ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Ch.3 คุณหมอและรัฐมนตรี กับงานศพสุดบันเทิง
ณ โบสถ์แห่งหนึ่ง ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เวลา11.30น.
ช่วงเวลาเช้านี้บางวันอาจเป็นวันที่สดใสสำหรับใครบางคน ในทางกลับกันก็เป็นวันอันมืดมนสำหรับใครบางคนเช่นกัน เช่นเดียวกับที่วันนี้เป็นพิธีงานศพของนักธุรกิจชื่อดังคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จมาช้านาน น่าเสียดายที่มาเสียชีวิตด้วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจฉีกขาดเมื่อ2วันที่แล้ว
หลังพิธีสวดวิญญาณครั้งสุดท้ายก่อนจะนำศพไปฝังสุสานในวันพรุ่งนี้จบลง เหล่าผู้มางานศพส่วนใหญ่ต่างทยอยกันกลับบ้าน ยกเว้นญาติบางส่วน และคนบางกลุ่มที่ยังไม่กลับ.....
ที่นั่งในโบสถ์ยังมีหญิงสาวคนหนึ่งในชุดเสื้อกราวน์หมอสวมเดรสสั้นไว้ข้างใน รูปร่างสูงระหงราวกับนางแบบ รูปหน้าเรียวเล็กรับกับเรือนผมสีน้ำเงินเข้มที่ถูกตัดซอยสั้น ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้ม ขนตางอนยาวจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากได้รูปสีชมพูระเรื่อ สวมห้อยสร้อยคอที่มีจี้เป็นกระปุกยาแคปซูล และทาเล็บสีแดงที่เป็นสีนำโชคของเธอ
และเธอคนนี้มีชื่อว่า คาริสสา แคนไดซ์ ชื่อเล่น เคท เป็นแพทย์ในเอกชนธรรมดาที่มีโอกาสได้รักษาคนให้คนโตมากมาย
เธอนั่งอยู่ด้วยสายตาที่เรียบเฉยชา ราวกับสลัดหน้ากากอีกด้านไป ต่างจากเมื่อตอนทำพิธีสวดวิญญาณที่ทำสีหน้าเศร้าสร้อยเหมือนคนที่รู้ผิดที่ทำให้คนไข้ในการดูแลตัวเองตาย
ทั้งหมดนี้มันก็ละครที่ทำหน้าตัวเองไม่ต้องถูกสงสัย เรียกคะแนนความสงสาร และเพื่อให้เธอได้รับเงินได้สบายๆ เพียงแค่ใส่ยาเข้าไปในน้ำเกลือหรือน้ำดื่ม แล้วทำเนียนมางานศพ ตีหน้าเศร้าแค่นั้นเอง
ใช่แล้ว คนที่อยู่ในโลงตอนนี้ตายเพราะยาที่เธอแอบใส่ไปให้และมีบรรจุอยู่ในห้อยสร้อยคอยาแคปซูล นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเธอ เคททำเรื่องพรรคนี้ไปหลายครั้งแล้ว
ถ้าทำว่าเธอเคยรู้สึกผิดมั้ย ไม่ เธอไม่รู้สึกผิดแน่นอน ถึงตอนแรกๆจะลังเลไปหน่อย แค่'คนคนนั้น'ได้ยื่นเงินให้จำนวนหลักแสนดอลล่าร์ต่อครั้งที่เธอจัดการสังหารเป้าหมายให้ แค่นี่ก็เพียงพอที่จะแหกจรรยาบรรณแพทย์
ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่แคร์จรรยาบรรณแพทย์ มันก็แค่สิ่งที่มนุษย์มโนขึ้นมาเหมือนศักดิ์ศรีเท่านั้น เพื่อเงินแล้วไม่มีอะไรต้องไปใส่ใจ อีกอย่างกฎหมายคงไม่เอาผิดหมออย่างเธอได้หรอก
จะว่าไป'คนคนนั้น'กระเป๋าหนักหนักไม่ใช่เล่น กระเป๋าเงินตุงจนพอจ้างเธอเป็นแสนได้ต่อครั้ง เคทคิดเล่นๆขณะนั่งอยู่
จะว่าไปพูดถึง'คนคนนั้น'แล้วล่ะก็ นั่นไงมาพอดีเลย
มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งค่อยๆเดินมานั่งใกล้ๆกับเคท เธอมีผิวขาวผ่องดุจหิมะ ผมยาวถึงกลางหลังสีน้ำตาลช็อคโกแลต ตาสีเขียวใบไม้ หน้าตาก็ดูไร้เดียงสา ยิ้มมุมปากแบบน่ารักๆ
หากแต่ใครจะไปรู้บ้างว่าเธอคือ อลิซ มิเชล ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ และให้ไอเดียในการแก้ไขเศรษฐกิจของประเทศ จนได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจแห่งสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว
สิ่งแรกที่เอ่ยมาจากปากของรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจคือ
"งานเธอเสร็จไปอีกแล้วสินะคพคุณเคท"
เคทพยักหน้ารับและถาม"แล้วเงินค่าจ้างล่ะ?"
