ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Ch.2 นักทดลองแห่งความตาย
บริษัทผลิตเวชภัณฑ์ยาที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียและเป็นอันดับ5ของโลก วลาดิมีโรวิ เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ต้นยุค70ในสมัยที่สหภาพโซเวียตยังอยู่ มีประวัติยาวนานในฐานะที่เป็นบริษัทผลิตคุณภาพชั้นนำของโซเวียตและของโลกในสมัยนั้น ก่อนจะถูกบริษัทรุ่นหลังแซงหน้าในภายหลัง และตกมาอยู่ในอันดับ5ของโลก ผู้ก่อตั้งคนแรกคือ ไอวาน ดิมิทรี วลาดิมีโรวิ
แม้ภายนอกจะดูเหมือนบริษัทยาคุณภาพสูง แต่ความจริงในช่วงยุคสงครามเย็น ยุคที่อเมริกาและรัสเซียทำสงครามแข่งขันกันทั้งเทคโนโลยี อวกาศ โฆษณาชวนเชื่อ ระบอบการปกครอง และทางการทหารอย่างดุเดือนเข้มข้น แต่ไม่มีการปะทะการตรงๆแต่จะปะทะการด้วยสงครามตัวแทน เช่น สงครามเกาหลี
ในช่วงยุคนั้นบริษัทวลาดิมีโรวิได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาอาวุธทางชีวภาพในกับกองทัพรัสเซีย หากแต่เมื่อปีค.ศ.1989ในสงครามโซเวียต-อัฟกานิสถานที่โซเวียตได้ทำการบุกอัฟกานิสถาน ทว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ แม้ช่วงแรกโซเวียตจะได้เปรียบ ด้วยการสนับสนุนของCIAที่แอบฝึกฝนคนให้กับคนของมุจญาฮิดีน ทำให้พวกเขาสามารถต่อกรกับกองทัพโซเวียตได้อย่างสูสีด้วยการต่อสู้รบแบบกองโจร
ผลที่โซเวียตได้รับคือ เสียหายไปราว15000คน ไม่นับอาวุธที่ทันสมัยถูกทำลายไปมากมาย และกลับออกในสภาพแบบเดียวกับสหรัฐอเมริกาในสงครามเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีส่วนทำให้โซเวียตอันยิ่งใหญ่ล่มสลายไปด้วย เพราะพวกเขาใช้ทรัพยาการไปมากมายในการทำสงคราม(น้ำมันกับแก๊สธรรมชาติก็มาหมดไปกับสงครามอีก) เมื่อหมด ในเวลาอีก2ต่อมาหรือค.ศ.1991 ประเทศก็เลยพังและแยกตัวออกมา นับเป็นการตัดสินที่ผิดพลาดทางการทหารที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์
เมื่อประเทศพังและแยกตัวออกมาเป็นรัสเซีย โปรเจคอาวุธชีวภาพของบริษัทวลาดิมีโรวิต่างทยอยปิดโปรเจคกันไปแทบจะทันที ส่งผลให้ช่วงยุค90นั้นถึงเป็นช่วงที่บริษัทตกต่ำถึงขีดสุด การเงินของบริษัทดิ่งลงเหวเป็นประวัติการณ์
แต่ด้วยความคิดเพื่อดิ้นรนในโลกใหม่หลังสงครามเย็นของประธานในยุคนั้น จึงได้มีการหาผู้ให้เงินสนับสนุนและผู้ลูกค้าใหม่ที่ให้เงินเยอะยิ่งกว่าภาครัฐ และกลุ่มนั้นก็คือ กลุ่มก่อการร้ายต่างๆทั่วทุกมุมโลกที่มีเงินในกระเป๋ามากพอ ที่จะจ่ายอาวุธชีวภาพอันร้ายกาจจากยุคสงครามเย็น ที่ยังน่าหวาดหวั่นในปัจจุบันแม้จะเป็นโปรเจคเก่าก็ตามที
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาคนทั่วไปอาจรู้จักบริษัทนี้ว่าเป็นบริษัทผลิตยาคุณภาพทั่วไปรายใหญ่สุดในรัสเซีย แต่สำหรับคนในวงการโลกมืดนั้นจะรู้จักกันดีในฐานะบริษัทที่ผลิตอาวุธเคมีและชีวภาพ ที่มีคุณค่ามากพอควักเงินจ่ายไปแบบไม่เสียดายเงิน
และ ณ ปัจจุบันการผลิตอาวุะชีวภาพก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ........
