ตอนที่ 4 : IV [KOOKMIN NC]
IV
“แฮ่ก ! ช้า แฮ่ก ช้าลงหน่อยได้มั้ยวะ”
เสียงตะโกนดังไล่หลังกว้างในชุดออกกำลังกายที่เอาแต่วิ่งนำเขาด้วยจังหวะเร็วขึ้นจนตามแทบไม่ทัน
เจเควิ่งเหยาะซอยเท้าลดจังหวะเพื่อให้จีมินวิ่งทันตามคำสั่ง ใบหน้าเหงื่อซึมแต่กลับไม่มีอาการเหนื่อยอย่างคนข้างกายหันไปมองจีมินพร้อมเตรียมออกวิ่งอีกครั้ง
“เดี๋ยว!”
หมับ
“ครับ ?”
“อีกรอบเดียวพอนะ ไม่ไหวแล้ว เหนื่อยเป็นนะเว้ย”
เจ้าของส่วนสูง180เหยียบปลายมองผู้คนแห่มาออกกำลังกายยังสวนสาธารณะสลับกับมือคนหอบจนผิวหน้ากลายเป็นสีแดงจากเลือดฝาดที่จับต้นแขนตัวเองไว้
“ได้ครับ”
จีมินเป็นคนต้นคิดกิจกรรมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพหลังชีวิตเจอมรสุมและผลพวงความมักง่ายที่ตัวเองทำไว้มาได้ราว2เดือน
กระนั้นการเริ่มออกกำลังกายอย่างหนักในช่วงแรกมันไม่ง่าย เขาจัดหนักตั้งแต่วันแรกจนเดี้ยงถึงขั้นพึ่งให้เจ้าเจเคคอยนวดคลายเส้นให้
ทั้งคู่วิ่งอีก1รอบก่อนชายหนุ่มจะขอยอมแพ้การออกกำลังในวันนี้ ปาร์คจีมินเหงื่อซกทั่วตัว ใบหน้าของเขาแดงทั่วทั้งหน้าเพราะเลือดที่สูบฉีด
“อยากกินหมึกย่าง กินมั้ย ?”
“แปลกจังครับ ผมเข้าใจว่าเรามาออกกำลังกายให้สุขภาพดีหรือลดส่วนเกิน แต่หลังจากเราออกกำลังกายเสร็จจีมินจะมองหาร้านของกินแคลอรี่สูง ๆ ทุกวันเลย”
ปั่ก
ท่อนขาเมื่อยล้าจากการออกกำลังยกเตะก้นหุ่นยนต์ปากไม่ดีที่พูดถึงเขาอย่างไม่จริงจังก่อนตาเรียวจะปรายตามองหาร้านหมึกย่างเสียบไม้ด้วยความหิว
“จีมินหยอกผมแบบนี้แปลว่าความสัมพันธ์ของเรามันทำให้จีมินปล่อยตัวตามสบายได้แบบไม่คิดมากหรือเปล่าครับ”
“ยาวไปไม่ตอบ มองหาร้านหมึกย่างสิ เหนื่อยจนแทบไม่มีแรงเดินแล้วเนี่ย”
ชายหนุ่มสองคนเดินทอดน่องอยู่สวนสาธารณะไม่ไปไหนถึงแม้จะออกกำลังกายเสร็จจนมืดค่ำแล้วก็ตาม
“กินมั้ย ?”
หมึกย่างเสียบไม้ฉ่ำน้ำจิ้มรสเด็ดถูกยื่นไปตรงหน้าหุ่นยักษ์
“จีมินกินให้อิ่มเถอะครับ”
เสียงทุ้มปฏิเสธอย่างสุภาพเพราะความห่วงกลัวคนที่ใช้พลังงานไปจะไม่อิ่มท้อง
“ไม่อยากลองเหรอ นายไม่เคยกินหนิ”
“ผมเคยเสิร์ชแหล่งข้อมูล เขาบอกว่าปลาหมึกเป็นลูกหลานเอเลี่ยนที่ตกมาในทะเลแล้วแพร่พันธุ์ครับ”
“ถ้าลูกหลานเอเลี่ยนอร่อยขนาดนี้ก็จับมากินล้างเผ่าพันธุ์ให้หมดเถอะ”
“ปล่อยกระเป๋าฉันนะ ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วย!”
“ร้องทำไมวะ?! อยากตายเหรอ!”
ปารค์จีมินหยุดเงี่ยหูฟังเสียงดังมาจากพุ่มไม้บริเวณที่หลอดไฟบนเสาดับจนทำให้จุดนี้มืดกว่าทุกจุด
“ได้ยินเหมือนฉันมั้ย ?”
