ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หน้ากากจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #1 : Prologue : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 63


    ในห้องๆหนึ่งในบ้าน2ชั้นแถวๆชานเมือง มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังจ้องมองไปที่จอคอมพิวเตอร์ของเขาในห้องมืดมิดมีแค่เพียงแสงจากจอ เขากำลังนั่งลุ้นตัวโก่งเหมือนจะคาดหวังอะไรสักอย่าง

    "โธ่โว้ยย! เกลืออีกแล้ว เติมเงินไปตั้งขนาดนี้แล้วยังไม่ได้โกงกันชัดๆเลยนี่หว่า เรทกาชาก็บอกว่าเปิดครบ 100ใบมีโอกาสได้ SSR 99.99% ไม่ใช่หรอแล้วทำไมยังไม่ได้อีก เกมเฮงซวยเงินเก็บก็ใกล้หมดแล้วสงสัยจะได้กินเกลือแทนข้าวๆจริงล่ะมั้ง"

    "มีอะไรหรือเปล่า ยูยะ เสียงดังเชียว"

    เสียงพี่สาวของผม ได้ตะโกนถามมาจากห้องครัวชั้น1ของบ้านหลังจากได้ยินเสียงที่ผมพึ่งบ่นไป

    ทุกคนอาจจะสงสัยว่าเขาคือใครนั้นผมเองแหละครับ อิซากิ ยูยะ เป็นฮิคิโคโมริที่ชอบเก็บตัวอยู่แต่บ้านไม่อยากที่จะไปพบผู้คนหรือใครๆทั้งนั้นแม้แต่จะออกไปเจอข้างนอกไปเจอกับความวุ่นวายพวกสังคมขยะแขยงที่ทำให้ผมแถบจะอ้วก และแสงแดดที่ร้อนตับแตกนั้นก็ทำให้ผมเลือกที่นอนตอนเช้าและตื่นตอนเย็น ตลอดชีวิตวันๆของผมก็ได้แค่นั่งเล่นเกม ดูหนังฟังเพลงไปวันๆ แต่จุดสำคัญจริงๆคือเรื่องดวงของผมนี้สิทำไมมันซวยได้ขนาดนี้

    "ไม่มีอะไรหรอกพี่เน่ แค่เปิดกาชาได้เกลือเหมือนทุกทีแหละ"ผมคะโกนตอบไป

    "ถ้าอย่างงั้นกับข้าวเสร็จแล้วลงมากินได้แล้วเดียวจะเย็นสะก่อน"

    ผมเริ่มจะเชื่อแล้วสิว่า กาชาเป็นอารยธรรมที่ชั่วร้าย

    ผมเดินออกมาจากโต๊ะคอมและเดินตรงมาที่ห้องครัวด้วยความรวดเร็ว และเริ่มได้กลิ่นหอมๆของกับข้าวลอยมาจากห้องครัว

    "มาสักที วันนี้พี่ทำของโปรดหลายอย่างให้เลยนะ น้องต้องชอบมาแน่ๆ"

    พี่เน่ทำมือกางออกเหมือนจะอวดถึงอาหารฝีมือของตัวเองที่ได้ทำบนโต๊ะ

    พี่เน่ เป็นพี่สาวของผมที่พ่อกับแม่ฝากให้ดูแลผม เพราะว่าพ่อแม่ต้องการหาเงินมากๆจึงไปทำงานต่างประเทศตั้งแต่พวกผมยังเด็กผมจึงอยู่กับพี่สาวของผมพี่สาวคอยให้กำลังใจผมเสมอ ผมไม่อยากเป็นภาระมากให้กับพี่เน่ และการที่ผมเกลียดสังคมเข้าไส้ จึงตัดสินใจออกจากการเรียนแล้วมาเก็บตัวอยู่บ้าน ถึงจะทำให้พี่เป็นห่วงอยู่หน่อยๆแต่พี่เน่ก็เข้าใจและไม่ได้ว่าอะไรมากนักจะกลับมาอีกทีเมื่อไหร่ก็ไม่รู้จะเป็นยังไงก็ช่างเถอะไม่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่มาตั้งแต่เด็กแล้ว

