ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DEUS : GOD RISES(รับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #9 : Episode 3 Fight and run

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ค. 60








    "เฮ้ฮฮฮฮฮฮฮ!!"

      

      ในจังหวะเพียงเสี้ยวเดียวไอซ์กับสเปอร์นอฟที่คิดว่าตัวเองจะต้องเหนี่ยวไกซะแล้ว เหตุการณ์มันดันโอละพ่อเพราะว่าเป้าหมายไม่ใช่พวกเขา

      "!?"

      ทหารที่เป็นคนเปิดถีบประตูบานฝั่งใกล้ๆทางสเปอร์นอฟ แต่เปิดประตูกลับซะเองคนที่ถีบประตูเลยพุ่งตัวเข้าในห้องส้วม และถูกคนในห้องคว้าร่างเข้ามาพร้อมจัดการล็อคกลอนห้องน้ำเสร็จสรรพ

      "แก!"

      ทันทีที่ถูกคว้าตัวมาทหารคนนี้ก็ได้เห็นร่างของชายในชุดจอมเวทย์สวมฮู้ดสีดำอยู่ข้างๆตัว

      ทหารที่ถีบประตูชักดาบขึ้นมาง้างหวังฟันในคนที่คว้าตัวเขา แต่เหมือนเขาจะลืมไปว่าในห้องส้วนพื้นที่มันแคบ ดาบที่ชักออกเลยเผลอไปปักคาผนังระหว่างห้อง ทะลุมาถึงผนังห้องสเปอร์นอฟ

      "เฮ้ย!? ออกสิว่ะ!"

      ทหารคนนั้นพยายามดึงดาบ เปิดโอกาสให้คนในห้องชกฮุคท้องตัวงอเป็นกุ้ง แขนทั้ง2จับหัวทหารคนนั้นกดลงกับชักโครกหน้ากระแทกกับฝาอย่างรุนแรงจนดั่งจมูกแตก ก่อนจะใช้ฝ่ามือสับลงเข้าที่ท้ายทอยจังๆทำให้ทหารคนนั้นหมดสติและทรุดคาฝาชักโครก

      ปัง!

      ไม่ทันไรประตูห้องที่ล็อคกลอนได้ถูกทหารที่ใช้ขวานถีบจากด้านนอก ประตูกระเด็นเข้าไปห้องราวกับโฟม แต่ทว่าคนในห้องกลับตบเท้าขึ้นกลางโดยใช้ฐานใบหน้าที่จูบฝาชักโครกเป็นฐานโดดทำให้ใบหน้าที่แนบชิดยิ่งชิดอีก ซ้ำร้ายประตูกระเด็นชนกับก้นกบทหารผู้โชคร้ายจนดังกร๊อบ

      "ข้าจะฆ่าแก!!"

      เมื่อรู้ว่าผิดคิวเต็มๆ ทหารที่ใช้ขวานบันดาลโทสะ เข้าไปในห้องง้างขวานผ่าแบบนอนจอมเวทย์สีดำที่ถูกแรงโน้มถ่วงฉุดให้ลงหวังผ่าให้เป็น2ท่อน นั้นเป็นจังหวะกับที่จอมเวทย์สีดำยื่นเหวี่ยงปลายเท้าดีดประตูที่พังพึงคาร่างทหารเข้ารับการโจมตี ทำให้ขวานที่ควรจะผ่าศัตรูกลับฝังเข้าไปในเนื้อไม้ซะเอง

      ทันทีที่เท้าเหยียบลงพื้นกระเบื้องสีทราย ไม่มีการร่ายเวทย์อะไรทั้งนั้น จอมเวทย์สีดำรวบรวมพลังเวทย์ธาตุลมปล่อยอัดกระแทกทั้งคนทั้งประตูลอยปลิวไปทั้งคู่

      เพล้ง!

      ทหารใช้ขวานตัวลอยไปหลังกระแทกกับกระจกใสอย่างแรงเหมือนกับโดนไวเวิร์นชน ด้วยแรงกระแทกอันหนักหน่วงเขาถึงกับกระอักออกมาคำโตจากอาการบอบช้ำภายในก่อนหมดสติไปอีกราย ส่วนกระแทกที่เบาอยู่แล้วก็แตกละเอียดเป็นเม็ดทรายทะเลกระจายไปทั่วห้อง

      สิ้นเหตุการณ์ทหารทุกนายแทบใบ้กิน ไม่มีใครจะนึกว่ายอดฝีมือของกลุ่มพวกเขาจะสิ้นท่าได้ง่ายๆแบบนี้

      ร่างของจอมเวทย์สีดำค่อยๆเดินออกจากเงามืดในห้องส้วมยลโฉมสู่แสงไฟใจกลางห้องน้ำชาย ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดไปเองหรือไม่ว่าเป้าหมายของพวกเขานั้นน่ากลัวกว่าที่คิด!

      "รอบ้าอะไรอยู่เล่าเจ้าบ้า! พวกเรามากันเป็นสิบคนนะโว้ย!! ฆ่ามันสิฟ่ะ!!"

      เสียงตะคอกจองหัวหน้าพวกเขาปลุกให้ทุกนายหลุดจากภวังค์แห่งความกลัว ใช่แล้ว พวกเขามากันหลักสิบแค่นักเวทย์ที่เตะต่อยเก่งมันจะไปสู้ทหารมืออาชีพใช้เวทย์เป็นพร้อมอาชีพ ไม่คนามือหรอก!

      ทหารทุกนายต่างตั้งขบวนวงรีล้อมร่างนักเวทย์สีดำ ศาสตราวุธดาบนับสิบถูกชักออกมาจากปลอกดาบของแต่ละคน และชี้ไปยังร่างคนที่อยู่ใจกลางขบวน

      "เอาล่ะ ยอมจำนนต่อพวกเราซะ"หัวหน้าทหารพูดราวกับมีชัยชนะ ก่อนก้มมองตราสัญลักษณ์รูปหงส์อย่างน่าภาคภูมิใจ

      สมัยก่อนเขาเคยเป็นนักผจญภัยA+มาก่อน ถึงจะบอกว่าเสร็จภา่รกิจแล้วได้เงินเยอะ แต่สำหรับเขามันไม่พอหรอก ให้ไปช่วยชาวบ้านกากๆเนี่ยนะ!? มันเงินน้อยไป

      และเหมือนเขาจะคิดถูกที่สมัครบินส่วนหนึ่งในกองกำลังหงส์บินของคุณหญิงเป็ด เงินดียิ่งกว่านักผจญภัยอีก ถ้าเขาจับหรือตัดหัวไอ้คนที่ซ้อมลูกชายคุณหญิงเป็ดได้ล่ะก็เงินทองไหลมาเทมาเป็นสึนามิแน่!

      แต่หารู้ไม่ว่าตอนนี้เขากำลังโดนความโลภครอบงำ ยิ้มจนใบหน้าบิดเบี้ยวเหมือนตัวอุบาห์ไปแล้ว

      "........."

      ทว่าจอมเวทย์สีดำกลับนิ่งเงียบไม่พูดอะไร เพียงแค่ยกแขนทั้ง2ข้างตั้งการ์ดเตรียมต่อสู้เท่านั้น แต่หารู้ไม่ว่าภายใต้ฮู้ดนั้นได้มองหัวหน้าทหารคนนั้นอย่างน่าสมเพชที่โลภจนหน้ามืดตามัว รู้ผิดเป็นชอบ

      ในอีกด้านแม้จะทำได้แค่ยิน แต่ไอซ์และสเปอร์นอฟต่างลุ้นกันตัวโก่งหวังว่าพวกเขาจะไม่โดนลูกหลงไปด้วย ถ้าถามว่าลุ้นแค่ไหน เอาง่ายๆลุ้นจนลืมใส่กางเกงไปแล้ว

      เหล่าทหารกองกำลังหงส์บินเริ่มร่ายเวทย์เสริมพลังกายกันระงมทั่วห้อง ตั้งแต่เริ่มท่องร่างกายพวกเขาต่างเปล่งแสงสีเขียวอ่อนจางๆไปมารอบตัว ออร่าแห่งความแข็งแกร่งได้แผ่ออกมารอบตัวอย่างได้ชัด ต่างจากจอมเวทย์สีดำที่เพียงตั้งการ์ดรอเท่านั้น

      "เข้ามา"

      คำพูดเชิญชวนสั้นได้ใจความแต่เนื้อหามันออกท้าทาย

      ราวกับเป็นระฆังสัญญาณ เหล่าทหารต่างกระโจนเข้าหมายสับร่างจอมเวทย์อวดดีให้เละพร้อมๆกันเหมือนฝูงไฮยีน่า

      แต่ในทันใดนั้นจอมเวทย์สีดำรวบพลังเวทย์ธาตุลมที่มือซ้ายขวา แล้วประกบมือกันอย่างแรง เวทย์ลมในมือทั้ง2เกิดการกระแทกกันกลายเป็นคลื่นกระแทกย่อมๆ

      คลื่นกระแทกส่งออกไปทั่วทิศ ความแรงของมันทำได้แค่คนที่เข้าโจมตีเซเสียจังหวะถอยรนไปชั่วขณะ จังหวะเดียวกันเองเขาก็เปลี่ยนมาใช้เวทย์ธาตุดินผนึกที่เท้า กระทืบพื้นดังตึงหนึ่งที