"ใจเย็นๆคะคุณเคท พรุ่งนี้ฉันจะโอนให้คุณเอง 5แสนดอลล่าร์ตามสัญญา"
"แต่ฉันจำได้ว่าสัญญาไว้6แสนนะ"เคทพูดอย่างไม่พอใจ
ถึงอย่างนั้นอลิซเองก็ไม่ยี่หระต่อคู่สนทนา "รู้อะไรมั้ยคะ ตามสัญญาที่กำหนดไว้ฉันมีสิทธิ์หักเงินคุณได้ ถ้ามีหมาCIAตัวไหนระแคะระคายเรื่องธุรกิจระหว่างเรา2คน และเมื่อวานนี้ก็มีจริงๆ แต่ไม่ต้องห่วงฉันเก็บกวาดงานให้แล้ว"
"เยี่ยม...."เคทพูดประชดตัวเองพร้อมหันมามองผู้ว่าจ้างตัวเองแบบเคืองๆ
แม้คนอื่นธรรมดาสามัญจะมองว่าเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจที่เก่งกาจอีกคนหนึ่ง สำหรับเคทถือไม่ใช่เลยสักนิด ควรจะเป็นเจ้าแม่อสรพิษซะมากกว่า เพราะเธอร่วมธุรกิจกับอลิซมานานพอที่จะรู้ว่า งานของเธอก็แค่จัดการเป้าหมายที่ขว้างคอแผนการร้ายของอลิซเท่านั้น
แผนการร้ายของอลิซรายละเอียดไม่ค่อยแน่ชักสักเท่าไหร่ ที่แน่ๆตอนนี้เธอสามารถควบคุมกระแสเศรษฐกิจของโลก อยากให้บริษัทไหนล่มจมหรือพัฒนาอย่างก้าวกระโดดก็ได้ เธอได้เรียกเก็บค่าคุ้มครองกับบริษัทต่างๆ เธอล่มบริษัทที่ขวางทางเธอไปมากกว่า 4000 บริษัททั่วโลก บางบริษัทที่จ่ายให้เธออย่างต่อเนื่องก็กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ และเธอเองก็เป็นแค่หมากตัวสำคัญที่ใช้ในการกำจัดคู่แข่ง
บางครั้งบางทีก็แอบคิดว่าคิดถูกมั้ยที่ต้องมาเป็นหมากให้คนข้างๆใช้งาน เธอเหมือนเป็นหมากที่พร้อมเขี่ยทิ้งได้ทุกเวลาถ้าหมดประโยชน์ โชคดีที่เธอค่อนข้างทำงานได้เรียบร้อยเลยยังไม่ถูกเขี่ยทิ้ง ถ้าไม่ใช่เพราะเงินค่าจ้างวานงามๆ เธอคงไม่ทนจนถึงปานนี้
นึกไปนึกมาก็ชวนพาเครียดเปล่า เคทคิดเช่นนั้น และตัดสินใจลุกขึ้นกลับบ้านทันที
"จะไปไหนคะ?"อลิซยิ้มถาม ไม่รู้ตั้งใจกวนประสาทหรือไม่
"กลับบ้าน"เคทตอบสั้นๆได้ใจความ
เคทเดินออกจากโบสถ์โดยทันที ทว่าก่อนจะได้เปิดประตูออกไปกลับมีชายในสูทสีดำ สวมแว่นตากันแดด2คนเดินมาขวางประตูโบสถ์ สร้างความแปลกใจให้เธอเป็นอย่างมาก
"อะไรของคุณ?"เคทขึ้นเสียงไม่พอใจ
ในระหว่างเองก็มีชายชุดสูทสีดำอีก2คนเดินเข้าหาทางอลิซ เข้ามาขวางทางไม่ให้ไปไหนเช่นกัน อลิซเองชักรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี แต่ใจเย็นพอที่จะไม่ลนลาน
"คุณเป็นใคร?"เธอถาม
"..............."(เงียบ)
ไม่มีคำตอบอะไร นอกจาก..........