    "จริงๆเป็นอะไรก็กินได้หมดแหละ" ผมตอบกับไปแบบไม่สนใจ

    "เอ~~~ทำเป็นปากแข็งนะ~~จริงๆก็ชอบใช่ไหมล่ะพี่รู้นะ"

    "มะ-ไม่ต้องพูดมากหน่าา มากินกันดีกว่า"ผมรีบพูดตัดบทสนทนา

    หลังจากนั้นพวกเราก็ได้นั่งกินข้าวกันและพูดคุยกันนิดหน่อย

    "นี่ อิซากิ ไม่คิดจะไปข้างนอกบ้างหรอ..... ม-ไม่ใช่ว่าจะว่าอะไร...หรอกนะพี่แค่ถามเพราะเป็นห่วงเฉยๆบางที..เรา.....อาจจะอยากไปเที่ยวเล่นข้างนอกบ้าง"

    "ไม่ไหวหรอก แค่จะออกบ้านทียังจะเป็นจะตายอยู่แล้วขออยู่บ้านเฉยๆดีกว่า"

    ผมเหลือบไปเห็นกระดาษใบหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะ จึงเดินไปหยิบขึ้นมาอ่านเห็นเขียนอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ไหมอะไรซักอย่าง ก่อนจะถามพี่เน่ทีี่กำลังเก็บจาน

    "กระดาษนี้ได้มาจากไหนหรอพี่เน่"

    "ได้มาจากคนแจกใบปลิวที่หน้าสถานีน่ะ เห็นบอกว่าเกี่ยวกับโครงการเกมๆอะไรสักอย่างตอนพรุ่งนี้เช้านี้แหละ .....สนใจหรอ"

    "......."

    "พี่ว่าลองไปเข้าหน่อยก็ได้นะพี่ว่า...อาจจะชอบก็ได้ ถือว่าเป็นการออกไปช้างนอกตอนกลางวันบ้าง"

    ...................

    ......

    ..

    หลังจากพวกเราคุยอะไรมากเหมือนปกติ พี่เน่ที่ทำงานมาทั้งวันก็ขอตัวไปนอน

    "ห้าวววว ง่วงนอนสะแล้ว วันนี้ทำงานหนักมากเลยพี่ขอไปอาบน้ำนอนก่อนละนะ .....เราก็อย่านอนดึกละ เดียวไปเข้างานเกมนั้นไม่ทันสะละ"

    “รู้แล้วน่า เรื่องแค่นี้ไม่ต้องบอกก็ได้ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ”

    “จ้า~~”

    ผมกลับมาที่ห้องและนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะคอมตัวโปรดก่อนจะนั่งอ่านรายละเอียดของกระดาษใบปลิวแผ่นธรรมดามีตัวหนังสือไม่กี่คำและมีเว็บไซต์อยู่บนกระดาษผมรีบพิมพ์ URL ไปยังBrowser ในคอมพิวเตอร์เพื่อเปิดเว็บไซต์นั้น

    ภาพเริ่มปรากฏขึ้นมามีตัวหนังสือขึ้นมาบนพื้นหลังสีขาวธีมดำขึ้นตัวอักษารไม่กี่คำว่า

    ...............................................

    รับกับประสบการณ์เข้าไปในต่างโลกครั้งแรกของโลกที่เราเป็นผู้เลือกเกิดจะเป็นอะไรก็ได้จนต้องลืมโลกที่เราอยู่ไปเลย

    [เข้าสู่เว็บไซต์]

    [ดูตัวอย่างเกม]

    [ติดต่อ]

    .........................................

    ถึงจะดูเหมือนโฆษณาชวนเชื่อก็เถอะแต่ลองหน่อยก็ไม่น่าเสียหาย ผมกดเข้าสู่เว็บไซต์ไป และดูรายละเอียดแบบผ่านๆ

    “โลกเสมือนหรอ........ น่าสนใจดีนี่ เลือกอะไรก็ได้อย่างงั้นหรอ ถ้าเราได้เลือกเกิดได้ก็คงเลือกให้โชคดีมั้งนะ”

    ผมนั่งอ่านดูรายละเอียดเกมไปเรื่อยๆจนเผลอหลับไป.

    ................................................................................................................................................................................................