      พลังเวทย์ดินอันเพียงเล็กน้อยส่งเข้าไปปั่นป่วนสภาพหน้าดินใต้พื้นกระเบื้อง แปรให้ดินในบริเวณนูนสูงขึ้นเป็นตะปุ่มตะป่ำจนสูงมากพอจะสะดุดขาคนได้

      ผลก็คือ หลังจากโดนคลื่นกระแทกธาตุจนเซถอยไป ขาของแต่ละคนก็ไปสะดุดกับพื้นที่นูนสูงตะปุ่มตะป่ำ ทำให้ขาของพวกเขาสะดุดเข้าจนล้มถลอกปลอกเปิกลงกันถ้วนหน้า บางคนล้มแบบหน้าทิ่มพื้นจะดั้งจมูกหัก ไม่ต้องแปลกนักเพราะล้มบนพื้นขุระขระเจ็บกว่าแบบเรียบแน่

      แต่ผลของเวทย์นั้นอยู่ได้ไม่นาน พื้นกระเบื้องเริ่มนูนลงเปิดโอกาสให้จอมเวทย์พุ่งเข้าไปประชิดทหารผู้โชคร้ายที่กำลังพยายามยันตัวขึ้นเป็นรายแรก

      ทหารผู้โชคร้ายได้เห็นเขาง้างหมัดพุ่งเข้าใส่ ทหารคนนั้นเห็นท่าไม่ดีจึงรีบร่ายเวทย์ไฟร์บอลระดับต่ำใส่ระยะกระชั้นชิด

      น่าเสียดายจอมเวทย์สีดำรู้ตัวตั้งแต่เปิดปากร่ายแล้ว ในระยะเพียงปลายขนจะชนกัน เขาเพียงแค่ก้มหัวหลบนิดเดียวเท่านั้น ลูกบอลไฟไซส์ลูกตะกร้อเลยวิ่งเฉียวฮู้ดของเขาจนไหม้ไปบางส่วน

      เขาง้างหมัดค้างทำให้อีกฝ่ายนึกว่าจะชก จึงเปลี่ยนมาชักมีดสั้นหวังแทง แต่นั้นเป็นการหลอกให้เปิดช่องว่าง 

      จอมเวทย์สีดำกลับใช้ขาถีบเข้าไปตรงหัวเข่าทหารคนนั้นจนกระแดกหัวเข่าแตก ทำให้อีกฝ่ายร้องโอยเจ็บปวดจนเผลอทิ้งมีดหลุดมือ ก่อนปล่อยหมัดที่ค้างอยู่ตะกี้ชกลงเข้ากลางกระหม่อมสุดแรง จนสมองกระเทือนจนน็อคกับพื้น

      "แก!"

     เสียงโกรธแค้นของทหารดังขึ้นมา เจ้าของเสียงกำหอกไว้ในมือวิ่งเข้าชาร์จเสียบจอมเวทย์สีดำ แต่เขาจะรู้ตัวเพราะเสียงตะโกนแล้ว 

      ฉึก!

      เขาหมุนตัวเบี่ยง180องศาไปคว้าส่วนใกล้ๆคมหอก ใช้แรงเล็กน้อยผละเบี่ยงคมหอกไปเสียบคาประตูห้องส้วมสเปอร์นอฟ ก่อนจะเตะใส่จนทหารใช้หอกต้องรีบปล่อยหอกไปไม่ให้เดินเตะเข้าชายโครง นับตัดสินใจได้ดี

      แต่ก็เท่านั้นแหละ

      จอมเวทย์สีดำใช้หอกเป็นราวจับ จับหอกแล้วกระชากดึงตัวเองรุดหน้าเข้าหาอย่างเร็วทันด่วน ขาซ้ายเตะเข้าตรงจุดก้านคอแต่ถูกทหารใช้หอกคว้ามาล็อคไว้ได้ทัน 

      ทว่าจอมเวทย์สีดำจับไว้หอกไว้แน่นๆ ยกตัวเองให้ลอยเหนือพื้นเหมือนนักกายกรรมมือฉมัง แล้วบิดตัวหมุน360องศาฟาดขาขวาเข้าซอกคอจังๆราวกับกังหันคอ จนทหารที่ใช้หอกนั้นสลบคาที่ไปอีกศพ

      ""ย้ากกกกก!!""

      หลังจัดการเสร็จทหารรายคนต่างลุกขึ้นมาแล้ว พวกเขาหยิบศาสตราวุธเข้าจู่โจมแบบขนาบข้างเขาในสภาพเลิกเล่นกายกรรม ในพริบตาเขาร่ายเวทย์ธาตุดินสร้างกำแพงดินผุดชึ้นรีบการโจมตีด้านหนึ่ง

      ส่วนอีกด้านนั้นเขาคว้าไปหยิบประตูที่พังไปก่อนหน้ามารับการโจมตี และจัดการถีบประตูแรงๆล้มทับร่างหทารทั้ง3นายล้มหลายหลังไปพร้อมๆกัน

      จังหวะนั้นเองอีกด้านที่เป็นกำแพวดินไว้ขวางกั้นก็ถูกพังออกกลายเป็นเศษดินธรรมดา คมศาสตราวุธในมือทุกคนต่างทั้งฟันเสียบแทงใส่จอมเวทย์สีดำ

      เขาตัดสินรีบทิ้งตัวล้มลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว เลยไม่มีอาวุธอันไหนมาถึงตัวเขา เปิดจังหวะให้ตัวเขาเตะกวาดลานคืนทำเอาทุกคนเสียหลักล้มกันระเนระนาด 

      ส่วนคนที่เหลือที่วิ่งเข้ามาซ้ำเขาก็จัดการยิงเวทย์น้ำวอเตอร์บอลหลายนัดใส่พื้นจนชุ่มไปด้วยน้ำ คนเหล่านี้ที่มันทันระวังก็ล้มหัวทิ่มกันไปตามๆกัน

      ตามหลักการต่อสู้ยิ่งเร็วยิ่งดีในหลายๆความหมาย ทันทีที่เหลือบเห็นประตูเจ้าเก่าที่ยังไม่พังล้มทับร่างทหาร3นายอยู่ ไอเดียในหัวก็ปิ๊งป่องขึ้นมาเหมือนหลอดไฟ

      เขารีบหยิบมันมาวางพื้น ยืนเหยียบบนประตูทั้งๆอย่างนั้น เมื่อทหารทุกนายล้มขึ้นมาแล้วกรูเข้ามาหมายจะสังหาร เวทย์ลมระดับกลางถูกงัดออกมาจากคำร่าย1-2คำ ลมเวทย์หอบเอาทั้งประตูทั้งคนลอยอยู่เหนือพื้น

      ด้วยแรงลมจากเวทย์ระดับกลาง มันแรงพอจะผลักร่างทหารทุกคนรอบบริเวณถอยหลังไป3-4ก้าว

      "แสบนักใช่มั้ยแก!!"ทหารนายหนึ่งตะคอกด้วยความหงุดหงิด

      ทหารทุกคนพยายามฝ่าแรงลมหวังจะสังหารจอมเวทย์สีดำ พอเข้ากันถึงตัวนั้นก็เป็นจังหวะที่จอมเวทย์สีดำรออยู่ เหมือนปลาโง่มางาบเบ็ด

      จอมเวทย์สีดำล้มตัวนอนราบกับประตู มือขวาเกร็งควบคุมเวทย์ลมไว้ สายลมสีเขียวขจีหมุนทวนเข็มนาฬิกาสูบร่างทหารทุกนายให้เข้าใกล้เหมือนหลุมดำ ซึ่งทุกคนก็พยายามรั้งตัวไปแต่ไม่ได้ผล เพราะมันไม่ทันแล้ว!!

      "ย้ากกกก!!"จอมเวทย์สีดำเปิดปากกู่ร้อง

      สายลมเวทย์หมุนแรงขึ้นดุจพายุ ใจกลางพายุที่เป็นจอมเวทย์สีดำนอนบนประตูควงหมุน ก่อนจะแจกพายุลูกเตะเสยคางเป็นชุดๆแบบไม่เลี้ยง!

      ปักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!

      ลูกเตะรัวๆเสยคางเหล่าทหารหาญรอบทุกทิศครบองศาจนหมดสติสัมปชัญญะกันถ้วนๆหน้า ด้วยความเร็วขนาดนี้มันพอจะให้ทหารแต่ละคนโดนเตะเสยคางกระจายไปนอนกองกับพื้นคนละทิศคนละทาง

      สายลมค่อยๆจางหายไป เผยให้เห็นร่างของนักเวทย์สีดำสปริงตัวขึ้นมาประตูที่อยู่กับพื้นแล้ว โดยไม่รู้ว่าฮู้ดที่ใส่มาด้วยได้ย่นลงเปิดเผยหน้าตาตัวเองแล้ว

      "ด...เด็กงั้นหรือ......?"

      ท่ามกลางทหารที่นอนสลบไสลไปคนละทาง มีเพียงผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าที่ยืนค้างอย่างตะลึงเป็นรูปปั้นหิน เขาขอสาบานเลยว่าลูกน้องฝีมือดีในสังกัดเขากลับโดนจัดการเรียบด้วยฝีมือของคนๆเดียวเนี้ยนะ ไม่อยากเชื่อ! 

      อย่างน้อยๆมันยังจัดการได้รวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ แถมยังเป็นแค่เด็กหนุ่มอีกต่างหาก!?