ภายในห้องทดลองลับชั้นใต้ดินที่ลงลึกไปใต้บริษัทวลาดิมีโรวิสาขาแม่ที่รัสเซีย ซึ่งถูกปกปิดไว้เป็นความลับระดับสูงสุด มีเพียงคนระดับสูงของบริษัทเท่านั้นถึงจะรู้วิธีเข้าได้ โดยมันออกแบบมาเพื่อทดลองและสร้างอาวุธทางเคมีและชีวภาพแบบใหม่ขึ้นมาอย่างเป็นความลับ
ปัจจุบันอาวุธเคมีและชีวภาพที่ผู้ก่อการร้ายต้องการคือ ต้องใช้น้อยแต่ได้ผลมากเกิินคาด หรือก็คือปริมาณเพียงเล็กน้อยกลับสามารถฆ่าคนได้หลายๆคน ฉะนั้นนี่คืออาวุธชีวภาพในความฝันของผู้ก่อการร้ายหลายๆคนที่ต้องนำไปใช้
"บันทึกการทดลองอาวุธเชื้อโรครหัส E-7A ครั้งที่4 หัวข้อคือประสิทธิภาพในการทำลายเนื้อเยื่อปอดขอผู้ที่สูดดมมันเข้าไป"มีนักทดลองคนหนึ่งที่ใส่หน้ากากกันแก๊สพูดกับเครื่องบันทึกเสียง
ตรงหน้าของเขาก็ห้องกระจกนิรภัยขนาดใหญ่สีขาวโพล้นที่ขังหนูทดลอง ไม่สิ กลุ่มคนหนึ่งที่เป็นหญิงชายชาวเอเชียนับ10คนให้ชุดคนไข้สีขาว กำลังถูกมัดด้วยสายยางสีดำอยู่บนเตียงสีขาวอย่างแน่นหนา ทำได้เพียงดิ้นให้สายมันขาด โชคร้ายที่มันเหนียวเกินกว่าจะขาดเพราะการดิ้นตัว เลยทำได้เพียงส่งสายตาออดออนขอความเมตตาหรือความอาฆาตแค้นเท่านั้น เนื่องจากปิดพวกเขายังโดนสายยางพันปิดปากแล้ว
รอบๆพวกเขาเหล่านั้นมีเครื่องปล่อยแก๊สได้ทุกเมื่อ บางคนที่ได้เห็นก็รู้ชะตากรรมตัวเองดี ในฐานะหนูทดลองอาวุธชีวภาพชะตากรรมมีแค่ต้องตาย เพื่องานพัฒนาอาวุธก้าวหน้าไปก็เท่านั้น
"อย่าได้ดิ้นไป เพราะมันจะจะเจ็บแค่นิดเดียวเอง"นักทดลองกล่าวกับหนูทดลองผ่านไมค์ที่เชื่อมต่อกับภายในห้องกระจกนิรภัยตรงหน้า
มีหนูทดลองคนหนึ่งหันมาส่งสายตาใส่นักทดลองคนนั้น คล้ายบอกว่า พ่อมึงตายเถอะ แน่นอนเขาไม่สนใจกับพวกหนูทดลองพวกนั้นอยู่แล้ว เพราะเขาซื้อมาจากประเทศไทยในราคาถูกๆ สมกับเป็นสวรรค์ในการค้ามนุษย์อาชญาการข้ามชาติ
