ตอนที่ 9 : คู่หมั้น 8
คู่หมั้น
-8-
ร่างบางที่โดนลากออกมาจากบ้านก็พยายามจะเกาะขอบประตูเอาไว้ เรื่องอะไรเธอจะยอมย้ายไปอยู่กับอีตาโย่งนี่ล่ะ หน้าตาก็ไม่น่าไว้วางใจแล้วจะเอาเธอไปฆ่าไปแกงหรือเปล่าก็ไม่รู้
“นี่! ไปขึ้นรถ”
“ฉันไม่ไป!” คริสพยายามหาที่ยึดเหนี่ยวแต่น้ำทิพย์ก็เดินมาลากไปอยู่ดี พอพูดไม่รู้เรื่องเขาก็อุ้มเธอขึ้นพาดบ่าเฉย
“ปล่อย! ฉันบอกว่าไม่ไปไง!”
คริสใช้มือทุบหลังน้ำทิพย์เพื่อให้เขาปล่อยเธอลง ยิ่งดิ้นยิ่งโวยวายก็เริ่มจะเวียนหัวหน่อยๆ ก็อีตาบ้านี่เล่นอุ้มเธอพาดบ่าจนหัวเธอห้อยอยู่แบบเนี่ย
“ปล่อยสิโว้ย! บอกให้ปล่อย!”
ตุ้บ!
ไม่ต้องตกใจไปไม่ใช้เสียงของตกที่ไหนแต่เป็นเสียงก้นเธอกระแทกกับพื้นนี่แหละ อีตาโย่งเสาไฟฟ้า! ไอ้บ้าเอ้ย! เขาปล่อยเธอลงมาแบบนี้ได้ยังไง
“โอ้ย…เจ็บนะเว้ย!”
“เป็นผู้หญิงหัดพูดจาให้มันเพราะๆ หน่อย คะขาน่ะพูดเป็นหรือเปล่า”
“พูดเป็นแต่ไม่พูดมีไรป่ะ” ยิ่งรู้ว่าน้ำทิพย์ไม่ชอบคนพูดไม่เพราะคริสก็สอดแทรกความเป็นสก็อยให้ซะเลย เอาแบบเน้นคำวัยรุ่นใส่ไปแบบจุกๆ เลย
“ยัง ยังจะไม่มาช่วยอีก”
คริสหันไปว่าน้ำทิพย์ที่ได้แต่ยืนมอง เขาเป็นคนเทเธอลงมาเขาก็ต้องรับผิดชอบไม่รู้ว่าก้นเธอตอนนี้จะช้ำหรือเปล่า จมูกเธอที่โดนเขาชกก็ยังไม่หายดีเลยด้วยซ้ำ
“อย่าลีลา ขึ้นรถเดี๋ยวนี้”
“ถ้าไม่มาช่วยพยุงฉันลุกขึ้น ฉันก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
น้ำทิพย์มองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่กับพื้น สีหน้าทะเล้นแบบนั้นใครมันจะไปอยากช่วยไม่รู้ว่าเจ็บจริงหรือแค่สำออย แล้วดูยังจะยื่นมือมาให้อีก
เฮ้อ~ ยัยเด็กแสบ
น้ำทิพย์เอื้อมมือไปจับมือของคริสเพื่อจะดึงอีกคนให้ลุกขึ้น แต่ยังไม่ทันจะได้ออกแรงยัยเด็กแสบเจ้าเล่ห์ก็ออกแรงดึงให้เธอล้มลงไปกับพื้นแทน ส่วนเจ้าตัวก็ยืนขำที่แกล้งเธอได้สำเร็จ
“หน้ามืดหรอคุณ”
“ยัยตัวแสบ!”