“ผมได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือครับ”
“เชี่ย!”
ชายหนุ่มสังเกตเงาตะคุ่มลาง ๆ เหมือนกำลังยื้อแย่งสิ่งของกันก่อนเขาจะทิ้งถุงปลาหมึกและวิ่งไปดูเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากลโดยมีเจเควิ่งตามไปติด ๆ
“เห้ยทำไรวะ!?”
จีมินตะโกนให้กลุ่มคนซึ่งยื้อแย่งกระเป๋าใบที่ไม่ใช่ทรงผู้ชายใช้กันอย่างแน่นอน
“ช่วยด้วยค่ะ พวกมันจะเอากระเป๋าฉันไป”
“วิ่งราวเหรอวะ ปล่อยนะเว้ยไม่งั้นกูโทรแจ้งตำรวจ”
ชายสามคนตื่นตกใจไม่น้อยที่มีคนมาพบ หนึ่งในกลุ่มพยักเพยิดหน้าให้กันและมองมาที่จีมิน
“เสือกเรื่องชาวบ้านแบบนี้มึงเจ๋งเหรอ กลับไปวิ่งออกกำลังกายต่อไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
“เจเคโทรเรียกตำรวจเลย ออกไปขอให้คนมาช่วยด้วย”
“เสือกไรมึง”
พลั่ก!
หมัดจากหนึ่งในพวกนั้นซัดเข้ามายังใบหน้าจีมินไม่ให้ชายหนุ่มตั้งหลัก เขาถึงกับเซถอยหลังตามแรงจนไปชนเข้ากับเจเค
พลั่ก
คนในชุดกีฬาล้มหงายท้องลงไปทันทีที่ถูกถีบเข้าอย่างจังจนเขาต้องเบ้หน้ากุมท้องด้วยความจุก
พลั่ก
“เชี่ยเอ้ย อั่ก!”
“ซ่าเหรอมึง”
พลั่ก
“โอ้ย! ไอ้เหี้ย”
พลั่ก
“ลองตีนดูเผื่อจะหายซ่า”
แม้มีประสบการณ์ชกต่อยเหมือนเด็กผู้ชายเลือดร้อนทั่วไปครั้งมัธยม แต่จีมินไม่ได้เก่งกาจเป็นนักเลงหัวไม้ และเขาคนเดียวไม่สามารถสู้ผู้ชายถึงสามคนได้
ฝ่าเท้าจากคนละทิศรัวเข้าลำตัวกับใบหน้าคนถูกรุม ปาร์คจีมินทำได้เพียงยกแขนขึ้นป้องกันใบหน้าเท่าที่ทำได้ แต่แล้วเงาของบางอย่างก็คืบคลานมาบดบังตัวเขาเอาไว้
เจเคก้มหมอบลงไปกอดบังเจ้าของที่ถูกรุมทำร้ายไว้เพื่อรับแรงกระแทกจากฝ่าเท้าเหล่านั้นแทน
เสียงฝ่าเท้ารัวลงกลางแผ่นหลังกว้างทำเอาหญิงสาวซึ่งคิดจะหนีต้องหันกลับมามองผู้ชายสองคนที่มีน้ำใจช่วยเหลือ
ภาพของผู้ชายตัวโตในชุดออกกำลังกายที่หมอบและบังเท้าให้ชายอีกคนที่ถูกต่อยก่อนหน้านี้ทำเธอหวาดกลัวจนร้องไห้ออกมา
เสียงร้องจากความเจ็บและฝุ่นดินคลุ้งไปทั่วจนแทบแยกไม่ออกว่าชายสองคนที่ถูกรุมจะอยู่หรือสลบไปแล้วยิ่งทำให้เธอมองหาตัวช่วย
พลั่ก
แม้เจเคจะพยายามบังตัวเขาไว้แค่ไหนแต่แรงกระแทกยังทำให้เจ้าหุ่นทรุดลงมาทับเขาเพราะต้านแรงชายถึงสามคนที่รุมทั้งคู่ไม่ไหว
“คุณตำรวจคะ!! ทางนี้ค่ะ! ช่วยด้วยค่ะ!”