      เด็กหนุ่มหน้าซื่อๆในชุดจอมเวทย์สีดำ ค่อยๆหันมาทางหัวหน้าทหารอย่างใจเย็น ดวงตาสีนิลชอนตาไปยังหัวหน้าทหารอย่างน่าสมเพชจากใจ

      "ม...มองอะไรของแก!"

      "ผมเคยได้ยินเรื่องราวของคุณมาก่อน คุณคงเคยเป็นนักผจญภัยมาก่อนสินะ"เด็กหนุ่มยิงคำถามปลายเปิดขึ้นมาหลังต่อสู้มานาน

      "ใช่แล้ว! ข้าคือโอดัส! นักผจญภัยผู้เคยจะได้เหยียบสู่แรงค์S! แม้แต่หัวหน้ากิลดิ์ยังต้องกลัวข้า!!"

      เมื่อหัวหน้าทหาร ไม่สิ โอดัสได้ยินดังนั้นก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างผู้มีชัย แปลว่าอีกฝ่ายมันต้องได้ยินความแข็งแกร่งของเขามาแน่

      จงกลัวซะ! จงกลัวกับระดับที่อยู่สูงกว่าซะ!

      แต่หารู้ไม่ว่าศัตรูในวันนี้คือทุกสิ่งที่สวนทางกับตรรกะของดาวดวงนี้ ที่ความแข็งแกร่งคืออำนาจ

      เด็กหนุ่มมองมายังโอดัสอย่างเหนื่อยใจ"เฮ่อ.......โดนไล่ออกเพราะไปเที่ยวกลางคืน ไม่ยอมทำงานมากกว่ามั้ง"

      ฉึก!

     คำพูดนี้แทงเข้าใจดำอีกฝ่ายเต็มๆไม่อ้อมค้อม เพราะความจริงมันเป็นเช่นอย่างที่ว่าจริงๆ 

      โอดัสที่ทั้งอายทั้งโกรธจนหน้าแดง ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะเล่นรู้เรื่องอับอายแบบนี้ มือกำหมัดไว้จนปูนโปนเห็นเส้นเลือดดำชัดเจน แววตาส่อถึงการฆ่าถลึงตาใส่เด็กหนุ่มที่ยังมีหน้ามาซื่อไม่รู้ร้อนหนาว

      "แก.....เตรียมตาย"

      โอดัสค่อยๆชักกระบี่ที่ยาวกริบ มีด้ามสีขาวมุกพอเหมาะมือเจ้าของ แม้เรียวบอบบางแต่แฝงไปด้วยความอันตรายอย่างแท้จริงเมื่ออยู่ในมือผู้ใช้มันที่โชกโชนประสบการณ์อย่างโอดัส

      ด้านของเด็กหนุ่มก็ตั้งการ์ดท่าเดิมพร้อมต่อสู้ เช่นเดียวกับโอดัสที่นำกระบี่ง้างเหนือไหล่ข้าง ยืนขาขวาไปหน้าย่อตัวรอ

      "ความจริงผมเองก็ไม่คิดจะต่อสู้แบบรีบร้อนหรอกนะ........"เด็กหนุ่มเอ่ย

      เปรี้ยง!

      จู่ๆเขาก็อยู่ดีไม่ว่าดีใช้หมัดชกทะลุประตูห้องส้วมของสเปอร์นอฟ ทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมากโดยเฉพาะสเเปอร์นอฟ

      สเปอร์นอฟมองไปยังมือที่ชกประตู เหมือนว่ามันจะตรงกับตำแหน่งที่แขวนกางเกงเขาไว้พอดีเหมือนตั้งใจ

      'เดี๋ยวนะ! คงไม่ใช่แบบที่เราคิดหรอกนะ'

      "ไม่ๆๆนะโว้ย"

      ชักลางไม่ดีแล้วสิ

      "......แต่ผมเองก็ต้องธุระเร่งด่วนซะด้วย เพราะฉะนั้นอย่ามาหาว่าโหดเลยก็แล้วกัน"

      สิ้นคำมือที่ชกทะลุก็คว้าหาบางสิ่งอย่างที่แขวนบนประตู ทันใดนั้นเองเขาฉกกระชากกางเกงในที่แขวนอยู่ออกไปอย่างรวดเร็วดุจงูจงอาง!!

      "เฮ้ยๆๆๆ!! กางเกงในตูนะโว้ย!!"สเปอร์ตะโกนออกมาด้วยความตะลึง

      ในมือของเด็กหนุ่มควงกางเกงในของสเปอร์นอฟไปมาอย่างชำนาญ ก่อนกลับมาตั้งการ์ดตามเดิม

      "เข้ามาเลย"เขาเอ่ยท้าทายพร้อมกับกางเกงในที่ห้อยอยู่ที่ข้อมือ

      เพราะว่าตอนนี้เขาจะขอยืมมันมาใช้เป็นเครื่องทุนแรงชั่วคราวไงล่ะ!


      "................"

      โอดัสถึงกับพูดไม่ออก ไม่นึกว่ามันกล้าเอากางเกงในมาทำแบบนี้

      ถามจริงนี่มันดูถูกกันอยู่หรือไง?

      "แก.....กำลังดูถูกข้าคนนี้อยู่สินะ......"โอดัสพูดด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคืองซะยิ่งกว่าน้ำขุ่น

      เด็กหนุ่มยักไหล่ขึ้นด้วยท่าทางที่สบายๆ

      "แล้วแต่จะคิด"

      ขมับที่โปดปูนมาก่อนหน้ายิ่งโปดปูนขุ้นอีกกว่าเก่ง พอได้ยินประโยคเข้าไปเหมือนจะเข้าใจไปคนละประเด็น คนพูดคิดก็ไม่คิดอะไรมาก กับอีกคนที่ฟังเหมือนว่าดูหยามเต็มประตู

      "เจ้า.....!!"

      แสงประกายสีเงินพุ่งยาวราวกับหอกแห่งแสงจู่โจมใส่เด็กหนุ่ม  เท้าขวาซอยถอยไปก้าว กระบี่ที่สมควรเสียบร่างเด็กหนุ่มกลับเสียบทะลุชายแขนเสื้อนักเวทย์ไปเสียแทน

      แคว่กกกกก!

      โอดัสตวัดกระบี่กลับคืนอย่างเร็วพร้อมฉีกชายแขนเสื้อหลุดไปเป็นผ้าขี้ริ้ว คล้ายบอกเป็นเชิงว่า นี่คือน้ำจิ้มนะจ้ะ แค่ดูจากแววตาของเจ้าตัวก็รู้แล้ว

      'ขี้เกียจจนโดนไล่ออกก็จริง แต่ฝีมือระดับจะมีโอกาสเป็นSของจริงสินะ'

      เด็กหนุ่มลอบประเมินความสามารถอีกฝ่ายในใจ

      "งั้นขอแบบไม่มากความเลยแล้วกัน"

      การโจมตีของโอดัสยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ ขาตั้งตรงเหยียดและยืนมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง มือซ้ายไขว้ไว้หลังเอวและมือขวาถือกระบี่ยืนมาข้างหน้า อันเป็นท่าเตรียมสู้ของนักกระบี่(ตะวันตก)

      "เตรียมรับมือให้ดี!"

      "ขอบคุณที่บอก....."เด็กหนุ่มพูดเสียงแผ่วเบา

      "โอ้ววววววววว!!"

      สิ้นเสียงกู่ร้องร่างของโอดัสเปล่งแสงสีเขียวขึ้นมาจางๆ บรรยากาศแห่งความแข็งแกร่งแผ่กระจาย อันเป็นผลมาจากเวทย์เสริมกำลังสำหรับนักรบชั้นสูง หัวใจหาญกล้า ที่อัศวินชั้นสูงหรือนักผจญภัยด้านนักรบระดับSพึงต้องมี เพราะสถรรณะทางกายจะเพิ่มสูงเอามากๆ

      กระบี่คู่มือชั้นSคู่มือเริ่มเปล่งแสงตามเจ้าของ โอดัสจวงกระบี่ใส่เด็กหนุ่มอย่างบ้าคลั่งปานพายุ คมปลายกระบี่แทงใส่หมายเอาชีวิตล้วนๆกลับทำได้เพียงเฉียวเสื้อผ้าไปบางส่วน

      เด็กหนุ่มเอี่ยวตัวหลบไปมาอย่างช่ำชอง โดยไม่พึงเวทย์เสริมกำลังดั่งยอดฝีมือ ระหว่างนั้นเองกระบี่ก็แทงเข้ามาที่ไหล่ซ้าย ถ้าสังเกตดีๆจากแรงต้านลมมาเบี่ยงปลายตรงเข้าไปที่หัวใจ และในเสี้ยววิมันต้องโดนแน่ๆ!

      แต่โอดัสเหมือนจะดูถูกเด็กหนุ่มมากเกินไป กางเกงในที่ฉกมาไม่ได้ฉกมาเล่นๆ เขาใช้กางเกงในในมือยกขึ้นมาพริบตาแล้วคล้องปลายกระบี่ ออกแรงกระชากเบี่ยงวิถีกระบี่ให้ไปเสียบกับประตูห้องส้วมอีกห้อง!