คริสหัวเราะสะใจและกำลังจะเดินกลับเข้าบ้านแต่ก็เจอนายแม่ที่เดินออกมา พร้อมกับซันที่เดินมาขวางทางเอาไว้เพราะคริสจะต้องกลับไปพร้อมกับน้ำทิพย์ ร่างบางเลยเดินคอตกยอมไปขึ้นรถจนได้
คริสนั่งทำหน้าเซ็งมาตลอดทางเพราะเธอไม่ได้เต็มใจจะมาสักหน่อย คอยดูเถอะเธอจะป่วนให้บ้านพังเอาให้อีตาโย่งนี่หัวหมุนไปเลยคอยดู อยากให้เธอมาอยู่ด้วยดีนักก็จะจัดให้เอาแบบไม่มีกั๊กไปเลย
“ลงมา”
น้ำทิพย์เห็นว่าคริสเอาแต่นั่งนิ่งไม่ยอมลงจากรถ นายแม่ก็บอกให้น้ำทิพย์ใจเย็นๆ พูดกับน้องดีๆ น้ำทิพย์ก็พยายามจะใจเย็นอย่างที่นายแม่บอก แต่พอเจอฤทธิ์ของคริสเข้าไปบางทีมันก็เย็นไม่ไหวจริงๆ
“จะลงมาดีๆ หรือจะให้อุ้มแบบเมื่อกี้”
คริสแกล้งทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินที่น้ำทิพย์พูด คนอายุเยอะกว่าเริ่มจะหัวเสียอีกครั้งเพราะไม่เคยเจอใครพูดยากพูดเย็นได้ขนาดนี้ เด็กอนุบาลยังไม่ดื้อเท่านี้เลยมั้ง
“เห้ย! จะทำไรเนี่ย”
“อุ้มเธอเข้าบ้านไง แต่คราวนี้ฉันจะไม่เทเธอไว้ที่หน้าบ้านนะฉันจะเทลงบนเตียงแทน ไหนๆ ก็หมั้นกันแล้วนี่เนาะเรามาลอง…”
“อุบาทว์! ทะลึ่ง! ถอยไปเลย”
คริสรีบผลักน้ำทิพย์ให้ออกห่างก่อนที่เขาจะอุ้มเธอลงจากรถจริงๆ เธอไม่ยอมให้เขาทำแบบนั้นหรอกนะ อย่าหวังว่าจะได้แอ้มเธอเลยแม้แต่ขาอ่อนก็จะไม่มีวันได้เห็น
น้ำทิพย์ยืนมองร่างบางที่ลงมาจากรถยังไม่พอหันมาทำหน้าดุใส่กันอีกและรีบเดินหนีเข้าไปข้างในบ้าน เธอก็ไม่ได้คิดจะทำแบบที่พูดหรอกแต่ถ้าไม่พูดแบบนั้นคริสก็จะไม่ยอมลงจากรถสักที
คริสเดินเข้ามาข้างในบ้านมันดูใหญ่โตกว่าบ้านเธอหลายเท่าแต่เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ซะหน่อย เธอเห็นนายแม่คุยกับใครบางคนอยู่พวกเขาก็หันมามองเธอ
“สวัสดีค่ะ”
ถึงเธอจะแสบจะป่วนแค่ไหนแต่เธอก็รู้เรื่องมารยาทนะ แม่สอนเสมอว่าเวลาเจอผู้ใหญ่ต้องไหว้และน้อบน้อมเขาจะได้รักแล้วก็เอ็นดู
“นี่คงเป็นคุณหนูคริสคู่หมั้นคุณบีใช่ไหมคะ หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนที่คุณหญิงบอกเลยค่ะ” คริสยิ้มเขินที่มีคนมาชมกันแบบนี้แต่ยิ้มได้ไม่ถึงนาทีก็ต้องหุบยิ้มเพราะเสียงใครบางคน
“นายแม่พูดแบบนั้นหรอคะ บีว่านายแม่ต้องรีบถอนคำพูดด่วน”
“นี่คุณ! ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้หรอกนะ”
“เอาล่ะๆ แม่ให้ป้าอุ่นทำความสะอาดห้องให้หนูคริสแล้วนะ”
นายแม่เบรกทั้งคู่ให้หยุดทะเลาะกันสักเดี๋ยว เพราะตั้งแต่เช้ายังไม่เห็นสองคนนี้จะสงบศึกกันได้เลย คนเป็นแม่ก็เริ่มจะเวียนหัวแล้วเหมือนกัน
“เราไม่ได้นอนห้องเดียวกันหรอกหรอคะ”
คริสหันไปถามนายแม่เพราะได้ยินอีกคนบอกว่าให้คนทำความสะอาดห้องไว้ให้แล้ว ก็แปลว่าเธอจะไม่ต้องนอนห้องเดียวกับน้ำทิพย์
“ทำไม? อยากนอนกับฉันหรอแต่ฉันกลัวว่าจะไม่ได้นอนน่ะสิ”
“ทะลึ่ง!”