     

    “…….พี่ไปทำงานก่อนนะ อย่าลืมล็อคบ้านล่ะ”

    ผมได้ยินเสียงแว่วมาจากข้างนอกห้อง ทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา

    “ก-กี่โมงแล้วเนี่ย! 8โมง30นาทีแล้วหรอเนี่ย งานเริ่ม 9โมง30นาที ดันเผลอหลับไปสะได้ต้องรีบแล้ว”

    ผมรีบเตรียมตัวแล้วเดินลงมาชั้นล่าง ใส่เสื้อคลุมฮูดคลุมหัวและหยิบเงินที่พี่เน่วางบนโต๊ะเป็นประจำก่อนเดินออกไปเปิดประตูบ้าน

    ตอนเจอกับเสียงแดดตอนเช้ากระทบกับร่างกายของผม รู้สึกราวกับจะถูกเผาไหม้ไปกับแสงแดด

    “ร้อนชะมัดนี่เราไม่ได้ออกบ้านตอนเช้ามาแล้วกี่ปีเนี่ย ถ้าไม่ได้เสื้อคลุมคงตายไปแล้วแน่ๆ”

    ผมจึงรีบเดินทางไปยังตึกๆที่เริ่มเปิดตัวเกมนี้ ผมเข้างานและมีสตาฟผมไปยังห้องพักที่ใช้เข้าเกม ในห้องเป็นห้องธรรมดาแต่มีอุปกรณ์สำหรับเล่นเกมวางเรียงรายเต็มไปหมด ทั้งที่สวมหัว ถุงมือแปลกๆชุดสำหรับเล่นเกมต่างๆ คล้ายๆกับการ์ตูนอะไรสักอย่างที่เคยดู ผมได้รับคำแนะนำจากสตาฟและสวมอุปกรณ์เสร็จแล้วก็นอนบนเตียงที่เตรียมให้และขณะนั้นก็ ได้ยินเสียงของพิธีกรที่กำหลังเปิดงานอย่างชัดเจน

    “สวัสดีผู้เกียรติทุกท่าน ยินต้อนรับเข้าสู่งานเปิดตัวเกมโลกเสมือนที่ไม่ใช่แค่เกม แต่คือโลกอีกใบนั้นเองขณะนี้ได้เวลาผู้ทดสอบกลุ่มแรกจำนวน 200 คนแรก จะได้เข้าไปยังโลกใบใหม่แล้วครับ”

    พูดมากจริงรีบเปิดให้เล่นสักที ผมที่อดใจแทบไม่ไหวคิดในใจ

    “ถึงเวลาเปิดเซิฟเวอร์แล้วเอาละครับ 3....2.....1OPEN THE NEW WORLD”

    หลังจากที่สิ้นเสียงของพิธีกรสตาฟได้เปิดเครื่องหลังจากนั้น ผมรู้สึกถึงไฟแล่บที่ร่างกายและหัวของผม ขณะนั้นภาพในหัวของผมตัดไปเป็นสีขาวโพลนไปหมด ร่างกายรู้สึกเบาๆ ผมมีความคิดขึ้นมาในหัวผุดขขึ้นมาว่า‘นี้เราตายแล้วหรอ’ แต่เราไม่เคยตายเลยนี่หน่า ทันใดนั้นเองจู่ๆมีแสงสว่างพุ่งมาด้วยความเร็วๆ ผมหลับตาทันที

    วิ้งๆ

    ผมได้ยินเสียงบางอย่างจึงลืมตาขึ้นมาดู เห็นห้องที่มีลวดลายคล้ายรูปทรงต่างๆประดับด้วยสีวิบวับเต็มไปหมด เห็นกล่องข้อความสี่เหลี่ยมพื้นผ้าลอยขึ้นมาเขียนไว้ว่า

    [ยินดีต้อนรับจะให้ฉันเรียกคุณว่าอะไรดีคะ]

    มีเสียงเด็กผู้หญิงดังขึ้นมาพร้อมกับข้อความ

    ‘ชื่องั้นหรอ ไม่อยากให้ใครรู้จักด้วยสิเอาแบบเท่ๆกว่ามั้งหน่อยดี’ ผมกรอกชื่อไปว่า แอสทารอส