นึกแล้วก็น่าขันที่ประเทศที่ป่าวประกาศว่าตัวเองมีวัฒนธรรมอันดีงาม แต่ดันเป็นสวรรค์การค้ามนุษย์ไปได้ แล้วไม่วายโปรโมทตัวเองให้ดูดีใส่สูท พอเกิดคดีเกาะเต่าที่สะเทือนถึงการท่องเที่ยว ก็หาแพะรับบาปมาเพื่อรักษาภาพลักษณ์ตัวเอง จนแอบอดคิดไม่ได้ว่ารัฐบาลประเทศนี้ใกล้เคียงกับวลีที่ว่า ใกล้เคียงโลกสวย ไม่มองสภาพตัวเอง หรือเปล่านะ
แต่ที่แน่ๆมันก็เหมือนผลไม้น่ารับประทาน แต่ภายในโดนหนอนเจาะจนเน่าเฟะ
นี่คือความคิดและมุมมองของเขาเท่านั้น ก่อนหันมาจดจ่อกับการทดลองตรงหน้า
การทดลองครั้งนี้จะเป็นการทดสอบครั้งสุดท้ายของอาวุธชิ้นนี้แล้ว ถ้าเขาทำเสร็จตามที่คำนวณไว้ มันเป็นการปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่ในวงการอาวุธชีวภาพเท่าที่เคยมีมา
คิดดูนะ แก๊สที่สามารถแพร่กระจายไปตามลมอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่ถึงนาทีในการสังหารคนได้ง่ายๆ ทำลายเนื้อเยื่อปอดได้สบายๆทันทีที่สูดดมเข้าไป มันคืออาวุธชีวภาพในฝันที่ใครต่างอยากได้ เขาเชื่อจะมีผู้ก่อการร้ายคนแห่กันเข้ามาซื้อกันอย่างบ้าคลั่ง
เพียงเขาแค่กดปุ่มปล่อยแก๊สตรงแผงควบคุมตรงหน้า และรอดูผลให้เป็นตามที่คำนวณไว้เท่านั้น แค่นี้ความฝันที่จะเป็นคนร่ำรวยที่สุดในโลกจะไม่ไกลเกินเอื้อมมือทันที
แค่สังเวยทั้ง10ชีวิตในห้อง ความฝันของเขาก็จะเป็นจริงแน่นอน!!
เขายิ้มอย่างผู้กระหายชัยชนะไร้ขีดจำกัด
กรึกๆ!
"เฮ้ย!?"เขาพ่นหลุดสบถ
ราวกับละครตลกร้ายชนิดขำไม่ออก ทันทีที่เขากดปุ่มบนแผงควบคุมเพื่อปล่อยแก๊ส ไฟฟ้าดันเกิดมาดับในจังหวะพอดิบพอดียังกะมีมารวาร์ปมาขวาง
"โถ่เว้ย!! บ้าอะไรวะ!!!?"
ร้อยวันพันปีไฟฟ้าก็ไม่เคยดับเลยสักครั้งเดียว วันไหนไม่ดับดันทะลึ่งมาดับในวันสำคัญแบบนี้ มันเสียอารมณ์ที่สุดของที่สุด!
"ไอ้บัดซบ!!!"
