ตอนที่ 9 : IX
IX
“เจเค”
ใบหน้าที่มีหนวดเคราขาวโพลนจากครีมโกนหนวดเหมือนซานต้าของปาร์คจีมินโผล่ออกมาจากประตูห้องน้ำเรียกหาJK901
“ครับ”
“โกนหนวดให้หน่อยสิ”
JK901มองใบหน้าแต่งแต้มด้วยครีมโกนหนวดก่อนส่งยิ้มไปให้จีมินเชื่อใจ แต่จากสายตาหวั่น ๆ ของเจ้าตัวคงจะกลัวทำเขามีดบาดไม่น้อย
“อย่าทำหน้าฉันบาดนะ”
“ไว้ใจผมได้ครับ”
เจเคเริ่มปาดใบมีดโกนลงส่วนที่ถูกครีมโกนหนวดปกคลุมเอาไว้อย่างระมัดระวัง เขาค่อย ๆ โกนอย่างเบามือเพื่อไม่ให้คมมีดบาดผิวหน้าจีมิน
“ตั้งใจจังเลย”
ดวงตาเรียวมองสายตามุ่งมั่นที่จดจ้องคางเขาตาไม่กะพริบ เวลาเจเคถูกมอบหมายให้ทำอะไรสักอย่างแววตาใสซื่อนั้นมักมีความมุ่งมั่นอยู่เสมอ แถมใบหน้าดูดียังฉายแววตั้งใจออกมาจนน่ากลัว
“ผมดีใจนะครับ”
“ดีใจอะไร ?”
“ที่จีมินวางใจให้ผมโกนหนวดให้จีมินแสดงว่าจีมินไว้ใจและคิดว่าผมจะไม่ทำจีมินเจ็บ”
“ยิ้มไม่ได้เดี๋ยวมีดบาด”
ปาร์คจีมินผลักศีรษะชายหนุ่มที่ยืนค้ำหัวโกนหนวดให้ตัวเอง มันดีที่เจเคปิดความรู้สึกไม่เป็น เมื่อรู้สึกอะไรก็จะพูดออกมา
แต่เขาเขินเป็นไง
เจ้าของใบหน้าเกลี้ยงเกลาจากการโกดหนวดเงยคางมองกระจกสำรวจความเรียบร้อย ก้านนิ้วชายหนุ่มลูบตามคางเพื่อเช็กว่าเจเคโกนได้เรียบจริง ๆ ก่อนเอี้ยวตัวไปหยิบอาฟเตอร์เซฟตบใบหน้า
“นั่งสิ ฉันจะโกนให้ หนวดนายขึ้นแล้วนะ”
เพราะร่างกายนี้คือคนจริง ๆ แม้ว่าจะถูกแทรกอะไหล่ไปแต่เจเคมีความเป็นคนทางลักษณะภายนอกและความคิดสูงมาก
เดือนก่อนเขาถูกปลุกกลางดึกเพราะเหตุผลของเจ้าเจเคที่บอกว่า
ใบหน้าของตนมีสิวขึ้น
“เจเค”
“ครับผม ?”
