุณเข้ามาก่อดีกว่านะคะ” บีเอ่ยชวนเพราะไม่อยากใจร้ายปล่อยให้อีกคนยืนตัวสั่นเป็นลูกนกแบบนั้นหรอก
“คุณตากฝนมาขนาดนี้ฉันว่าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีไหมคะ” บีเดินเข้าไปเอาเสื้อผ้าในรถของตัวเองมาให้เพราะเธอมักจะเอาติดรถไว้เปลี่ยนเวลาจำเป็นที่ต้องไปต่างจังหวัด
หลังจากที่บีเอาเสื้อผ้าให้เมย์เปลี่ยนแล้วก็ออกมารอข้างนอกแต่ที่บีแปลกใจคือเมย์มาที่นี่ทำไมร่างเล็กเดินออกมาในเสื้อเชิ้ตกางเกงขาสั้นก่อนจะมานั่งลงบนโซฟาข้างๆ บี
“ดูคุณจะแปลกใจมากนะคะที่เจอฉันที่นี่” เมย์มองออกเพราะสีหน้าบีมันชัดเจนขนาดนั้น
“แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่ล่ะคะ” บีก็ไม่ได้อยากจะเข้าข้างตัวเองหรอกนะว่าบางทีเมย์อาจจะรู้และตามเธอมาก็ได้
“นี่คุณกำลังคิดว่าฉันตามคุณมาหรอคะ” บีถึงกับอ้าปากค้างเพราะดูเหมือนเมย์จะรู้ความคิดของเธอไปซะหมดแล้วอีกคนก็ยิ้มออกมา
“ฉันจะมาคุยเรื่องโรงแรมกับคุณพลอยน่ะค่ะ พอมาถึงฝนก็ตกซะก่อนเลยว่าจะขอมาหลบฝนที่นี่..ก็ไม่คิดว่าจะเจอคุณ” บีโล่งใจไปอย่างน้อยเมย์ก็ไม่ได้ตามเธอมา
บีมองไปยังด้านนอกฝนยังคงตกหนักและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลยพลางมองนาฬิกาก็ปาไปจะสองทุ่มแล้วก่อนจะหันมามองหน้าเมย์เพราะถ้าเธอต้องค้างที่นี่กับเมย์คงไม่ดีแน่ๆ
“คุณคงไม่สบายใจสินะที่จะค้างกับฉันที่นี่..ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะฉันว่าจะไปนอนโรงแรมอยู่พอดี” เมย์ทำท่าจะลุกออกไปนอนโรงแรมตามที่เธอพูด
“เดี๋ยวค่ะ..ฝนตกหนักขนาดนี้ฉันไปส่งดีกว่านะคะขับรถคนเดียวมันอันตราย” อย่างน้อยบีก็ไม่ได้ใจดำที่จะปล่อยให้เมย์ขับรถไปคนเดียวเพราะเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาเธอคงจะรู้สึกผิด
“นั้นคุณรอฉันแป๊บหนึ่งนะคะขอฉันโทรบอกที่บ้านก่อน”
บีปลีกตัวออกมาโทรหาคริสบอกจะค้างที่นี่เพราะดูท่าว่าฝนคงจะตกอย่างนี้ทั้งคืน คริสก็ไม่ได้ว่าอะไรยังบอกให้บีดูแลตัวเองอีกด้วย เมย์รู้ว่าบีคงโทรรายงานภรรยาความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัวแล้วระหว่างนั้นไฟก็ดับไปซะดื้อๆ
เพล้ง!
บีวางสายจากคริสพอดีก็ได้ยินเสียงของตกแตกมือเรียวกดเปิดไฟฉายในมือถือก่อนจะเดินออกมาหาเมย์ว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นก่อนจะมองหาอีกคน
“คุณเมย์คะ..คุณอยู่ไหนคะ” บีส่องไฟฉายไปจนเจอเมย์ที่ยืนนิ่งอยู่
“เป็นอะไรหรือเปล่า..ฉันได้ยินเสียงแก้วแตก”
“พอดีไฟดับฉันตกใจเลยถอยหลังไปโดนแจกันเข้าอ่ะ” บีส่องไฟฉายไปตามมือของเมย์ที่ชี้ไปยังแจกันที่ตกแตกอยู่ โล่งใจที่อีกคนไม่เป็นอะไร
เปรี้ยง!