ด้วยความที่ฉุนขาดสุดขีด เขาจึงบันดาลโทสะขว้างหน้ากากอย่างแรงจนเลนส์หน้ากากแตกกระจาย แล้วถอดชุดทดลองออกไม่ใยดี เผยให้เห็นรูปร่างจริงของเขา
ชายผู้มีผมและดวงตาสีดำ ผิวสีขาวนวล มีชื่อว่า อีวาน ดิมิทรี วลาดิมีโรวิ ผู้สืบทอดธุรกิจทั้งหมดของตระกูล เขาจบมหาวิทยาลัยด้านยามาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง คิดค้นสูตรยาต้านโรคร้ายแรงต่างๆมากมาย แต่ในทางตรงกันข้าม เขาใช้มนุษย์เป็นตัวทดลองอาวุธชีวภาพของเขา
ปกติเขาควรมีรอยยิ้มประดับหน้า คราวนี้กลับเป็นหน้ายักษาพิโรธแทน ที่ไฟฟ้ามาดับตอนกำลังทำกรทดลองครั้งสำคัญในชีวิตของเขา ทำให้เขาโมโหโกธา หัวฟัดหัวเหวี่ยงสุดๆในชีวิต
"บ้าที่สุด คงต้องไปดูที่ห้องไฟฟ้าสินะ"
ว่าจบก็เดินออกจากห้องทดลองไปอย่างรวดเร็ว มีสายตาของหนูทดลองคนหนึ่งส่งสายตาคล้ายบอกว่าสมน้ำหน้า พร้อมกางนิ้วกลางออกมาส่งท้าย
อีวานเดินไปยังห้องไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว เขาคาดว่าตัวจ่ายไฟต้องมีปัญหาแน่ๆ และเตรียมคาดโทษพวกช่างไฟฟ้าของที่นี่ไว้เรียบร้อย เขาสาบานเลยว่าเขาจะเล่นพวกนั้นให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย
เขาค่อยๆเดินไปที่ห้องไฟฟ้า ระหว่างก็ไม่ได้เห็นใครเลย นั้นเป็นเพราะเขาไล่คนอื่นๆออกไปหมดแล้ว จะได้ชื่นชมผลงานของตัวเองคนเดียวที่สร้างมาอย่างยากลำบาก
ทว่าก่อนจะถึงห้องไฟฟ้าจู่ๆเขาก็ชะงักกึกเหมือนได้ยินเสียงคนพูดกัน เลยลองเอาหูแนบประตูห้องไฟฟ้าดู และเหมือนจะมีคนอยู่ด้วย
"ไอ้เวรแพนดี้ กูบอกให้มึงตัดสายไฟนะโว้ย ไม่ใช่มาเล่นกันแบบนี้"
"เออ รู้น่าเฟ้ย ก็แค่อยากย้อนวัยเด็กก็เท่านั้น"
"ย้อนบ้านแกสิเฟ้ย เข้าใจนะว่ามีหัวทางความคิดสร้างสรรคื แต่มันไม่ใช่เวลานะเฮ้ย"
"รู้น่า แต่แกก็รู้ดีนี่โคอี้ กูมันอินดี้"
"ค_ย!"
"นี่พวกแกเป็นใครกันแน่!?"
ด้วยความอยากรู้ อีวานจึงเปิดประตูเข้ามาพร้อมชักปืนที่แหนบตรงเอวออกมา และนั้นเองทำให้เขาเข้าใจเลยว่าสาเหตุของไฟดับเมื่อกี้คืออะไร
สิ่งที่เขาพบอยู่ตรงหน้าคือ ชาย2คนในชุดสายลับสีดำสวมหน้ากากสัตว์โลกน่ารัก(?)ทั้งแพนด้าและโคอาล่า กำลังชูมือขึ้นเหนือหัวยอมแต่โดยดี
"ถอยไป.....อย่าคิดตุกติกเชียวนะ"อีวานขู่พร้อมเอานิ้วสอดเข้าไกพร้อมลั่นไปทุกเมื่อ
ทั้งคู่ยอมถอยไปแต่โดยดี ปล่อยให้อีวานเดินเข้าดูแผงวงจรไฟหลัก
พริบตาที่เห็นแผงวงจรดวงตาอีวานก็พลันเบิกกว้างเป็นเม็ดขนุน
"นี่มันบ้าอะไรเนี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!?"
สิ่งที่เห็นคือ สายไฟวงจรถูกถอดและสลับที่กันไปมาอย่างไม่มั่วซั่วซะทีเดียว
แต่ไอ้สำคัญจริงๆก็คือ ทำไมมันต้องทำเป็นรูปกันดั้มRX-78-2ล่ะมิทราบ!!?
"งานศิลป์งั้น สวยชิมิ?"ชายสวมหน้ากากแพนด้าถามด้วยน้ำเสียงยียวนน่ายิงทิ้ง
ปัง!