“เห้ย พ่อมึงมา”
โจรวิ่งราวสลายตัวอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินคำว่าตำรวจ แต่ก็ไม่วายกระทืบลงมาที่จีมินและเจเคซ้ำอีกครั้งเพื่อความสะใจ
“คุณสองคนไหวมั้ยคะ”
“ช่วยเรียกตำรวจกับรถโรงบาลทีครับ”
ใบหน้าฟกช้ำจากการถูกทำร้ายไม่แพ้ปาร์คจีมินเงยขึ้นมองหญิงสาวพร้อมเอ่ยขอความช่วยเหลือ
ร่างกายของเขารู้สึกเจ็บ แต่ความเป็นห่วงของชายหนุ่มที่มีให้เจ้าของมันทำให้หุ่นยนต์ตัวโตไม่สน
คนถูกหมอบกอดไว้ขดตัวด้วยความจุก หัวคิ้วของเขามีเลือดซึม ใบหน้าเขารู้สึกชาและอีกไม่นานมันต้องกลายเป็นความปวดอย่างแน่นอน
“ดึงฉันขึ้นหน่อย”
จีมินนั่งอยู่ในห้องฉุกเฉินเพื่อทำแผลที่ใบหน้าและให้ปากคำกับตำรวจในฐานะพยาน
ผู้หญิงที่ถูกวิ่งราวไม่ได้บาดเจ็บและของมีค่าเธอไม่ถูกชิงไป เห็นจะมีแต่เขากับเจเคนี่แหละที่ได้กินฝ่าเท้าแทนอาหารเย็นจนจุก
ใบหน้าคมคายของหุ่นตัวโตที่คลุกฝุ่นมาโผล่มองเจ้าของที่กำลังทำแผล เขาเห็นจีมินพูดกับตำรวจสองสามคำและลุกเดินมาหาตัวเอง
“หายเจ็บหรือยังครับ จีมินต้องอยู่ต่อหรือเปล่า”
“เจ็บแค่หน้ากับท้อง นายล่ะ เขาทำแผลให้เหมือนปกติเลยใช่มั้ย ? ต้องเปลี่ยนอะไหล่หรือเปล่า”
“ไม่ครับ”
“วันนี้เราแม่งโคตรหล่อเลยว่ะ ไปกินเหล้ากันมั้ย เลี้ยง”
ลำแขนยื่นไปล็อกคอหุ่นยนต์ไว้ก่อนจะหนีบเจเคให้เดินตามตัวเอง เขารู้สึกดีที่อย่างน้อยได้ช่วยคนไว้ ถึงตัวเองจะเจ็บตัวไปบ้างก็ตาม อีกอย่างถ้าอยากหลับสบายไม่เจ็บแผลบนหน้าคงต้องหาเหล้าดื่มให้เมา
11.37 PM
หลังจากทำแผลที่โรงบาลจีมินก็พาเขากลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและมาโผล่สถานที่ที่เรียกว่าBar&Restaurant
เจเคนั่งมองนักดนตรีเล่นกีต้าร์ร้องเพลงบนเวทีตาไม่กะพริบ เขาพึ่งรู้ว่าเราสามารถนั่งทานอาหารและมีคนมาร้องเพลงให้ฟังแบบนี้ได้
“ดีจังเลยนะครับ”
“อะไร ?”
ปาร์คจีมินที่มีพลาสเตอร์แปะแผลบนหน้าตักเครื่องเคียงเข้าปากและมองJK901
“เราทานอาหารแบบนี้แล้วมีคนเล่นดนตรีให้ฟัง”
“ชอบฟังเพลง ?”