"!?"
ทันใดนั้นเองชายชุดสูทสีดำทั้ง4ต่างชักปืนขึ้นมาจ่อตัวทั้งคู่อย่างพร้อมเพรียง ด้วยตกใจทั้งคู่เลยเผลอถอยหลังไปก้าวหน้า ก่อนยกมือเหนือหัวขึ้น ซึ่งสีหน้าทั้งคู่ล้วนตกตะลึง ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะหาญกล้าทำแบบในงานศพได้
"จงอย่าได้ตั้งคำถาม มากับพวกเราซะดีคุณเคท คุณอลิซ"มีชายชุดสูทสีดำอีกคนเดินตามพร้อมพรรคพวก5คนในชุดแบบเดียวกัน คาดว่าคนนั้นล่ะคือหัวหน้าของพวกชายชุดสูทสีดำพวกนี้
คนที่เอาปืนจ่อพวกเธอก็สั่งให้เดินไปหาหัวหน้า พร้อมบังคับให้ลุกเข่าลงและให้เอามือทั้ง2ข้างกุมไว้ท้ายทอย
"คุณต้องการอะไรกันแน่?"
ถึงสถานการณ์จะแย่ที่ต้องมานั่งคุกเข่า เอามือไว้ท้ายทอย และมีปืนหลายกระบอกจ่อมาที่พวกเธอ อลิซยังพอควบคุมสติอารมณ์ไว้ได้ และเอ่ยถามอีกฝ่าย ต่างจากเคทที่สีหน้าเริ่มซีดเผือกลง เหงื่อแตกอย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่เคยเจอสถานการณ์ที่กดดันยิ่งผ่าตัดคนไข้เสียอีก
"คุณทำบาปมามากพอแล้วคุณอลิซ คุณเคท พวกเราจะพิพากษาบาปของคุณเสียแล้ว"ชายที่เป็นหัวหน้าตอบไม่ต้องประเด็นด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนเครื่องจักร
"พิพากษา?"เคทเป็นคนแรกที่ทวนคำ
"พิพากษาบาปของคุณ ตัดสินด้วยเกมของ'ท่านผู้นั้น' ไม่ว่าคุณจะปฏิเสธยังไงก็ไม่มีวันหลบพ้นพวกเราไปได้ เมื่อลูกแกะอย่างคุณหนี หมาป่าเช่นพวกเราจะล่าคุณ เพราะฉะนั้นมากับพวกดีกว่า"
"มา? มากับพวกคุณแล้วจะได้อะไร?"อลิซถามอย่างรู้สึกกดดันกับชายที่เป็นหัวหน้า
มันเหมือนมีบางสิ่งที่กดดันไม่ใช่เธอกล้าหนีกับพวกเขา!
"ก่อนอื่นพวกคุณควรหลับไปก่อนนะ"
ปัง
ว่าจบชายที่เป็นหัวหน้าก็ชักปืนพกออกมา และลั่นไกใส่อลิซทันที!
"กรี๊ดดดดด!!!"