      "บ....บ้าน่า!?"โอดัสตะลึงจนตาเบิกโพลง

      การที่คนตกตะลึงจนเหวอนั้นเปิดจังหวะให้เด็กหนุ่มสอดมาเข้ากางเกงใน หมุนข้อมือพลิกม้วนรัดทั้งมือทั้งกางเกงในจนแน่น กว่ารู้ตัวโอดัสก็เผลอกระชากกระบี่คืนแล้ว

      เปรี้ยง!!

      เด็กหนุ่มปล่อยตัวไปตามแรงกระชาก พร้อมเหวี่ยงแข้งเตะกลางหน้าเข้าอย่างจัง แม้จะไม่ใช่พลังเวทย์มาเสริม แต่ด้วยการใช้แรงกระชากเข้าตัวของอีกฝ่ายเข้ามาเสริม มันแทบไม่ต่างอะไรกับการโดนเครื่องเล่นสวนสนุกที่ใช้หลักการเหวี่ยงฟาดเต็มๆเน้นๆเข้าใบหน้า

      ท่อนขาที่ฝึกฝนมาอย่างหนักฟาดกลางหน้าจนบุ๋มลึกเป็นรอย กระโหลกส่วนหน้าของโอดัสแตกละเอียดจนยุบไม่เหลือชิ้นดี  ตานั้นแทบทะล้นออกจากเบ้า ก่อนจะน็อคล้มตัวนอนชักกระตุ้นแด๋วๆคาพื้น เป็นอันหมดสภาพแบบแสนสาหัสชนิดโคม่า

      นั้นยังไม่สาสมกับสิ่งที่เขาทำไว้ในอดีตที่ย้ำยี้ชาวบ้านตาดำๆที่ทำไว้ เด็กหนุ่มจับแขนทั้ง2ข้างของโอดัสชูขึ้นมาไขว้เป็นตัวกากบาท ก่อนจะแทงเข่าสุดแรงใส่ข้อศอก

      กร๊อบ!!

      "อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!!!"

      แขนทั้ง2ถึงกับหักทันทีและห้อยตองแต่งบูดๆเบี้ยวๆอยู่อย่างนั้น โอดัสที่บาดเจ็บสาหัสอยู่จนสติแทบหลุดอยู่รอมรอแล้ว ดิ้นทุรนทุรายกรีดร้องเจ็บปวดทรมานออกมาน่าอดสูและเจ็บจนสลบไปในที่สุด

      "ก็บอกแล้ว........ว่ารีบ"เด็กหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย พลางมองร่างที่โดนน็อคอาการสาหัสสากัน

      "เฮ้ๆๆ มานี่สิ"

      จู่สเปอร์นอฟยื่นมือออกมากวักมือจากรอยที่เด็กหนุ่มต่อยทะลุเมื่อกี้ คล้ายจะเรียกให้เด็กหนุ่มมาหน่อย

      เด็กหนุ่มเองก็เพิ่งมานึกขึ้นได้ว่ากางเกงในยังไม่ได้คืนให้เลย จึงรีบเอาไปคืน

      ทว่าทันทีที่ถึงหน้าห้องส้วมสเปอร์นอฟ พระแสงเลเซอร์เล็กนับ5สายพุ่งทะลุประตูจากข้างใน ดีที่เขาก้มตัวหลบทันซะก่อนไม่งั้นคงมีรูมาประดับบนร่างแน่

      "นี่คุณจะทำอะไรน่ะ!?"

      "รีบๆคืนมาก่อนสิโว้ยไอ้กรวก!!"

      "โอเคๆ ก็ได้"

      ว่าจบเด็กหนุ่มก็ยื่นกางเกงในคืนผ่านทางรอยชกตัวเองอย่างระมัดระวัง

      หลังคืนเสร็จสักพักหนึ่ง ประตูห้องส้วมได้เปิดเผยให้เห็นชายสวมแว่นผมสีแดงชวนแสบตาในชุดคนธรรมดาสวมผ้าคลุมสีซีด กำลังหน้าราวยักษาพิโรธ ในมือนั้นควงสิ่งที่มีรูปร่างเหล็กรูปตัวLมีที่ให้นิ้วสอดเข้าไปได้เหมือนทำจากโลหะเสียด้วย คาดว่าเขาคงใช้เจ้านี่ยิง

      "เออ....."

      แกร๊ก.....

      "ไม่ต้องเออเลยนะแก"สเปอร์นอฟกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์จัดพร้อมเล็งปืนรอ

      "ทั้ง2คน ใจเย็นๆกันก่อน ค่อยๆพูดค่อยๆจากันก็ได้......"ไอซ์ที่เพิ่งออกมาหลังเหตุการณ์สงบ พยายามหวังมาห้ามปรามลูกทีมตัวเอง

      "ไม่ต้องเลยนะไอซ์! ชั้นจะสอนให้ไอ้เบื้อกนี่รู้จักมารยาทซะบ้าง!"สเปอร์นอฟหันมาตะคอกใส่ด้วยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นหัวหน้าทีมหรือไม่

      เขาหันชี้ปืนด้วยสายตาที่ขวาง"เอาล่ะไอ้เบื้อก สรุปนี่เป็นการตอบแทนบุญคุณที่ชั้นให้ทิชชู่กับแกใช่มั้ยห๋า! ต่อยประตูชาวบ้านแล้วขโมยเอากางเกงในมาเป็นอาวุธ ถามจริงเถอะ บ้านแคงสอนสั่งมาแบบนี้สินะ!"

      "เปล่าครับ......คือผมรีบ......."เด็กหนุ่มอ้ำๆอึ้งๆไม่รู้จะตอบอะไรดีกับวีรกรรมนี้

      "ห้ะ! รู้อะไรป่ะ! เกิดมาเพิ่งเคยเห็นไอ้ปัญญาอ่อนที่ใช้กางเกงในมาตีกับชาวบ้านนี่ล่ะ! ต่อให้รีบแค่ไหนก็ไม่ควรจะหยิบกางเกงในมาฟัดกันในห้องน้ำสาธารณะนะโว้ย!!"

      "......ขอโทษครับ......."เด็กหนุ่มกล่าวเสียงอ่อยๆ

      แกร๊ก!

      "งั้นจำไว้ให้ดี! ครั้งนี้ชั้นจะทำเป็นไม่เห็น แต่ถ้าแกคิดจะทำแบบนี้อีกแล้วทำกางเกงในพัง อย่าคิดว่าเรื่องมันจบง่ายๆเหมือนคราวนี้แน่! รับรองได้เลยแกจะได้มีรูโบ๋บนหัวสักรูหนึ่งก่อนตาย!"

      "ค...ครับ!"

      ว่าจบสเปอร์นอฟก็เริ่มอารมณ์เย็นขึ้นมานิดหนึ่ง ก่อนเก็บปืนเลเซอร์กันเข้าซองเก็บตรงชายโครงไป ทำให้เด็กหนุ่มและไอซ์ที่ถอนหายใจอย่างโล่งใจที่เรื่องในคราวนี้ไม่บานปลายไปกว่านี้

      "ไอซ์ กลับกันได้แล้ว ตอนนี้พวกเราไม่อยากมาเสียเวลากับไอ้เบื้อกนี่แล้ว"

      สเปอร์นอฟพูดด้วยน้ำเสียงยังหงุดหงิดไม่หาย คนที่โดนสั่งก็ยิ้มแห้งๆเพราะตอนสเปอร์นอฟโกรธนั้นจะไม่สนหัวใครอยู่แล้ว

      'หมอนี่ไม่เลวนี่ ทำให้สเปอร์นอฟโกรธได้เนี่ยไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย'ไอซ์แอบชมเด็กหนุ่มอยู่ในใจ ที่ทำให้เขาได้เห็นเหตุการณ์ที่หายากเช่นนี้ได้

      .

      .
      
      .

      ปัง!!

      ""!?""

      เหมือนฟ้าจะเล่นตลกร้ายอีกครา ไม่ทันที่พวกเขาจะออกมาพลันมีคนถีบประตูพังเข้ามาในห้องน้ำฝั่งชายอีกคน พวกเขาตกใจและรีบหันไปดู

      "โอ๊ะโอ ซวยแล้ว......."เด็กหนุ่มได้พูดไว้

      ทหารนั้นชุดเกราะแบบเดียวกันกับชุดเมื่อตะกี้กรูกันเข้ามากันเต็มห้องล้อมไว้ไม่ให้ทั้ง3ไปไหนได้ ถึงสายตาจะจ้องมาทางพวกเขาอย่างอาฆาตแค้นที่มาเล่นงานพวกพ้อง ซึ่ง1ในนั้นมีคนต้นเหตุอยู่คนหนึ่ง แต่มันน่าแปลกแม้แต่ไอซ์และสเปอร์นอฟยังสัมผัสได้

      ที่แปลกคือ ทหารเหล่านี้ล้วนใส่เกราะเป็นสีม่วงหมด แถมเป็นพวกมีกล้ามเนื้อเป็นมัดแหนมกันหมด กล้ามนี่แทบทะลักออกจากเกราะอยู่แล้ว

      "เฮ้ๆ วันนี้มันวันรวมพลนักเพาะกล้ามกันหรือไงเนี้ย?"ไอซ์พูดติดตลกประชดสถานการณ์

      ส่วนสเปอร์นอฟหันมาจองเด็กหนุ่มอย่างเคืองๆคล้ายจะบอกว่าแกมันตัวซวยไม่ปาน ซึ่งคนที่โดนจองก็ทำหน้าจ๋อยๆอย่างสำนึกผิดไป เพราะเรื่องนี่มันจริง