“ไม่หรอกครับ แต่ผมว่าดนตรีทำให้บรรยากาศในร้านดีขึ้น”
“แล้วไม่กินเหรอเหล้า พามากินเหล้าเป็นเพื่อนไม่ได้พามานั่งมองนักดนตรีอย่างเดียว”
ปากหยักยิ้มกว้างเมื่อคนตรงหน้าเลื่อนแก้วเครื่องดื่มมาให้ตัวเอง เจเคยกมันขึ้นดื่มก่อนทำหน้าเหยเกจนจีมินสำลักกับแกล้มด้วยความขำ
“ยังชงไม่เสร็จเว้ย เลื่อนแก้วจะรินโซดาเฉย ๆ”
“ขอโทษครับ”
ผิวเนียนละเอียดยิ่งกว่าคนเริ่มแดงทันทีที่แอลกอฮอล์ไหลลงคอ และมันยิ่งแดงขึ้นเมื่อจีมินเอาแต่ชงเครื่องดื่มมาให้เขา
เขาไม่รู้ชายหนุ่มดื่มเก่งแบบนี้ เจเคคิดว่าผิวบนตัวปาร์คจีมินค่อนข้างขาว แต่เมื่อเทียบกับเขาที่แดงไปตั้งแต่ใบหูถึงคอปาร์คจีมินกลับแทบไม่มีอาการแสดงออกให้เห็นว่าตัวเองจะเมาง่าย ๆ เลย
จนเวลาผ่านไปเจเคได้รับรู้ว่าตัวเองคิดผิด เอาจริง ๆ ลิมิตของร่างกายแต่ละคนคงจะไม่เท่ากัน เพราะเมื่อจีมินสั่งเปิดเครื่องดื่มขวดที่2เจ้าตัวก็แสดงอาการว่าร่างกายรับมันไม่ไหวแล้ว
“จีมินครับ ผมว่าเรากลับกันดีกว่านะครับ คุณเมาแล้ว”
“ไม่เถียง เมาจริง”
ดวงตาเรียวมองขวดเครื่องดื่มที่2ซึ่งรินได้ไม่เท่าไหร่เขาก็ออกอาการไม่ไหว จีมินไม่ได้เถียงว่าตัวเองคอแข็งแบบเมาไม่เป็น
ชายหนุ่มใช้สติที่เหลือน้อยนิดเช็กบิล เขาไม่มั่นใจว่าสติที่เหลืออยู่มันสามารถพาทั้งตัวเองและเจ้าหุ่นนี่กลับถึงบ้านได้ปลอดภัยหรือแวะเข้าโรงบาลอีกครั้ง
“ฉันขับรถไม่ไหวว่ะเจเค คิดสิจะทำยังไง”
เจ้าของชื่อประมวลคำถามอยู่ครู่ เจเคตัดตัวเลือกที่ไม่น่าเป็นไปได้ออกไปก่อนเขาจะอาสาขับรถเอง
“ผมขับรถได้ครับ”
“เห้ย ได้ยังไง ฉันไม่เคยสอน”
“มันอยู่ในระบบของผมครับ”
“มีใบขับขี่ ?”
“ไม่มีครับ”
“ได้นอนโรงพักพอดี”
“งั้นเราควรเรียกแท็กซี่ ส่วนรถเราควรจ้างพนักงานที่นี่ขับไปให้ดีมั้ยครับ”
“ฟังเข้าท่า ฉลาดกับเขาเหมือนกันนะเรา”
คนเมายิ้มกว้างก่อนจะล็อกคอชายที่สูงกว่าตัวเองแล้วยีเส้นผมนั้นแทนคำชมกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
01.20 AM
ชาย2คนกลับถึงบ้านอย่างสวัสดิภาพโดยเรียกแท็กซี่มาส่ง เจ้าของส่วนสูง180ปลาย ๆ หิ้วปีกจีมินที่เมาไม่ได้สติแต่ดูเหมือนว่าจะร่าเริงกว่าตอนไม่เมาเพราะจีมินพูดไม่หยุด
“จีมินจะอาบน้ำมั้ยครับ”
คนถูกถามส่ายหน้า เขาจ้องหุ่นสูงใหญ่ที่ยืนค้ำหัวตัวเอง ดวงตาจีมินหรี่ลงเพื่อมองใบหน้าของหุ่นที่พึ่งช่วยตัวเองวันนี้จากการโดนรุมยำ
“เจเค”
“ครับ ?”
“ขอบคุณนะเรื่องวันนี้”
“ปกป้องจีมินคือหนึ่งในหน้าที่ของผมครับ”
“มันแปลกมั้ยวะ”
“ที่ผมช่วยจีมินไว้เหรอครับ ?”
“เปล่า ที่ฉันอยากลองจูบนาย”
ไม่มีคำขออนุญาตหรือคำบอกใด ๆ จีมินลุกยืนเงยหน้าขึ้นรั้งให้คนที่สูงกว่าก้มหน้าลงมา
ริมฝีปากทั้งคู่ประกบกันชั่วขณะ ก่อนเจเคจะเป็นฝ่ายเริ่มขยับปากด้วยความอยากรู้ตามสัญชาตญาณ
หัวปาร์คจีมินว่างเปล่าและขาวโพลนเมื่อสัมผัสชื้น ๆ จากลิ้นสอดเข้ามาในโพรงปาก เขาไม่ได้เอ่ยห้ามหรือผลักออก
แต่ปาร์คจีมินกลับอนุญาตให้เจ้าหุ่นตัวสูงที่กำลังเรียนรู้การจูบอยู่ใช้ปากของเขาเป็นตัวฝึก
เพราะไม่มีเสียงห้าม และกิริยาด้านอารมณ์กับร่างกายที่ตอบสนองในเชิงบวก เจเคจึงเลือกไม่หยุดแต่กลับกดไหล่คนที่เตี้ยกว่าให้เอนลงไปบนเตียง
ปั่ก!