เคทที่ตกใจที่เห็นนายจ้างถูกยิงต่อหน้าต่อตาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เผลอกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว เธอถึงกับขาอ่อนล้มลง พร้อมปล่อยปัสสาวะราดออกมาด้วยไม่รู้ตัว
ดวงตาที่แสดงความหวาดกลัวเลื่อนมาที่ชายที่เป็นหัวหน้า น้ำตาไหลเปริ่มออกมา อ้อนวอนไม่ให้เจอชะตากรรมแบบเดียวกัน หากแต่........
"ไม่ต้องห่วงนี่แค่กระสุนยาสลบเท่านั้น"
ปืนมือหันไปยังเคทที่สั่นกลัว พร้อมนิ้วมือสอดเข้าโกร่งไกเตรียมลั่นนัดต่อไป
เธอหลับตาปี๋ด้วยความกลัว พร้อมนึกถึงพ่อแก้วแม่แก้วไว้ ในจังหวะนั้นเองก็มีเสียงใครบางคนพูดขัดจังหวะไว้
"เฮ้ยๆ นี่มันวันรวมญาติกันฟร่ะไอ้พวกสถาบันบาป? ว่างจังเนอะ ที่วันๆเอาแต่พิพากษาชาวบ้าน"มีเสียงชายมาดกวนดังขึ้นมาขัดจังหวะ
"มันไม่ใช่เรื่องของแกแพนดี้"ชายที่เป็นหัวหน้าตอบสวน
"เห็นทีคงไม่ได้ว่ะ เพราะโปรเจคของพวกชั้นเองต้องการพวกหล่อนอยู่พอดี"
"งั้นแกคงอยากได้สงครามสินะ........"
เคทที่หลับปี๋ไว้ค่อยๆลืมตาขึ้น พร้อมกับเสียงลูกสูบไฮโดรคลอลิคดังกระขึ้นมา
ใต้แท่นหน้าไม้กางเขนขนาดใหญ่ของโบสถ์มีห้องที่สี่เหลี่มที่เปิดหน้าเลื่อนขึ้นมาจากพื้นดินจนสุด เผยให้เห็นชายผู้สวมหน้ากากแพนด้าและหมีโคอาล่ากำลังเตรียม.............
เออ ว่าไงดีล่ะ...........ทั้ง2กำลังเตรียมเล่นเครื่องเล่นดนตรี โดยชายสวมหน้ากากหมีโคอาล่าเล่นกีต้าร์ ส่วนชายสวมหน้ากากแพนดี้ควงไม้กลองไปมาพร้อมเล่นกล่องชุด ข้างๆทั้งคู่มีลำโพงงานคอนเสิร์ตเท่ากล่องทีวีจอแบน........
(รูปกลองชุดพร้อมส่วนประกอบ)
แล้วมันมาได้ไงเนี่ย!? เคทแทบอยากจะบ้าตายให้มันรู้แล้วรอดที่แทนที่จะเป็นคนมาช่วย ดูยังไงๆนี่มันคนสติไม่สมประกอบชัดๆ!
"สงคราม? ถ้าจริงเถอะวะ พวกแกก็รู้ดีนี่ สถาบันของพวกเราไม่กินเส้นตั้งแต่รุ่นอภิมหาทวดแล้ว มีสงครามกันให้ฆ่าแกงกันหลายรอบแล้ว แล้วยุคนี้ก็ยังมีสงครามกันอยู่ จริงไหมไอ้คุณหมาขี้เรือน?"
"ได้.......แปลว่าแกคิดจะต่อกรกับพวกเรา สถาบันบาป ด้วยเครื่องดนตรีโง่ๆสินะ? ย่อมได้เลยแพนดี้"
ชายที่เป็นหัวหน้าพยักหน้าเข้าใจ มือของเขาค่อยๆหน้ากากหัวหมาป่าก่อนสวมมันลงไป พร้อมกับลูกน้องทุกคนที่สวมหน้ากากแบบเดียวกันตาม พร้อมชักปืนออกมาเล็งไปยังแพนดี้และชายสวมหน้ากากหมีโคอาล่า โคอี้
"เตรียมตาย!"