“อยากกลับไปหาครอบครัวหรือคนรู้จักบ้างมั้ย ครอบครัวของนายตอนที่เป็นจัสติน...ไม่ใช่เจเค”
ตลอดระยะเวลาหลายเดือนจีมินรู้สึกไม่สบายใจ เขามีความสุขไม่เต็มที่เพราะกลัว
เขากลัวหากวันนึงความทรงจำของจัสตินกลับมา หรือญาติ เพื่อน คนรัก อะไรก็ตามที่พบจัสตินตอนนี้
จีมินกลัวว่าเขาจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว
ฝ่ามือขนาดใหญ่จับมือของคนถือมีดโกนไว้ เจเคมองใบหน้าฉายแววความกังวลก่อนดึงมีดโกนออกและกางฝ่ามือของจีมินวางทาบข้างแก้ม
“ไม่ครับ”
“นายไม่อยากรู้เหรอว่าตัวเองเป็นใคร บางทีนายอาจจะมีญาติ เพื่อน หรือคนรักที่เขารอนายอยู่”
“ครอบครัวของผมคือจีมินที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมในตอนนี้”
“ฉันรู้สึกเหมือนขโมยนายมา”
“ผมเกิดอุบัติเหตุมามากกว่า5ปีจากคำบอกเล่าคุณซอกจิน ทางโรงพยาบาลเขาลงประวัติผมเป็นคนไร้ญาติ ผมคิดว่าถ้าผมมีญาติจริงพวกเขาคงออกตามหาผม ไม่ว่าตอนนั้นผมจะอยู่หรือตาย แต่ไม่มีใครออกมาตามหาผมเลยครับ”
“แล้วถ้าเกิดวันนี้ หรืออีกสัก2ปีที่เราเดินด้วยกัน มีคนเข้ามาบอกว่าเขารู้จักนาย นาย-”
“ผมเลือกจีมินครับ จีมินคืออดีต จีมินคือปัจจุบัน จีมินคืออนาคต และจีมินคือทุก ๆ วันของผม”
ลำแขนแกร่งกอดเอวคนที่ยืนค้ำหัวตัวเองไว้ เจเครวบคนตรงหน้าให้นั่งคร่อมตักของเขาโดยไม่ได้เอ่ยขออนุญาตแบบทุกครั้ง
“พูดแล้วนะ ถ้ามีวันนั้นจริง ๆ แล้วนายไม่รักษาคำพูดฉันจะชกหน้านาย”
คนถูกกอดปาดครีมโกนจากคางขึ้นป้ายปลายจมูกJK901 ทั้งคู่มองหน้ากันโดยไม่พูดอะไร
ก่อนจีมินจะเป็นฝ่ายก้มหน้าลงไปจูบเจ้าของตักแข็งแรงที่ตัวเองนั่งอยู่จนปลายจมูกและคางของเขาที่พึ่งถูกทำความสะอาดเปื้อนด้วยครีมโกนหนวดจากใบหน้าของJK901
ชาย2คนและกระเป๋าเป้ใบใหญ่คนละใบสะพายบนหลังยืนมองหน้ากันหน้าทางขึ้นเขาที่ทั้งคู่ตั้งใจมาปีน
พรุ่งนี้คือวันเกิดปาร์คจีมิน ปกติแล้วเขาจะสังสรรค์กับเพื่อนมากมาย แต่ปีนี้เขาอยากจะโตขึ้นอีกปีไปพร้อมJK901แค่2คน
จริง ๆ แล้วเขาก็ไม่ใช่วัยรุ่นที่ตื่นเต้นกับงานวันเกิด ปาร์คจีมินอายุย่างเข้า34ปีแล้ว ตลอดเวลาหลาย10ปีที่ผ่านมาเขาจัดงานวันเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ดื่มเหล้า
เป่าเค้ก
นอนพัก
และตื่นมาใช้ชีวิตให้ครบอีก1ปีเพื่อฉลองวันเกิดอีกครั้ง
สำหรับเขาทุกอย่างรอบตัวมันสร้างความตื่นเต้นมาหลายครั้งหลายคราจนชินและไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นไปกับมันเสียแล้ว
นี่คงเป็นผลเสียของอายุที่เพิ่มมากขึ้น มันนำเอาความสนุกเมื่อวันวานของเขาไปด้วย
“แน่ใจนะว่าปีนไหว”
“ไหวครับ”
“ถ้าถอดใจกลางทางฉันไม่ลงมาส่งนะ”
“ครับ”
คนที่เคยข่มไม่ให้เจเคถอดใจกลางทางในตอนเริ่ม คือคนเดียวกันกับคนหอบเหนื่อยจนหน้าแดงในตอนนี้
ดวงตาเรียวหรี่มองเส้นทางยาวเหยียดทอดไปยังปลายเขาอย่างเหนื่อยล้า เพราะต้องหอบกระเป๋าที่มีเต็นท์และของใช้จำเป็นในการค้างคืน
“เจเค เดี๋ยวก่อน ฉันเหนื่อย พักก่อนได้มั้ย”
ชายหนุ่มที่มุ่งมั่นมาปีนเขาครั้งแรกในชีวิตหันไปมองคนนั่งยอง ๆ ไปกับพื้น กรอบหน้าจีมินมีเหงื่อผุด และผิวหน้าที่เคยสดใสในตอนแรกกลับแดง
“น้ำครับ”
กระติกน้ำที่JK901ห้อยคอไว้ตั้งแต่เริ่มเดินทางขึ้นมายื่นไปตรงหน้าจีมิน
คนที่กำลังเหนื่อยรับมันมาดื่มจนจุกเพราะเขาดื่มมันเร็วเกินไป
“แค่ก !”