กำปั้นรัวลงแผงอกหุ่นยนต์ที่ไม่ปล่อยให้เขาได้หายใจ ปาร์คจีมินอ้าปากหอบเอาอากาศเข้าปอด สติที่ไม่เหลือถูกบั่นทอนลงไปกว่าเดิม
เขารู้สึกถึงปากที่ทาบลงมาอีกครั้งพร้อมกับแรงกดทับจากการที่เจ้าหุ่นยักษ์นั่นขึ้นคร่อมตัวเองไว้
“จีมิน อนุญาตให้ผมทำจริง ๆ เหรอครับ”
“...เออ”
ชายหนุ่มมองเพดานพร้อมกับพึมพำ มันไม่ใช่คำตอบ แต่เป็นคำถามที่จีมินก็อยากถามตัวเอง
แต่เจเคเข้าใจไปแล้วว่านั่นคือคำอนุญาต ปากหยักยิ้มกว้างจนแทบเห็นฟันครบทุกซี่ มือที่มีรอยถลอกจากเหตุการณ์เมื่อเย็นปลดกระดุมเสื้อเจ้าของ
เพราะเขาไม่เคยทำมาก่อนจึงเงอะงะพอสมควร แต่ท้ายสุดปาร์คจีมินและตัวเองเขาก็เหลือเพียงชั้นในเท่านั้น
เจเคกำลังฝึกฝนวิธีเล้าโลมโดยอาศัยร่างกายจีมินเป็นที่เรียนรู้ เขารับรู้ได้ว่าสัมผัสด้วยปากและมือสามารถสร้างอารมณ์ร่วมให้เจ้าของได้
_____
CUT
_____
04.41 PM
ดวงตาสีนิลเฝ้ามองเจ้าของมาตั้งแต่เมื่อคืนจวบจนเริ่มค่ำของวันใหม่ เพราะจีมินเมาและเหนื่อยมากจึงไม่มีท่าทีจะตื่นง่าย ๆ
และJK901ไม่ต้องการรบกวนการนอนของเจ้าของ
ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นบังแสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องผ่านกระจกเข้ามาไม่ให้กระทบหน้าของจีมินก่อนมันจะยิ้มกว้างเมื่อเจ้าของเริ่มขยับตัว
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนพลิกตัวนอนหงายและลืมตาขึ้นมาหลังจากร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่
“ลามปามแล้วนะ ใครให้ขึ้นมาบนเตียง”
เสียงแหบพร่าดุเจเคเมื่อหางตาเขาเห็นเจ้าหุ่นนั่นถือวิสาสะนั่งบนเตียง
“ขอโทษครับผม”
เจเคลุกออกมาจากเตียงทันที
“นายไม่แฮ้งค์หรือไง ?”
“ไม่ครับ”
ปาร์คจีมินขมวดคิ้วทันทีที่ลุกขึ้นนั่งและหย่อนเท้าลงข้างเตียง เขารู้สึกจุกท้องและเจ็บอย่างแปลก ๆ
“เมื่อคืนจีมินบ่นว่าร้อนหลังจากทำความสะอาดเสร็จ เลยไม่ได้ใส่เสื้อน่ะครับ”
“ฉันเมาขนาดนั้นไปอาบน้ำไหวด้วยเหรอ”
“ไม่ได้อาบน้ำครับแค่ทำความสะอาด”
“ทำความสะอาดอะไร ?”
“...”
เจเคเงียบไปเมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นระหว่างการสื่อสาร ดูเหมือนจีมินจะจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้
“ทำไมเตียงฉันเปื้อน ฉันพาใครเข้ามานอนด้วยเหรอ ?”
ปาร์คจีมินสังเกตได้ว่าผ้าปูเตียงไปจนถึงผ้าห่มของเขามันเปื้อนคราบที่คุ้นเคยดี
“ไม่ครับ”
“แล้วมันเปื้อนได้ไง”
“...”