"หึ......โทษที นั่นคำพูดทางฝั่งนี้ต่างหาก"
แกร๊ง!
ปัง!
พริบตาที่แพนดี้กลองชุดส่วนที่เป็นฉาบไฮแฮ็ท ก็มีเสียงปืนลั่นหนึ่งนัดขึ้น.....
ตุบ...... เสียงคนลงล้มลง
และมีอีกร่างหนึ่งล้มลงตัวนอนกับพื้น.........
พริบตาเดียวร่างของชายที่เป็นหัวหน้าก็ล้มตัวนอนหลายหน้า ในสภาพที่มีเลือดไหลซึมผ่านหน้ากากบริเวณหน้าผาก กว่ารู้ว่าหัวหน้าตายไปแล้วก็ไม่กี่วิในหลัง พร้อมทำหน้าคล้ายถามว่าเกิดอะไรขึ้น? และพร้อมใจกันหันไปทางแพนดี้
"!?"ทุกคนต่างตื่นตะลึง
มีป้อมปืนกลจิ้ว.....ที่มีไม่รู้มาได้ไง กางขึ้นออกมาจากฉาบไฮแฮ็ท ปลายกระปืนมีไอร้อนลอยฉุนขึ้นมา แทบไม่ต้องอะไรอธิบายให้มากความ ทำไมชายที่เป็นหัวหน้าถึงตาย
เหล่าผู้คนที่เหลือรู้สึกกลัวหวาดๆขึ้นมากับกลองชุดตัวนี้แล้วสิ!
"ขอเชิญทุกท่าน เชิญโคตรพ่อโคตรแม่ดนตรีจากสบาบันตบเด็กเกรียน ณ บัดนี้! Let's music!!!"
(เพลงประกอบอถรสในการอ่าน สำหรับอ่านในคอมเท่านั้น)
สิ้นคำจากปากแพนดี้มหกรรมนรกก็บังเกิด ลำโพงกระหึ่มเสียงสะเทือนอาคารโบสถ์ จนกระจกแทบแตกกระจายเพราะความกระหึ่มของลำโพงที่เปิดเสียงเต็มmax พร้อมกับเสียงบรรเลงจากเครื่องเล่นดนตรีทั้งกลองทั้งกีต้าร์อย่างเมามันส์จากแพนดี้และโคอี้ ราวกับมืออาชีพมาเอง
เหล่าชายสวมหน้ากากหมาป่าตั้งสติได้ จึงชักปืนออกมายิง2ชายผู้สวมหน้ากากสัตว์ตระกูลหนีให้ได้ ทว่ามันไปสายไปเสียแล้ว
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!
"อ๊าก!!"
"อั๊ก!!"
เครื่องดนตรีทั้งกลองชุดและกีต้าร์กลายเป็นอาวุธสังหารบัดดล กีต้าร์ในมือโคอี้กลายเป็นปืนกลหนักสาดห่ากระสุนจากหัวกีต้าร์ ใส่ร่างกลุ่มชายสวมหน้ากากอย่างบ้าคลั่งตามจังหวะบรรเลงกีต้าร์อย่างเมามันส์ ใครที่หลบไม่ทันก็กลายเป็นเหยื่อกระสุนนับไม่ถ้วนที่อาบใส่ร่าง แม้จะหาที่กำบังหลบได้แต่ไม่นานก็ถูกยิงซ้ำจะทะลุกำบังถึงตัวอยู่ดี
ที่สำคัญ หัวกีต้าร์สร้างด้วยเทคโนโลยีของสถาบันตบเด็กเกรียน จึงสามารถระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม เพราะฉะนั้นเจ้ากีต้าร์นรกนี้จะยิงได้จนกว่ากระสุนหมดเท่านั้น
"ตาย! ตายโหงซะไอ้กรวก ว๊าก! ฮ่าๆ! สะใจเว้ย!!!!"โคอี้กู่ร้องอย่างบ้าคลั่ง พร้อมบรรเลงกีต้าร์ราวกับนักร้องขาร็อคเต็มขั้น สาดห่าฝนลูกตะกั่วไม่ยั้ง