“ทะลึ่งตรงไหนก็เห็นๆ อยู่ว่าเธอทำหน้าเสียดาย”
“ฉันถามเพราะฉันดีใจต่างหากที่จะไม่ต้องนอนร่วมห้องกับคนอย่างคุณ”
“ทำไมคนอย่างฉันมันทำไม” นายแม่กับป้าอุ่นหันมามองหน้ากันพร้อมกับถอนหายใจเพราะยังไม่ทันไรก็ทะเลาะกันอีกแล้ว
แต่ไม่ได้ทะเลาะเพราะเกลียดกัน ผู้ใหญ่ทั้งสองที่อาบน้ำร้อนมาก่อนมองออกว่าทั้งคู่จะต้องไปกันได้ดี แต่ตอนนี้คงต้องแยกเขาทั้งสองคนออกห่างจากกัน ก่อนไม่อย่างนั้นได้ยืนเถียงกันแบบนี้ยันเช้าแน่ๆ
นายแม่ให้ป้าอุ่นพาคริสขึ้นไปดูห้องนอนและจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย ส่วนนายแม่ก็เข้าครัวเพื่อทำมื้อกลางวัน สักพักป้าอุ่นก็ลงมาช่วย
น้ำทิพย์เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินลงมาข้างล่างและมื้อกลางวันก็เสร็จพอดี นายแม่เห็นว่าคริสยังไม่ลงมาเลยเอ่ยถาม
“น้องล่ะลูก”
“ปล่อยไปเถอะค่ะ รอบีทานข้าวเสร็จค่อยไปตามก็ได้ยังไม่อยากทะเลาะ ด้วยตอนนี้ บีอยากทานข้าวแบบอร่อยๆ”
“ดูพูดเข้า ไปตามน้องมาทานข้าวไป”
“ให้ป้าอุ่นไปตามไม่ได้หรอคะ”
“บี”
“ค่า นายแม่” เจอน้ำเสียงกดต่ำของนายแม่เข้าไป น้ำทิพย์ทำหน้าเซ็งจำใจต้องขึ้นมาตามคริสถึงบนห้อง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เธอเคาะประตูเพื่อเรียกอีกคนแต่ก็เงียบ เลยเคาะอีกทีเอาให้แรงกกว่าเดิมก่อนที่คนด้านในจะเปิดประตูออกมา คริสยืนกอดอกมองหน้าเธอเหมือนจะถามว่ามีไร เธออ่านสายตาหาเรื่องของยัยเด็กแสบนี่ออก
“อาบน้ำนานขนาดนี้ที่บ้านทำการประปาหรือไง”
“เดือดร้อนไรด้วยล่ะ”
คริสตอบเสียงเรียบพร้อมกับทำหน้าเซ็งก่อนจะปิดประตูห้องและเดินผ่านน้ำทิพย์ลงไปข้างล่าง ทำเอาคนตัวสูงยืนหน้าเหวอพูดไม่ออกไปเลย
“ฝากไว้ก่อนเถอะ”
น้ำทิพย์พยายามสกัดกั้นอารมณ์ไม่ให้โมโหและวิ่งไปบีบคอยัยเด็กแสบ ระหว่างที่ทานข้าวกันนายแม่ก็ชวนคุยเรื่องทั่วไป และเหมือนจะพึ่งนึกอะไรบางอย่างออก