อีวานไม่พูดพล่ามทำเพลงมาก เขาลั่นไกทันทีหมายจะสังหารแพนดี้ แพนดี้กลับใช้มือข้างหนึ่งปัดแขนอีวานข้างที่ถือปืนขึ้นส่งผลให้วิถีกระสุนเบี่ยงขึ้นบน และยิงขึ้นเพดาน
"แกน่ะตายไปแล้วเฟ้ย อัตต้า!"แพนดี้กู่ร้องเหมือนการ์ตูนลูกผู้ชายชื่อดังเรื่องหนึ่ง
ในเมื่ออีวานมีอาวุธเขาเองก็มี ชายสวมหน้ากากแพนดี้ชักอาวุธของเขาจากกระเป๋าสะพาน ก่อนอาศัยจังหวะเพียงเสี้ยววิก้มตัว แล้วอาวุธนั้นแทงเข้าจุดศูนย์รวมความเป็นชายแบบเน้นๆ
หงับ!
"อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!"อีวานกรีดร้องเสียงหลงลั่นห้องเท่าที่ชีวิตเคยกรีดมา
อีวานล้มลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้นพร้อมกับกุมเป้าตัวเองอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส ตรงเป้ามีปลาชื่อดังในลุ่มน้ำอะเมซอน พิรันย่า ที่คาดว่าน่าจะลักลอบมาจากบราซิลแล้วฟรีซมาให้ยังมีชีวิตอยู่ ดิ้นดุกดิกไปกัดเป้าอีวานอย่างกัดไม่ปล่อย
"โทษที อาเมน"
ว่าจบแพนดี้ก็กระทืบไปที่หน้าของอีวานแบบออมแรงไว้ ทำให้อีกฝ่ายสลบในทันที
ชายสวมหน้ากากหมีโคอาล่าหันมาถามเพื่อนตัวเอง "แพนดี้ เอาไงต่อดี? พวกเราได้ตัวเป้าหมายแล้ว"
"เดี๋ยวเจ้านี้ชั้นจัดการเอง ส่วนพวกหนูทดลองช่วยติด่อให้พวกเราที่รออยู่มาช่วยเอา พอช่วยเสร็จก็ใช้เจ้านี่ระเบิดห้องทดลองใต้ดินให้กระจุยไปเลย อย่าให้อาวุธชีวภาพพรรคนี้หลุดรอดไปยังผู้ก่อการร้ายเด็ดขาด ไม่งั้นโลกจะชิบหายกว่าเดิมแน่"
แพนดี้แบกร่างอีวานไว้ที่หลัง พร้อมยื่นแท่งพลาสติกอ่อนที่เขียนไว้บนตัวว่า Super C4 ซึ่งโคอี้ก็รับมันมา ก่อนออกไปทำงานหน้าที่ใครหน้าที่มันตามที่คุยกันไว้
ปึง!
แพนดี้ปิดประตูรถที่ตัวเองจอดเตรียมไว้ในยามวิกาล หลังจากนั้นนำร่างอีวานที่สลบอยู่มาวางไว้ที่นั่งข้างคนขับ แล้วค่อยสตาร์ทรถบึ่งออกไปจากบริษัทวลามีโรดิทันที
ระหว่างนั้นเองที่กำลังขับออกไปแพนดี้ก็นึกอะไรบางอย่างได้
"จะว่าไปนี่เราลืมอะไรไปหรือเปล่านะ?"
หลังนึกอยู่นานเขาก็นึกออกเสียทีว่าอะไรที่เขาลืมไป
"อ้อ ลืมฉีดยาสลบนี่เอง"
เขารีบหยิบหลอดฉีดยาบรรจุยาสลบ ฉีดเข้าไปยังซอกคออีวานที่สลบระหว่างขับรถอยู่ แล้วถอนออกหลังฉีดจนหมดหลอด
"หวังว่าชั้นคงไม่ลืมอะไรแล้วนะ"
เขาบอกกับตัวเองก่อนขับรถไปที่ใดที่หนึ่ง โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่เขาลืมจริงๆอยู่นั้นกำลังดิ้นอยู่ตรงเป้าอีวาน!!
______________
สปอย์ตอนหน้า ตอนสุดท้ายก่อนเริ่มเกม
ถล่มงานศพ สังหารหมู่
ปล.คุณด้าครับ ผมขอโทษครับT_T
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น