จังหวะนั้นเองก็มีกำลังเสริมที่สวมหน้ากากหมาป่าแบบเดียวกันกรูกันเข้านับ30คน เข้ามาช่วยสนับสนุนคนที่ยังเหลือรอด พร้อมอาวุธที่ครบมือตั้งแต่อีพกถึงปืนกล แม้แต่เป็นทีมงานมืออาชีพก็ยังไท่รอดอยู่ดี เพราะท้ายสุดก็โดนยิงจนพรุนอยู่วันยังค่ำ
ส่วนแพนดี้เองยิ่งแล้วใหญ่ เพราะเจ้าตัวอินไปกับเพลงที่เปิดอยู่แล้วตีกลองไปตามจังหวะเพลงเหมือนโดนผีเข้าสิง ทุกส่วนของกลองที่ตีไปตามจังหวะล้วนมีอาวุธสังหารที่ไม่รู้ยัดเข้ามาได้ไงกางออกมาแจกจ่ายความตายถึงที่
ไม่จะจะเป็นกลองเล็กติดตั้งป้อมปืนอัจฉริยะ ไฮแฮ็ทที่ติดตั้งป้อมกลขนาดเล็ก ปืนแกตลิ่งกางขึ้นมาติดตั้งกับกลองทอม ฉาบหรืออีกชื่อหนึ่ง ซิมบาลส์ที่ติดแล้วจะยิงกงจักรติดตามไล่ฆ่าอีกฝ่ายอย่างไรเความปราณี นี่ยังไม่นับกลองเบสที่มีป้อมปืนลูกซองกราดแบบไม่มียั้ง และที่สำคัญ.........
ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ!
บรึ้มๆๆๆๆๆๆๆ!
ดรัม.....ทันทีที่เหยียบตี่มันจะมีมิศซายต์ขนาดจิ๋วแต่พริกขี้หนู พุ่งพวยออกมาถล่มเหล่าชายสวมหน้ากากหมาป่า บางคนถูกแรงระเบิดอัดกระเด็นตัวลอยก่อนตกมาตามกฎแรงโน้มถ่วง หรือโดนปืนยิงซ้ำกลางอากาศ หนักสุดก็โดนมิสซายต์ยิงเต็มๆจนกลายเป็นเศษเนื้อไหม้ส่งกลิ่นโชยเหม็นไหม้
ตอนนี้ภายในโบสถ์แทบไม่ต่างอะไรกับนรกเดินดินดีๆ ทั่วภายในถูกปูพรมไปด้วยห่าฝนลูกตะกั่วและระเบิดไปทั่ว ต่อให้คนรอดต่อมาไม่กี่วิไม่ต้องหารเฉลี่ยเวลาให้ยุ่งยากก็ตายอยู่ดี แม้คิดจะยิงสวนก็ยิงไม่ถูกเพราะกลุ่มควันมันบัง ต่างจากพวกแพนดี้ที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อนไว้ใต้หน้ากากเลยชิวๆเหมือนยิงเก้งยิงกวางหรือหมาป่าตัวน้อยๆ สามารถแยกแยะได้ว่าควรยิงใครดี
เคทรีบอาศัยจังหวะนี้รีบหลบเข้าหาที่ปลอดภัย ก้มหัวต่ำสุดเท่าที่จะก้มได้ด้วยความหวาดกลัวจนสติกระเจิง ส่วนอลิซเธอก็สะดุ้งตื่นเพราะเสียงปืนเสียงระเบิดที่ดังตูมตามยังกับสงครามชนิดสนั่นแก้วสนั่นหู เมื่อตื่นขึ้นก็รีบหาที่หลบกันอย่างชุลมุน ไม่ให้ตัวเองเป็นเหยื่อฝนลูกตะกั่วเหมือนพวกชายสวมหน้ากากหมาป่า
"ใครก็ได้ช่วยบอกฉันทีว่า นี่เป็นแค่ฝัน"เคทที่สติหลุดไปแล้วพึมพาเหมือนอยู่ในภวังค์ เอาปิดหูขอไม่รับฟังอะไรทั้งสิ้น