      'ทำไมตูต้องมาเจอเรื่องซวยพรรคนี้ด้วยว่ะ!?'เขาสบถในใจ

      "ฮุ้ย พวกเราดูพวกหนุ่มๆทางนั้นสิ"คนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มพูดนำ

      จู่ๆสายตาที่อาฆาตจ้องกินเลือดเนื้อพลันแปรเปลี่ยนเป็นสายตาบางอย่างที่อธิบายไม่ถูก ที่แน่ๆ3หนุ่ม3มุมต่างขนลุกซู่ไม่ทราบสาเหตุ ถ้าจะอธิบายล่ะก็มันน่ากลัวซะยิ่งกว่าภูติผีอีก เอาง่ายๆแทนจะกินเลือดกินเนื้อกลับจะไปมาตับๆๆๆๆ ตับๆๆๆๆ มากินตับมั้ย---- -_-

      ทหารเหล่านี้ไม่ธรรมดาเหมือนทหารทั่วไปแน่ๆ รัวสีอำมหิตต่างไปจากยอดฝีมือที่เด็กหนุ่มเคยเผชิญมา ให้ความรู้สึกพึลึกๆเหมือนกินของขมยิ่งโคตรเหง้าศักราชยาแก้ไอตราน้ำดำ

      "บี2 นายคงไม่ได้คิดเหมือนผมใช่มั้ย"ไอซ์หันไปหาลูกทีมตัวเอง

      สเปอร์นอฟหันหน้ามาอย่างช้าๆ ถ้าดูดีๆหน้าเริ่มถอดสีแล้ว

      "บี1 แล้วถ้ามึงเป็นแล้วตรูจะเหลือครับ"

      ทว่าไม่ทันไรทหารทุกนายพร้อมในใจกันน้ำลายหกกันถ้วนหน้า ราวกับเจอของกินชั้นเยี่ยมที่หากินไม่ได้ ส่งกลิ่นยั่วยวนต่อหน้า สายตาเริ่มเต็มไปด้วยความหื่นกระหายชัดเจน

      "โฮ้วววววววววววววว! เดี๊ยนทนม่ายไหวแป้ววววววววววว!!"

      แคว้กกกกกกกก!

      พริบตากล้ามเนื้อของเหล่าทหารที่แทบจะคับชุดเกราะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถูกกล้ามเนื้อที่เบ่งออกมาจากทุกส่วนจนชุดเกราะเก็บไว้ไม่อยู่ ปริขาดออกมาจากภายใน เผยให้เห็นกล้ามเนื้ออันแน่นยิ่งกว่ามัดข้าวหลาม เรียกว่าทุกส่วนของร่างกายอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อล้วนๆ เหลือเพียงกางเกงในห.ตุงๆแบบชัดเจนเน้นๆ2ตา 

      ในสภาพของพวกเขาตอนนี้กลายเป็นฝันร้ายของชายแท้ไปซะแล้ว......


      "ว๊ายๆๆๆ! คนนี้น่ากินง่ะ!"

      "คนที่ใส่แว่นตรงนี้น่ากินจุงเบย----"

      "อุ๊ย คนนี้ก็หล่อใช่ป่ะแก ดูสิๆ ถั่วของเค้าอร่อยชัวร์ ใช่ป่ะๆ"

      "พ่อหนุ่มหน้าคนนั้นน่ะ หน้าหวานจุง โอ้ยยยย! น่ารักจนหนูทนบ่ไหวแป้ว!"

      "ฮุ้ย คนนี้ก็ก้นงาม คนนั้นก็ก้นดี คนโน้นก็ก้นเยี่ยม โอ้ยยยยยยยยยย! เลือกไม่ถูกแย้ว!"


      "........นี่มันฝันร้ายชัดๆ..........."ไอซ์กล่าวขึ้นมาเบาๆ รู้สึกว่าเขาเหงื่อตกแล้วสิ

      "เฮ้ ไอ้เบื้อก"สเปอร์นอฟทักเด็กหนุ่ม

      "อะไรเหรอครับ?"เด็กหนุ่มพูดเสียงสั่น 

      เขาไม่กลัวว่าจะแพ้หรอก แต่ตอนต่อสู้รู้ได้เลยว่าของสงวนคงโดนคล่ำดำจับกันว่าเล่นแน่ และเผลอมันจะน่ากลัวซะยิ่งกว่าแค่นี้แหง่ๆ

      "ความจริงชั้นไม่ชอบแกก็จริงนะ แต่ขอถามแกว่ามีไอเดียดีๆมั้ยที่จะรอดไปได้ม่ะ?"

      เด็กหนุ่มพยักหน้า"มีอยู่ครับ แต่คงมีแค่ทางเดียวแล้วล่ะ"

      "แล้วทางที่ว่าล่ะ......"

      "คือ......."



      "โอ้วววววววววววววววววววว!! มาอัดถั่วดำกันเถอะหนุ่มๆ----------!!!"

      ไม่ทันกล่าวจบเหล่าทหารนักกล้ามต่างกรูพุ่งกระโจนราวกับฝูงสัตว์ร้ายขย้ำเหยื่อ สายตาส่อถึงความหื่นกระหายของลับชัดเจน บางรายถึงขั้นกระโจนไปน้ำลายไหลไปไม่ต่างกับหมาบ้า



      "วิ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!"


      ตูม!!

      .

      .

      .

      .

      .

      .

      อีกด้านหนึ่ง

      "ว1 คิวต่อไปตูชิมิ?"

      "เออสิว่ะว2 เอ็งเป็นความหวังเดียวพวกเราแล้วนะเว้ย"

      "แต่......."

      "ไม่มีแต่ ศักดิ์ศรีเข้าใจป่ะ เรื่องของศักดิ์ศรีมันค้ำคอ"

      "แล้วทีเอ็งล่ะว่ะไอ้สัส!"

      โป๊ก!

      ณ ร้านอาหารหรูในเขตขุนนางที่เป็นที่นิยมที่สุดในแถวนี้ ได้มีขุนนางชาย2คนกำลังยืนปรึกษากันอยู่ แต่น่าแปลกที่คนหนึ่งนั้นใส่ชุดสมฐานะอยู่ก็จริง แต่กลับกันอีกคนกลับอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าเหลือเพียงกางเกงในเดียว

      โดยระหว่างเถียงกันอยู่ขุนนางที่เปลือยก็คะยั้นคะยอให้คนที่ยังมีชุดอยู่ ก่อนถูกตวาดแล้วชี้นิ้วให้ดูตัวเองซะ ซึ่งคนที่โดนตวาดก็ยิ้มแห้งๆ ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงเมื่อมันคือความจริง

      "บอกมาตรงๆเถอะถึงว่าเอ็งกำลังหาเพื่อนร่วมชะตากรรม กูจะไม่โกรธเลยครับเพื่อนเลิฟ"

      ขุนนางคนนั้นชี้นิ้วไปยังใจกลางร้าน

      โต๊ะทั้งร้านว่างไร้คนนั่ง ไม่ใช่ว่าไม่มีลูกค้า ความจริงลูกค้าที่เป็นขุนนางล้วนๆนั้นต่างพากันหมอบกราบงามๆในสภาพเหลือกางเกงในตัวเดียวให้กับ'คนๆนั้น'เสียมากกว่า

      หญิงสาวร่างเล็กผู้มีผมสีแดงเพลิงชวนแสบตาราวกับธิดาจากอเวจีในสายตาของพวกขุนนางเหล่านี้ กำลังนั่งโต๊ะจิบไวน์องุ่นฉิวๆไม่รู้สึกรู้สาท่ามกลางหมู่เหล่าขุนนางชายเหลือกกน.ตัวเดียวที่หมอบกราบล้อมตัวเธอ

      ถ้าดูบนโต๊ะจะพบกับกองไพ่จำนวนหนึ่งพร้อมเหรียญทองนับค่ามหาศาลวางอยู่บนโต๊ะ เป็นหลักฐานชัดเจนว่านี่คือการเล่นการพนัน และผู้ชนะผู้แพ้คงไม่ต้องสงสัยเลยสักนิด

      "รายต่อไปเป็นใคร"สปาน่าวางแก้วไวน์ลง หันเหสายตามายังผู้เหลือรอดคนสุดท้าย

      แม้สายตาที่ส่งมาจะมีความขี้เล่นยั่วยวน ทว่าขุนนางคนนั้นไม่รู้สึกสนุกเลยสักนิด มันเหมือนดั่งจะเชือดหมูตัวน้อยๆอย่างเขาเสียมากกว่า

      'นี่มันนรกชัดๆ! ชนะร้อยกว่าตารวดเก่งเกินไปแล้วเจ้!!'

      "มาสิๆ"เธอกระดิกนิ้วเรียก

      จากนั้นไม่กี่นาทีต่อมา จิตใจของขุนนางคนสุดท้ายก็ได้ลิ้มรสความอัปยศซ้ำแล้วซ้ำเล่า แฉกเช่นเดียวกับทรัพย์สินของเขาที่ละลายหายไปราวกับไอติมถูกๆในที่สุด........





      ตูม!!

      เด็กหนุ่มใช้เวทย์เพลิงระเบิดกำแพงห้องน้ำกระจายเป็นผงฝุ่น เปิดช่องว่างให้พวกเขาวิ่งหนีจากทหารสายม่วงได้

      "เร็วเข้า!"