“กรี๊ด!” เสียงฟ้าร้องทำเอาเมย์ตกใจและโผล่เข้ามากอดบีไว้คนโดนกอดไม่ทันได้ตั้งตัวพอโดนแรงกระแทกโทรศัพท์ในมือบีก็หล่นหายไป
“แค่ฟ้าร้องเองคุณ” บีพยายามผลักเมย์ออกแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมปล่อย
“แต่ฉันกลัว” น้ำเสียงสั่นเครือกับร่างที่สั่นเทาบ่งบอกว่าเธอกลัวจริงๆ บียกมือมากอดปลอบและลูบหัวคนตัวเล็กให้หายกลัว
“ไม่ต้องกลัวนะ..เดี๋ยวมันก็หยุดร้องแล้ว”
น้ำเสียงอ่อนโยนของบีทำให้อาการกลัวของเมย์ลดลงไปได้เยอะ พอเมย์เริ่มรู้สึกโอเคขึ้นเธอค่อยๆ ผละตัวออก เมย์เงยมองหน้าไปสบตากับบีทั้งห้องปกคุมไปด้วยความมืดมีเพียงแสงจากฟ้าแลบที่สาดเข้ามาเป็นระยะๆ เมย์ยืดตัวไปจุมพิตร่างสูงมือที่เกาะแขนอยู่เลื่อนไปรั้งท้ายทอยของบีให้เข้ามาแนบชิด บีเผลอตอบรับจูบของเมย์ก่อนจะผลักร่างเล็กนอนราบกับโซฟา
บรรยยากาศที่เป็นใจกับอารมณ์ที่ไม่คงที่ของทั้งสองโดยเฉพาะบีที่ตอนนี้ห้ามใจตัวเองไม่ได้เลยแต่ดูเหมือนว่าเมย์จะพอใจไม่น้อย
กว่าฝนจะหยุดตกก็ปาไปเกือบเที่ยงคืนสองร่างเปือยเปล่าที่พึ่งผ่านศึกมาเมย์ลืมตาขึ้นมาในความมืดมือเรียวลูบไปที่แก้มของบีมองอีกคนที่นอนหลับอยู่ด้านข้างๆ
“ในที่สุดคุณก็แพ้ฉันนะ คุณบี”
มือเรียวเอื้อมไปคว้ามือถือก่อนจะกดส่งบ้างอย่างออกไป ร่างเล็กยกยิ้มสะใจก่อนจะล้มตัวลงนอนกอดร่างสูงและหลับไปพร้อมกัน
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างไม่ขาดสายถ้าคนที่เคาะพังประตูเข้ามาได้คงจะทำไปนานแล้วร่างสูงงัวเงียลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง บีถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อรู้ว่าเมื่อคืนเขาพลาดไป ร่างสูงลุกขึ้นไปใส่เสื้อคลุมอาบน้ำก่อนจะออกไปเปิดประตูเพราะเธอจำได้ว่านัดคนคุมงานไว้
ขาเรียวยาวก้าวมาเปิดประตูมือหนึ่งก็ขยี้ผมที่ฟูอยู่แล้วให้ฟูอีก พอเปิดออกมาจากอาการที่งัวเงียก็หายเป็นปลิดทิ้งใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
“คริส!” บีตกใจที่เห็นหน้าภรรยาของเธอที่นี่ร่างสูงยกมือขยี้ตาอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่มันคือเรื่องจริงเธอไม่ได้ฝันไป
คริสแทรกตัวเดินเข้ามาในบ้านบีรีบเดินมาคว้าข้อมือคนรักไว้ก่อนที่ร่างบางจะเดินเข้าไปในห้องนอนไม่นั้นได้เป็นเรื่องแน่
“คริสมาที่นี่ได้ยังไงคะ”
“ก็มีคนเขาหวังดีส่งรูปนี้ไปให้คริสดูไงคะ..ก็เลยจะมาดูให้เห็นกับตา” คริสยกโทรศัพท์ที่มีรูปเมย์ถ่ายตอนก่อนไฟดับและศิรินจำได้ว่าเสื้อที่หล่อนใส่อยู่เป็นเสื้อของสามีเธอ
“เอ่อ..” คริสสะบัดแขนออกก่อนจะเดินตรงไปยังห้องนอนบีที่พูดไม่ออกก็รีบเดินเข้ามาขวางและพาคริสเดินให้ห่างจากประตู
“บีว่าเขาคงส่งผิดมั้งคะ..บีว่าคริสนั่งรอบีตรงนี้ก่อนนะ”
“ทำไมคะ..บีมีอะไรปิดปังคริสอยู่หรือเปล่า” ศิรินกอดอกมองหน้าสามีที่ตอนนี้หน้าซีดจนไม่เหลือเลือดไปหล่อเลี้ยงแล้ว
“มะ..ไม่มีค่ะ..ไม่มี” บีพูดตะกุกตะกัก
“ถ้าไม่มีก็หลีกสิคะ”
“แต่บีว่า…”
คริสไม่ฟังที่บีกำลังจะพูดเธอเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องนอนทันที แต่ยังไม่ทันจะบิดลูกบิดมันก็ถูกเปิดออกมาจากทางด้านในเผยให้เห็นร่างเล็กของอีกคน
“มอนิ่งค่ะ..คุณคริส”
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
เมย์ที่อยู่ในผ้าขนหนูผืนเดียวเอ่ยทักทายคริสอย่างกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น มือคริสที่ไวกว่าฟาดลงบนใบหน้าของเมย์ ความเจ็บแล่นเข้ามาที่ก้อนเนื้อตรงอกข้างซ้าย น้ำตาที่เอ่อล้นออกมาจากขอบตาทั้งสองคริสยกมือจะตบเมย์อีกแต่บีก็เข้ามาห้ามไว้
“พอเถอะค่ะ..บีขอ”
เพี๊ยะ!