    [โอเคค่ะคุณแอสทารอสโปรดเลือกอาวุธของคุณ ดาบ โล่ หอก ธนู คทา หรืออุปกรณ์สุดพิเศษนี้สำหรับผู้ชอบท้าทาย กล่องสุ่มอาวุธค่า]

    กล่องสุ่มหรอ! น่าสนใจ เดิมทีเราก็ชอบอะไรแบบนี้ด้วย ถึงจะรู้ว่าอารยธรรมกาชามันชั่วร้ายแต่ก็อดใจไม่อยู่ เอาสักหน่อยดีกว่าหวังในโลกนี้คงไม่เกลือแล้วมั้ง ขอลองหน่อยเถอะ

    “งั้นเอากล่องสุ่มอาวุธละกัน”

    [“เข้าใจแล้วค่ะ นี่กล่องของคุณค่ะ กล่องนี้จะทำงานและอาวุธจะไปอยู่ในคลังของคุณ.....หลังจากที่เข้าไปในเกมแล้วค่ะ”]

    ผมรับกล่องรูปทรงหกเหลี่ยมมาเก็บไว้ในช่องเก็บของ

    [สุดท้ายแล้วคะ ขอใหหห้ห้ห้ โชคคคคคคคคคคคคคคคคคดีดดีดีดีด นะนนนนนนนนนค่ะ]

    เสียง NPC ลากยาวและยานแปลกๆ คงคิดไปเองละมั้ง

    ผมรู้สึกได้ถึงเสียงของเด็กสาวต้อนรับที่แปลกๆไปจู่ๆฉากในห้องรูปทรงต่างๆก็เปลี่ยนไปยังกลางเมืองของโลกใบใหม่ มองเห็นบ้านที่สร้างขึ้นด้วยไม้และหินพื้นปูด้วยหินเหมือนสมัยโบราณตามสไตล์เกมMMORPGทั่วไป

    ผมมองไปรอบๆตัวเห็นคนแต่ละคนมีอาวุธหลายอย่างไม่ซ้ำกัน

    'เหมือนว่าคนอื่นจะมาถึงโลกนี้กันหมดแล้วสินะ ลากันทีโลกเก่าอันแสนเน่าแฟะ'

    ดูเหมือนว่าทุกคนที่มาถึงโลกนี้มีหน้าคล้ายๆกับโลกเดิมเลยสินะ

    “ประกาศๆ ยินดีต้อนนรับทุกคนนะ พวกเรามาสนุกกกันเถอะนะ ไม่สิจริงๆต้องพูดว่าถึงเวลาสนุกได้แล้วพวกแกกกสวะทั้งหลาย”

    ผมมองเห็นชายคนนึงน่าจะเป็นแอดมินหรืออะไรสักอย่างกับละพูดต้อนรับที่ลานกลางเมือง

    "หยาบคาย"

    “อะไรเนี่ย แอดมินอย่างงี้จะส่งคำวิจารณ์ไปให้บริษัทเด้งเเม่งออก” เสียงจากบางคนที่ยืนดูเหมือนกันพูดขึ้นมา

    “ล้อกันเล่นหรือป่าว พูดอย่างงี้สงสัยอยากโดนงัด”

    “เกมห่วยเลิกเล่นดีกว่าแบบนี้ แย่ที่สุด”

    “อ่ะอ้าวววจะไปไหนสะล่ะมาเล่นกันก่อนสิแกยังไม่รู้ตัวและจุดยืนของพวกแกสินะ พวกแกนะกลับไปไหนไม่ได้แล้วพวกแกต้องใช้เวลาทั้งชีวิตอยู่ที่นี้จนพวกแกตายไปให้หมด ไม่มีใครมาช่วยพวกแกได้”

    ชายคนนั้น พูดพร้อมฉายภาพเหตุการณ์โลกที่เราอยู่ขึ้นมา แสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์ชุลมุนในห้องเซิฟเวอร์เกม

    “หัวหน้าครับ เราถูกโจมตีจากผู้ไม่ประสงค์ดี เซิฟเวอร์ของเราโดนยึดไปแล้ว และด้วยช่องโหว่ของอุปกรณ์ไม่สามารถดึง สติคนเล่นกลับมาได้เลยครับ“

    “ถ้าอย่างงั้นรีบหาทางแก้สะ และสืบหาตัวแฮกเกอร์มาให้ได้ครับ”