      ไม่ต้องพูดไอซ์กับสเปอร์นอฟก็รู้ ทั้งคู่รีบโกยหนีตามเด็กหนุ่มอัตโนมัติ

      "มาให้เค้าอัดตูดหน่อย!"

      "ฝันไปเถอะโว้ย!"สเปอร์นอฟตะโกนกลับพร้อมชูนิ้วกลางให้เป็นของที่ระลึก

      ทั้ง3วิ่งเข้าไปตลาดที่ผู้คนกำลังจับจ่ายซื้อขายกันอย่างพลุ่งพลาน ฝ่าฝูงชนที่กำลังซื้อของ จนบางครั้งชนจนของในมือหลุดก่อนโดนด่าเป้นชุด

      "ขอโทษครับ! ขอโทษครับ!"เด็กหนุ่มวิ่งไปกล่าวขอโทษไป

      "ฮึๆๆ สุภาพจังนะครับ"ไอซ์กล่าวชม

      "แล้วมันใช่เวลาชมกันมั้ยเล่าหัวหน้า!"

      ในจังหวะนั้นได้มีทหารสายม่วงกระโจนตัดหน้าพวกเขาหวังจับตัวให้ได้ หน้าตาส่อความหื่นกระหายจนหน้ามืดสร้างบรรยากาศรอบตัวมาคุ

      "หนุ่มหล่อๆ! มาหาป๋าม่ะ!"

      ทหารคนนั้นอ้าแขนหมายจะดอบจับร่างใครคนหนึ่งให้ได้ แต่ไม่ทันไรเด็กหนุ่มก็เสกเสาดินเอาพุ่งชกเข้ากลางกล่องดวงใจดังเปรี้ยง ทำให้ทหารคนนั้นเจ็บจนจุก คุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกุมไข่ไว้ ทำหน้าเจ็บปวดปานโลกจะแตกให้ได้

      ซ้ำร้ายในเวลาต่อมาเด็กหนุ่มใช้ใบหน้าของมันเป็นฐาน ก่อนเหยียบกระโดดสุดแรงข้ามคนไปอีกจนใบหน้ามีรอยรองเท้าประดับเท้า และไม่กี่วิไอซ์ตามมาด้วยสเปอร์นอฟต่างกระโดดเหยียบใบหน้าซ้ำตามอีก จนหมดสติล้มฟุบไปตามระเบียบ

      ไอซ์หันไปมองหลัง เหล่าทหารสายม่วงพวกนั้นเริ่มมรุดเข้าใกล้ลงทุกทีแม้จะมีคนที่มาจ่ายตลาดมาถ่วงเวลาไว้ แต่มันก็ได้แค่นิดเดียว หนำซ้ำเมื่อยังไม่ได้ถั่วดำพวกมันยิ่งเพิ่มความหื่นกระหายขึ้นอีก ถึขนาดฝุงชนต่างถูกผลักกันกระจายล้มระเนระนาดเป็นแถบๆ

      "ถ้างี้ล่ะ......"

      พวกมันเข้าใกล้ทางเขาทุกขณะ เขาตัดสินฉับพลันคว้าเอาระเบิดแสงขว้างไปยังข้างหลัง แล้วรีบโกยให้ห่างที่สุด

      "อย่ามองข้างหลัง!"

      สิ้นคำเตือนของไอซ์ เป็นจังหวะเดียวกับที่ทหารเหล่านั้นเข้าในรัศมีทำการของระเบิดแสงจ่อๆ การเกิดปฏิกริยาทางเคมีภายในระหว่างแม็กนิเซียมกับสารจำพวกโปแทสเซียมเปอร์คลอเรท ทำให้เกิดแสงวาบบาดตาพร้อมเสียงดังปัง 

      แสงสว่างจ้าไปทั่วบริเวณชั่วครู่ทำให้ทุกคนในบริเวณแสบตาจ้าและชะงักไป นอกจากนี้เสียงดังปังนั้นอัดเข้าไปกระแทกระดับน้ำในหู จนทำให้คนเหล่านั้นสูญเสียการทรงตัวทันทีไปพักใหญ่ๆ ไม่ต่างอะไรกับการโดนสตั้นดีๆ 

      ส่วนคนที่ตามมาทีหลังซึ่งไม่โดนฤทธิ์ก็หน้ามืดตามัววิ่งมาไม่ดูตาม้าตาเรือ ผลสุดท้ายคือเผลอวิ่งชนจนล้มระเนระนาดเป็นโดมิโน่กันซะเองแบบโง่ๆ

      "สมน้ำหน้า"ไอซ์พูดทิ้งท้าย

      เด็กหนุ่มชะเหลียวมองหลัง เหล่าคนในตลาดทุกคนรวมถึงทหารพวกนั้นเหมือนจะถูกฤทธิ์แสงนั้น(ระเบิดแสง)จนล้มทับกันเป็นตับๆกันนับหลายคน เขาคิดถูกจริงๆที่ไม่หันกลับมองหลังเมื่อตะกี้

      "บัดซบ! บ้านเมืองไม่เคยคิดจะจัดแผนผังเมืองกันเนี้ย!"สเปอร์นอฟสบถขึ้นมา

      ไม่รู้ว่าตอนไหนกันที่เขาวิ่งนำหน้าเพื่อน แต่ที่แน่ๆพอออกจากตลาด ผ่านซอกตึกแทนที่จะลัดเลาะไปได้ พวกเขาดันมาติดรั้วสูงของคฤหาสน์ของขุนนางสักคนที่ดันมาสร้างกั้นซอกตึกไว้หน้าตาเฉย แสดงถึงการจัดผังเมืองที่ไร้ระเบียบได้ชัดเจน

      ที่สำคัญเจ้ารั้วสูงดันติดป้ายที่มีข้อความสุดชวนน่าเตะก้นคนเขียนไว้ว่า

      'ชนชั้นต่ำๆอย่าเผือก!'

      "สงสัยเจ้าของคงมีปัญหาทางจิตแน่ๆ ไม่งั้นคงไม่เขียนอะไรแบบนี้หรอก"ไอซ์แซวแอบเจ้าของคฤหาสน์



      "ฮัดชิ้ว! ใครแซวดิฉัน!?"

      จู่ๆคุณหญิงเป็ดที่นอนในห้องนอนตัวเองก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาจามอย่างไร้เหตุผล ลองหันซ้ายหันขวาดูก็ไม่ใครมาอยู่ใกล้ๆ ห้องนอนก็ทำความสะอาดจนไร้ฝุ่นเรียบร้อยแล้ว

      ชัวร์ป้าบ มีคนแซวแน่นยิ่งกว่าแช่แป้ง

      "อย่าใครรู้นะว่าใครแซวดิฉัน ดิฉันจะเอาแบบให้ไม่เหลือเลยเถอะคอยดู"เธอพูดกับตัวเองด้วยความหงุดหงิดในหลายๆเรื่อง

      ทันใดนั้นเองเธอเองก็เหมือนเพิ่งนึกอะไรได้

      "จะว่าไปลองไปเช็คดู'เจ้านั้น'หน่อยดีกว่า"

      ด้วยความที่ไม่รู้จะทำอะไรดี ได้แต่รอว่าทหารในสังกัดเธอจะนำหัวคนที่เล่นงานลูกชายได้เมื่อไหร่ เธอจึงตัดสินออกจากห้องนอนลงไปดูบางสิ่งในห้องใต้ดินคฤหาสน์ทันที.......

     

      จะว่าไปเหมือนว่าคุณหญิงเป็ดจะลืมอะไรไปหรือเปล่านะ........



      ตุ๊บ........

      เสียงรองเท้าลงกระทบพื้นกระเบื้อง 2GATต่างมองภาพทิวทัศน์มุมสูงอย่างอึ้งๆ สายลมจากตะวันตกพัดเอาหอบเอาความเย็นมาให้ เตือนให้รู้ว่านี่คือความจริง ความจริงที่ว่าบัดนี้พวกเขาได้มายืนอยู่บนหลังคาคฤหาสน์ที่ตั้งรั้วขวางเขาเมื่อตะกี้

      "ฮ้ะๆๆ.....นี่ผมมาถึงจุดนี้ได้ยังไงเนี่ย?"ไอซ์กล่าวลอยๆอย่างอึ้งๆเหมือนคนป่าเข้ากรุงไม่ปาน

      ในทางตรงกันข้ามสเปอร์นอฟที่ไม่พูดอะไรแต่ทำตาเป็นประกายระยิบระยับด้วยความอัศจรรย์ใจเกินบรรยาย พร้อมหันไปมองเด็กหนุ่มทำเอาอีกฝ่ายทำตัวไม่ถูกเลยที่มองเขาซะเหมือนเด็กพิเศษ

      เพราะว่าเจ้ารั้วของคฤหาสน์ดันกั้นทางพอดิบพอดี แถมพวกทหารสายม่วงยังไม่วายตามมาเป็นเจ้ากรรมนายเวร เด็กหนุ่มตัดสินใช้เวทย์ลมขั้นกลางดีดตัวพวกเขาทั้ง3ขึ้นข้ามรั้วมาลงจอดบนหลังคาคฤหาสน์ได้โดยสวัสดิภาพ

      สเปอร์นอฟเริ่มชักอัศจรรย์กับความมหัศจรรย์ของเวทย์มนตร์เข้าให้แล้ว มันเป็นอนุภาคที่สร้างปาฏิหารย์แหกกฎธรรมชาติได้คงไม่ผิดนัก กล้าเอาหัวเป็นประกันเลย 

      ที่สำคัญ เขาไม่เคยคิดว่าจะมีคนที่จะควบคุมมันได้สมบูรณ์ขนาดนี้ เพราะว่าเท่าที่เขาแอบสังเกตเมื่อตะกี้ ความแรงลมที่ใช้หอบพวกเขามันน่าพอที่จะหอบเอารถบรรทุกได้เลย และเหมือนเขานั้นจะใช้ได้แบบดั่งใจนึกประมาณหายใจเข้าออก

      "เออ.......หยุดจ้องผมก่อนได้มั้ยครับ ผมรู้สึกอึดอัดนะ"

      "ขอโทษด้วย"

      สเปอร์นอฟเหมือนจะตื่นเต้นที่ได้ค้นพบอะไรใหม่มากไปนิด เมื่อรู้ตัวว่าเผลอจ้องตาจนอีกฝ่ายอึดอัด เขาก็รีบถอนสายตาออกแล้วชักถามสถานการณ์ในตอนนี้

      "ไอ้เบื้อก คิดว่าพวกมันจะตามมามั้ย?"