"น นี่มันวันบ้าอะไรกันล่ะเนี้ย!?"อลิซสบถขณะพยายามก้มหัวหลบลูกกระสุนที่บินเข้ามาดั่งพายุ เพราะเธอไม่เคยได้เจอสงครามจริงๆมาก่อน เลยควบคุมสติไม่อยู่เช่นเดียวกับเคทเพียงแต่ยังน้อยกว่า
"Come on! Babe!!"โคอี้กู่ร้องพร้อมยัดซองกระสุนใหม่ใส่กีต้าร์ แล้วสาดกระสุนต่อ
อย่าคิดว่าลูกเล่นกีต้าร์จากนรกจะมีแค่นี้ โคอี้กดปุ่มหมายเลข2ข้างตัวกีต้าร์ แปรเปลี่ยนเป็นเครื่องยิงระเบิด แจกกระสุนระเบิดเต็มที่ ทุกครั้งที่ยิงลงพื้นจะมีเสียงระเบิดพร้อมเศษอวัยวะชิ้นส่วนมนุษย์ลอยกระเด็นขึ้นมาเหนือกลุ่มควันการระเบิด
เพล้ง!
เหมือนอีกฝ่ายเองก็ไม่ประมาท ชายสวมหน้ากากนับสิบโรยตัวเข้ามาทางหน้าต่างโบสถ์ พร้อมถอดสลัก ขว้างระเบิดใส่ทั้งคู่ ทว่าทั้งคู่รู้ทันและรีบยิงระเบิดทิ้งก่อนจะมาถึงตัว บางลูกยังขว้างออกไปไม่สุดก็โดนยิงระเบิดอัดหน้าเจ้าของตายไปในทันใดก็มี ส่วนคนรอดก็หลบหาที่กำบังอันน้อยนิดอย่างวุ่นวาย จนหลายคนต้องมาจบชีวิตระหว่างการพยายามหาที่กำบัง
พวกที่เหลือบางส่วนใส่เกราะกันกระสุนมาเต็มอัตราตัดศึก ตัดสินใจพุ่งเข้าชาร์จใส่ทั้งคู่โดยไม่กลัวห่ากระสุน แม้จะโดนระเบิดตายไปบ้างแต่ยังมีบางส่วนรุกคืบเข้าไปได้สำเร็จ
"ตายซะ!!"ชายสวมหน้ากากหมาป่าที่สวมเกราะกันกระสุนกู่ร้อง วิ่งเข้าแพนดี้ที่กำลังตีกลองชุดและชักปืนออกมายิง
ปัง!
แพนดี้ก้มหัวหลบจนกระสุนเฉียวหน้ากากเป็นรอยถลอก ก่อนตีฉาบยิงกงจักรสวน ตัดร่างของอีกฝ่ายเป็น2ท่อนทันที และกลับมาตีกลองบรรเลงความตายต่อ
อีกด้านหนึ่งโคอี้ก็โดนชายสวมหน้ากากหมาป่าที่สวมเกราะกันกระสุนเข้าจู่โจมด้วยมีดทหาร เขาใช้มือข้างหนึ่งบรรเลงกีต้าร์ อีกข้างคว้าแขนที่ถือมีดกระชากเข้าหาตัว พร้อมเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย จัดการบิดท่อนแขนแล้วแทงเข่าหักกระดูกซะ
กร๊อบ!
เปรี้ยง!
แม้ใส่เกราะกันกระสุนก็ไม่ได้ช่วยออกเลย แขนข้างนั้นถูกหักจนบิดงอผิดรูปผิดร่าง โคอี้ผลักชายคนนั้นออกห่าง แล้วกดปุ่มหมายเลข3กลายเป็นโหมดลูกซอง จัดการพุ่งเข้าใส่ศัตรู นำกีต้าร์จ่อท้องซัดลูกปรายทะลุทั้งเกราะทั้งท้องเป็นรูโบ๋เห็นอวัยวะภายในชัดเจน จากนั้นก็ผลักร่างไร้วิญญาณทิ้งและเปลี่ยนมาเป็นปุ่มหมายเลข1 สาดลูกตะกั่วต่อ
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!