    “เราสืบเจอแล้วครับแต่ว่าก็ทำอะไรไม่ได้ครับ หัวหน้าเหมือนว่าแฮกเกอร์จะยิงตัวตายไปแล้ว แล้วโค๊ดลับที่แฮกเกอร์ใช้ไม่มีใครรู้ ดูเหมือนต้องใช้เวลา นานมากกว่าจะแก้ได้อย่างเร็วก็ 2-3 ปีไม่อย่างงั้นอาจจะทำให้ผู้ทดลองตายก็ได้”

    “ไม่ได้การละเราต้องปิดเรื่องนี้ไว้ไม่งั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ได้ เพราะว่าถึงร่างกายจะอยู่แต่จิตใจอาจตายไปก่อนก็ได้ "

    ……………..หลังภาพนั้นก็ตัดไป

    เกิดเหตุวุ่นวายบางคนด่าถอ บางคนร้องไห้ บางคนพยายามออกจากเกมแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

    “ไม่นะ พวกเราจะกลับไปไม่ได้แล้วหรอ แล้วจะทำยังไงละอ่านข้อมูลมาบอกว่าโลกนี้ 10 วันเท่ากับ โลกเรา 1วัน ถ้าอย่างงั้นเราจะติดอยู่ที่นี้ 20-30ปีเลยหรอ”

    "โกหกแกมันก็โกหกก็แค่การล้อกันเล่นแน่ๆ"

    “ฉันจะติดอยู่ที่นี่ตลอดไปเพราะโดนรัฐบาลทิ้งงั้นหรอ ”

    “ไม่เอา แล้วอยากกลับบ้าน”ผู้หญิงบางคนเริ่มร้องไห้

    "ฉันเป็นลูกคนใหญ่คนโตเลยนะปล่อยออกไป"

    ต่างคนต่างแล้วแสดงท่าทีกังวลและไม่พอใจ

    “ทำเป็นร้องไห้ไปได้ ไอ้พวกสุขสบายก็อย่างงี้แหละ หวังว่าจะสนุกกับโลกใหม่ที่ฉันสร้างขึ้นมาใหม่น่ะ ฮ่าๆๆเจอกัน”

    ขณะนั้นเองร่างกายของชายคนนั้นก็หายไป เกิดเสียงพูดคุยทะเลาะร้องไห้กันดังไปทั่วเมือง ตอนนั้นเองก็มีคนพูดขึ้นมา

    “นี้ทุกคน เรามาหาทางออกไปด้วยกันเถอะ ถ้าเราช่วยกันอาจจะเจอทางออกก็ได้น่ะ เริ่มแรกเรามาแบ่งหน้าที่.....” เสียงผู้ชายถือดาบหน้าตาหล่อเป็นพูดขึ้นมา

    ผมเดินแยกตัวออกมาก่อนเพราะไม่อยากฟังไม่อยากไปรวมกลุ่มกับใครเพราะเหตุการณ์นั้นทำให้ผมนึกถึงอดีตที่ผมอยากจะลืมๆมันไป

    'ทำตัวเป็นพระเอกไปได้ พวกแกหาทางดิ้นรนไปเถอะ จะทำอะไรก็เชิญโลกนี้ฉันจะทำตามใจตัวเองไม่ให้ใครมาควบคุมหรอก '

    รำคาญเป็นบ้าเลยพวกมนุษย์สังคมที่ชอบเหยียดหยามเอาเปรียบกัน ทำตัวเอาหน้าจริงๆก็ทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองนั้นแหละ มาต่างโลกก็นึกว่าจะได้อะไรใหม่ๆ สุดท้ายก็มาเจอไอ้พวกเห็นแกตัวสร้างภาพอยู่อีก เห็นพวกแกแล้วปวดหัวจนอยากจะอ้วกออกมาเลยวะ ขอไม่ยุ่งกับพวกแกแล้วกัน

    ในเมื่อเลือกไม่ได้กลับมาโชคร้ายแบบนี้อีกแล้ว ก็มีแต่ต้องไปต่อเท่านั้นเมื่อผมตัดสินใจได้ดั้งนั้นก็เดินออกจากกลุ่มฝูงชน และเดินออกไปตามทางของตัวเองต่อไป....................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×