      แม้จะรู้สึกอัศจรรย์กับเด็กหนุ่ม แต่เขายังคงขอเรียกแบบนี้ต่อไปก่อนเพราะเรื่องในห้องน้ำเขายังเคืองไม่หาย และเหมือนทางนั้นจะไม่ค่อยใส่ใจซะด้วย

      "คงไม่นะครับ ถึงจะเก่งมาจากไหนแต่พวกนั้นคงไม่กล้าจะเข้ามาในเขตของขุนนางแน่ ยกเว้นได้รับอนุญาตเป็นการส่วนตัว คนที่บุกกว่ามีอำนาจสูงกว่า หรือไม่ก็......."

      "ไม่ก็อะไร?"

      เคร้ง!

      "ว้ายๆๆๆๆๆๆ!! ดูสิแกเจอแล้วคู่นอนของพวกเรา"


      ".......หน้าด้านพอ........."

      ไม่ทันจบประโยชน์เหล่าทหารสายม่วงวิ่งกรูดุจวัวกระทิงคลั่งจนแผ่นดินสะเทือน พังประตูรั้วของคฤหาสน์กลายเป็นเศษเหล็ก หน้าตาจากที่หื่นกระหายจัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งหื่นกระหายในตูดของเหล่าชายชาตรีที่สุดถึงที่สุดเข้าไปอีก แม้แต่คนเขียนยังมิอาจจะบรรยายได้

      "ซวยแล้ว!!"สเปอร์นอฟตกใจหน้าตื่น ไม่นึกว่าความหนาของหน้าพวกมันจะด้านกระดาษทรายเรียกปู่ขนาดนี้

      "งั้นจัดการผมจัดการเอง"

      ไอซ์ออกตัวแทนเพื่อน ควักเอาเลเซอร์กันแบบเดียวกับของสเปอร์นอฟออกมา และสวมหัวกระสุนคล้ายลูกจรวดสีแดงเล็กๆเข้าไปที่ปลายกระบอกปืนจนแน่นมิด เล็งปืนไปยังพวกทหารสายม่วงที่วิ่งเข้ามาจะปีนคฤหาสน์มาหาพวกเขา

      "จะทำอะไรน่ะ?"เด็กหนุ่มถามด้วยความสงสัย

      ฟุบ!

      ไอซ์เพียงแต่ยิ้มตอบ ก่อนจะเหนี่ยวไกออกไป เสียงการยิงมันเหมือนเวลาฝาจุกขวดแชมเปญหลุดเพียงเบากว่าจนน่าตกใจ

      หัวจรวดไซส์เล็กพริกขี้หนูวิ่งลงตามกฎโพรเจกไทล์ หยอยตกลงกลางดงพวกมันเข้าพอดิบพอดี

      ตูมมมม!

      ทันทีที่หัวจรวดกระแทกกับพื้นดิน เข็มชนวนบางเท่าขนกดชนวนภายในทำให้เกิดปฏิกิริยากับเคมีชนิดพิเศษภายในแบบฉับพลัน กลายเป็นการระเบิดอย่างรุนแรงเฉียบพลันในรัศมี3เมตร

      "อ้ากกกก!!"

      "โอ้ยยยยยยย!!"

      "เจ็บจุงเบย!! ตายดีกว่า!!!"

      แรงระเบิดฉีกร่างกายของผู้โชคร้ายเป็นชิ้นๆ โดยเฉพาะคนที่อยู่ใกล้สุดถึงกับระเหิดเป็นละอองเลือดไปเลยก็มี ส่วนคนที่รอบข้างต่างถูกแรงระเบิดฉีกอวัยวะกระจายรวมถึงเครื่องใน ยิ่งบวกกับกลิ่นโปรตีนที่ถูกเผาไหม้โชยเคล้าไปทั่วบริเวณ มันกลายเป็นภาพน่าสยดสยองกับคนที่เหลือรอดราวกับเจอนรกทัณฑ์

      บางคนที่ไม่ตายในทันทีก็ถือว่าไปซวยไป เพราะมันผู้นั้นจะได้เห็นซากศพที่ถูกระเบิดเละกระจายเป็นชิ้นๆแทบหาเค้าโครงเดิมไม่เจอไปทั่ว ถึงอ้วกแตกก่อนเลยก็มี

      เจ้าของผลงานกับสเปอร์นอฟอาจไม่รู้สึกรู้สาอะไรมากนักเพราะชินไปแล้ว แต่สำหรับเด็กหนุ่มนั้นมันคนละเรื่องกันเลย

      เขาแทบจินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้าโดนจะเป็นยังไง เสียงโอดครางด้วยความเจ็บปวดของผู้น่าสงสารราวกับวิญญาณในนรกเสริมจินตนาการความกลัวของเด็กหนุ่ม ที่จินตนาการได้เพียงอย่างเดียวคือ เก่งแค่ไหนถ้าหลบไม่ทันเท่ากับตายลูกเดียว

      เห็นแบบนี้เด็กหนุ่มก็ฆ่าคนเป็นนะ เพียงแต่จะทำต่อเมื่อจำเป็นๆจริงเท่านั้นและศพสวยงามนี้อีก พอได้เจอเข้าไปก็ไม่แปลกที่แอบสยดสยองขึ้นสมองอยู่เหมือนกัน

      เด็กหนุ่มหันไปมองหน้าเหล่าเพื่อนร่วมชะตากรรมด้วยใบหน้าที่เลือดไม่เดิน เรื่องอาวุธคงไม่ถามแน่ว่าไปมีมาได้ยังไงเพราะไม่ใช่เรื่องที่ควรไปถามแน่

      "ว้าย! ตูดหนุ่มหล่อ!!"

      ทว่าในจังหวะที่เด็กอ้ำๆอึ้งๆกับฤทธิ์จรวดจิ๋วของไอซ์ ทหารสายม่วงอีกคนที่ไม่รู้ว่ารอดมาไง ปีนขึ้นมาบนหลังคาพุ่งจู่โจมเข้าใส่ทางสเปอร์นอฟ หมายจะชิงความบริสุทธิ์อีกฝ่าย

      แต่ที่ตะโกนไปมันดันทำให้สเปอร์นอฟรู้ตัวซะก่อน แม้จะเป็นนักวิทยาศาสตร์แต่เขาก็เคยฝึกหนักแบบทหารมาก่อนเช่นเดียวกับคนอื่น

      ฉึก!

      เขาก้มตัวพร้อมคว้าเอาเข็มฉีดยาบรรจุของเหลวสีเหลืองปัสสาวะ บิดเอว45องศาเหวี่ยงแขนปักเข็มฉีดยาเข้าใต้รักแร้ซึ่งมีกล้ามเนื้อแน่นน้อยอย่างรวดเร็ว และกดเข็มปล่อยสารเคมีภายไหลลงสู่กระแสเลือดจนหมดไม่เหลือ

      "อุก......"ทหารคนนั้นร้องเสียงหลง

      แทบไม่ต้องรอดูอาการ สเปอร์นอฟถอนเข็มออก ทหารคนนั้นถอยหลังไปก้าวหนึ่งประมาณว่าไม่รู้ว่าตัวเองโดนอะไรกันแน่ แต่ไม่นานนัก......

      "อ๊อก! อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!"

      ทหารคนนั้นกรีดร้องเจ็บปวดทรมานปานโลกจะแตกให้ได้ เขาล้มลงกลิ้งเกลือกไปกับกระเบื้องหลังคาราวกับไส้เดือนโดนอุดขี้เถ้า ต่อมาไม่ถึงสิบวิอาการยิ่งหนักเข้าไปอีก

      เด็กหนุ่มที่เพิ่งจะหายเอ๋อมองสภาพของผู้โชคร้ายด้วยใบหน้าที่ขาวซีดยิ่งกว่าไก่ต้ม สภาพของอีกฝ่ายแทบไม่ต่างกับคนที่โดนโคตรของโคตรของคำสาปเข้าไปคงไม่ผิด

      สีตัวเริ่มจะคล้ำกลายเป็นสีม่วงเหมือนคนใกล้ตาย นัยตาทั้ง2ข้างมีเลือดสีแดงข้นไหลทะลักราวสายน้ำ ปากฟูมน้ำลายเป็นกลุ่มฟองๆ ขี้เยี่ยวต่างไหลไหลกระฉุดนองออกมาแบบไม่เช็นเซอร์ ย้ำ ไม่ต้องเซ็นเซอร์จริงๆเพราะมันอยู่ในสภาพกางเกงในตัวเดียวอยู่แล้ว

      ในท้ายที่สุดทหารผู้โชคร้ายก็ได้ชักกระตุก1จังหวะก่อนแน่นิ่งไป ไม่ขยับตาค้างอยู่อย่างนั้นราวกับวิญญาณออกจากร่างไปเรียบร้อย และความจริงมันใช่

      ".....เอาไงต่อดีครับ..........."เด็กหนุ่มเผลอพ่นคำถามโง่ๆทั้งที่ตัวเองยังทำหน้าเอ๋อๆไม่หาย

      โป๊ก!