“เอ่อบี พรุ่งนี้แม่ต้องรีบกลับไร่ที่เขาใหญ่แล้วนะ”
“ทำไมคราวนี้กลับเร็วจังค่ะ บีนึกว่าจะรอไปพร้อมกันซะอีก”
“พอดีเจ้านายกลับมาแล้วน่ะสิ”
“จริงหรอคะ! นั้นบีจะรีบเคลียงานแล้วตามไปนะคะคงไม่เกินสามวัน”
คริสยกยิ้มที่ได้ยินน้ำทิพย์พูดแบบนั้นอิสระกำลังรอเธออยู่สินะ ภาวนาขอให้อีตาโย่งไปนานๆ เลย ไปสักสามเดือนเลยก็ได้
“ยิ้มอะไร? ไม่ต้องดีใจไปหรอกนะเพราะฉันไม่อนุญาตให้เธอออกไปไหนทั้งนั้น” คริสหุบยิ้มและมองหน้าน้ำทิพย์แบบเซ็งๆ ก่อนจะทานข้าวไปเงียบๆ
ทานข้าวเสร็จน้ำทิพย์อยากจะแวะไปดูงานที่ห้างซะหน่อยเพราะไหนๆ ก็ยังเหลือเวลาอยู่บ้าง แต่ก่อนจะไปก็หันมากำชับกับผู้ช่วยหนุ่ม
“นายไม่ต้องไปส่งฉันหรอกอยู่เฝ้าคุณคริสที่นี่แหละ อย่าให้หนีล่ะ”
น้ำทิพย์มองมาที่คริสแต่ร่างบางก็แสร้งมองไปทางอื่นเหมือนเบื่อที่จะฟังคำพูดของน้ำทิพย์ และพออีกคนขับรถออกไปแล้วคริสก็ทำหน้าเซ็ง
“หงุดหงิดโว้ย!”
คริสพูดออกมาอย่างทนไม่ไหวเพราะตอนนี้เธอไม่ต่างอะไรจากเด็กที่ถูกพ่อแม่กักบริเวณเลย แต่พอเดินเข้ามาข้างในบ้านก็รู้สึกเหมือนมีใครบางคนเดินตาม ตามในแบบที่ว่าเหมือนเงาตามตัว
“นี่! ถ้าจะใกล้ขนาดนี้ไม่สิงร่างฉันเลยล่ะ”
“ได้ด้วยหรอครับ”
“ประชดย่ะ! ประชด น่ารำคาญทั้งเจ้านายและลูกน้องเลย” คริสกำลังจะเดินหนีกลับขึ้นห้องแต่ซันก็ยังจะเดินตามมาอีก จนคริสต้องหยุดเดินและหันมามองซัน
“เลิกตามสักทีได้ไหม”
“ไม่ได้หรอกครับนายสั่งไว้”
“ในฐานะที่ฉันมีศักดิ์เป็นคู่หมั้น ขอสั่งให้นายเลิกตามเดี๋ยวนี้” ซันทำหน้าลังเลเพราะไม่แน่ใจว่าควรทำตามที่คริสสั่งดีไหม
“แต่ว่า…”
“มีอะไรก็ไปทำเถอะซันเดี๋ยวฉันดูแลหนูคริสเอง”
“ครับนายแม่” ซันว่าง่ายขึ้นมาทันทีรู้แบบนี้เธอขอให้นายแม่ช่วยพูดให้ไปนานแล้ว แต่ก็ดีอย่างน้อยในบ้านหลังนี้ก็มีนายแม่ที่พอจะช่วยเธอได้