ความเงียบทำให้ชายหนุ่มมองหน้าหุ่นยนต์ที่ยืนนิ่ง
บรรยากาศทุกอย่างแปลกไปอย่างไม่เคยเป็น
ความเจ็บในตัวของเขา
คราบเปื้อนบนเตียง
และเรื่องที่เจเคบอกเล่ามันทำให้เขาต้องการเค้นคำตอบ
“เจเค ใครทำมันเปื้อน”
“เราครับ”
“ฉันถามว่าใครทำมันเปื้อน”
“เมื่อคืนเรามีอะไรกัน มันเลยเปื้อนครับ”
“ใครมีอะไร”
จีมินรู้ตั้งแต่คำแรกที่เจ้าเจเคเล่ามาว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาต้องการถามย้ำราวให้สิ่งที่คิดมันเป็นการเข้าใจผิด
“จีมินกับผม เมื่อคืนนี้เรามีอะไรกัน-”
พลั่ก!
เจ้าของส่วนสูง188ร่วงลงไปกองที่พื้นทันทีที่หมัดจากเจ้าของซัดเข้ามาบนใบหน้าตัวเอง
“ทำอะไร มึงทำอะไร”
“ผมบอกไปแล้วครับ”
พลั่ก !
ปาร์คจีมินไม่แคร์ความเจ็บในร่างกาย ชายหนุ่มตัวสั่นเทิ่มหายใจแรงเพราะความโกรธ เขาหน้ามืดซัดหน้าหุ่นยนต์ไปอย่างรุนแรงอย่างนับครั้งไม่ถ้วนจนหลังมือตัวเองเป็นฝ่ายแตก
ตุ๊บ
จีมินนั่งลงข้างหุ่นยนต์ที่หน้าช้ำจากการซัดของเขาอย่างหมดแรง มันไม่แม้แต่ตอบโต้หรือห้ามสักนิด แต่มันกลับปล่อยเขาระบายความโกรธด้วยหมัดจนเขาเป็นฝ่ายเหนื่อย
“กูเคยบอกมึงไปแล้ว กูบอกมึงไปแล้วว่ากูไม่ใช่! มึงทำเหี้ยอะไร ทำอะไรวะ!!”
“อ่อก!”
ชายหนุ่มถึงกับอ้วกออกมาเพียงเพราะนึกภาพผู้ชายสองคนต้องมีอะไรกัน
กระบวนการ
วิธีทำ
และท่าทางที่นึกตาม
มันทำเขาขนลุกและขยะแขยงจนต้องขย้อนเอาน้ำเมาออกมา แค่จินตนาการภาพเหมือนอย่างในหนังผู้ใหญ่ที่เคยผ่านจอเขาก็แทบรับไม่ได้
ความอาย
ความโกรธ
และความรู้สึกที่เหมือนศักดิ์ศรีลูกผู้ชายโดนหยามทำลาย
ทุกอย่างที่จีมินรู้สึกถูกระบายออกมาเสียงดังลั่นห้อง เขาจำอะไรไม่ได้ และตอนนี้เขารู้สึกขยะแขยงในสิ่งที่รับรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เขาซึ่งเป็นผู้ชายที่ร่วมรักกับผู้หญิงมาตลอด พึ่งจะถูกผู้ชายด้วยกันบอกว่าเมื่อคืนเขามีอะไรกับมันไป
เขาไม่ใช่เกย์
เขาไม่ใช่รักร่วมเพศ
“มึง มึงจะไม่ได้อยู่ที่นี่อีก จำเอาไว้ว่ากูไม่ใช่เกย์ กูชอบผู้หญิง กูเอาผู้หญิง ไม่ใช่กับมึง มึงเข้าใจมั้ย!!”
“จีมินเป็นผู้ชายสำหรับผมครับ จีมินยังเป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนสุภาพ เป็นผู้ชายที่เข้าไปช่วยผู้หญิงไม่ให้ถูกปล้น”
พลั่ก!
เป็นอีกครั้งที่หมัดจากเจ้าของซัดเข้าหน้าคมคาย ปาร์คจีมินขอบตาแดงจากอารมณ์โมโห เขารู้สึกอยากร้องไห้และอยากซัดหน้าเจเคให้มันสลบคามือ
เขาไม่ต้องการฟังอะไร และเขาไม่ยอมรับเรื่องพวกนี้อย่างเด็ดขาด
“กูจะส่งมึงกลับบริษัท”
G TECH
“เห้ย โดนอะไรมาวะ มีเรื่องมาเหรอ !?”
ซอกจินถึงกับตกใจเมื่อเห็นสภาพของJK901ที่เดินตามเจ้าของเข้ามายังห้องแล็บของเขา ปาร์คจีมินได้โทรนัดให้เขามาเจอที่นี่โดยบอกว่ามีเรื่องสำคัญ
จะให้เขาซ่อมหุ่นให้เหรอ
“จิน”
“มึงเป็นอะไรมั้ย ?”