บรึ้มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!
"อ๊าก!!"
"ไว้เจอกันกันในนรกไอ้พวกสถาบันตบเด็กเกรียน!!"
" 'ท่านผู้นั้น'จะต้องฆ่าแกแน่!!"
ต่อให้จะสาปแช่งทั้งคู่มาเพียงใดก็ตาม เสียงปืนและเสียงระเบิดอันบ้าคลั่งที่ดังเหมือนจะไม่มีวันหยุดในการบุกนอร์มังดี จำเป็นต้องให้ยินเหรอ......เพราะคนตายมันพูดไม่ได้ แล้วไม่คิดจะให้โอกาสพูดด้วย
บัดนี้ไม่มีผู้ใดหยุดการฆ่าล้างสังหารอีกต่อไป ผู้ยอมรับหรือไม่ยอมรับก็ถูกฆ่าอยู่ดี มันจะหยุดจนกว่าผู้ริเริ่มมันจะหยุดเท่านั้น.......
.
.
.
.
.
.
.
.
ผ่านไปสิบกว่านาที เมื่อไม่เห็นพวกชายสวมหน้ากากหมาป่าอีกต่อไปและไม่น่าจะมีพวกกำลังเสริมแห่กันมาแล้ว ทั้งแพนดี้ทั้งโคอี้ค่อยๆเลิกบรรเลงเพลงลง ส่วนเคทกับอลิซที่เห็นว่าเสียงปืนเสียงระเบิดเงียบไปแล้ว ก็ยื่นหัวขึ้นมามองรอบๆอย่างช้าๆ
"Oh......my.........god........."เคทอุทานออกมาหลังควันเริ่มจางลง
เมื่อหน้าต่างโบสถ์แตก สายลมจากภายนอกก็พัดหอบกลุ่มควันออกไป เผยให้สภาพภายในโบสถ์ที่เละเทะ กระสุนเต็มพื้น เต็มไปร่างคนตายที่สภาพไม่สมประกอบ และเศษชิ้นส่วนมนุษย์ไม่ของให้เป็นของใครกระจัดกระจายไปทั่วพื้นโบสถ์ พร้อมส่งกลิ่นเหม็นไหม้โชยไปทั่ว เฟอนิเจอร์ในโบสถ์พังพินาศจนไม่ต้องคิดจะซ่อม ยกเว้น ตรงที่เคทและอลิซหลบอยู่ที่เสียหายเล็กน้อย และตัวทั้ง2ก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก
"เฮ้ๆ สาวๆหันมาทางนี้หน่อย"แพนดี้เรียก
""?""
ด้วยความที่ยังงงๆกับสถานการณ์ที่ยังหาคำตอบได้ ทั้ง2หันมาหาแพนดี้ที่เรียกพวกเธออย่างว่าง่าย
เปรี้ยง!
ทันใดนั้นเองก็มีไม้กลองขว้างใส่บริเวณหน้าของทั้งคู่จนหน้าสะบัดไปตามแรงขว้าง พร้อมกับสติที่ดับวูบไปของทั้งคู่ในเวลาพร้อมๆกัน แน่นอนว่าคนขว้างไม่ใช่ใครอื่นเลยนอกจากแพนดี้เจ้าเก่าของเรานี่เอง
"เฮ้อ......ปิดจ๊อบไปอีก2จ๊อบสักทีเว้ย........"
แพนดี้ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยทิ้งทวน เป็นอันเสร็จภารกิจในวันนี้ไปอีกวันหนึ่ง......
_____________
ถ้าถามว่า พวกหน้ากากหมาป่ามาทำเพื่ออะไรล่ะก็ ผมจะตอบให้ครับว่า ผมเก็บกดมานานแล้ว 5555555555+
ปล.เรื่องไม่เกี่ยวอะไรกับSin Huntingเลยสักนิด--------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น