จีมินสำลักน้ำเสียงดังจนเจเคต้องทุบหลังเบา ๆ เพื่อหวังช่วยบรรเทาอาการ
“เดี๋ยวผมสะพายกระเป๋าเองครับ”
“ไหวเหรอ มันหนักนะ”
“ไหวครับ ถอดกระเป๋าบนหลังจีมินมาให้ผมสะพายได้เลย”
จีมินเดินนำทางตัวเบาโดยกระเป๋าสัมภาระของเขาทั้งหมดอยู่ที่เจเค ชายร่างสูงใหญ่เดินตามหลังเจ้าของโดยมีกระเป๋าสะพายไว้ทั้งข้างหลังและข้างหน้า
เจ้าของส่วนสูง173มอง2ข้างทางที่เปลี่ยนไปมาก เมื่อสมัยเขากับพ่อมาปีนเขาป่ามันมีมากกว่านี้ แต่ปัจจุบันโลกพัฒนาขึ้นพร้อมกับสิ่งที่ธรรมชาติสรรสร้างมาค่อย ๆ หายไป
เส้นทางเดินเขาไม่ได้มีแค่พวกเขา2คน แต่มีนักท่องเที่ยวหรือคนในพื้นที่ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศนอนตากน้ำค้างเดินแซงและตามหลังบ้างประปราย
“นี่แหละเจเค วันนี้เราจะฉลองวันเกิดฉันที่นี่กัน”
ขาสองข้างหยุดเดิน ดวงตาสีนิลมองทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเพียงผืนป่า เสียงสัตว์ และแสงอาทิตย์สีส้มเหมือนภาพวาดที่กำลังลาลับขอบฟ้า
มันสะท้อนประกายกับดวงตาของJK901ที่ชื่นชมภาพธรรมชาติอย่างที่ตัวเองไม่เคยเห็นสักครั้งด้วยดวงตาจริง ๆ
ปากหยักฉีกยิ้มกว้างด้วยความชื่นชม ธรรมชาติสร้างตัวของพวกมันขึ้นมาเอง และธรรมชาติมันช่างสวยงามจนเขาละสายตาไม่ได้
“คุ้มมั้ย”
คนเป็นเจ้าของถามพร้อมกับสูดหายใจหอบอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด บ้านของเขาอยู่เมืองหลวง เจเคไม่มีวันได้สัมผัสธรรมชาติแบบนี้หากไม่ออกมานอกตัวเมือง
และเขาอยากให้เจ้าหุ่นได้เห็นธรรมชาติจริง ๆ มากกว่าสวนเล็ก ๆ ในบ้าน
“ธรรมชาติสวยงามมากเลยครับ”
“เอาล่ะ มาช่วยฉันกางเต็นท์ก่อนมืดดีกว่า เคยกินมาร์ชเมลโล่ย่างไฟมั้ย ?”