KT1230ขมวดคิ้วเมื่อมองไปยังผู้เข้ามาใหม่ เขาสัมผัสได้ถึงกิริยาตอบโต้เชิงลบและอารมณ์ฉุนเฉียวที่เพื่อนซอกจินแสดงออกมา
“ทำลายมันให้กูได้มั้ย”
“ทำลายอะไร”
“ทำลายมัน”
ชายหนุ่มชี้ไปที่หุ่นหน้าตาบอบช้ำจากการระบายอารมณ์ของตัวเอง
“เป็นอะไรหรือเปล่าจีมิน ?”
“กูขอใช้สิทธิ์ สิทธิ์ที่ตระกูลกูเคยสร้างบริษัทนี้ช่วยตระกูลมึง กูขอให้มึงเอามันไปทำลาย”
หลายสิบปีก่อนบริษัทนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากต้นตระกูลของเขาและซอกจิน แต่เพราะหุ้นที่ตระกูลเขาถือมันน้อยมากหากเทียบกับตระกูลคิม พ่อของเขาจึงตัดสินใจขายมันให้พ่อซอกจิน และกลายเป็นว่าบริษัทนี้ตระกูลคิมถือหุ้นทั้งหมดไว้
สมบัติที่มีมากมายคือเหตุให้ปาร์คจีมินเลือกออกจากงานไปใช้ชีวิต เพราะเขาไม่คิดจะมีครอบครัว เงินทองมากมายที่ต้นตระกูลหาไว้ยังไงก็ใช้ไม่หมดและคงไม่มีทายาทมาใช้ต่อ ต่อให้เขาตายก็ตาม
“กู-”
“กูขอร้องมึง”
“จีมิน กูไม่รู้หรอกว่ามึงเป็นอะไรกับหุ่นมึง มึงไม่ต้องขอร้องกูก็ทำให้ แต่มึงคิดดีแล้วเหรอ”
“การเปิดระบบมันคือความเฮงซวยที่สุดของชีวิตกู”
“กูให้เวลามึงคุยกัน5นาที กูไปเปลี่ยนเสื้อก่อน กลับมาถ้ามึงเปลี่ยนใจ-”
“ไปเปลี่ยนชุดตอนนี้แล้วมาทำลายมัน”
“จีมินครับ ผมขอโทษนะครับ”
หลังจากทั้งห้องเหลือเพียงเขาและจีมิน JK901จึงขอโทษเจ้าของ ก่อนหน้านี้จีมินระบายความโกรธกับเขาโดยไม่เว้นช่วงให้เขาได้มีโอกาสขอโทษ
“คิดว่าขอโทษแล้วฉันจะเปลี่ยนใจเหรอ ?”
“เปล่าครับ ผมทราบดีว่าจีมินตัดสินใจแล้ว ผมแค่อยากบอกว่าผมไม่เคยอยากทำให้จีมินรู้สึกไม่ดี”
“หายไปจากชีวิตฉันซะ นั่นแหละคือคำขอโทษที่นายจะให้ฉันได้”
“ครับผม ผมขออนุญาตพูดอะไรอีกหนึ่งอย่างได้มั้ยครับ”
“พูดมามันก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นหรอก”
“ผมไม่รู้ว่าจีมินทราบหรือเปล่า แต่ผมรักจีมินนะครับ รักตั้งแต่วันที่จีมินเปิดระบบผม รักจีมินตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า จีมินเป็นความทรงจำแรกของผม จีมินอาจจะพูดได้ว่าผมเป็นหุ่นยนต์ ผมรักไม่ได้ แต่ผมคิดว่าถ้าผมมีชีวิต ถ้าผมมีความรู้สึกอย่างคนจริง ๆ สิ่งที่ผมเป็นอยู่มันคงเป็นความรู้สึกที่เรียกว่ารัก แต่ตอนนี้ผมรู้สึกถึงมันได้เท่านี้ที่ความสามารถผมรู้สึกได้ ถ้าเลือกได้ผมก็อยากมีความรู้สึกให้จีมินอย่างที่คนทำได้-”
“ฉันขอสั่งให้นายเดินไปในห้องนั้น เข้าไปยืนในกล่อง แล้วชัทดาวน์ตัวเองเดี๋ยวนี้”
“ครับ แต่ผมขออนุญาตให้จีมินเป็นความทรงจำแรกของผมต่อไปได้มั้ยครับ”
“ฉันไม่อนุญาต”