      "เจ้าโง่ เผ่นไงเล่า"

      โดยความหมั่นไส้ สเปอร์นอฟเลยโขกกระบาลเด็กหนุ่ม1ที ข้อหาถามเรื่องที่รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว..........





      ทุกคนเคยเป็นอาการแบบนี้กันมั้งหรือเปล่า?

      เวลาที่เรามักจะเครียดแล้วไปจดจ่อกับเรื่องใดหนึ่งมากเกินไป บางครั้งเราอาจจะหลงลืมอะไรบางอย่างไปก็ได้ ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยยันเรื่องสำคัญ

      ด้วยความเครียดที่รู้ว่าลูกชายตัวเองโดนใครก็ไม่รู้เล่นงานจนพิการ คุณหญิงเป็ดจึงลืมไปเสียสนิทเลยว่า วันนี้มีบุคคลสำคัญมากๆ(จริงๆนะ)มาเยี่ยมถึงคฤหาสน์ และตอนนี้กำลังนั่งรออยู่ในห้องรับแขกชั้นบนสุดอยู่

      หญิงสาวผู้มีใบหน้าอันแสนน่ารักน่ากอดให้นิยามก็เหมือนเจ้าเหมียว เส้นผมสีดำเงายาวสลวยลงไปถึงเข่าโดยถักเปียขนาดเล็กไว้ทั้ง2ข้าง พร้อมด้วยรูปร่างอันโปร่งบางและไร้ส่วนเว้าส่วนโค้งเหมือนหญิงงามอันสมบูรณ์แบบ

      เธอในชุดผู้สูงศักดิ์สีดำที่เหนือกว่าขุนนางทุกยศถาบรรดาศักดิ์ ใบหน้าอันเรียบเฉยของเธอครุ่นคิดสิ่งใดอยู่ก็มิอาจมีผู้ใดมาล่วงรู้ได้ แต่ตอนนี้ดวงตากลมโตสีดำประกอบแพขนตางอนยาวกวาดตาสำรวจความงามของห้องรับแขกไปทั่ว ก่อนจะมาสะดุดกับทหารองค์รักษ์คนหนึ่งที่มากับเธอเข้า


      "เจ้าหญิงลูเทเซีย ข้าว่าพวกเรากลับกันก่อนดีกว่านะครับ"

      "เรายังไม่กลับ เจ้าก็น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอว่าช่วงนี้คุณหญิงเป็ดมีพฤติกรรมการเคลื่อนไหวแปลกไปจากเดิม และวันนี้เราจะรู้ให้ได้ว่าเจ้าตัวต้องสงสัยกับปัญหาความมั่นคงของอาณาจักรเอ็มเพอร์เรอหรือไม่"

      เจ้าหญิงลูเทเซีย อัลไพน์ เอ็มเพอร์เรอ เธอคือเจ้าหญิงลำดับ1และลำดับเดียวของพระราชาอาณาจักรเอ็มเพอร์เรอ ไกเซอร์ อัลไพน์ เอ็มเพอร์เรอ เธอได้ขอเข้าพบกับคุณหญิงเป็ดเป็นการส่วนตัว ตามจุดประสงค์ที่กล่าวมาข้างต้น แน่นอนว่าเรื่องนี้เธอไม่บอกหรอก

      และพอเข้าไปปรากฏว่าพ่อบ้านบอกให้เธอไปรออยู่ห้องรับแขกก่อน เพราะคุณหญิงเป็ดยุ่งอยู่เลยใช้เวลาชั่วครู่(พ่อบ้านบอกมาแบบนั้น) เธอจึงมานั่งรออยู่ห้องรับแขกอยู่ชั้นบนสุด จนถึงตอนนี้คุณหญิงเป็ดก็ยังไม่มาสักทีทำเอาเธอเริ่มเอะใจแล้ว

      "เจ้าช่วยออกไปข้างนอกก่อนได้หรือไม่ ข้าจะขออยู่คนเดียวหน่อย"

      "ต....แต่ว่า.....!"

      "ไม่ต้องห่วงข้าหรอก ข้าดูแลตัวเองได้อยู่เพียงแต่ข้าอยากอยู่คนเดียวเท่านั้น"เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยเน้นชัดถ้อยชัดคำ บอกถึงความต้องการตัวเองตรงๆ

      "ครับ"

      แม้จะคาดไม่ถึงแต่ทหารองครักษ์ก็พอเข้าใจอารมณ์ที่อยากอยู่คนเดียวชั่วครู่อยู่ เลยยอมออกจากห้องรับแขกปล่อยให้ลูเทเซียอยู่คนเดียวตามลำพัง

      เมื่ออยู่ลำพังเธอก็รู้สึกความสงบ มันช่วยให้เธอรู้สึกปลอดโปร่งสมองโล่งอย่างเหลือเชื่อ สภาพแบบนี้มันเหมาะที่จะให้คิดเรื่องราวปวดหัวได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

      เธอเริ่มครุ่นคิดถึงเรื่องวีรกรรมของคุณหญิงเป็ดที่ผ่านมา เท่าที่เธอสำรวจพบว่าคุณหญิงเป็ดมีการสั่งซื้อเหล่าทาสเผ่าบีสต์หรือมนุษย์มากขึ้นเป็นเท่าตัว แถมมีชอบมีพฤติกรรมที่ชอบทำตัววางอำนาจมากขึ้นกว่าเดิมในช่วง1ปีที่ผ่านมาชนิดไม่กลัวแม้กระทั่งราชวงศ์

      น่าสงสัยจริงๆ.....เธอพึมพำเบาๆ แค่นี้มันสงสัยสุดๆ
     
      ในระหว่างกับครุ่นคิดเรื่องนี้อย่างหนัก จู่ๆหางตาเธอก็เหลือบไปที่หน้าต่างที่เปิดให้ลมพัดลอดเข้ามาได้ นอกหน้าต่างนั้นกลับมีเชือกสีดำจะหนาก็ไม่หนาเกิน จะบางก็ไม่บาง ห้อยลงมาทางนอกหน้าต่างสร้างความสงสัยให้กับเธอเป็นอย่างมาก

      "อะไรน่ะ?"

      ลูเทเซียเดินเข้าที่หน้าต่างหวังจะรู้ให้ได้ว่าเจ้าเชือกมันคืออะไร ทว่ายังไม่ทันจะเอื้อมมือไปแตะ เชือกได้เกิดการกระตุกลงอย่างรวดเร็ว มีใครบางคนกำลังโหนมาลงมาเข้าทางหน้าต่าง!

      พลั่ก!

      บาทาคู่ของคนที่โหนเชือกเข้ามาซัดกลางหน้าเธอเต็มๆไร้คนแบ่งปัน แรงกระแทกส่งผลให้โลกของเธอพรามัวไปหมดจะปิดตาอยู่ไม่ปิดแลและหงายหลังล้มลงกับพื้น ในจังหวะเดียวกันที่คนที่โหนลงถึงพื้นในห้องพอดิบพอดี

      "ชะฮ้าว! ชิบหายแล้ว! มาอยู่ตรงนี้ได้ไงล่ะเนี้ย!!"

      ก่อนที่สติของเจ้าหญิงลูเทเซียจะสลบไป
    เสียงของชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างตกใจได้ดังขึ้นมา


      และคนๆนั้นก็คือ สเปอร์นอฟ ของเรานี่เอง........
     


     

      

      

      

     
      

     

     

     

      To be continued





    -------------------------------------------------------------------------------------------

    รูปของพระเอกเราจ้า

    จอมเวทย์สีดำ(ลุกซ์ ออร์บิส)





      ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บอกตามตรงว่ายุ่งมากเลยต้องลงแบบหนอนชาเขียว

      ส่วนคุณไฮน์อยากเพิ่งโกรธนะครับ ลูเทเซียมีบทมากกว่านี้แน่ แต่ถือว่าโชคร้ายรับต้นเรื่องไปก่อนก็แล้วกัน ขืนตื่นมาอีกมีหวังเธอได้เจ็บเนื้อเจ็บกว่านี้แน่ หวังว่าคงไม่โกรธกันนะครับ(สาธุ)

    อ่อ ลืมไปสัปดาห์ก่อนผมไปเจอเพลงเพราะๆมาเป็นเพลงแบบcoverมา เลยแปะลิ้งค์มาฝากด้วย ลองเข้าไปฟังกันได้เลยมันเพราะจริงๆ


    https://www.youtube.com/watch?v=AJ7NszuctRw

     
     

      ปล.ระหว่างขนาดอักษร16กับ18 อันไหนสบายตากว่าครับ 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×