“ขอบคุณนะคะนายแม่”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ” คริสรู้สึกว่านายแม่ดูอ่อนโยนกับเธอมากกว่าอีตาโย่งนั่นอีก เริ่มไม่แน่ใจแล้วล่ะว่าเป็นแม่ลูกกันจริงๆ ไหม
“แล้วนี่นายแม่จะไปไหนหรอคะ”
“จะไปซื้อของฝากให้เจ้านายเขาหน่อยน่ะ ไปด้วยกันไหมล่ะ”
เหมือนเสียงสวรรค์พอได้ยินนายแม่พูดแบบนี้สมองของคริสมันก็ดำเนินการวางแผนทันที แต่นายแม่คงไม่ทันสังเกตเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อกี้
“ไม่ดีกว่าค่ะ คริสอยากพักมากกว่า” นายแม่ปล่อยให้คริสไปพักก่อนจะเดินออกมาจากบ้าน พอซันเห็นนายแม่ถือกระเป๋าออกมาก็รีบเดินเข้าไปหาก่อนจะมองหาคริสเล็กน้อย
“นายแม่จะไปไหนครับ”
“ไปซื้อของฝากให้เจ้านายน่ะ”
“คุณคริสล่ะครับ” ซันไม่อยากปล่อยให้คริสคลาดสายตา เขาพอจะได้ยินมาบ้างว่าคริสน่ะแสบแค่ไหนในเรื่องของการหนีเที่ยว
“หนูคริสคงเหนื่อยน่ะเห็นบอกว่าอยากพัก”
“ปล่อยไว้แบบนี้จะดีหรอครับ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกเดี๋ยวให้ป้าอุ่นดูแล เราก็รีบไปรีบกลับละกัน”
“ครับ” ซันยอมปล่อยให้คริสอยู่กับป้าอุ่นเพราะนายแม่บอกว่าจะเดินซื้อของไม่นานแล้วจะรีบกลับ
แต่พอรถของนายแม่ขับพ้นหน้าประตูบ้านเพียงเท่านั้น ร่างบางก็ย่องออกมาชะโงกหน้ามองลาดราวก่อน พอเห็นว่าทางสะดวกก็รีบวิ่งออกมาโบกแท็กซี่ไปร้านกาแฟของเพื่อนสนิททันที
“อีหมวย! ลมอะไรหอบแกมาเนี่ย”
“เซ็งว่ะแก”
คริสว่าอย่างเซ็งๆ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ เจนี่ได้แต่มองเพื่อนอย่าง งงๆ เพราะได้ยินมาว่าเมื่อคืนเพื่อนของเธอไปสวีทกับแฟนสองต่อสอง แถมยังไปค้างด้วยกันมาอีกไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้มานั่งทำหน้าเซ็งแบบนี้
“เซ็งอะไรวะ หรือว่าเมื่อคืน…”
“เมื่อคืนทำไมวะ?”