“ครับ”
เจเคเดินเข้าไปห้องที่มีกระจกกั้นไว้ระหว่างเขาและจีมิน หุ่นยนต์ตัวยักษ์พาตัวเองเดินเข้าไปในกล่องโดยไม่ลังเล
ดวงตาสีนิลแปรเปลี่ยนเป็นสีฟ้าเพราะระบบกำลังถูกเซทให้ชัทดาวน์มองชายหนุ่มที่ยืนจ้องตัวเองจากอีกฝากของกระจกเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนเปลือกตาสีแทนจะหลับลงพร้อมกับร่างกายที่ยืนนิ่งอยู่ในกล่อง
ทุกอย่างที่คนสองคนกำลังทำกับJK901อยู่ในสายตาของคิมแทฮยอง เขายืนมองทุกอย่างเงียบ ๆ อยู่มุมห้อง
ยืนมองหุ่นยนต์ด้วยกันกำลังถูกทำลาย
“มึงจะถ่ายโอนความทรงจำเก็บ-”
“ไม่”
“แทฮยอง วานเข้าไปล้างความจำJK901ให้ฉันหน่อย”
ภาพใบหน้าที่ม่วงช้ำนั้นเหมือนกับคนธรรมดาที่หลับสนิท แทฮยองมองJK901ด้วยแววตาเรียบนิ่ง
เขากำลังช่วยคนสองคนทำลายหุ่นยนต์ที่เหมือนกับตัวเอง
เจ้ากล่องนั่น ที่หุ่นJK901เข้าไป มันคือสิ่งที่ถูกสร้างให้ทำลายหุ่นอย่างพวกเขาเมื่อมนุษย์ไม่ต้องการ
พวกเขาจะไม่เหลือร่างกาย ไม่เหลืออะไหล่ ไม่เหลือแม้แต่ความทรงจำ กระทั่งการมีผู้คนจดจำว่าเคยมีหุ่นอย่างพวกเขาอยู่
ดวงตากลมโตก้มลงมองข้อมือที่มีชื่อรุ่นJK901สลักอยู่ สิ่งที่เขาทำก็แค่ต้องทำลายความทรงจำของหุ่นยนต์ตัวนี้
“เสร็จหรือยัง”
“เสร็จแล้วครับ”
“นายก็ออกมาได้แล้ว”
คิมซอกจินมองผลประมวลระบบในจอคอมพ์เป็นครั้งสุดท้าย ก้านนิ้วเจ้าของบริษัทกดคำสั่งทำลายหุ่นยนต์ลงไปพร้อมกับมองเพื่อนตัวเองที่ยืนนิ่งแต่เหม่อมองไปที่อื่น
จีมินไม่แม้แต่มองกระบวนการทำลายนั้นด้วยซ้ำ
“เหมือนสัตว์เลยนะครับ”
“อะไร ?”
เขาผละออกมาจากจอคอมพ์มองแทฮยองที่พึมพำขึ้นมา
“JK901ไงครับ เขาเหมือนกับสัตว์ สัตว์ที่พึ่งถูกเจ้าของทิ้ง”
“ออกไปอยู่ข้างนอกหรือไปหาขนมกินก่อนไป ไม่มีก็บอกพี่เลขาให้เขาหาให้”
“นายไม่รู้อะไรหรอก”
ปาร์คจีมินรู้ว่าหุ่นของเพื่อนกำลังประชดประชันตัวเอง และเขาไม่อยากจะถือสามันมากไปกว่านี้
“ครับ ผมไม่รู้อะไร หุ่นอย่างเราไม่รู้อะไรนอกจากฟังคำสั่งของพวกคุณโดยไม่มีสิทธิ์ตั้งคำถามอะไรหรอกครับ”
ดวงตาเรียวมองKT1230ที่เดินออกจากห้องไปก่อนจะสูดหายใจระงับความโกรธ วันนี้มันเป็นวันที่ซัดเขาจนอ่วมอย่างไม่เคยเป็น
จีมินมองไปในตู้ที่ว่างเปล่าด้วยใบหน้านิ่งเฉยอย่างคาดเดาไม่ได้
ก่อนหน้านี้มันเคยมีJK901อยู่ในนั้น
แต่ตอนนี้มันว่างเปล่าไร้ร่องรอยของการเคยมีอยู่เสียแล้ว
ไม่มีJK901บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว
_____
TAG #หุ่นยนต์จองกุก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จ้ะ อ่ะจ้ะ เข้าใจแล้วจ้ะ