ใบหน้าหล่อเหลาส่ายไปมาแทนคำตอบ
เจเคไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน และทุก ๆ อย่างที่เขาได้ทำหรือเรียนรู้จีมินมักจะเป็นคนสอนให้เขาได้รู้จักเสมอ
ครั้งแรกของทุก ๆ เรื่องของเจเคคือปาร์คจีมิน
“นายจะได้กินมันครั้งแรกคืนนี้แหละ แต่มาช่วยฉันกางเต็นท์ก่อน”
23.02 PM
ท่ามกลางเสียงจิ้งหรีดเรไรบริเวณเชิงเขามีชาย2คนนั่งถือไม้เสียบมาร์ชเมลโล่ย่างไฟกองเล็ก ๆ ที่ถูกก่อขึ้นข้างเต็นท์
ดูเจเคตื่นเต้นกับการฉลองวันเกิดอย่างเงียบ ๆ ที่มีเพียงเขา2คนยิ่งกว่าเจ้าของวันเกิดเสียอีก
“กินได้แล้วนะ ลองกินดูสิ แต่เป่าก็ดีเผื่อมันร้อน”
เจ้าของอายุย่าง34มองคนข้างกายละเมียดชิมอาหารที่ตัวเองไม่เคยกิน
เจเคจะมีนิสัยอย่างนึงคือถ้าเขาลองพาไปกินอะไรที่เจ้าตัวไม่เคยกินหมอนั่นจะค่อย ๆ ละเมียดละไมชิมมันราวกับจะซึมซับรสชาติทุกหยาดหยด
“น่าแปลกนะครับ แค่เอามาย่างไฟแต่รสชาติเปลี่ยนไปเลย”
“อืม จริง ๆ มันเปลี่ยนไม่มากหรอก แต่มันจะหอมขึ้น”
“ผมดีใจนะครับ...ที่ได้อยู่กับจีมินในวันสำคัญของจีมินแบบนี้ มันรู้สึกเหมือน...ผมเป็นคนสำคัญ”
“นายคือคนสำคัญ”
“จีมินครับ”
“ว่าไง ?”
“ผมไม่เคยเสียดายชีวิตตอนเป็นจัสตินเลยนะครับ”
“...”
“การได้เจอจีมินมันเหมือนกับ...ผมมีชีวิต”
“อย่าพูดแบบนั้น นายมีชีวิต”
“ผมไม่ทราบนะครับว่าคนทั่วไป หรือแม้แต่จีมินมีชีวิตเพื่อจุดประสงค์อะไร แต่สำหรับผม ผมอยากมีชีวิตเพื่อที่จะได้อยู่กับจีมิน นั่งข้าง ๆ จีมินแบบนี้”
“...”
“เหมือนกับว่าจีมินคือเหตุผลของการมีชีวิตของผม...ถ้าไม่มีจีมิน คุณซอกจินอาจจะไม่สร้างผมมา”
“รู้มั้ย...บางทีนายเปลี่ยนความคิดของฉัน ฉันไม่เข้าใจคำว่าชีวิตคู่เพราะฉันไม่เคยคิดจะมีมัน แต่...การที่ฉันอยู่กับนายตรงนี้ นั่งมองหน้านาย ฉันรู้สึกอยากให้เราอยู่กันแบบนี้ ไปไหนด้วยกัน ทำอะไรด้วยกัน ตื่นมาเจอหน้ากัน บอกฝันดีกัน ฉันอยากทำแบบนี้ไปทุก ๆ วัน”
“ผมก็เหมือนกันครับ”
“นายไม่ใช่ชีวิตคู่ของฉันเจเค นายเป็นมากกว่านั้น นายคือทุก ๆ วันของฉัน...เพราะงั้น อย่าทิ้งฉันไปนะ การเป็นคนมันไม่มีอะไรแน่นอน...ฉันแค่กลัว กลัวว่าเราจะเป็นส่วนหนึ่งของความไม่แน่นอนพวกนั้น”
“สักครู่นะครับ”
“...”
เรียวคิ้วชายหนุ่มขมวดหากันเมื่อJK901เอี้ยวตัวไปรื้อกระเป๋าใบโตของตน จีมินเกือบคิดว่าเจ้านั่นไม่สนใจสิ่งที่เขาพูดแล้ว
หากไม่เห็นเค้กก้อนเล็ก ๆ ที่เละจนดูไม่ออกว่าเป็นหน้าอะไรยื่นมาทางตัวเอง
“สุขสันต์วันเกิดครับคุณปาร์คจีมิน”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเพื่อกลั้นยิ้ม
ใครจะคิดว่าเขาที่ถูกเซอร์ไพรส์ด้วยเค้กวันเกิดหน้าตาดูดีมาตลอด33ปีจะมาใจเต้นแรงกับเค้กวันเกิดหน้าตาเละเทะในปีที่34แบบนี้
“ไปซื้อมาตอนไหน ?”
“ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่บอกให้จีมินรู้ แต่ผมแอบไปซื้อตอนเราแวะปั้มน้ำมันครับ”
“ให้เงินหน่อยก็ใช้เก่งเลยนะ”
เจเคได้รับสิทธิ์ให้ใช้จ่ายด้วยตัวเองตั้งแต่กลับมาหาเขา จีมินโอนเงินเข้าระบบให้ชายหนุ่มไว้ใช้จ่ายของที่อยากได้
ที่ผ่านมาเขาไม่เห็นJK901ใช้จ่ายอะไรมากนัก มีครั้งนี่แหละที่เป็นการใช้จ่ายเล็ก ๆ เท่านั้น
แต่มันกลับทำให้คนอายุ34อบอุ่นไปทั้งใจ
“ขอพรสิครับ”
01.57 AM
เต็นท์นอนที่มืดมิดถูกทำให้สว่างขึ้นน้อยนิดด้วยแสงดาวมากมายที่เปล่งประกายบนท้องฟ้าสีน้ำเงินยามค่ำคืน
จีมินไม่ได้ปิดเต็นท์เพราะอยากให้เจเคได้มีโอกาสดูดาวที่ระยิบระยับบนท้องฟ้า ศีรษะของเขาหนุนท่อนแขนชายที่นอนข้างกันแทนหมอน
“นายคิดว่าตอนนี้นายอายุเท่าไหร่เหรอ ?”
“ผมไม่แน่ใจครับ จากการคาดเดาตามช่วงเวลาในประวัติตอนเกิดอุบัติเหตุถึงตอนนี้ ผมคิดว่าผมอาจจะอ่อนกว่าจีมินไม่กี่ปี”
“เป็นรุ่นน้องฉันงั้นสินะ...”
“ครับ”
จีมินไม่ได้ถามอะไรเจ้าของต้นแขนที่เขาใช้หนุนต่อ ชายหนุ่มทำเพียงจ้องท้องฟ้าสุดลูกหูลูกตาของเชิงเขาแห่งนี้
มันไม่ใช่ความรู้สึกหวือหวา
แต่มันเป็นความรู้สึกที่เขาอยากอยู่กับJK901แบบนี้ไปเรื่อย ๆ
ไม่มีคำถาม
ไม่มีบทสนทนา
และไม่มีความอึดอัด
มันเป็นความสบายใจที่เขาไม่ต้องคอยกังวลว่าต้องเปิดหัวข้อสนทนาอะไร เขาสามารถอยู่ท่ามกลางความเงียบกับเจเคได้ทั้งคืนโดยไม่รู้สึกถึงความอึดอัด
“จีมินครับ”
“ว่าไง”
“ช่วยเล่าเรื่องของจีมินได้มั้ยครับ”
“ทำไมถึงอยากรู้เรื่องของฉัน ?”
“เพราะการที่ผมรู้เรื่องของจีมินมันเหมือนผมได้ใช้ชีวิตผ่านเรื่องเล่าของจีมินครับ”
ปากอิ่มคลี่ยิ้มและหันไปมองใบหน้าที่เลือนรางในสายตาเพราะความมืด
“รู้มั้ย901 การเล่าเรื่องของฉันให้นายฟังมันเหมือนฉันได้ใช้ชีวิตอีกครั้งไปกับนายเหมือนกัน”
_____
TALK TALK
สำหรับรูปเล่มนั้นตอนนี้สมบูรณ์80%แล้วนะคะ ใครที่รออย่าพึ่งทิ้งกันน้า อดใจรอก่อนนะคะ TT
1เม้นต์ = 1กำลังใจ
1สกรีม = 1กำลังใจค่าาา
TAG #หุ่นยนต์จองกุก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไม่ผิดหวังที่ตามอ่านตลอดขอบคุณนะคะขอบคุณที่ทำให้รู้สึกร่วมไปกับฟิคเรื่องนี้ รอตามตอนต่อไปค่ะไรท์
เขินแทน