“ไม่ต้องมาทำหน้างงฉันรู้นะว่าแกแอบหนีไปเที่ยวกับพี่พลอยสองคนแถมแกยังไปนอนค้างห้องพี่เขาอีก ตกลงยังไงได้ป่ะ”
“อีบ้า! ได้ไรล่ะ” คริสถึงกับตกใจที่เจนี่ถามแบบนั้น
“เอ้า! ก็เห็นคบกันมาตั้งนานยังไม่ได้สักที”
“แกนี่ยังไงนะ สนับสนุนให้เพื่อนเสียตัวตลอด”
“เออ เล่นตัวเข้าไปเถอะสักวันพี่พลอยเขาจะเบื่อ ถึงเวลาก็อย่ามาร้องไห้ฟูมฟายแล้วบอกว่าแกฉันน่าจะเชื่อแกตั้งแต่แรกก็แล้วกัน”
“ไม่มีทางเพราะพลอยเขารักฉันคนเดียว”
“มั่นมากค่ะเพื่อน” คริสยักไหล่เพราะเธอเชื่อว่าพลอยไม่มีวันเบื่อเธอเด็ดขาด เราไม่เคยต้องมานั่งทะเลาะกันเรื่องนี้เลยและเรื่องมือที่สามหรือเรื่องเจ้าชู้ก็ตัดไปได้เลย
“นั่งเล่นไปก่อนนะแกไปรับลูกค้าก่อน”
คริสไม่รู้จะทำอะไรและเวลานี้คนก็เข้ามาสั่งกาแฟกันเยอะมาก เธอเลยโทรหาพลอยเพื่ออีกคนจะว่างออกมาเจอกัน
“ว่าไงคะ คิดถึงพลอยหรอ”
“คิดถึงมากค่ะ ออกมาเจอกันหน่อยได้ไหม”
“พลอยยังไม่เลิกงานเลยค่ะ”
“นั้นคริสไปหานะ เสร็จงานแล้วเราจะได้ไปทานข้าวกัน”
“ก็ได้ค่ะ”
วางสายจากพลอยคริสก็มองดูนาฬิกาอีกสามชั่วโมงกว่าพลอยจะเลิกงาน เจนี่ที่รับลูกค้าเสร็จก็เดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ด้านข้างอย่างเดิม
“เดี๋ยวฉันต้องไปแล้วนะ”
“อ้าว ไปไหนอ่ะพึ่งมาเอง”
“นัดพลอยไว้อ่ะ”
“เบื่อจริ๊ง! คนมีแฟนเนี่ย” คริสอมยิ้มเพราะรู้ว่าเพื่อนไม่ได้จริงจังกับคำพูดหรอก แต่พอกำลังจะลุกขึ้นเพื่อออกไปเรียกแท็กซี่เจนี่ก็คว้าแขนของเธอเอาไว้ พร้อมกับมองแหวนเพชรที่นิ้วนางข้างซ้าย
“อย่าบอกนะว่าพี่พลอยเขา…”
“ไม่ใช่” คริสดึงมือกลับและทำหน้าหนักใจนิดหน่อย ถ้าแหวนวงนี้เป็นของพลอยก็ดีน่ะสิแต่นี่ไม่ใช่
“อะไรยังไง เล่าค่ะ!”
คริสกะจะปิดเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับเพราะอีกสามเดือนก็จะเป็นอิสระแล้ว แต่พอเพื่อนถามก็ไม่อยากปิดบังเลยเล่าความจริงให้เจนี่ฟัง
“โอ-เอ็ม-จี! พี่พลอยรู้คงได้ช็อกแน่ๆ”
“ไม่ได้เด็ดขาด! แกรู้แล้วเหยียบเลยนะแล้วก็ห้ามบอกพลอยด้วย”
“แกแน่ใจไม่กลัวพี่พลอยเขาจับได้หรือไง”
“คงไม่หรอกแค่สามเดือนเอง เดี๋ยวทุกอย่างก็จบแล้ว” คริสมั่นใจว่าเธอจะกุมความลับนี้ไว้จนกว่าจะถึงสามเดือน แล้วเธอสัญญาเลยว่าเธอจะไม่ปิดบังอะไรพลอยอีก แค่นี้ก็รู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้ว
“ตามใจแกละกัน”
คริสพยักหน้าและกำลังจะเดินออกไปจากร้านอีกครั้ง แต่เจนี่ก็คว้าแขนของเพื่อนเอาไว้เหมือนเดิมจนคริสต้องหันมามองหน้า
“ก่อนจะไปถอดแหวนก่อนมะ พี่พลอยเห็นก็ความแตกพอดี”
“เออว่ะ เกือบลืมไปเลยขอบใจนะแก” คริสรีบถอดแหวนออกและเก็บใส่กระเป๋าเอาไว้ ถ้าเจนี่ไม่ทักขึ้นมาเธอคงเดินสวมแหวนวงนี้ไปหาพลอยแน่ๆ เกือบทำความแตกแล้วไหมล่ะ
#บีจะหมั้น
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