มือเรียวของคริสฟาดลงบนใบหน้าของบีเต็มแรงตอนนี้เธอไม่รู้ว่าควรจะอยู่ในอารมณ์ไหนดี มันเจ็บไปหมดเจ็บเหมือนกำลังจะตาย
“ถ้าคริสไม่มาที่นี่..คริสคงจะโดนบีสวมเขาไปอีกนาน!”
“ฟังบีก่อนนะคะคริส” แค่เห็นน้ำตาของคริสใจบีก็แทบจะแหลก
“คริสยังต้องฟังอะไรอีกบี..พอกันที..คริสไม่ไหวแล้ว” คริสสะบัดมือบีที่กอบกุมอยู่ก่อนจะเดินหนีแต่บีก็โอบกอดคริสจากทางด้านหลังรั้งไม่ให้คริสไป
“บีขอโทษ” น้ำเสียงแผ่วเบาของร่างสูงสื่อว่ารู้สึกผิดจริงๆ
“คริสทนบีมามากพอแล้ว..ถ้าบียังเป็นแบบนี้ก็ปล่อยคริสไปเถอะนะบี” คริสยังคงร้องไห้ไม่หยุดเธอแกะมือของบีออกและมองหน้าร่างสูงที่ขอบตามีน้ำใสๆเอ่ออยู่ มันไม่ได้ทำให้คริสใจอ่อนหรอกนะ
“ให้โอกาสคุณบีหน่อยสิคะ..เมย์ใจกว้างพอค่ะ..ที่จะให้เราอยู่ด้วยกันสามคนได้” เมย์ยืนฟังอยู่นานเอ่ยขึ้นเพราะกลัวว่าคริสจะใจอ่อน พอคริสได้ยินแบบนั้นเป็นใครก็ทนไม่ได้
“ถ้าอยากได้มากก็เอาไปเลย..ฉันยกให้!”
ประโยคท้ายคริสหันมาพูดใส่หน้าบีก่อนจะหันหลังเดินกลับไป บีกำลังจะวิ่งตามแต่เมย์รั้งข้อมือบีไว้แต่ก็ถูกสะบัดออก คริสกำลังจะขับรถออกแต่บีก็มายืนขวางหน้ารถ
ปรื้น ปรื้น คริสบีบแตรไล่แต่บีก็ไม่มีท่าทีว่าจะยอมถอยคริสเลยลดกระจกลงก่อนตะโกนบอกบีให้หลบไป
“ถอยไปนะบี!”
“ไม่ค่ะ..บีจะไม่ยอมให้คริสไปจากบีหรอก” บียืนกรานแต่คริสไม่สนเหยียบคันเร่งโดยไม่สนว่าบีจะหลบหรือไม่หลบ สุดท้ายบีก็หลบและรู้ว่าครั้งนี้ศิรินเอาจริง
“โถ่เว้ย!” บีสบถออกมาอย่างหัวเสียก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่ออาบน้ำแต่งตัวและตามคริสกลับกรุงเทพ
คริสขับรถไปก็ร้องไห้ไม่หยุดเธอไม่ได้อยากจะเลิกกับบีหรอก แต่ครั้งนี้มันไม่ไหวแล้วจริงๆ จะให้เธอทนเห็นบีไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ตลอดไปก็คงไม่ไหว ขับออกมาได้สักพักรถของเธอก็กระตุกก่อนจะดับไป
คริสพยายามสตาร์ทแต่ก็ไม่ติดคริสเลยมองวำรวจหาสาเหตุก็พบว่าน้ำมันหมดเธอยกโทรศัพท์จะโทรหาบีเพราะความเคยชินเวลามีปัญหาคริสก็จะโทรหาบีเป็นคนแรก แต่พอคิดได้ คริสก็วางโทรศัพท์ลงและฟุบหน้าร้องไห้กับพวงมาลัยรถ นานจนมีคนมาเคาะกระจกรถของเธอ คริสปาดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะเปิดประตูรถลงไป
“พี่คริส” คนที่เคาะกระจกพอเห็นคริสก็เอ่ยเรียกด้วยความตกใจปนดีใจแต่แปลกใจที่เห็นคริสร้องไห้
“ตาล” คริสโผเข้ากอดตาลเพราะตอนนี้เธอต้องการที่พักพิงเอามากๆ ตาลยกมือขึ้นกอดปลอบ ถึงจะไม่รู้ว่าคริสร้องไห้ทำไมแต่เธอไม่อยากเห็นผู้หญิงคนนี้ร้องไห้เลยสักนิด คริสผละออกมาหน้าตาลภาพมันเบลอๆ และเรือนลางไปหมดก่อนที่คนร่างเล็กจะหมดสติไป
+++++++++++++++++++++++++++++++
เป็นเรื่องจนได้เนาะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ขอบคุณครับไรต์